คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 6
6
เอาเป็นว่าอย่างน้อยผมก็อาบน้ำแต่งตัวทันก่อนแปดโมงครึ่งก็แล้วกัน ผมเดินออกมาที่ประตูบ้านก็รู้สึกเหมือนได้กลิ่นบุหรี่ลอยมาเตะจมูก
และเมื่อผมเดินมาจนถึงต้นกลิ่นก็พบว่าคนสูบจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนิวเยียร์ที่ยืนสูบอยู่ตรงข้างรถเก๋งสีดำของผม ท่ายืนของเธอมันช่างดูเท่ซะเหลือเกิน
เดี๋ยวนะ...
“เธอเอาของแบบนี้มาจากไหน!” ผมตรงเข้าไปกระชากแขนเธอ แต่สีหน้าของเธอดูไม่ตกใจเลย
“ฉันเห็นมันอยู่ข้างๆ ตู้เสื้อผ้าน่ะ เห็นมันน่าอร่อยดีเลยเอามาสูบดู” เธอตอบหน้าตาย
“เธอบอกว่าข้างตู้ เธอไปค้นตู้เสื้อผ้าฉันอย่างนั้นเหรอ”
“อื้ม ฉันจำได้ว่าฉันเคยเก็บชุดไว้ในตู้น่ะ” ผมไล่สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก็เห็นสิ่งที่เปลี่ยนไปคือเสื้อและกางเกงที่เธอใส่ เสื้อแขนกุดเอวลอยสีน้ำตาลเข้มที่ทำให้เห็นรอยสักรู้มังกรตรงเอวกับกางเกงยีนส์สีดำ สายตาผมไปสะดุดอยู่ตรงที่หัวไหล่ของเธอที่มีรอยสักรูปคิวปิดอยู่ มันเคยเป็นรอยสักที่ผมและเธอเคยไปสักด้วยกัน เธอสักตรงหัวไหล่ ผมสักตรงหน้าท้อง ซึ่งตอนนี้ผมลบมันไปแล้วล่ะ
“ขึ้นรถเถอะ”
“ส่วนลีนิน แค่กๆ ฉันรู้ว่าเธอจะมากับนาย เพราะฉะนั้นฉันขอลงก่อนถึงหอส่วนนายก็หาโอกาสไปหยิบกุญแจรถของฉันที่วางอยู่บนหัวเตียงด้วยนะ แล้วก็โยนมาให้ฉันตอนมาถึงหน้าประตูหอด้วย”
โอ้โห วางแผนเหมือนกับว่าจะรู้อนาคตเลยนะ
เธออธิบายให้ผมเสร็จก็ทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้นและขยี้มันด้วยรองเท้าผ้าใบสีดำก่อนจะเข้าไปนั่งในรถ ผมส่ายหัวด้วยความเอื่อมระอาและเข้ามาในรถด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
ผมรู้สึกว่าตั้งแต่เราเลิกคบกัน...ไม่สิ ตั้งแต่เธอรู้ว่าผมคบกับลีนินเธอก็เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ดูเหมือนเธอจะเปลี่ยนลุคไปเล็กน้อย
~
เสียงโทรศัพท์ของนิวเยียร์ดังขึ้นเป็นการทำลายความเงียบในรถซึ่งตอนนี้รถก็เพิ่งแล่นออกมาจากหมู่บ้านที่ผมอยู่
“ฮัลโหล”
(^&*(*(_!#@#$)
“ขอโทษด้วยนะซานตี้ ตอนนี้นิวเยียร์ติดธุระนิดหน่อยน่ะ วันนี้เลยไปซ้อมไม่ได้ ขอโทษจริงๆ นะ” ถึงลุคเธอจะดูเปลี่ยนไปแต่คำพูดยังไม่เปลี่ยนแฮะ
(_*_%$^%#%@)
“จ้ะๆ ขอบคุณนะทีเข้าใจนิวเยียร์น่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”
ตี๊ด!
