ตอนที่ 27 : two - (๒)
บทสอง
ร้านบะหมี่โอกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากที่ปิดไปนาน เซฮุนและจงอินช่วยกันทำบะหมี่ให้ลูกค้าโดยมีแบคฮยอนและคยองซูช่วยกันอีกแรง ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันแรกของการเปิดร้านแต่คนก็ไม่ได้ลดน้อยลงแถมยังมีเด็กปีหนึ่งแวะเวียนมาไม่ขาดสายทั้งหญิงและชายเต็มไปหมด
“เหนื่อยไหม ?”
คิมจงอินหันไปถามคนรักที่กำลังตักน้ำซุปใส่ถุงให้ลูกค้าอยู่ เซฮุนส่ายหัวพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้อีกคนกลับมา
“ไม่หรอก เมื่อก่อนตอนทำกับป๊ายุ่งวุ่นวายกว่านี้อีก”
“แล้วโทรหาป๊ายัง ? ป๊าว่าไงบ้าง ?”
“โทรแล้ว ป๊าบอกว่าเดินหน้าจะกลับมาหา”
“เดี๋ยวทำอันนี้เสร็จแล้วก็ปิดร้านเลยไหม ? ลูกค้าในร้านตอนนี้ไม่มีแล้ว”
“ปิดเลยก็ได้ของหมดแล้วด้วย แล้วจะกินข้าวอะไรไหมเดี๋ยวออกไปซื้อให้”
“ขอบะหมี่น้ำใสหัวใจโอเซฮุนละกัน”
“โอ๊ยกูจะอ้วก ไอ้ไคเมื่อไหร่มึงจะเลิกเสี่ยววะ !”
แบคฮยอนที่ยืนแอบฟังทั้งสองคนคุยกันอยู่นานแล้วพูดขึ้นเพราะทนความเสี่ยวของเพื่อนสนิทตัวเองไม่ไหว จงอินหยิบผ้าเช็ดโต๊ะปาใส่เพื่อนตัวเล็กแล้วหันมาสนใจเซฮุนต่อ
“ไปนั่งเฉยๆเลย คนอื่นเขามองกันหมดแล้ว”
“เขามองมึงอ่ะ กูหวง”
“หวงทำไมยังไงก็ไม่ได้สนใจคนอื่นอยู่แล้ว”
คำพูดที่ออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งกลับทำให้คิมจงอิมไม่สามารถหุบยิ้มได้ เซฮุนไม่ใช่คนพูดจาอ่อนหวานแต่ทุกคำที่หลุดออกมาจากปากล้วนแล้วแต่ออกมาจากใจทั้งนั้น
“เดี๋ยวกูไปล้างจานหลังร้านนะ รีบทำนะคิดถึง”
ถึงแม้ว่าการรับน้องจะผ่านพ้นไปแล้วแต่งานกีฬาประจำปียังคงเป็นอีกหน้าที่สำคัญที่พี่ปีสองกับน้องปีหนึ่งต้องร่วมกันทำ เซฮุนรับหน้าที่ช่วยดูฉากเหมือนกับที่ชานยอลเคยทำเมื่อปีที่แล้ว เขาคอยตรวจสอบการทำงานของรุ่นน้องและวางแผนทุกอย่าง
“พี่เซฮุนๆๆ แบมแบมวาดอันนี้ลงไปได้ไหม ?”
“เออวาดลงไปเหอะ เอาที่พวกมึงอยากทำนั่นแหละ”
ตั้งแต่ผ่านการรับน้องมาเซฮุน แบมแบมและมาร์คสนิทกันมากขึ้น สรรพนามการเรียกชื่อจึงเปลี่ยนไปจากครั้งแรกที่เจอกันและมันก็ทำให้ความอึดอัดทั้งหมดลดลงไปด้วย
“ผมอยากวาดเส้นแบบนั้นได้บ้างอ่ะ สอนมั่งดิ”
มาร์คพูดขึ้นหลังจากที่นั่งมองเซฮุนวาดรูปอยู่นานแล้ว เซฮุนกวักมือเรียกให้มาร์คเข้าไปดูใกล้ก่อนจะเริ่มลากเส้นให้ดูเป็นตัวแบบก่อนหนึ่งครั้งแล้วส่งดินสอให้คนร่างสูงลองทำบ้าง
“แบบนี้หรอครับ ?”
