คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ๓. ที่เดิม คนเดิม
โรงเรียนปฏิณิชภัณฑ์วิทยาคม ตั้งอยู่บนเนินสูง นับว่าเป็นสถานที่ที่อยู่สูงเหนือกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในเขตชุมชนแห่งนี้ ยามใดหน้าฝนน้ำท่วม ชาวบ้านจะลี้อุทกภัยมาอาศัยบนโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่ พอน้ำยุบ สิ่งที่หลงเหลือคือ ขยะ และส้วมที่ถูกใช้จนเต็ม
ลินไม่เคยเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้มาก่อน แต่ความรู้สึกก็ไม่ต่างกับบ้านตัวเอง เพราะบ้านของลินตั้งอยู่ในที่ต่ำ น้ำท่วมทีก็มิดหลังคา หน้าฝนทีไรเป็นต้องมาพึ่งโรงเรียนนี้เสมอ ครั้งล่าสุดคือตอนป.6 แม้จะไม่ได้ขึ้นมาหลายปี สถานที่แห่งนี้ก็ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีการพัฒนาใดๆ ... เพื่อนๆที่ลินรู้จักสมัยเรียนอยู่โรงเรียนประถมฯ ส่วนมากก็มาศึกษาต่อในโรงเรียนแห่งนี้
หน้าห้องเรียนชั้นม.4/1 สิ่งแรกที่ลินรู้สึกได้เมื่อก้าวข้ามผ่านธรณีประตูห้อง เสียงดังเซ็งแซ่ ภาพเพื่อนๆแย่งกันจองที่นั่งอย่างสนุกสนาน ภาพเด็กใหม่ยืนงง ภาพทุกคนกำลังทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ลินยังสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่เป็นอันตรายมากๆ ถึงขั้นต้องถอยก้าวกลับออกมาตั้งหลักใหม่
พอลองแหย่เท้าข้ามธรณีประตูไปอีกครั้ง ความรู้สึกเดิมก็กลับมาอีก พอชักเท้ากลับ ก็หายไป ความรู้สึกเหมือนได้หลุดไปอีกมิติ เหมือนดำน้ำนานๆแล้วโผล่ขึ้นมา เหมือนออกมาจากห้องแอร์สู่ภายนอกที่อบอุ่น เขาชักเท้าเข้าๆออกๆสลับไปมาอยู่อย่างนั้นเพราะรู้สึกว่ามันเพลินดี จนเพื่อนในห้องเริ่มมองผิดสังเกต เลยเลิกเล่นแล้วเดินเข้าห้องไปดีๆ
ลินมองสำรวจไปทั่วห้อง มีนักเรียนหญิงแค่ 7 คน ดูให้ดีเท่าไหร่ก็มีแค่ 7 คนจริงๆ นอกนั้นเป็นผู้ชายทั้งฝูง เขาพยายามคิดว่า ความรู้สึกแปลกๆนั้นอาจเป็นเพราะรัศมีเพศชายมันกลบกินเพศหญิงทำให้เกิดความไม่สมดูลหรือเปล่า คงไม่ใช่สัมผัสของอันตรายจากสิ่งเหนือธรรมชาติอย่างที่คาดแต่แรก เขาเลือกมานั่งหลังห้องมุมซ้ายสุดติดมุมขยะ
ลินถือคติว่าต้องนั่งใกล้มุมขยะ เพราะมุมขยะ เป็นจุดที่สิ่งของทั่วพื้นห้องเรียนจะไหลมารวมกัน เวลาเวรประจำวันกวาด ก็มักจะมีเครื่องเขียนต่างๆมาให้ลินใช้ฟรีเสมอ
มองไปทั่วๆก็ได้สบตากับเพื่อนที่เขารู้จักสมัยประถม
" สิงห์ " ลินตะโกนเรียก
สิงห์ จริงๆชื่อเล่นว่า ' เหล้ากลั่น ' แต่ไม่มีใครเรียก เพื่อนๆเลยเรียกสิงห์เสียส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นเสียงพยางค์แรกจากชื่อจริง สิงห์เป็นคนตัวโต ล่ำบึก ท้วมเล็กน้อย หน้าโหด ดูเป็นคนกร้านโลกกร้านงาน ผิวขาวมาก และหล่อสุดๆ เห็นกำลังนั่งคุยกับเพื่อนคนหนึ่งที่ลินไม่รู้จัก
