ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : {Naui}--Bnior บทที่ 1 -
บทที่ 1
JONG
ตระกูล จอง... คือตระกูลอะไรนะหรอ?
ตระกูลที่ลึกลับที่สุด ... ตระกูลที่มีความลับเยอะที่สุด
จูเนียร์ : ตระกูลที่ฉันไม่อยากอยู่ที่สุด...
เท้ายาวของชายหนุ่มก้าวผ่านห้องต่างๆ อย่างรีบร้อนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ในคฤหานส์ตระกูลจอง แล้วการเดินคืองานอดิเรกของผู้คนในบ้านเลยก็ว่าได้ สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โตแต่กลับตั้งตระหง่านริมชานเมืองคือสิ่งที่น่าแปลกใจอีกอย่างหนึ่งของบ้านหลังนี้
ชายหนุ่มผมสีดำขลับใบหน้าขาวหมดจดนั้นดูดีในระดับหนึ่ง แต่คงจะดีกว่าถ้าตอนนี้ใบหน้าเขาไม่เต็มไปด้วยน่ำเม็ดใสผุดพลายข้างแก้มมากมาย ชายหนุ่มยังคงสาวท้าวอย่างไม่ลดละ ในใจพลางคิดเพียงว่า 'นี่มันอะไรกันแน่ .... ฉันต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้'
ปั้งง !!!!
ชายหนุ่มพุ่งพรวดเข้าไปในห้องส่วนตัวของคนข้างในอย่างถือวิสาสะ เขาไม่มีอารณ์มาเคาะประตูในสถานะการณ์แบบนี้หรอกนะ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ต้องจัดการเรื่องนี้ให้ด่วนที่สุด...
'ทำไมกันนะ... หลังจากวันเกิดครบรอบสิบแปดของเขาเมื่อวาน..'
ชายหนุ่มอีกคนที่กำลังนั่งจดบันทีกบางอย่างถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อพบผู้มาเยือนแบบไม่ประสงค์ดี "อา...จินยอง นายมีปัญหาอะไรกับฉันรึป่าว" ชายหนุ่มถามพลางเอียงคอเล็กน้อยอย่างน่าหมันไส้
"แม่อยู่ไหน?!"
ชายหนุ่มอีกคนเบิกตาโต เมื่อพบว่าจินยองน้องชายแท้ๆ ทางสายเลือดของเขาถามคำถามที่น่าตกใจที่สุด ..."นายกำลังสื่ออะไร? แม่พวกเราเสียไปแล้ว"
ดูเหมือนคำตอบของพี่ชายไม่น่าเป็นที่พอใจของจินยองมากนัก เขากุมขมับทันทีพลางร้องโวยวายโดยที่ไม่สนใจว่าอีกคนกำลังงงเป็นไก่ตาแตกกับท่าทีเดาใจไม่ถูกของเขา
"เหอะๆ .... นายเป็นอะไร วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์เล่นด้วยนะ" พี่ชายส่ายหัวไปมาพลางปัดมือไล่อย่าเอือมระอา
"โกหกนะฉันอยากถามนายว่าแม่อยู่ไหน ... แต่ดันพูดไปว่าพ่อไปอยู่ไหน"
"???????????????"
หลังจากพูดแบบนั้นออกไป จินยองก็ทึ่งหัวอีกรอบ 'บ้าเอ้ยยยย.......ทำไมฉันถึงต้องพูดกลับตาลปัดแบบนี้!'
ก่อนหน้านั้น
-JINYOUNG PART-
ถ้าตระกูลผมมีชื่อเสียงมากกว่านี้ งานวันเกิดของผมอาจจะสนุกมากกว่านี้ก็ได้ ..
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากได้จริงๆ หรอกนะ
ผมรู้สึกว่าชีวิตคนในตระกูลจองบางทีก็วุ่นวายเกินไป...
ใครจะเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ....ผมถูกสาปให้พูดกลับตาลปัตร....
'กริ๊งงงงงงง'
หมับ ผมเอื้อมมือหยิบเครื่องมือสื่อสารบนโต๊ะโคมไฟข้างเตียง ก่อนจะกดปิดนาฬิกาปลุกอย่างัวเงีย ทั้งๆ ที่รู้ว่าวันนี้คือวันเปิดเทอมแรกของทุกๆ โรงเรียน.. แต่การไปโรงเรียนไม่ใช่สิ่งที่ผมพิศวาสนัก และถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ตระกูลของผมไม่มีกฎว่า ' ทุกคนต้องไปโรงเรียน '
ผมค่อยๆ ลุกออกจากเตียงกว้าง ผมเคยคิดว่าห้องของผมคือห้องรับแขก มันใหญ่เกินไปที่จะอยู่คนเดียว .. คนในตระกูลจองเหลือแค่สี่คนแต่กลับมีบ้านหลังใหญ่เท่าวัง คนรับใช้อีกเป็นสิบ .. ทำไมผมถึงชอบคิดว่ามันน่าเบื่อนะ อาจจะเพราะว่าผมเริ่มขี้เกียจเดินแล้วก็ได้
'ว่าแต่ทำไมผมถึงรู้สึกแปลกๆ..'
