คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : CHAPTER V
Chapter V
‘ข้ามีสิทธิ์ที่จะรัก. ข้ารักมนุษย์ผู้นั้น และผู้นั้นก็รักข้าด้วยเช่นกัน’
‘เจ้าก็แค่ปลอมอยู่ในร่างมนุษย์ของข้า ช่างน่าสมเพช’
‘คนยโสอย่างเจ้า ไม่มีวันได้เคียงคู่กับมนุษย์ผู้นั้นหรอก’
‘แล้วเจ้ากับข้าจะได้เห็นดีกัน...มิคาเอล’
บรรยากาศรอบด้านเต็มไปด้วยทุ่งหญ้า ละอองเกสรลอยฟุ้งไปทั่ว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแมกไม้ดั่งอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ ท้องฟ้าสีครามใสไร้ปุยเมฆ ทุกสิ่งอย่างดูสมบูรณ์แบบ หากทว่ามันกลับไม่ใช่โลกมนุษย์
“ข้าคิดว่าเจ้ารู้กฎข้อนั้นดี มิคาเอล”
กาบรีเอล เทวทูตที่มีตำแหน่งรองลงมาจากมิคาเอลพูดขึ้น ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลใสจ้องตรงไปยังคนตรงหน้าอย่างคาดคั้น มิคาเอลนิ่งเงียบ ยังคงไม่มีคำพูดใดๆ โต้ตอบกลับไป
“ถ้าหากเจ้ายังคงฝ่าฝืน ข้าเกรงว่าข้าจะต้องทูลพระผู้เป็นเจ้า”
ลมหมุนพัดผ่านร่างของกาบรีเอลอย่างรวดเร็ว เส้นผมบลอนด์สีทองจ้าและชุดสีขาวบริสุทธิ์โบกไสวไปตามแรงวายุ
“เจ้า...คิดจะท้าทายข้า?” มิคาเอลเค้นเสียง จ้องไปยังอีกฝ่ายที่ยังคงยืนทำทีไม่รู้ร้อน
กาบรีเอลแค่นหัวเราะ “เจ้ามีดีตรงไหนให้ข้ากลัวเกรงกัน? มิคาเอล”
“…”
“เจ้าก็แค่เทวดาที่แสนขลาด ละโมบในสิ่งที่ตนไม่เคยมี”
“…”
“ช่างน่าเวทนา”
“เงียบ!”
มิคาเอลตวาดลั่น เสียงกร้าวดังไปทั่วรอบด้าน บรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ราวกับมีพายุมรสุมพัดผ่าน ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ไร้ซึ่งแสงจากดวงดาว มีเพียงเสียงอันเงียบเชียบและความเวิ้งว้างที่ว่างเปล่า
“เจ้าอยากให้เหตุการณ์ในครานั้นเกิดขึ้นอีกฤา? กาบรีเอล”
กาบรีเอลมองคนตรงหน้าด้วยสายตาอดสู “อย่าโทษสิ่งอื่นใดเลย มิคาเอล”
“…”
“เพราะตัวของเจ้าเอง...ทุกๆ อย่างมันถึงได้เป็นแบบนี้”
-
หนึ่งเดือนเต็มกับการหายไปของเซฮุน ไม่มีจดหมาย ไม่มีช่อดอกหมาย ไม่มีเสียงกวนประสาท ไม่มีแม้กระทั่งรอยยิ้มโง่ๆ ของเซฮุน สิ่งที่ลู่ฮานทำได้มีเพียงแค่รอ แม้ในใจจะหาคำตอบให้กับตนไม่ได้ก็ตามทีว่ารอเพื่ออะไร ลู่ฮานโน้มตัวนั่งลงอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ต้นใหม่ต้นเดียวกันกับที่เซฮุนเคยนั่งลงข้างๆ เขา
แต่ตอนนี้ที่ข้างๆ กลับว่างเปล่า
ลู่ฮานวางกระดานวาดภาพลง ทุกอย่างดูว่างเปล่า จิตใจของเขาก็ด้วยเช่นกัน ลู่ฮานรู้สึกไม่อยากที่จะทำอะไรทั้งนั้น เพียงแค่คิดที่จะหยิบดินสอขึ้นมาร่างภาพลู่ฮานก็วางมันลงที่เดิม รู้สึกขี้เกียจที่จะทำทุกสิ่ง ลู่ฮานเพ่งมองตรงไปด้านหน้า ภาพของต้นไม้หลากสีที่ปลิวไหวไปตามสายลมอ่อนๆ ไม่ได้ช่วยทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ลู่ฮานมองภาพเหล่านั้นด้วยสายตาเหม่อลอย
คิดถึง...
