คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ราชสีห์ตนนั้น , งานเลี้ยง (I)
ราชสีห์ตนนั้น , งานเลี้ยง (I)
ค่ำคืนอันแสนวุ่นวายในคฤหาสน์ของเชื้อพระวงศ์คับครั่งด้วยคนมากมายที่แต่งกายกันเรียกว่าให้ดูดีสุดชีวิตเพื่ออวดคนที่จะมาพบประด้วย ผู้คนมากมายถูกเชื้อเชิญให้มาร่วมงานโดยที่ทุกคนรู้กันว่าเป็นงานของท่านหญิงแวลีน ราชวงศ์คนดังในเมืองหลวงวาติกัน ผู้คนที่มาก็มียศฐาบันดาศักดิ์ไม่แพ้กัน ไม่ว่านายทหารระดับสูง ดารานักร้องนักแสดง หรือมีกระทั่งเหล่าเจ้าหญิงเจ้าชายมาร่วมงาน
ชายหนุ่มร่างสูงผมสีเพลิงแดงก้าวเข้ามาในงาน สูททักษิโด้สีดำที่ออกแบบมาให้ดูทันสมัยปล่อยเผยให้เห็นแผงอกขาวตามแบบฉบับของเขา ต่างหูเงินรูปตัวเอสดูแวววาวยิ่งขึ้นเมื่อถูกประดับที่ติ่งหูขาวเนียน กระเป๋าสูทด้านซ้ายประดับด้วยดอกกุหลาบสีแดงสดดูงดงาม ตาเหยี่ยวยิ้มพราวใจเมื่อบรรดานักข่าวรุมเข้ามาถามและถ่ายรูปกันจ้าระหวั่น
“ สวัสดีค่ะคุณคิวเรียว ซีลีแวน ...ไม่ทราบว่ารู้สึกอย่างไรบ้างคะที่ได้มางานของท่านหญิงแวลีนครั้งนี้ ” นักข่าวสาวยิ่งคำถามใส่ชายหนุ่ม
“ ผมเป็นเกียรติมากครับที่ได้มางานของท่านหญิงแวลีนครั้งนี้ และเมื่อได้ทราบว่ามีแต่คนดังๆและเป็นที่เคารพนับถือของผมด้วยผมก็รู้สึกดีใจมาก ผมก็หวังว่าผมจะได้รับเกียรติชมโฉมของท่านหญิงเช่นกัน ” คิวเรียสยิ้มพราวให้นักข่าวสาว จนให้นางนั้นมีอาการเขินอายกับชายที่ตอบคำถามเธอ
“ คะ..ค..คุณคิดว่าใครจะเป็นดาวเด่นในครั้งนี้คะ ” นักข่าวสาวไม่ยอมแพ้ต่อเสน่ห์พ่อหนุ่มผมเพลิงจึงยังถามคำถามต่อไปด้วยอาการพูดติดๆขัดๆ
“ ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับ ทุกคนก็ดูเอาใจใส่กับการแต่งตัวของตัวเองมากจนผมต้องยอมแพ้เลยล่ะครับ ” แม้ตอบไปอย่างนั้นแต่ในใจพ่อหนุ่มผมเพลิงนั้น ‘ดาวเด่นต้องเป็นฉันอยู่แล้วสิ ชุดนี้ก็สั่งให้ช่างมือหนึ่งของเมืองออกแบบให้เชียวนะ ฉันต้องหล่อและเพอร์เฟ็คที่สุดในงานแน่!!’
