ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The other side of rainbow

    ลำดับตอนที่ #6 : สิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 49


    "เอ่อ...อาหารเป็นยังไงบ้างครับ ถูกปากมั้ย" อีริคถามหลังทานอาหารเที่ยงทั้งสองเดินเล่นไปด้วยกันบริเวณรอบๆทะเลสาบ มีฝนตกปรอยๆก่อนหน้านี้ทำให้รุ้งกินน้ำที่มีชื่อเสียงของเรนโบว์ ไอส์แลนด์ปรากฏขึ้น ณ ที่เดิมของมันอย่างทุกครั้ง  ท้องฟ้าสีกุหลาบ ฝนพรำปรอยๆ น้ำใสกระจ่างดังแก้วเจียระไน ณ ที่นั่น หนุ่มสาวผู้ที่ชะตากำหนดให้มาเจอกัน ในที่สุดก็อยู่ด้วยกันแล้วที่นี่

    "ค่ะ อร่อยมาก" มิแรนด้าบอก เธอหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าอีริคตรงๆ "คุณมีอะไรจะพูดกับฉันหรือเปล่าคะ"

    "เอ่อ...คือ" อีริคอ้ำอึ้งไม่สมกับบุคลิกของเขาเลย ในที่สุดเขาก็ถอนใจเฮือกใหญ่แล้วสบตามิแรนด้าตรงๆ "ผมรักคุณรักตั้งแต่แรกเห็น แต่กลัวคุณจะไม่คิดเหมือนกันวันนี้ผมตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะต้องรวบรวมความกล้าบอกคุณให้ได้ ถ้าไม่รังเกียจช่วยคบกับผมได้มั้ยครับ"

    มิแรนด้ายืนอึ้ง เธอเคยคบกับใครมาหลายคนระหว่างเรียนที่อเมริกาแต่ทำไมตอนที่สบตาอีริคแล้วได้ยินคำนั้นจากปากของเขา เธอถึงรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว ใจเต้นตูมตาม ใบหน้าแดงระเรื่อเป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีให้ใครมาก่อน เธอเม้มริมฝีปากบางงามนั่นและสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อไล่ความรู้สึกเขินอายเหล่านี้ออกไป 'ดีเหมือนกัน ใช่ ดีสิ เราจะได้ตามติดหมอนี่ได้ เผื่อจะเจอหลักฐานมัดตัวเขา'

    "ค่ะ ตกลงค่ะ" เธอตอบ พลางกุมมือของเขา ใจเต้นแรงกว่าเดิมอีกและรู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวเขาเป็นผู้ต้องสงสัยนะแต่ทำไมยามสบตาเขาเหมือนความรู้สึกต่างๆมันพร่างพรูออกมาความรู้สึกนี้ อา หรือว่าเรารักเขาเข้าแล้วจริงๆเธอรู้สึกวาบหวิว ไปหมดจนเธอต้องหลบตาเขา

    อีริคมาส่งมิแรนด้าที่บ้าน  คืนนั้นทั้งคืนเธอนอนไม่หลับเลยเฝ้าคิดถึงสายตาคู่นั่นนัยน์ตาสีฟ้าครามเหมือนท้องฟ้าในยามเช้า ความรู้สึกต่างๆ หลังจากที่รับรักเขาแล้ว เขาก้มลงใบหน้าของเขายามเข้ามาใกล้ดูอบอุ่นเหมือนรู้จักกันมานาน สายตาของเขาที่บ่งบอกความปรารถนาในตัวเธอ ลมหายใจอุ่นๆ ยามที่จมูกเขาแตะจมูกของเธอตามมาด้วยริมฝีปากอบอุ่นคู่นั้น ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ อ้อมแขนของเขา อกกว้างของเขา อา ไม่ ไม่ ไม่ ตื่นๆๆๆๆๆๆๆๆ งี่เง่า!!!  เรากำลังหลงคารมเขา เขาเป็นผู้ต้องสงสัยทำไปเพราะอาจจะให้เราตายใจหวังกลบเกลื่อนก็ได้ คอยดูนะ คิดว่าชนะเหรอ ฉันไม่มีนายก็ไม่ตายหรอกย่ะ คอยดูนะ ฉันจะเอานายออกไปจากสมองบ้าๆนี่ให้ได้เลย ฮึ่มๆ ยัยมิแรนด้า ออกนอกลู่นอกทางจนได้ยัยบ้าเอ๊ย น่าโมโหจริงจริ๊ง

    หลายวันต่อมา อีริคมารับเธอที่บ้านไปจิบน้ำชายามบ่ายที่บ้านของเขา

    กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง

    มิแรนด้าทำท่าจะลุกขึ้น  "ผมไปดูเองครับ อย่าลำบากเลย" ไม่นานเขาเดินกลับมาพร้อมกับชายรูปร่างสูงหน้าตาสะอาดสะอ้านดูลักษณะบุคลิกน่าจะเป็นพวกนักธุรกิจ

