ตอนที่ 2 : one -
One
คนร่างบางจัดการเก็บโต๊ะและตวรจดูความเรียบร้อยของร้านก่อนจะแบกกระดานวาดรูปแล้วเดินไปหา โจโกโบ๊ะ จักรยานสีแดงคู่ใจ วันนี้มีเรียนเก้าโมงโอเซฮุนก็เลยมีเวลาช่วยป๊าล้างชามเตรียมของสำหรับขายคืนนี้ ยกข้อมือขึ้นดูเวลาพบว่ายังเหลืออีกครึ่งชั่วโมงกว่าจะเข้าเรียนส่วนจื่อเทาก็ยังไม่ตื่น
เซฮุนจึงตัดสินใจขี่จักรยานวนรอบมหาวิทยาลัยเพื่อฆ่าเวลาเล่นไม่รู้ว่าคิดผิดหรือถูกที่ทำแบบนี้เพราะกระดานวาดรูปที่แบกมาด้วยดูจะเป็นตัวเกะกะซะเหลือเกิน
นี่ถ้าไม่ติดว่ามึงแพงกูโยนทิ้งข้างทางละจริง =_=
ร่างบางปั่นต่อไปเรื่อยๆมองดูรอบข้างที่เต็มไปด้วยสาวๆที่ออกมาวิ่งในตอนเช้าหรือพวกรุ่นพี่ที่กำลังซ้อมงานกีฬาอยู่ในสนามประปราย เซฮุนรู้สึกผ่อนคลายกับบรรยายกาศยามเช้าเป็นอย่างมากและคิดว่าต่อไปจะทำแบบนี้ทุกวันถ้าไม่ตื่นสาย
แสงแดดอ่อนๆลมพัดเย็นๆอามรมณ์ศิลปินมาเลยมึง มันใช่แบบนี้มันใช่ ดนตรีมา !!!
จะออกไปแตะขอบฟ้าสุดท้ายแม้โชคชะตาไม่เข้าใจ
มองไปไม่มีหนทางแต่รู้ว่าฉันต้องไปต่อไป...
ชีวตแม้ต้องล่มลงตรงไหน (?)
ปี๊นนนนนนนนนนนนนนนน !!!
“เห้ยๆๆๆ อ้ากกกกกกกกกกกก !” เพราะมัวแต่ร้องเพลงเพลินเซฮุนก็เลยไม่ทันเห็นรถยนต์ที่ขับสวนมา จักรยานคันสีแดงล้มลงกับพื้นพร้อมกับตัวคนปั่นที่ลงไปนอนอยู่บนถนน ข้อศอกโดนพื้นจนได้เลือด
“อ่าวเห้ยๆๆ อย่าหนีดิวะ !!!”
รถคันสีดำรีบขับออกไปทันทีไม่แม้แต่จะถามหรือลงมาดูสักนิดว่าเป็นอะไรไหม เซฮุนรู้สึกหัวเสียไม่น้อยลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากที่แห้งผาดเพื่อกดอารมณ์ร้อนเอาไว้
ป๊ากูรวยเมื่อไหร่กูจะซื้อรถเมล์ขับเลยสัส !
