ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : {Naui}--Bnior บทที่ 2
บทที่ 2
IM
'ยาแก้คำสาปอยู่ที่ตระกูลอิม .. ใครซักคนในนั้นเป็นผู้ครอบครอง
ห้ามใครในตระกูลนั้นรู้ว่าเราต้องการยา ... ขโมยมาอย่างแนบเนียน'
หมั๊บ ! หมั๊บ !
กระดาษขนาดเอห้าถูกมือเรียวขยำจนยับยู้ยี้เท่านั้นยังไม่พอจอง จินยองยังปาเศษศากเหล่านั้นลงที่พื้นก่อนจะใช้เท้าขอเขาบดขยี้ให้ละเอียด ระบายความโกรธเคือง เขาสามารถระบายอารมณ์ได้ทุกอย่างไม่เว้นแม้กระทั่งข้าวของในห้องตัวเอง
เขามองยังกระดาษที่พึ่งบี้จนเละอย่างอฆาต 'นี่มันเรื่องตลกรึไง' เขาคิดในใจ ไม่นานนี้เขาพึ่งรับรู้เรื่องราวพิศดารของตระกูล คำสาปบ้าบอที่ติดตัวเขา 'การพูดกลับตาลปัตร' คำสาปที่คนในตระกูลรุ่นที่ 12 ต้องเจอเมื่ออายุครบ 18 จะให้เขาเชื่อเรื่องแบบนี้งั้นหรอ?.. แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว ปากได้รูปถอนหายใจด้วยความปลงอนิจจังแบบสุด
'ผมไม่แปลกใจเลย ที่ตระกูลจองจะถูกสาป.. ตระกูลนี้นะ.. เหอะ ให้ตายสิ..'
จินยองส่ายหัวไปมาอีกครั้ง ถึงแม้เขาอยากจะโทษพ่อตัวเองที่หนีไปซะก่อนแต่จะทำอะไรได้ ท่านคงจะรู้เรื่องนี้แล้วถึงออกจากบ้านไปเร็วขนาดนี้และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของเขาเหลือไว้เพียงสานกระดาษแผ่นหนึ่งที่ให้พี่ชายเขาไว้ ดังนั้นในสถานะการณ์แบบนี้คงต้องหาทางแก้คำสาปบ้าบอนี่เท่านั้น นั่นคือสิ่งเดียวที่จินยองคิดว่าเขาต้องทำ
เท้ายาวค่อยๆ ลงบรรไดวนช้าๆ สายตาพลางเหลือบมองข้างล้างห้องโถงขนาดใหญ่ จนกระทั่งปลายเท้าแตะพื้นพรม จินยองจึงชะงักค้าง ในหัวสมองเต็มไปด้วยความคิดที่ตีกันไปมาไม่หยุดหย่อน ' จะไปหาตระกูล อิม ดีไหมนะ แต่ถ้าไม่ไปจะหายายังไง ' เขาคิดไม่ตก
จะว่าไปแล้วถ้ทพูดถึงตระกูล อิม คงไม่มีใครไม่รู้จัก ชื่อเสียงที่โด่งดัง ความฉลาดที่ถูกถ่ายทอดทางสายเลือดอย่างน่าตลก แน่นอนว่าแตกต่างจากตระกูลจองราวฟ้ากับเหว ที่พอคล้ายกันคงเป็นเพียงฐานะเท่านั้น ยังไงเสียตระกูลจองก็มีสมบัติมากกว่าอยู่วันยังค่ำ
จนกระทั่งเขาตัดสินใจแน่วแน่ ' ลองไป ก็ไม่เสียหายนิ '
.............
รั้วบ้านสีขาวสะอาดที่มีความสูงถึงสองเมตรครึ่ง ประตูรั้วกว้างราวกับโรงแรม สวนหย่อมขนาดแถบจะกว้างกว่าสวนสาธานะด้วยซ้ำไป โทนบ้านสีขาวหรู ข้างหน้าเป็นน้ำพุขนาดใหญ่ ถ้าคุณสามารถจินตนาการมันออกละก่อบ้านหลักตระกูล 'อิม' เทียบเท่าได้กับบ้านประธานาธิบดีเลยก็ว่าได้
ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดายืน มองทิวทัศน์หน้าบ้านพลางบ่นอุบอิบในใจ '... ย๊า... บ้านอลังการเชียวตระกูลอิมก็รวยไม่เบานะ... แต่คงไม่เท่าตระกูลจองละ'
'เขาจะเข้าไปยังไง.... แต่ในจดหมาย พ่อเขาบอกว่าห้ามให้ใครรู้นี่นา 'ยา' อยู่ไหนกันนะ ?'
