ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Harry [DM/HP] : You Are My Little Cat (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #13 : CHAPTER 12

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.55K
      97
      22 ธ.ค. 48





    Part 12



    “คาธรีน่าชั้นเกลียดไอ้แมวบ้านั่น” เสียงแหลมๆ ของพาร์กินสันกล่าวอย่างอาฆาตแค้น



    “ฉันต้องกำจัดมันออกไปให้พ้นจากชีวิตของชั้นกับเดรโกให้ได้ ตั้งแต่มีมันเดรโกก็ไม่เคยสนใจชั้นอีกเลย อะไรๆ ก็ไอ้แมวอัปลักษณ์ แถมแมวนั่นก็มารยาซะไม่มีทำเป็นเรียบร้อยน่ารักต่อหน้าเดรโก แต่พอเจอหน้าฉันมันกลับเห็นชั้นไม่อยู่ในสายตา เห็นทีคงอยู่ร่วมกันไม่ได้ซะแล้ว” สาวน้อยแพนซี่ระบายออกมาอย่างเคียดแค้น เมื่อก่อนเดรโกก็ไม่ค่อยสนใจเจ้าหล่อนอยู่แล้ว แต่ก็ยังพอมีบ้างที่จะพูดจาด้วย ถึงมันจะไม่ใช่คำพูดที่ฟังแล้วรื่นหูซักเท่าไหร่ แต่มันก็ยังดีกว่าตอนนี้ นอกจากแมวบ้าที่ชื่อทินเซลแล้วดูท่าเดรโกจะไม่สนใจอะไรอีก ที่สำคัญความใกล้ชิด ความเอาใจใส่ที่คุณชายมัลฟอยมีให้กับแมวตัวนั้นมันก็ทำให้ปรอทความอิจฉาของแพนซี่พุ่งขึ้นสูงอยู่ทุกวัน



    “แล้วเธอจะทำยังไงล่ะแพนซี่ อย่าบอกนะว่าเธอจะขโมยทินเซลแล้วเอาไปขังไว้ที่อื่นน่ะ ไม่มีทางหรอก เพราะเวลามัลฟอยไม่อยู่ก็ให้วินเซนต์กับเกรเกอรี่ดูให้ไม่ใช่เหรอ”



    “นั่นสิ แต่ถ้าไม่มีคนอยู่เลยล่ะ มันก็เป็นโอกาสดีไม่ใช่เหรอ” แพนซี่หันมาทางเด็กสาว ดวงตาเป็นประกายแฝงไว้ซึ่งความเจ้าเล่ห์อย่างชัดเจน



    “แล้วเธอจะหาโอกาสอย่างนั้นได้ที่ไหน ชั้นยังไม่เห็นมีเลย” คาธรีน่ามองตาเพื่อนสาวอย่างประหลาดใจ



    “โธ่ๆ คาธรีน่าที่รัก เธอนี่ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ เอาเถอะเธอคอยดูแล้วกันว่าชั้นจะทำสำเร็จมั้ย อ้อ...แล้วก็ขอบใจนะสิ่งที่เธอพูดมันเป็นประโยชน์กับแผนการในครั้งนี้มากเลย” แล้วสาวเจ้าก็รีบเดินกลับเข้าห้องนอนเพื่อไปเตรียมการอะไรบางอย่าง โดยปล่อยให้เพื่อนสาวนั่งอยู่ตามลำพังภายในห้องนั่งเล่นรวม



    “หึหึหึ...ใครกันแน่ที่ไม่รู้อะไรเลยแพนซี่” ดวงตาสีนิลสะท้อนกับเปลวไฟในเตาผิง รอยยิ้มน่ากลัวปรากฏบนใบหน้าหวาน



    ************************************



    เช้าวันนี้เด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นปี 3 ดูคึกคักเป็นพิเศษ เหตุเพราะทางโรงเรียนได้อนุญาตให้นักเรียนไปเที่ยวฮอกมี้ดได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เปิดเรียนมา เด็กๆ พากันตื่นแต่เช้าอย่างสดใส ยกเว้นใครบางคน



    “แฮร์รี่...ทำไมเธอดูเหมือนคนอดนอนแบบนี้ล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่มองดูอาการของเด็กหนุ่มอย่างเป็นห่วง



    “นั่นสิแฮร์รี่ เมื่อคืนนายไปไหนมาแล้วกลับมาตอนกี่โมง” รอนพยายามถามถึงสาเหตุของการอดนอนกับแฮร์รี่มาตั้งแต่เช้า แต่ร่างบางก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย จนเด็กหนุ่มผมแดงต้องเป็นฝ่ายเลิกสนใจไปเอง

