ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานอียิปต์ โอม...

    ลำดับตอนที่ #134 : อเมเนมเฮต

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.21K
      1
      28 มิ.ย. 50

    อเมเนมเฮต


    รัชสมัยอันรุ่งเรืองของอเมเนมเฮต


               
    ประเด็นที่น่ากล่าวถึงไว้    ที่นี้  คือเรื่องที่อเมเนมเฮตเป็นสามัญชนผู้มีพื้นเพต่ำต้อย  แต่ก็ค่อยๆ หาลู่ทางขึ้นสู่อำนาจ  จนกระทั่งได้นั่งบัลลังก์ทองคำของเทพโฮรัสในฐานะผู้ปกครองอียิปต์  นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งซึ่งแสดงว่าถึงแม้ฟาโรห์จะได้รับการเคารพบูชาในฐานะตัวแทนของเทพโฮรัสบนโลก  แต่ก็ใช่ว่าผู้ที่เป็นฟาโรห์จะต้องมีต้นตระกูลอยู่ในวงศ์ผู้ปกครองเดิมเสมอไป


               
    ราชวงศ์ของฟาโรห์อเมเนมเฮต  หรือราชวงศ์ที่  12  จะปกครองอียิปต์ต่อไปอีกถึง  200  ปี  ฟาโรห์ในราชวงศ์นี้ได้เริ่มจารีตการปกครองใหม่โดยให้มีผู้สำเร็จราชการมาทำการบริหารบ้านเมืองร่วมกับตน  ระบบที่ว่านี้ช่วยค้ำประกันว่าผู้ที่ขึ้นสืบอำนาจต่อไปจะต้องเป็นคนที่ฟาโรห์ได้เลือกสรร  ทั้งยังเป็นผู้ที่ได้รับการฝึกฝนให้เข้าใจเรื่องการปกครองมาเป็นอย่างดีแล้ว  แม้นหากฟาโรห์สวรรคต  ก็จะไม่มีการแก่งแย่งอำนาจในระหว่างกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ  ท่านผู้อ่านอาจเห็นว่าจารีตการตั้งผู้สำเร็จราชการร่วมจะส่งผลดีให้การเมืองอียิปต์มั่นคงกว่าเดิม  แต่กับผู้ที่ศึกษาเรื่องราวของอียิปต์โบราณนั้น  การเริ่มระบบผู้สำเร็จราชการร่วมกลับสร้างความสับสนเพราะยากจะทราบแน่ชัดว่ารัชสมัยต่างๆ  เริ่มต้นและสิ้นสุดลงเมื่อใด


               
    ฟาโรห์อเมเนมเฮตสนับสนุนให้ประชากรของพระองค์ทำการค้ากับรัฐเพื่อนบ้านจนอียิปต์กลับมามั่งคั่งและมั่งคงดังเดิม  ถึงแม่น้ำไนล์และดินแดนรายรอบจะช่วยให้อียิปต์มีอาหารและแร่ธาตุสูงค่าอย่างทองคำบริบูรณ์ดีแล้ว  แต่ชาวอียิปต์ก็ยังต้องออกแรงทำการค้าเพื่อและเอาของมีค่าหลายอย่างที่ไม่อาจหาได้ในราชอาณาจักร  ไม่ว่าจะเป็นไม้สน  เครื่องประดับของชนชาติ  มีการนำเข้าอาวุธ  เครื่องเรือน  และหินลาปิสลาซูลีมาจากเมโสโปเตเมีย  ไม้สนซีดาร์ราคาแพงต้องนำเข้าจากเมืองท่าแถบเลบานอน  เครื่องหอมและกำยานสำหรับการประกอบพิธีกรรมนั้นมาจากอาณาจักรลึกลับทางตะวันออกเฉียงใต้ของอียิปต์ที่รู้จักกันในนาม 
    "ปุนต์"  ขณะที่สินค้าหรูหรา  อาทิ  หนังสือดาว  ขนนกกระจอกเทศ  งาช้าง  และขนยีราฟซึ่งนำมาประกอบเครื่องใช้ในราชสำนักนั้นก็ได้จากการค้ากับนูเบียทางทิศใต้


