ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักเรา...ไม่เก่าเลย!

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 : : เกริ่นก่อนละกัน

    • อัปเดตล่าสุด 3 ม.ค. 53


    ณ ชุมชนหนึ่งในกรุงเทพฯ คู่รักคู่หนึ่งที่เพิ่งจะแต่งงานกันมาหมาดๆ แบบสดๆ ร้อนๆ กำลังมองดูของจากท้ายรถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่ถูกยกลงมาด้านหลังและเข้าไปในบ้านใหม่ของทั้งสอง เพื่อนบ้านคู่หนึ่งเดินเข้ามาทักทั้งสองอย่างสนิทสนม
    สวัสดีครับ คุณทั้งสองคน เอ่อ.. คุณ.. เขาหยุดเล็กน้อยเพราะนึกชื่อไม่ออก
    คู่รักตอบอย่างรู้ๆ ว่าเขาจะถามว่าอะไร
    อ๋อ.. คือสวัสดีครับ คือผมชื่อ พินิจ นะครับ หรือเรียกว่า ปั่น เฉยๆ ก็ได้ครับ ส่วนนี่ภรรยาผมครับชื่อว่า เจนนี่ ครับ หรือเรียกว่า แจน ก็ได้นะครับ.. ชายหนุ่มตอบ
    หญิงสาวกระทุ้งที่ท้องชายหนุ่มเบาๆ
    ไปบอกชื่อฉันอย่างนั้นได้ยังไงล่ะ?...เธอนี่ก็...๐๘๗ นะคะ..
    พอเลย...พอเลยเธอ ไม่ต้องมาว่าฉันเลย เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ....
    ชายหนุ่มย้อนกลับ หญิงสาวทำหน้ามุ่ย
    เพื่อนบ้านคนนั้นเห็นดังนั้นจึงหลุดหัวเราะเบาๆ
    แหม.. รู้สึกว่าพวกคุณสองคนนี่รักกันดีจังเลยนะครับ...ถ้าอย่างนั้นยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณปั่นและก็หนูแจน อ๊ะ จริงสิ ลืมแนะนำตัวเองไปเลย ผมชื่อ เอกชัย นะครับ หรือเรียก เอก ก็ได้ครับ อยู่บ้านตรงข้ามกับคุณทั้งสองพอดีเลย ส่วนภรรยาผมชื่อ นาริน ครับ หรือเรียกแกว่า แม่นา ก็ได้ครับ
    ยินดีที่ได้รู้จักครับ คู่รักคู่นี้พูดขึ้นพร้อมกันครับ
    อ้อ.. จริงสิ มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาได้ทุกเมื่อนะครับ บริการเป็นเซเว่นอีเลฟเว่นเลยครับ เพื่อนที่รู้ใจใกล้ๆ คุณ
    เอกชัยพูด แล้วทั้งสามก็หัวเราะกันออกมา
    ระหว่างนั้นเอง ธีระ หรือ ที ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเอกชัยก็กลับบ้านมาพอดี
    กลับมาแล้วคร้าบบบบ... อ้าว.. พ่อ อ๊ะ สวัสดีครับ
    ธีระพูดอย่างอ่อนน้อม ก่อนจะแนะนำตัวเองกับเพื่อนบ้านใหม่อย่างสุภาพ
    เอ่อ.. คือ ผมชื่อ ธีระ นะครับ หรือเรียกว่า ที ก็ได้ครับ เป็นลูกพ่อเอกกับแม่นา บ้าน...
    พอแล้วลูก พอแล้ว พ่อบอกเขาหมดแล้ว
                    เอกชัยตัดบทลุกของตนทันที
    ธีระทำท่าแป่ววว..
    อ้าว.. พ่อแล้วทำไมไม่บอกผมตั้งแต่แรกล่ะ? ดูสิ อายเขาหมดเลย
    ก็ลูกน่ะสิ มาถึงก็ใส่ปาวๆ ใครจะไปห้ามทัน
    เอกชัยพูด ส่วนธีระก็ทำท่าเขินๆ ก่อนจะลาเพื่อนบ้านคนใหม่อีกครั้งแล้วกลับเข้าไปในบ้านของตน ส่วนเอกชัยก็บอกลาแล้วตามลูกเข้าไป
    สวัสดีครับ แม่ ธีระพูดอย่างอ่อนน้อม
    อ้าว... กลับมาแล้วเหรอลูก เป็นไงบ้างล่ะ? ข้อสอบวันนี้นารินถามขึ้นระหว่างที่กำลังถักนิตติ้งสีชมพูสดอยู่
    โห.. ยากได้ใจเลยแม่ เออใช่ วันนี้ผมมีแข่งบอลที่มหาลัยตอนเย็นน่ะ พ่อไปด้วยไหม?
