คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER VII
Chapter VII
‘พระผู้เป็นเจ้า...ข้ามีเรื่องจะมีทูลท่าน’
‘มีอะไรจะพูดกับเรางั้นฤา? มิคาเอล’
‘ลูซิเฟอร์แสงสว่างแห่งบนวิมาน...กำลังก่อกบฏเพื่อโค่นล้มท่าน
หาย...
คริสหายไปอีกแล้ว...
ลู่ฮานวางโพสอิทที่ถูกแปะตรงตู้เย็นลงกับโต๊ะ ทุกอย่างในบ้านหลังนี้เงียบสงบ ใช่...ลู่ฮานอยู่ตัวคนเดียวมาเป็นช่วงเวลาใหญ่ๆ ได้สักพักหนึ่งแล้ว ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาคริสมักหายไปบ่อยจนเขาเริ่มสงสัย หากสุดท้ายลู่ฮานก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เหตุผลส่วนใหญ่มักจะถูกอ้างโดยเรื่องงาน เมื่อโทรไปก็มักไม่มีสัญญาณตอบรับ มีเพียงจดหมายสองสามฉบับที่ถูกส่งมาเท่านั้น นอกใจ? คำๆ นี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของลู่ฮาน แต่...น่าประหลาดที่เขาไม่ได้รู้สึกแย่อย่างที่ควรเป็น หรือในทางกลับกัน ลู่ฮานกำลังพึงพอใจที่มันเป็นแบบนี้ เพราะ...ในตอนนี้ชีวิตของลู่ฮานมีเซฮุนเข้ามา เซฮุนเริ่มเข้าหาลู่ฮานมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยเจอกันสัปดาห์ละสองครั้งแต่ในตอนนี้กลับกลายเป็นแทบทุกวัน และนั่นก็ทำให้ลู่ฮานมีความสุขไม่ใช่น้อย
ใช่...ลู่ฮานมีความสุขเมื่อมีเซฮุนอยู่ด้วย
ลู่ฮานยอมรับว่ารู้สึกดีกับเซฮุน เซฮุนทำให้ลู่ฮานยิ้ม เซฮุนรู้ว่าลู่ฮานชอบและไม่ชอบอะไร เซฮุนรู้ว่าลู่ฮานชอบไปเที่ยวที่ไหน และในบางที ดูเหมือนว่าเซฮุนจะรู้จักลู่ฮานมากกว่าคริสเสียด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นมันทำให้ลู่ฮานอดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากเขาได้เจอเซฮุนก่อนคริส...บางที...แต่ไม่... ลู่ฮานหยุดความคิดไว้แค่นั้น นี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรนึกถึง ในตอนนี้คริสยังคงเป็นคนรักของเขา นี่มันผิด ใช่...มันกำลังผิด มันเหมือนกับว่าลู่ฮานคิดที่จะนอกใจคนรักของตัวเอง ว่าแต่...นอกใจ? คำๆ นี้ที่ลู่ฮานมักจะเห็นมันโผล่ไปเป็นตัวแกนสำคัญในปัญหาของคู่รัก ซึ่งในปกติแล้วเขาควรที่จะหยุดทุกอย่างไว้ตรงนี้ แต่ถ้า...ถ้าเขาไม่ได้รัก...
ออด...
เสียงกดกริ่งดังขึ้นพร้อมกับความคิดที่ขาดสะบั้นลง ลู่ฮานสะบัดหัวเล็กน้อย สลัดความคิดเมื่อครู่ออกจากสมอง วันนี้เป็นวันหยุด ลู่ฮานเหลือบมองนาฬิกา บ่ายโมง...ลู่ฮานอมยิ้ม เวลาเดิมแบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้ ลู่ฮานเดินไปทางประตูอย่างไม่รีบร้อนนัก แน่นอนว่าเขารู้ดีว่าใครยืนอยู่ตรงข้างหลังประตูบานนี้ ทันทีที่ประตูได้เปิดขึ้น ลู่ฮานพบว่าการคาดเดาของเขานั้นได้ถูกต้องอีกครั้ง
นั่นคือเซฮุน...
เซฮุนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา
เซฮุนใส่เสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงยีนส์สีดำสนิทเช่นเคย ทว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปคือดวงตาสีเทาในวันวาน ในวันนี้ได้กลับกลายเป็นสีดำสนิทเหมือนเดิม ลู่ฮานยิ้ม เช่นเดียวกับเซฮุนที่ยิ้มกลับมา พวกเขาทั้งสองคนเดินไปพร้อมกันโดยไร้คำพูดใดๆ เซฮุนกับลู่ฮานแค่เดินไปด้วยกัน ขาทั้งสองข้างพากันก้าวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผ่านไปสักพัก เซฮุนเป็นฝ่ายหยุดเดินก่อน หันหน้ามาหาคนที่ตัวเล็กกว่า
“นี่เราจะไปไหนกัน?”
ลู่ฮานส่ายหน้าแทนคำตอบ เซฮุนทำท่าครุ่นคิดอยู่เพียงครู่ก่อนที่จะฉีกยิ้มกว้าง
“ไปที่นี่กันดีกว่า”
-
“สวนสนุก?”
ลู่ฮานถามขึ้นเมื่อตอนนี้พวกเขาได้มายืนตรงสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คน เสียงจอแจจากเด็กเล็กดังไปทั่ว รอบด้านเต็มไปด้วยบอลลูนหลากสีสัน ตัวตลกที่คอยแจกขนมให้แก่เด็กตัวเล็กๆ และการต่อคิวแถวยาวเหยียดตามเครื่องเล่น ลู่ฮานลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นรถไฟเหาะ ใช่...เขากลัวพวกเครื่องเล่นหวาดเสียว ลู่ฮานเงยหน้าขึ้น ดึงชายเสื้อของเซฮุนเบาๆ เป็นนัยให้เดินไปทางอื่น เซฮุนเลิกคิ้ว ต่อมาก็หัวเราะในลำคอ “อ่าใช่ คุณกลัวเครื่องเล่นพวกนี้นี่หน่า”
อีกแล้ว...
เซฮุนรู้ความลับของลู่ฮานอีกแล้ว
ลู่ฮานขมวดคิ้ว พยายามนึกว่าเขาเคยรู้จักเซฮุนมาก่อนหรือไม่...แต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะว่างเปล่า มันว่างเปล่า ทว่าในความว่างเปล่านั้นกลับมีความคุ้นเคย มันแปลก...ลู่ฮานรู้สึกคุ้นเคยกับเซฮุน ลู่ฮานรู้สึกคุ้นเคยกับคนที่อยู่ข้างๆ เขาในตอนนี้
“นายเคยรู้จักฉันมาก่อนไหม?” ลู่ฮานถามขึ้นระหว่างที่เดินตามเซฮุนที่กำลังก้าวไปอีกทาง เซฮุนชะงักไปเพียงครู่ “อ่า...ก็ประมานนั้นนะ”
“นายรู้จักฉันตอนไหน?” ลู่ฮานถามต่อ “เมื่อไหร่ด้วย?”
“ความลับ” เซฮุนยิ้มกวน ไม่ยอมตอบคนตรงหน้า ลู่ฮานถอนหายใจ ไม่คิดที่จะถามอะไรต่อ ได้แต่เดินตามเซฮุนที่จับข้อมือของเขา เซฮุนเดินไปหยุดหน้าเครื่องเล่นชนิดหนึ่ง ถ้วยหมุน? ลู่ฮานเงยหน้ามองเซฮุน ส่งสายตาคำถาม “นี่มันเครื่องเล่นเด็กไม่ใช่หรือไง?”
“แต่อย่างน้อยมันก็ไม่สูง?” เซฮุนย้อน ลู่ฮานตีหน้ายู่ แต่สุดท้ายก็ยอมไปนั่งในถ้วยเล่นแต่โดยดี เซฮุนหัวเราะกับการทำนั้น ถ้วยเริ่มหมุนไปรอบๆ จากความเร็วที่เชื่องช้าจนกระทั่งเร็วขึ้น เซฮุนกับลู่ฮานมองไปรอบข้าง พบว่ามีแต่เพียงเด็กเล็กๆ เท่านั้นที่อยู่รอบๆ พวกเขา พวกเขาทั้งสองคนจ้องหน้ากันอยู่เพียงครู่ สุดท้ายก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
-
“ฉันเหนื่อยแล้ว”
ลู่ฮานพูดขึ้นหลังจากที่พวกเขาทั้งสองคนได้ไปตะลุยเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกแทบทั้งหมด (ยกเว้นพวกเครื่องเล่นหวาดเสียวที่ลู่ฮานกลัว) ในตอนนี้มีไอศกรีมโคนรสช็อกโกแลตอยู่ในมือของเซฮุนกับลู่ฮาน
“งั้นไปชิงช้าสวรรค์ไหม?”
