ตอนที่ 14 : thirteen -
Thirteen
โอเซฮุนชอบท้องฟ้าในตอนเย็นมากที่สุดเพราะมันจะทำให้เขาคิดไอเดียใหม่ได้ ตอนนี้ตัวเขากำลังนั่งใช้ความคิดอยู่บนสแตนตรงสนามกีฬาที่ประจำกับจื่อเทา บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยนักศึกษาที่มาออกกำลังกายในช่วงเย็นถึงแม้ว่าเสียงจะดังมากแต่มันก็ไม่ถึงกับรบกวนสมาธิ คนร่างบางจัดการมัดผมข้างหน้าขึ้นเป็นจุกเอาไว้กันรำคาญในปากมีอมยิ้มที่เพิ่งได้มาจากเพื่อนในคณะ
“มึงว่าแบบนี้โอเคป่ะวะ ?” จื่อเทาสะกิดไหล่เพื่อนก่อนจะโชว์ผลงานให้ดู
“อืมดีแล้วมึงไม่ต้องแก้แล้ว”
วางแล้วก็ก้มลงสนใจกระดานวาดรูปของตัวเองที่อยู่หน้าต่อ วันนี้เป็นวันที่สามแล้วที่เขารู้สึกว่าจิตใจวุ่นวายไม่เป็นอันทำอะไรสักอย่างเหมือนกับว่ามันมีอะไรกวนใจอยู่ตลอดเวลา
“เออเดี๋ยวนี้มึงยังคุยกับพวกพี่วิศวะกลุ่มนั้นอยู่ป่ะวะ ?”
คำถามของจื่อเทาทำให้มือที่กำลังวาดลวดลายอยู่หยุดชะงัก โอเซฮุนหันไปมองหน้าคนถามแต่จื่อเทาไม่ได้กำลังมองเขาอยู่คนร่างบางจึงหันหน้ากลับมาที่เดิม
“ไม่ได้เจอมาสามวันแล้วตั้งแต่กินข้าวโต๊ะเดียวกันวันนั้น”
ใช่ ... ตั้งแต่ที่ไปดูแลจงอินที่ห้องวันนั้นเซฮุนก็ไม่ได้ไปอีกแล้วจงอินก็ไม่ได้มาทำงานที่ร้าน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่เป็นอยู่เขาเรียกเป็นห่วงไหมแต่ถ้าจะให้โทรไปถามก็คงไม่ใช่นิสัยของเขา
“ช่วงนี้มึงเป็นอะไรทำไมดูลอยๆ”
“ลอยเหี้ยไรก็นั่งอยู่นี่”
“กวนตีน... กูหมายถึงมึงเหม่อเรียกแล้วไม่ค่อยตอบรับ”
“เหรอวะ ? กูเป็นแบบนั้นเหรอ ?”
หันไปมองหน้าอีกคนแล้วทำหน้าสงสัยเขย่าแขนเพื่อนอย่างต้องการคำตอบ จื่อเทาหลุดขำกับนิสัยแบบเด็กๆของเซฮุนก่อนจะพยักหน้าแทนคำตอบ
”ไม่หรอกมึงคิดมากไปละ เอาต๊อกมึงมาแดกบ้างดิ๊”
พอได้ขนมมาเซฮุนก็จิ้มมันใส่ปากเป็นการตัดบทสนทนาทั้งหมด จื่อเทามองคนร่างบางเคี้ยวจนแก้มตุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปยีผมเล่นไม่ได้
“อย่าดิ กูขี้เกียจมัดจุกใหม่” เบี่ยงตัวหลบมือเพื่อนแล้วสนใจกินต่อ
“พี่ครับๆ”
จู่ๆก็มีเด็กใส่ชุดมัธยมปลายวิ่งมาทางเซฮุนและจื่อเทา เด็กคนนั้นยื่นโปรชัวบางอย่างให้เซฮุนแล้วส่งยิ้มน่ารักให้
“หืม ?”