" อ้าว ลิน ทำไมมาเรียนที่นี่ " สิงห์เอ่ยพร้อมปลีกตัวเดินเข้ามาหา
" มีธุระ" ลินว่า
สิงห์ปลีกมานั่งเก้าอี้ตัวข้างๆลิน เขาจ้องตาลินยิ้มกริ่ม " ดำขึ้นเยอะเลยนะ "
ลินไม่ตอบอะไร ได้เพียงแต่ยิ้มตอบไปและจ้องด้วยสายตาที่แข็งทื่อ จนสิงห์พยายามหลบตา
สิงห์ยื่นมือข้างหนึ่งไปปลดกระดุมเม็ดบนของลินออก ขยับหน้าเข้าไปใกล้ๆและมองลงไปที่กลางอกของลิน " ... ทาน้ำมันบ้างรึป่าว "
" ลืมตลอดเลย " ลินหมายถึงรอยสักยันต์เสือเผ่น(อวลํจติ)ของตำหนัก ศ.บุญลำยงเลข ที่สิงห์เคยสักไว้ให้กับลินก่อนที่ลินจะย้ายไปเรียนในเมือง เพื่อเป็นของขวัญและเป็นสัญลักษณ์แทนใจ สิงห์สักให้ไม่คิดค่าครูเพราะอยากจะให้ลินคิดถึงสิงห์อยู่เสมอ
" ขั้นไหนแล้วเล่า? " สิงห์จรดกระดุมให้ลินเหมือนเดิม
" ไม่ค่อยว่างฝึก ยังขั้นเดิม " ลินหมายถึงขั้นทางไสยศาสตร์ ที่มีทั้งหมด 5 ขั้น
สิงห์ มีความเกี่ยวพันกับไสยวิชามานานแล้วตั้งแต่ยังเล็ก โดยสิงห์นั้นเป็นชาญไสยศาสตร์ขั้น 3 เท่ากับลิน แต่ถนัดกันคนละด้าน ... รู้สึกแปลกเล็กน้อยที่มีคนเข้ามาถามระดับขั้นของชาญไสยตัวเอง ในสถานที่ที่ไม่ค่อยจะมีใครเล่นของ
" ลิน ตอนนายเดินเข้ามาในห้องนี้ ... นายรู้สึกแปลกๆบ้างปะ? " จากทีแรกที่คุยกันเบาๆอยู่แล้ว พอถึงตรงนี้สิงห์ยิ่งพูดเบาลงอีก เป็นทีท่าว่าจริงจัง
เห็นทีลินคงทำใจทำคอให้ดีไม่ได้แล้ว ไม่ได้มีแค่เขาเท่านั้นที่รู้สึกแปลกๆกับห้องเรียนห้องนี้ สิงห์ก็รับรู้ได้เช่นกัน " แสดงว่าเค้าไม่ได้คิดไปเองอะดิ "
สิงห์เอื้อมมือมาแตะบ่าลินบีบค่อย " ระวังตัวด้วยละกันนะลิน ห้องนี้อาจไม่ปลอดภัยไปตลอดเทอมเลยก็ได้ "
ฝ่ามือที่อุ่นอยู่เสมอของสิงห์ ยังคงอุ่นเช่นเคย และอุ่นกว่าเมื่อก่อน อาจเป็นเพราะกาลเวลาผ่านไป จากป.6เป็นม.4 มือก็คงจะใหญ่ขึ้น
สิงห์ไม่มีเวลาอธิบายเพราะต้องออกไปรับครูประจำชั้นมาโรงเรียน พอดีตอนที่ครูประจำชั้นขับรถมา ยางรถเกิดแตกกลางทาง เพราะเอาไปเหยียบสันประปา เลยโทรตามให้สิงห์ออกมารับที
" แทงค์!! " สิงห์กวักมือเรียกใครบางคน
" แทงค์ เดี๋ยวเราออกไปรับครูเจ๊กก่อน เห็นบอกว่ายางแตกอยู่หน้าโรงฆ่าสัตว์ นายช่วยอยู่เป็นเพื่อนลินหน่อย "
ชายที่ชื่อแทงค์ เป็นคนรูปร่างใหญ่ จมูกสวยเหมือนศัลยกรรม ตาค่อนข้างตี่และหล่อสุดๆ เขานั่งลงข้างๆลิน " เพิ่งย้ายมาหรอ "
คุยกันไปได้สักพัก ลินคิดว่า เขาเองคงเอาเรื่องไสยศาสตร์มาคุยกับแทงค์ไม่ได้ ดูท่าแล้วไม่น่าจะใช่คนเล่นของอย่างเขาและสิงห์เลย ลินลองถามคำถามอ้อมๆดูแล้ว " ห้องเรียนนี้ดูอึดอัดยังไงก็ไม่รู้นะ เหมือนพื้นที่อโคจรเลย ว่าป่าวแทงค์ "
" หรอ ... " แต่แทงค์ก็ตอบมาแบบคนไม่มีความรู้ทางด้านไสยเวสเลย ...
___________เชิงอรรถ____
ไสยเวส : ถ้าเขียนตามหลักล้านนาดั้งเดิม จะสะกดด้วย สอเสือ (เวส) ส่วนแบบไทย เขียน เวทย์
ความคิดเห็น