จนกระทั่งนัยต์ตาสีดำสบเข้ากับป้ายแผ่นหนึ่งที่ติดไว้ริมรั้วด้านข้างทางเข้า เขาหรี่ตาเล็กน้อยก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปอ่านข้อความในนั้น 'รับสมัครพี่เลี้ยงเด็ก 1 ตำแหน่ง' ... 'หืม' เขาละสายตาจากป้าย' แค่รับสมัครคนรับใช้นี่เอง' และเขาก็ไม่ได้สนใจอีกต่อไป..
'เดียวนะ'
จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ มือเรียวรีบขว้ากระดาษแผ่นนั้นมาดูอีกครั้งก่อนที่จะเกิดไอเดียบางอย่างขึ้นมา เขาเพ่งมองกระดาษในมือสลับกับมองลอดเข้าไปในบ้านอยู่อย่างนั้น 'รู้วิธีเข้าไปแล้วแหละ....ให้ตายสิ .. นี่ผมต้องทำมันใช่ไหม!' ถึงอย่างนั้นเขาก็ตัดสินใจแล้วแหละ
ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาต้องทำแบบนี้ แต่ถ้าเขาไม่ทำแบบนี้คงไม่สามารถขโมยยาออกมาได้ 'ว่าแต่ทำไมยาถึงอยู่ที่ตระกูลนี้กันนะ....' ถึงแม้จะสงสัยเสียเต็มประดาทว่าเขาเลือกที่จะปัดความคิดออกไป สงสัยก็ไม่ช่วยให้หายซักหน่อย แต่ไม่ว่าจะกดกริ่งหน้าประตูรั้วมากเท่าไหร่ ก็ไม่มีทีว่าว่าจะมีใครออกมา จนเขาเริ่มเมื่อยล้า 'ออกมาซักคนดิวะ!'
"คุณมีอะไรรึป่าวคะ"
จินยองสะดุ้งเฮือกทันที เมื่อรู้ว่ามีใครอีกคนอยู่ข้างหลัง เขาค่อยๆ หันหน้าไปมองยังต้นเสียง หญิงสาวผมลอนหน้าตาหมดจด เมื่อเธอรู้ว่าถูกเขามองก็เลิกคิ้วเชิงถาม
"เอ่อ..."
'เดี่ยวก่อน!! ห้ามพูดเด็ดขาดไม่งั้นมันจะกลับตาลปัตร'
เช่นนั้นจินยองจึงชูกระดาษใบสมัครพี่เลี้ยงให้อีกคนดู เขาชี้ในใบนั้นซ้ำไปซ้ำมาเพื่อจะบอกถึงความต้องการ หญิงสาวเลิกคิ้วอีกครั้งก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง "ที่แท้คุณก็มาสมัครพี่เลี้ยงนี่เอง... ว้า~ ดูสภาพคุณไม่เหมือนพี่เลี้ยงเลยแหะ จิ๊ๆ" หญิงสาวจิปากพลางส่ายหัวไปมาแถมยังแอบขำเขานิดๆ
เหมือนไม่เหมือนมันเกี่ยวกับคุณด้วยหรอ เขาอยากจะตอกกลับไปจริงๆ
"งั้นเข้าบ้านกันเถอะ" ว่าเสร็จเธอก็เดินอ่าวไปยังประตูเล็กข้างรั้วก่อนจะกดปุ่มบางอย่าง การกระทำนั้นทำให้จินยองถึงกับนิ่งข้าง .. 'อย่าบอกนะว่า'
"นั่นมันไม่ใช่กริ่งซักหน่อย...อันนี้ต่างหาก" หญิงสาวตอบพลางหัวเราะคิกคักในลำคอ
"เธอไม่ใช่คนในบ้านหรอ? ทำไมถึงไม่รู้ละ?"