“คือว่าพวกเรามาจากโรงเรียนดนตรีแล้วคุณครูเขาให้จัดคอนเสิร์ตเป็นงานอ่ะครับ เลยอยากจะชวนพวกพี่มาร่วมด้วย พรุ่งนี้ตอนเย็นที่ลานกว้างในมหาลัยตรงโน่นอ่ะครับ” ว่าแล้วก็ชี้ไปทางด้านในสุดของมหาวิทยาลัย
“อืม ไว้ถ้าไม่ติดงานพี่จะไปนะ”
“ขอบคุณครับ อ่ะ...ผมชื่อแบมแบมนะครับ บ้ายบาย ...”
แล้วก็หอบเอกสารไปวิ่งไปทางอื่นต่อ เซฮุนพลิกดูกระดาษในมือก็พบว่ามันมีกระดาษติดมาอยู่จำนวนหนึ่ง
นี่กะให้กูช่วยแจกด้วยสินะ เด็กนี่...
“เออมึงเดี๋ยวกูมาไปเข้าห้องน้ำแป้บ” เดินไปทั้งที่ใบโปรชัวยังอยู่ในมือ
“มึง อ่าว.....”
จะบอกว่ามึงลืมดึงจุกออก ...
คิมจงอินกำลังต่อสู้กับพิษไข้ของตัวเองอย่างหนักมาเป็นเวลาสามวันแล้วก็ยังไม่หายซะทีอยากเจอหน้าน้องคนแมนก็ไปไม่ไหวแค่เรียนก็เหนื่อยกลับห้องไปก็หมดแรงเผลอหลับตื่นมาอีกทีก็เช้ามาเรียนต่อ นี่แหละชีวิตวัยเรียน..
“มึงไหวป่ะเนี๊ยกลับห้องก่อนไหม ?” แบคฮยอนบีบไหล่เพื่อนเบาๆ
“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวกูไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำก่อนแล้วกัน”
“เออๆไปดีๆนะมึงอย่าไปเป็นลมที่ไหนล่ะอายเค้า”
“สัด ถ้าคยองซูมามึงเอางานนี่ให้มันทำต่อด้วยแล้วกัน”
พูดจบก็เดินไปทางห้องน้ำแถวสนามกีฬาที่อยู่ไม่ไกลโชว์ดีที่ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วผู้คนก็เลยมีบ้างปะปลายส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาที่มาออกกำลังกายตอนเย็นซะมากกว่า บอกตามตรงเวลาไม่สบายนี่มันทำให้ไม่อยากทักทายใครเลยจริงๆนะ ..
“เซฮุน !”
บ๊ะ ....แบบนี้เขาเรียกว่า พรหมลิขิต ..
เอ่ยเรียกชื่ออีกคนด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเจอคนที่กำลังคิดถึงอยู่ในนี้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสถานที่ที่ไม่โอเคเท่าไหร่ก็เถอะ ขอแค่ได้เจอก็ต่อชีวิตเขาไปหลายวันเลยแหละ
“อ่าวพี่ ...” เซฮุนพูดแค่นั้นก็ก้มหน้าล้างหน้าต่อ
กูคิดถึงมึงแทบขาดใจนะโอเซฮุน ...ช่วยรู้ถึงจิตใจก็ด้วย !