เมื่อรู้ว่าทำได้แค่ด่าในใจคนร่างบางจึงลุกขึ้นเดินไปหยิบกระดานที่กระเด็นอยู่ข้างๆแล้วเดินกลับมาพยุงจักรยานสุดรักขึ้นโชคดีที่ไม่เจ็บอะไรมากแค่เลือดอกตรงศอกเท่านั้น เซฮุนขึ้นคร่อมจักรยานแล้วรีบปั่นออกไปจากตรงนั้นด้วยท่าทางเงียบขรึมเป็นเดือนต้องรักษาภาพพจน์เอาไว้ผู้ชายแมนๆต้องไม่โอดโอยเพราะเรื่องแค่นี้
คนร่างบางย้ายตัวเองขึ้นมาอยู่บนห้องเขียนแบบแทนเป็นห้องของคณะที่มีไว้ในนักศึกษาคอยฝึกผลงาน เซฮุนเดินเข้ามาอย่างเงียบๆพร้อมกับสำรวจว่ามีคนอยู่ไหม
“เข้าไปสิมาทำลับๆล่อๆอะไรหน้าห้อง” เสียงทุ้มดังขึ้นทำเอาคนโดนถามสะดุ้งตัวโยนหลบทางให้คนด้านหลังโดยอัตโนมัติ
“ตกใจเหรอ ? โทษๆ”
“ไม่เป็นไรครับ”
คนตัวสูงกว่ายกยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในห้องเมื่อไม่มีบทสนทนาต่อเซฮุนจึงไม่ได้พูดอะไรเดินเข้าไปนั่งตรงที่ประจำของตัวเองก่อนจะวางกระดานวาดรูปและนั่งลงที่เก้าอี้สำรวจแผลที่ข้อศอกตัวเองอีกครั้ง
“ไปโดนอะไรมา ?”
“รถล้มเมื่อเช้าครับ”
“นายโอ เซฮุนปีหนึ่งใช่ไหม ?”
“ครับ พี่รู้จักผม ?”
“ส่วนใหญ่ก็รู้จักนายกันทั้งนั้นแหละ ฉันปาร์ค ชานยอลปีสอง”
คนเป็นรุ่นพี่แนะนำตัวด้วยท่าทางนิ่งเฉย เซฮุนก็ทำได้แค่มองก่อนจะทำความเคารพผู้ที่มีอายุมากกว่าด้วยการก้มหัวแล้วส่งยิ้มบางๆให้อีกคนอย่างเป็นมิตร
“อืม...เอาไปแปะแผลไว้ พี่ไปล่ะเดี๋ยวเข้าเรียนสาย”
ชานยอลเดินเข้ามาหาเซฮุนก่อนจะส่งพลาสเตอร์ยาให้อีกคน ร่างบางรับมันมาก่อนจะเอ่ยคำขอบคุณออกไปชานยอลยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยยกมือขึ้นยีหัวคนตัวบางเล่นอย่างเอ็นดูแล้วก็เดินออกไปจากห้อง
ผมกูยุ่งหมด
วันนี้พี่ที่คณะเรียกประชุมตอนเย็นเรื่องงานกีฬาและค่ายอาสา ตอนนี้ทุกคนในคณะมารวมกันที่ห้องประชุมรวมถึงเซฮุนและจื่อเทาด้วย งานนี้เป็นหน้าที่ของปีหนึ่งและปีสองที่ต้องร่วมมือกันทำงานเพื่อชื่อเสียงของคณะ
“สวัสดีค่ะน้องๆนักศึกษาทุกคน พี่จอง อึนจีนะคะ สำหรับเรื่องที่เราจะประชุมกันในวันนี้คือเรื่องของงานกีฬาประจำปีในปีนี้เราจะแบ่งกันสีละสองคณะ อืม....คณะเราจะทำคู่กับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ส่วนรายละเอียดทั้งหมดเดี๋ยวน้องฟังพี่ชานยอลชี้แจงอีกทีแล้วกันนะ”
น้ำเสียงของรุ่นพี่ในคณะไม่ได้เข้าหูเซฮุนเลยตั้งแต่ที่คนร่างบางได้ยินคำว่าวิศวกรรมศาสตร์แค่ได้ยินชื่อคณะนี้ก็เกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกถูก
“เป็นไรวะมึง” จื่อเทากระซิบถามเพื่อตัวบางที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่คนเดียว
“ป่าวๆ กูหิวข้าวน่ะ”
“เออๆเดี๋ยวจบนี้ละไปกินต๊อกกัน กูอยากกิน”
“เออไปดิวันนี้เลิกเร็วด้วยป๊าคงยังไม่เปิดร้าน”
เซฮุนตอบแล้วก็สนใจคำพูดของรุ่นพี่ในคณะต่อ นึกชื่นชมชานยอลที่ทั้งหล่อและเก่งไม่แปลกเลยที่สาวๆข้างต่างก็มองอย่างเฝ้าฝัน
กูไม่หล่อเหรอวะไม่เห็นมีงี้บ้างเลย
แบคฮยอน จงอินและคยองซูเดินลงมาจากตึกวิศวะเมื่อประชุมและแจ้งข่าวนักศึกษาปีหนึ่งในคณะเรื่องงานกีฬาเสร็จแบคฮยอนดูจะหัวเสียไม่น้อยที่ต้องรับมือกับรุ่นน้องกวนๆในคณะ
“กว่าจะประชุมเสร็จใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงครึ่ง ถามห่าไรไปก็จะเอาแต่ขอเบอร์กับไลน์คนอย่าง บยอน แบคฮยอน ถ้าถูกใจเดี๋ยวจีบเอง”
“เอาหน่ามึงทนๆไป” คยองซูตบไหล่เพื่อนอย่างให้กำลังใจ
“จงอินนนนนนน จงอินโว้ยยยย !!!”