    ฝ่ายแฮร์รี่ที่สภาพในตอนนี้ดูแทบไม่ได้ผมเผ้ายุ่งเหยิง ขอบตาดำคล้ำคล้ายหมีแพนด้า ก็จะไม่ให้เขามีสภาพเป็นแบบนี้ได้อย่างไร เมื่อคืนกว่าจะกลับถึงหอนอนก็ปาเข้าไป ตี 4 ถ้าไม่บังเอิญไปเจอกับฟิลล์เข้าก่อน แฮร์รี่ก็คงจะกลับถึงหอนอนตั้งนานแล้ว เด็กหนุ่มต้องเสียเวลาเลี่ยงไปใช้อีกทางหนึ่งเพื่อไม่ต้องไปเผชิญหน้ากับภารโรงงี่เง่าประจำฮอกวอตส์ แล้วด้วยความที่จิตใจไม่อยู่กับตัวเขาดันเลือกเส้นทางผิดแทนที่จะไปถึงหอนอนเร็วขึ้นผลมันก็เลยออกมาอย่างที่เห็น



    “ฉันไม่เป็นไรแค่ง่วงนอนนิดหน่อย” เด็กหนุ่มว่าพลางปิดปากหาว สภาพที่เห็นในตอนนี้ของแฮร์รี่ พร้อมที่จะฟุบลงบนโต๊ะกินข้าวได้ทุกเวลา



    “เธอไปฮอกมี้ดไหวมั้ย ไม่ไปก็ได้นะแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่ถามย้ำอีกครั้งอย่างเป็นห่วง



    “ไปไหว ฉันไปไหว จะไปเมื่อไหร่ก็ปลุกด้วยแล้วกัน”  ทำไงได้ถึงจะง่วงนอนแค่ไหนแต่ก็ไม่อยากอยู่คนเดียวนี่ เหตุการณ์เมื่อคืนมันยังคงแจ่มชัดอยู่ในหัว ขืนอยู่คนเดียวได้คิดฟุ้งซ่านจนไม่ได้นอนอีกแน่ คิดแล้วก็น่าโมโห เมื่อคืนไอ้คุณชายงี่เง่าคงจะนอนหลับสบายล่ะสิ ก็แน่ล่ะสบายใจได้แล้วนี่ที่ไม่มีใครมาแย่งทินเซลไปจากตัวเอง แต่ด้วยความง่วงที่เข้ามาครอบงำทำให้แฮร์รี่ไม่ทันสังเกตเห็นใครบางคนที่โต๊ะสลิธีรินที่ตอนนี้ก็มีอาการไม่ต่างไปจากตัวเองเลย



    ************************************



    “เอ่อ...มัลฟอยนายไหวมั้ย จะกลับไปนอนหรือเปล่า” หลังจากสังเกตท่าทางของลูกพี่มานาน แครบก็ทำใจกล้าถามขึ้นโดยมีกอยล์คอยให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ



    “ไม่...ชั้นไม่อยากกลับไปนอน” ร่างสูงตอบกลับมา พยายามทำให้ตัวเองสดชื่น เมื่อคืนหลังจากกลับหอนอนแล้วเดรโกก็นอนไม่หลับ สมองเอาแต่ครุ่นคิดถึงใบหน้าหวานๆ ยามเมื่อมีน้ำตาเม็ดใสคลอเต็มดวงตาสวย เพียงแค่นั้นตัวเขาก็เผลอเรียกชื่อของพอตเตอร์ออกมาแล้ว ดีนะที่รู้ตัวเสียก่อนตอนหลังถึงได้กลับตัวมาเรียกพอตเตอร์เหมือนเดิม ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าคำเรียกแทนตัวได้เปลี่ยนไป ถึงจะแค่ครั้งเดียวก็เถอะ นึกแล้วก็เสียดายที่ไม่ได้ลิ้มรสความหอมหวานจากริมฝีปากอิ่มนั่น สัมผัสจากแก้มเนียน กลิ่นผมหอมกรุ่นยังคงติดจมูกมาจนถึงตอนนี้ นั่นแหละเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณชายมัลฟอยนอนไม่หลับ จนต้องมานั่งตาปรืออยู่ตรงนี้