“ไม่กลับไปช่วยป๊าเหรอวะ ? โทษทีที่กูไม่ได้โทรไปบอกไข้แดกอยู่หลายวัน”
“ไม่เป็นไรบอกป๊าให้แล้ว”
เซฮุนตอบทั้งที่ยังใช้มือเปียกน้ำลูบผมข้างหน้าให้ลงมาปิดตามเดิม จงอินเผลอมองร่างบางผ่านทางกระจกอยู่นานจนลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังจะพูดอะไรต่อ ปลายผมข้างหน้าเปียกดูเข้ากันได้ดีกับใบหน้าขาวใสมันทั้งหล่อและน่ารักในเวลาเดียวกัน
“กูขอลาอีกสักสองวันแล้วกันรู้สึกยังไม่โอเค”
“อ่อ..อืมไว้จะบอกป๊าให้ เออใช่ ! ฝากนี่ไปด้วยดิน้องจากโรงเรียนดนตรีฝากเชิญเข้าร่วมอ่ะ” เซฮุนหยุดเดินแล้วหันมายื่นให้อีกคน จงอินหันหลังกลับไปมองแล้วขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“อ่านให้ฟังหน่อย”
“ก็อ่านเองดิ”
“กูไม่ว่างจะล้างหน้า”
เซฮุนจิ๊ปากถอยหลังไปพิงผนังห้องน้ำด้านหลังแล้วยกกระดาษโปรชัวให้ขึ้นมาอยู่ในระดับสายตาก่อนจะอ่านเองในใจหนึ่งรอบแล้วค่อยสรุปให้จงอินฟังอีกที เซฮุนยืนสรุปใจความได้สักพักก็เริ่มพูดรายละเอียดแบบย่อให้จงอินฟังโดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกคนได้เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าแล้ว
“คะแนนทั้งหมดจะนับจาก .....”
เซฮุนเงียบลงทันที่เมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างทิ้งน้ำหนักลงมาที่ไหล่ ร่างบางจึงลดกระดาษที่อ่านอยู่ในมือลงเป็นคิมจงอินนั่นเองที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้มารู้อีกที่ก็มายืนซบไหล่เขาเรียบร้อยแล้ว จงอินใช้แขนหนึ่งข้างวางเท้าเอาไว้บนผนังห้องน้ำ
“มาซบทำไมวะเนี๊ย ถอยออกไปโว้ย !” เซฮุนทำท่าจะโวยวายและผลักจงอินออกแต่ประโยคที่หลุดออกมาจากปากจคนตรงหน้าทำให้เขาชะงัก
“กูแค่รู้สึกปวดหัว .... มึงอ่านช้ากว่านี้ไม่ได้เหรอวะ ?”
“.................. ? ”
“ไม่ได้เจอมึงตั้งหลายวัน คิดถึงชิบหาย...”
“พูดจาขนลุก เอาหน้ามาเช็ดใช่ไหมเนี๊ยเสื้อเปียกหมดและ ..”
“นี่มึงไม่คิดจะซึ้งบ้างเลยเหรอวะ” เงยหน้าขึ้นจากไหล่แล้วพูดอย่างงอนๆ
“มาพูดแบบนี้ในห้องน้ำมันก็หมดอารมณ์ซึ้งหมดดิ”
“งั้นไปที่อื่นกันจะได้ซึ้ง...” ว่าแล้วก็เบียดตัวแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้
“ที่ไหนก็ไม่ซึ้งทั้งนั้นแหละ ถอยไปจะออกไปแล้ว”
“ยอมก็ได้ ไว้พรุ่งนี้เจอกัน” พอแกล้งน้องสมใจอยากแล้วก็ยอมถอยออกมา
“พรุ่งนี้ไม่ว่างมีเรียน”
“กูหมายถึงงานดนตรีของน้องมีมึงบอกอ่ะ”
“อ่ออื้อ ...” แล้วก็รีบเดินออกไปทิ้งให้จงอินยืนยิ้มอยู่คนเดียว
เวลาเซฮุนหน้าแดงมันน่ารักจริงๆนะ ...
