ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    K'Casanova คาสโนวี่ครับ ผมผิดไปแล้ว

    ลำดับตอนที่ #9 : 8

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 56


    8

                    หลังจากที่งานจบไปได้ด้วยดีฉันก็เดินไปที่ลานจอดรถเพื่อที่จะออกไปที่ร้านสักหน่อย ว่าจะไปหาอะไรกินแก้ขัดเพราะรู้สึกเบื่อๆ กับงานนี้ซะเหลือเกินและอีกอย่างฉันก็คิดไว้ว่าจะไปซ้อเสื้อผ้า เครื่องสำอางสำหรับการอาศัยอยู่ที่บ้านเซาล์ จะอยู่จนกว่าเกมส์จะจบ

                    “ฉันรู้ว่านายต้องช่วยฉันได้” ฉันพูดกับปลายสายขณะขับรถอยู่บนท้องถนน ที่ซึ่งมีรถแล่นผ่านอยู่มากและก็เป็นกฎจราจรอีกอย่างหนี่งคือการไม่คุยโทรศัพท์ขณะขับรถยกเว้นแต่บลูทูธเท่านั้น แต่ฉันดันไม่สนใจกฎพวกนั้นด้วยการยกโทรศัพท์คุยกันหน้าด้านๆ ซะได้

                    ฉันนี่มันแน่จริงๆ เลยสินะ :P

                    (ช่วยอะไร ถ้าเรื่องผู้ชายฉันขอบาย) ปลายสายพูดอย่างเซ็งๆ ถ้าให้เดาเขาคงจะเครียดกับงานสืบสงสืบสวนมากเกินไปล่ะมั้ง พี่ชายฉันเป็นสายสืบนี่ ถ้าไม่เครียดเรื่องนี้ก็คงไม่รู้จะเครียดเรื่องไรแล้วเพราะพี่คนนี้ซีเรียสกับงานมากกว่าเรื่องอื่นๆ ถึงแม้ตัวเองจะรวยแค่ไหน ต่างกับฉันที่วันๆ เอาแต่ผลาญเงินเล่นๆ ราวกับว่ามันเป็นแค่เศษขี้เล็บเท่านั้นเอง

                    “เอาน่า อย่างน้อยเรื่องนี้มันก็อาจจะทำให้นายสะใจก็ได้นะ”

                    (ว่ามา ถ้าไม่โอฉันคงต้องขอ)

                    “ช่วยกีดลีนินออกจากเซาล์ที ฉันไม่อยากให้คนบริสุทธิ์อย่างเธอต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง!” ฉันรีบโพล่งออกไปก่อนที่เวย์จะปฏิเสธ “นายชอบช่วยเหลือคนไม่ใช่เหรอ ยังไงฉันก็ขอร้องหน่อยล่ะ”

                    เวย์เงียบไปเหมือนกับว่าเขากำลังคิดหนักอยู่(ก็ได้ แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ)

                    “ขอบใจมากเลยนะคุณพี่ชาย แล้วน้องสาวคนนี้จะไม่ลืมบุญคุณเลยล่ะ”

                    (จริงๆ เลย)

                    “แล้วก็อย่าไปตกหลุมรักเธอเข้าล่ะ ฉันไม่อยากให้เธอต้องเสียใจภายหลัง”

                    (ครับๆ แค่นี้ก่อนนะฉันจะทำงาน)

                    ตี๊ด

                    ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่คิดเลยว่าทุกอย่างที่ฉันวางแผนไว้จะเริ่มเป็นไปตามที่ฉันต้องการ แต่สิ่งฉันต้องการจริงๆ ล่ะก็การทำให้เขาต้องเจ็บปวดเหมือนที่ฉันเคยเป็นอยู่นี่ไง!!