ติ๊ดดด ติ๊ดดด
ผมที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยหลุดออกจากภวังค์ทันทีเมื่อมีสายเข้า 'ใครมันโทรมาตอนนี้ ตื่นเช้าเอาโล่รึไง' ผมกดรับก่อนจะรอให้ปลายสายเริ่มสนทนา
"พี่จินยอง ขอโทษนะที่วันเกิดพี่เมื่อวานผมไม่ได้ไป" น้ำเสียปลายสายเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
พอรู้ว่าเป็นใครผมก็โล่งใจ คยองซู น้องชายคนเล็กของตระกูล เขาคือแก้วตาดวงใจของพ่อผม ถึงแม้เมื่อวานเขาจะไม่ได้ฉลองวันเกิดครบรอบอายุ 18 ของผมด้วยกัน ผมก็คงไม่งี่เง่าพอที่จะโกรธน้องชายตัวเองที่มีธุระ
"โกรธสิ เรื่องใหญ่โต ต่อไปไม่ต้องมาฉลองอีกนะ "
'!!!!!' เดี๋ยวนะ...!!!!! เมื่อกี้ผมจะพูดว่า 'ไม่เป็นไรหรอกน่า เรื่องแค่นี้เอง แต่ต่อไปต้องมาฉลองด้วยกันนะ' แต่ทำไมคำที่ผมพูดมันกลับเป็นแบบนั้นละ ทุกอย่างกลับตาลปัดหมดเลย?? ผมตาโต ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน.. ตอนนี้หัวใจของผมมันเริ่มอยู่ไม่สุขซะแล้ว
ปลายสายเริ่มไม่แน่ใจ คยองซูถามผมเสียงเบา"พี่จินยอง ล้อเล่นใช่ไหม?"
ไม่ได้การละ เมื่อกี้ผมพูดอะไรออกไปนะ ผมต้องกลายเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ หรือเพราะวันนี้ตื่นเช้าเกินไป หัวสมองผมเลยเบลอ ยังไม่สามารถประมวลผลได้ทัน "เมื่อกี้พี่ตั้งใจพูด "
'!!!' ผมแค่จะบอกว่า 'เมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจพูดนะ' ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ ?เกิดอะไรขึ้นกับคำพูดของผมอย่างนั้นหรอ
ติ๊ด! พั่บผ่าสิ!! คยองซูตัดสายทิ้งไปแล้ว ! ผมรีบกดปุ่นโอนไปที่ปลายสายอีกครั้งแต่ก็พบว่าน้องชายของผมเขาปิดเครื่อง... ให้ตายสิ ...
ผมเริ่มบ่นพรึมพรำ "นั่นมันอะไรกัน...."
แล้วทำไมคำว่า นี่ ของผมต้องเปลี่ยนเป็น นั่น ด้วยละ!
ผมตัดสินใจหลับตาแน่นจากนั้นก็เริ่มท่องนะโมตาสะ... เดียวนะ มันไม่ใข่แบบนี้สิ ผมไม่ได้กำลังฝัน ว่าแล้วก็ตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง ผมตรงดิ่งลงไปยังบันได้วน ตลอดทนงพยายามจะสะกดจิตตัวเองว่าเมื่อกี้อาจเป็นช่วงเบลอๆ ของผมเท่านั้น
"คุณหนูตื่นแล้วหรอคะ" แม่บ้านด้านล่างห้องโถงทักทายผมอย่างเป็นกิจวัตร
ผมยิ้มนิดๆ ก่อนจะตอบว่า "ยังไม่ตื่นครับ"
"..." ไม่ต้องถามว่าสีหน้าแม่บ้านเธอเป็นยังไง คงไม่ต่างจากการถูกตอกหน้า ถึงแม้นิสัยผมจะค่อนข้างกวนโอ๊ย แต่ก็ไม่ถึงขัั้นขวางโลกขนาดได้ขนาดนี้
ผมพยายามจะปรับคำพูดใหม่อีกรอบ "โกหกนะ ผมจะไม่พูดว่าผมยังไม่ตื่น" ...'ความจริงแล้ว ผมจะพูดว่าผมตื่นแล้ว' แต่มันกลายเป็นแบบนั้น ตอนนี้สีหน้าของเธอเริ่มเหยเกขึ้นทุกที
'ใคร ก็ ได้ ช่วย ผม ด้วย!!!!!!!!'