.... ความจริงเข้าแค่อยากจะถามว่า 'เธอคือคนในบ้านหรอ.. ทำไมถึงรู้ละ'
เพราะคำถามนั่นทำเอาอีกคนขมวดคิ้วแน่น 'ถามอะไรแปลกชะมัด' "...ฉันอยู่บ้านนี้ และฉันก็รู้.. ฉันชื่อ ' โบมี' "
ที่แท้ก็อิม โบมี ลูกสาวคนเดียวของตระกูลอิม ว่าแต่น่าแปลก..ทำไมเธอถึงได้มาเดินแถวหน้าประตูรั้วบ้านได้ละ.. แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหรอก
ไม่นานนัก ยามก็เดินออกมาเปิดประตูรั้วด้วยความว่องไว จินยองยืนนิ่งซักพักก่อนที่เขาจะตามหญิงสาวเข้าไปอย่างหน้าตาเฉย
...................
-JIN YOUNG PART-
ผมก้าวผ่านประตูบ้านแบบเปิดสองข้างที่ทำด้วยไม้แกะสลักก่อนจะไล่สายตามองรอบๆ ข้างในบ้านหลังนี้ให้ทั่ว .. ใหญ่ดีนะ สมกับเป็นตระกูลผู้ดี ไม่ทันที่จะให้ผมสำรวจมากว่านี้ โบมี บุตรสาวตระกูลอิมก็พูดขึ้นพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี " คุณรอตรงนี้แหละเดียวฉันตามหัวหน้าแม่บ้านแปปนะ อ่อ~ ก็ต้องดูว่าคุณจะผ่าน ' การทดสอบ ' รึป่าวนะ แปปนะ!" เธอพูดอย่างร่าเริงก่อนจะตรงดิ่งขึ้นบันได
'การทดสอบ'... เดียวก่อนะครับ การทดสอบอะไร?? ผมพูดกลับตาลปัตรนะ! แค่พี่เลี้ยงต้องทดสอบด้วยหรอ แต่ชั่งมันเถอะ ผมค่อยๆ สอดส่องไปรอบๆ อีกครั้ง กว้างเกินไป เกินกว่าที่จะหา 'ยา ' ได้ คงต้องใช้เวลาหลายวันเลยแหละ...
"นายคือพี่เลี้ยงคนใหม่งั้นหรอ..." ใครคนนึงเรียกเอ่ยจากทางด้านข้าง ผมหันไปมอง เขาหน้าตาดีทีเดียวดูท่าอายุจะประมาณ 17-18 ผิวขาวผมสีทองของเขาเข้ากับใบหน้าเรียวยาวได้ดี แต่สิ่งมีหนึ่งที่ขัดกับใบหน้าและดวงตาเจ้าเล่น์นั่น.. เขาดูดชานม
เมื่อไม่ได้คำตอบ ชายคนนั้นก็เริ่มถามอีกครั้งพลางเอียงคอเล็กน้อย " ฉันถามนายนะ นายคือพี่เลี้ยงคนใหม่อย่างนั้นสินะ ใช่ไหม?"
"...." ผมเลือกที่จะพยักหน้าให้เขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจกับการกระทำนั้นเท่าไหร่
"ว้า~~~~ๆๆ พี่เลี้ยงไม่เห็นจะสวยเลย ผู้ชายซะด้วยน่าเบื่อมากๆ ~ นี่.. นายช่วยออกไปได้ไหม ฉันไม่สนใจพี่เลี้ยงแบบนายหรอกนะ ออกไปๆ" ชายหนุ่มผมทองว่าพลางปัดมือไล่ ทำเอาผมนิ่งไปซักพักก่อนจะทำเป็นไม่สนใจการไล่ผมเหมือนหมูเหมือนหมาของเขา 'อยู่ๆ ก็มาไล่.. ประสาทชะมัด ฉันมาสมัครเป็นพี่เลี้ยงนะ.. ไม่เกี่ยวกับนายนี่เลย'
"นี่.. ไม่ได้ยินรึไง... ฉันไม่ชอบพี่เลี้ยง.. ออกไปๆๆๆ" นายนั่นยังคงยืนยันคำเดิมและเริ่มพูดถี่ขึ้นจนผมเริ่มรำคาญแล้ว..