เสียงเรียกที่ดังขึ้นดึงเอาความสนใจจากทั้งสามคน นักศึกษาผู้ชายหน้าสวยวิ่งตรงเข้ามาหาจงอินก่อนจะยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้ยืนหายใจหอบอยู่สักพักก็พูดขึ้น
“ไอ้เหี้ย !! ไมมึงไม่ไปเอาว่ะลำบากกูต้องวิ่งเอามาให้เนี๊ย”
“โทษทีพี่ผมลืมอ่ะ” จงอินรับเอาซองเอกสารมาไว้ในมือ
“อ้าว น้องแบคฮยอนคนงามไม่เจอกันนานตูดใหญ่ขึ้นนะ”
ทักงี้มึงไม่เคยโดนหน้าแข้งกูฟาดสินะ !
“หุบปากแล้วจะไปไหนก็ไป !” แบคฮยอนตอบเหวี่ยงใส่อีกคน
“แค่นี้ก็ต้องโมโหด้วย งั้นพี่ไปก่อนนะไว้เจอกันใหม่ จุ้บ..” ผู้ชายหน้าสวยยกมือขึ้นส่งจูบไปทางแบคฮยอน ร่างเล็กเบ้ปากพร้อมกับหันหน้าหนีนึกอยากจะเข้าไปทึ้งหัวคนทะเล้น
“ใครว่ะมึงรู้จักอ่อ ?” คยองซูหันไปถามหลังจากที่ผู้คนนั้นเดนห่างออกไป
“ลู่หาน วิศวะโยธาไงมึงไม่รู้จักมันอ่อ?”
“ไม่อ่ะ อยู่ปีไหนวะ”
“ปีหกละมึง ”
“ปกติเรียนสี่ไม่ใช่อ่อวะ ?”
“เออมันซ่า ชอบมีเรื่องเลยเรียนไม่จบสักทีแต่มันเรียนเก่งนะเห็นหน้าสวยงั้น สาวๆติดตรึม”
“แล้วมึงไปรู้จักกับพี่เค้าได้ไง ?”
“เอ่อ...เห้ยไอ้ไคมองไรวะไปเหอะกูหิวข้าวแล้ว”
แบคฮยอนรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีคยองซูที่ยังสงสัยก็ทำได้แค่มองอย่างจับผิดในเมื่อเพื่อนไม่ยอมบอกไว้เขาสืบหาเอาเองก็ได้คนอย่างแบคฮยอนปิดความลับได้ไม่นานหรอก
“อ่อ...มองน้องเซฮุนตัวขาวนี่เอง นี่มึงจริงจัง ?”
“ก็ไม่ เห็นน่ารักขาวๆก็เลยอยากลอง”
“น้องเค้าแมน กูต้องได้ ! ” แบคฮยอนพูดขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง
ป้าบบบบบบบ !
