ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fiction GOT7 ft.apink ] Agase ( 2JAE )

    ลำดับตอนที่ #6 : AGASE : บทที่ 4 แก้ไข!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 139
      0
      25 ก.ย. 57

     

                                                 


    บทที่ 4 DARK WINK

     

    เรื่องทั้งหมดพึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นคุณพร้อมที่จะรับรู้รึยัง?

     

    Love can touch us one time

    And last for a lifetime

    And never go till we're one

     

    ความขาวบริสุทธิ์ของเส้นขนสวยราวกับมีมนต์สะกด แต่ละเส้นเรียงกันอย่างปราณีตงดงามแม้แต่ปุ่ยนุ่นขาวสะอาดก็มิอาจเทียบเท่า

     

    ทรมาณเหมือนจะตายทั้งเป็น เจ็บปวดร่างกายราวกับมีลูกธนูกว่าสิบสายพุ่งเข้าในตัวของเขา มือขาวซีดสั่นเครืออย่างห้ามไม่อยู่ หรือจะเป็นผลของคำสาปที่ทำให้เขาเจียนตายแบบนี้ ส่วนลึกในจิตใจกำลังสั่งเขา ห้ามตายเด็ดขาดดั่งฟ้ากลั่นแกล้งอีกนิดเดียวแล้วเชียว อีกเพียงแค่เอื้อมมือเท่านั้น

     

    เท้าเล็กๆ ของชายหนุ่มร่างบางค่อยๆ เคลื่อนไปตามทางถนนเขาเหมือนคนบาดเจ็บสาหัสทั้งๆที่ไม่มีบาดแผลแม้แต่นิด มือขาวกุมท้องของตัวเองเพื่อทุเลาความเจ็บ ราวกับพื้นดินกำลังดูดเขาให้จมไปกับคอนกรีต ขาของเขากำลังแปรสภาพเป็นเพียงผ้านุ่มนิ่มที่พร้อมจะยวบยับพาร่างของเขาให้ล้มลง

     

    ใกล้.. จะถึงบ้านแจบอมแล้ว ปากบางสีแดงสดอ้าออกด้วยความเหนื่อยล้า มันสั่นเทาทำเอาฟันข้างในกระทบกันดังกึกกัก ผิวของชายหนุ่มขาวซีดราวกับหิมะ ปากนั่นแดงราวกับดอกกุหลาบสดสีสวย กลับปากเรียวได้รูปเม้มกันไปมา ดวงตาเรียวเล็กค่อยๆ ปรือลงจนกระทั่งทั้งร่างเขาล้มตึงเรียบไปกับพื้นคอนกรีตที่เย็นเชียบดุจน้ำแข็งความเย็นที่ส่งผ่านทำให้เขาทรมาณหนักกว่าเดิมทวีคูณ

     

    แจบอม เสียงเพรียกจากหัวใจกำลังโหยหา หากแต่เขากลับไม่สามารถเปล่งเสียงที่เคยใสกริ๊งนั้นออกมาได้

     

    ทรมาณเหลือเกิน เจ็บเจียนตาย …. อย่างน้อย อย่างน้อย ข้าก็ได้พบเขาเขาไม่รู้จักที่อื่นบนโลกใบนี้เลยนอกจากบ้านของคนที่เขาต้องการพบมากที่สุด

     

    แจบอมลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดในห้องขนาดพอดีสีหม่น มือเรียวเอื้อมเปิดโคมไฟบนหัวเตียงก่อนจะปรับสายตาให้ปกติ ร่างสูงของเขาลุกขึ้นนั่ง ลมหายใจอ่อนถูกพ่นออกมาจากปากได้รูป เขาเสมองแมวตัวดีที่กำลังตะเกียตะกายพยายามจะปีนขึ้นหน้าต่างที่สูงเท่าสะโพกเขา

     

    โนรา อะไรของเธอห้ะ

     

    เมี๊ยว เมี๊ยว มันหันมาจ้องหน้าเขาพลางร้องไม่หยุดปาก

     

    คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เขาตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อไปดูว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้แมวเขาร้องลั่นได้ขนาดนี้ แต่ทันใดนั้นเองเสียงข้อความจากโทรศัพท์บนโต๊ะทำเขาต้องหันกลับไปที่เดิม หน้าจอปรากฏเบอร์มือถือของ แฟนสาว

     

     

    -นาบี-

    : แจบอมอ่า ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกนายในวันพรุ้งนี้ สำคัญมากๆ รีบมามหาลัยด้วยละ

    เขาคิดซักพักก่อนจะส่งไป : ทำไมไม่ยอมนอนซักที นอนได้แล้วนะ

    Rrr Rrr  ข้อความเข้าอีกครั้ง : นายก็เหมือนกัน นอนซะๆๆ พรุ้งนี้รีบมาด้วยละ

    Rrr Rrr คราวนี้เป็นข้อความของอีกคนที่เขารู้จักดี  

     

     

    -ฮายอง-

    : นายชวนน้องรหัสฉันคุยใช่ไหม นาบียังออนคาท๊กอยู่เลย

    เขาอ่านข้อความก่อนซะส่ายหัวกับความรู้มาก : เธอละ คุยกับผู้ชายกี่สิบคนหรอ เลือกได้ซักคนรึยัง อย่าลืมหาหนุ่มเพื่อให้แบมแบมด้วยนะ

     

     

    และข้อความนี้ก็คือข้อความสุดท้ายที่เขาส่งไป มือเรียววางเครื่องมือสื่อสารไว้ที่เดิมก่อนจะค่อยๆ ลากเท้าไปยังเตียงแต่แล้วเสียงของแมวตัวดีก็ฉุดรั้งเขาไว้ เกือบลืมไปเสียสนิท

     

    เขาค่อยๆ เปิดม่านยาวที่ปิดไว้ออกทีละนิดก่อนจะสูดอากาศบริสุทธิ์ด่านนอกพลางเซาะหาสิ่งที่ทำให้โนรามีอาการผิดปกติ เขาเงยมองข้างบนก่อนจะเริ่มสำรวจด้านร่าง จนสะดุดเข้ากับร่างชายหนุ่มที่นอนเรียบตรงถนนเยื้องกับประตูรั้วหน้าบ้านเขาเพียงนิดเดียวเท่านั้น

     

    เขาเพ่งมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น ร่างนั้นนิ่งสนิทราวกับหยุดหายใจ แจบอมขมวดคิ้วมุ่น เขาเกือบจะละสายตาออกไปและพยายามจะไม่สนใจร่างนั้น คนเมารึป่าวยังไม่รู้เลย

     

    แจบอม.. แจบอมเสียงใสราวกับตีพิณนั้นทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ เขากำลังคิดถึงเรื่องในวันนั้นอีกแล้ว

     

    ในส่วนลึกของจิตใจสั่งให้เขาลงบันได ขาของเขากำลังต่อต้านสมอง จิตใจของเขาก็เช่นกัน เขาค่อยๆ เดินลงมาจนถึงประตูบ้าน ภาพร่างของคนนั้นฉายเข้ามาในหัว แมวของเขาก็เดินตามเจ้าของต้อยๆ

     

    เขาสะบัดหัวทีนึงเพื่อเรียกสติ ก่อนจะหันหลังกลับ แต่ทว่า แจบอม แจบอม…’

     

    นี่มันอะไรกันแน่เหมือนกับภาพเก่าถูกฉายซ้ำ เขาตัดสินใจเปิดประตูออกไป นัยต์ตาสีดำสนิทสบเข้ากับร่างของอีกคนที่กำลังนอนแน่นิ่ง ถ้าไม่บอกว่าคน ชายหนุ่มจะคิดว่าหุ่นยนต์ ผิวขาวสว่างของอีกคนช่วยขับให้ร่างของเขาโดดเด่นในความมืด

     

     

