ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fiction Lumin ft.exo]Die rosen (exo)

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 57


     

     

    บทที่ 2  Human

     

             อากาศหนาวเย็นทำให้เปลือกตาขาวบางแต่งแต้มสีแดงที่หลับไหลลืมตาตื่น กุพชะกะตัวน้อยผิวขาวซีดตอนนี้ถูกย้อมด้วยสีแดงหมดจด นัยน์ตาสีเลือดเหลือบสังเกตรอบๆ แต่สิ่งเห็นตรงหน้าทำให้เขาสั่นสะท้านทั้งตัว ภาพแวมไพร์ฮันเตอร์ที่คิดจะฆ่าตอนนี้นอนหมดสติจมกองเลือด รอบตัวเขาไม่มีใครเลยแม้แต่ คนเดียวเหลือเพียงศพของคนที่คิดจะฆ่าเขาหลายคน ขณะนั้นเจ้าตัวก็ก้มมองดูมือตัวเองที่มีเล็บแหลมคมไม่รุ้ว่ามาได้อย่างไร ตอนนี้ไม้แหลมคมออกจากตัวเขาหมดแล้วแม้แต่เขาเองก็ยังไม่รุ้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองยังไม่ตาย’…เขาคิดได้เพียงเท่านี้แล้วศพตรงหน้าเขาเกิดขึ้นจากอะไร..สภาพศพเหมือนถูกฉีกขาดโดยเคี้ยวเล็บ เกิดอะไรขึ้นกันแน่
     

    ดวงตาเหม่อลอย สองเท้าค่อยๆลุกขึ้น เขาย่างผ่านศพของพวกมนุษย์เดินลึกเข้าไปในป่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไร ไม่มีใครอ่านนัยน์ตาเขาออก
     

    และไม่มีคำตอบใดๆสำหรับศพแวมไพร์ฮันเตอร์เรียงรายที่ถูกทิ้งไว้ในป่าช้าแห่งนี้
     

     

      …………………

     

             แผนที่เดินทางถูกพับเก็บเข้ากระเป๋าติดชายกางเกงด้านข้างของชายหนุ่มนักเดินทาง ด้วยอากาศที่ร้อนจัด ใบหน้าหล่อคมคลายแบบผู้ชายผิวสีแทนถูกแต่งแต้มด้วยเหงื่อผุดพลายข้างๆแก้ม หากแต่ไม่ทำให้ความหล่อเขาลดลงแม้แต่นิด


     

    เหมือนจะมั่วทางชายหนุ่มนักเดินทางหันไปพุดกับสาวสวยร่างบางที่ร่วมเดินทางด้วยกัน
     


    ข้าไม่สงสัยเลยทำไมอัศวินแบบนายถึงไม่ได้เป็นแม่ทัพซักทีสาวร่างบางเอ็ดชายหนุ่มก่อนจะถือวิสาสะหยิบแผนที่ในกระเป๋ากางเกงของเขาออกมา ชายหนุ่มก็ไม่ถือโทษอะไรเหมือนเป็นเรื่องปกติที่หญิงสาวจะทำแบบนั้น
     


    เมืองวิลล่าเสียงใสดังลอดออกมาจากปากกระชับได้รูปของหญิงสาว คิ้วเรียวขมวดกันจนเป็นปม แม้แต่เธอเองก็ยังไม่เข้าใจในแผนที่พวกนี้
     


    กลับที่พักก่อนไหม ใกล้ค่ำแล้ว ป่านนี้คนในกองทัพคงตามหาเราแล้วชายหนุ่มออกความเห็นซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ขัดอะไร เธอเห็นด้วยที่ว่าพวกเราออกจากที่พักมานานเกินไป ขืนนานกว่านี้พวกพ้องคงต้องออกตามหาเป็นแน่
     


    ตามนั้นกล่าวเสร็จหยิงสาวก็นำแผนที่ยัดใส่มือชายหนุ่มแล้วเดินจ้ำอ้าวไปทางเดิมพี่พวกเขาเดินมา ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นสายตาของหญิงสาวสะดุดกับบางอย่าง..สีแดงเหมือนเลือด
     


     “ซักครู่นะ ไปสำรวจอะไรซักหน่อยเธอบอกเพื่อนร่วมทางที่เดินตามมา ชายหนุ่มได้แต่ทำหน้าฉงนแต่ก็ไม่ได้กล่าวห้ามอะไรปล่อยให้เธอเดินไปส่วนเขาได้แต่ยืนรออยู่ที่เดิม
     


     “ไค!” เสียงตะโกนเรียกชื่อเขาของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งเฮือก รีบวิ่งไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
     


    ไม่อยากจะเชื่อ ภาพที่เห็นตรงหน้าเขาคือร่างเด้กน้อยนอนสลบอยู่ตรงพื้นดินร่างทั้งร่างของเด้กน้อยเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
     