เสียงตีหัวดังขึ้นข้างหลังทำเอาแบคฮยอนหน้าสั่นไปตามแรง คยองซูนี่ตัวเล็กไหล่แคบแต่แรงไม่เคยตกตบที่นี่คิดว่าแผนดินไหว
“มึงก็พูดงี้ทุกที่อ่ะ กูไม่เห็นมึงจะได้สักคน” คยองซู
“ไอ้เหี้ยตบซะแรงโลกกูสั่นหมดละ” แบคฮยอน
“พวกมึงตีกันอีกละ ไปๆกินข้าวเดี๋ยววันนี้กูเลี้ยงบะหมี่” จงอินพูดขึ้นก่อนจะเดินนำเพื่อนตัวเล็กออกไป
“มึงคิดเหมือนกูป่ะว่ะเตี้ยหนึ่ง” แบคฮยอน
“กูก็คิดเหมือนมึงอ่ะเตี้ยสอง” คยองซู
“กูว่ากว่าไอ้ดำจะจีบน้องได้กูว่าผมกูเป็นเส้นบะหมี่แน่ =_=” แบคฮยอน
“เพื่อเพื่อนมึง ไปเหอะอิอ้วนกูหิวละ”
เออกูจะทำเพื่อน้องฮุนและอนาคตความรักที่สดใสของกู ♥
เซฮุนและจื่อเทาใช้เวลาไปกับการกินและเดินเล่นในตลาดข้างมหาวิทยาลัยไปเกือบชั่วโมงกว่า ตอนนี้ทั้งคู่มานั่งกันที่สวนสาธารณะที่อยู่ไม่ไกลจื่อเทากำลังถ่ายรูปวิวทั่วไปโดยมีเซฮุนนั่งกินขนมอยู่ข้างๆ
“ถ่ายตอนกูแดกนี่สนุกป่ะมึง”
“ก็ดีอ่ะรูปมึงตอนหลุดกูมีเต็ม ว่าจะทำโฟโต้บุ้คขาย”
“หยุดความคิดมึงไปเลยสัส ! มึงชอบถ่ายรูปละไมเรียนถาปัตย์ว่ะ ?”
“ก็อยาก..” อยู่กับมึง
“หือ?”
“อยากเท่..คณะนี้สาวติดเยอะ”
“เหตุผลมึงขัดกับนิสัยมากอยู่ด้วยกันมาจะห้าปีละยังไม่เห็นมึงมีแฟนเลย”
“อยู่กับมึงกูมีความสุขดีแล้ว กินดีๆดิมึงเปื้อนยันแก้มจะเก็บไว้กินพรุ่งนี้เหรอ ? ผ้าเช็ดหน้าก็ไม่รู้จักพกก็รู้ว่าเป็นคนชอบกินอะไรเลอะเทอะ” แม้ว่าปากจะบ่นแต่มือก็บรรจงเช็ดรอยเปื้อนบนใบหน้าขาวเนียนอย่างอ่อนโยน
“มึงอย่าบ่นเหมือนอาจูม่าที่เริ่มเข้าวัยทองได้ป่ะ พกทำไมไปไหนก็ไปกับมึงก็เป็นผ้าเช็ดหน้าให้กูละกัน ฮ่าๆ”
“มึงนี่มันจริงๆเลยรีบกินจะได้ไปช่วยป๊าเปิดร้าน”
“เออๆ”
เซฮุนตอบก่อนจะรีบยัดเอาขนมใส่ปากจนแก้มตุ่ย ร่างบางไม่สนใจกับเสียงบ่นภาษาเกาหลีสำเนียงแปลกๆของเพื่อนที่ดังมาเป็นระยะ
ว่าแต่กูกินน่าเกลียดและมึงจะถ่ายรูปกูทำเชี่ยไรนักหนา
“มึงไปขี่โจโกโบ๊ะมาดิ้ กูจะเอานี่ไปทิ้ง”
“ชื่อจักรยานมึงนี่นะ =_=”
“เออสาดดด ไปเร็วเดี๋ยวป๊าด่าเมื่อวานก็ช้า”
ทั้งสองคนใช้เวลาไม่นานในการปั่นจักรยานมาที่ร้านเซฮุนกระโดดลงหน้าร้านก่อนจะวิ่งเข้าไปในบ้านส่วนจื่อเทาก็พาเจ้าจักรยานไปจอดไปบริเวณข้างๆร้าน
“อ่าวอาเทาอาตี๋ไม่มาเหรอ ?”