    คุณ …!  คุณ คุณเป็นอะไรรึป่าวครับเสียงทุ้มของคนที่เขาโหยหามากที่สุดดังก้องเข้ามาในโสตประสาท เปลือกตาขาวบางค่อยๆ เผยขึ้นช้าๆ เพื่อมองภาพตรงหน้า

     

     

    แจบอม…’ ร่างเล็กเอ่ย.. แต่มัน ไม่มีเสียง

     

     

    แจบอมเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีจึงรีบรุดไปหาอีกคน ร่างสูงนั่งลงตรงหน้าก่อนะค่อยๆ สะกิดทำไมคุณถึงได้มานอนตรงนี้ คุณเป็นใคร.. ไม่สิ เป็นอะไรรึป่าว

     

    ปากบางสีสดอ้าออก เขาพยายามจะพูดแต่ทำไม่ได้ เขาได้แค่พะงาบๆ ปากโดยไม่มีเสียงอะไรเอ่ยออกไปแม้แต่นิด ทั้งๆ ที่เขาอยู่ใกล้กับแจบอมแล้ว แต่เขาไม่สามารถเอ่ยอะไรได้เลย ราวกับมีมือล่องหนมาบีบครั้นหัวใจของเขาให้แตกสลาย

     

    คุณกำลังจะพูดอะไรนะ

     

    ชายหนุ่มร่างสูงไม่เข้าใจสิ่งที่ร่างเล็กตรงหน้าเขาจะสื่อ แจบอมค่อยๆ พยุงร่างของอีกคนขึ้น

     

    น้ำเม็ดใสค่อยๆ ไหลลู่ออกมาจากดวงตาเรียวใส นั่นทำให้ร่างสูงตกใจไม่น้อย ฮึก ฮึกร่างเล็กน้อยร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่อยู่ น้ำใสค่อยๆ อาบแก้มของเขาและหยดติ๋งบนพื้นคอนกรีตด้านล่าง

     

    เขาทำได้แค่ร้องไห้เท่านั้น น้ำตาเท่านั้นที่จะช่วยบอกอารมณ์ของเขา  มือขาวที่สั่นเทาค่อยสัมผัสกับไหล่ของอีกคนตรงหน้า ปากบางยิ้มเบาบางออกมา การกระทำนั้นทำเอาแจบอมงงเป็นไก่ตาแตก

     

    จู่ๆ ร่างของชายหนุ่มก็สลบไปเสียตื้อๆ แจบอมเบิกตาโต เขาพินิจมองใบหน้าของอีกคนอย่างชั่งใจ คนนี้เขาเป็นอะไร ว่าแล้วก็สำรวจร่างกาย แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร เขาจะทำเช่นไรดี คิดอยู่นานก่อนจะตัดสินใจช้อนร่างอีกคนขึ้นมาไว้ในแขนทั้งสองข้าง

     

    แมวโนราส่งเสียงร้องเนือยๆ พลางมองเจ้าของที่กำลังอุ้มร่างของคนแปลกหน้าเข้าไปในบ้าน

     

     

    เรื่องราวก่อนหน้านี้ทั้งหมดนั้น มันมีอยู่ว่า

    TBC

     

    ความรักกำลังพาข้ามาที่นี่

     

    ความรักกำลังทำให้ข้าต้องแลกทุกอย่าง

     

     

    นาอึน ชื่อแสนจะธรรมดาของข้าถูกตั้งมาจากยมทูติในดินแดนนรกภูมิ ฟังไม่ผิดหรอก... จะตกใจไหมถ้าข้าจะบอกว่าข้าคือ 'เทพสวรรค์' บางทีตอนนี้คุณอาจจะกำลังขบขันอยู่ก็เป็นได้ แต่เชื่อเถอะ นี่คือเรื่องจริง

     

