คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ภควบาท
.
ต.ศ. 2505 (ไตรทศเทพาศักราชที่ 2505)
หมัดซ้ายของนายปองพลกระแทกเข้าสันจมูกของชายแปลกหน้า เล่นเอาผู้คนกว่าหลายสิบชีวิตที่เฝ้าดูถึงกับหวาดผวา แผ่นหลังและศีรษะของชายแปลกหน้าหงายฟาดกับพื้นดินแดงดัง ' บ๊บ '
เสียงกระซิบจากฝูงชนที่ยืนมุงห่างๆดังหึ่งขึ้นทีละนิดเหมือนค่อยๆหมุนปุ่มเร่งเสียง นายปองพลก้มหยิบกระเป๋าย่ามและแว่นสายตาบนพื้นมาสวมใส่ เพียงหวังว่าคงไม่มีใครเข้ามาท้าต่อยอีกเป็นรายที่ 2
" ซัดไอ้ต๊อบไม่เลี้ยงเลยวุ้ยพ่อเด็กใหม่คนกะนั้น " ปลายสวนหย่อมริมอาคารเรียน ยังมีชายฉกรรจ์วัยเยาว์ 2 นายนั่งจิบสาโทแฝงเร้นภายใต้ศาลาเรือนน้อย ชำเลืองชื่นชมการต่อสู้อยู่ห่างๆ ตั้งแต่หมัดแรกกระทั่งหมัดสุดท้ายของเด็กใหม่หน้าตาไม่คุ้น สวมแว่นกรอบทองพร้อมกระเป๋าย่ามลายจุดเสือดาว
เปิดโรงเรียนวันแรก เดินเข้ามาได้ไม่กี่ก้าว ก็โดนท้าตีทันที เขาเตรียมใจไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ว่าอย่างไรก็ต้องได้ต่อยกับใครสักคน
" ก็รู้ๆกันอยู่ ไอ้ต๊อบมันพวกชั้นล่าง จะแพ้ไม่เป็นท่าก็สมควรแล้วหมังพี่เขื่องเอ้ย " ชายผู้อาวุโสต่ำกว่า รินสาโทลงในแก้วเปล่าก่อนส่งให้นายเขื่อง
นายต๊อบ ชั้น ม.ศ.5 ฉายา ต๊อบ หน้าด่าน แห่งก๊กมโหรี เป็นก๊กชั้นต่ำที่ชอบหาเรื่องคนไม่มีทางสู้ เพื่อรีดไถสิ่งของเงินทอง ปัจจุบันกำลังดั้งหักนอนหงายอยู่บนพื้นดินแดงหน้าโรงเรียน
" เห้ย! จะรีบร้อนไปหาเรื่องไอ้แว่นคนกะนั้นทำไม รีบมาช่วยไอ้ต๊อบก่อนซีโว้ย " ลูกน้องก๊กมโหรี ทำทีจะเข้าไปต่อยเจ้าแว่น เมื่อเห็นว่ามันทำเพื่อนตัวเองเจ็บหนัก แต่ก็ต้องเลือกที่จะช่วยพวกพ้องที่บาดเจ็บก่อน เหตุวิวาทจึงจบลง
นายปองพลเร่งฝีเท้าขึ้นบันได ตรงไปยังห้องเรียนชั้น ม.ศ.6 ห้อง ก. หลีกเลี่ยงที่จะสบสายตาผู้คน เมื่อมายืนอยู่ข้างบนอาคาร เขาชายตาลงไปมองตรงจุดเดิมที่เขาเพิ่งต่อยคนแปลกหน้าจนนอนสลบ เป็นระยะห่างไกลกว่า 10 เมตร เขาเห็นชายร่างสูงโปร่งผิวขาวผมบลอนด์ทอง กับเสื้อคลุมกันหนาวสีดำไร้ลวดลาย กำลังวาดหมัดต่อยตีกับนักเรียนชายอีก 2 คน … นายปองพลเดาว่าเด็กฝรั่งคนนั้นต้องเป็นเด็กนักเรียนที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ เหมือนกับเขาแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่โดนท้าต่อยทันทีทันใดอย่างที่เห็น
ภาพที่เห็นเบื้องล่างคงเป็นวัฒนธรรมองค์กรของโรงเรียนนี้ แทนที่จะมีคุณครูยืนต้อนรับหน้าโรงเรียน แล้วให้นักเรียนยกมือไหว้ เช่นเดียวกับที่โรงเรียนอื่นเขาทำกัน แต่นี่กลับมีนักเรียนยืนต้อนรับ เด็กเก่าเข้าโรงเรียนได้ เด็กใหม่ต้องถูกทดสอบก่อน
ศาลาข้างสวนหย่อมร่มรื่นไปด้วยป่าอินทนิลขึ้นสลับกับต้นเสลา ถูกตั้งเป็นวงสุราสาโท ชายผู้อาวุโสกว่า ชื่อว่านายเขื่อง หัวเราะยิ้มเยาะเบาๆพลางเปิดจุกสาโทขวดใหม่ " ก๊กมโหรีมันจะขยันกันตั้งแต่วันเปิดเทอมเลยรึไงนะ "