'ไหนโบมีบอกว่าจะตามหัวหน้าแม่บ้านมา... อย่าปล่อยผมอยู่กับไอบ้าน่ารำคาญนี่สิ คงไม่มีอะไรซวยกว่านี้ใช่ไหม'
ไม่ทันขาดคำ เสียงบุคคลปริศนาก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังผม "เซฮุน.. มีอะไรกันหรอ" น้ำเสียงนั้นติดเย็นชานิดๆ ทำเอาผมแอบขนลุกวาบ แต่ทว่าหน้าตาของนายนี่ดูดีไม่เบา ผมแอบอิจฉาความหล่อนิดนึงละ
ชายชานมตาโตมองยังบุคคลที่พึ่งมายืนก่อนจะบอกเสียงดัง" ผมไม่ต้องการพี่เลี้ยงหน้าตาทุเรศแบบนี้! แจบอมฮยอง.. ผมไม่ต้องการพี่เลี้ยงผู้ชาย ช่วยบอกแม่ที ผมไม่ต้องการ"
ผมเหลืออดแล้วสิ.."นายว่าใครหล่อนะ? แค่ไม่ได้มาสมัครพี่เลี้ยง ช่วยพูดจาไม่ดีได้ปะ"
"นาย.. ว่าอะไรนะ ใครบอกว่านายหล่อ?"นายชานมเริ่มมองผมด้วยสายตาเหมือนมองตัวประหลาด
ผมพลาดไปแล้ว!ให้ตายสิผมแค่จะบอกว่า'นายว่าใครทุเรศนะ แค่มาสมัครพี่เลี้ยง ช่วยพูดจาดีได้ไหมครับ...' นี่มันสุดแล้ว.. ผมเกลียดคำสาปนี้ที่สุด ผมต้องรีบหายาให้ได้!
"นายไม่ได้มีความผิดปกติทางสมองใช่ไหม..." เซฮุนถามผมแบบติดตลกก่อนจะพยักพเยอไปทางอีกคน "แจบอมฮยอง... ผมไม่ต้องการคนบ้าเข้าบ้านของตระกูลนะ.. "
ผมทนไม่ไหวแล้ว!!! "นายว่าใครสติดีนะ ??? พูดจาไม่ดีเป็นไหม?? ฉันบ้านะ! แล้วเมื่อไหร่คนรับใช้แม่บ้านจะมาฮะ! ผมรอไหวนะ! ... ให้เกิดสิ.. นี่ผมเขียนอะไรไป.. "
"...."<--นายชานม
ผมอย่าจะทุ่งหัวตัวเองเหลือเกิน.. ก็คนมัน 'อดไม่ได้นิ' จะให้ทำยังไง อยากจะเถียงขาดใจแต่มันดันกลายคำพูดกลับตาลปัตรแบบนั้น..
แจบอมพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ "นายมาสมัครงานใช่ไหม?"
"ไม่"... 'ใช่' ต่างหาก
"..." นายนั่นใช้สายตาเรียบมองมา ผมเริ่มรู้สึกถึงความเยือกเย็นในแววตานั้น
"ฉันไม่ได้หมายถึง...ไม่ แต่ฉันจะไม่บอกว่า ใช่ ต่างหาก"
"... หึ" .. ผมรู้สึกสายตาเขาเหมือนน้ำแข็ง.. ผมไม่ผิด ผมแค่พูดกลับตาลปัตร คุณ ไม่ใช่ผม คุณไม่มีวันไม่เข้าใจหรอกครับ..
ตึกๆ "ข้างล้างเอะอะ อะไรกัน~ ฉันเอาใบสมัครมาแล้วนะนาย~ " โบมีพูดอย่างร่าเริงโดยไม่สนใจเลยว่าสถาณการณ์ข้างล่างเป็นยังไงในมือถือใบต่างๆ มากมายเธอมองเซฮุนกับแจบอมตาปริบๆ " นี่.. พี่แจ มีอะไรกัน? .. อ่อ~ " เธอร้องอ่อทันทีก่อนจะชี้มาที่ผม
" นี่พี่เลี้ยงคนใหม่นะ เขาพึ่งมาสมัครหละดีจริงๆ~ " โบมียังคงพูดต่อไป เธอชี้ที่เซฮุนก่อนจะบอกกับผมว่า " นี่เลยๆ ต่อไปนี้นายคือพี่เลี้ยงเซฮุนนะ อ่า~ ฉันแอบมองอยู่นะ! นายไม่หลงความหล่อหมอนี่แถมนายยังเป็นผู้ชาย ดีจริงๆ นายผ่านการทดสอบละ" ว่าเสร็จเธอก็ยื่นใบเอกสารบางอย่างมาให้ผม
'เดียว นะ '
'พี่เลี้ยง... เลี้ยงบ้าอะไรกับคนอายุ 17-18 ครับบบ!!!! เลี้ยงทำไม'
......
ไว้มาแก้คำผิดคะ
......
ไว้มาแก้คำผิดคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น