คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : 10
10
ฉันวางสเต๊กปลาแซลมอนที่เพิ่งเสร็จมาหมาดๆ วางบนโต๊ะอาหารด้วยความเหน็ดเหนื่อย อาหารที่ทำในวันนี้ฉันทำได้เป็นสิบเมนูเลยล่ะและจะทำได้มากกว่านี้ถ้าไม่ติดว่าไปหาเรื่องคุณโอโซนเข้า ฉันไม่ลืมที่จะเทไวน์ลงบนแก้วไวน์คริสตัลราคาแพงแต่ฉันไม่ได้จ่ายเองหรอก อันที่จริงมันอยู่ในตู้ฉันเห็นมันดูมีราคาและเหมาะกับอาหารพวกนี้ดีก็เลยหยิบมา
อาหารครบแล้วขาดแต่คนโกรธที่หายไปไหนไม่รู้เนี่ย
แหงล่ะสิก็ตอนนี้มันจะทุ่มนึงแล้วนะเขาไปไหนตั้งหลายชั่วโมง
เสียงนาฬิกาที่คอยบอกเวลามันทำให้ฉันที่นั่งถือเทียนอยู่เริ่มท้อลงเรื่อยๆ หัวใจของฉันเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที
สี่ทุ่มแล้วนะ…ทำไมเขาไม่มาสักที
เขาจะยังโกรธฉันจนไปนอนที่อื่นหรือปล่าว
หรือว่าเขาจะไปที่ผับกันนะ
หรือว่าจะอยู่ที่ร้าน คงไม่หรอกมั้งเพราะตอนนี้ห้างก็ปิดแล้วนี่นา
หรือว่าเขาจะไม่กลับมาแล้ว
คงไม่หรอกมั้งเพราะที่นี่เป็นบ้านของเขานี่นา
หรือว่าเขาจะอยู่กับผู้หญิงที่ไหนหรอปล่าว
ฉันกำหมัดแน่นด้วยความแค้น ไม่รู้ว่าจะต้องไปแคร์ผู้ชายอย่างเขาทำไมกัน จะไปนอนกับผู้หญิงจนเป็นเอดส์ก็เรื่องของเขาสิ ฉันจะไปสนใจทำไมกัน
แต่ว่า…ไม่รู้ทำไมยิ่งคิดแล้วฉันยิ่งเจ็บใจยิ่งนัก ฉันมาเพื่อให้เขาเจ็บปวดไม่ใช่มาเพื่อให้ตัวเองเจ็บปวดแทนนี่นา
“โว้ยยยยยยย ไม่รู้ไม่สนอะไรมันแล้ว!!!”
โครมมมม
เพล้งงง
ตุ้บ
เพล้งงงง
ฉันเดินไปจุดบุหรี่แล้วเดินไปหยิบกุญแกรถยนต์พลางสูบสุหรี่เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง ไม่ต้องกินอะไรมันละอาหารที่ฉันทำเนี่ย อย่างเขาคงจะกินผู้หญิงจนข้าวปลาไม่คิดจะกินด้วยซ้ำไปมั้ง
ช่างหัวมันปะไร!
My Charater [South]
ตอนนี้ผมนั่งกระดกเบียร์อยู่ข้างๆ ผีเสื้อราตรีคนคนนี้ไม่เคยทำให้ผมต้องผิดหวังเลยตั้งแต่ผมเรียกให้เธอมานั่ง เธอทำตามใจผมทุกอย่างจนผมเริ่มหายหงุดหงิดหลังจากมีเรื่องกับยัยบ้านั่น
“ฉันว่าแกควรเอาใจผู้หญิงบ้างก็ได้นะ” ดราฟพูด แปลกใจเหมือนกันนะว่าคนฉลาดๆ อย่างหมอนี่เข้าผับเข้าบาร์เป็นด้วยเหรอ ทุกทีเห็นหมกมุ่นแต่เรื่องความรู้ไปวันๆ และผมก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมมันถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา
“ยังไง?”
