คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ๒. ศรีนวล
.
" ..." นักเลงใหญ่แห่งโรงเรียนชายล้วน ภควบาทวิทยาคม จ้องเขม็งเพ่งใส่ดวงตาหลังกรอบแว่นสีทองของเด็กใหม่ ไม่มีใครใน ห้อง 6ก รู้เลยว่านายแว่นคนนี้เป็นใคร อยู่ดีๆก็เข้ามานั่งหน้าเฉย
โรงเรียนภควบาทวิทยาคม เป็นโรงเรียนที่ไม่มีผู้หญิงกล้าเข้ามาเรียนจนโดนเข้าใจผิดว่าเป็นโรงเรียนชาย โดยนักเรียนหญิงคนสุดท้ายที่จบการศึกษาไปก็เมื่อ 5 ปีก่อนแล้ว ชื่อเจ๊ฝิ่น ฉายา เจ๊ฝิ่นหน้าหอ
ที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องอบายมุขและการทะเลาะวิวาท ผู้ที่จบการศึกษาจากที่นี่ล้วนมีอนาคตในวงการใต้ดิน ชายฉกรรจ์วัยเยาว์มากหน้าหลายตาเลือกที่จะมาโรงเรียนนี้เพื่อใฝ่หาความเป็นใหญ่ในหมู่นักเลง หวังสร้างชื่อและผลงานในตอนที่อายุยังน้อย สู่ลู่ทางของสังคมนักเลงผู้ใหญ่ในอนาคต บ้างก็เข้ามาเพราะเป็นสถานที่ที่ง่ายต่อการค้าสิ่งผิดกฎหมาย เช่นอาวุธปืน ยานักเรียน* พืชผิดกฎหมาย แต่กลุ่มที่หวังเรื่องความสะดวกทางการค้าเหล่านี้มักถูกมองว่าเป็นพวกชั้นล่างของสังคมภควบาท ... ส่วนกลุ่มที่ได้รับการยกย่องจริงๆ คือกลุ่มที่ลำพังแต่การใช้กำลังชกตี แต่อย่างไร สังคมนักเลงก็ขาดกลุ่มค้ายามิได้ ระยะหลังเริ่มมีการยกย่องเหล่านักเรียนที่เลือกเส้นทางค้าขาย ให้ดูสูงส่งขึ้น
กว่า 10 ปีที่ภควบาทก่อตั้ง นักเรียนชายทุกรุ่นต่างใช้ชีวิตรอบรั้วภควบาทภายใต้กฎระเบียบมาเสมอ ถึงจะเป็นโรงเรียนนักเลง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีขื่อไม่มีแปเลยเสียทีเดียว อยากต่อยใครก็เข้าไปต่อยเลยมิได้ ขั้นตอนคือ ต้องล้มลูกน้องในก๊กก๊กนั้นตามลำดับความเก๋าให้ได้หมดเสียก่อน ถึงจะเผชิญหน้ากับหัวหน้าก๊กได้ หากหัวหน้าก๊กใดพ่ายลง ย่อมต้องเลือกปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างยกตำแหน่งให้ผู้ชนะ หรือสลายก๊กตัวเองเสีย
เมื่อ 2 ปีก่อน ห้อง 6ก ก็ยังเป็นกลุ่มที่ใครๆต่างหวาดผวาแม้ได้ยินเพียงชื่อ ถึงจะอยู่แค่ ม.ศ.4 ก็ยังทำให้รุ่นพี่ ม.ศ.6 ในสมัยนั้นกลัวหัวหด มีเด็กใหม่มากหน้าหลายตาที่ทนอยู่ห้องนี้ไม่ได้ ลาออกหรือขอย้ายห้องไปหลายราย ห้องเรียนห้องนี้จึงเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง พักหลังก็ไม่มีใครคิดที่จะยุ่งกับ 6ก อีกแล้ว หรือแม้แต่เดินเท้าผ่านหน้าห้อง ก็ยังไม่มีใครกล้า ต้องเลี่ยงเส้นทางโดยลงบันไดไปชั้นล่างแล้วค่อยไปขึ้นบันไดอีกฝั่งแทน
