ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    K'Casanova คาสโนวี่ครับ ผมผิดไปแล้ว

    ลำดับตอนที่ #12 : 11

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 56


    11

                    ฉันให้ตอบคำถามจากพิธีกรอย่าเคอะเขิน แหมมม ก็มันไม่ชินเมื่ออยู่หน้ากล้องนี่นา มือใหม่ก็แบบนี้ล่ะ :P

                    “ยังไงก็อย่าลืมตามมาเชียร์SNในงานครั้งต่อไปนะคะ แล้วนิวเยียร์จะไม่ทำให้พวกคุณผิดหวังเลย” ฉันยิ้มหวานให้กับกล้องซึ่งถ่ายทอดสดผ่านช่องเคเบิลทีวี ช่องนี้เป็นช่องเกี่ยวกับล้วงลับเรื่องเซเลบอะไรพวกนี้ วงที่ฉันอยู่ก็เป็นอีกหนึ่งวงที่ใครๆ ก็อยากมาถ่ายรายการด้วย แต่เสียใจนะจ้ะที่นานๆ ทีพวกเราจะได้ออกกล้อง เพราะว่าเราต้องซ้อมหนักและไม่ค่อยชอบการสร้างภาพ ดังนั้นพวกที่จะมาเป็นแฟนคลับต้องยอมรับในนิสัยของแต่ละคนด้วย ภายนอกพวกเราอาจจะดูเหมือนผู้หญิงใสๆ แต่ความจริงก็คือความจริง ไม่มีใครในวงที่จะสามารถสร้างภาพได้ตลอดหรอก ถ้าทำได้เป็นวันคงอกแตกตายกันพดี

                    “เอาล่ะค่ะ มีการพบก็ต้องมีการจาก ยังไงก็ขอจากกันไปก่อน พรุ่งนี้เราอาจจะไปเจาะดาราที่คุณชื่นชอบก็ได้ ติดตามได้ในวันพรุ่งนี้ วันนี้ฝันดีราตรีสวัสนะคะ” ทั้งฉันและพิธีกรก็โน้มศรีษะไหว้อำลาผู้ดู แล้วหลังจากนั้นฉันก็ขอตัวกลับเข้าไปซ้อมต่อ

                    “เป็นไงมั่ง” เมลถาม

                    “ก็แค่ถามคำถามเรื่อบเปื่อยนั่นแหล่ะ”

                    “ก็อย่างนี้ล่ะนะ พวกเหลิงคนดังน่ะ” ซานตี้ที่ยืนอยู่หน้ากระจกก็พูดขึ้น “เอาเป็นว่าซ้อมต่ออีกสักเพลงแล้วก็กลับบ้านได้เลยนะ”

                    “จัดไป อย่าให้เสีย” จัสมินดีดนิ้วดังเปาะก่อนจะไปเปิดเพลงเพื่อซ้อมต่อ

     

                    นี่มันก็เกือบจะตีสามแล้วด้วยซ้ำ แล้วไหนตอนแรกบอกจะซ้อมอีกเพลงเดียวแล้วจะกลับเลยทำไมยังได้ซ้อมต่อจนถึงตีสามแล้วเนี่ย

                    ฉันนั่งหาวอยู่ใกล้ๆ ประตูทางออก ตอนแรกซ้อมเพลงเดียวจบนะแต่ยัยทอฝันนี่สิดันมาเต้นผิด!! พวกเราก็เลยต้องซ้อมแล้วซ้อมเล่า กว่าจะพร้อมกันก็เกือบจะตีสองครึ่ง เกือบจะได้กลับแล้วแต่ยัยซานตีดันมาขอให้ซ้อมอีกเพื่อความชัวร์ ฉันก็เลยง่วงจนต้องออกไปหาซื้อกาแฟมาสักสองสามแก้วเลยล่ะ

                    “ฉันว่านิวเยียร์ไม่ไหวแล้วแน่ๆ กลับกันดีกว่านะซานตี้” ตินตินที่เห็นสภาพฉันไม่ไหวจึงหันไปขอร้องซานตี้

                    “ก็ว่าอย่างนั้นแหล่ะ อืม...งั้นวันนี้ไม่ต้องซ้อมแล้วนะ เอาไว้ซ้อมพรุ่งนี้เลยก็แล้วกัน”

                    “ยิปปี้!