ทว่าลู่ฮานไม่ได้คิดถึงคนรักของเขา ลู่ฮานกลับคิดถึงคนอีกคน ลู่ฮานคิดถึงเซฮุน มันเป็นความรู้สึกที่แปลก แต่ทว่าเขาไม่สามารถลบความรู้สึกนี้ออกไปได้ เซฮุนนิสัยไม่ดี ลู่ฮานคิด เมื่อคิดอีกทีก็พบว่าในตอนนี้ตัวเองได้งอแงเหมือนเด็กๆ
“ฉันเล่นเพลงนั้นจนคล่องแล้ว...เมื่อไหร่จะกลับมา?”
ลู่ฮานพึมพำคำถาม แม้รู้ดีว่าจะไม่มีคำตอบ นั่งนิ่งอยู่เพียงครู่ก่อนที่จะหยัดขึ้นยืนเต็มความสูง ความคิดใหม่ได้แวบเข้ามาในหัว
สิ่งแรกที่ลู่ฮานคิดคือการเดินไปยังสถานีรถไฟ
-
เสียงหวีดร้องของรถไฟดังขึ้นพร้อมกับการเคลื่อนไหวออกจากชานชาลา ลู่ฮานมองขบวนเครื่องจักรนั้นออกห่างไปเรื่อยๆ จากสถานีที่เขาได้ขึ้นเมื่อครู่ วิวทิวทัศน์เริ่มเปลี่ยนไป ตึกสูงใหญ่เทียบฟ้าเริ่มเลือนหายตามความเร็วของเครื่องจักรที่เพิ่มมากขึ้น ลู่ฮานมองออกไปนอกหน้าต่าง เหงา...นั่นคือสิ่งที่ลู่ฮานคิด ในตอนนี้ไม่มีเสียงของเซฮุนที่คอยเอ่ยคำกวนประสาท ไม่มีเกมเล่นจ้องตา ไม่มีแม้แต่เสียงหัวเราะ ลู่ฮานท้าวคางกับผนักพิงด้านข้าง บรรยากาศที่มีแต่เสียงล้อเสียดสีกับรางเริ่มทำให้ลู่ฮานรู้สึกเบื่อ เขาเริ่มจมดิ่งลงกับความคิดตัวเอง ปล่อยให้ทุกอย่างมืดลงเรื่อยๆ จนกระทั่ง...
ลู่ฮานผล็อยหลับไปในตอนนั้น
-
“คิดถึงผมหรอ?”
เสียงคุ้นเคยดังขึ้น ลู่ฮานหันหน้าไปรอบๆ หาต้นตอของเสียง ทว่าสิ่งที่เขาเห็นอยู่รอบด้านคือสีดำ ทุกอย่างมืดสนิท มืดจนกระทั่งมองไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ลู่ฮานรู้สึกว่าในตอนนี้ตนไม่ได้ต่างจากคนตาบอดเลยแม้แต่น้อย ลู่ฮานยกมือขึ้นกอดอก ความมืดรอบด้านทำให้เขารู้สึกอ้างว้าง
“เซฮุน” ลู่ฮานพึมพำ “นายใช่มั้ย?”
สัมผัสอุ่นวาบถูกถ่ายทอดทาบแผ่นหลังของลู่ฮาน ท่อนแขนสองข้างโอบรอบเอวของเขา “กลัวหรอ?” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น “ไม่ต้องกลัวหรอกนะ”
ลู่ฮานรีบหันหน้าไปด้านหลัง หากทว่าสัมผัสแสนอบอุ่นนั้นอันตรธานหายไปในทันที รวมทั้งท่อนแขนนั้นด้วยเช่นกัน “เซฮุน” ลู่ฮานพึมพำอย่างร้อนรน “นายอยู่ที่ไหน”
“ลู่ฮาน” เสียงของเซฮุนดังขึ้นอีกครั้ง ลู่ฮานหันไปรอบๆ และสิ่งที่เขาได้เห็นคือเซฮุนที่ยืนอยู่ไกลออกไป รอบตัวของเซฮุนมีแสงสว่างอ่อนๆ ที่ถึงแม้จะเป็นแสงที่ดูมืดมนก็ตามที ลู่ฮานเริ่มเดินไปตรงตำแหน่งที่เซฮุนยืนอยู่ หากทว่ายิ่งเดินเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่...
