ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    K'Casanova คาสโนวี่ครับ ผมผิดไปแล้ว

    ลำดับตอนที่ #10 : 9

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 56


    9

                    ฉันก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันนะว่านานาอายุยี่สิบสี่แล้ว แต่หน้าเธอดูเด็กมากจนฉันคิดว่าฉันแก่กว่าเธอซะอีก นี่แสดงว่าฉันหน้าแก่ขึ้นอย่างนั้นเหรอ!

                    ไว้เจอกันนะ ฉันโบกมือลาก่อนจะหันหลังกลับไป ในมือก็ถือถุงเสื้อผ้า อีกถุงนึงก็มีไอโฟนและไอแพตที่ฉันซื้อมาใหม่อยู่ แต่ถ้าไม่รวมพวกเครื่องสำอางและของจุกจิกนี่มันจะดีมากต่อการเดินของฉัน

                    วันนี้ตั้งแต่แยกกับคิมหันต์เราสองคนก็ซื้อของแต่ละอย่างราวกับจะเหมาของในร้านอยู่แล้ว โชคดีนะที่ฉันไม่ซื้อทั้งร้านไปด้วย

                   

                    ซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย เสียงของเจ้าของบ้านที่ฉันบุกรุกเข้ามาอยู่ก็ดังขึ้นหลังจากที่ฉันทั้งยกทั้งลากมันออกมาจากรถ

                    ก็เสื้อผ้าฉันไง แล้วฉันก็ซื้อเสื้อมาฝากนายด้วยนะ เอ้านี่!” ฉันโยนถุงเสื้อไปให้เขาโดยไม่สนว่าเขาจะรับมันได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือตอนนี้ฉันลากแทบจะไม่ไหวแล้ว ของมันเยอะเกิน

                    แหมมม ก็ตอนนั้นฉันซื้อมาเต็มมือแล้วก็ต้องรีบเอาไปเก็บไว้ในรถแล้วก็มาซื้ออีกนี่นา ไม่แปลกหรอกที่มันจะเยอะแบบนี้

                    ช่วยยกหน่อยสิ ฉันหนักจะตายอยู่แล้ว

                    ก็แล้วใครใช้ให้เธอซื้อเยอะเองล่ะ เขาลอบถอนหายใจอย่างระอาแต่ก็ยอมจำนนมาช่วยอยู่ดี

                    ขอบใจ

                    ฉันยกของขึ้นห้องฉันซึ่งเมื่อก่อนเป็นห้องที่ฉันเคยมานอนค้างบ้านเขาในช่วงที่คบกัน แต่พอเลิกกันมันก็เลยโล่งไม่มีอะไร

                    ฉันเลิกกับลีนินแล้วนะ จู่ๆ เขาก็พูดคำนั้นออกมา ฉันแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อยและมองเขาด้วยสายตาเย้ยหยัน

                    ขอบใจนะที่ช่วยเธอไว้...

                    แล้ว?

                    เพราะฉันเบื่อยัยนั่น

                    ก็หวังว่านายคงไม่ได้บอกเลิกเธอเพราะว่าไม่อยากถูกผูกมัดหรอกนะ

                    ประมาณนั้นล่ะมั้ง

                    นายรู้อะไรหรือปล่าวเซาล์... ว่านายชักจะทำให้มันสนุกขึ้นแล้วสิ ฉันเอื่อมมือไปลูบใบหน้าเขา

                    หมายความว่ายังไง

                    ปล่าวสักหน่อย ฉันยักไหล่ก่อนจะเดินจัดของบนโต๊ะเครื่องแป้ง

                    การที่เขาบอกเลิกลีนินไปนั้นมันก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ไม่ได้สนใจว่าหัวใจของลีนินจะเจ็บอย่างไร พวกรักสนุกก็แบบนี้แหล่ะ พนันได้เลยว่าคืนนี้เขาต้องพาผู้หญิงเข้าห้องเพื่อแก้เซ็งหลังจากที่เขาได้เป็นอิสระจากผู้หญิงขี้บ่นอย่างลีนินแหงๆ ส่วนฉันก็คงจะต้องนั่งฟังเสียงอ๊อดๆ จากห้องข้างๆ แน่นอน(ห้องฉันติดกับห้องของเขาน่ะ) ถ้าถามว่าฉันรู้สึกเสียใจกับการกระทำของเขามั้ย...ฉันคงจะรู้สึกเสียใจอยู่เล็กน้อยอยู่แหล่ะ แต่ให้ทำไงได้ล่ะ เขาก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว

                    ฉันหิวแล้ว เขาพูดขึ้น

                    รอหน่อยไม่ได้หรือไง ฉันพูดเสียงห้วน

                    ไม่ได้ มีปัญหาอะไรปะ

                    กรอด!~

                    “งั้นก็ไม่ต้องกิน

                    เอ... แต่เท่าที่จำได้เธอเคยบอกกับฉันไว้ว่าอะไรน้า~”

                    โอ้ยยย นายนี่มันเอาแต่ใจจริงๆ เลย!”

                    เพิ่งรู้เหรอ แน่ะ ยังจะมาทำหน้ากวนประสาทแลบลิ้นปลิ้นตาอีกนะ

                    กวนแบบนี้ติดเชื้อกังฟูชัวร์

                    ถ้าอยากจะกินก็ต้องมาช่วยฉันจัดของก่อน เสื้อผ้าก็เอาไปซักด้วย

                    อ๊ะๆ แต่เธอบอกว่าเรื่องเสื้อผ้าเธอจะทำให้เองนะ

                    ฉันกลอกตามองเพดานสีขาวอย่างเหลืออดช่วยหน่อยไม่ได้รึไง

                    ไม่ได้~”

                    ถ้าฉันทำตอนนี้มันก็คงจะไม่อร่อยเพราะเวลาฉันไม่มีอารมณ์มันก็ไม่ต่างอะไรจากขี้เกียจทำ ซึ่งผลที่ตามมาคือนายคงจะต้องไปกินนอกบ้านแล้วสิ

                    เธอนี่มันจริงๆ เลยนะ เขาทำเสียงขุ่นบ่งบอกให้รู้ว่าเริ่มหงุดหงิด

                    ฉันถอนหายใจออกมาแล้วจัดของต่อ เสื้อผ้าที่ซื้อมาใหม่ก็แยกสี แยกชนิดแล้วเก็บไปซักเพราะถ้าซื้อมาใหม่ๆ แล้วใส่เลยมันทำให้ฉันแพ้และคันง่าย ส่วนเซาล์ก็ยังยืนกอดอกอยู่ตรงประตู พอฉันแยกสีอะไรหมดแล้วก็เตรียมใส่ถังแต่ให้ตาย! เขากลับมายืนขวางไม่ให้ฉันออกจากห้องซะนี่ แถมไม่พอยังจะมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกนะ

                    หน้าด้านหน้าทนจริงๆ เลย

                    ถอยไปหน่อยสิ

                    ไม่ถอย

                    อย่ากวนประสาทได้มั้ย ฉันเริ่มจะหมดความอดทนกับนายแล้วนะ

                    “พูดอย่างกับฉันมีความอดทนสูงกับเธอนักแหล่ะ”

                    “มันจะอะไรนักหนา ก็แค่ของกิน

                    “เออ! ไม่กงไม่กินอะไรมันแล้วก็ได้!!!

                    ปัง!

                    อะไรของเขาเนี่ย มาโกรธฉันเรื่องนี้แค่นี้เนี่ยนะ? แล้วมาปิดประตูใส่หน้าฉันอีก

                    ฉันเดินกระแทกเท้าไปที่เครื่องซักผ้าซึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำแล้วเทผ้าที่แยกสีไว้แล้วก่อนจะใส่ผงซักฟอกและจัดการปั่น ในหัวมันก็คิดอยู่นะว่าถ้าเขากลับมาเย็นนี้ฉันจะทำอะไรให้เขาหายโกรธดี ถึงแม้ว่าฉันจะยังคงหงุดหงิดอยู่บ้างก็เถอะ และอีกอย่างมันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะมัดใจผู้ชายได้(?)