“ คุณคิวเรียสนี่ชั่งถ่อมตนจังเลยนะคะ ” นักข่าวสาวยิ้มใส่กับการตีหน้าซื่อของชายหนุ่ม
“ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณคิวเรียสรู้ยังเหรอครับว่าท่านเลโอแห่งวาติกันจะมาร่วมงานด้วย ”
นักข่าวชายอีกคนพูดขึ้นหลังจากคิวเรียสตอบคำถามไปไม่นาน และคิวเรียสเองก็สะดุ้งเมื่อรู้ว่าจะได้เจอคนที่ตัวเองไม่ชอบหน้าในค่ำคืนนี้
“ เหรอครับ? ...ผมก็ไม่ทราบแต่ถ้ามีโอกาสได้เจอท่าน ผมคงดีใจมากๆและไม่รีรอที่จะสนทนากันเป็นแน่ ” ชายผมผมเพลิงยิ้มเจิดจรัสประกายวิ้งๆแต่ดูคล้ายๆอีกทีมันอาจจะเป็นแสยะยิ้มมากกว่า
“ ดีจังเลยนะครับ ผมว่าถ้าคุณทั้งสองได้เจอกันคงเป็นภาพที่หาดูยากมากๆ ” ว่าไปก็หัวเราะคิกคัก แต่ชายผมเพลิงนั้นหน้าแหยออกมาทันทีแต่ก็เก็บเกือบไม่ทันเมื่อกลุ่มนักข่าวขอลาไปสัมภาษณ์คนอื่นที่เริ่มทยอยเข้ามาในงาน
คิวเรียสเองก็เดินเข้าไปในงานเช่นกันและเริ่มพูดคุยคนที่เริ่มมาทักทายเขาเป็นจำนวนมาก และจุดที่เขาพึ่งเดินออกไปก็ปรากฏชายผมน้ำตาลทองที่ดูหยักโสกและตัดสั้นให้ดูเป็นนายทหาร
รองเท้าหนังสีดำย่างก้าวเข้ามาในงาน ชายหนุ่มหน้าตาดีผมสีน้ำตาลทองเช่นเดียวกับนัยน์ตามองดูรอบๆสถานที่อย่างชื่นชม เขามาในชุดสูทสีเทาเข้มประดับดอกลิลลี่สีเหลืองที่หน้าอกซ้าย รอยยิ้มคลี่บางๆเมื่อเห็นกลุ่มนักข่าวเข้ามาหา
“ สวัสดีค่ะท่านริชาร์ด เวลนิซ รู้สึกเช่นไรบ้างคะที่มาในงานในครั้งนี้ ” นักข่าวสาวเจ้าเก่าที่เคยถามคิวเรียสเอ่ยขึ้น
“ สวัสดีครับ ...ผมรู้สึกยินดีมากเลยครับที่มางานในค่ำคืนนี้ ท่านหญิงแวลีนเองก็เป็นญาติห่างๆของตระกูลผมด้วย ไม่มาก็ไม่ได้นี่ครับแวลีนเองก็เปรียบเสมือนน้องสาวผม ” ริชาร์ดระบายยิ้มบางๆแฝงความอบอุ่นแบบฉบับเขาให้กลุ่มนักข่าว
“ ท่านรู้รึเปล่าครับว่าท่านเป็นจุดสนใจมากในงานครั้งนี้ สาวๆในงานพูดแต่เรื่องของท่าน ” นักข่าวชายเริ่มตั้งคำถามสัมภาษณ์บ้าง ริชาร์ดหัวเราะนิดหน่อยและตอบคำถามไป
“ เช่นนั้นหรือครับ ...ผมยินดีที่ให้สาวๆพูดถึงผมนะครับ ”
“ แล้วท่านราชองครักษ์ริชาร์ด ท่านทราบรึเปล่าครับว่าท่านเลโอแห่งวาติกันจะมางานครั้งนี้ด้วย ” ริชาร์ดเองก็เป็นถึงราชองครักษ์ขององค์กษัตริย์ของนครหลวงวาติกัน แต่กษัตริย์ในเมืองนี้นั้นค่อนข้างมีบทบาทน้อยหน่อยถ้าเทียบกับเมืองอื่น ซึ่งบทบาทสำคัญที่สุดของเมืองคือวาติกันที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