    เมื่อครั้งอดีตชาติข้าเคยเป็น'นก'  นกอากาเซที่ครั้งหนึ่งมนุษย์นิยมเลี้ยงกัน ข้าถูกเลี้ยงให้อยู่ในเกล็กดัดสีดำทมิฬ วันๆ ได้แต่มองลอดรั้วอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งข้าได้พบเขา...ชายหนุ่มที่มีรอยยิ้มอบอุ่นราวกับพระอาทิตย์ ก่อนหน้านั้นข้ารู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บเกินจำเป็น ชายหนุ่มผู้นั้นยื่นเตาพิงอันอบอุ่นให้ข้าด้วยความเต็มใจ แต่ข้าถลำลึกเกินไป ข้าอยากได้เตาพิงนั้นเป็นของตัวเอง

     

    ข้ารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้... ไม่มีทางเป็นไปได้ ท้ายที่สุด ข้าตัดสินจะจากเขาไปเพียงหัวใจที่ปวดร้าวอย่างที่บอกทางเดียวที่ข้าจะไม่ยึดมาเป็นของตัวเองคือการทิ้งมันซะ....

     

    ช่วยเวลาช่างพอเหมาะกับตอนที่ข้าถูกอาวุธอนุภาพร้ายแรงในโลกมนุษย์พรากเอาวิญญาณในร่างนกของข้าไป

     

    ข้าคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดกำลังจะจบแค่ตรงนั้น ใช่ ความจริงมันต้องจบลงเสียตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะความผิดพลาดในนรกภูมิละก็ ข้าอาจจะลืมรอยยิ้มแสนอบอุ่นของชายคนนั้นไปแล้ว ถึงแม้ข้าจะอยู่กับเขาในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม. แต่ข้ากลับคิดถึงเขาตลอดทุกการกระทำอย่างบ้าคลั่ง

     

    เกินอะไรขึ้นตอนที่ข้าไปเยือนดินแดนยมทูต

     

    ทำไมข้าถึง... ไม่อาจลืมเขาไปจากหัวใจได้

     

     

     

    ...........

     

     

    โลกหลังความตายเป็นอย่างไรงั้นหรอ นรกโลกัณฑ์ หรือสรวงสวรรค์ กันหละ ไม่มีใครซักคนที่สามารถล่วงรู้ได้หรอก... นอกจากคุณจะ'ตาย' เสียเอง  สรวงสวรรค์หรอ? ไม่มีของพันธุ์นี้หรอกนะ มีแต่ดินแดนที่ถูกแบ่งแยกชนชั้นจากคุณความดีในโลกมนุษย์เท่านั้น นั่นคือ ดินแดนยมทูต อีกหนึ่งที่แตกต่างกันคือ ดินแดน 'เอเดน' สองโลกคู่ขนาน สิ่งมีชีวิตบนโลกมนุษย์ที่สิ้นลมหายใจแล้วจะต้องมาเหยียบดินแดนใดดินแดนหนึ่งอย่างไม่มีข้อแม้

     

    ถ้าหากพูดถึงนางฟ้าหรือเทวดา ... ของพันธุ์นั้นหาในโลกหลังความตายไม่ได้ นอกเสียจากคุณจะไปหาเอาในโลกมนุษย์ที่เหล่ามนุษย์สร้างมันขึ้นมาในโลกแห่งความคิดหรือความเพ้อฝันของพวกเขา ความจริงแล้วสิ่งที่มนุษย์เรียกขานกันว่า นางฟ้า นั้น เทียบกับดินแดนของเอเดนแล้วมีลักษณะคล้ายคลึงกับอากาเซไม่น้อย ป่าว... ไม่ใช่นกตัวน้อยสีสันสวยงามบนโลกมนุษย์ แต่คือชื่อเรียกของ 'เทพสวรรค์' ต่างหากละ

     

    คำถามที่ดูโง่ที่สุดคือ 'อากาเซเพศหญิงหรือชายละ'  คำตอบที่จะได้มาคือดวงตาแสนจะงุนงงของเหล่าเทพสวรรค์ ... บ้าไปแล้วแล้วแน่ๆ เทพสวรรค์ 'ไม่มีเพศ' เสียหน่อย พวกเขาไม่เหมือนมนุษย์ ไม่มีอวัยะเพื่อบอกเพศหรอกนะ แต่ถ้าโดยรวมสรีระร่างกายคงคล้ายคลึงกับมนุษย์เพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยภาพรวมคงเหมือนผู้หญิงที่มีปีกสีขาวขนาดใหญ่

