ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    K'Casanova คาสโนวี่ครับ ผมผิดไปแล้ว

    ลำดับตอนที่ #11 : 10

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 56


    10

                    ฉันวางสเต๊กปลาแซลมอนที่เพิ่งเสร็จมาหมาดๆ วางบนโต๊ะอาหารด้วยความเหน็ดเหนื่อย อาหารที่ทำในวันนี้ฉันทำได้เป็นสิบเมนูเลยล่ะและจะทำได้มากกว่านี้ถ้าไม่ติดว่าไปหาเรื่องคุณโอโซนเข้า ฉันไม่ลืมที่จะเทไวน์ลงบนแก้วไวน์คริสตัลราคาแพงแต่ฉันไม่ได้จ่ายเองหรอก อันที่จริงมันอยู่ในตู้ฉันเห็นมันดูมีราคาและเหมาะกับอาหารพวกนี้ดีก็เลยหยิบมา

                    อาหารครบแล้วขาดแต่คนโกรธที่หายไปไหนไม่รู้เนี่ย

                    แหงล่ะสิก็ตอนนี้มันจะทุ่มนึงแล้วนะเขาไปไหนตั้งหลายชั่วโมง

                    เสียงนาฬิกาที่คอยบอกเวลามันทำให้ฉันที่นั่งถือเทียนอยู่เริ่มท้อลงเรื่อยๆ หัวใจของฉันเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที

                    สี่ทุ่มแล้วนะทำไมเขาไม่มาสักที

                    เขาจะยังโกรธฉันจนไปนอนที่อื่นหรือปล่าว

                    หรือว่าเขาจะไปที่ผับกันนะ

                    หรือว่าจะอยู่ที่ร้าน คงไม่หรอกมั้งเพราะตอนนี้ห้างก็ปิดแล้วนี่นา

                    หรือว่าเขาจะไม่กลับมาแล้ว

                    คงไม่หรอกมั้งเพราะที่นี่เป็นบ้านของเขานี่นา

                    หรือว่าเขาจะอยู่กับผู้หญิงที่ไหนหรอปล่าว

                    ฉันกำหมัดแน่นด้วยความแค้น ไม่รู้ว่าจะต้องไปแคร์ผู้ชายอย่างเขาทำไมกัน จะไปนอนกับผู้หญิงจนเป็นเอดส์ก็เรื่องของเขาสิ ฉันจะไปสนใจทำไมกัน

                    แต่ว่าไม่รู้ทำไมยิ่งคิดแล้วฉันยิ่งเจ็บใจยิ่งนัก ฉันมาเพื่อให้เขาเจ็บปวดไม่ใช่มาเพื่อให้ตัวเองเจ็บปวดแทนนี่นา

                    “โว้ยยยยยยย ไม่รู้ไม่สนอะไรมันแล้ว!!!

                    โครมมมม

                    เพล้งงง

                    ตุ้บ

                    เพล้งงงง

                    ฉันเดินไปจุดบุหรี่แล้วเดินไปหยิบกุญแกรถยนต์พลางสูบสุหรี่เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง ไม่ต้องกินอะไรมันละอาหารที่ฉันทำเนี่ย อย่างเขาคงจะกินผู้หญิงจนข้าวปลาไม่คิดจะกินด้วยซ้ำไปมั้ง

                    ช่างหัวมันปะไร!

                    My Charater [South]

                    ตอนนี้ผมนั่งกระดกเบียร์อยู่ข้างๆ ผีเสื้อราตรีคนคนนี้ไม่เคยทำให้ผมต้องผิดหวังเลยตั้งแต่ผมเรียกให้เธอมานั่ง เธอทำตามใจผมทุกอย่างจนผมเริ่มหายหงุดหงิดหลังจากมีเรื่องกับยัยบ้านั่น

                    “ฉันว่าแกควรเอาใจผู้หญิงบ้างก็ได้นะ” ดราฟพูด แปลกใจเหมือนกันนะว่าคนฉลาดๆ อย่างหมอนี่เข้าผับเข้าบาร์เป็นด้วยเหรอ ทุกทีเห็นหมกมุ่นแต่เรื่องความรู้ไปวันๆ และผมก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมมันถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา

                    “ยังไง?”