“แกน่ะเอาแต่ใจตัวเอง คิดอยากได้อะไรก็อยากได้”
“แล้ว…”
“ผู้หญิงน่ะเป็นเพศที่ขี้งอนที่สุด”
“แกจะพูดอะไรก็พูดมาเถอะ” ให้ตาย! มันรู้ตัวบ้างมั้ยว่ามันทำให้ผมเริ่มจะหัวเสียแล้วนะ
“กลับไปง้อนิวเยียร์ซะ ถ้าแกไม่อยากเจอดีเข้า”
“หมายความว่ายังไง”
“อันนี้ฉันก็ไม่สามารถบอกนายได้เหมือนกัน”
“เซาล์คะ อย่าไปสนผู้หญิงคนนั้นเลยค่ะ” พรีไนท์พูดเสียงขุ่นเหมือนไม่พอใจ แหงล่ะสิผู้หญิงที่ได้ใกล้ชิดกับผมก็ไม่อยากให้ผมไปไหนอยู่แล้วล่ะ
“ฉันว่าตุ๊กตาอย่างเธอเงียบไปเลยดีกว่า คนไม่มีค่าอย่างเธอไม่ควรจะมายุ่งกับเรื่องพวกนี้” คิมหันต์พูด พรีไนท์ทำตาเขียวใส่เขาแต่ไม่สามารถเถียงหรือโต้ตอบเขาด้วยคำพูดจิกกัดไม่ได้เพราะเธอก็รู้สถานะเธอดีว่าเธอก็เป็นได้แค่ของเล่นของผมจริงๆ
“แล้วฉันก็ขอเตือนแกอย่างหนึ่งเลยนะ” ไอ้ดราฟพูดต่อพลางกระดกเหล้าลงคอ ผมก็อึ้งอย่เหมือนกันทุกทีมันบอกว่ากินเหล้ามากจะมีผลต่อสมอง แต่นี่มันกินต่อหน้าต่อตาผมเลยนะ! “แกอย่าไปหลงรักยัยนิวเยียร์เข้าล่ะ หวังว่าฉันคงจะเตือนแกทันอยู่ใช่มั้ย…” มันหรี่ตามองผมอย่างสงสัย
“ฉันจะไปชอบได้ยังไงล่ะ” ผมตอบเสียงแข็งแต่ไม่รู้ว่าทำไมต้องเบือนหน้าไปทางอื่นด้วย
หวังว่าผมคงจะไม่หลงรักเธอตั้งแต่เห็นเธอนอนสลบอยู่ที่หน้าบ้านหรอกนะ
“กลับไปง้อนิวเยียร์ซะ” คิมหันต์พูดแทรก อะไรของมันอ่ะจู่ๆ จะให้ผมไปง้อเธอเนี่ยนะ มันดูแสลงหูยังไงไม่รู้แฮะ ถึงแม้ผมจะเคยทำกับผู้หญิงคนอื่นดูบ้างแต่ถ้ากับยัยนั่นผมขอบายล่ะยิ่งช่วงนี้ยัยนั่นมาอยู่ที่บ้านผมด้วย
ความจริงผมก็กลัวยัยนั่นจะตามตื้อผมด้วยซ้ำไป และเสียใจด้วยนะที่ผมไม่ชอบคนเซ้าซี้ มันน่ารำคาญ!
ผมกระดกเบียร์ด้วยอารมณ์ขุ่น “แสดงว่าฉันผิด?”