     

    แล้วเทพสวรรค์ส่วนใหญ่ทำอะไร? พวกเขาไม่มีงาน ไม่มีความจำเป็นต้องขนขวานหาสิ่งต้องการ จิตใจของอากาเซในเอเดนทุกตนล้วนขาวสะอาด แต่พวกเขามี'หน้าที่' คือการลงไปยังโลกมนุษย์เพื่อเช็คชื่อมนุษย์ที่จะมาอยู่บนเอเดนรายต่อไป อย่าแปลกใจ มนุษย์ไม่มีทางเห็นเทพสวรรค์ได้เด็ดขาด ราวกับร่างของพวกเขาร่องหนเพราะแม้แต่จะจับต้องหรือสัมผัสมนุษย์ก็ไม่ได้ มีแต่อากาเซด้วยกันเท่านั้นที่สามารถรับรู้

     

    และนั่นก็เป็นที่มาของกฎเหล็กอย่างหนึ่งของดินแดนเอเดน 'ห้ามให้มนุษย์เห็นตัวตนที่แท้จริง และเมื่อใดที่มนุษย์เห็นร่างที่แท้จริง ปีศาจที่แอบแฝงอยู่ในดินแดนมนุษย์จะเข้าเกาะกรุมหัวใจทันที ปีกที่เคยขาวสะอาดจะกลาเป็นสีดำสนิท'

     

    ถามว่าเคยมีเทพสวรรค์ตนไหนฝ่าฝืนไหม... อากาเซทุกตนไม่มีความจำเป็นต้องให้เมนุษย์เห็นพวกเขาแม้แต่เพียงปลายขนก็ไม่จำเป็น ทำไมพวกเขาต้องทำเรื่องโง่เง่าแบบนั้นด้วยละ จริงไหม...

     
     

    -JEABUM PART-

     

    คุณ ! คุณ  ผมวางร่างของชายแปลกหน้าลงบนโซฟาห้องนั่งเล่น  พิจารณาใบหน้าหมดจดของเขาอย่างชั่งใจ ผิวของเขาขาวซีดราวกับไม่มีเลือดหล่อเลี้ยง  เกิดอะไรขึ้นกับชายคนนี้กันแน่  รางสังหรณ์แปลกๆ เข้าครอบคลุมทันที เขาเป็นมิจฉาชีพรึป่าวยังไม่รู้ แต่เขาก็ไม่มีอาวุธแทมร่างกายอ่อนปวกเปียกแบบนี้จะทำอะไรได้

                    แต่ไม่ว่าจะพยายามเรียกแค่ไหนเขาก็ยังคงนิ่งไม่ไหวติ่ง ผมตัดสินใจสะกิดเขาเบาๆ  แต่ผลที่ได้มาก็ไม่ต่างจากตอนแรกนัก คุณ!ผมเรียกซ้ำอีกครั้งแต่เพิ่มความดังให้มากกว่าเก่า

     

                    ผมเซมองนาฬิกาบนผนัง ก่อนจะถอนหายใจอย่างอดไม่อยู่  กำลังจะตีหนึ่งแล้ว ผมมัวมาทำอะไรอยู่ ความจริงตอนนี้ต้องเป็นเวลานอนของผมสิ หรือผมจะส่งเขาไปโรงพยาบาลตอนนี้เลย แต่ผมไม่มีรถ และเพื่อนสนิทผมก็คงกำลังอยู่ในช่วงนิทราเป็นแน่  หรือผมควรเรียกรพยาบาล? แต่เขาไม่ได้บาดเจ็บส่วนไหน ผมมองชายหนุ่มที่แน่นิ่งอยู่บนโซฟาอีกครั้ง เขามีขนตาที่ยาวเป็นแพร ปากบางสีแดงสดจนเกินไป 

     

                    จู่ๆ ผมก็นึกขึ้นได้ บางทีเขาอาจจะไม่สบายหนักเลยเป็นลมล้มลงที่หน้าประตูบ้านของผม  คิดได้ดังนั้นจึงเอื้อมมือไปแตะกับหน้าผากของชายตรงหน้า ความเย็นผิดปกติแทรกซึมผ่านมือผม ตัวเขาเย็นมาก เย็นอย่างกับหิมะ

     

                    หมับ!