                    “แกน่ะเอาแต่ใจตัวเอง คิดอยากได้อะไรก็อยากได้”

                    “แล้ว

                    “ผู้หญิงน่ะเป็นเพศที่ขี้งอนที่สุด”

                    “แกจะพูดอะไรก็พูดมาเถอะ” ให้ตาย! มันรู้ตัวบ้างมั้ยว่ามันทำให้ผมเริ่มจะหัวเสียแล้วนะ

                    “กลับไปง้อนิวเยียร์ซะ ถ้าแกไม่อยากเจอดีเข้า”

                    “หมายความว่ายังไง”

                    “อันนี้ฉันก็ไม่สามารถบอกนายได้เหมือนกัน”

                    “เซาล์คะ อย่าไปสนผู้หญิงคนนั้นเลยค่ะ” พรีไนท์พูดเสียงขุ่นเหมือนไม่พอใจ แหงล่ะสิผู้หญิงที่ได้ใกล้ชิดกับผมก็ไม่อยากให้ผมไปไหนอยู่แล้วล่ะ

                    “ฉันว่าตุ๊กตาอย่างเธอเงียบไปเลยดีกว่า คนไม่มีค่าอย่างเธอไม่ควรจะมายุ่งกับเรื่องพวกนี้” คิมหันต์พูด พรีไนท์ทำตาเขียวใส่เขาแต่ไม่สามารถเถียงหรือโต้ตอบเขาด้วยคำพูดจิกกัดไม่ได้เพราะเธอก็รู้สถานะเธอดีว่าเธอก็เป็นได้แค่ของเล่นของผมจริงๆ

                    “แล้วฉันก็ขอเตือนแกอย่างหนึ่งเลยนะ” ไอ้ดราฟพูดต่อพลางกระดกเหล้าลงคอ ผมก็อึ้งอย่เหมือนกันทุกทีมันบอกว่ากินเหล้ามากจะมีผลต่อสมอง แต่นี่มันกินต่อหน้าต่อตาผมเลยนะ! “แกอย่าไปหลงรักยัยนิวเยียร์เข้าล่ะ หวังว่าฉันคงจะเตือนแกทันอยู่ใช่มั้ย” มันหรี่ตามองผมอย่างสงสัย

                    “ฉันจะไปชอบได้ยังไงล่ะ” ผมตอบเสียงแข็งแต่ไม่รู้ว่าทำไมต้องเบือนหน้าไปทางอื่นด้วย

                    หวังว่าผมคงจะไม่หลงรักเธอตั้งแต่เห็นเธอนอนสลบอยู่ที่หน้าบ้านหรอกนะ

                    “กลับไปง้อนิวเยียร์ซะ” คิมหันต์พูดแทรก อะไรของมันอ่ะจู่ๆ จะให้ผมไปง้อเธอเนี่ยนะ มันดูแสลงหูยังไงไม่รู้แฮะ ถึงแม้ผมจะเคยทำกับผู้หญิงคนอื่นดูบ้างแต่ถ้ากับยัยนั่นผมขอบายล่ะยิ่งช่วงนี้ยัยนั่นมาอยู่ที่บ้านผมด้วย

                    ความจริงผมก็กลัวยัยนั่นจะตามตื้อผมด้วยซ้ำไป และเสียใจด้วยนะที่ผมไม่ชอบคนเซ้าซี้ มันน่ารำคาญ!

                    ผมกระดกเบียร์ด้วยอารมณ์ขุ่น “แสดงว่าฉันผิด?”

                    “เออ!” รวมหัวกันอีกนะไอ้พวกนี้

                    จริงๆ ผมก็ผิดอยู่แหล่ะที่ไม่มีเหตุผลในการอ้างเธอแล้วทำเป็นหัวเสียออกจากบ้านไป(ที่จริงอารมณ์ไม่ดีเพราะไม่อยากขายขี้หน้ายัยนั่นมากกว่า) แต่ทำไงได้ล่ะผมไม่อยากยอมรับความผิดนี่นา รู้อยู่ว่าผมเป็นคนเอาแต่ใจอยากได้อไรก็ได้ใครขัดขืนมันผู้นั้นได้เจอดีกับผมอย่างแน่นอน

                    สุดท้ายผมก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมๆ กับพรีไนท์ที่ยังควงแขนผมอยู่ข้างๆ เธอเดินเคียงข้างผมระหว่างที่เรากำลังเดินไปที่รถโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราะเธอก็รู้ดีว่าถ้าพูดอะไรไม่เข้าเรื่องชีวิตเธอจะจบแบบไหน