การแสดงของนักเรียนมัธยมได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเพราะมันคือการฟรีแล้วนานๆทีมหาวิทยาลัยจะมีแบบนี้ นักศึกษาต่างก็มารวมตัวกันที่ลานกว้างรวมถึงพวกจงอินและเซฮุนกับจื่อเทาด้วย
“พี่เซฮุนนนนนนนนนนนนนนนน!” เสียงของเด็กผู้ชายดังขึ้นพร้อมกับวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าบันไดที่เซฮุนนั่งอยู่
“ว่าไงไอ้เด็กคนนี้”
“ขอบคุณนะครับที่มา พี่น่ารักจังเลยครับ” เด็กน้อยยิ้มจริงใจส่งไปให้
“ต้องหล่อดิ พี่ชอบหล่อมากกว่า”
“แต่ผมว่าพี่เหมาะกันคำว่าน่ารักมากกว่านะครับ”
“ฮ่าๆ ”
เซฮุนหัวเราะจนตาหยีแล้วยีผมแบมแบมเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยวพอเห็นว่าผมน้องเริ่มยุ่งหมดแล้วจื่อเทาก็เลยบอกให้เซฮุนพอเพราะน้องต้องไปแสดงต่อ แบมแบมหันมาขอบคุณพี่ชายสุดหล่อแล้วยักคิ้วให้เซฮุนหนึ่งครั้ง
“เซฮุน เทา !” เสียงแบคฮยอนดังขึ้นทำให้ทั้งสามคนที่คุยกันอยู่หันไปมอง
“หวัดดีครับ ..”
“แล้วเด็กนี่ใครอ่ะ ?”
“สวัสดีครับผมชื่อแบมแบม เป็นนักร้องนำ พี่ชื่ออะไรครับน่ารักมากๆเลย”
“เด็กสมัยนี้มันตาถึงนะ พี่ชื่อแบคฮยอน”
“มึงอย่าไปใกล้มันมาก ระวังโดนแดก” จงอินเสริมขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดัง แบคฮยอนมองตาขวางทันทีแล้วยื่นมือออกไปทำท่าจะตบหัวแต่จงอินเร็วกว่ารีบหลบหลังคยองซู
“อย่าเผลอนะมึง !”
“พวกพี่ตลกจังครับ ได้เวลาที่ผมต้องไปแล้วขอให้สนุกกับการแสดงนะครับ”
“เดี๋ยวๆ มึงมาคุยกับกูหน่อยดิมีไรให้ช่วย”
แล้วจงอินก็ลากแบมแบมให้ออกไปคุยกันสองคนอีกทางทิ้งให้พวกที่เหลือมองตามด้วยความสงสัย แบคฮยอนละความสนใจแล้วหันมาแหย่เทากับเซฮุนเล่นแทน การแสดงเริ่มขึ้นหลังจากนั้นไม่นานเด็กๆเริ่มต้นด้วยเพลงร็อคจังหวะหนักให้ทุกคนในที่นี้ได้โดดดิ้นกันไปตามความมันที่เพิ่มขึ้น จงอิน แบคฮยน คยองซู เซฮุนและจื่อเทายังคงนั่นอยู่ที่เดิมไปได้เข้าไปร่วมด้วยพวกเขาแค่โยกตัวไปตามจังหวะเท่านั้น
“เด็กสมัยนี้เก่งชิบ..” แบคฮยอนพูดพร้อมกับตบมือให้
“เออจริงความสามารถแต่ละคนเป็นศิลปินได้เลย” คยองซูพูดแล้วกระดกโค้กขึ้นดื่ม
“คยองซูขนมหมดพากูไปซื้อหน่อยดิ” แบคฮยอนหันมาสะกิดเพื่อน
“หยุดแดกสักสิบนาทีมันจะตายไหม ? แล้วนี่แฟนมึงไปไหนไม่ชวนมาด้วยวะให้แต่กูจ่าย”
“ก็บอกว่าไม่ใช่แฟนไง ! ไปเป็นเพื่อนกูก็ได้ ใช่ดิมึงมีหนุ่มนิเทศส่งของ อื้อ ...” คยองซูรีบยกมือขึ้นปิดปากแบคฮยอนแล้วตีหน้าผากแรงๆไปหนึ่งที
“จะแดกไม่แดก”
“อื้อๆๆๆ” พยักหน้ารัวแล้วแกะมือคยองซูออก
“กูไปซื้อหนมกับมันแป้บนะมึง อยู่กับน้องเขาไปก่อน เอาไรป่ะ ?”
