ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO ฟิคแปล] Last January | KAISOO

    ลำดับตอนที่ #5 : 250313.

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.พ. 58



     Poster by vaeliselva.




    25 March 2013

    คยองซูขับรถมุ่งสู่สนามบินอย่างช้าๆ วันนี้เป็นวันที่เขามีความสุขมากแต่ก็รู้สึกกังวลมากเช่นกัน มันก็นานมาแล้วที่สองพี่น้องไม่ได้เจอกัน เขาคิดถึงเธอมากเหลือเกิน..ในที่สุดน้องสาวของเขาก็ตัดสินใจกลับมาเรียนต่อที่เกาหลีเสียที

    คยองซูแทบรอไม่ไหวที่จะได้พบเธออีกครั้ง  มันก็สามปีมาแล้ว และสามปีนั้นมันก็ยาวนานเกินไปสำหรับเขา

    ตั้งแต่วันที่พ่อและแม่แยกทางกัน น้องสาวของเขาก็เลือกที่จะข้ามน้ำข้ามทะเลไปที่อื่นเพื่อหนีความจริงที่เกิดขึ้น  ในตอนนั้นคยองซูได้โทษตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องความรู้สึกของน้องสาวผู้เป็นที่รักไว้ได้ แล้วก็โทษพ่อแม่ที่ตัดสินใจทำแบบนั้น แต่นั่นแหละยังไงเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี

    เขาทำอะไรไม่ได้เลย คยองซูเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กันและเขาก็โดดเดี่ยวมากโดยตลอด นับตั้งแต่วันที่เด็กสาวจากไป

    เขาผ่อนลมใจยาวเหยียดขณะที่เดินเข้าไปในสนามบิน ยังเหลือเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าเครื่องบินที่น้องสาวของเขานั่งมาจะแลนด์ดิ้ง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้ง จู่ๆวัตถุสี่เหลี่ยมในมือก็ดังขึ้นริมฝีปากของเขาขยับเป็นรอยยิ้มและกดรับสายอย่างไม่ลังเล

    “อรุณสวัสดิ์ครับ..”

    คยองซูหัวเราะร่วนเมื่อได้ยินน้ำเสียงงัวเงียของจงอินดังมาจากปลายสาย

     “นี่มันบ่ายแล้วเจ้างั่ง เมื่อคืนทำอะไรมา..ไปดื่มอีกแล้วใช่มั้ย” เขาถอนหายใจ 

     “ผมสัญญาว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้าย” เสียงของจงอินฟังดูอู้อี้ขณะที่เขาเปิดปากหาว

     “อาหะ นายบอกว่านั่นเป็นครั้งสุดท้าย” คยองซูกลอกตาไปมา

     “ว่าแต่ ตอนนี้พี่อยู่ไหนเหรอครับ..เสียงดังมากเลย” จงอินรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว 

     “ฉันอยู่ที่สนามบินน่ะ”

     “หะ!? พี่จะไปไหนเหรอ” จงอินร้องถามอย่างตื่นตระหนก

     “ไม่ใช่หรอก น้องสาวฉันตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ที่นี่แล้วน่ะ”

    ”อา..น้องสาวพี่คนที่บินไปเรียนเมืองนอกน่ะนะ..นั่นก็ดีแล้วนี่ครับ” จงอินยิ้ม

     “ก็ใช่แต่ฉันกังวลนิดหน่อย ฉันกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนไปกลายเป็นใครคนอื่นที่ฉันไม่รู้จัก ตอนคุยกับเธอฉันคงอึดอัดน่าดู..”  จู่ๆเข้าก็รู้สึกปวดมวลท้องขึ้นมากะทันหันเมื่อคิดว่าน้องสาวคนเดิมจะเปลี่ยนไป

     “ถ้าผมที่อยู่ที่นั่นด้วยผมจะกอดพี่ไว้แน่นๆเลย เพราะงั้นพี่ไม่ต้องกังวลนะ”

    "นายนี่น้ำเน่าชะมัด" คยองซูหัวเราะ

     “แต่ถ้าเธอเปลี่ยนไปแล้ว เธอคงไม่โทรให้พี่ไปรับที่สนามบินหรอกจริงมั้ย?”