    "มิแรนด้าครับ นี่คุณเดฟ " มิแรนด้ามองนายนี่อย่างครุ่นคิด เธอควรจะสงสัยทุกคนไว้ก่อนจริงไหม ใครจะรู้นายนี่อาจเป็นผู้สวมรู้ร่วมคิดก็ได้"ยินดีที่ได้รู้จัก กับผู้หญิงสวยๆอย่างคุณครับ"เขาจับมือหล่อนมาจุมพิตเบาๆ อีริคมองค้อนหล่อนอย่างไม่พอใจนักแต่พยายามเก็บอารมณ์เขากำลังจะระเบิดไอ้หมอนี่เขาสงสัยมานานแล้วว่ามันมายุ่มย่ามกับแม่ของเขายังมายุ่งกับสาวน้อยหวานใจเขาอีก มันไม่ได้ทักทายตามมารยาทอย่างเดียวหรอกเขาไม่เคยไว้ใจไอ้หมอนี่เลยให้ตายสิ เขาพยายามกัดฟันพูด"สวัสดีครับ คุณเดฟมีอะไรให้ผมช่วยหรือครับกรุณามาถึงที่นี่ได้ อันที่จริงไม่น่าจะต้องลำบากเลยมีอะไรใช้ลูกน้องคุณมาก็ได้นี่ครับ" เขามีมารยาทตามเคย มิแรนด้าสังเกตอยู่ตลอด หล่อนคิดในใจว่า  ' หมอนี่น่ากลัว เขาเก็บอารมณ์เก่ง คนอย่างนี้อาจมีอะไรแอบแฝง ไว้ใจไม่ได้ '  หล่อนโกหกตัวเองจริงๆแล้วงอนที่เขาไม่ไว้ใจหล่อนแล้วมาค้อนหล่อนเสียได้แต่กลบเกลื่อนความรู้สึกหลอกตัวเองอีกครั้ง "คืออย่างนี้ครับ ผมมาคุยธุรกิจสำคัญ " อีริคที่ไม่ไว้ใจอยู่แล้วมองหน้าอย่างงงๆ  ' มันจะมาไม้ไหนอีกฟะ ' 

    "ครับเชิญว่ามาสิครับ"

     "ถ้าอย่างนั้นผมเข้าเรื่องเลยนะครับ คือผมกับคุณนาย มาโครนี่ (แม่ของอีริคกับมิแรนด้า) เคยตกลงกันไว้เรื่องซื้อ เหมืองนี่น่ะครับ ผมมาทวงสัญญา จะมาขอซื้อเหมืองจากคุณ ผมจะเสนอราคาดีๆให้ ไม่ต้องห่วงครับ เราคนกันเอง"

    อีริคเริ่มคิด ' ว่าแล้ว สังหรณ์ใจไม่ดีตั้งแต่เห็นหมอนี่มาแล้ว '

    "แต่ผมไม่ยักทราบ ดังที่ผมรู้ผมว่าคุณแม่ท่านมีจุดประสงค์มาตลอดว่าจะให้เหมืองนี่ตกเป็นมรดกแก่มิแรนด้าน้องสาวของผมลูกสาว ทายาทอันชอบธรรมของท่าน"  

    เดฟเห็นว่าท่าทางอีริคเป็นคนฉลาดการหลอกล่อด้วยลูกไม้ตื้นๆไม่น่าจะใช้กับเขาได้แล้วจึงแสร้งเฉไฉคุยเรื่องอื่นๆแล้วขอตัวกลับไป

    เย็นนั้นอีริคไปส่งมิแรนด้าที่บ้านอย่างเคย แต่หล่อนมึนตึงใส่เขา ทำให้เขาสงสัยยิ่งนักไม่รู้หล่อนงอนอะไร  แต่ก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามถามอะไรมากกลัวหล่อนจะโกรธมากกว่านี้ เป็นธรรมดา เขาเป็นผู้ชาย บางทีก็ไม่เข้าใจความคิดและอารมณ์ที่ละเอียดอ่อนของสตรีเพศ

    หล่อนกลับมาถึงบ้านหน้าตาไม่สบอารมณ์นัก เมื่อเขากลับไปแล้วก็บ่นพึมพำอยู่คนเดียว

    "ตาบ้า คนงี่เง่า แค่นี้ก็ไม่ไว้ใจเรา พอเรางอนหน่อย ยังทึ่มไม่เข้าใจไม่อยู่ง้ออีก โน่น ดูซิ กลับไปแล้ว ผู้ชายงี่เง่าอย่างนี้ทุกคนรึเปล่าน้า โอ๊ย!!!" หล่อน ร้องออกมา ไม่พอใจเลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×