                    เข้าใจนะว่าคาสโนว่าเป็นพวกชอบฟันแล้วทิ้งอะไรประมาณนี้ แต่สิ่งที่เขาเคยให้สัญญาไว้กับเวย์และคนอื่นๆ มันทำให้ฉันรู้สึกเสียหน้าอย่างบอกไม่ถูก ฉันอับอายมากเมื่อคนอื่นมาถามว่าเลิกกันแล้วเหรอหรือรักกันไม่นานก็เลิกกันแล้วคู่นี้มันสร้างกระแสจริงๆ ผู้หญิงบางคนที่เคยเป็นของเขาก็ถึงกับสมน้ำหน้าจนฉันแทบจะไม่กล้าออกจากห้องด้วยซ้ำ เห็นมั้ยล่ะว่าเขาทำกับฉันเจ็บแสบไว้เพียงใด

                    ต่อให้เขาหล่อราวเทพบุตรส่งมาเกิดแต่จิตใจเลวทรามนรกส่งมาเกิดแบบนี้ฉันก็ไม่ไหวนะ ผู้หญิงคนอื่นยอมขึ้นเตียงกับเขาเพื่อให้ตัวเองได้มีความสุขชั่วข้ามคืนแต่ไม่เคยได้เป็นเจ้าของหัวใจเขามันก็เจ็บแล้ว แต่ฉันคิดไว้ว่าฉันอาจจะได้เป็นเจ้าของหัวใจของเขาจึงยอมทุกอย่างให้เขาแล้วแต่เขากลับทำอย่างกับฉันเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ แบบนี้จับฉันไปฆ่ายังจะทำใจง่ายกว่านะ

                    เหลือก็แต่ลีนินเท่านั้นแหล่ะ อยู่ที่ว่าถ้าเธอรู้ว่าฉันเคยคบกับเซาล์เธอจะรับได้มั้ย เธอจะคบฉันเป็นเพื่อนรักอยู่หรือปล่าว แต่ที่แน่ๆ เธอคงจะเกลียดผู้ชายคนนั้นไปจนวันตายเพราะเขาทำให้ฉันเจ็บจนแทบจะกระอักเลือดตายอยู่แล้วนี่ไง!

                    ฉันกระดกเบียร์เย็นๆ ลงคอเพื่อดับอารมณ์ที่ขุ่นอยู่ในใจก่อนจะขับตรงไปที่ห้างซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของฉันในการเที่ยวให้หนำใจ คิดไว้ว่าจะซ้อไอโฟนห้าเครื่องใหม่เพราะเครื่องเก่ามันพังไปแล้วก็จะซื้อไอแพตสำหรับใช้เล่นที่บ้านเซาล์ เสื้อผ้า ตุ๊กตา บลาๆๆ

                    เมื่อฉันมาถึงหน้าร้านเค้กที่ซึ่งเป็นร้านที่เวย์และเพื่อนๆ ลงขันกันสร้างขึ้นมาก็พบกับกังฟูและแฟนจอมซ่าของเขา

                    แหมมมม คู่นี่ตั้งแต่คบกันมาไม่เคยอยู่ห่างจากกันเลยนะ

                    “ว่าไงน้องสาว หายหน้าไปนานเลยนะ” เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวทักขึ้นมา

                    ฉันเข้าไปในห้องและไม่ลืมทิ้งขวดเบียร์ไว้ก่อนจะเข้ามา

                    “ฉันไปนับญาติกับนายตั้งแต่เมื่อไร” ฉันพูดด้วยวาจาเสียดสีก่อนจะหย่อนก้นลงบนโซฟาสีฟ้าใกล้ๆ กับโซฟาที่กังฟูและนานานั่งอยู่