     “อืม ก็ถูกของนาย..ฉันขอไปหานายทีหลังได้มั้ย”

     “ได้สิครับ ที่อพาร์ทเม้นท์พี่ใช่มั้ย ผมหวังว่าตอนไปถึงจะมีอาหารวางรออยู่บนโต๊ะนะ” จงอินพูดด้วยน้เสียงร่าเริง

     “เดี๋ยวฉันจะทำให้..แล้วเราก็มานั่งกินด้วยกัน แบบนั้นดีมั้ย”

    “โอเคครับ ไว้เราค่อยคุยกันทีหลังนะครับ”

    “..”

    “ อ่อ! อย่าลืมฝากทักทายว่าที่ภรรยาของผมด้วยล่ะ”

    "หืม? ว่าที่ภรรยา.."

    "ก็น้องสาวพี่ไง"

    "ว่าที่ภรรยาในมโนน่ะสิ ฉันไม่มีวันยกเธอให้นายแน่" คยองซูได้ยินเสียงหัวเราะของจงอินหลังจากเขาพูดประโยคนั้นจบ

    "ว่าแต่เธอชื่ออะไรเหรอครับ"

    "โด ยูรา เธอชื่อโด ยูรา"

     

    ----

                คยองซูยืนรอด้วยความว้าวุ่น มองดูฝูงชนนับพันคนที่อยู่รอบๆตัว

     “เธอควรจะมาถึงได้แล้วนะ” ทันใดนั้นเองสายตาของคยองซูก็มาหยุดที่เกจขาเข้า* เมื่อเขาเห็นร่างเล็กที่แสนคุ้นเคยเดินผ่านเกจออกมา  

                เธออยู่นั่นเอง

                เด็กสาวที่ไว้ผมบ็อบสั้นสีดำสนิท ริมฝีปากเล็กๆหยักโค้งเป็นรูปหัวใจคล้ายกับคยองซู  ดวงตายิ้มคู่นั้นกวาดไปรอบๆบริเวณจนกระทั่งมาปะทะกับสายตาของคยองซูพอดิบพอดี

     “โอปป้า!” เธอตะโกนเสียงดังขณะที่ริมฝีปากวาดยิ้มกว้างขึ้น

    คยองซูได้แต่หัวเราะร่าเมื่อยูราวิ่งถลาเข้ามาหาเขา  เขากางแขนออกกว้างๆโอบร่างของยูราไว้แล้วยกตัวเธอขึ้นหมุนไปรอบๆ จนผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเมื่อเห็นภาพนั้นต่างก็คิดว่าว่าพวกเขาเป็นคู่รักกัน

     “หนูคิดถึงพี่มากเลยรู้มั้ย” ยูราพูดขึ้นเมื่อเท้าของเธอกลับมาแตะพื้นในที่สุด

     “พี่ก็คิดถึงเธอเหมือนกัน  สาวน้อย” คยองซูหยิกแก้มยูราเบาๆ

     “และเธอก็..โตขึ้นมากเลยนะ!” เขาเสริมต่อ แล้วขยี้หัวน้องสาวด้วยความรักใคร่

     “พี่เองก็เหมือนกัน”

     “ไปกันเถอะ” คยองซูว่า แล้วเอื้อมมือไปหมายจะลากกระเป๋าเดินทางให้ยูรา ทว่าก็ถูกเด็กสาวคว้าแขนไว้เสียก่อน

     “โอ้ปป้า หนูบอกพ่อเรื่องที่หนูกลับมาแล้วนะ” คยองซูตัวแข็งทื่อ..เขาไม่แน่ใจเลยว่าควรตอบกลับไปอย่างไร 



                   “อา..งั้นเหรอ” เขายิ้มแห้งๆให้อีกฝ่ายแล้วทำท่าจะหมุนตัวกลับไป แต่ทว่ายูรากลับรั้งแขนเขาไว้

     “พ่อชวนหนูให้ไปกินข้าวเย็นด้วยกัน”

    “แล้ว?”  คยองซูเอ่ยเสียงแผ่วค่อย เขาสูดลมหายใจเข้า..พอจะเดาได้ว่าสิ่งที่ยูรากำลังจะพูดต่อไปนี้คืออะไร