    “ได้เวลาไปฮอกมี้ดหรือยังกอยล์” ร่างสูงถามออกมาทั้งๆ ที่ยังปิดปากหาว



    “ได้เวลาแล้วมัลฟอย เราไปกันเถอะ”



    คุณชายแห่งบ้านสลิธีรินลุกขึ้นสะบัดศรีษะไล่ความมึนงง เส้นผมสีบลอนด์ปลิวพลิ้วไปตามแรงสะบัดก่อนที่เจ้าตัวจะยกมือขึ้นเสยผม การกระทำของร่างสูง เล่นเอาสาวๆ ที่แอบมองแทบจะละลายไปตามๆ กัน แต่เดรโกหาได้สนใจไม่ กลับมีสิ่งหนึ่งที่เด็กหนุ่มเพิ่งสังเกตเห็น ตั้งแต่เช้ามาเขายังไม่เห็นหรือได้ยินแม้แต่เสียงแหลมๆ ของแม่สาวจอมตื้อพาร์กินสันที่ปกติจะเกาะติดเขาตลอดเวลา เอ...วันนี้พาร์กินสันหายไปไหน แต่ก็ดีแล้วมียัยนี่อยู่ใกล้ทีไรมันน่ารำคาญทุกที เมื่อคิดได้ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงเดินนำแครบ กอยล์ ออกจากห้องโถงเพื่อไปรายงานตัวกับฟิลล์



    หอนอนสลิธีริน



    “แพนซี่ ไม่สบายหรือเปล่า ไปฮอกมี้ดไหวมั้ย” มือเล็กๆ สัมผัสเบาๆ ที่หน้าผากเพื่อนรัก เพื่อวัดอุณหภูมิจากร่างกาย



    “คาธรีน่าชั้นแค่ปวดหัวนิดหน่อย นอนพักก็หาย เธอไปเถอะ ขอโทษด้วยนะที่ไปฮอกมี้ดกับเธอไม่ได้” เสียงที่แหลมเล็ก ตอนนี้กลับฟังดูแหบแห้ง ใบหน้าอิดโรยดูซีดเซียว



    “อืม...นอนพักซะนะ ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ชั้นไปคนเดียวได้” เด็กสาวกระชับผ้าห่มให้กับเพื่อนรักเพื่อเพิ่มความอบอุ่นใหกับคนป่วยบนเตียง



    “งั้นฉันไปก่อนนะแพนซี่” คาธรีน่าหันกลับมามองร่างบนเตียงอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป



    ทันทีที่ประตูห้องปิดสนิท แพนซี่ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วโดยไม่มีร่องรอยของคนป่วยให้เห็นอยู่เลย รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า



    “ขอโทษนะคาธรีน่าที่ชั้นต้องหลอกเธอ แต่เธอเองก็ซื่อแสนซื่อแบบนี้ซิฉันถึงชอบเธอเป็นพิเศษ” เด็กสาวพึมพำขอโทษเพื่อนสาวที่แสนซื่อของเธอ



    ภายนอกหอนอนสลิธีริน คาธรีน่ากำลังเดินไปตามทางยาวของระเบียง เมื่อถึงจุดหมายสายตาของหล่อนพยายามมองหาเจ้าของร่างสูงสง่า แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อไม่พบบุคคลที่ต้องการเจอ เด็กสาวเดินไปรายงานตัวกับฟิลล์ก่อนจะออกเดินทางไปฮอกมี้ดตามลำพัง



    “หึ...แพนซี่เธอนี่ช่างโง่จริงๆ ไม่มีคนป่วยที่ไหนหรอกที่จะไม่สบายโดยที่เนื้อตัวเย็นแบบนั้น แต่ก็ขอบคุณความโง่ของเธอที่ทำให้ฉันสามารถทำอะไรๆ ได้ง่ายขึ้น”



    ************************************



    ร้านรวงต่างๆ ภายในหมู่บ้านฮอกมี้ดยังคงเหมือนเดิม เด็กนักเรียนจากฮอกวอตส์กำลังพูดคุยและเลือกซื้อสินค้าภายในร้านต่างๆ อย่างสนุกสนาน   แต่มีอีกมุมหนึ่งที่เห็นจะมีนักเรียนสนใจมากเป็นพิเศษ   และหนึ่งในนั้นก็มีแม่สาวไฮเปอร์จากบ้านกริฟฟินดอร์นั่นเอง