เซฮุนถามขึ้น พยักพเยิดหน้าไปทางด้านชิงช้าสวรรค์ที่ในตอนนี้เริ่มเปิดไฟที่ประดับตกแต่งไว้ เนื่องจากในตอนนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงพลบเย็น
“อืม” ลู่ฮานขานรับ เดินนำหน้าเซฮุน โชคดีที่แถวไม่ยาวอย่างที่คิดเมื่อมาถึง ลู่ฮานกับเซฮุนเข้าไปนั่งด้านใน ตัวกระเช้าเริ่มออกเคลื่อนขึ้นสูงขึ้น ลู่ฮานมองวิวทิวทัศน์ด้านนอกที่เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นผู้คนเหมือนมดตัวเล็กๆ แสงไฟที่เริ่มเปิดในเวลาช่วงค่ำนั้นสว่างไปทั่วสวนสนุก แสงหลากสีส่องระยิบระยับไปทั่วบริเวณหลังคาของเครื่องเล่น ลู่ฮานยอมรับว่ามันสวยมาก
“ดูนั่นสิ” ลู่ฮานเหลือบมามองยังเซฮุนก่อนที่จะชี้นิ้วออกไปยังม้าหมุนที่ในตอนนี้เหมือนวงกลมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยแสงสี และอีกตามเคย เซฮุนยังคงจ้องหน้าลู่ฮานเหมือนตอนที่นั่งรถไฟในวันนั้น
“หน้าฉันมีอะไรติดหรือไง?” ลู่ฮานถามขึ้น มองตรงไปยังเซฮุนที่ยังคงยิ้มกวนประสาท
“เปล่าหรอก” เซฮุนยังคงมองมาที่ลู่ฮานเหมือนเคย “ผมแค่นึกถึงเรื่องเก่าๆ”
‘เซฮุน...ไปขึ้นชิงช้าสวรรค์กันเถอะ’
‘อย่าวิ่งสิ เดี๋ยวก็ล้มหรอก’
เซฮุนหลับตาลงอยู่เพียงครู่ ภาพในอดีตเริ่มซ้อนทับกับปัจจุบัน ภาพของลู่ฮานที่ชวนเขาขึ้นชิงช้าสวรรค์ ภาพรอยยิ้มอันสดใสของลู่ฮานที่เคยเป็นของเขาคนเดียว ภาพของลู่ฮานที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาเหมือนกับในตอนนี้ ความทรงจำอีกหลายอย่างที่เซฮุนยังคงจำมันได้อย่างขึ้นใจ
“เช่น?” ลู่ฮานถามต่ออย่างนึกสงสัย ประโยคนั้นทำให้เซฮุนหลุดจากภวังค์
‘เซฮุน...เซฮุนนา’
ทว่าภาพในอดีตยังคงติดอยู่ในหัว เซฮุนสลัดหัวเบาๆ เพื่อไล่ภาพนั้นออกไป แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผล มันไม่เคยได้ผล เซฮุนไม่เคยลบลู่ฮานออกไปจากหัวของเขาได้
“เช่นอะไรบ้าง?” ลู่ฮานถามย้ำเมื่อเซฮุนยังคงนั่งนิ่ง ไม่ยอมตอบคำถาม
‘เซฮุนนา...นายชอบฉันไหม?’
“ผมชอบคุณ” เซฮุนตอบไม่ตรงคำถาม ลู่ฮานชะงักไปเพียงครู่ รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ พยายามหาทีท่าล้อเล่นจากคนตรงหน้า แต่ไม่...แววตาของเซฮุนในตอนนี้เต็มไปด้วยความจริงจัง มันเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ลู่ฮานยังคงจ้องไปที่เซฮุน พยายามหาบางสิ่งที่ซ่อนไว้อยู่ภายในดวงตาคู่นั้น
“ลงกันเถอะ” เซฮุนบอกปัด หลบตาลู่ฮาน เปิดประตูกระเช้าออกเมื่อมันได้ลงมาถึงพื้นพอดี ลู่ฮานมองแผ่นหลังของเซฮุนที่เริ่มเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ขาทั้งสองข้างรีบก้าวไปยังเซฮุน มือกระตุกชายเสื้อของอีกคนเบาๆ เซฮุนหยุดเดิน หันมามองลู่ฮาน ยิ้มให้เหมือนทุกทีที่ได้พบกัน ยิ้มที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน ความอบอุ่นที่ลู่ฮานได้รับเสมอเมื่อเขาได้เจอกับเซฮุน
ลู่ฮานคิดว่าเขาคงโกหกความรู้สึกตัวเองไม่ได้อีกต่อไป
“ฉันเอง...”