จงอินพยักหน้าแล้วโบกมือปฏิเสธคยองซูจึงหันไปถามเซฮุนกับจื่อเทาแทน เซฮุนปฏิเสธแต่จื่อเทาขอไปด้วยเพราะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็ยังไม่ได้กินอะไรตอนนี้จึงเหลือแค่จงอินกับเซฮุน มีเพียงจงอินเท่านั้นที่ยังแอบมองเซฮุนอยู่เป็นระยะแต่คนเป็นน้องกลับมองตรงไปข้างหน้าสนใจอยู่กับการแสดงดนตรี
“ครับสำหรับสองเพลงนี้เป็นสองเพลงสุดท้าย ผมขอบคุณพวกพี่ๆมานะครับที่มาในวันนี้รู้สึกเหมือนได้เป็นศิลปินจริงๆเลยครับ สำหรับเพลงนี้มีพี่คนนึงขอให้ผมร้องเพราะเขาอยากจะมอบให้คนที่เขากำลังจีบอยู่”
“วู้วววววววววว เจ๋งว่ะ ใครหว้า !!!!” เสียงตะโกนหลายเสียงดังขึ้นจากกลุ่มผู้ฟัง
“ผมจะไม่บอกใครครับว่าพี่วิศวะเขาอยากมอบเพลงนี้ให้เดือนสถาปัตย์ ไปฟังกันดีกว่าครับ”
พอได้ยินแบมแบมพูดขึ้นเซฮุนก็หันไปมองคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลแล้วก็เจอเข้ากับสายตาของจงอินที่มองมา แล้วความรู้สึกแปลกก็ก่อตัวขึ้นกับทั้งคู่ เกิดอาการพูดไม่ออกบอกไม่ถูกสบตากันได้สักพักก็หันหน้าหนีกันไปคนละทาง
อยากขยับเข้าไปใกล้เธอ อยากรู้จักตั้งแต่ได้เจอ
ใจฉันสั่นเมื่อได้ยินเสียงเธอ ตั้งแต่วันแรกเจอ ก็เผลอเอาไปคิดละเมอ...
พอเพลงเริ่มได้สักพักคิมจงอินก็เริ่มขยับตัวเข้าไปใกล้เซฮุนที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม สายตาของทั้งสองคนยังคงมองตรงไปด้านหน้าแต่ความรู้สึกที่อยู่ข้างในนั้นกลับไปได้อยู่ตรงที่ตัวเองมองสักคน แบมแบมยกนิ้วให้จงอินแล้วส่งยิ้มมาให้นั่นยิ่งทำให้เซฮุนทำอะไรไม่ถูกเพราะตอนนี้กำลังมีบางคนเริ่มมองมาที่เขาสองคน
“ไม่สบายหายแล้วอ่อ ?” เซฮุนเริ่มพูดขึ้นก่อน
“อืมดีขึ้นมากแล้ว เพลงเพราะไหม ?”
“เพราะดิ น้องเขาเล่นดี”
“คือกูต้องพูดป่ะวะว่าไอ้เด็กนั่นมันหมายถึงกูกับมึง”
“ก็บอกมาแล้วนี่ไง”
“เออจริงด้วย ...” จงอินยิ้มแล้วยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองเบาๆหนึ่งที
“หาวิธีจีบที่มันดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือไง อายคนอื่นเขาไหมเนี๊ย !”