กระทั่งมีชายสวมแว่นกรอบทองสะพายย่ามลายจุดเสือดาวเข้ามาจองที่นั่งอย่างมั่นใจในรอบ 3 ปี
สิงห์ บุญลำยง
คือชื่อที่ปักอยู่ตรงปกเสื้อของเขา สิงห์ละสายตาจากนายปองพล เดินช้าๆเงียบๆเหมือนปฏิบัติจงกรมไปนั่งตรงที่ที่น่าจะเป็นแท่นประจำตำแหน่ง เป็นแหย่งไม้ชิงชันปูด้วยผ้าพรมขนฟู หยิบหมากพลูใส่ปากและยังจ้องปองพลสายตาเชือดเฉือนไม่เลิก
ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง พร้อมนักเรียนชายนายหนึ่งก้าวเข้ามาอย่างใจเย็น
" สิงห์ ... รู้หรือยัง พวกก๊กมโหรีโดนยำเละเทะหมดแล้วนะ หัวหน้ามันทั้ง 2 คนก็โดนอัดจนอ่วมเชียว "
" เรื่องแค่นี้ ... เอามาบอกทำไม ซ้ง " เสียงแหบแห้งเหมือนพ่อมด แม้จะเบาแทบไม่ได้ยินถ้าไม่ตั้งใจฟัง แต่กลับน่าสะพรึงจนขนลุก ... ขาใหญ่อย่างนายสิงห์พูดถูก ก็แค่พวกก๊กกากเดนอย่าง มโหรี ถูกต่อยหมอบยกก๊กให้เห็นออกจะบ่อย พอแผลหายก็กลับไปหาเรื่องคนอื่นต่อ แทนที่จะสลายก๊กตัวเองตามกฎของ ภควบาท ยังหน้าด้านประกาศชื่อก๊กตัวเองต่อไปแบบไม่อาย แถมยังชอบยกพวกทำร้ายคนอื่นไปเรื่อย ใช้ของหนักทุบตี ทั้งที่ใครๆก็นิยม 1 ต่อ 1 แบบมือเปล่ากันทั้งนั้น
" นักเลงของภควบาทที่ไม่ทำตามกฎของภควบาท ไม่นับว่าเป็นลูกของภควบาทได้หรอก ก๊กที่ไม่น่าเรียกว่าเป็นก๊ก อย่างมโหรีเนี่ยนะ จะเอาเรื่องของพวกมันมารายงานทำไม เสียเวลาไปหมังซ้ง ... มีเรื่องสำคัญอย่างอื่นอีกไหม? " เสียงเรียบๆแต่น่าเกรงขามของนายสิงห์แว่วถามย้ำมาอีกครั้ง
" มีเด็กใหม่คนหนึ่งเดินเข้ามาในโรงเรียน แล้วโวยวายบอกว่า จะขอท้าต่อยกับหัวหน้าก๊กทุกก๊กในโรงเรียนทั้งหมด แล้วก็จะล้ม 4 ก๊กสำคัญของม.ศ.6ห้องก. ให้หมด แล้วก็จะมาแทนตำแหน่งขาใหญ่ของเอ็งด้วย ฟังดูเหมือนละเมอก็จริง แต่เท่าที่เห็นตอนมันต่อยกับไอ้แสบไอ้แซม เรี่ยวแรงแบบนั้น ปานไม่ใช่เรี่ยวแรงของคนธรรมดา "
" ใคร? " นานแล้วที่ไม่ได้เห็นผู้เงียบขรึมอย่างนายสิงห์ออกอาการตื่นเต้น สำหรับคนที่ไม่ได้สนิทกับสิงห์ คงดูไม่ออกว่าตอนนี้สิงห์กำลังตื่นเต้น
ซ้งนำเมี่ยงบุหรี่มาพันกับกระดาษแก้ว จุดไฟ " เป็นฝรั่งหัวทองๆ "