    “เฮอร์ไมโอนี่เธอจะพาพวกเรามาที่นี่ทำไม” รอนบ่นอย่างหงุดหงิดเมื่อเค้าต้องมาเบียดเสียดกับบรรดาสาวๆ และอาจรวมถึงเด็กผู้ชายบางคนด้วย



    “รอน เธอไม่รู้อะไรเลยเหรอ นี่น่ะ ซินิตร้า วอนแทรปป์ นักพยากรณ์สาวชื่อดังเลยนะ เธอมาเปิดการพยากรณ์ที่นี่แต่แค่เพียงสองวันเท่านั้น โชคดีจังเลยที่เรามาตอนที่เธออยู่พอดี” เด็กสาวอธิบายให้แฟนหนุ่มฟังอย่างกระตือรือร้น



    “ฉันนึกว่าเธอจะไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ซะอีก ตั้งแต่ตอนที่เธอเดินออกมาจากชั้นเรียนของทรีลอว์นีย์ตอนนั้น” แฮร์รี่ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่เพื่อนสาวบอก



    “ก็แหมแฮร์รี่ ยัยทรีลอว์นีย์นั่นน่ะ ก็เป็นแค่จอมสร้างเรื่องเท่านั้น เธอก็รู้ว่ายัยนั่นทำนายว่าเธอจะตายทุกปี แล้วเป็นไงชั้นก็เห็นว่าเธอกลับมาที่ฮอกวอตส์ทุกปีโดยไม่มีอะไรบุบสลายเช่นกัน” เด็กสาวมองสำรวจร่างบางของเด็กหนุ่มพลางอมยิ้ม



    “นั่น...นั่นแฮร์รี่ พอตเตอร์ คนดังแห่งโลกเวทมนต์ โอ้...ในที่สุดฉันก็ได้เจอเธอ” เสียงแหบแห้งของหญิงสาวนักพยากรณ์ดังขึ้นท่ามกลางเสียงวุ่นวายของเหล่าบรรดานักเรียนจากฮอกวอตส์



    ซินิตร้า วอนแทรปป์ หญิงวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐานด้วยเสื้อผ้าเนื้อดีสีม่วงสดทำให้ผิวขาวของเธอดูผุดผ่องอย่างน่าประหลาด ผมดำสลวยถูกเกล้าเป็นมวยประดับด้วยปิ่นทองคำ หล่อนลุกออกจากที่นั่งในกระโจมแล้วเดินตรงมาหาเด็กหนุ่มทันที นิ้วเรียวขาวคว้าข้อมือของแฮร์รี่ฉุดรั้งเด็กหนุ่มเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้าเธอ เมื่อเธอหย่อนกายนั่งลงตรงข้ามกับเด็กหนุ่ม การสนทนาจึงเริ่มขึ้น



    “ฉันดีใจจริงๆ ที่ได้เจอเธอคุณพอตเตอร์ ก่อนอื่นฉันขอชื่นชมในความกล้าหาญของเธอที่กล้าเผชิญหน้ากับจอมมารจนได้รับชัยชนะ  และขอแสดงความเสียใจเรื่องพ่อทูนหัวของเธอด้วย ซีเรียส แบล็ก นับว่าเป็นเพื่อนของชั้นด้วยเหมือนกัน” หญิงสาวกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่มอบให้กับเด็กหนุ่ม



    “ขอบคุณฮะ แต่ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่สามารถปราบโวลเดอมอร์ได้ ยังมีศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ สมาชิกภาคีทุกคนที่ร่วมมือกัน และคนที่สำคัญที่ทำให้เราได้รับชัยชนะก็คือ นายลูเซียส มัลฟอย”

    “อ่า...ใช่สินะนายมัลฟอย ถ้าเค้าไม่กลับใจมาเข้าพวกกับฝ่ายภาคี อัลบัส ดัมเบิลดอร์ คงต้องเสียกำลังคนไปมากกว่านี้แน่ๆ เอาล่ะ ในเมื่อฉันได้เจอเธอแล้ว ถ้าอย่างนั้นชั้นขอพยากรณ์ดวงชะตาของเธอจะได้มั้ย” หญิงสาวว่าพลางจ้องลึกในดวงตาสีมรกต มือข้างหนึ่งเลื่อนมาจับมือของแฮร์รี่ไว้ ชั่วเวลาหนึ่งเด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนถูกมนต์สะกดยามที่ถูกดวงตาของอีกฝ่ายมองลึกเข้าไปในแววตาของเขา