“เรื่องอายกูไม่สนกูสนเรื่องมึงเขินมากกว่า ไหนหันหน้ามาให้ดูหน่อยว่าที่ทำไปมันสำเร็จไหม ..” ว่าแล้วก็ใช้สองมือจับหน้าคนร่างบางให้หันมามอง จงอินพยายามจ้องตาอีกคนแต่เซฮุนหลุบตาลงไม่ยอมมองตาเขากลับ
“ไม่เอาไม่มอง !”
“ไม่มองแปลว่ามึงเขิน” คราวนี้ได้ผลเซฮุนยอมมองตาเขาตอบแต่เพียงไม่กี่วินาทีก็หลบตามเดิม มันทำให้จงอินหลุดขำออกมามือหนายอมปล่อยออกจากแก้มนุ่มแล้วเปลี่ยนไปยีผมเล่นอย่างที่ตัวเขาชอบทำ
“บอกว่าอย่ายีผมไงเดี๋ยวไม่หล่อ !”
พอเห็นว่าจงอินกำลังสนุกอยุ่กับการแกล้งเซฮุนก็เลยหวังจะเอาคืนแต่ถ้าให้เล่นหัวคนที่อายุมากกว่าเขาก็คงไม่กล้าจึงทำได้แค่ยื่นหมัดไปต่อยที่แผงอกกว้างแทน จงอินรีบจับข้อมือข้างนั้นเอาไว้แล้วจ้องหน้าเซฮุนอีกครั้ง
“อะไร ..”
“แบมือหน่อยสิ”
เซฮุนยอมทำตามที่จงอินบอกคนเป็นพี่ยังคงจ้องหน้าเขาอยู่อย่างนั้นแต่แววตาที่แสดงออกมามันต่างไปจากตอนแรกตอนนี้มันจริงจังจนทำให้เซฮุนรู้สึกใจเต้นรัว เซฮุนไม่รู้ว่าทำไมถึงยอมอ่อนลงทุกครั้งที่สบตาเข้ากับแววตาคู่นี้ จงอินนำมือของเขาที่จับเอาไว้ไปวางบนหน้าอกข้างซ้ายแล้วร้องเพลงท่อนที่กำลังดังอยู่..
จะเก็บเอาไว้ในวันที่จะเผยใจรอวันนั้น วันที่ฉันแน่ใจ
ว่าวันนี้เธอคิดว่าฉันนั้นใช่และเธอพร้อมจะฟังความข้างใน
จะบอกว่ารักให้เธอได้ยินใกล้ๆบอกความรักเธอได้หรือไม่
ถ้ายังไม่ชัดฟังอีกครั้งก็ได้ได้ยินไหมว่ารักเธอทั้งหัวใจ
“แล้วจีบแบบนี้โอเคไหม ?”
“งั้นๆอ่ะ ....” ตอบหน้ายิ้มแล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากแก้เขิน
“พี่จงอินครับ ผมร้องเพลงตามที่พี่ขอแล้วนะ ...” คราวนี้เป็นเสียงของแบมแบมที่ดังขึ้นพร้อมกับสายตาของคนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามอง
“เห้ย!!! ยังไง สองคนนั้นอ่ะ ฮิ้วววววววไอ้จงอินกูจะสละโสดละเว้ย !!”
“ถึงว่าเดี๋ยวนี้เห็นไอ้จงอินมันอัพไลน์โฮมเสี่ยวแดกทุกวันที่แท้ก็หมายถึงน้องเซฮุนนี่เอง”
“ไอ้จงอินคาบน้องน่ารักของกูไปแดกได้ไง ไอ้มืดเอ้ย !!!”
เสียงตอบรับมีทั้งด่าและแซวในเวลาเดียวกันแต่ที่มันน่าแปลกใจก็คือส่วนใหญ่เป็นเสียงผู้ชายทั้งนั้นมีผู้หญิงกรีดร้องขึ้นมาบ้างนิดหน่อย นึกขอบคุณเด็กแบมแบมที่พูดออกไมค์เสียงดังจะได้ประกาศกันให้รู้ไปเลยว่าเขากำลังจีบโอเซฮุนอยู่และใครก็ห้ามยุ่งทั้งนั้น
เห็นไหมเซฮุนไม่ยอมดึงมือออกด้วย กูอยากอวด..