“มันวิ่งขึ้นห้องไปบนห้องอ่ะ ป๊ามีไรให้ผมช่วยป่าว ?”
“เอาผักนี่ไปล้างให้ป๊าทีนะ”
“ครับบบบ..”
“อาตี๋เอ้ยยย อาตี๋ !!!” ผู้เป็นพ่อตะโกนเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวเอง
“ครับป๊า ?” เซฮุนโผล่หน้าออกมาตรงบันไดบ้านเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ
“พ่อกับแม่ของลื้อส่งจดหมายมาให้ ป๊าวางไว้บนเตียงเห็นแล้วใช่ไหม ?”
“เห็นแล้วครับ เดี๋ยวฮุนลงไปช่วยป๊านะเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
เซฮุนพูดแค่นั้นก่อนจะวิ่งขึ้นไปชั้นบนอีกครั้งเขาวางจดหมายของพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิดไว้ในกล่องที่มีจดหมายอีกมากมาย ขอความเดิมๆซ้ำที่เซฮุนอ่านมันจนท่องได้ถูกเขียนเอาไว้
ร่างบางจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อยู่ในชุดสบายแต่ไม่ดูน่าเกลียดจนเกินไป ลงมันช่วยป๊าและจื่อเทาจัดเตรียมของ
“ป๊า ! เหนื่อยไหม ?” เดินเข้าไปซ้อนกอดผู้เป็นพ่อแน่น
“ไม่เหนื่อยหรอก แล้วพ่อกับแม่ลื้อว่าไงบ้าง ?”
“ก็เหมือนเดิมอ่ะป๊า อยู่ได้ไหม ลำบากหรือเปล่า อยากไปอยู่ด้วยกันไหมอะไรแบบนี้”
“แล้วไม่อยากไปเหรอ ?”
“ป๊าคิดมากอีกละไม่เอาอ่ะฮุนจะอยู่กับป๊า ป๊าเลี้ยงฮุนมานะจะให้ฮุนไปอยู่กับคนที่ทิ้งฮุนตั้งแต่เกิดได้สามเดือนได้ยังไงกัน ฮุนรักป๊านะครับ”
ไม่ต้องมีคำพูดอะไรให้มากมายสองพ่อลูกก็เข้าใจกันได้ไม่ว่าจะถามอีกกี่ครั้งคำตอบของเซฮุนก็ยังเหมือนเดิมไม่ใช่ว่าโกรธหรือเกลียดผู้ให้กำเนิดที่แท้จริงเซฮุนเข้าใจว่าทุกอย่างที่พ่อกับแม่เขาทำมันต้องมีเหตุผลแต่การจะมาเปลี่ยนแปลงอะไรที่มันเป็นอยู่มายี่สิบกว่าปีมันก็คงไม่ง่ายนัก
ร้านบะหมี่โอยังคงเป็นที่นิยมของเหล่านักศึกษามากมายวันนี้คนเข้าร้านเยอะจนเซฮุนแทบไม่ได้นั่งพักนึกเห็นใจผู้เป็นพ่อที่ยังไม่ได้นั่งตั้งแต่เปิดร้าน
“น้องฮุนสั่งอาหารหน่อยครับ” เซฮุนรีบลุกขึ้นไปตามเสียงเรียกเรียวปากที่กำลังแยกยิ้มหุบลงทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของอีกคน
พี่ตัวดำนี่มาอีกแล้วนี่มึงเอาจริงอ่อเนี๊ย !