ผู้ที่นั่งฟังอยู่ไม่ห่างอย่างนายปองพล คิดออกทันที ชาวต่างชาติเมื่อตอนเช้าที่ต่อยลูกก๊กมโหรี 2 คน หมอบคาที่ได้ในเวลาเดียวกัน ผู้ที่มีสายตามุ่งมั่นแรงกล้า แม้มองห่างออกไป 10 เมตรก็ยังสัมผัสได้
" ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนี่ " เสียงของสิงห์ยิ่งเบาเท่าไหร่ ยิ่งดูน่าสะพรึง ดั่งผีห่าในตัวที่หลับมาตลอดเริ่มตื่นแล้ว
ซ้งควักหวีออกมาสางผมทรงลานบิน พลางมองไปยังผ้าม่านสีดำที่ทำให้ห้องทั้งห้องมืดมน บนสุดมีแผ่นโฟมแกะสลักสวยงามเขียนด้วยสีชมพูว่า ' ศรีนวล ' อันเป็นชื่อก๊กของตนกับสิงห์และเพื่อนร่วมห้องอีกจำนวนหนึ่ง
มองต่ำลงมามีแผนผังแสดงลำดับขั้นของก๊กทั้งหมดเท่าที่มีในโรงเรียน
" ถ้าผ่านพวกมโหรีไปได้แล้ว ต่อไปก็น่าจะเป็นพวกก๊กช้างหมอบ หรือไม่ก็พวกตระกูล33 ... ไอ้พวกกะนั้นคงเริ่มไหวตัวแล้วหมัง จะว่าไป ไอ้เด็กฝรั่งคนนั้น มันน่าจะข้ามพวกมโหรี แล้วไปจัดการพวกช้างหมอบเลย คงไม่ผิดกติกาหรอกหมังเพราะพวกมโหรีมันก็ทำตัวนอกรีตอยู่แล้ว "
" เดี๋ยวไอ้แสบไอ้แซมก็น้อยใจแย่สิ การไม่มองข้ามใครสักคนหนึ่งไป มันทำให้เห็นว่าคนคนนั้นมีความมุ่งมั่นจริงๆนะ เด็กฝรั่งคนนั้นทำถูกที่สุดแล้ว … จั่น ช่วยเล่นเพลงที่เป็นทำนองหน่อยเถิด " ขาใหญ่สิงห์กล่าวแด่เจ้าของกีตาร์คลาสสิค
" ครับ " นายจั่นเพียงแต่เปลี่ยนอิริยาบถมานั่งเหยียดขา แล้วขึ้นเพลงใหม่ นายสิงห์เอนสีข้างบนแหย่ง หัวหนุนหมอนขิด ถอนหายใจเหมือนจะเข้าสู่ท่างีบหลับ
" สิงห์ ขอถามอะไรอีกหน่อยซี " นายซ้งลุกลี้ถามก่อนจะไม่ได้ถาม เพราะไม่เคยมีใครกล้ากวนเวลาสิงห์หลับ
" อือ"
ซ้งชี้ไปที่ปองพล " นั่นใคร "
" ... ปองพล ปองพยต " สิงห์ตอบ
ปองพลแปลกใจเล็กน้อยที่สิงห์ทราบชื่อสกุลของเขา คงมีสักวินาทีหนึ่งที่สิงห์เหลือบมองชื่อบนปกเสื้อตอนที่จ้องหน้ากัน นายซ้งยังคงมองมาหาด้วยสายตาสงสัยอยู่อย่างนั้น ข้างๆสิงห์ที่หายใจพุงยุบๆพองๆ ปองพลได้เพียงแต่พยักหน้าตอบรับ
FINALE
เนื้อเรื่องโดย พิสุจน์วิชัย
______เชิงอรรถ________
ยานักเรียน (ปัจจุบันมีชื่อเรียกว่า ยาบ้า) มีอีกชื่อคือ ยาขยัน ยาม้า เพราะเอาไว้ให้ม้ากินเวลาม้าต้องลงแข่งวิ่ง เลยเรียกว่ายาม้า สมัยนั้นไม่มีการผสมสารมั่วตั้วเหมือนเดี๋ยวนี้ จึงไม่อันตรายเท่ากับปัจจุบัน นิยมไว้ใช้สำหรับนักเรียนที่ติวหนังสือจนดึก
ความคิดเห็น