    เอกชัยทำหน้าเศร้าๆ
    พ่อคงไปไม่ได้หรอกลูก พ่อติดประชุมที่บริษัทน่ะ แต่ลูกก็ต้องเข้าใจนะว่า...
    เพื่ออนาคตของลูก ธีระย้อนก่อนจะเดินหนีขึ้นไปบนห้อง
    นารินส่ายหัวช้าๆ เฮ้อ.. ตั้งแต่ขึ้นมหาวิทยาลัยเนี่ย พ่อเขาเคยว่างไปไหนมาไหนกับลูกบ้างสักครั้งไหมเนี่ย?
    เอกชัยรู้ตัวว่ากำลังโดนว่าอยู่จึงนึกหาข้อแก้ตัวทันที
    ก็แหม.. คุณ งานที่บริษัทช่วงนี้มันเยอะนี่นา คุณก็ต้องเข้าใจผมหน่อยสิ ผมบอกแล้วไง ว่าที่ทำไปเนี่ย...
    นารินลุกขึ้นยืนแล้วหันไปมองเอกชัยด้วยนัยน์ตาที่ลุกโชน
    เพื่ออนาคตของลูก.. ใช่ค่ะ ฉันเข้าใจเรื่องนี้ และฉันเข้าใจลึกไปกว่านี้อีกว่า คุณไม่เคยมีเวลาให้ลูกเลยสักนิดเดียว และคนที่มีเวลามากที่สุดก็คือ ฉัน ฉันพูดผิดไหมคะ?
    เอกชัยกลืนน้ำลายดังเอือก ก่อนจะเหลือบไปมองที่นาฬิกาแขวนผนัง
    อ๊ะ.. จะประชุมแล้วนี่ เอาอย่างนี้แล้วกันนะ คุณช่วยไปดูลูกแข่งฟุตบอลแทนผมหน่อยแล้วกัน แล้วครั้งหน้าผมสัญญาว่าผมจะไปดูเขาด้วยตัวเอง แต่ครั้งหน้าผมงานด่วนจริงๆ ขอร้องล่ะ ได้โปรดอีกสักครั้งได้ไหม?..
    นารินถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะยอมปล่อยให้เอกชัยไปประชุม เพราะเธอรู้ว่า ต่อให้เธอพูดไปอีกสักเท่าไหร่ เขาก็คงไม่ฟังเธออยู่ดี
    ตกเย็น นารินก็พาธีระไปแข่งฟุตบอล นารินบอกว่าจะขึ้นไปอยู่บนอัฒจันทร์เพื่อเชียร์ แล้วก็แยกกันไป ระหว่างที่แยกกันไปนั้น ธีระก็บังเอิญไปเดินชนกับ รินลณี ดาวประจำมหาลัยที่นั่งติดข้างๆ เขา และเขาแอบชอบเธอมาตั้งแต่แรกเห็นแต่ไม่เคยบอกไปเสียที ทั้งสองคุยกันอย่างสนิทสนม ก่อนที่ธีระจะขอแยกตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ระหว่างทางนั้นก็พบกับสายตาที่ดุเดือดเพ่งมองมา ทำให้ใจของเขาหวาดหวั่นเล็กน้อย
    เมื่อจบการแข่งขันปรากฎว่าทีมของธีระเอาชนะไปได้สองต่อหนึ่ง เขากลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องเสื้อ แต่จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งเข้ามาหาเขาและถือผ้าเช็ดตัวเอไว้ บอกให้เขาช่วยเป้นพ่อสื่อให้หน่อย ซึ่งธีระก็ยอมเป็นให้เพราะกลัวจะโดนทำร้าย
    หลังจากออกมาจากสนาม เขาก็ทำสีหน้าวิตกกังวลมาตอลอดทาง เพราะกลัวว่าจะโดนอัดเอาง่ายๆ ถ้าไม่บอกว่ายอมรับ ทั้งที่ในใจจริงๆ แล้วก็ชอบรินลณีอยู่ไม่ใช่น้อย