“เออ!” รวมหัวกันอีกนะไอ้พวกนี้
จริงๆ ผมก็ผิดอยู่แหล่ะที่ไม่มีเหตุผลในการอ้างเธอแล้วทำเป็นหัวเสียออกจากบ้านไป(ที่จริงอารมณ์ไม่ดีเพราะไม่อยากขายขี้หน้ายัยนั่นมากกว่า) แต่ทำไงได้ล่ะผมไม่อยากยอมรับความผิดนี่นา รู้อยู่ว่าผมเป็นคนเอาแต่ใจอยากได้อไรก็ได้ใครขัดขืนมันผู้นั้นได้เจอดีกับผมอย่างแน่นอน
สุดท้ายผมก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมๆ กับพรีไนท์ที่ยังควงแขนผมอยู่ข้างๆ เธอเดินเคียงข้างผมระหว่างที่เรากำลังเดินไปที่รถโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาเพราะเธอก็รู้ดีว่าถ้าพูดอะไรไม่เข้าเรื่องชีวิตเธอจะจบแบบไหน
ผมและพรีไนท์เดินเข้าบ้านไม่กี่ก้าวก็เห็นโอโซนเชฟฝีมือดีที่คอยทำอาหารให้ผมกำลังเก็บกวาดเศษจานอยู่ ปากก็บ่นไปสารพัดอย่าง
เขาจิกหางตามาทางผมราวกับจะฆ่าฟันกันเลยด้วยซ้ำ
“มาก็ดีเลย นายรู้มั้ยว่าฉันต้องทนเก็บเศษอาหารที่เลอะเต็มโต๊ะนี่จนแทบจะสำรอกกลิ่นออกมาอยู่แล้วนะ” เจ้าของนัยน์ตาสีควันบุหรี่ยื่นที่ตักผงมาให้ผมหลังจากที่ผมก้าวไปหามัน “ที่เหลือฝากจัดการด้วยนะ คนจะหลับจะนอนต้องมาเสียอารมณ์เพราะแกนั่นแหล่ะ”
“ฉันไปทำอะไรตอนไหนล่ะ”
“ผู้หญิงที่มาอยู่บ้านแกนั่นแหล่ะ เธออุส่าห์ทำอาหารให้แกเชียวนะเสียดายที่แกทำมันพังเอง”
“อ่าว มาโทษกันแบบนี้ได้ยังไงล่ะ…”
“ก็เพราะแกมัวแต่ไปสนใจเรื่องผู้หญิงคนอื่นยังไงเล่า!!” โอโซนตะโกนเสียงดังอย่างเหลืออด ผมก็อึ้งไปเหมือนกันว่าผมเป็นสาเหตุเหรอ ผมไปทำอะไรผิดอ่ะ
“อย่าไปสนเลยค่ะเซาล์ ปล่อยให้เขาทำเถอะ ส่วนเราก็ขึ้นห้องได้แล้ว” พรีไนท์พูดขึ้น เธอพยายามดึงแขนผมไปแต่ผมกลับยืนนิ่งเหมือนรูปปั้น
“ยังจะหน้าด้านพูดมาได้นะ” โอโซนพูด
“เซาล์…”
“กลับไป” ผมเอ่ยเสียงแผ่ว
“แต่ว่า…”
“ฉันบอกให้กลับไปยังไงเล่า!” ผมตวาดเสียงดังลั่นบ้าน ร่างกายของเธอสั่นเทาไปด้วยความกลัวแต่สุดท้ายเธอก็ยอมเดินออกจากบ้านผมไปโดยดี
เมื่อพรีไนท์ออกไปจากบ้านโอโซนก็เล่าทุกอย่างให้ผมฟัง มันบอกว่าตอนแรกที่เห็นนิวเยียร์มันก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเพราะเธอดูมีมารยาเยอะเกินและเธอและมันก็เกือบจะมีเรื่องกันเลยด้วยซ้ำไป โชคดีที่มันใจเย็นพอที่จะไม่ทำอะไร พอตอนสี่ทุ่มที่โอโซนนั่งดูทีวีอยู่ในบ้านมันก็ได้ยินเสียงโวยวายของเธอดังขึ้นพร้อมกับเสียงข้าวของภาชนะแตกมันก็เลยมาดูก็เห็นว่ามีเศษอาหารเกลื่อนเต็มพื้น ตอนนั้นมันแทบจะระเบิดอารมณ์เลยนะแต่ด้วยความที่มันไม่ใช่เจ้าของบ้านมันก็เลยทำอะไรไม่ได้นอกจากฝืนเก็บให้
ผมก็รู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกันนะ หมอนี่บอกเอาไว้ว่าอาหารที่เธอทำคงจะเป็นอาการฝรั่งเศสเพราะมีเส้นพาสต้าและแฮมเกลื่อนเลย
“วันหลังอย่าทำอีกล่ะ ฉันไม่อยากเสียเวลานอนมาเก็บเศษจานอีกแล้ว” โอโซนพูดขณะล้างมือหลังจากที่ช่วยกันเก็บเสร็จ
“อะไร ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้อยู่แล้วนี่”
“หัดเอาใจเขามาใส่ใจเราก็ดีนะ ถ้าแกไม่รู้จักคำคำนี้แกคงจะไม่สามารถรักใครเป็นแล้ว” มันเดินมาตบไหล่ผิดเบาๆ แล้วเดินออกไป
แต่ละคนที่พูดออกมาเหมือนมันจะรู้ว่าผมชอบนิวเยียร์หรือเป็นแฟนกับเธออยู่นะ ทั้งๆ ที่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับเธออยู่แล้ว
“ให้ตายๆๆๆ” ผมสบถอย่างหัวเสียเดินขึ้นห้องนอนตัวเองไปเพื่ออาบน้ำชำระล้างเศษอาหารที่ติดตามซอกเล็บและขจัดความหงุดหงิดที่อยู่ในสมอง
หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็มานั่งดูดบุหรี่ที่ห้องนั่งเล่น ถ้าพ่อแม่ผมอยู่คงจะโดนบ่นจนหูชาไปแล้วแน่ๆ แต่ถ้าเป็นยัยนั่นคงจะขอร่วมแจมด้วยล่ะมั้ง แล้วทำไมผมต้องนึกถึงยัยนั่นด้วยนะ!