ใช่...เขาคงหลอกตัวเองไม่ได้อีกแล้ว
“ฉันเองก็ชอบนาย”
-
สายลมเย็นอ่อนๆ ในตอนกลางคืนพัดเข้ามาตีหน้าของพวกเขาทั้งสองคน ลู่ฮานกับเซฮุนนั่งอยู่ที่ม้านั่งแห่งหนึ่งในใจกลางสวนสาธารณะที่แทบไร้ผู้คนในตอนนี้ บรรยากาศทุกอย่างเงียบเชียบ มีเพียงแต่เสียงใบไม้ปลิวไปตามแรงพัดพาของลม ทว่าท่ามกลางความเงียบงันมันกลับไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิด มือของพวกเขาทั้งสองคนกำลังกุมกันอยู่ และยิ่งเซฮุนกระชับมือของลู่ฮานให้แน่นมากเพียงใด...ลู่ฮานก็จะยิ่งกระชับมือของตนให้แน่นขึ้นมากเท่านั้น
“คุณโอเคไหม?”
เซฮุนเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่ไม่มีใครปริปากอะไรออกมาตั้งแต่ที่มาถึง ลู่ฮานอมยิ้มบางๆ “ฉันโอเค” ลู่ฮานตอบ เอนหัวลงซบไหล่ของเซฮุน
“แล้ว...แฟนของคุณ?” เซฮุนถามต่อด้วยคำถามที่ใช้น้ำเสียงเบาลงอย่างเห็นได้ชัด “คุณไม่เป็นไรแน่นะ?” เซฮุนกระชับมือของลู่ฮานให้แน่นขึ้นอีกจนกระทั่งลู่ฮานรู้สึกได้ถึงเหงื่อและความชื้น “ถ้าคุณไม่สบายใจ...ผมยินดี…”
“เงียบเลย” ลู่ฮานว่า ใช้นิ้วชี้ของด้านมือที่ไม่ได้ถูกกุมอยู่แต่ไปที่ริมฝีปากปากของเซฮุนเบาๆ เป็นเชิงให้อีกคนเงียบลง “ฉันต่างหากที่ต้องถามนายว่าโอเคไหม...ฉันกำลังทำให้นายเหมือนเป็นชู้”
“ชู้?” เซฮุนทวนคำพูดของลู่ฮานพลางหัวเราะ “อ่า...ให้ตายสิ ผมกลายเป็นชู้ไปแล้วสินะ”
“มันไม่ตลกเลยนะเซฮุน...มันแย่” ลู่ฮานว่าด้วยน้ำเสียงจริงจัง สีหน้ารู้สึกผิดของลู่ฮานทำให้เซฮุนหยุดหัวเราะ “ฉันมันแย่...ฉันมันนิสัยไม่ดี”
“ชู่ว์” กลับกลายเป็นว่าเซฮุนที่เอานิ้วชี้ของตนไปแตะที่ริมฝีปากของลู่ฮานเสียเอง “คุณไม่ได้ผิดเลย อย่าโทษตัวเอง...นะ?” เซฮุนยิ้มบางๆ ให้กับลู่ฮาน
“ฉัน...” ลู่ฮานกัดปากอย่างชั่งใจอยู่เพียงครู่ “ฉันแค่รู้สึกว่าฉันไม่ได้รักคริสอีกแล้ว”
“…”
“คริสไม่ค่อยอยู่กับฉันมากเท่าไหร่นักในช่วงนี้ แต่นายรู้ไหม เวลาที่เขากลับมาหา ฉันควรมีความสุข รีบเข้าไปกอดเขาแล้วบอกว่าคิดถึงเขามากแค่ไหน แต่ไม่...สุดท้ายสิ่งที่ฉันรู้สึกคือความเฉยชา ไม่มีความรู้สึกอะไรที่มากกว่านั้น”
“…”
