คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 120113.
Poster by vaeliselva.
12 January 2013
จงอินพยายามเปิดประตูให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเสียง เขาปรับโฟกัสสายตาในเข้ากับความมืด ก่อนที่จะคลำได้หาประตูบานนั้นต่อไป แต่นั่นแหละต่อให้หลับตาเขาก็ยังหาประตูที่ถูกต้องได้สบาย
เขาคุ้นเคยกับอพาทเมนต์นี้เป็นอย่างดี ทุกซอก ทุกมุม กลิ่นอาย และแน่นอนรวมไปถึงเจ้าของห้องนี้ด้วย เขาเข้าไปในห้องของคยองซู ข้างในนี้มืดพอๆกับที่ห้องนั่งเล่น จงอินได้ยินเสียงลมหายใจของคยองซู มันดังเนิบนาบและสม่ำเสมอ ในครั้งแรกที่จงอินมาที่นี่เขาสงสัยเหลือเกินว่าทำไมคยองซูถึงนอนหลับได้โดยไม่พึ่งความสว่างจากแสงไฟ ทำไมเขายังสามารถข่มตาหลับได้แม้อยู่ท่ามกลางความมืดเพียงลำพัง
เหตุผลก็ง่ายๆ เพราะเขาอยู่คนเดียว..
พ่อแม่ของคยองซูเพิ่งหย่ากันเมื่อปีที่แล้ว แม่ของเขาแต่งงานใหม่ พ่อก็ยุ่งอยู่กับงาน ส่วนน้องสาวเพียงคนเดียวของเขาก็บินไปต่างประเทศเพื่อหนีความจริงที่ว่าครอบครัวสุขสันต์ไม่อาจกลับเป็นดังเดิมได้อีกแล้ว
คยองซูไม่สามารถทนอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่เพียงลำพังได้ เขาจึงย้ายมาเข้ามาอยู่ที่อพาทเมนต์แห่งนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเหงาอยู่ดี..ยังรู้สึกเหงาเหมือนเดิม
"ตอนที่ห้องสว่าง สิ่งที่เดียวที่ฉันเห็นคือมีแค่ตัวฉันเพียงคนเดียวในห้องกว้างๆนี่ แต่เมื่อไรก็ตามที่ห้องอยู่ในความมืด บางครั้ง.. แค่บางครั้ง ฉันเองก็ยังแอบหวังอยู่นะว่าจะมีใครซักคนอยู่กับฉันที่นี่ ฟังดูแปลกๆเนอะว่ามั้ย"
จงอินรู้สึกแย่ทุกครั้งที่นึกถึงสิ่งที่คยองซูเคยบอกกับเขาตอนที่เขาถามคำถามนั้นออกไป ทว่านับตั้งแต่วันนั้นจงอินก็ได้สาบานกับตัวเองว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะไม่มีวันปล่อยให้คยองซูต้องโดดเดี่ยวอีกแล้ว
จงอินเดินมาหยุดที่ข้างเตียง ความมืดทำให้เขามองเห็นคยองซูไม่ค่อยชัดเท่าไร แต่เขาก็รู้จักทุกอย่างบนร่างกายเล็กๆนั่นเป็นอย่างดี
ทั้งดวงตากลมโตของเขา
ริมฝีปากรูปหัวใจที่สมบูรณ์แบบนั่น
กระดูกไห้ปลาร้าที่สวยงามของเขา
ไหล่แคบๆที่จงอินสามารถโอบไว้ได้อย่างง่ายดาย
และมือเล็กๆคู่นั้น
และยิ่งไปกว่านั้นคือจงอินยังรู้จัก ‘ทุกส่วน’ บนร่างกายของคยองซูจริงๆ แต่ไม่ใช่จากการทำเรื่องอย่างว่ากันอย่างแน่นอน ระหว่างพวกเขามันยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นก็เป็นสิ่งที่แม้แต่จงอินหรือคยองซูก็ไม่สามารถอธิบายได้เช่นกัน
เป็นเพื่อน
พี่น้อง
หรือคนรักกันแน่..
มันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น ซับซ้อนยิ่งกว่านั้นมาก แต่ที่จงอินรู้คือทั้งหมดนั่นล้วนเกิดจากการที่ต่างฝ่ายต่างก็ห่วงหาอาทรซึ่งกันและกัน เผลอๆอาจจะมากกว่าคู่รักบางคู่เสียอีก
จงอินล้มตัวนอนบนเตียงของคยองซู ใช้มือสางเส้นผมของอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะเคลื่อนลงมาที่แก้ม แล้วค่อยๆเลื่อนลงไปสัมผัสที่ริมฝีปากของคยองซูอย่างแผ่วเบา
คยองซูค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีร่างของใครบางคนนอนอยู่ข้างๆ แต่มันไม่ได้ทำให้เขาแปลกใจนัก บ่อยครั้งที่จงอินมักเข้ามาหาเขากลางดึกอย่างไม่มีเหตุผล เพียงเดินเข้ามา..แล้วล้มตัวนอนลงข้างๆเขา และถึงอย่างไรก็ตามมันทำให้เขารู้สึกดีที่ไม่ต้องใช้เวลาในยามค่ำคืนอย่างโดดเดี่ยว
"นายมาทำอะไรที่นี่" คยองซูถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
จงอินสวมกอดเขาจากด้านหลังแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างหู
"ก็วันเกิดพี่นี่นา"
คยองซูฉีกยิ้มกว้างขึ้น ลมหายใจอุ่นๆของจงอินที่เป่ารดต้นคอมอบความความรู้สึกบางอย่างให้แก่เขา บางอย่างที่ทำให้ความรู้สึกวูบวาบคล้ายกับมีกระแสไฟฟ้าวิ่งพล่านไปทั่วร่างกาย
“ผมมีอะไรจะให้พี่ด้วยแหละ ไปกันเถอะ” จงอินยื่นมือไปหาคยองซูหวังจะฉุดเขาให้ออกจากห้องที่แสนว่างเปล่านี้.
“จะไปไหนล่ะนี่ก็เที่ยงคืนแล้วนะ” คยองซูโอดครวญเสียงแผ่ว เขาไม่อยากลุกไปไหน ไม่อยากผละจากไออุ่นของจงอินที่กำลังโอบกอดเขาเลย
จงอินเอื้อมมือไปเปิดไฟ และเขาก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นคยองซูในชุดนอนโปโรโร่กำลังนอนอยู่บนเตียง
“โธ่..พี่ครับลุกขึ้นเถอะ” เขาหัวเราะเบาๆ
"ออกไปเลยฉันจะแต่งตัว" คยองซูว่าพลางดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงแล้วขยี้ตาไปมา
"ไม่ต้องหรอกครับ พี่ใส่ตัวนั้นแหละดีแล้ว ผมชอบมันนะ " จงอินฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันก่อนจะโยนเสื้อนอกที่สวมอยู่ลอยวืดไปตกที่หัวของคยองซู
"แต่ต้องใส่เสื้อตัวนี้ด้วยนะ ผมไม่อยากให้พี่ออกไปข้างนอกในสภาพตาบวมเป่งแถมจมูกแดงเหมือนลูกหมาหลงทางแบบนี้หรอก” จงอินยังแกล้งหยอกคนตัวเล็กต่อไป
"เงียบไปเลย" คยองซูตอกกลับเสียงแข็ง ทว่าเขากลับไม่อาจซ่อนรอมยิ้มบนใบหน้าของตัวเองและความรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจของเขาได้
“พี่ครับถ้างั้นผมของปิดตาพี่ไว้เลยได้มั้ย?" จงอินว่าพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าสีดำออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์เก่าๆที่สวมอยู่