                    “นิวเยียร์ นิวเยียร์ เฮ้อย่าเพิ่งหลับสิ กลับได้แล้ว”

                    “หืมมม” ฉันค่อยๆปรือตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ นี่ฉันหลับไปตั้งแต่เมื่อไรเนี่ยเมื่อกี้ก็ยังนั่งสัปหงกอยู่เลย

                    พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นเมโลดี้นั่งอยู่ข้างหน้าฉันแล้ว

                    “กลับบ้านได้แล้วจ้ะ” เธอส่งยิ้มหวานมาให้ ใครจะรู้ล่ะว่ารอยยิ้มของเธอนั้นดูมีเสน่ห์มากพร้อมที่จะสยบผู้ชายได้เป็นร้อยๆ

                    “อะ...อื้ม”

                    ฉันลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าที่วางไว้ข้างๆ เสาแล้วเดินออกไปจากห้องด้วยท่าทีมึนๆทั้งๆ ที่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน

                    โป้ก!

                    “โอ้ยยย เอาอีกแล้วนะเราน่ะ” ซวยจริงๆ เลยเรา ทำไมต้องเดินมาชนเสาด้วยเนี่ย

                    ฮึ่ยย

                    “เป็นอะไรหรือปล่าว” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้อ้าปากด่าเสาบ้านี่ก็มีเสียงนุ่มทุ้มของใครบางคนดังขึ้น ฉันเงยหน้ามองเจ้าของเสียงก็ถึงกับอึ้งไป

                    “นายมาทำไม” ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ และถามเขาเสียงปกติ

                    “ก็มาตามหาเธอยังไงล่ะ” เซาล์ขมวดคิ้วเป็นปม ให้เดานะ... เขาคงจะรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนก็เพราะเขาอาจจะไปเปิดดูรายการเจ๊าะเจาะอะไรนั่นก็ได้

                    “แล้วมาตามหาฉันทำไมเล่า ฉันมีรถของฉันเองฉันก็กลับเองได้นี่”

                    “นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว อีกอย่าง...ฉันก็ขี้เกียจมารอเธอเข้าบ้านด้วย”

                    “รอทำไม”

                    “ก็...ก็ฉันรอปิด...ปิดบ้านอยู่ไงล่ะ” ให้ตายๆ นี่เขาไปติดอ่างมาจากใครล่ะเนี่ย ดูตอบเข้า

                    “เอาความจริง อย่าโกหก” ฉันกอดอกมองเขาตาเขม่น

                    “นี่ไงความจริง” คนโกหกเบือนหน้าหนี

                    “หึ”

                    “อะไรของเธอ กลับบ้านได้แล้ว”

                    “มาง้อฉันก็ไม่บอก”

                    “...!!!

                    “พูดดีๆ สิคะสุดหล่อ” ฉันยิ้มกวนประสาทก่อนจะเดินไปตบไหล่เขาเบาๆ

                    หมับ!