“มันเหมือนกับ...ที่ฉันยังคงอยู่ เพราะว่ามันเป็นแค่เพียงความเคยชิน ฉันรู้จักกับคริสตั้งแต่ฉันยังเรียนอยู่ แต่ในตอนนี้มันเหมือนกับว่าฉันกำลังหลอกตัวเอง ฉันกำลังหลอกคริส ฉันกำลังหลอกนาย หลอกนายให้มาพัวพันกับสถานะงี่เง่าแบบนี้”
“ฉันมันแย่” ลู่ฮานพูดประโยคเดิมอีกครั้ง “ฉันควรที่จะเลิกยุ่งกับนาย แต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะทำแบบนั้น” ลู่ฮานพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นขึ้น ทว่าสัมผัสต่อมาที่ลู่ฮานรับรู้คือมืออีกข้างของเซฮุนที่กำลังลูบศีรษะเขาเบาๆ อย่างอ่อนโยน ส่วนมืออีกข้างก็จับกระชับมือของเขาให้แน่นขึ้น สัมผัสที่อบอุ่นจากเซฮุนทำให้ลู่ฮานรู้สึกสงบอีกครั้ง
“อย่าโทษตัวเองแบบนั้นเลยนะลู่ฮาน”
“…”
“ผมต่างหากหล่ะที่ผิด ผมมันแย่กว่าคุณเป็นสิบเท่า”
“…”
“เพราะฉะนั้น...ไม่มีอะไรที่คุณต้องโทษตัวเองหรอกนะ” เซฮุนลูบกลุ่มผมนิ่มของลู่ฮานที่ยังคงซบอยู่กับไหล่ของเขาเบาๆ “คุณไม่เคยแย่...อย่างน้อยก็ในสายตาของผม” เซฮุนยิ้มบางๆ เมื่อลู่ฮานช้อนตาขึ้นมามองเขา รอฟังประโยคจากเซฮุนที่ทำให้หัวใจของลู่ฮานเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง
“คุณยังคงน่ารักมากที่สุดในสายตาของผม”
-
“ผมอาจจะไม่อยู่สักพัก”
เซฮุนเอ่ยขึ้นเมื่อเขาพาลู่ฮานมาส่งที่บ้าน “ไปไหน?” นั่นคือคำถามที่ลู่ฮานถามต่อมา “ฉันไม่อยากให้นายไปเลย” ลู่ฮานจับชายเสื้อของเซฮุนไว้เหมือนเด็กยามที่ต้องการที่พึ่ง “นายจะไปนานไหม?” กริยาและคำพูดที่แสนน่ารักของลู่ฮานทำให้เซฮุนยิ้มออกมา
“ไม่นานหรอก” เซฮุนขยี้ผมของลู่ฮานจนไม่เป็นทรงอีกครั้ง “อย่างอแงหล่ะ”
ลู่ฮานนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก้มหน้างุดมองลงกับพื้น แต่สุดท้ายก็ยอมเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเซฮุนอีกครั้ง “นายจะกลับมา...ใช่ไหม?”
“กลับสิ ไม่มากวนประสาทคุณคงน่าเบื่อแย่” เซฮุนหัวเราะในลำคอเมื่อลู่ฮานส่งสายตาค้อนวงใหญ่ๆ มาทางเขา “โอเค...งั้นผมไปแล้วนะ” เซฮุนว่าก่อนที่จะยกมือขึ้นเพื่อโบกมือลาลู่ฮาน เดินไปยังอีกทาง ลู่ฮานยืนนิ่งอยู่เพียงครู่ สุดท้ายก็ตัดสินใจตะโกนถามเซฮุนที่เริ่มเดินไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
“แล้วฉันโทรหานายได้ไหม?”