“ จริงหรือครับ!? สงสัยต้องพูดคุยกับเลโอกันยาวเสียแล้วเพราะเจ้าตัวไม่นิยมออกงานสังคมเสียด้วย ” ได้ทีริชาร์ดเผาเพื่อนตัวดีเขาเสียใหญ่ “ เพราะเลโอเขาค่อนข้างทำตัวไม่ถูกเมื่ออยู่ในงานสังคม ตอนเด็กก็ได้ผมสอนเรื่องมารยาทในการเข้าสังคมเสียบ่อย ” ริชาร์ดหัวเราะคิกคักเมื่อได้เผาเพื่อนตนเองเห็นดังนั้นนักข่าวเองก็พากันหัวเราะไปด้วย
“ นี่ท่านริชาร์ดเป็นเพื่อนสมัยเด็กของท่านเลโอหรือคะ” นักข่าวพูดถามริชาร์ด ซึ่งเมื่อริชาร์ดจะตอบก็มีมือขาวๆของใครบางคนมาจับไหล่ทางด้านหลังของเขาไว้
“ ฮะฮ่ะฮะ... ใช่แล้วล่ะครับ พวกเราสองคนสนิทกันมาก ตอนเด็กๆเนี่ยพากันเล่นสนุกกันเสียบ่อย จนริชาร์ดเองก็ถึงกับฉี่ราดเมื่อเท้าของเขาดันไปเหยียบหางสุนัขข้างบ้านเข้า ผมนี่ต้องจัดการเจ้าสุนัขตัวนั้นเอง ” บุรุษที่พูดเผาเพื่อนแก้แค้นมิใช่ใคร ก็ คือเลโอที่กำลังยิ้มแอบแสยะให้เพื่อนตัวดีที่บังอาจเผาเขา
“ ว่าไง..ละ..ล เลโอ ” ริชาร์ดยิ้มแหยๆให้เพื่อนผมทองที่อาจจะฆ่าเขาในเร็ววันก็ได้
เลโอมาในชุดทักษิโด้สีดำซึ่งผสมกับสีฟ้าอย่างลงตัวและทันสมัย มีชายผ้าพลิ้วตามแรงลมดูสง่ายามเดิน อกซ้ายประดับด้วยดอกกุหลาบสีขาว บูทสีดำแบบทหารเดินก้าวมาอีกหนึ่งก้าวเพื่อเข้าใกล้แสงไฟมากขึ้น แลเห็นใบหน้าที่ประดับด้วยเรือนผมสีทองที่ปัดไปด้านซ้ายดูแหวกแนวแต่น่าหลงใหล นัยน์ตาสีฟ้าครามดูเจิดจรัสเมื่อยามต้องแสง
“ สวัสดีครับริชาร์ด ไม่ได้เจอกันเสียนาน ยังเหมือนเดิมเลยนะ ” เสียงที่เลโอพูดมามันฟังดูเย็นยะเยือกจนริชาร์ดสะดุ้งมองหาตัวช่วยที่จะพาให้เขาพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้
“ อ...อ้าว ลีอาน่าหนิ ไม่ได้เจอกันเสียนาน สบายดีไหม? ”
ริชาร์ดที่มองหาตัวช่วย เมื่อเห็นหญิงสาวที่มากับเลโอด้วยจึงร้องทัก เมื่อลีอาน่าโดนริชาร์ดทักก็ส่งยิ้มหวานมาให้ ลีอาน่ามาในชุดราตรีสีดำสลับฟ้าที่เข้ากับชุดของเลโอผมสีทองก็ม้วนขึ้นแบบสบายๆตกแต่งด้วยดอกกุหลาบขาว
“ ท่านพี่คะ... ” หญิงสาวพูดอ้ำอึ้งเมื่อริชาร์ดจำเธอได้ ริชาร์ดก็ดูใจชื้นขึ้นเป็นกองเมื่อหญิงสาวดูจะช่วยเขา จนเลโอขี้เกียจทะเลาะต่อจึงตัดบทเสียดื้อๆ