                   

                    ผมและพรีไนท์เดินเข้าบ้านไม่กี่ก้าวก็เห็นโอโซนเชฟฝีมือดีที่คอยทำอาหารให้ผมกำลังเก็บกวาดเศษจานอยู่ ปากก็บ่นไปสารพัดอย่าง

                    เขาจิกหางตามาทางผมราวกับจะฆ่าฟันกันเลยด้วยซ้ำ

                    “มาก็ดีเลย นายรู้มั้ยว่าฉันต้องทนเก็บเศษอาหารที่เลอะเต็มโต๊ะนี่จนแทบจะสำรอกกลิ่นออกมาอยู่แล้วนะ” เจ้าของนัยน์ตาสีควันบุหรี่ยื่นที่ตักผงมาให้ผมหลังจากที่ผมก้าวไปหามัน “ที่เหลือฝากจัดการด้วยนะ คนจะหลับจะนอนต้องมาเสียอารมณ์เพราะแกนั่นแหล่ะ”

                    “ฉันไปทำอะไรตอนไหนล่ะ”

                    “ผู้หญิงที่มาอยู่บ้านแกนั่นแหล่ะ เธออุส่าห์ทำอาหารให้แกเชียวนะเสียดายที่แกทำมันพังเอง”

                    “อ่าว มาโทษกันแบบนี้ได้ยังไงล่ะ

                    “ก็เพราะแกมัวแต่ไปสนใจเรื่องผู้หญิงคนอื่นยังไงเล่า!!” โอโซนตะโกนเสียงดังอย่างเหลืออด ผมก็อึ้งไปเหมือนกันว่าผมเป็นสาเหตุเหรอ ผมไปทำอะไรผิดอ่ะ

                    “อย่าไปสนเลยค่ะเซาล์ ปล่อยให้เขาทำเถอะ ส่วนเราก็ขึ้นห้องได้แล้ว” พรีไนท์พูดขึ้น เธอพยายามดึงแขนผมไปแต่ผมกลับยืนนิ่งเหมือนรูปปั้น

                    “ยังจะหน้าด้านพูดมาได้นะ” โอโซนพูด

                    “เซาล์

                    “กลับไป” ผมเอ่ยเสียงแผ่ว

                    “แต่ว่า

                    “ฉันบอกให้กลับไปยังไงเล่า!” ผมตวาดเสียงดังลั่นบ้าน ร่างกายของเธอสั่นเทาไปด้วยความกลัวแต่สุดท้ายเธอก็ยอมเดินออกจากบ้านผมไปโดยดี

                     เมื่อพรีไนท์ออกไปจากบ้านโอโซนก็เล่าทุกอย่างให้ผมฟัง มันบอกว่าตอนแรกที่เห็นนิวเยียร์มันก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเพราะเธอดูมีมารยาเยอะเกินและเธอและมันก็เกือบจะมีเรื่องกันเลยด้วยซ้ำไป โชคดีที่มันใจเย็นพอที่จะไม่ทำอะไร พอตอนสี่ทุ่มที่โอโซนนั่งดูทีวีอยู่ในบ้านมันก็ได้ยินเสียงโวยวายของเธอดังขึ้นพร้อมกับเสียงข้าวของภาชนะแตกมันก็เลยมาดูก็เห็นว่ามีเศษอาหารเกลื่อนเต็มพื้น ตอนนั้นมันแทบจะระเบิดอารมณ์เลยนะแต่ด้วยความที่มันไม่ใช่เจ้าของบ้านมันก็เลยทำอะไรไม่ได้นอกจากฝืนเก็บให้

                    ผมก็รู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกันนะ หมอนี่บอกเอาไว้ว่าอาหารที่เธอทำคงจะเป็นอาการฝรั่งเศสเพราะมีเส้นพาสต้าและแฮมเกลื่อนเลย

                    “วันหลังอย่าทำอีกล่ะ ฉันไม่อยากเสียเวลานอนมาเก็บเศษจานอีกแล้ว” โอโซนพูดขณะล้างมือหลังจากที่ช่วยกันเก็บเสร็จ

                    “อะไร ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้อยู่แล้วนี่”

                    “หัดเอาใจเขามาใส่ใจเราก็ดีนะ ถ้าแกไม่รู้จักคำคำนี้แกคงจะไม่สามารถรักใครเป็นแล้ว” มันเดินมาตบไหล่ผิดเบาๆ แล้วเดินออกไป