“อืมแต่ตรงนี้ลงให้เบากว่านี้นะ”
โอเซฮุนขยับตัวเข้าไปใกล้รุ่นน้องตัวสูงอย่างลืมตัว จนตอนนี้ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันแค่เพียงคืบเดียวเท่านั้น คนร่างบางยังคงอธิบายการลงเส้นต่อและไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกรุ่นน้องจ้องมองด้วยสายตาที่ต้องการจะสื่อความหมายบางอย่าง
“พี่เซฮุนๆ ฝากอันนี้ไปให้พี่จงอินหน่อยดิผมจะไปเล่นบอลต่อ”
เซฮุนรับซองสีขาวจากรุ่นน้องคนนั้นแล้วเก็บมันใส่กระเป๋าอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะลงมือวาดรูปต่อ วันนี้จงอินเองก็ต้องช่วยรุ่นน้องที่คณะแทนเด็กปีสองที่ติดธุระอื่น เขาตั้งใจไว้ว่าถ้างานตรงนี้เรียบร้อยแล้วก็จะไปช่วยคณะวิศวะ
ทางด้านวิศวะเองก็ทำงานกันอย่างตั้งใจเพราะปีนี้ไม่ได้มีสถาปัตย์ช่วยแบบปีที่แล้วก็เลยต้องทำกันเองหมดทุกอย่าง จงอินคอยตรวจดูความเรียบร้อยส่วนแบคฮยอนและคยองซูก็ช่วยกันจัดการในส่วนอื่น
“พี่ไคคะ ตรงนี้ฉันทำแบบนี้ได้ไหม ?”
ไอรีนยิ้มพร้อมกับยกกล่องกระดาษที่ตัวเองวาดรูปลงไปให้จงอินดู คนเป็นพี่พยักหน้ารับรู้และเตรียมจะเดินไปทางอื่นแต่โดนอีกคนเรียกรั้งเอาไว้
“อ่ะ !”
คิมจงอินผละตัวออกไปข้างหลังอย่างตกใจเมื่อจู่ๆไอรีนก็ยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดบริเวณโหนกแก้มของเขา ตอนนี้ตัวเขามันแข็งทือไปหมด ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไงกว่าจะรู้ตัวอีกที ไอรีนก็เช็ดสีบนหน้าให้จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“คือสีมันเลอะหน้าพี่อ่ะ ไอรีนก็เลยเช็ดออกให้”
“อ่า..ขอบคุณครับ....”
ซวยยิ่งกว่าทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้คือการหันไปเจอโอเซฮุนยืนมองอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น ใบหน้าหวานเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา แบคฮยอนที่เดินมาเห็นพอดียังแสดงออกซะมากกว่า จงอินทิ้งทุกอย่างแล้วเดินไปหาคนรักอย่างไม่ลังเล เขาไม่สนด้วยซ้ำว่าไอรีนจะมีสีหน้าแบบไหน
“งานเสร็จแล้วอ่อวะ ?”
“อืม..อ่ะนี่รุ่นน้องฝากมาให้”
“อะไร ?”
“ไม่รู้ดิไม่ได้เปิดดูเหมือนกัน แล้วนี่งานเสร็จยัง ? มีไรให้ช่วยไหม ? ”
“...................”
“มีอะไรหรือเปล่า ?”
เซฮุนหันไปมองจงอินที่กำลังเก็บซองขาวที่เขายื่นให้เมื่อกี้ลงกระเป๋าอย่างรีบร้อน ถึงจะสงสัยในท่าทีแต่เชื่อเถอะว่าสำหรับคนรักกันการเชื่อใจกันคือสิ่งสำคัญที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะยากแค่ไหนก็ตาม
“ไม่มีไร งานก็เรื่อยๆยังขาดอีกหลายอย่างแต่โชคดีที่พวกปีหนึ่งมันมีพื้นฐานการวาดรูปกันหลายคน”
“อืม...งั้นเดี๋ยวอยู่ช่วยไปก่อนก็ได้ วันนี้ไอ้เทามันจะช่วยเปิดร้าน”
“เดี๋ยวงานตรงนี้เสร็จแล้วจะรีบไปหา”
“โอเค งั้นไปก่อนนะ”
คนร่างบางหันหลังกลับออกมาจากตรงนั้นพร้อมความรู้สึกแปลกที่เกิดขึ้นตรงหน้าอกข้างซ้าย นี่เป็นครั้งแรกที่จงอินปล่อยให้เขาไปกับจื่อเทาโดยที่ไม่ห้ามหรือโวยวายอะไรตั้งแต่เป็นแฟนกันมา แววตาของคิมจงอินยังคงเหมือนเดิมแต่ตัวเซฮุนเองก็ยืนยันได้แค่ในเวลานี้แต่วันข้างหน้าเขาไม่สามารถมั่นใจได้เลย
ถึงปากจะบอกว่าเชื่อใจแต่ความรู้สึกข้างในก็ปฏิเสธความกลัวที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ดี..