“ เอ่อ... ผมขอไม่ให้สัมภาษณ์นะครับ เพราะผมมางานนี้แบบส่วนตัว ...แต่ให้เก็บภาพได้ครับ ” นักข่าวหน้าเสียทันทีเมื่อเลโอไม่ให้สัมภาษณ์ แต่เมื่อให้เก็บภาพได้สีหน้านักข่าวก็ดีขึ้น
“ ไม่เป็นไรครับ ท่านก็ให้ความกรุณามามากแล้ว แค่ให้เก็บภาพอย่างเดียวก็พอแล้วล่ะครับ ”
“ นั้นขอเก็บภาพทั้งสามท่านเลยนะคะ ” แสงแฟลชรัวกันจนตาทั้งสามคนแทบลายหรือกระทั่งเป็นลมหน้ามืดก็ยังได้ เมื่อเก็บภาพได้สมใจกลุ่มนักข่าวก็ขอลาไปสำภาสน์ผู้อื่นที่มาร่วมงาน
“ เลโอเนี่ยมาไม่ให้สุ่มไม่ให้เสียงเลยนะ ฉันยิ่งขวัญอ่อนอยู่... ” ริชาร์ดกล่าวขึ้นเมื่อทั้งสามคนเดินเข้ามาในตัวงานและมีผู้คนให้ความสนในในตัวพวกเขาเช่นกัน
“ เหรอครับ... ผมว่าดีแล้วล่ะครับที่มาแบบไม่ให้สุ่มไม่ให้เสียงแบบนี้จะได้แอบฟังคนเขานินทาเพื่อนลับหลังด้วย ” เลโอพูดจิกกัดเพื่อนข้างตัวแอบนินทาเขาลับหลัง แบบนี้เขาเรียกว่าแอบแทงข้างหลังเพื่อนชัดๆ!!
“ โอ๋ๆ เลโอยังโกรธเค้าอยู่หรอ.. เค้าแค่ล้อเล่นเอง ” ริชาร์ดกระโดดเกาะแขนเลโอพลางเอาหัวสีน้ำตาลถูๆไถ่ๆบ่าที่ค่อนข้างเล็กของเลโอ เห็นเพื่อนทำท่าอ้อนทีเลโอถึงกับส่ายหัวหนักๆ
“ นี่หรือราชองครักษ์ขององค์กษัตริย์ที่ใครๆล้วนชื่นชอบ ”
“ แล้วใครๆที่ว่ารวมเจ้าหรือเปล่าเลโอ~ ” ริชาร์ดทำหน้าแมวร้องขออาหารจากเจ้าของ
“ คุณอย่าทำนิสัยเหมือนเอสเทอร์ได้ไหม เห็นแล้วผมไม่อยากมีเพื่อนแบบนั้นเป็นคนที่สอง ”
“ ใจร้ายกับเอสเทอร์จังนะ แต่อย่าใจร้ายแบบนั้นกับฉันล่ะ ”
“ ..... ”
“ ขอร้อง...” พูดไม่พอขออ้อนกับราชสีห์แห่งวาติกันซะหน่อย
“ ก็แล้วแต่คุณ ”
เลโอใจอ่อนกับการอ้อนของเพื่อนชายเสียไม่ได้ ใครๆก็ต้องยอมใจอ่อนให้ทั้งนั้น เลโอมองไปรอบๆข้างมีแต่สายตาสาวๆที่แอบหวั่นใจกับท่าทีของเพื่อนชายหัวน้ำตาลทองของเขา
“ เอ่อ... ท่านพี่คะ น้องคิดว่าคงไม่มีใครมารบกวนท่านพี่แน่ น้องขอตัวไปทักทายเพื่อนๆก่อนนะคะ ” ลีอาน่าที่ดูจะถูกลืมจึงดึงแขนเสื้อของพี่ชายให้รู้ว่าขออนุญาตไปสังสรรค์กับเพื่อนๆที่รอนางเข้าไปทักทายอยู่
“ ได้สิ พี่ดูแลตัวเองได้ ” พี่ชายผมทองยิ้มแหยๆให้นาง
“ น้องคิดว่าท่านพี่ริชาร์ดดูแลท่านพี่ได้ต่างหาก ” ว่าแล้วน้องสาวสุดที่รักก็เดินจากไป โดยไม่ลืมสะกิดริชาร์ดด้วยท่าเขินอายแล้วบอกให้ดูแลพี่ชายที่ไม่รู้ประสีประสาให้ดี