    เช้าวันต่อมาที่หน้าชุมชนแห่งนี้ ร้านกาแฟอิ่มอุ่นก็เปิดขึ้นจากการร่วมหุ้นของ จัตวา กับฝนทอง โดยทั้งสองร่วมกันเลือพื้นที่ติดทะเลสาบใหญ่ ซึ่งได้โลเกชั่นบรรยากาศดีมากๆ ซึ่งวันนี้มีลูกค้าเข้าร้านเป็นจำนวนมาก  ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นลูกค้าจากในชุมชนที่ทราบข่าวการเปิดร้าน ซึ่งทั้งสองร่วมกันจัดโปรโมชั่นลดราคาครึ่งหนึ่งทั้งร้าน 
    แต่แม้ว่าบรรยากาศของร้านจะดีสักแต่ไหน แต่ก็ไม่คลาดแคล้วที่ อำพล หนุ่มหน้าตาบ้านๆ ที่ชอบฝนทองอยู่ก็ตามมาทำลายบรรยากาศที่ร้านเช่นกัน
    สวัสดีครับ ขอยินดีต้อนรับสู่ร้านกาแฟอิ่มอุ่นครับ ไม่ทราบว่า... จัตวาต้อนรับลูกค้าด้วยหน้าตายิ้มแย้ม ก่อนต้องชะงักเมื่อเห็นใบหน้าของลูกค้าคนนั้น
    เฮ้ย.. ไอ้อ่ำ เอ๊งมาทำอะไรที่นี่วะ?
    นี่ๆ คุณพนักงานครับ ผมเป็นลูกค้านะครับ โปรดใช้คำพูดสุภาพๆ กับผมหน่อยอำพลยอกย้อนจัตวา จัตวาทนไม่ได้จึงง้างมือจะชก แต่ฝนทองเข้ามาห้ามเอาไว้ก่อน
    อะไรกัน โตกันจนหมาจะเลียตูดไม่ถึงอยู่แล้วยังจะมาทะเลาะกันเป็นเด็กๆ อยู่ได้
    ใช่ๆ เนี่ยนะ.. อำพลตั้งใจจะพูดแต่ถูกฝนทองห้ามเอาไว้ก่อน
    หยุดเลยพี่อ่ำ ทั้งสองคนนั่นแหละ พอๆ กันเลย โจ ฝนบอกแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าอ่ำเขาก็มีสิทธิ์ทำคะแนนกับฝน ส่วนพี่อ่ำ ฝนบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าฝนไม่ชอบคนนิสัยไม่ดี
    ฝนทองมุ่นหน้าก่อนเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ อำพลกับจัตวามองหน้าหยามๆ ใส่กัน
    ฝากไว้ก่อนเถอะ ทั้งคู่พูดพร้อมกันก่อนจะแยกกันไปตามทางของตน
    ระหว่างนั้น หญิงสาวสวยคนหนึ่งนามว่า นัทชา หรือ นัท ก็เดินเข้ามาในร้าน ชายคนหนึ่งนามว่า โอภาส เห็นก็เกิดปิ๊งรักเข้าอย่างจัง จึงแสร้งทำเป็นอ่านนิตยสารที่วางอยู่ใต้โต๊ะ โดยเหลือบมองนัทชาอยู่เป็นระยะๆ และเมื่อเธอดื่มกาแฟหมดแล้ว เขาก็เหล่มองเธอไปจนสุดสายตา ฝนทองเห็นดังนั้นจึงแสร้งทำมาเป็นถามเรื่องของร้านกาแฟ โดยรู้อยู่แล้วว่าเขาจะต้องตอบไม่ตรงคำถามแน่ๆ เพราะเขาแอบรักคุณนัทชาอยู่
    เมื่อโอภาสรู้ตัวว่ากำลังโดนหลอกถามอยู่ เขาจึงแกล้งๆ ทำเป็นเขิน ฝนทองจึงอาสาจะเป็นผู้ช่วยให้เขา โอภาสดีใจมากและขอบคุณฝนทองจนเกือบลืมจ่ายค่ากาแฟ ในขณะที่จัตวาก็กระเซ้าฝนทองเล่นว่า แล้วจะไม่สนใจลูกค้าคนอื่นบ้างเหรอ?
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×