    จะทำอย่างไรดี.หญิงสาวถามชายหนุ่มที่พึ่งมาถึง เด็กน้อยตรงหน้าเธอยังมีชีวิตเธอสังเกตได้จากรมณ์หายใจอ่อนๆที่รวยรด สภาพใกล้จวนเจียนขึ้นทุกที เธอลนลานมากจนไม่รู้จะเริ่มยังไงหวังว่ายังไม่ตายนะ
     


    เร็วๆ! รีบพากลับที่พักเถอะ!. ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าเด้กน้อย เขาค่อยๆช้อนร่างเด็กขึ้นมาช้าๆจนมือหนาอุ้มเด็กน้อยได้อย่างพอดี เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้ได้นะ เขาคิด แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาพอให้คิดอะทั้งนั้นเขาต้องรีบช่วยเด็กคนนี้ให้ได้เสียก่อน
     

    ………
     


    ทำไมที่นี่มืดจังเลย
     


    มีใครอยู่ไหม….’
     


        รอบตัวเขาเหมือนไม่มีใครอยู่เลย ทำไมทุกอย่างถึงดูมืดสนิทอย่างนี้ ทุกอย่างเป็นสีดำไปหมด ทำไมกันนะจะว่าตาบอดก็ไม่ใช่แน่เพราะเขาเห็นมือที่ขาวซีดของตัวเองเห็นหยดน้ำสีแดงที่เปรอะเปื้อนลำตัวเขา
     

    เราอยู่คนดียว ในสถานที่ที่มืดมิด
     


        ผมยาวประบ่าเปรื้อนเลือดที่แห้งกร้านกลิ่วคาวฟุ้งจนเขาอยากจะอาเจียน เขาเอามือทั้งสองข้างปิดใบหน้าตัวเองซุกลงกอดเข่าเหมือนคนหมดความหมายในชีวิต
     


    เหมือนโลกทั้งใบของเขามีเพียงอากาศกับความมืด ความสับสนคละเคล้ากับความเงียบสนิทหยดน้ำสีแดงไหลออกมาจากเบ้าตา จนกระทั่งเขาสะอึกสะอื้นออกมา
     


    ฮึกฮึก
     


    ฮิ ฮิ ฮิ
     


    จู่ๆเสียงไม่คุ้นหูก็ดังขึ้นในความมืด
     


    เจ้าก็แค่สิ่งของไร้ค่า มีแต่คนอยากทิ้งเจ้า อยากกำจัดเจ้า ไร้ค่า ไร้ค่าสุดๆ
     


    ใคร ท่านคือใคร ท่านคุยกับเราหรอ.เขาเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว
     


    ข้าเป็นใครไม่สำคัญ อย่างน้อยข้าก็มีประโยชน์กว่าเจ้า ~~ เป็นแวมไพร์ก็งี้ละ ไร้ค่า
     


    ไร้ค่า?’เสียงแผ่วเบาดังมาจากปากบางสีแดง ไร้ค่า..?
     


    ท่านหมายความว่าอะไร
     


    เขาพยายามถามแต่ก็ผ่านไปเนิ่นนานไม่มีใครตอบคำถามเขา เขาอยู่คนเดียวอีกแล้วหรอ
     


    ไม่เอานะ..’
     


    ไม่ชอบแบบนี้เลย
     


    ไม่เอา..’
     


    ไม่!!!’
     


     “เป็นอะไรรึป่าว! ตื่นสิๆ เสียงตะโกนโหวกเหวกดังลอดเข้ามาในประสาทหูทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นช้าๆก่อนที่จะพบว่าเขานอนอยู่ในที่ไม่คุ้นตามาก่อน
     

    เฮือกก!! เขาตกใจถอยหลังหนีจนสุดพนังห้องเมื่อพบว่ามีมนุษย์อยู่ตรงหน้าเขา มนุษย์..มนุษย์เคยคิดจะฆ่าเขาการพบมนุษย์อีกครั้งทำให้เขาหวาดกลัว
     


    ดีใจที่เจ้าฟื้นแล้ว แล้วเจ้าเป็นยังไงบ้างหญิงสาวถามก่อนจะเอื้อมมือมาหาเขา
     


    “…”เขารีบถอยหนีไปอีก ตัวน้อยๆสั่นเทาอย่างรุนแรง นัยน์ตาสีเลือดจ้องมองหญิงสาวตรงหน้ารอดูว่าเธอจะทำอย่างไรกับเขาต่อ จะเอาไม้แหลมๆมาแทงเขารึป่าวนะ
     


    เอ๋? เด็กน้อยไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่ทำอะไรเจ้าหรอกหญิงสาวเห็นท่าทีของเด็กน้อยก็อดสงสารไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้กันแน่นะ
     