               
    ฟาโรห์อเมเนมเฮตครองอยู่เกือบ  30 ปี  ทรงมองว่าพระองค์คือต้นสายราชวงศ์ที่จะได้ปกครองต่อไปยาวนาน  จึงได้ตั้งฉายานานที่มีความหมายว่า  "การกำเนิดใหม่"  แต่พระนามนี้ยังไม่พอที่จะค้ำประกันว่าผู้คนสมัยหลังจะมองว่าพระองค์คือจุดเริ่มต้น  จึงทรงบัญชาให้ย้ายราชธานีใหม่จากธีบส์ไปยังเมืองใหม่ที่ชื่ออิตจ์ตาวีใกล้ๆ  กับเมืองเอลลิชต์ในปัจจุบัน  ที่อยู่ใต้เมมฟิสเล็กน้อย  ถึงอเมเนมเฮตจะให้สร้างเมืองหลวงใหม่ในที่รกร้างแต่การสร้างเมืองอิตจ์ตาวีนี้ก็เสร็จสิ้นลงอย่างรวดเร็วเพราะอาศัยอิฐดิบเป็นวัสดูหลัก  ขณะที่วัสดุก่อสร้างที่มีราคามากกว่าอย่างศิลาถูกสงวนเอาไว้สำหรับสร้างอาคารที่ต้องการความคงทนถาวรอย่างวิหารและที่ฝังพระศพของฟาโรห์เท่านั้น  แต่ทรงหาได้พอใจเพียงเมืองหลวงใหม่  อเมเนมเฮตซึ่งต้องการเชื่อมโยงตนเข้ากับฟาโรห์ผู้เกรียงไกรในสมัยราชอาณาจักรเก่ายังคงเลือกให้ฝังพระศพในพีระมิดใกล้ๆ  กับอิตจ์ตาวี  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนอำนาจเบ็ดเสร็จของผู้ปกครองที่เป็นหนึ่งในอียิปต์


               
    การที่อียิปต์มีผู้ปกครองที่เข้มแข็งและเปี่ยมความสามารถอย่างอเมเนมเฮตย่อมนำไปสู่ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง  มีการปรับรื้อระบบราชการเดิม  องค์ฟาโรห์อเมเนมเฮตเองก็นำกองทัพออกปราบปรามพวกชนเร่ร่อนชาวเบดูอินในแถบทะเลทรายตะวันออก  ทรัพย์สินที่ยึดได้จากชัยชนะเหล่านี้ก็นำมาเสริมสร้างระบบราชการส่วนกลางให้มีอำนาจครอบคลุมทั่งทั้งราชอาณาจักร  จนอาจกล่าวได้ว่าได้เกิดการปฏิรูประบบราชการครั้งสำคัญขึ้นในช่วงราชวงศ์ที่  12  จนทำให้อียิปต์เป็นรัฐที่มีระบบระเบียบการปฏิบัตืงานซับซ้อน  และมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา  แถมก้าวหน้ากว่าระบบการปกครองของรัฐร่วมสมัยอาทินครรัฐในเมโสโปเตเมียทั้งหมดด้วย


               
    ฟาโรห์อเมเนมเฮตทรงสนพระทัยในเรื่องปากท้องของประชาชนเอามากๆ  บางทีความทรงจำเรื่องความอดอยากที่นำไปสู่การสลายตัวของราชอาณาจักรเก่าอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ฟาโรห์ในสมัยนี้สนใจเรื่องความเป็นอยู่ในโลกนี้มากกว่าเรื่องชีวิตโลกหน้า  เราจะเห็นความคิดทำนองนี้ได้ชัดเนื่องจากบรรดาฟาโรห์แหง่ราชวงศ์ที่  12  ต่างใส่ใจเรื่องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน  โดยต่างผลักดันให้มีการสร้างเขื่อนกักน้ำ  และขยายพื้นที่เพาะปลูก  ถึงการสร้างพีระมิดและที่ฝังพระศพจะยังคงดำเนินต่อไป  แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีฟาโรห์องค์ไหนคลั่งไคลและริเริ่มงานก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่จนเป็นภาระแก่รัฐอย่างในสมัยคูฟู  และคาเฟรอีกแล้ว


               
    ถึงจะเป็นผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้อียิปต์สมัยราชอาณาจักรกลางเฟื่องฟู  แต่ฟาโรห์อเมเนมเฮตกลับต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้าเพราะถูกคนใกล้ชิดลอบสังหาร