                    ในห้องก็มีกันอยู่สามคนเนี่ยแหล่ะ คนอื่นๆ ต่างก็แยกย้ายไปทำธุระนู่นนี่นั่นกันล่ะมั้ง โซฟาที่ใช้ก็จะเป็นไปตามสีที่ทุกคนต้องการ ซึ่งโซฟาที่ฉันนั่งก็จะเป็นสีโปรดของเวย์ ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ฉันจะมานั่งตรงนี้ได้ กระจกใสที่มองไปเห็นผู้คนที่เดินผ่านหน้าร้านนั้นก็ใช่ว่าจะหาเจอตามท้องตลาดได้นะ มันเป็นกระจกที่สั่งมาพิเศษ จึงไม่แปลกว่าทำไมฉันถึงยุ่งกับกระจกนั้นไม่ได้ ห้องนี้อยู่ใกล้เคาน์เตอร์จ่ายเงินเพียงเข้ามาในร้านแล้วเลียวซ้ายก็จะเจอห้องที่สร้างไว้สำหรับเพื่อนๆ ของเวย์นั่นเอง

                    “ทำไมโหดจังเลยอ่ะ ฉันแค่แซวเฉยๆ นะ” ทำเสียงได้น่าหมั่นไส้มากไอ้คุณพี่กังฟู -*-

                    “สมแล้วนี่ ดีนะนายไม่โดนเล่นงานเข้า” นานาอดแซวไม่ได้

                    “ใครมันจะไปโหดอย่างเธอล่ะ เอะอะอะไรก็ต่อยๆ”

                    “เมื่อกี้ว่าอะไรน้า” เธอหันไปค้อนใส่เขา

                    “ปล่าวครับๆ ผมบอกว่าแฟนผมเป็นคนดีรักความสงบ”

                    เกี่ยวมั้ย? ไม่รู้

                    อย่าให้ฉันได้รู้ว่านายพูดอะไรมากกว่านี้ นานากัดฟันชี้หน้า

                    ฉันล่ะอิจฉาผู้หญิงคนนี้จริงๆ เลย ที่มีกังฟูคอยเป็นหวานใจเพราะฉันรู้มาคร่าวๆ ว่าพ่อของเธอมีภรรยาใหม่ซึ่งจะเป็นพวกมารยาเยอะอะไรประมาณนั้น มีครั้งหนึ่งที่ฉันเคยไปเยี่ยมบ้านของเธอพร้อมกับกังฟูหน้าบ้านของเธอติดป้ายไว้ว่าสถานที่นี้ไม่อณุญาตคนมีนาเข้า ใช่ว่าจะมีแค่ป้ายนะภายในบ้านยังมีสติกเกอร์ซึ่งมีรูปสัตว์มีนอติดอยู่โดยมีXทับอยู่ ขนาดฉันยังรู้สึกสะใจตามเธอเลยเพราะดูท่าทีจากแม่ใหม่ของเธอแล้วคงไม่ใช่พวกน่ารักๆ อะไรประมาณนี้หรอก อ้อ! ลืมไปเธอมีฝาแฝดชื่อนานะเป็นแฝดน้องซึ่งมีนิสัยต่างจากเธออย่างคนละขั้ว นานามีนิสัยชอบใช้กำลังเหมือนผู้ชายจึงทำให้กังฟูแอบคิดไปเหมือนกันว่าเธอเป็นทอมหรือปล่าว ผิดกับนานะที่มีนิสัยอ่อนโยนยิ่งกว่าปุยฝ้ายจนน่าถนอม ใช่ว่าเธอจะมีนิสัยดุร้ายนะ แต่เธออ่อนโยนมากจริงๆ

                    แต่อย่างน้อยการที่เธอมีกังฟูมันก็ทำให้ชีวิตที่เคยสิ้นหวังจากการไม่มีแม่แล้วก็สดใสขึ้น นานะก็เหมือนกัน การได้มีกังฟูอยู่เป็นเพื่อนมันก็ทำให้เธอดูมีความสุขมากเลยทีเดียว