" นั่นนะซี " ผู้อาวุโสน้อยกว่า ชื่อนายหลาม ชำเลืองไปมองเหตุพิพาทตรงหน้าทางเข้าโรงเรียน ซึ่งเกิดเป็นครั้งที่ 2 ของเช้านี้ " ดูไอ้หวางไอ้เลิงลงไปนอนกับพื้นไม่เป็นท่าแหนะ สรุปคือไอ้หัวหน้าของพวกมัน ไม่คิดจะมาช่วยลูกน้องสู้เลยหรือไง? สงสัยต้องรอให้ลูกน้องตายหมดก่อนถึงจะออกมาสู้ละหมัง "
" คนอย่างไอ้แสบไอ้แซม ไม่มีหน้ามาท้าทายใคร โดยไร้ลูกน้องหรอก มันขี้ขลาดจะตายไป ... แต่ก็ดีแล้วที่ให้ก๊กมโหรีมาเฝ้าประตู ไม่เหมือนกับปีกลาย ที่ให้ก๊กช้างหมอบมาเฝ้า เด็กใหม่เดินเข้ามากี่คนก็แพ้หมด เพราะช้างหมอบมันก็เอาเรื่องอยู่ ปีที่แล้วเลยไม่ค่อยมีเด็กใหม่ "
นายเขื่องพูดถูก ทุกๆวันเปิดภาคเรียน จะมีการมอบหมายให้ก๊กใดก๊กหนึ่ง ทำหน้าที่คัดกรองนักเรียนใหม่ โดยปีนี้เป็นหน้าที่ของก๊กมโหรี ที่เรียกว่าเป็นก๊กต้อยต่ำสุดของโรงเรียน ใครๆก็ผ่านเข้ามาได้
... เป็นบุญของไอ้หลามนัก ตอนหลามเดินเข้ามาก็มีพี่เขื่องคอยเดินควงมาด้วย พวกมโหรีเห็นว่าเป็นเด็กใหม่ แต่ก็ไม่กล้าต่อย เพราะคงจะกลัวไอ้เขื่อง หลามจึงไม่ต้องเปลืองแรงกับก๊กแรงน้อยก๊กนั้น
" แหม่มันเอ้ย " หลามถอนหายใจเบื่อหน่าย เมื่อคืนนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน เพราะตื่นเต้นที่จะต้องย้ายเข้ามาโรงเรียนนี้ พี่เขื่องเล่าว่า การต่อยตีเป็นเรื่องปกติพบเห็นได้ง่าย กระทั่งมองห่างออกมาเป็นกิโลยังเห็นคนตีกันเลย
เขาละสายตาจากขอบแก้วสาโทหันไปมองตามที่นายเขื่องชี้ชวน เห็นเด็กฝรั่งผมบลอนด์ชนะใสๆ ปล่อยนายหวางกับนายเลิงแห่งก๊กมโหรีนอนคว่ำดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นดินแดงเสียฝุ่นคลุ้งชวนแสบตา … นายปองพลที่ยืนดูอยู่ ณ ระเบียงชั้น 3 จ้องมองเด็กฝรั่งด้วยสายตาใคร่รู้ การต่อสู้เมื่อครู่เป็นไปอย่างรวดเร็วและจบลงโดยไม่ทันได้เข้าใจอะไร จนปองพลเกือบลืมไปว่าตัวเองต้องรีบเข้าห้องเรียน มัวแต่ดูเขาตีกันจนเพลิน ขยับแว่นเข้าจมูกให้มั่น ก่อนเดินหนีไปจากตรงนั้น
บนอาคารเรียนชั้น 3 สกปรก เศษขยะเกลื่อนกลาด มีเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง สมกับที่เขาขนานนามเป็นโรงเรียนชายล้วนที่ป่าเถื่อนที่สุดในแผ่นดิน ตรงหน้าห้องทดลองวิทยาศาสตร์ มีกลุ่มนักเรียนตั้งวงเล่นไพ่ผ่อง 6 นาย ปองพลเดินหลบเลี่ยงไม่อยากเข้าใกล้
" เห้ย ไอ้แว่น มีเรื่องกับไอ้ต๊อบหน้าด่าน หาคนคุ้มหัวคุ้มกบาลไว้เถอะ ระวังพวกมโหรีดักล่อหัวดีๆ โดยเฉพาะหัวหน้ามัน เลือกได้อย่าไปยุ่งเชียวนา " นักเรียนในวงไพ่ผ่องทักทายด้วยความหวังดี ปองพลมิได้ตอบรับเพียงแต่พยักหน้าขอบคุณ