               
    บทบันทึกชิ้นหนึ่งซึ่งอาจเป็นคำบอกเล่าจากปากขององค์ฟาโรห์ที่กำลังจะสิ้นใจเองเป็นการกล่าวเตือนใจคนรุ่นหลังเอาไว้ว่า 
    "ข้ากำลังบรรทมอยู่บนเตียง  เมื่อตื่นขึ้นก็พบกับการต่อสู้...องค์รักษ์ของข้าเอง"  มีหลักฐานเป็นบันทึกแน่ชัดว่าอเมเนมเฮตสวรรคตเพราะถูกวางแผนลอบปลงพระชนม์  และมีโอกาสสูงมากที่อาจมีสมาชิกเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์เดิม  มีจิตคิดต่อต้านการครองราชย์ของสามัญชนอย่างฟาโรห์อเมเนมเฮตมาตั้งแต่แรก  และเฝ้ารอจังหวะดำเนินการกำจัดพระองค์อยู่แล้ว

    มาเสริมให้เกี่ยวกับชื่อของฟาโรห์ Amenemhat ในภาษา Hieroglyphs คับ ซึ่งเขียนดังนี้คับ
     


    ซึ่งฟาโรห์ที่ใช้ชื่อ Amenemhat นั้นมีถึง 4 องค์ทีเดียวคับ คือ Amenemhat I - IV นั่นเอง (กำปั้นทุบดินไปหรือเปล่า หุหุ) แม้ว่าชื่อ Amenemhat ของทั้ง 4 องค์จะเขียนเหมือนกัน (Amenemhat เป็น Birth Name คับ) แต่ว่า Throne Name จะไม่เหมือนกัน ซึ่งในบทความนั้นก็น่าจะกล่าวถึง Amenemhat I ซึ่งเป็นฟาโรห์องค์แรกของราชวงศ์ที่ 12 ซึ่งราชวงศ์ที่ 12 มีรายพระนานฟาโรห์ ดังนี้



    ซึ่งฟาโรห์นามว่า Sesostri นั้นบางท่านอาจจะไม่คุ้นเคย ซึ่งถ้ากล่าวว่าเป็นองค์เดียวกันกับฟาโรห์ Senuseret หลายๆท่านคงร้องอ๋อ.. (หรือเปล่า?)

    คำว่า Amenemhat นั้น ถ้าจะเขียนตามภาษา Hieroglyphs เขียนได้ดังนี้คับ imn-m-HAt อ่านได้ว่า ee-men-em-hat หรือว่า Amenemhat ที่เราอ่านกันนั่นเองคับ ซึ่งคำว่า imn-m-HAt ก็แปลว่า "Amun is the Foremost" นั่นเอง (imn = Amun , m = in ในที่นี้แปลว่า is ก็ไม่ต่างกันคับ การแปลมันจะยุ่งยากเล็กน้อย , HAt = Foremost) 

    มาดู Throne Name ของ Amenemhat I - IV กันดีกว่าคับ

    Amenemhat I
    จากรูปอ่านได้ว่า Sehetepibre {sHtp-ib-ra} แปลว่า Satisfied is the Heart of Re โดยที่ sHtp = Satisfied , ib = Heart , ra = Re 

    Amenemhat II
    จากรูปอ่านได้ว่า Nebukaure {nbw-kAw-ra} แปลว่า Golden are the Souls of Re โดยที่ nbw = Gold , kAw = Souls , ra = Re

    Amenemhat III
    จากรูปอ่านได้ว่า Nimaatre {n(i)-mAat-ra} แปลว่า Re belongs to Maat โดยที่ n(i) = belongs to , mAat= Maat (เทพี Maat) , ra = Re

    Amenemhat IV
    จากรูปอ่านได้ว่า Maakherure {mAa-xrw-ra} แปลว่า The Voice of Re is True โดยที่ mAa = True , xrw = Voice , ra = Re

    ปล. สำหรับชื่อที่เหลือ ก็ลองอ่านเองเล่นๆดูนะคับ หุหุ

    Name : Detectiveoat13< My.iD >


    ขอบคุณท่านดีขอรับ ....
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×