     

                    ผมเบิกตามองคนตรงหน้าที่ตื่นขึ้นมากะทันหัน นัยต์ตาสีดำขลับจ้องลึกเข้าไปในตาของผมเหมือนควานหาอะไรบางอย่าง มือขาวซีดจับแขนของผมเบาบางแทบจะหลุดถ้าผมขยับ

     

              ค..คุณ  ฟื้นแล้ว เป็นอะไรมากรึป่าวครับ  คุณพอจะติดต่อญา…”  ไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยค ชายหนุ่มผิวขาวตรงหน้าจู่ๆ ก็รุกพรึ่บ ก่อนจะพยายามอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่หากไม่มีเสียงอะไรออกมาเลยแม้แต่นิด ผมขมวดคิ้วแน่น เขามองผมก่อนจะใช้มือจับคอตัวเองอย่างแปลกใจ และทันใดนั้นเขาก็เบิกตาโต เหมือนตื่นตะลึงที่รับรู้ความจริงบางอย่าง

     

               “…” ผมอึ้งกับการกระทำนั้นอยู่นาน

     

              คุณเป็นอะไรรึป่าวครับผมถามอีกครั้ง แต่สิ่งที่ได้มาคือการส่ายหน้าเป็นพลันวันพร้อมกับชี้ที่คอตัวเองแล้วส่ายหัวไปมาอีกครั้ง

     

                    ผมพินิจเหตุการณ์ทันที คุณเป็นใบ้หรอ?”  ผมถามตามที่สงสัย

     

                    ชายหนุ่มผิวขาวใช้ดวงตาวาวสีดำมองหยุดที่ผมก่อนจะค่อยๆ พยักหน้าช้าๆ  เขา ลดมือลงก่อนนะหย่อนตัวลงโซฟา ราวกับเขาไร้ดวงวิญญาณ นัยต์ตาสีดำมองอย่างไร้จุดหมาย ตัวของเขากำลังสั่นเทาน้อยๆ ผมพึ่งสังเกตว่าชุดของเขาแปลกประหลาดมาก เขาใส่ชุดราวกับ ผู้หญิง'  ผ้าสีครีมที่คลุมร่างของเขามีเพียงผืนเดียวเท่านั้น

     

               ถ้าเป็นใบ้แล้วจะให้ทำยังไง   เขาควรที่จะขอโทรศัพท์ผมเพื่อโทรหาญาติหรืออะไรแบบนี้มากกว่าที่จะมานั่งตื่นตะลึง พิลึกชะมัด

     

     

              คุณเขียนหนังสือได้ไหมครับ  อาจจะเป็นทางเดียวที่จะสื่อสารกับเขาได้

     

                    แต่เขาก็ดับความคิดผมแทบจะทันที เขามองตาของผมอีกครั้งก่อนจะส่ายหัวน้อยๆ ใบหน้าเศร้าสร้อยของเขาทำให้เขาดูเหมือนคนหมดหนทางในชีวิต  นั่นทำให้ผมคิดว่าคนตรงหน้าอาจผ่านเรื่องไม่ดีมา

     

             แต่อายุปานนี้เขียนหนังสือไม่ไดเนี่ยแปลกมาก เขาเคยเรียนหนังสือรึป่าว

     

                    ผมลองพยายามอีกครั้ง แล้วคุณอ่านหนังสือได้ไหมครับ

     