“ฮู่ววว”
ผมก็อดขำไม่ได้ที่เห็นเธอพูดเหมือนเด็กอายุห้าขวบ ภายนอกเหมือนจะร้ายแต่ในใจเนี่ยไม่ต่างอะไรกับเด็กเสียเลย
“ขำอะไร” เธอจิกสายตามาทางผม
“ปล่าวซะหน่อย ก็แค่ขำที่เธอทำตัวเหมือนเด็กๆ ไง”
“ฉันก็แค่พูดดีกับคนที่ดีกับฉันย่ะ!” ยังจะมาทำหน้าบูดใส่อีก ไม่ให้พูดว่าทำตัวเหมือนเด็กก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงแล้ว หึหึ
“แล้วฉันไม่ดีกับเธอยังไง?” ผมสวนกลับไปโดยไม่คิด
“รู้อยู่แก่ใจแล้วจะมาถามทำไม” เธอหันหน้าไปทางหน้าต่างแล้วบ่นอุบอิบ
ผมไม่ดีกับเธอที่ผมทำร้ายจิตใจเธอจนไม่เหลือชิ้นดี และมากไปกว่านั้น...ผมเกือบทำเธอท้องด้วยซ้ำ! โชคดีที่ผมมีสติป้องกันไว้ก่อนแต่ให้ตาย! ผมทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของเธอด้วยความเย็นชาทั้งๆ ที่เธอก็เจ็บปวดเจียนตายแต่ตอนนั้นผมกลับทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากเมิณเฉยเธอและไล่ตะเพิดเธอให้ออกไปจากชีวิตผมจนเวย์ถึงขั้นฟิวส์ขาดมาอัดผมอย่างบ้าคลั่ง จะให้ผมบอกว่าผมทำดีกับเธอจนเธอมองผมเป็นเทวดาเชียวเหรอ
ทุกอย่างกลับมาอยู่ในความสงบเหมือนเดิมคือผมก็ขับรถส่วนนิวเยียร์ก็นั่งเงียบ ผมรู้ว่าในส่วนลึกของหัวใจเธออาจจะโกรธผมอยู่ก็ได้
“แค่กๆ จอดรถก่อน ฉันจะลงแล้ว” หลังจากที่เราสองคนเดินทางมาถึงหน้าหอพักที่ลีนินแฟนสาวของผมอยู่ นิวเยียร์ก็สั่งให้ผมจอดรถ
เธอลงจากรถด้วยท่าทีที่อิดอ่อนเนื่องจากไข้ที่ดูเหมือนจะเริ่มสูงขึ้น ผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ
“เธอเดินไหวมั้ย”
“ไหว...ไหวอยู่ นายรีบไปเถอะ แค่กๆ แล้วก็อย่าลืมกุญแจรถฉันล่ะ”
“ฉันไม่ลืมหรอก แต่ตัวเธอเหมือนจะเป็นไข้แล้วนะ ดูสิหน้าแดงหมดแล้ว”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่เป็นอะไร! แค่กๆ แค่กๆ นายรีบไปเถอะ”
ผมพยักหน้ารับด้วยความจนใจและยอมขับรถเข้าในหอ
My Charater [New Year]
ฉันยืนพิงเสาไฟฟ้าซึ่งอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าหอพักด้วยความเหนื่อยล้าเพราะพิษไข้ รู้อย่างนี้ไปหาที่นอนในโรงแรมยังจะดีกว่าไปฟัดกับพวกนักเลงกลางสายฝนดีกว่า ดูสิไม่สบายเลย โง่จริงๆ เลยฉันเนี่ย
“แค่กๆ” จะว่าไปนี่ฉันก็มายืนรอเป็นชั่วโมงแล้วนะ ทำไมไม่ออกมาสักที ปล่อยให้ยืนไออยู่ได้ อายนะยะ!
ไม่ทันขาดคำรถเก๋งสีดำก็แล่นออกมาด้วยความเร็วสูงซึ่งข้างในก็มีคนนั่งแค่สองคนคือลีนินและเซาล์ อันที่จริงฉันอยากจะกลับไปขอโทษเธอนะ แต่มันเป็นแผนน่ะสิ เฮ้อออ~
วึบ!
เฟี้ยวววว
ตุ้บ!
