ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ◤ L i g h t l e s s ・・・ ◢

    ลำดับตอนที่ #3 : ✈ i n t r o ~ B e f o r e T h e B l a c k o u t´

    • อัปเดตล่าสุด 10 ธ.ค. 53


     

     beyo ng

     i want to know the meaning of life

    so, i am gonna find the answers

     

     

    INTRO

    “ Before the Blackout ”

     

     

     

     

     

     

     

    ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเพียงเด็กสาววัยรุ่นธรรมดาอายุย่างยี่สิบสองปี สิ่งหนึ่งที่จางมีโซแตกต่างจากวัยรุ่นคนอื่นๆ คืออิสระทางความคิดที่เธอเองก็กล้ายอมรับได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า เธอคิดไม่เคยจะเหมือนคนอื่น

     

    สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ที่ร่ำเรียนมาตลอดสองปีตามคำแนะนำของครอบครัวก็ช่างน่าเบื่อสิ้นดี! ขอพูดตรงนี้เลยได้มั้ยว่ามันไม่สนุกเอาเสียเลย! วิชาคำนวณตัวเลขบ้าบอที่เธอแสนจะเกลียด กับหลักวิชาสังคมอะไรก็ไม่รู้ สมัยเรียนมัธยมก็พอจะไปรอดอยู่หรอก แต่เมื่อได้มาเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้วเจอมันทุกวี่ทุกวันแบบนี้ถ้าจะไม่เกลียดก็คงแปลก ขนาดตอนนอนยังแทบจะหลับฝันเป็นวิชาเศรษฐศาสตร์ร้อยแปดพันอย่าง ทรมานเป็นบ้า!!

     

     

    หนูจะลาออก

    ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากทางบ้านเหลือคณา เจ้าตัวตั้งมั่นในคำพูดของตัวเองอย่างแน่วแน่ แม้จะถูกพูดจาชักแม่น้ำทั้งห้าถึงอนาคตที่มั่นคงกับการจบมาช่วยทำธุรกิจทางบ้าน แต่สิ่งที่มีโซต้องการนั้นไม่ใช่อนาคตที่มั่นคง เธอต้องการอนาคตที่มีความสุขเสียมากกว่า

     

    เดินหน้าลาออก บอกลาเพื่อนร่วมคณะที่อาจจะไม่ได้พบเจอกันอีก แม้ว่าบางคนจะคุ้มค่ากับการไม่ต้องเจอหน้าไปตลอดกาลเลยก็ตามที ผู้หญิงอารมณ์ดีแม้ว่าจะเดาใจไม่ถูกไปบ้าง หากเมื่อมีโซจะย้ายออกไป ใครต่อใครก็พากันคร่ำครวญ ถึงจะเป็นคำพูดประเภทที่ว่า ไม่มีเธอแล้วทุกอย่างคงกลับมาสู่สามัญ หรือ ฉันคงจะคิดถึงเสียงหัวเราะโลกแตกของเธอ แต่นั่นก็เป็นความรู้สึกที่ดีและคุ้นเคยไม่ใช่น้อย

     

     

     

    ขนเสื้อผ้าและสิ่งของเครื่องใข้ที่จำเป็นแต่ไม่มากมายนักลงไปในกระเป๋าเดินทางลายสก็อตสีน้ำตาลอันเป็นเอกลักษณ์ที่คุ้นตาของแบรนด์ Burberry แม่ยืนกอดอกพิงกำแพงข้างประตูห้องมองดูเธอเก็บข้าวของยัดลงไปในกระเป๋าอย่างไม่ค่อยจะเป็นระเบียบเท่าใดนัก

     

    แล้วนี่จะไปไหน...ไปคนเดียวจะไปได้ยังไง?

     

    โธ่~ แม่ ออกแรงรูดซิปปิดกระเป๋าที่เริ่มจะตุงขึ้นมาด้วยของภายใน ใช้ความพยายามนิดหน่อยก่อนหันไปสบตาตอบคำถามกับคนเป็นแม่ หนูก็แค่เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วเอง ไม่ต้องกลัวหรอกน่า

     

    พูดได้ง่ายก็จริง แต่ไม่ว่าแม่ของใครก็ล้วนแล้วแต่เป็นห่วงลูกสาวด้วยกันทั้งนั้นแหละ! ถึงลูกสาวจะทำตัวห้าวหาญเสียแค่ไหนก็ตามทีเถอะนะ

     

    ถ้าแกถูกจับไปแล้วฉันจะทำยังไง?

    พูดอะไรเป็นลางแบบนี้ไม่ดีนะแม่ หนูบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรจริงๆ สิ หนูจะไปลอนดอน

     

    ได้ยินชื่อเมืองอันเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของลูกสาวก็ค่อยถอนหายใจออกมาได้สะดวกหน่อย อย่างน้อยก็ยังดีที่เป็นลอนดอน ไม่ใช่ประเทศที่มีเปอร์เซ็นต์อาชญากรสูงลิบลิ่วหรือประเทศที่ทุรกันดารแบบที่คิดว่าลูกสาวตัวดีน่าจะสนใจ

     

    อย่างน้อยจางมีโซของเธอก็ยังคงเป็นเด็กสาววัยรุ่นเหมือนคนอื่นทั่วไปที่สนใจเมืองผู้ดีเช่นนี้แหละนะ

     

    จะไปอยู่นานเท่าไหร่

     

    เอื้อมมือจนสุดไปหยิบปฏิทินตั้งโต๊ะที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมาดู รอยขีดเขียนเต็มปฏิทินลายการ์ตูนสีสันสดใสบอกชัดถึงกำหนดการต่างๆ ที่มีโซได้วางแผนไว้ก่อนจะออกเดินทาง ยื่นมันส่งให้กับแม่ ที่ถึงกับทำตาโตเมื่อเปิดทุกหน้าของปฏิทินแล้วพบว่าแผนการตลอดหนึ่งปีนี้ คนเป็นลูกสาวไม่มีความตั้งใจจะบินกลับมาที่เกาหลีเลยแม้แต่น้อย!