                    ดวงตาเรียวเล็กสั่นไหว เขาเม้มปากก่อนจะพยักหน้าให้ผมสองที เหมือนพระเจ้าจะเห็นใจผม อย่างน้อยเขาก็อ่านหนังสือออก ผมบอกให้เขารออยู่ที่ห้องเดิม ก่อนจะเดินตรงไปหยิบนิตสารทั้งหมดลงมาข้างล่างและวางกองไว้ที่โต๊ะเล็กหน้าโซฟา  ผมแนะนำให้เขาตอบคามผมโดยการชี้ตัวอักษรในหนังสือที่มขนมาทั้งหมด

                    

                         อาจจะนานหน่อยแต่ยังดีกว่าที่จะไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมนั่งลงข้างๆ เขาก่อนจะเริ่มถาม คุณพอจะมีคนที่ติดต่อได้ไหมครับ

     

                    เขาใช้สายตาเศร้ามองผม ปากบางสีสดเม้มเข้ากันก่อนที่มือบางจะเริ่มหยิบหนังสือตรงหน้า เขาพริกหน้าไปมา ผมเขยิบเข้าไปชิดเขาจนตัวติดกันเพิ่มความสะดวกในการดู ผมยื่นหน้าเข้าไปมองตัวหนังสือที่เขาชี้  ว่า ไม่

     

               ไม่มีคนที่ติดต่อได้แล้วทีนี้จะทำยังไงดี ให้ผมติดต่อตำรวจดีไหมครับ จะได้หาญาติคุณได้

     

                       คำพูดนั้นทำให้เขาตื่นตะลึง เขาหันขวับมาทางผมก่อนจะส่ายหน้าแบบสุดชีวิต เขาจะไม่ยอมไปหาสิ่งที่เรียกว่าโรงพัก หรือสำนักงานของตำรวจแน่นอน นั่นทำให้ผมจนใจเข้าไปอีก

     

               คุณชื่ออะไรครับ ?”     ผมฉุดนึกขึ้นได้ว่าคำถามนี้จะยากไปสำหรับคนที่ต้องหาชื่อจากหนังสือหรือนิตยสาร ดงนั้นผมจึงคิดที่จะเปลี่ยนประเด็นแต่ทว่าจู่ๆ เขาก็ลุกพรวด นั่นทำให้ผมตกใจ ขายาวของเขาก้าวไปตรงตู้กระจกข้างโทรทัศน์ ผมมองตามเขาด้วยความสงสัย

     

                     ทันใดนั้นเองมือเรียวยาวชี้ที่ป้ายชื่อบางอย่างในกระจกซ้ำไปซ้ำามา ผมเดินไปทางเขาช้าๆ ก่อนจะมองลอดเข้าไปในกระจกใส  ที่โชว์ป้ายชื่อ  ยองแจ’ … ผมหันกลับไปมองเขาอีกครั้ง เขาพยักหน้าหงึกๆ และชี้ซ้ำไปซ้ำมา ผมร้องอ่อทันที ชื่อ ยองแจ?” เขารีบพยักหน้าด้วยความรวดเร็ว ผมแอบเห็นว่ามุมปากของเขายกขึ้นมานิดหน่อย สีหน้าอมทุกข์ของเขาค่อยๆ หายไป

     

                      ป้ายชื่อนี้ผมทำมาค่อนข้างนานทีเดียว ตั้งแต่ตอนที่ผมเคยเลี้ยงนกอากาเซตัวหนึ่งไว้  มันเคยเป็นสัตว์เลี้ยงที่ช่วยชีวิตผมให้หลุดพ้นจากความตาย ครั้งหนึ่ง ผมทำป้ายของมันเพื่อเตือนสติตัวเอง ผมไม่กล้าเก็บสัตว์มาเลี้ยงไว้ที่บ้าน เพราะเหตุการณ์นั้นมันติดตา ผมฝากโนรา แมวที่ผมเคยเลี้ยง ไว้กับเพื่อนสนิทผมที่ชื่อแบมแบม

     