                    อยากรู้ว่าหมอนี่มันมีอะไรดีนอกจากกวนประสาทฉันเล่นเนี่ย

                    คร้าบๆ

                    ว่าแต่นิวเยียร์มีอะไรเหรอ ทำไมช่วงนี้ฉันไม่ค่อยได้เจอเธอเลยล่ะ

                    พอดีฉันไม่อยากไปไหนมาไหนมาก

                    เฮอะ~ วันๆ เอาแต่เข้าผับล่ะสิไม่ว่า ฉันแอบได้ยินเสียงอีตากังฟูพึมพำ

                    มันเป็นความสุขส่วนตัวของฉันย่ะ ฉันเชิดหน้าและพูดจาประชดประชัน ว่าแต่นานะหายไปไหนแล้วล่ะ

                    ยัยนั่นออกไปเดินเล่นน่ะ

                    อ๋อ... ว่าแต่นานาเบื่อมั้ยล่ะ จะไปซื้อของกับฉันก็ได้นะ

                    เบื่อสิ เบื่อมากด้วย

                    เฮ้ๆ อย่าทิ้งผมไว้คนเดียวสิครับ!” คนถูกทิ้งรีบแย้ง

                    นายเฝ้าร้านไปเลย เผื่อลูกค้าเข้าเยอะนายจะได้ไปช่วยยังไง นานาทำตาขวาง

                    อะไรอ่ะ ใจร้ายยยย TOT”

                    ไปกันเถอะ อย่าเสียเวลากับคนปัญญอ่อนอย่างหมอนี่เลย ฉันหันหลังเดินออกจากห้อง

                    ถึงฉันจะปัญญาอ่อนแต่ฉันก็ไม่ได้บ้านะ!”

                    นายมันทั้งปัญญาอ่อนและบ้าต่างหากล่ะ

                    ฉันและนานาเดินผ่านร้านนู่นร้านนี่ไปเรื่อยเปลื่อยซื้อบ้างไม่ซื้อไปตามๆ กัน แต่ตอนนี้ฉันและนานาก็อยู่ในร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นแล้วล่ะ

                    นานาว่าชุดนี้สวยมั้ยๆ ฉันถามเธอขณะที่มองชุดนั้นอยู่

                    โหยยย ทำไมนิวเยียร์แต่งตัวโป๊จังอ่ะ

                    ไม่รู้สิ ฉันไม่ค่อยชอบใส่ยาว มันอึดอัดจะตายอยู่แล้ว

                    ถ้านิวเยียร์ว่าสวยนานาก็เห็นด้วยก็แล้วกัน

                    เจอกันอีกแล้วนะนิวเยียร์ เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นจากข้างหลังฉัน พอฉันหันใจก็แทบจะหุบเสียงกรี๊ดไม่ได้เมื่อร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังนั่นดูเท่จนบอกไม่ถูก

                    คิมหันต์!” กรี๊ดๆๆ พรหมลิขิตบรรดารให้พัดพามาเจอกัน~

                    คนตัวสูงยิ้มบางๆ แต่มันดูมีเสน่ห์จะบอกไม่ถูก

                    แล้วนายมาทำอะไรที่นี่เหรอ ไม่ใช่ฉันที่พูดออกไปแต่เป็นนานาที่แทรกแทน

                    ก็มาเที่ยวเฉยๆ ไม่คิดว่าจะเจอเธอหรอก

                    -*-

                    รู้จักกันด้วยเหรอ ฉันพูด

                    รู้จักสิ เมื่อก่อนฉันเคยเรียนที่เดียวกันกับหมอนี่น่ะ

                    อ้อ~”

                    งั้นฉันไปก่อนนะ พอดีต้องรีบไปทำธุระ

                    ไปแล้วเหรอ ฉันพูดเสียงแผ่ว งั้นเจอกันวันหลังนะ

                    ถ้าเธอไปผับบ่อยๆ น่ะนะ คิมหันต์ยกมือมายีหัวเบาๆ

                    ถึงเราจะเจอกันแค่วันเดียวแต่มันกลับทำให้ฉันรู้สึกว่าเราสนิทกันเพียงชั่วพริบตา 


     
    Lambo-san theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×