-ปัจจุบัน-
"ยาพาราไหม" แจ็คสัน พี่ชายแท้ๆ ของผมถามอย่างเหลืออด ตอนนี้พี่ชายผมคงคิดว่าผมกำลังเล่นพิเรนอะไรบางอย่างแน่ๆ ผมไม่ได้กำลังจะเล่นอะไรทั้งนั้น ได้โปรดเข้าใจหัวอกผมด้วย ผมพูดกลับตาบปัด!!!
ผมถลึงตาใส่แจ็คสันระลอกนึงก่อนจะอดพูดไม่ได้ "ฉันไม่สบาย ต้องการยาพารา แต่ตอนนั้นฉันไม่มีเรื่องเดือดร้อน ฉันพูดอย่างที่คิด จะไม่ทำอะไรดี!!"
"...."
เวณกรรมสิผมทำผิดอะไรทำไม่พระเจ้าต้องลงโทษผมด้วยวิธีนี้ ผมแค่จะบอกแจ็คสันว่า 'ฉันสบายดี! ไม่ต้องการยา แต่ตอนนี้มีเรื่องเดือดร้อน ฉันพูดกลับตาลปัด จะทำยังไงดี!'
พี่ชายผมตบโต๊ะดังปั้ง!! เขาตาโตก่อนจะยิ้มกว้างจนแทบปากจะฉีก เขาชี้หน้าผมแล้วเอ่ยเสียงดังลั่น "ฉันเข้าใจนายแล้ว! ว่านายต้องการจะสื่ออะไร" คำพูดนั่นทำให้ผมที่กำลังหมดหวังตาเป็นประกายทันที ผมใจจดใจจ่อรอฟังเขาอย่างตั้งใจ จากการพูดและท่าทางเขาฉลาดจริงๆ ที่เข้าใจผมได้
แจ็คสันตบมือดังป้าป "เพราะเกาหลีร้อนเกินไป!! โรคบ้าของนายเลยกำเริบ!!"
.... พี่ชายของผม.. เขาให้ความหวัง.. และดับฝันผมอย่างเลือดเย็น เกาหลีนะไม่ใช่ประเทศไทย! ผมอยากจะตอกกลับจริงๆ แต่มันคงจะกลายเป็น 'นี่ประเทศไทยนะไม่ใช่ขั้วโลก....'
ผมทึ่งหัวตัวเองอย่างจนตอก อยากจะทุบตีตัวเองแล้วบอกว่านี่มันก็แค่ความฝัน จินยอง.. นายกำลังฝัน!! แต่ผมทำไม่ได้เพราะนี่คือความจริง.. ทันใดนั้นเองผมก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ผมตรงปรี่ไปที่ลิ้นชักของฮยองอย่างรวดเร็วก่อนจะหยิบกระดาษและปากกาออกมาด้วยความร้อนรน จนพี่ชายผมเริ่มมองผมเหมือนผมหลุดออกมาจากหลังคาแดง
ผมไม่รีรอที่จะเขียนข้อความที่ผมต้องการจะบอกแจ็คสันฮยองมากที่สุด ผมไม่มั่นใจว่าเขาจะพาผมไปโรงพยาบาลรึป่าว ผมยื่นกระดาษให้เขาทันทีที่เขียนเสร็จ
เหนือความคาดหมาย .. พี่ชายผมไม่ได้ตกใจสิ่งที่ผมเขียนในกระดาษ เขาอ่านมันและเริ่มมีสีหน้าจริงจัง และแล้วคำพูดของเขาก็ทำให้ผมต้องนิ่งค้าง
"อ่า.... เหมือนพ่อจะเคยบอกฉันเรื่องนี้ ฉันนึกว่าจะเป็นฉันซะอีก ไม่นึกว่าจะเป็นเกี่ยวกับการพูดด้วยซ้ำ ..." เขาละสายตาจากกระดาษก่อนจะบอกบางอย่างที่ทำให้ผมอยากตายไปเสียตรงนั้น
"นายคือคำสาปของตระกูลจองละ.... ดูเหมือนทุกคืนวันข้างขึ้นคี่ ข้างแรมคี่.. ฉันหมายถึงตามปฏิทินสุริยะคติ นายจะต้องเป็นแบบนี้สามวันในหนึ่งอาทิตย์จนกว่าจะถอนคำสาปได้ นี่นายหรอเนี่ย ฉันนึกว่าพ่อหมายถึงฉันซะอีก" พี่ชายผมกำลังพูดอะไร....?
ทุกคนครับ? เมื่อกี้เขา.... พูดว่าอะไรนะ...?
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น