" ไอ้แสบกับไอ้แซมมันไม่น่ากลัวเลยสักหน่อยเดียว แต่มันชอบเล่นหมาหมู่ ชอบทำทีเผลอ วิธีสกปรกที่นักเลงตัวจริงเขาไม่ใช้กัน มันใช้หมดทุกวิธี อย่าได้เผลอเลย " เดินผ่านมาได้อีกไม่กี่ก้าวก็เจอกับวงโปปั่น ปองพลได้แต่พยักหน้ารับและเดินต่อไป
" ล่อไอ้แสบไอ้แซมเล้ย! " ตลอดทางเดินหน้าชั้นเรียน มีเสียงปลุกใจ เสี้ยมให้ปองพลไปตีกับคนที่ชื่อแสบกับแซมอย่างไม่ขาดสาย โรงเรียนนี้ช่างมีประเพณีที่เฉพาะตัวเหลือเกิน เป็นแค่เด็กใหม่เพิ่งเดินเข้ามา ก็มีคนทักทายเกือบหลักร้อยแล้ว
ชชชชชชชช
ห้อง 6ก (ย่อมาจาก ม.ศ.6 ห้อง ก.) อบอวลไปด้วยควันหอมๆของกัญชงไล่แมลงจากไร่ข้าวโพดข้างๆ หน้าต่างทั้งหมดถูกปิดด้วยม่านสีดำทึบ มีเพียงแสงสว่างจากเทียนพรรษา 2 ลำกับตะเกียงน้ำมันก๊าดไฟหรี่ บรรยากาศดูหม่นหมองน่ากลัว แต่ดูเป็นระเบียบ สะอาด ไม่เหมือนห้องอื่นที่สกปรกไม่น่าอยู่ ห้อง 6ก ช่างเป็นห้องเรียนที่เงียบสงบ มีแต่เสียงครวญเพลงคลอกีตาร์คลาสสิคเบาๆชวนง่วงหลับมาจากมุมห้อง
นักเรียนชายที่ดีดกีตาร์คลาสสิคจู่ๆหยุดบรรเลงลง เมื่อเห็นว่ามีผู้แปลกหน้ามาเยือน นี่คือสิ่งที่น่ากลัวกว่าการถูกยุแยงให้ไปต่อยกับไอ้แสบไอ้แซม ให้ถูกเชียร์แบบนั้นทั้งปียังดีกว่าให้มาเผชิญความเงียบพร้อมสายตาหาเรื่องกว่าสิบๆคู่แบบนี้ นายปองพลเพียงแต่พยักหน้าขอทางไปยังที่นั่งว่างๆหน้าห้อง เสียงกีตาร์คลาสสิคถูกเล่นขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่เพลงที่ชวนหลับเหมือนตอนแรก แต่เป็นการดีดไปเรื่อยไม่เป็นดนตรี คล้ายว่าผู้บรรเลงจงใจเล่นเพื่อข่มขวัญเขา
เหตุผลที่ห้อง 6ก อยู่กันอย่างเงียบเชียบ ไม่เอะอะโวยวายอย่างห้องเรียนอื่นเขาทำกัน ไม่ใช่เพราะเป็นเด็กเรียน แต่นี่คือห้องของรุ่นใหญ่ ก๊กทั้งหมดรอบรั้วโรงเรียนต่างหวาดกลัวและยำเกรงสมาชิกทุกนายในห้องนี้
' แคล่ง! ' ประตูที่นายปองพลปิดไว้ตั้งแต่แรก ถูกเปิดออก แสงสว่างจากภายนอกทำให้ห้องค่อยหายหดหู่บ้าง ปรากฏเป็นชายร่างกำยำหน้าคมเสื้อผ้าดูสะอาดเรียบร้อย คล้องที่คาดผมสีส้มอ่อนไว้ตรงคอ ย่างเข้ามาช้าๆ ปราศจากเสียงรองเท้าเสียดกับพื้นโดยสิ้นเชิง มาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะของนายปองพล
ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้าด้วยความสงสัยซึ่งกันและกัน ปองพลเดาว่าหมอนี่ต้องเป็นนักเรียนชายที่เก๋าที่สุดในปีการศึกษานี้ของโรงเรียนชายล้วน ภควบาทวิทยาคม เป็นแน่วแน่
FINALE
เนื้อเรื่องโดย บุญลำ
______เชิงอรรถ_______
สมัยตะก่อน หลักสูตรการศึกษา (พ.ศ.2503) แบ่งระดับการเรียนไว้ดังนี้
- ประถมต้น ป.1 - 4
- ประถมปลาย ป.5 - 7
- มัธยมต้น ม.ศ.1 - 3
- มัธยมปลาย ม.ศ.4 - 5
- ม.ศ.6 เป็นสายอาชีพ ส่วนคนที่จบ ม.ศ.5 สามารถไปต่อ ปกศ.สูงได้อีกทาง
การแบ่งห้องสมัยนี้จะเรียก ทับ1 ทับ2 เช่น ม.6/1 ม.6/2 ส่วนยุคนั้นจะเรียกเป็น ห้อง ก. ห้อง ข. เช่น ม.ศ.6 ห้อง ก.
.
ความคิดเห็น