เซฮุนก็ดูเหมือนว่าจะยิ่งไกลออกไปเท่านั้น
“เซฮุน” ลู่ฮานพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่น พยายามออกวิ่งไปทางเซฮุน แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เซฮุนยิ่งออกห่างเขาไปไกลกว่าเก่า แสงอ่อนๆ ที่อยู่รอบตัวของเซฮุนเริ่มที่ดับลงจนทำให้เขามองไม่เห็นอะไรอีกครั้ง “อย่าทิ้งฉัน” ลู่ฮานพูด ทรุดตัวนั่งลงกับพื้น กอดเข่า รู้สึกได้ถึงความเปียกชื้นบริเวณเนื้อผ้ากางเกง น้ำตา? ไร้เหตุผลสิ้นดี ลู่ฮานคิด นับครั้งได้ที่เขาจะร้องไห้ออกมา ทว่าเมื่อยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้ลู่ฮานร้องไห้หนักขึ้น ความว้าเหว่เริ่มกัดกินหัวใจของเขามากขึ้นเรื่อยๆ “อย่าทิ้งฉัน” ลู่ฮานพึมพำเสียงสั่น
“อย่าร้องไห้เลยนะ” เสียงของเซฮุนดังมาจากที่ไกลๆ ที่หนึ่ง ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นลู่ฮานกลับไม่พบสิ่งอื่นใดนอกจากความมืดมิด แต่สุดท้าย...ในความมืดสนิทนั้นกลับมีสัมผัสอ่อนโยนเข้าเช็ดน้ำตาบริเวณหางตาของเขา
ลู่ฮานยังคงสะอื้น ทว่าในหัวใจกลับรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับสัมผัสนี้
“ผมไม่เคยทิ้งคุณ”
“…”
“ไม่มีทาง และไม่มีวัน”
ลู่ฮานสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงหวีดร้องของรถไฟได้ดังขึ้น ถึงแล้วหรอ? ลู่ฮานคิด ใช้นิ้วปาดไปที่ปลายขอบตา พบว่ามันยังคงมีความเปียกชื้นอยู่ มันก็แค่ฝันหน่า ลู่ฮานสะบัดหัวเล็กน้อยก่อนที่จะเดินลงจากรถไฟ รอบด้านในตอนนี้เต็มไปด้วยภูเขาและป่าใหญ่ที่รอบล้อม ต้นไม้สีเขียวขจีบ่งบอกได้ไม่ยากว่าสถานที่นี้คือชนบท
ลู่ฮานเริ่มเดินไปตามทางเดินลูกรัง พยายามนึกเส้นทางที่ครั้งหนึ่งเซฮุนเคยพาเขามา แต่ทว่าสมองในด้านการจดจำเส้นทางของเขานั้นห่วยยิ่งกว่าสมองของปลาทอง ลู่ฮานเบ้ปาก เดินต่อไปเรื่อยๆ แม้จะไม่รู้ว่าในตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหนก็ตามที
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป…
ลู่ฮานจำได้ว่าเขาได้เดินผ่านรั้วโง่ๆ นี้เป็นรอบที่สาม ลู่ฮานกลอกตา เริ่มคิดที่จะเปลี่ยนเส้นทาง ร่างโปร่งเริ่มเดินไปยังเนินเล็กๆ ที่อยู่ด้านซ้าย ขาทั้งสองก้าวเข้าไปเรื่อยๆ ต้นไม้ใหญ่หลากชนิดที่อยู่รอบด้านเริ่มทำให้เขาคุ้นตา สิ่งนั้นทำให้ลู่ฮานเริ่มอุ่นใจขึ้นมาบ้าง
จนกระทั่งลู่ฮานเห็นต้นไม้ต้นใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า
มันคือต้นเดียวกับต้นที่เซฮุนฝังของไว้ด้านใต้
ลู่ฮานมองไปรอบๆ หยิบก้อนหินขนาดพอเหมาะมือแล้วเดินไปนั่งย่ออยู่ใต้ต้นไม้ ไม่รอช้าที่จะขุดเพื่อตามหากล่องสีดำ ดินสีน้ำตาลชื้นแชะกระเด็นมาเปรอะมือหากทว่าเขาไม่คิดที่จะสนใจมัน ลู่ฮานแค่ใช้หินทั้งสองก้อนนั้นขุดต่อไปเรื่อยๆ จนขอบกล่องที่เขาคุ้นตาเริ่มโผล่พ้นขอบดิน
ลู่ฮานยิ้มเหมือนเด็กตัวเล็กๆ เมื่อเจอของเล็กชิ้นที่ถูกใจ ปัดดินที่ปรกอยู่บนมือของตนออกเบาๆ ค่อยๆ เปิดฝากล่องนั้นออก พบว่ามีแหวนกับกระดาษโน้ตเล็กๆ อยู่ในนั้น
ลู่ฮานรู้ดีว่าการกระทำที่เขาคิดจะทำต่อไปนี้มันดูค่อนข้างเสียมารยาท แต่...เขาไม่สามารถหยุดตัวเองจากการหยิบแหวนคู่สองวงนั้นขึ้นมาพิจารณาได้ ดวงตาสีอัลมอนด์เพ่งมองไปรอบๆ แหวนเงิน รอบบริเวณผิวของแหวนมีลักษณะเกลี้ยงเกลา นี่คือสิ่งที่เซฮุนให้กับแฟน? ลู่ฮานวางแหวนนั้นลงกลับไปในกล่อง แฟนของเซฮุนจะเป็นยังไงนะ? ลู่ฮานคิดต่อ ทว่าเมื่อยิ่งคิด...เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงความเจ็บแปลบแบบแปลกๆ ที่เข้ามาในใจ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดๆ ก็ตาม
กับคนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่วัน...