วันนี้แบคฮยอนไม่ได้ไปไหนหลังจากเลิกเรียนเพราะต้องมาหาข้อมูลที่ห้องสมุดเขาก็เลยชวนลู่หานมาด้วยส่วนคยองซูก็คงจะไปเดทและจงอินก็ไปที่ร้านบะหมี่เหมือนเดิม
“อ่ะ..เอาไว้อ่านแก้เบื่อ” แบคฮยอนส่งหนังสือให้ลู่หานที่นอนฟุบหน้าอยู่บนโต๊ะ
“ไม่อ่านอ่ะพี่นอนมองหน้าเราแบบนี้ดีกว่า”
“อย่าให้ได้ยินว่าเบื่อแล้วกัน”
เวลาผ่านไปกว่าสิบนาทีตอนนี้แบคฮยอนกำลังเขียนข้อมูลลงในกระดาษที่เตรียมมาส่วนลู่หานก็ยังนอนมองหน้าเขาอยู่แบบนั้น
“แบคฮยอนแม่เลี้ยงด้วยอะไรทำไมน่ารักแบบนี้”
“อย่ากวนหน่า ...”
“ไหนดูแก้มดินิ่มแบบตูดเด็กหรือเปล่า” ว่าแล้วก็บีบแก้มคนตัวเล็กเล่น
“ก็บอกว่าอย่ากวนไง ว่างมากก็นอนไปเลย” บอกโดนดุลู่หานก็ทำหน้างอยอมนอนดูเฉยๆตามเดิม
คราวนี้คนข้างๆเงียบหายไปจนแบคฮยอนรู้สึกแปลกละสายตาจากหนังสือแล้วมองดูคนข้างกาย ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าลู่หานได้หลับสนิทไปเรียบร้อยแล้วคราวนี้ก็เลยสลับกันเป็นแบคฮยอนเป็นฝ่ายมองบ้าง คนตัวเล็กใช้นิ้วจิ้มแก้มลู่หานเล่นแล้วยิ้มออกมา
“ก็ไหนว่าจะนั่งมองไงแค่นี้ก็หลับซะแล้ว ลู่หานนี่มันลู่หานจริงๆ”
______________________________________
เสี่ยวแดกมันทุกคู่จะอ้วกละ
5555555555555555555555555555555555555555555555555
#ฟิคคนแมน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น่ารักอ้ะะะะะะเขินแทนมากเลยจุดนี้
ประกาศตัวเลยนะว่าจีบน้องฮุนอยู่
จีบแบบนี้ไม่เขินก็แย่ละคะพี่จงอินนน
เหมือนทุกคนเป็นใจให้อยู่กันสองคน อิพี่ก็รุกน้องใหญ่ จีบแบบต่อหน้าประชาชีแบบนี้น้องเขินแย่เลย
555555555555555555555555555555555
ทำดีลูก ทำดี
น้องงุนหวั่นไหวแล้วอ่ะ ทั้งคราวนู้นที่หน้าแดงในห้องน้ำ
มาตอนนี้อีก ไม่ดึงมีออกด้วย พี่จงอินอวดดดดดดด 5555
พี่ลู่ก็น้อยหน้าที่ไหน แม่เลี้ยงด้วยอะไร จ้า ไม่ค่อยเลย
นี้ยิ้มปวดแก้มมากเลยนะ งือออออออ
ไม่รู้ว่าคนน้องเค้าคิดถึงรึป่าวนะ แต่เค้าเหม่อๆลอยๆแหละ
เค้าเรียกว่าไร เป็นห่วงงี้ป่ะ อิอิอิอิ
แมนชิเหยยยย 555555