     

    หนูว่าจะเดินทางรอบโลก คำพูดที่หนักแน่นพร้อมประกายตาที่สดใสทำให้คนเป็นแม่พูดอะไรไม่ออก

     

    บางทีเธอควรจะภูมิใจใช่มั้ยที่ลูกสาวไม่เอาไหนนึกอยากจะทำอะไรเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาเช่นนี้...

     

    แม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูมีเงินเก็บมากพอ จะไม่รบกวนแม่เลยสักวอนเดียว

    ต้องขอขอบคุณทั้งพ่อและแม่ที่จ้ำจี้จ้ำไชบังคับให้เธอฝากเงินในธนาคารทุกเดือนๆ ตั้งแต่ยังเด็กไม่รู้เรื่องรู้ราวนั่นล่ะ ตอนนี้เงินเก็บเธอก็มีมากพอจะตะลอนทัวร์ท่องเที่ยวไปรอบโลกโดยไม่ต้องรบกวนคนทางบ้านเป็นปีๆ

     

    ไหนๆ มีโซก็ไม่รู้ว่าจะเอาเงินมากมายขนาดนี้ไปลงทุนทำอะไรในอนาคตอยู่แล้ว ในเมื่อเป้าหมายชีวิตตอนนี้ของเธอคือการเดินทางรอบโลก เอามันออกมาใช้ให้หมดไปเลยก็ไม่จำเป็นต้องเสียดายสักนิด

     

    ความมุ่งมั่นทำให้แม่เธอยิ้มออกมาขณะเดินไปวางปฏิทินลงบนโต๊ะดังเดิม

     

    ฉันจะรอดูสิว่าแกจะไปได้สักกี่น้ำ น้ำเสียงติดตลกเรียกเสียงหัวเราะจากลูกสาว ก่อนที่แม่จะปิดประตูเดินออกไปจากห้องนอนสีขาวที่โล่งสะอาดตา และอีกไม่นาน...มันก็คงจะโล่งกว่านี้เมื่อเจ้าของห้องไม่อยู่แล้ว มีโซถอนหายใจล้มตัวลงนอนข้างกระเป๋าเดินทางที่กินพื้นที่ครึ่งหนึ่งบนเตียงขนาดเล็กของเธอ

     

     

     

    การเรียนรู้เฉพาะในห้องเรียนอันน่าอึดอัดนั้นไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของมีโซ และเธอก็เชื่อว่าไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตของใคร! การเรียนรู้มันน่าจะอยู่ภายใต้โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลใบนี้ไม่ใช่เหรอ ?

     

    มีโซก็แค่อยากจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว...ชีวิตของเธอต้องการอะไรกันแน่

     

    เธอเชื่อว่าการเดินทางท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตาไปทั่วโลกเช่นนี้จะทำให้ตัวเองรู้จักโลกและมีประสบการณ์มากขึ้น และบางทีเธออาจจะได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ ก็เป็นได้...

     

     

    คิดได้อย่างนั้น ก็หลับตาลงวาดฝันถึงการเดินทางที่เคลื่อนใกล้เข้ามาทุกวินาที 

     

     

     

     

     

     

    Lightless

    » to be continued…

     

     

     

     

     

     

     


    LOVELESS:’{ LIGHTLESS

    อย่างกับฟิคท่องเที่ยวไม่ใช่เรื่องรักดราม่าในวงการแฟชั่นดีไซเนอร์แป๊ะอะไรเลย เอิ่ม..นะ ~

    จริงๆ แต่งไว้อีกแบบประมาณว่าเอาตอนจบมาลงอินโทรเลยนะ แต่ไม่เอาดีกว่าไม่เวิร์คจริงอะไรจริง เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์

    อ่านเอาเพลินไปก่อนอินโทรนี้ อย่าคิดอะไรมากขำๆ * แต่ชอบมีโซจัง น่ารักส่วนตัวรักนะเธอ <3

    มันอาจไม่มีอะไรเลยในอินโทรนี้ ขอยืมคำน้องจี ข้ามอินโทรไปยังอ่านเนื้อเรื่องรู้เลยเลยเอ้า ,บอกกันอย่างจริงจัง

    อินโทรที่สั้นบรรลัย แต่งจบได้ภายในสี่ชั่วโมง ตอนที่หนึ่งไม่รู้ตามบุญตามกรรม มูนไลท์ก็ยังไม่ได้ขึ้นตอนสามเลยเหอะ..

    และอย่าลืมนะ ตัวละครทุกตัวไม่ได้ออกพร้อมกันหมด บางคนอาจมาตอนกลางๆ เรื่องนู่นล่ะจ่ะ

    ถ้าใครจะมาเม้นเมื่อตอนตัวเองออกมาก็ตามสบายเลยจ่ะ อัพทูยูนะจ่ะมายเกิร์ล

    ดู sme ตีแตกเมื่อกี้ .. อยากกินมองต์บลังค์อ่า -3- ใครคิดจะมาเชียงใหม่บอกนะจะพาไปเลี้ยง ;’} คิ *

    * I Love You The Most J

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×