     “แล้วพี่ก็ต้องไปกับหนูด้วย”

    “พี่ไม่ไป..” เขาเผลอกัดฟันแน่น

                “พี่คะหนูขอร้องล่ะ ไม่ต้องทำเพื่อของคุณพ่อก็ได้..ถือซะว่าทำเพื่อหนูได้มั้ยคะ” ยูราวิงวอนทั้งน้ำตา

     “หนูแค่อยากเริ่มต้นใหม่  อยากลืมทุกอย่าง อยากยกโทษในสิ่งที่พ่อเคยทำกับเราทั้งหมดแล้วให้โอกาสเขาอีกครั้ง ทุกคนย่อมผิดพลาดกันได้และเขาก็ควรได้รับโอกาสในการแก้ตัว หนูอยากให้ครอบครัวเรากลับมามีความสุขอีกครั้งนะ.. มันเป็นไปไม่ได้เลยเหรอ..หนูก็แค่อยากให้พ่อแม่กอดหนูบ้างแล้วก็อยู่ทานข้าวด้วยกันทุกมื้อ เราไม่ต้องเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบก็ได้ แค่เป็นเหมือนครอบครัวปกติทั่วไปก็พอแล้ว  ได้มั้ยคะ.. ”.

                เธอกระพริบตาถี่ๆพยายามกลั้นน้ำตาไว้แต่มันก็ยังไหลลงมาอยู่ดี คยองซูถอนหายใจขณะที่มองเข้าไปในดวงตาของยูรา แล้วใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้เธอ

     “ได้มั้ยคะพี่ เพื่อหนู.” เธอขอร้องอีกครั้ง

                คยองซูพยักหน้าลงอย่างไม่เต็มใจนัก

     

    ---

    ไม่นานนักพวกเขาก็พาตัวเองมาที่ภัตรคานระดับห้าดาวที่พ่อของพวกเขาจองเอาไว้ และทันทีที่ผลักประตูเข้าไปพวกคยองซูก็ถูกพาเข้าไปในห้องส่วนตัวเลย

                “คุณโดบอกว่าจะมาช้าเล็กน้อย ให้พวกคุณทั้งสองคนสั่งอาหารรอได้เลยครับ” บริกรกล่าว

    “เราจะรอเขา” คยองซูพูดกับบริกรด้วยน้ำเสียงเย็นชา

                บริกรคนนั้นโค้งเล็กน้อย แล้วปล่อยให้สองพี่น้องอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง

                สิบห้านาที..

    สามสิบนาที..

    สี่สิบห้านาทีผ่านไป..

                “เขาไม่มา” คยองซูเค้นยิ้มเยาะ

     “เขามาแน่ๆ รอก่อนเถอะค่ะพี่” ยูราจ้องมองมาที่เขา บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ  

    “ไม่เห็นเหรอว่าพวกบ้างานอย่างพ่อเราเป็นยังไง เขาปล่อยให้ลูกตัวเองนั่งทนหิวเพียงเพราะงานของเขา แบบนี้แล้วเธอยังจะคาดหวังให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกหรือไง” คยองซูพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน

    เขารู้สึกโกรธพ่อ แต่เขากลับโมโหตัวเองมากกว่าที่ยังแอบหวังว่าผู้ชายคนนั้นจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้

     “พี่คะ..” ยูรากัดริมฝีปากแน่น ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงดี

     “กลับบ้านกันเถอะ” คยองซูลุกขึ้น..ทันใดนั้นเองก็มีใครบางคนผลักประตูเข้ามา

     “ขอโทษที่มาสาย..” คำพูดของนายโดชะงักลงกะทันหัน เมื่อเห็นคยองซูลุกขึ้น

     “นั่นแกคิดว่าตัวเองกำลังจะไปไหนน่ะ..” นายโดย่นคิ้ว

     “บ้าน..” คยองซูตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เขาดึงมียูราเพื่อบอกให้เธอลุกขึ้น

     “แต่เรายังไม่ได้กินข้าวเย็นกันเลย” พ่อของเขายังคงยืนอยู่ตรงนั้นและขวางประตูไว้

     “ใช่สิ ผมไม่ได้เป็นคนที่มาสายหนิ”