หลังจากที่ปิดร้านเรียบร้อยแล้วโอเซฮุนก็หาที่นั่งพักแถวหน้าร้าน วันนี้ต้องขอบคุณจื่อเทาที่อยู่ช่วยกันจนปิดร้านถึงแม้ว่าตัวเองมีงานที่บ้านต้องทำ คนร่างบางนั่งใจลอยกอดเข่าอยู่บนเก้าอี้หน้าร้าน ในใจตอนนี้เต็มไปด้วยความว่างเปล่า คิดถึงป๊าที่เคยอยู่ด้วยกันเมื่อก่อน ถ้าป๊าอยู่ด้วยกันเขาก็คงไม่รู้สึกเหงาแบบนี้
“เป็นไรวะมึง ?”
จื่อเทาเดินออกมาจากหลังร้านหลังจากที่ล้างถ้วยชามจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเพื่อนสนิท คนร่างบางตกใจรีบดึงเพื่อนให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับตัวเอง
“เห้ย ! ไม่ต้องๆ กูไม่ได้เป็นไร”
“มึงเป็น ...”
“ช่างมันเหอะมึง กินบะหมี่ป่ะกูทำเผื่อมึงด้วยอ่ะ”
“เออเอาดิไม่ได้กินด้วยกันนานแล้ว กูโทรบอกแม่แล้วว่าจะกลับดึก”
แล้วทั้งสองคนก็เดินกอดคอกันเข้าไปในร้าน อย่างน้อยในวันที่รู้สึกไม่ดีโอเซฮุนก็ยังมีเพื่อนที่คอยห่วง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถตอบแทนความรู้สึกที่ฮวางจื่อเทามีให้ได้ก็ตาม
“แดกเข้าไปเยอะๆ มึงผอมลงไปเยอะเลยรู้ตัวป่ะ” จื่อเทาพูดพร้อมกับเอาลูกชิ้นในชามตัวเองให้เพื่อน
“ผอมเหี้ยไรน้ำหนักกูขึ้นมาสามโลละ”
“เอาหน่าเดี๋ยวดึกๆมึงก็ต้องทำงานอีก”
บรรยากาศในร้านดีขึ้นมาหลังจากที่พวกเขาได้พูดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่ทั้งสองคนต่างก็ไม่ได้เห็นมานานก็เกิดขึ้น ฮวางจื่อเทารู้ตัวดีว่าเขาไม่สามารถเข้าไปแทนที่คิมจงอินได้แต่ในเวลานี้เขากำลังมีความสุขที่กำลังได้โอเซฮุนกลับคืนมา
“แหม้ ปาร์ตี้บะหมี่กันอยู่หรอ ?”
“อ่าวพี่ลู่หาน มาได้ไง แล้วนี่มาคนเดียวอ่อ ?”
“เดินมาจากวิศวะอ่ะ มาคนเดียวแบคฮยอนกับไอ้ไคไปส่งรุ่นน้องที่หออ่ะ”
“อ่อ..พี่กินบะหมี่ป่ะเดี๋ยวผมทำให้”
“มึงปิดร้านแล้วนี่เดี๋ยวกูไปกินข้าวร้านป้าก็ได้”
“ไม่เป็นไรผมทำให้ฟรี”
“งั้นจัดมาเลย”
แล้วรุ่นพี่หน้าหวานก็เข้ามาร่วมวงด้วย เซฮุนรู้สึกขอบคุณที่ทั้งสองคนพยายามช่วยให้เขาไม่คิดมากหรืออยู่คนเดียว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเวลาแค่เพียงไม่นานก็เถอะ...