เซฮุนมีอิทธิพลกับเขามากเกินไปจริงๆ
แล้วความคิดที่โง่เง่าที่สุดก็เริ่มเข้ามาในหัว ลู่ฮานหยิบแหวนวงนั้นขึ้นมาก่อนที่จะสวมกับนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองเหมือนเด็กที่เล่นของคนอื่นไปทั่ว และ...สิ่งที่ตลกร้ายคือการที่แหวนวงนั้นพอดีกับนิ้วของเขา
ลู่ฮานมองมือของตัวเอง กลับกลายเป็นว่าในตอนนี้เขามีแหวนสวมอยู่ที่นิ้วนางทั้งสองมือ ทำตัวเป็นเด็กๆ ไปได้ ลู่ฮานอมยิ้มบางๆ สะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดที่เริ่มเข้ามาตีกันในหัวมากขึ้นเรื่อยๆ พยายามที่จะถอดแหวนที่ตนเพิ่งยักยอกมาจากคนอื่นออก
ทว่ามันไม่สามารถขยับได้...
แหวนของเซฮุน...ติดอยู่กับนิ้วนางข้างซ้ายของเขา
“เฮ้ ไม่เอาหน่า” ลู่ฮานพึมพำ ยังคงไม่ละเลิกความพยายามที่จะดึงแหวนออก แต่เหมือนยิ่งพยายามมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งติดแน่นมากขึ้นเท่านั้น ลู่ฮานขมวดคิ้ว มีความคิดที่จะเดินไปหาแหล่งน้ำเพื่อช่วยให้แหวนวงนี้หลุดออกจากนิ้ว ลู่ฮานเตรียมตัวที่จะลุกขึ้น ทว่าการกระทำกลับหยุดชะงักฉับพลัน ลู่ฮานได้ยินเสียงเดินแหวกเข้ามาในพงหญ้า
“คิดถึงผมหรอ?”
คำพูดที่ลู่ฮานจำได้ว่าเขาเพิ่งได้ยินมาจากในฝันดังขึ้น นี่มันคือเดจาวู? ลู่ฮานหันหน้าไปหาต้นตอของเสียงนั้น แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ทว่าสิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือในตอนนี้ทุกอย่างไม่ได้มืดมิด เขาสามารถมองเห็นเซฮุนได้อย่างเต็มตา เซฮุนกำลังยืนอยู่ข้างหลังเขา กดยิ้มมุมปากกวนประสาทดั่งที่เคยชอบทำเป็นประจำ เซฮุนผอมลงมาก ลู่ฮานเห็นได้จากกระดูกไหปลาร้าที่นูนขึ้นมาใต้เสื้อเชิ้ตสีดำสนิทอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งใบหน้าที่สมบูรณ์แบบนั้นดูเหนื่อยล้า ราวกับไม่ได้พักผ่อนมาหลายวัน
และสิ่งที่ลู่ฮานเห็น...