"เพื่ออะไรล่ะ" คยองซูเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งด้วยความสงสัย
“เพราะมันคือเซอร์ไพรซ์น่ะสิครับ" ริมฝีปากของจงอินคลี่เป็นรอยยิ้มจางๆพลางขยับเข้าไปใกล้คยองซูมากขึ้น
"หันหลังไปสิครับ" จงอินยิ้มพลางวางมือไว้บนไหล่แคบๆออกแรงบังคับให้อีกฝ่ายหันหลังไป คยองซูไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยให้จงอินผูกผ้าเช็ดหน้ารอบศีรษะเพื่อปิดดวงตาของเขา
ตอนนี้ทุกอย่างตกอยู่ความมืดมิด
"พี่แค่ต้องเชื่อใจผม โอเคมั้ย" จงอินโอบรอบคอพี่ชายตัวเล็กอยู่สักพักก่อนจะเปลี่ยนมาจูงมือคยองซูและเดินนำทางออกไปจากห้อง
--
"เดินระวังๆหน่อยนะครับ"
คยองซูเพียงพยักหน้าเล็กน้อย เขาได้ยินเสียงประตูห้องปิดลงและได้ยินเสียงประตูลิฟต์กำลังเปิด เขารู้สึกถึงมวลประหลาดวนอยู่ในช่องท้อง แต่ถึงอย่างไรตามมันกลับทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าลิฟต์กำลังเคลื่อนตัวขึ้นไปยังชั้นบน.
"เราลงไปข้างล่างกันดีกว่ามั้ย?"
คยองซูถามอีกฝ่ายอย่างไม่แน่ใจ จงอินไม่ตอบแต่กลับกระชับมือข้างที่จับมือเขาไว้แน่นกว่าเดิม คยองซูรู้สึกได้ว่ามือของจงอินเริ่มชื้นเหงื่อแต่มันกลับทำให้เขารู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ทันทีที่ลิฟต์หยุด จงอินก็เดินนำเขาออกจากลิฟต์ สายลมที่พัดมาปะทะใบหน้าทำให้เขารู้ได้ว่าตอนนี้พวกเขากำลังอยู่บนดาดฟ้าของอพาร์ทเม้นท์ ทันใดนั้นจงอินก็ปล่อยมือจากคยองซู
"จงอิน.." คยองซูเรียกหาอีกฝ่ายอย่างเสียขวัญ
“เซงอิลชุกกาฮัมนีดา เซงอิลชุกกาฮัมนีดา~ " จงอินร้องเพลงอย่างมีความสุข
คยองซูคลายปมผ้าเช็ดหน้าที่ปิดตาออกด้วยตัวเอง และพบว่าจงอินกำลังยืนถือเค้กวันเกิดที่มีเทียนปักอยู่ยี่สิบเล่มยื่นมาตรงหน้าเขา
เป็นเซอร์ไพรซ์ที่ค่อนข้างธรรมดา แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุดโลก
คยองซูคงไม่มีความสุขไปมากกว่านี้อีกแล้ว..
“อธิษฐานสิครับ”
คยองซูหลับตาลงแล้วเป่าเทียน
"พี่อธิษฐานว่าอะไรหรอ"
"ฉันไม่ได้ขออะไรหรอก"
จงอินขมวดคิ้ว
"ว่าไงนะ! โธ่..มันมีแค่ปีละครั้งนะครับ ทำไมพี่ถึงพลาดมันได้ล่ะ” จงอินถามด้วยสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
คยองซูหัวเราะร่วนก่อนที่จะตอบ
“แล้วจะให้ฉันขออะไรล่ะ ในเมื่อสิ่งที่ฉันต้องการมันก็ยืนอยู่ตรงหน้าฉันแล้วนี่ไง”
ตอนนี้ไม่มีอะไรจะพูดนอกจาก...
เหมือนถูกถีบตกหน้าผาแล้วโดนดึงขึ้นไปบนสวรรค์
(me\\ รัวเลขห้าทั้งน้ำตา)
ความคิดเห็น