โอเซฮุนรู้สึกว่าห้องของจงอินมันกว้างเกินไปก็ตอนที่เขาอยู่คนเดียวในเวลานี้ หลังจากที่แยกย้ายกับลู่หานและจื่อเทาแล้วเขาก็มาที่ห้องจงอินเพราะจะทำงานที่ค้างไว้ต่อ แต่เรื่องบางเรื่องก็กวนใจจนทำให้เขาไม่สามารถทำมันได้ ห้าทุ่มกว่าแล้วจงอินยังไม่กลับ โทรไปหาก็ติดต่อไม่ได้ส่งข้อความไปหาก็ไม่มีคนอ่าน
“ใจคอจะปล่อยให้เป็นห่วงแบบนี้ไปตลอดทั้งคืนเลยหรือไง”
เอนตัวลงนอนโซฟาก่อนจะหลับตาลงอย่างอ่อนล้า เขาไม่อยากคิดมากเรื่องจงอินแต่การกระทำบางอย่างมันยิ่งชัดเจน เซฮุนไม่รู้ว่ารุ่นน้องที่จงอินไปส่งนั้นคือใครแต่มันยากเกินกว่าที่จะคิดเป็นคนอื่นเพราะจงอินไม่เคยยุ่งกับใครถ้าไม่สนใจจริงๆ
“เฮ้อ....."
คิมจงอินกลับมาถึงห้องเกือบตีสอง หลังจากที่ไปส่งไอรีนและเพื่อนแล้วเขาก็ไปแวะที่ห้องแบคฮยอนเพื่อคุยธุระบางอย่าง จงอินรู้ว่าเขากำลังทำให้เซฮุนไม่สบายใจแต่เขายังมั่นใจในตัวเองเสมอว่ายังรู้สึกกับโอเซฮุนเหมือนเดิมและไม่ได้คิดอะไรกับไอรีนหรือใครทั้งนั้นเพียงแต่ว่าเขามีเหตุผลบางอย่างที่ต้องทำแบบนี้
“มานอนทำไมตรงนี้ ลุกขึ้นไปนอนที่เตียงดิ”
“กลับมาแล้วหรอ ? กินอะไรมาหรือยัง ?”
“กินแล้ว กูขอโทษที่ไม่ได้โทรบอกมือถือแบตหมด”
“อืมช่างเถอะ กลับมาแบบครบสามสิบสองก็ดีแล้ว”
ไม่รอให้คนรักลุกขึ้นยืนอย่างที่บอกไว้ คิมจงอินช้อนตัวโอเซฮุนขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน คนร่างบางซบหน้าลงบนไหล่กว้างแล้วโอบอีกคนเอาไว้แน่น
“อย่าหายไปแบบนี้อีกนะ อย่าไปไหน...”
“อืม...พรุ่งนี้วันหยุดเราไปเที่ยวกันไหม ?”
“ไปสิ ไปที่ไหนก็ได้ที่มีแค่เราสองคน”
จงอินใช้เวลาไม่นานในการอาบน้ำ เขาทิ้งตัวลงนอนข้างคนรักแล้วดึงคนร่างบางเข้ามากอดไว้แน่น จูบลงเบาๆบนกลุ่มผมนุ่ม ดูเหมือนว่าเซฮุนเองก็ไม่ได้หลับสนิทเพราะแรงกอดตอบจากคนในอ้อมแขน
“กูขอโทษที่ทำให้มึงรู้สึกแย่ ...ขอโทษจริงๆแต่กูรักมึงคนเดียวนะ”
เซฮุนลุกขึ้นมาแต่งตัวหล่อแต่เช้าเพราะจงอินจะพาไปเที่ยวที่บ้านไร่ เด็กหนุ่มดีใจที่ได้กลับไปอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้ไปนาน จงอินเก็บเสื้อผ้าสองสามชุดเพราะอยากค้างที่นั่นสักคืน
“ใส่ชุดนี้หล่อไหม ?”
“หล่อมากแต่น้อยกว่ากูอ่ะ”
“หลงตัวเองว่ะ ไปกันเหอะเดี๋ยวสายแล้วแดดร้อน”
“อืม...เดี๋ยวแวะซื้อขนมฝากหลานกับไอ้สามตัวนั้นด้วยนะ”
“โอเค ไปกัน !”