ดวงตาของเซฮุนเปลี่ยนเป็นสีเทา
ลู่ฮานลุกขึ้นจนเต็มความสูงก่อนที่จะหันหน้าไปทางเซฮุน พลันนึกถึงแหวนที่อยู่ตรงนิ้วนางด้านซ้าย ลู่ฮานรีบไขว้มือไว้ด้านหลัง พยายามไม่ให้เซฮุนจับพิรุธได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่สำเร็จ
“ซนจังนะเดี๋ยวนี้” เซฮุนว่าก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ลู่ฮาน หัวเราะในลำคออย่างอารมณ์ดี “ไม่ต้องซ่อนหรอกหน่า ผมเห็นหมดแล้วว่าคุณทำอะไรเมื่อกี้”
ลู่ฮานเบ้ปาก ก็รู้ทันทุกทีสิหน่า สุดท้ายก็ยอมปล่อยมือแนบลำตัว เพ่งมองไปยังดวงตาของเซฮุน
“นายใส่คอนแท็ก?” ลู่ฮานถาม จ้องลึกไปยังดวงตาของอีกคน ทว่าสีเทาในดวงตาของเซฮุนไม่เหมือนสีของคอนแท็กเลนส์เลยแม้แต่น้อย มันเป็นเฉดสีเทาที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“อืม” เซฮุนอมยิ้ม เดินเข้าประชิดลู่ฮาน
“แล้วนายหายไปไหนมา?” ลู่ฮานเงยหน้าขึ้นมองเซฮุน “หายไปนานมากๆ เลยด้วย”
“คิดถึงผมหล่ะสิ”
“ใครจะคิดถึงนาย” ลู่ฮานเบ้ปาก เรียกเสียงหัวเราะกวนประสาทจากเซฮุน
“กอดหน่อย” ทันทีที่พูดจบแขนทั้งสองข้างของเซฮุนก็เข้าโอบกอดลู่ฮานในทันที “ยืนอยู่นิ่งๆ นะ” น้ำเสียงของเซฮุนที่เหมือนอ้อนวอนนั้นทำให้ลู่ฮานยืนนิ่ง ปล่อยให้มือของเซฮุนกดศีรษะของเขาลงซบกับแผ่นอกกว้าง
“ขอแค่แปปเดียว”
เซฮุนหลับตาลง กระชับกอดให้แน่นขึ้นราวกับต้องการที่จะหยุดเวลาไว้ตรงนี้ “แปปเดียว...”
“…”
“คิดถึงจัง”
-
เซฮุนพาลู่ฮานมานั่งที่ร้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในใจกลางเมืองชนบท พวกเขาทั้งสองคนเลือกที่จะสั่งอะไรง่ายๆ ทานในตอนบ่าย “สรุปนายหายไปไหนมา?” ลู่ฮานถามขึ้น เซฮุนยังไม่ได้ตอบคำถามของเขา
“เรื่องงานหน่ะ”
“หายไปเป็นเดือนเนี่ยนะ?”
“งานวาดรูปที่ต่างประเทศไง” เซฮุนตอบ สบตากับลู่ฮาน “งานหนักพอควร”
ลู่ฮานพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงรับรู้ ทว่าก็ยังไม่วายเหลือบมองดวงตาสีเทาของเซฮุนเป็นระยะๆ จดจ้องพิจารณาเฉดสีเทาบนดวงตาของเซฮุน ยอมรับว่ามันสวยมาก
และน่าแปลก...ที่ลู่ฮานรู้สึกคุ้นเคยกับสีดวงตาคู่นี้
“คุณยังไม่ตอบคำถามของผมเลย” เซฮุนว่าต่อเมื่อเห็นลู่ฮานเอาแต่เหลือบมองเขา ใช้มือท้าวคางกับโต๊ะ
“ว่า?”
“คิดถึงผมไหม?”
ลู่ฮานนิ่งเงียบ ก้มหน้างุดลงกับโต๊ะเมื่อเห็นเซฮุนยังคงเอาแต่ยิ้มและจ้องมองมายังเขา
“ว่าไงครับ?”
“…”
“เห่นโหล่ว?”
เซฮุนทำเสียงล้อเลียนเมื่อเห็นว่าลู่ฮานยังคงก้มมองโต๊ะอยู่อย่างนั้น “โอเคๆ ผมรู้แหล่ะว่าคุณไม่คิดถึงผม”
ไม่มีคำพูดใดๆ ต่อจากบทสนทนานั้น เซฮุนเงียบ ลู่ฮานเงียบ แต่ทว่าสุดท้ายลู่ฮานก็ได้รู้ว่าตนพ่ายแพ้ให้กับคนตรงหน้า ลู่ฮานค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา จ้องลึกไปยังดวงตาของเซฮุน
ดวงตาที่มีแต่เงาของเขาอยู่ในนั้น
“ฉัน...”