    “เอ่อ...อย่าดีกว่าฮะ ผมไม่ค่อยชอบการพยากรณ์เท่าไหร่” เมื่อได้สติเด็กหนุ่มจึงปฏิเสธอย่างนุ่มนวล พร้อมกับค่อยๆ ดึงมือออกจากการเกาะกุมของซินิตร้า



    “เธอคงจะมีอะไรฝังใจกับวิชาพยากรณ์ล่ะซิ ได้ยินมาว่าซีบิลสอนวิชานี้ใช่มั้ย เธอไม่ต้องกังวลกับคำทำนายของซีบิลหรอก เธอก็เป็นแบบนี้แหละแต่มันก็ไม่เคยเป็นจริงอย่างที่เธอพูดซักครั้ง นอกจากว่าเธอจะพยากรณ์ออกมาตอนที่เธอไม่รู้ตัว และจงจำไว้เลยว่าไม่ว่านักพยากรณ์ที่เก่งกาจแค่ไหนก็ไม่มีใครที่มีพรสวรรค์มากเท่ากับซีบิล ทรีลอว์นีย์”



    “คุณรู้จักศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ด้วยเหรอฮะ” เด็กหนุ่มถามอย่างสงสัย



    “โอ้...ทำไมจะไม่รู้จักล่ะตระกูลทรีลอว์นีย์เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงทางด้านพยากรณ์จะตาย และซีบิลก็เป็นรุ่นน้องของฉันเอง” หญิงสาวยิ้มให้แฮร์รี่อีกครั้ง แต่ยิ้มในครั้งนี้มันดูมีความหมายอะไรซ่อนอยู่ในรอยยิ้มนั้น



    “ผมคงต้องขอตัวก่อนนะฮะ เพื่อนของผมรอนานแล้ว” แฮร์รี่รีบขอตัวกลับไปหารอนและเฮอร์ไมโอนี่เมื่อเห็นว่าตัวเองหายเข้ามานานแล้ว และบรรยากาศในตอนนี้มันดูแปลกๆ ยังไงชอบกล



    “เดี๋ยวก่อนคุณพอตเตอร์” ซินิตร้าเรียกแฮร์รี่ไว้ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินออกจากกระโจมพยากรณ์



    “ฉันขอเตือนเธอไว้ อีกไม่นานเธอจะพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งแม้แต่เธอเองก็ไม่อาจคาดคิด ขอให้เธออย่าได้ชะล่าใจในโชคชะตา เพราะมันอาจนำพาเธอไปพบกับสิ่งสำคัญที่จะทำให้ตัวเธอเองเปลี่ยนไป คุณพอตเตอร์” แฮร์รี่ได้แต่เพียงพยักหน้ารับพร้อมกับหมุนกายเดินออกไปสมทบกับเพื่อนสนิททั้งสอง



    “นายเข้าไปทำอะไรน่ะ แฮร์รี่ยายหมอดูนั่นทำอะไรนายหรือเปล่า” เด็กหนุ่มผมแดงรีบร้อนถามแฮร์รี่เมื่อเห็นเด็กหนุ่มเดินฝ่านักเรียนกลุ่มใหญ่ออกมา



    “ไม่มีอะไรหรอกก็แค่ถามถึงเรื่องทั่วๆ ไปน่ะ แล้วก็เธอพยาการณ์อะไรให้ชั้นนิดหน่อย อย่าไปสนใจเลย” เด็กหนุ่มบอกปัดรอน แฮร์รี่ยังไม่อยากบอกเรื่องที่ได้ยินมาเพราะตัวเค้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันจะเกิดเรื่องดีหรือร้าย แฮร์รี่ไม่อยากให้เพื่อนทั้งสองต้องมาเป็นกังวลเกี่ยวกับตัวเขาอีก จะขออยู่อย่างสบายๆ ซักปีนึงมันไม่ได้เลยหรือไง



    “ฉันอิจฉาเธอจังแฮร์รี่ น้อยคนนักที่จะได้พูดคุยกับซินิตร้า วอนแทรปป์อย่างใกล้ชิดแถมยังดูดวงชะตาให้เธอเองอีกด้วย” เด็กสาวทำนัยห์ตาเคลิ้มฝัน เมื่อรู้ว่าเพื่อนรักได้ดูดวงชะตากับนักพยากรณ์ชื่อดัง



    “เฮอร์ไมโอนี่...” รอนลากเสียงยาวเรียกชื่อแฟนสาวอย่างไม่เข้าใจ



    ************************************





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×