                    หลังจากที่ซักผ้าเสร็จฉันก็เริ่มเช็คของในตู้เย็นว่าพอที่จะนำมาทำเมนูอะไรได้บ้าง แต่พอเปิดตู้เย็นมาเท่านั้นแหล่ะก็ถึงกับอึ้งไปเลยเพราะตู้เย็นของเขามีครบทุกอย่างเช่น เนื้อหมู กุ้ง หอย ปู ปลา ผักสด แครอท บลาๆๆ

                    “เหลือเชื่อเลยแฮะ” ฉันถึงกับอุทานออกมา

                    เอาหล่ะ ไหนๆ ของก็ครบแล้ววันนี้ฉันจะทำอาหารฝรั่งเศสก็แล้วกัน

                    “เออขอโทษนะครับ” ถ้าไม่ติดว่ามีเสียงของใครดังขึ้นน่ะ

                    ฉันแหงนหน้าขึ้นมาจากตู้เย็นก็เห็นผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆ ตู้เย็นแล้ว

                    “มีอะไรเหรอคะ”

                    “ผมชื่อโอโซน เป็นเพื่อนบ้านของเซาล์มันน่ะครับ แล้วผมต้องมาทำอาหารให้มันตลอดเลย นึกไม่ถึงว่าจะมีเชฟมาใหม่จริงๆ” เขาหรี่ตาเหมือนจะพิจารณาฉัน

                    “อันที่จริงฉันเป็นเพื่อนเขาต่างหากค่ะ แค่มาขออาศัยสักพัก”

                    “J

                    “ฉันชื่อนิวเยียร์ค่ะ” ให้ตายเหอะ! ทำไมฉันรู้สึกเหมือนผู้ชายคนนี้มีอะไรมากกว่านั้นจริงๆ แต่มันไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้เนี่ยแหล่ะ เขาดูเหมือนหยิ่งๆ ยังไงไม่รู้

                    “นิวเยียร์ ใช่เพื่อนของลีนินหรือปล่าว”

                    “ค่ะ”

                    “อ่อ”

                    “ทำไมเหรอคะ” ฉันทำหน้าใสชื่อบริสุทธิ์ ซึ่งถ้าเป็นพวเกลียดมารยาก็จะรู้ดีว่าใจจริงแล้วฉันเป็นคนยังไง

                    “เอาเป็นว่าเธอจะทำเองใช่หรือปล่าว” เขาขมวดคิ้วเป็นปมแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น

                    “นายคงจะเป็นเพื่อนลีนินหรือไม่ก็แอบชอบลีนินอยู่สินะ”

                    “ฉันถามว่าเธอจะทำเองใช่หรือปล่าว ไม่ได้ให้เธอถามฉัน”

                    “แสดงว่าแอบชอบลีนินอยู่สินะ” ทันทีที่ฉันพูดจบเขาก็ถลึงตาใส่ฉันใหญ่เลยล่ะ ฉันยิ้มแบบใสซื่อไปให้เขาราวกับไม่รู้อะไรแต่สำหรับเขาแล้วมันก็ทำให้หมั่นไส้จนแทบจะตะกุยหมัดใส่หน้าฉันจนเต็มทนแล้วสิท่า

                    “-*-

                    “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะทำเองนายกลับบ้านไปเถอะ”

                    เขาหันหลังออกจากห้องครัวไปโดยไม่ได้พูดอะไรไว้เลย ฉันก็อดไม่ได้ที่จะจี้จุดเขา

                    “แล้วก็ จะฝากความคิดถึงไปให้ลินินผ่านฉันก็ได้นะ ในฐานะที่นายเคยแอบชอบลีนินตอนไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมด้วยกัน ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอกนะ”

                    “หุบปากแล้วทำอาหารของเธอไปซะ!!” คนถูกจี้ใจดำตวาดเสียงดังลั่นบ้าน ทำเอาฉันสะดุ้งไปเลยล่ะ

                    “ฉันหวังดีจริงๆ นะ”

                    “เก็บความหวังดีของเธอไปใช้กับผู้ชายคนอื่นเถอะ นิวเยียร์” 


     
    Lambo-san theme
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×