“เกิดอะไรขึ้นน่ะซายม์!” เสียงกระวีกระวายของลีนินดังขึ้นจากในรถ จังหวะนั้นแหล่ะฉันรีบวิ่งไปเก็บกุญแจรถที่เซาล์ขว้างมาให้ตกใกล้ฉันมากที่สุดแล้วรีบวิ่งไปให้ไกลจากจุดนั้นมากที่สุดแต่เพราะอาการไข้ทำให้ฉันวิ่งไปไกลแค่ไม่กี่เมตรก็ลิ้นห้อยจนฉันต้องนั่งพักบนเก้าอี้ไม้ซึ่งอยู่หน้าร้านขายของชำ
“แค่กๆ แค่กๆ” โอยยยย ตอนนี้รุ้สึกแขนขามันหนักซะเหลือเกิน ทำอะไรก็เชื่องช้าไปหมด
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ เดินเข้าไปในหอเพื่อเอารถที่เพิ่งถอยมาใหม่ไม่กี่วันและขับไปที่โรงเรียนของเดย์ อันที่จริงฉันก็กะจะซื้อเครื่องสำอางมาแต่เอาไปเอามาไม่ซื้อแล้วดีกว่า
งานจะเริ่มเมื่อเวลาเที่ยงตรงแต่ต้องให้มาก่อนเก้าโมงเพราะต้องการให้ผู้เข้าแข่งขันแต่งหน้าและซักซ้อมการแสดงเล็กน้อย และถ้าเป็นการแข่งขันแบบคู่รักก็ไม่จำเป็นต้องมีการแสดงเนื่องจากจะมีเกมส์ให้เล่น ก็คงจะเป็นเกมส์พวกเกี่ยวกับคู่รักล่ะมั้ง
ตอนนี้ฉันนั่งแต่งหน้าอยู่ในห้องแต่งหน้าของโรงเรียนโยมีซันเดย์นั่งดูอยู่ข้างๆ
“แล้วพี่เซาล์ไปไหนแล้วล่ะครับ ทำไมนิวเยียร์ถึงมาคนเดียวล่ะ”
“นิวเยียร์ก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฉันบอกพลางปัดแก้มไปมา
“ทำไมนิวเยียร์แต่งตัวโป๊จังเลยอ่ะ น่าจะใส่ชุดสุภาพๆ นะครับ” นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินคำพูดดีๆ ออกจากปากเด็กแก่แดดคนนี้ เพราะปกติเดย์มักจะพูด’วันนี้นิวเยียร์แต่งตัวเซ็กซ่ดีนะครับ ถ้าผมเป็นผู้ใหญ่ผมจะจับแฟนแต่งตัวแบบนิวเยียร์เลย หรือไม่ก็เอาให้มันดูดีกว่านิวเยียร์ด้วยซ้ำ’ อะไรประมาณนี้
“จะให้นิวเยียร์ใส่ชุดไหนอีกล่ะ นิวเยียร์แต่งตัวแบบนี้มันก็สไตล์ของนิวเยียร์นี่”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะโทรบอกให้แม่จัดการเรื่องชุดให้นะครับ”
“ยังไงก็ได้ นิวเยียร์ใส่ได้หมดแหล่ะ ขอแค่มันไม่มิดเกินจนหายใจไม่ออกนะ”
“เอาน่า ผมบอกแม่แค่คำสองคำแม่ก็จัดการให้หมดนั่นแหล่ะ”
“จ้ะ”
“แต่ว่าปัญหาก็คือ...รอยสักของนิวเยียร์นี่สิ”
“ฮ่าๆ นั่นน่ะสินะ”
“เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะให้แม่จัดการให้แล้วกันนะครับ” พูดจบซันเดย์ก็ยกโทรศัพท์(ไอโฟนห้า... เด็กหกขวบใช้ไอโฟนห้าเป็นแล้วค่า!!!) คุยกับปลายสายอย่างสะบายใจเฉิ่ม
อันที่จริงฉันอยากจะใส่อะไรที่มันง่ายๆ มากกว่า แต่จะให้ใส่เดรสเนี่ยคงทำใจไปอีกนาน
“อยู่นี่นี่เอง ตามหาซะทั่ว” ขณะที่ฉันส่องกระจกอยู่นั้นเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดของผู้หญิงในห้อง ฉันมองเขาทางกระจกก็เห็นร่างสูงที่กำลังเดินมาทางฉันอยู่ แค่ได้ยินเสียงเพลงเสี้ยววินาทีฉันก็รู้แล้วล่ะว่าเป็นเซาล์
“พี่...เซาล์! เข้ามาได้ยังไงครับนี่มันห้องแต่งตัวผู้หญิงนะ” เด็กน้อยซันเดย์โวยวาย
“ไม่เห็นจะต้องสนใจเลยในเมื่อพี่มาหาพี่สาวสุดที่รักของนายนี่”
“แต่พี่เป็นผู้ชายนะ”
“นายก็เป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ”
“ผมยังเด็กนะครับ”
“โอ้ยยยย ถึงนายยังเด็กแต่พี่รู้นะว่านายคิดจะมาทำอะไร”
“จุ๊ๆ อย่าเสียงดังเซ่”
“ฮ่าๆๆๆ”
“-*- คุยกันเสร็จแล้วใช่มั้ย” ฉันหันไปดุด้วยความรำคาญ
“อย่าทำหน้าเครียดสิครับนิวเยียร์ TOT”
“เอาเป็นว่าอีกสองชั่วโมงเจอกันนะครับ...ฮันนี่~”
จุ้บ
“กรี๊ดดดดด”
“อิจฉา!!”
เขายิ้มทะเล้นใส่หลังจากที่จุ้บหน้าผากฉันไปเต็มๆ ส่วนฉันก็ยังยืนอึ้งอยู่ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะออกไปจากห้องแล้วก็ตาม มือก็ลูบๆ ถูๆ อยู่บนหน้าผากจนตอนนี้มันเริ่มรู้สึกแสบขึ้นมานิดๆ
เมื่อกี้เขาทำอะไร เขาทำอาร้ายยยยยย!!!
ความคิดเห็น