             ยองแจ…”  ผมทึ้งนิดๆ ที่เขาชื่อคล้ายนกตัวน้อยของผม

     

                    แต่การกระทำของเขาทำให้ผมทึ้งมากว่า เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะทำหน้าตาใสซื่อ ใส่ผมสีหน้าที่เคยหมองครึ้มเปลี่ยนไปในทันที เขามองผมตาปริบๆ ผมเกือบคิดว่าเขาอาจจะเป็นนกน้อยตัวนั้นที่ปลอมตัวมาในร่างคนเสียแล้ว

     

                       จู่ๆ เขาก็เดินไปหยิบนิตยสารสองสามเล่น ก่อนจะ ชี้คำบางอย่างที่ต้องการจะสื่อกับผม ช่วยเรา  เขาชี้คำนี้ก่อนจะเปิดอีกหน้า เราไม่มี  และเป็นอีกครั้งที่เปลี่ยนเล่ม ที่ไป

     

                    ช่วยเรา เราไม่มี ที่ไป ?’

     

                    ผมคิดในใจ บ้าไปแล้วแน่ๆ จะให้คนแปลกหน้ามาอาศัยอยู่กับผมนะหรออีกอย่างผมไม่มีทรัพย์พอที่จะช่วยเหลือชายหนุ่มคนนี้หรอกนะ  ราวกับความคิดผมมันทะลุออกไปได้ เขามองผมตาละห้อน ดวงหน้าขาวซีดฉายแววหม่นหมองอีกครั้ง  ผมจึงทำได้แค่ถอนหายใจ คืนนี้คุณนอนที่นี่ก่อนแล้วกัน เดียวผมเอาเครื่องนอนมาให้

     

                  ก่อนที่ผมจะจาก จู่ๆ เขาก็คว้าหมับที่แขน  ผมหันไปมองตามมือนั่นแล้วมองใบหน้าหมดจดของเขาที่ใช้ดวงตาแป๋วมองผม นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าคนๆ ไม่มีลักษณะนิสัยผู้ชายเลย เขาเหมือนนกที่ผมเคยเลี้ยง

     

                     เป็นเพราะลืมตัวว่าตัวเองเป็นใบ้หรืออย่างไร เขาอ้าปากพะงาบๆ ก่อนจะชะงัก และรับรู้ว่าตัวเองไม่สามารถพูดได้ ดังนั้นจึงเอื้อมมือหยิบหนังสือในกองอีกครั้งก่อนจะรีบพลิกไปมาแล้วชี้คำๆ หนึ่งให้ผมดู ขอบคุณ   ผมเลิกคิ้วมองเขาที่จ้องผมไม่วางตา

     

              ไม่เป็นไรหรอกจะให้ผมทิ้งคนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าในตอนกลางคืนได้ไง จริงไหม  ปากบางค่อยๆ คลี่ยิ้มให้ผม นั่นทำให้เขาดูสดใสขึ้นมาทันตา

     

                    แต่ผมยังไม่ด้ามเขาเลยว่าสรุปแล้วเขาได้บาดเจ็บตรงไหนรึป่าว แล้วทำไมตอนแรกเข้าต้องร้องไห้ด้วย

     

    ผมเก็บไว้ถามพรุ้งนี้ก็แล้วกัน  ส่วนวันนี้ผมต้องปล่อยให้เขานอนพักผ่อนก่อน ส่วนผมนะหรอ คงนอนไม่หลับแล้วแหละ 

    40%
     
    ...............
    TALK
    สงสัยตอนแต่งไรท์คงจะเบลอ โนรายังอยู่นะคะ
    ไรท์ข้ามพล็อตไป โทษคะ TT

    ขอบคุณที่มีคนเข้าใจนะคะ
    เดียวจะค่อยๆ คลายไป สรุปให้แล้วกันนะคะ
    ยองแจ 'เคย' เป็นสองอย่างคะ คือ นกกับนาอึน แต่เคยนะคะ ตอนนี้เป็นยองแจเต็มตัวเลย= =;

    STAR
    THEME
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×