คิมจงอินพาคนรักมาแวะที่สวนแห่งหนึ่งในระหว่างทางผ่าน เป็นสถานที่เที่ยวขึ้นชื่อของประเทศเกาหลี วันนี้เซฮุนดูมีความสุขและก็เอาแต่ใจมากกว่าทุกวัน คนร่างบางกระโดนขึ้นขี่หลังเขาทั้งที่ตัวเองกินไอติมอยู่
“มึงน้ำหนักขึ้นป่ะเนี๊ย”
“สามโล..”
“หยุดกินได้และอ้วนกว่านี้เดี๋ยวก็แบกไม่ไหวอ่ะ”
“ไม่หยุด ทำไมถ้าหนักกว่านี้ก็จะไม่แบกอ่อ ?”
“ใครว่าล่ะ ให้หนักกว่านี้อีกยี่สิบโลกูก็ไหวเหอะ”
“พูดมาก กินเข้าไปเลย”
เซฮุนยัดไอติมเข้าปากจงอินแล้วหัวเราะเสียงดัง พวกเขาทั้งสองคนเดินไปตามทางพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความสุข ไม่บ่อยนักที่ทั้งสองคนจะได้มีโอกาสได้มาเที่ยวด้วยกันแบบนี้ พวกเขาอยากจะเก็บช่วงเวลาดีแบบนี้เอาไว้ให้นานที่สุด
“จงอิน..”
“หื้ม ?”
“ไว้เราไปเที่ยวด้วยกันอีกนะ อยากไปหลายๆที่เลย”
“อยากไปที่ไหนก็บอก กูมีเวลาให้มึงทั้งชีวิต”
หลังจากที่ได้ฟังประโยคนี้แล้ว แขนเล็กโอบคอคนพูดแน่นขึ้นพร้อมกับวางคางลงบนไหล่ เซฮุนนิ่งเงียบไปอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเรียกชื่อคนรักตัวเองอีกครั้ง
“จงอิน....รักเหมือนกันนะ..”
อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปตลอดเลยได้ไหม....
เซฮุนกำลังพาเจสเปอร์เล่นน้ำอยู่ในสระ ส่วนจงอินก็ทำหน้าที่คอยเตรียมผลไม้และของว่างให้หลานกับคนรัก จงอินชอบเวลาที่เซฮุนยิ้มและหัวเราะเพราะมันจะทำให้เขามีความสุขและยิ้มตามไปด้วย
ครืดดดด....
“ว่าไงมึง”
“ไอ้ไคมึงอยู่ไหนวะ โทรไปก็ปิดเครื่อง”
“กูพาเซฮุนมาบ้านไร่อ่ะ มึงมีไร ?”
“แหม่ะสวีทกันจังนะมึง เรื่องรูปในซองสีขาวที่ส่งมาให้เซฮุนไง”
“อ่อเออทำไม ?”
“คือกูรู้แล้วว่ารุ่นน้องในคณะเรานี่แหละเป็นคนเอาไปให้ แล้วมันก็บอกว่าไอรีนเป็นคนยื่นให้มัน”
“แล้วไงต่อ ?”
“กูว่าน้องเขาไม่ธรรมดา”
“เออกูรู้ สิ่งที่กูควรทำตอนนี้คืออยู่ข้างเซฮุนและบอกความจริงทุกอย่าง”
“เห็นด้วยกูว่าแผนตีสนิทเราไม่โอละ หนึ่ง สอง สามแยกกันเถอะมึง”
“ไปมึงไปหาแฟนตัวเองแล้วดูแลเขาให้ดีที่สุด”
หลังจบประโยคนี้ จงอินได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นจากปลายสาย ความจริงแล้วก่อนหน้านี้เขาก็พอรู้ว่าไอรีนคิดยังไง ที่ตีสนิทไปแบบนั้นก็แค่อยากรู้ว่าทำไปทำไมก็แค่นั้น แต่พอได้เห็นว่าเซฮุนไม่สบายใจเรื่องนี้เขายิ่งเจ็บปวด
“งั้นกูไปก่อนนะมึง ลู่หานตื่นแล้ว”
“เออไว้เจอกันวันจันทร์”
มัวแต่คุยโทรศัพท์เพลินจนลืมดูไปว่าเซฮุนกับหลานขึ้นจากสระว่ายน้ำเรียบร้อยแล้ว จงอินหันไปเจอเซฮุนยืนเช็ดผมอยู่ข้างหลัง ใส่เสื้อยืดสีดำและกางเกงขาสั้นธรรมดา
“อาบน้ำแล้วหรอ ?”