     “ขอโทษ แกเห็นไหม ฉันมีงานเยอะแค่ไหน..ฉันออกมาก่อนเวลาไม่ได้หรอก”

     “พี่คะอยู่กินข้าวกับพ่อต่อเถอะ” เด็กสาวคว้าแขนคยองซูไว้แต่เขาก็ไม่สนใจมัน

    “นั่นคือข้อแก้ตัวของพ่อใช่มั้ย ผมรู้นะว่างานสำคัญกับพ่อมากกว่าครับครัว สำคัญมากกว่าพวกเรา เพราะแบบนั้นไงแม่เลยทิ้งพ่อไปหาผู้ชายคนอื่น” คยองซูกล่าวกับพ่อของตัวเอง ถึงแม้เขาจะรู้สึกปวดหนึบที่หัวใจเวลาที่พูดออกไป

     “คยองซู ถึงฉันจะไม่ใช่พ่อที่ดีเท่าไร แต่แกก็ควรจะเคารพฉันในฐานะพ่อด้วย!

    นายโดขึ้นเสียง เขาชักเริ่มหมดความอดทนแล้ว

                “ก็รู้หนิ ว่าเป็นความผิดของตัวเอง”

                สถานการณ์ระหว่างพวกเขาเริ่มตึงเครียด คยองซูรู้ดีว่าสิ่งที่พูดไปมันจะทำให้พวกเขาทะเลาะกัน..แต่มันอาจจะดีกว่าก็ได้ คยองซูรู้ตัวดีว่าทำอย่างไรคงก็ไม่มีทางชนะ ทว่าถึงอย่างนั้นเขายอมถูกทำร้าย..ดีกว่าปล่อยให้หัวใจทรมานไปมากกว่าที่เป็นอยู่

     “พี่คะ..ได้โปรด” ยูราพยายามเข้ามาแทรกกลางระหว่างพวกเขา

    นายโดถอนหายใจ

    “ฉันรักแม่ของแก รู้ใช่มั้ย ฉันรักเธอ ถึงแม้ว่าการแต่งงานระหว่างเราจะมีเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจก็เถอะ..ฉันรักเธอด้วยใจจริงแล้วตอนที่มีแกกับยูราพวกเราก็มีความสุขมาก แต่ความรักของฉันคงยังไม่พอและเงินก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ..”"

                “แม่แค่อยากให้พ่อมีเวลาให้” เขาพูดตัดบท

     “เพราะงั้น ฉันถึงได้ตัดสินใจยอมให้แม่ของแกไปไง ถ้าเธออยู่กับฉันแล้วไม่มีความสุขฉันก็จะปล่อยเธอไป..ให้มีความสุข” คยองซูเห็นว่าในแววตาของบิดานั้นเจือไปด้วยความเจ็บปวด

     “ไม่ พ่อเลือกงานมากกว่าแม่ ไม่ใช่ว่าพ่อปล่อยเธอไปแต่เธอออกไปจากชีวิตของพ่อ..กับไอ้บอดี้การ์ดนั่นไง!

    ยูราสะกิดพี่ชายแรงๆคล้ายจะบอกให้เขาหยุด น้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกครั้งจนเธอรู้สึกแสบตาไปหมด แต่คยองซูกลับเลือกที่จะไม่ทำ ตอนนี้เขาจะไม่ยอมอยู่เงียบๆอีกต่อไปแล้ว

                “คยองซู แกไม่เข้าใจ” พ่อของเขาถอนหายใจอีกครั้ง

                “เข้าใจสิ และตอนนี้ก็เป็นเวลาของคุณจะทำความเข้าใจบ้างแล้ว..ขอตัวครับ”

    คยองซูเริ่มออกแรงฉุดมือของยูราอีกครั้ง ทว่าเด็กสาวกลับชักมือหนี คยองซูได้แต่มองที่น้องสาวของตัวเองที่ยังอยู่ในความสับสน

     "หนูจะอยู่กับพ่อ" ในที่สุดเธอก็พูดมันออกมา แล้วใช้หลังมือปาดน้ำตา

    "ก็แล้วแต่.."