(สวัสดีค่ะท่านผู้ชม วันนี้รายการเจ๊าะเจาะก็ได้เดินทางมายังตึกSN. เพื่อแนะนำสมาชิกคนใหม่ของวง รับรองเซอร์ไพร์สแน่ๆ) เสียงพิธีกรในรายการอะไรไม่รู้พูดขึ้น ผมไม่สนใจหรอกแค่เปิดไว้ดับความเงียบเฉยๆ
พิธีกรสาวเดินไปยังห้องห้องหนึ่งซึ่งเธอบอกไว้ว่าวงนี้กำลังซ้อมเต้นกันอยู่ด้วยสิ รายการนี้คงจะเป็นรายการถ่ายทอดสดล่ะมั้ง เพราะตอนนี้มันก็ดึกมาแล้ว แต่ให้ตาย! ผมสังเกตได้ว่าวงนี้มีแฟนคลับเยอะจริงๆ ผมเหลือบไปเห็นข้อความSMSที่แฟนคลับส่งมาโผล่ขึ้นใต้คลิปรายการ ข้อความมันเยอะจนผมน่าทึ่งอ่ะ
(เอาล่ะค่ะ…) เธอค่อยๆ เปิดประตูไปทีละนิด(จ๊ะเอ๋!!)
(กรี๊ดดด) และแน่นอนผลสุดท้ายคือมันต้องมีเสียงหลงของใครบางคนแน่ๆ
(สวัสดีค่ะ วันนี้รายการเจ๊าะเจาะจะมาเจาะเรื่องสมาชิคคนใหม่ของวง มิทราบว่าเป็นผู้ใดขอให้ยกมือขึ้น)
พรึบ
ทุกสายตาของคนในวงก็หันไปยังหญิงสาวร่างบางเจ้าของรอยสักมังกรที่เห็นได้ชัดจากการที่เธอสวมเสื้อเอวลอยทำให้เห็นถึงมังกรที่รายล้อมอยู่รอบเอวเธอนั่นเอง ทันทีที่ผมเห็นเธอผมก็อึ้งนะ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็รู้อยู่แล้วว่าเธออยู่วงนี้ แต่ว่าการแสดงของเธอต่อหน้ากล้องมันทำให้ผมอึ้งไปตามๆ กัน แหงล่ะสิ ก็ตอนที่กล้องจับภาพเธอได้พอดีเธอก็ทำท่าซะเซ็กซ่ซะขนาดนี้ ขัดกับการแต่งกายของเธอที่ดูมาดเท่ปนเซ็กซี่นิดๆ นี่สิ และทันใดนั้นเองสายตาของผมก็เหลือไปเห็นข้อความจากผู้ชมทางบ้านส่งมาว่า ‘โอ้โห เจอครั้งแรกก็สวยเอ็กซ์ซะขนาดนี้ ถ้าเจอทุกวันผมไม่ใจสลายตาเลยล่ะ’
ผมพ่นควันบุหรี่สีเทาฟุ้งไปทั่ว “ร้ายนะเราน่ะ”
(เฮเฮ้ ในที่สุดความลับก็เปิดเผยแล้ว เรามารู้จักกับเธอคนนี้กันเลยดีกว่าค่ะ)
ความคิดเห็น