                    แต่ละคนที่พูดออกมาเหมือนมันจะรู้ว่าผมชอบนิวเยียร์หรือเป็นแฟนกับเธออยู่นะ ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับเธออยู่แล้ว

                    “ให้ตายๆๆๆ” ผมสบถอย่างหัวเสียเดินขึ้นห้องนอนตัวเองไปเพื่ออาบน้ำชำระล้างเศษอาหารที่ติดตามซอกเล็บและขจัดความหงุดหงิดที่อยู่ในสมอง

                    หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็มานั่งดูดบุหรี่ที่ห้องนั่งเล่น ถ้าพ่อแม่ผมอยู่คงจะโดนบ่นจนหูชาไปแล้วแน่ๆ แต่ถ้าเป็นยัยนั่นคงจะขอร่วมแจมด้วยล่ะมั้ง แล้วทำไมผมต้องนึกถึงยัยนั่นด้วยนะ!

                    (สวัสดีค่ะท่านผู้ชม วันนี้รายการเจ๊าะเจาะก็ได้เดินทางมายังตึกSN. เพื่อแนะนำสมาชิกคนใหม่ของวง รับรองเซอร์ไพร์สแน่ๆ) เสียงพิธีกรในรายการอะไรไม่รู้พูดขึ้น ผมไม่สนใจหรอกแค่เปิดไว้ดับความเงียบเฉยๆ

                    พิธีกรสาวเดินไปยังห้องห้องหนึ่งซึ่งเธอบอกไว้ว่าวงนี้กำลังซ้อมเต้นกันอยู่ด้วยสิ รายการนี้คงจะเป็นรายการถ่ายทอดสดล่ะมั้ง เพราะตอนนี้มันก็ดึกมาแล้ว แต่ให้ตาย! ผมสังเกตได้ว่าวงนี้มีแฟนคลับเยอะจริงๆ ผมเหลือบไปเห็นข้อความSMSที่แฟนคลับส่งมาโผล่ขึ้นใต้คลิปรายการ ข้อความมันเยอะจนผมน่าทึ่งอ่ะ

                    (เอาล่ะค่ะ) เธอค่อยๆ เปิดประตูไปทีละนิด(จ๊ะเอ๋!!)

                    (กรี๊ดดด) และแน่นอนผลสุดท้ายคือมันต้องมีเสียงหลงของใครบางคนแน่ๆ

                    (สวัสดีค่ะ วันนี้รายการเจ๊าะเจาะจะมาเจาะเรื่องสมาชิคคนใหม่ของวง มิทราบว่าเป็นผู้ใดขอให้ยกมือขึ้น)

                    พรึบ

                    ทุกสายตาของคนในวงก็หันไปยังหญิงสาวร่างบางเจ้าของรอยสักมังกรที่เห็นได้ชัดจากการที่เธอสวมเสื้อเอวลอยทำให้เห็นถึงมังกรที่รายล้อมอยู่รอบเอวเธอนั่นเอง ทันทีที่ผมเห็นเธอผมก็อึ้งนะ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็รู้อยู่แล้วว่าเธออยู่วงนี้ แต่ว่าการแสดงของเธอต่อหน้ากล้องมันทำให้ผมอึ้งไปตามๆ กัน แหงล่ะสิ ก็ตอนที่กล้องจับภาพเธอได้พอดีเธอก็ทำท่าซะเซ็กซ่ซะขนาดนี้ ขัดกับการแต่งกายของเธอที่ดูมาดเท่ปนเซ็กซี่นิดๆ นี่สิ และทันใดนั้นเองสายตาของผมก็เหลือไปเห็นข้อความจากผู้ชมทางบ้านส่งมาว่า โอ้โห เจอครั้งแรกก็สวยเอ็กซ์ซะขนาดนี้ ถ้าเจอทุกวันผมไม่ใจสลายตาเลยล่ะ

                    ผมพ่นควันบุหรี่สีเทาฟุ้งไปทั่ว “ร้ายนะเราน่ะ”

                    (เฮเฮ้ ในที่สุดความลับก็เปิดเผยแล้ว เรามารู้จักกับเธอคนนี้กันเลยดีกว่าค่ะ)

                    นิวเยียร์เขยิบมาใกล้ชิดกับพิธีกรด้วยท่าทางเขินๆ อืมก็น่ารักไปอีกแบบนี่

     
    Lambo-san theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×