    นอกจากจะสวยแล้วพี่ยังใจดีอีกนะเธอชีกยิ้มจนตาหยี้แอบขำกับคำพูดของตัวเอง
     


        หารู้ไม่ว่ารอยยิ้มเมื่อกี้ทำให้เขามองเธอตาโตอย่างไม่คาดสายตา ไม่รุ้ทำไมถึงรู้สึกผ่อนคลายคนนี้ไม่เหมือนพวกก่อนหน้านี้แต่ใบหน้าที่ปากยกขึ้นเมื่อกี้ .. พึ่งเคยเมื่อกี้..พึ่งเคยเป็นครั้งแรก
     

    หญิงสาวรู้สึกได้ว่าถูกเด็กจ้องมองจึงสงสัยว่ามีอะไรติดหน้าเธอรึป่าว
     


    คุยกับเราหรอเขาเอ่ยถามคนแปลกหน้าด้วยความสงสัย
     


    หืมม..ใช่สิ ในนี้มีแค่เจ้ากับพี่สองคนเองนะหญิงสาวพูดพลางทำมือนิ้วชี้สองข้างเข้าหากัน

    การกระทำของเธอทำให้กุพชะกะมีความรุ้สึกแปลกใหม่ พึ่งจะมีคนคุยกับเขาอย่างจริงจัง และใช้ท่าทีแบบนี้
     


     “เอมม่า เจ้าหนูเป็นอย่างไรบ้างเสียงชาบหนุ่มรอดเข้ามาจากประตูทางเข้า
     


    อ่า ไม่ต้องกลัวนะเด็กน้อย ถึงพี่ชายคนนี้จะหน้าโหดแต่ปัญญาอ่อนมากเอมม่าพูดเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยตรงหน้าเธอกลัวชายหนุ่มจนหัวหดพร้อมกับหัวเราะคิกคักเมื่อได้แกล้งผู้มาเยือน
     


    เธอว่าอะไรนะ
     


    ป่าวนะหญิงสาวตอบพร้อมกับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
     


    ชายหนุ่มมองเธออย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไรตอนนี้เขาสนใจเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าเสียมากกว่า
     


    นี่มัน ..นัยตาสีแดง
     


    ใช่เลย สีแปลกใช่ไหมละเอมม่าเสริม
     


    นี่มัน..ชนเผ่าอะไรไม่เคยเห็นมาก่อนสงสัยหลงมาจากแดนไกลแน่เลย
     


    เด็กน้อยไม่รุ้ว่าพวกเขาพูดถึงอะไรกันแต่ตอนนี้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตั้งแต่ที่เขาเกิดมาเขาพึ่งเคยพบมนุษย์ที่มีลักษณะแบบนี้ อยากคุยด้วยเหลือเกิน
     


    เจ้าชื่ออะไรเด็กน้อยเป็นดังคำขอ ไคหันมาพูดกับเด็กน้อยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
     


    ชื่อ..ชื่อคืออะไร
     


    คำถามของเขาทำให้ไคกับเอมม่ามองหน้ากันเลิกลั่ก


     ชื่อก็ใช้เรียกแทนตัวเองไง เช่นพี่ชื่อไค ส่วนพี่สาวคนนี้ชื่อเอมม่า เวลาเรียกพี่ก็เรียกไคนะไคสอน เด็กคนนี้คงเกิดมาในชนเผ่าที่ไม่นิยมเรียกชื่อแน่ๆ เขาคิด


    เราไม่มีชื่อแต่มักจะมีแวมไพร์ในหมู่บ้านที่เรียกเขาว่ากุพชะกะ แต่หากเขาบอกไปเขาคงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้.. พี่ชาย พี่สาวคงไม่คุยกับเขาอีกต่อไป
     


     “อ่าไคร้องอ่ออย่างเข้าใจ เด็กคนนี้ต้องลืมชื่อตัวเองแน่ๆ งั้นเขาขอตั้งชื่อใหม่ให้เลยละกัน
     

     
    เช่นนั้นข้าจะเรียกเจ้าว่า…”



     

     .........


    ไรท์เตอร์รีบมากคะพึ่งสังเกตว่าใช้ภาษาแปลกๆไปหลายตอน
    คนอ่านคงกระอั่กกระอวกกับภาษาน่าดู
    จะพยายามแก้ไขให้เร้วที่สุดคะ 
    ส่วนคำผิดจะรีบแก้ไปเรื่อยๆนะคะ
    มีคนถามว่ากุพชะกะอ่านยังไง แนะนำอ่าน กุบ-ชะ-กะ คะอ่านง่ายกว่า
    วิธีการอ่านแล้วแต่คนอ่านเลยคะ ^^

     ตัวหนังสือปรับให้พอดีแล้วคะ ขอบคุณที่เตือนนะคะ

     และที่เห็นว่าตอนอื่นๆถูกแก้ไขวันนี้คือเปลี่ยนฟ้อนต์ตัวหนังสือจร้า

     

     

     

    Ha .ha
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×