มันเป็นคำถามที่งี่เง่าที่สุดเท่าที่ลู่ฮานเคยคิดว่าเขาเคยเปล่งมันออกมา แต่ก็นั่นหล่ะ...เขาก็แค่อยากถ่วงเวลาที่จะอยู่กับเซฮุนให้มันนานมากกว่านี้ เซฮุนหยุดเดิน หันหน้ามาทางลู่ฮาน
“พอดีว่าโทรศัพท์มือถือของผมพังหน่ะ” คำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้สีหน้าของลู่ฮานสลดลงอย่างเห็นได้ชัด “เชื่อผมสิ ยังไงผมก็ต้องกลับมาหาคุณอยู่แล้ว” เซฮุนยิ้ม
ประโยคต่อมาที่แสนเรียบง่ายของเซฮุนทำให้ลู่ฮานยิ้มอีกครั้ง
“ผมสัญญา”
-
สองสัปดาห์ผ่านไป ลู่ฮานไม่ได้ติดต่อเซฮุน ไม่ใช่เพราะว่าไม่อยากติดต่อ แต่เพียงเพราะว่าลู่ฮานไม่สามารถติดต่อเซฮุนได้ น่าเบื่อ นั่นคือสิ่งที่ลู่ฮานพบว่ามันอยู่ในชีวิตประจำวันของเขาแทบทุกวัน ถึงแม้ว่าคริสจะกลับมาอยู่กับเขาในช่วงเวลาหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้ลู่ฮานมีความสุข เพราะในตอนนี้สิ่งเหล่านั้นถูกแทนที่ด้วยความเฉยชาเกือบทั้งหมด ลู่ฮานแค่ปล่อยให้วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพบว่าเขาได้กลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง
ออด...
เสียงกดออดดังขึ้น ลู่ฮานรีบลุกไปเปิดประตูเหมือนทุกทีที่เขาได้ทำมาตลอดสองสัปดาห์ แต่สุดท้ายเขาก็พบกับความผิดหวัง คนที่เพิ่งมากดออดคือพนักงานที่มาเก็บบิลค่าใช้จ่ายต่างๆ เท่านั้น ลู่ฮานถอนหายใจเมื่อพนักงานคนนั้นได้จากไป ขาทั้งสองข้างก้าวกลับมานั่งที่โซฟากลางห้องอีกครั้ง เหายนานเกินไปแล้ว ลู่ฮานคิด เมื่อยิ่งคิดก็เพิ่งได้รับรู้ว่าความคิดถึงมันสามารถทำร้ายเขาได้อย่างทุรนทุรายเกินกว่าที่เขาได้คิดไว้
‘วาดรูปของผมหน่อยสิ...เอาให้หล่อๆ นะ’
ประโยคที่ครั้งหนึ่งเซฮุนเคยพูดไว้กับลู่ฮานลอยเข้ามาในหัวของเขาอีกครั้ง ลู่ฮานยิ้มบางๆ “โอเคโอเค” ลู่ฮานพึมพำ เดินไปยังโต๊ะทำงานของตน หยิบอุปกรณ์วาดเขียนขึ้นมา ใช้ดินสอกดร่างไปตามกระดาษ แท้จริงแล้วลู่ฮานไม่ถนัดวาดรูปผู้คนมากเท่าไหร่นัก แต่ก็...ดูเหมือนว่าเสียงของเซฮุนจะยังคงหลอกหลอนเขาอยู่เรื่อยๆ ลู่ฮานอมยิ้มขำเมื่อภาพสเก็ตช์อันแรกมันออกมาดู...เหมือนเอเลี่ยน นั่นคือสิ่งที่ลู่ฮานคิด ขยำกระดาษแผ่นแรกนั้นลงไปที่ถังขยะด้านข้าง เริ่มวาดรูปใหม่พร้อมกับเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง...
ออด...
เสียงออดดังขึ้นอีกครั้ง ลู่ฮานบิดขี้เกียจเล็กน้อย เหลือบมองไปยังนาฬิกา พบว่าตอนนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงพลบเย็น ขาทั้งสองข้างก้าวไปยังประตูอย่างไม่รีบร้อน ก็คงจะเป็นพวกพนักงานอีกสินะ ลู่ฮานคิด เปิดประตูออกอย่างไม่นึกสนใจอะไรมากนัก ทว่าภาพที่ลู่ฮานได้เห็นกลับทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวขึ้นเป็นรอบแรกในสองสัปดาห์ บุคคลที่เขาได้เฝ้านึกถึงตลอดมา
เซฮุน
ครบ 100% แล้ว ^^
ตอนเก่าๆ เราได้รีไรท์หมดแล้วนะคะ
โดยเราได้ปรับเปลี่ยนคำ เพิ่มเหตุการณ์ และเปลี่ยนมันใหม่ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ยังไงก็อยากให้ลองกลับไปอ่านทวนอีกรอบนะ ฮ่า
เจอกันตอนหน้าค่ะ
อีกไม่นานก็จบแล้วหล่ะ
ความคิดเห็น