“หืม?”
“ฉันคิดถึงนาย”
ประโยคที่เปล่งออกมาจากลู่ฮานทำให้เซฮุนยิ้มอีกครั้ง
-
“แล้วแหวนวงนี้หล่ะ?”
ลู่ฮานว่าขณะที่พวกเขาทั้งสองคนเดินออกมาจากร้าน จนถึงในตอนนี้เขาก็ยังไม่สามารถถอดมันออกได้ไม่ว่าจะพยายามด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม
“ก็ใส่ไว้แบบนั้นแหล่ะ”
“แล้วแฟนนาย?”
“ไม่เป็นไรหรอก” เซฮุนยิ้ม ขยี้กลุ่มผมนิ่มของคนด้านข้างเบาๆ “ไว้ถอดออกแล้วค่อยคืนก็ได้”
“ผมยุ่งหมด” ลู่ฮานมองคนที่สูงกว่าอย่างเคืองๆ พลางจัดทรงผมของตน การกระทำนั้นเรียกเสียงหัวเราะจากเซฮุนได้ไม่ยาก
“ทรงผมของคุณตอนนี้เหมือนเห็ดเลย” เซฮุนว่า ยีผมของลู่ฮานให้ยุ่งขึ้นกว่าเดิม
ลู่ฮานกลอกตา กวนประสาทจริงๆ
เซฮุนยังคงหัวเราะต่อเมื่อเห็นการกลอกตาของลู่ฮาน “แต่มันก็เหมาะกับคุณนะ”
“…”
“มันน่ารักมาก”
แล้วก็จริงอย่างที่ว่า...
เซฮุนมีอิทธิพลต่ออัตราการเต้นของหัวใจลู่ฮานมากเกินไปจริงๆ
-
ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม พวกเขาทั้งสองคนกลับมาที่สถานีรถไฟในเย็นวันนั้น พระอาทิตย์ที่เริ่มลับขอบฟ้าตามช่วงเวลาที่เข้าสู่พลบค่ำ สถานที่เดิมๆ กับเวลาเดิมๆ ลู่ฮานยิ้มให้เซฮุนก่อนที่จะโบกมือลา เช่นเดียวกับเซฮุน ชายหนุ่มได้แต่โบกมือกลับไป มองร่างของลู่ฮานที่เดินจากเขาไปไกลเรื่อยๆ จนกระทั่งลับตาหายไป
ลู่ฮานเลือกที่จะนั่งแท็กซี่กลับบ้านเนื่องจากในตอนนี้เป็นเวลาที่เย็นพอสมควร เมื่อถึงจุดหมายก็พบว่าร่างผอมสูงของบุคคลที่เขาคุ้นเคยได้ยืนรออยู่ที่หน้าบ้านเป็นที่เรียบร้อย
“ไปไหนมา?”
คริสถามเมื่อลู่ฮานลงจากรถ เดินมาหาเขา
“เดินไปเรื่อยๆ แล้วเพลินหน่ะ” ลู่ฮานเลือกที่จะโกหกอีกครั้ง
“อืม...ทานอะไรมาหรือยัง?”
“ยังเลย ทำให้ทานหน่อย” ลู่ฮานตอบ ทว่าก็ต้องรีบซ่อนมือด้านซ้ายของตนไว้ด้านหลังเมื่อคริสเริ่มมองมาที่เขา “งั้นฉันไปรอในบ้านนะ” ลู่ฮานตัดบท รีบเดินเข้าไปในบ้าน หวังว่าคริสจะไม่จับพิรุธของเขาได้
คริสยืนนิ่ง ไม่ได้เดินตามลู่ฮานเข้าไปในบ้าน แน่นอนว่าเขาเห็นแหวนเงินวงนั้น แหวนที่อยู่ตรงนิ้วนางข้างซ้ายของลู่ฮาน แหวนคู่ที่เขารู้ดีว่าเจ้าของคือใคร และสิ่งที่เขาเห็นอีกอย่าง…
เทวดาตกสวรรค์ที่แสนยโสกำลังยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน
เซฮุนกระตุกยิ้มมุมปาก เดินมาทางคริส ใช้ดวงตาสีเทาอันเย็นชาจ้องมาอย่างเยือกเย็น
“มันคงถึงเวลา...ที่เราต้องยอมรับความจริงบางอย่างกันแล้วกระมัง, มิคาเอล”
ความคิดเห็น