“ขอเหมือนเดิมสามที่นะครับ”
“วันนี้น้องเซฮุนคงเหนื่อยแย่ ให้พี่แบคช่วยไหมครับ” แบคฮยอนจัดเข้าไปหนึ่งดอกตัดหน้าจงอินที่เตรียมจะพูด
“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ รอสักครู่นะครับเดี๋ยวผมไปเอาน้ำให้”
“ไอ้เชี่ยแบค อย่าตัดหน้ากู !” ร่างเล็กไม่ตอบทำเพียงแค่ยักไหล่ให้เพื่อนที่นั่งตรงข้าม เซฮุนเดินหายไปไม่นานก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับน้ำแข็งเปล่าสามแก้ว
“ขายดีน่าดูเลยดิมึงวันนี้ ”
พรวดดดดดดด !!
คำทักทายของจงอินทำเอาเพื่อนตัวเล็กทั้งสองพ่นน้ำออกมาโดยไม่ได้นัดหมาย สรรพนามการเรียกที่บ่งบอกว่าเป็นตัวจงอินหลุดออกมาจากปากมันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกแต่เวลาจะจีบใครสักคนแล้วพูดมึงกูนี่มันยังไงอยู่
“อะไรของพวกมึงเนี๊ย !”
“โห่มึงใช้ภาษานี้จีบน้องเขาเหรอว่ะ แมนไปป่ะสัส !”
“ถึงกูจะหยาบแต่ก็จะไม่ทำให้ว่าที่แฟนลำบากแน่นอน” พูดขึ้นก่อนจะหันไปขยิบตาหนึ่งข้างใส่เซฮุนพร้อมกับทำหน้าที่สาวๆเห็นละต้องยอมใส่คนตัวบาง
อะไรเข้าตามึงวะครับ !
“ถึงพี่จะตัวดำแต่ถ้าไม่คลำแล้วจะติดใจ” มาอีกหนึ่งดอก
“ขอตัวนะครับ ผมมีงานต้องทำ” เซฮุนเมินอีกคนก่อนจะหันมาพูดกับแบคฮยอนและคยองซู
“ว้ากกกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆ ไอ้เหี้ยขำ มุขมึงใช้ไม่ได้กับน้องเค้าอ่ะมึง ฮ่าๆๆๆ โอ๊ยเหี้ยเยี่ยวจะราด ” แบคฮยอนปล่อยโฮออกมาเสียงดังคยองซูที่อยู่ข้างๆเองก็เป็นไปด้วย
“พวกเชี่ย !! มึงคอยดูกูจะตื้อจนกว่ามันจะยอมเป็นแฟนกู”
“เออพวกกูจะคอยดู ฮ่าๆๆๆ ”
อะไรที่ได้มายากมันจะมีค่าเสมอ แม่กูเคยบอกไว้
_________________________________________
#ฟิคคนแมน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

นี่แอบฟินเทาฮุนนิดๆ ><
จีบน้องมันยากแต่ถ้ารักจริงต้องทนคะ
แล้วร้องเพลงร้องผิดอีกคนแมน
พี่ลู่คนแมนกับน้องแบคหรอเนี่ยว้าวๆๆๆแต่ดูเขาทักแบคน่าจะตบสักดอก5555555
ส่วนพี่จงอินจีบเซฮุนได้แบบจะติดไหมมมโอยยยพ่อพระเอก
แล้วก็จื่อเทาพ่อตัวเขียวศัตรูหัวใจตล๊อดดอ่ะตลอดดดดคนนี้นี่ยอมจริงๆเห้อมมม
พี่ชานก็มาแบบหล่อๆนะ น้องฮุนไม่เคลิ้มใช่ป่ะ
แน่ะ!! เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ที่ไม่มีแฟนเพราะน้องฮุนใช่ป่ะจื่อ
จงอินฮาอ่ะ เสี่ยวไม่พอ มีขยิบตงขยิบตาใส่
น้องถึงกับอะไรเอ่ยในใจ อะไรเข้าตา