“อืม มีอะไรกินไหม หิว”
คนร่างบางเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดียวกันกับจงอิน แล้วหยิบของว่างใส่ปาก จงอินก็เลยหยิบผ้าแล้วเช็ดผมให้เซฮุนแทน
“กูมีเรื่องจะบอกมึง”
“ถ้าเรื่องเมื่อกี้ก็ได้ยินหมดแล้ว”
“จะไม่ทำแบบนี้อีก”
“ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย ต่อไปนี้ก็อย่าไปใกล้เขามากเห็นนิ่งแบบนี้ก็หวงเหมือนกัน”
“เป็นการหวงที่นิ่งมากจริงๆ”
โอเซฮุนหัวเราะออกมาแล้วเอนตัวพิงแผงอกกว้างของจงอิน คนเป็นพี่ก็เลยวางคางลงบนหัวอีกคนแล้วจับโยกไปมา แขนแข็งแรงโอบกอดคนร่างบางเอาไว้แน่นราวกับว่าเซฮุนจะหายไปถ้าเขาปล่อยมือ
ความรักมักมีบทพิสูจน์มากมายแต่ถ้าเราเชื่อใจกันมันก็จะผ่านไปได้..
____________________________________
มีเรื่องมาแจ้งสำหรับหนังสือนะคะ
เนื่องจากหนังสือเราทำขนาดการ์ตูนแล้วหน้ามันทะลุไปสี่ร้อยกว่าเลยอ่ะ
เลยมีการปรับปรุงนิดหน่อยก็เลยล่าช้า เค้าจะส่งฉบับแก้ไขในวันพุธนี้อีกทีนะคะ
ขอโทษสำหรับคนรอจริงๆ มันคือความผิดพลาดของเราเองค่ะ T.T
สำหรับคนที่อยากได้ตอนนี้เราขอให้ได้หนังสือก่อนนะคะแล้วจะประกาศขายอีกที
ติดต่อได้ที่นี่เลย @qbearjy
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พอรู้แบบนี้ก็ค่อยโล่งหน่อย อย่ามีอะไรมีขัดขวางความรักของ 2 คนนนี้เลย
น้องรู้แล้วเนอะ ไอรีนหนู่ไม่ได้ไปต่อแล้วนะ
ถ้าดราม่านะ ต้องหนักแน่เลย
ดีนะที่จงอินยังมั่นใจว่ารู้สึกกับเซฮุนเหมือนเดิม
ไม่ไว้ใจไอรีนเลยง่ะ ฮือออออออ อย่าหวั่นไหวนะจงอิน อย่าหวั่นอะไรทั้งนั้น เข้าใจยัง เซฮุนน่าสงสารนะเว่ย อย่านะ!!!
คือเค้าจิ้นไคฮุนอยู่แล้ว มาอ่านเรื่องนี้ยิ่งบ้าเลย 555 ชอบอ่านฟิคแนวนี้ดราม่าไม่ค่อยมาก มีตลก เฮฮาปนกันไป
แล้วจะตามอ่านเรื่อยๆน้า า ขอโทดที่มาเม้นรวมในตอนเดียว เดะต่อไปจะเม้นทุกครั้งที่เข้ามาอ่านแล้ว 55
พอดีอ่านแล้วต้องต่อเลย เลยยกยอดเม้นมาอันนี้ ต่อไปจะดราม่าแล้ว ช้ะ TT แค่ตอนนี้ก็เริ่มหน่วงแล้ว ไม่รู้จะสงสารใคร
รอน่ะตัวเอง สู้ๆ
มาร์คก็รุก ไอรีนก็รุก มีคนเค้าหาทั้งคู่
เซฮุนก็เริ่มหวั่นเรื่องจงอิน ไหนจะเจอจงอินกับไอรีนอีก ฮอลลล
เซฮุนก็ไม่รู้ตัวเล้ยยย จงอินเห็นหึงแย่ ._.
รออีก 75% ที่เหลือนะงับ 555555555
เซฮุนเริ่มเอะใจแล้วอ่ะ รอต่อที่เหลือนะคะ โอ่ยย แซ่บบบบบบ