                    “ขอโทษ

                    ฉันถึงกับพูดไม่ออกเลย คนอย่างเขาเนี่ยนะจะมาพูดขอโทษกับคนอื่นเป็นด้วย แถมไม่พอยังจะมากอดฉันจากทางด้านหลังด้วย

                    ลมหายใจอุ่นๆ รินรดอยู่บริเวณใบหน้าฉัน หัวใจของฉันก็ถึงกับเต้นรัวทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

                    “ขอโทษที่ฉันใช้อารมณ์กับเธอมากไปหน่อย”

                    “บ้าน่า คนอย่างนายพูดคำว่าขอโทษเป็นด้วยเหรอ”

                    “ฉันก็มีหัวใจเหมือนคนทั่วๆ ไปนะ”

                    “เอาเป็นว่านายปล่อยฉันได้แล้ว ดูสิซานตี้กับตินตินมองใหญ่แล้ว” ใช่แล้วล่ะ ตอนที่เขาเข้ามากอดฉันเป็นตอนที่ซานตี้กับตินตินเดินมาพอดี ฉันทั้งอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหนแล้ว

                    “จนกว่าเธอจะยกโทษ ฉันจะไม่ปล่อย”

                    ต๊ายยยยยตาย วันนี้คงมีหิมะตกหรือไฟไหม้บ้านแน่ๆ ดูสิหมอนี่มาทำตัวง้องแง้งใส่ฉันอีก

                    พระเจ้า!!

                    “ยกโทษให้แล้ว ปล่อยฉันสักทีสิ” ยิ่งฉันพยายามดันเขาออก อีตานี่ก็ยิ่งกอดดแน่นขึ้น

                    ฉันล่ะอยากจะกรี๊ดลั่นตึกจริงๆ เลย

                    “ตัวเธอนุ่มจัง”

                    “นุ่มตรงไหน ตัวฉันเหงื่อเต็มตัวแล้วนะ เหม็นก็เหม็นนายปล่อยฉันสักทีจะได้มั้ยเซาล์”

                    “งั้น...หลังอาบน้ำเสร็จคืนนี้เธอมาเป็นหมอนข้างให้ฉันสิ”

                    “ฉันรู้ความหมายนายนะ” ฉันเอ่ยเสียงต่ำ

                    “เบื่อจริงคนรู้ทัน” คราวนี้เขายอมปล่อยฉันออกมาแต่โดยดีแถมยังเดินนำหน้าไปด้วยท่าทีเซ็งๆ

                    “อย่ามองนิวเยียร์ด้วยสายตาแบบนั้นสิซานตี้” แหงล่ะสิ ก็ซานตี้มองฉันเหมือนจะคิดเรื่องฉันกับเซาล์ไปไกลแล้ว ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

                    ไม่มีเลย...

                    “ฮ้าววว ง่วงฉะมัด” พอมาถึงบ้านฉันก็เดินหาววอดๆ ขณะกำลังจะขึ้นห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำ

                    ส่วนหมอนั่นน่ะเหรอ...หึ! เดินเข้าห้องไปแล้ว ปล่อยให้ฉันล็อคบ้านอยู่คนเดียว

                    การที่มาขออยู่บ้านเขาเนี่ยมันเป็นอะไรที่ต้องใช้ความกล้าสูงมาก ซึ่งผู้หญิงทั่วไปคงต้องทำใจไปอีกนานแต่สำหรับฉันมันคือเรื่องธรรมดาไปแล้ว ถ้าจะพูดให้ถูกก็คงหน้าด้านหน้าทนล่ะมั้ง

                    “หิวจังเลย ไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เย็นเมื่อวานแล้ว” เพราะว่ามัวแต่ยุ่งเรื่องซ้อมแล้วแทนที่จะได้ทานมื้อค่ำกับหมอนั่นแต่ดันฟิวส์ขาดซะนี่ เลยไม่ได้ทานอะไรลงกระเพาะเลย

                    ทั้งหิวทั้งง่วง มันช่างเป็นอะไรที่ทรมานเหลือเกิน

                    “ถ้ากินตอนนี้แล้วนอนน้ำหนักได้เพิ่มแน่ๆ แต่ถ้าไม่ได้กินมีหวังได้นอนโอดโอยทั้งคืนเพราะน้ำย่อยหลั่งเต็มกระเพาะอีก โอ้ยยยยย” ฉันทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มพลางบ่นนู่นนี่นั่น


     
    Lambo-san theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×