    คยองซูกระแทกประตูให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วเดินออกไป

     

                ---

    จงอินกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา ตอนนั้นเองก็มีใครบางคนเปิดประตูห้องเข้ามา

     “พี่ไปอยู่ไหนมาครับ ผมรอ..”

    คำพูดทั้งหมดคล้ายจุกอยู่ที่ปลายลิ้นเมื่อเห็นคยองซูยืนตัวสั่นเทิ้มอยู่ข้างๆ กระดุมเสื้อเชิ้ตหลุดลุ่ย มิหนำซ้ำจงอินยังได้กลิ่นแอลกอฮอล์มาจากอีกฝ่ายด้วย แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรคยองซูก็ทิ้งตัวนอนบนตักของจงอินซะแล้ว  

     “พี่ครับ..เกิดอะไรขึ้น” จงอินจ้องอีกฝ่ายอย่างเป็นกังวล

                “จงอิน..นายช่วยไปเอายามาให้ทีได้มั้ย ฉันเก็บมันไว้ในห้องนั่นแหละ” คยองซูปิดเปลือกตาลงช้าๆ

                “ไม่ พี่ไม่ต้องใช้มันหรอกผมอยู่นี่แล้วไง..บอกมาสิครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น ” จงลูบเส้นผมของคยองซูอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอม จงอินอยากสัมผัสคนตัวเล็กไปเรื่อยๆ..มันคงเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ทำให้คยองซูรู้สึกดีขึ้น 

                พวกเขาปล่อยให้เวลาผ่านไปเนิ่นนาน..ก่อนที่คยองซูจะยอมเอ่ยออกมา

     “จำตอนที่เราเจอกันครั้งแรกได้มั้ย..”

     “ครับ?” จงอินมุ่นคิ้ว พยายามนึกให้ออกว่าระหว่างพวกเขามันเริ่มมาจากอะไร  และดูเหมือนว่าการพบกันครั้งแรกของพวกเขานั้นไม่ใช่เรื่องน่าประทับใจเท่าไรนัก

     “ฉันอยากให้พ่อแม่ตายๆไปซะที  ฉันอิจฉานายจัง..ฉันแค่อยากเกิดเป็นลูกบ้านอื่น แล้วฉัน..ก็เหนื่อยกับเรื่องบ้าๆนี่ชะมัด จงอินอา..ฉันอยากถอดใจแล้ว”

    จงอินแตะที่ท่อนแขนของคยองซู พยายามปลอบคนที่เป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายที่แสนดีของเขา จงอินกัดริมฝีปากแน่นทว่าก็ไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกไป

    ความเงียบเข้าปกคลุมพวกเขา ทั้งคู่กำลังจมอยู่กับความคิดของตัวเอง แต่หลังจากนั้นสักพักจงอินก็พรูลมหายใจออกมาแรงๆ

    "พี่ครับ.."

    คยองซูไม่ได้ขานรับแต่พยักหน้าลงเล็กน้อยเป็นเชิงบอกว่ากำลังฟังอยู่

     “พี่น่ะ..จะหมดหวังกับครอบครัวของตัวเองไม่ได้หรอกนะ”

     



     



     


    ----
    สปอยล์ได้น่าเกลียดมากเหอะ *หลบรองเท้าเหล่าประชาชี*
    เดี๋ยวหลังสอบโอเน็ตเสร็จจะมาอัพนะคะ..



    แถลงการณ์ ณ วันที่ 30 ม.ค. 58
    ------

    จะกี่ตอนภาษาก็ยังป่วงเหมือนเดิม...*ก้มหน้าไว้อาลัยให้ตัวเองสามวิ*
    ที่จริงตอนนี้มีสองพาร์ทนะแต่มันสั้นมาก (พาร์ทสองยาวแค่ 4 หน้าเวิร์ดเอง) 
    ด้วยความที่เห็นว่าคงไม่ทำให้เสียอรรถรสเท่าไร..เราเลยรวบยอดมาไว้ตอนเดียวซะเลย 

    ปล.ขออภัยในความล่าช้าค่ะ


    แถลงการณ์ ณ วันที่ 6 ก.พ. 58
     
     

     

     
      CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×