“ ฝากดูแลท่านพี่ด้วยนะคะ ”
“ ได้เลย พี่จะดูแลเลโออย่าให้สาวคนไหนครอบครองได้เลย! ” ไม่พูดเปล่าริชาร์ดยังทำท่าตะเบ๊ะแบบทหารให้ลีอาน่ามั่นใจฝากพี่ชายไว้ที่เขาได้
“ นี่ผมดูเป็นคนที่ต้องให้คนมาดูแลตลอดเลยหรือ? ” เลโอหันไปถามริชาร์ดที่มองเขาอยู่
“ ไม่รู้สินะ แต่นายต้องอยู่กับฉันในคืนนี้ ” ริชาร์ดหัวเราะร่า
“ ผมไม่อยากอยู่กับคุณเลย ”
เลโอเซ็งจับจิตในเมื่อคืนนี้ต้องอยู่กับเจ้าเพื่อนที่แอบนินทาเขา แถมถ้าต้องอยู่กับริชาร์ดเขาต้องดูเป็นจุดเด่นที่ทุกคนต้องจับตามอง คิดแล้วยิ่งเกร็งเข้าไปใหญ่
“ อย่าเกร็งสิ เดี๋ยวชุดน่ารักๆที่นายใส่จะเสียใจนะ ” ริชาร์ดหันมามองเพื่อนที่ทำตัวเกร็งแข็งเป็นก้อนหิน
“ แล้วชุดกับคนใส่อย่างไหนน่ารักกว่ากันล่ะ? ” เลโอตีหน้าเซ็งพูดลอยๆถามเพื่อนข้างตัวที่ดูตกใจกับคำถามที่เลโอไม่ได้ตั้งใจจะถาม ซึ่งริชาร์ดก็ทำท่าเลิ่กลั่กหน้าขึ้นสีระเรื่อพูดติดขัด
“ ก..ก็ น..นายน่ะสิ ” ริชาร์ดกลั่นใจตอบไป
“ หืม? ” เลโองงว่าริชาร์ดพูดอะไร
“ ก..ก็ที่นายถามไง! ” ดวงตากลมสีฟ้าไพลินจ้องมองใบหน้าเพื่อนที่ดูแปลกพิกล
“ ถามอะไร? ” เลโอจำไม่ได้ว่าเขาถามริชาร์ดว่าอะไรเพราะเขาแค่พูดลอยๆ
“ ชั่งเถอะ!! ”
ริชาร์ดตัดบทดูถ้าหากเขายังพูดต่อไปเขาอาจตกอยู่ในที่นั่งลำบากข้อหาบอกว่า ว่าที่ผู้นำตระกูลลีโอนาสน่ารัก!!
“ อืม ก็ได้ ” ซึ่งเลโอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ปล่อยให้ริชาร์ดแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ ขอโทษนะครับ คือว่า... ”
เสียงทุ่มหวานดังขึ้นขัดจังหวะการพูดคุยของเลโอกับริชาร์ด ทั้งคู่หันหลังกลับไปมองว่าใครที่กำลังขัดบทสนทนาของพวกเขา ซึ่งเป็นชายร่างสูงผมแดงเพลิง ตาเหยี่ยวของเขากำลังจ้องมองมาทางชายหนุ่มทั้งสอง ริชาร์ดเห็นเขาแล้วจึงยิ้มให้อย่างยินดีเพราะเขาเองก็รู้จักชายตรงหน้า
“ สายันสวัสดิ์ครับคุณคิวเรียส ซีลีแวน ” ริชาร์ดยื่นมือมาจับทักทายบุคคลที่มาทักพวกเขา
“ สวัสดีครับท่านริชาร์ด เวลนิซ ” คิวเรียสก็ทักตอบเขาเช่นกัน และหันมามองอีกคนที่ตอนนี้ยืนแข็งค้างไปแล้ว
“ ส...สวัสดีครับ ” เลโอเมื่อถูกจ้องด้วยตาเหยี่ยวจึงได้สติกลับมาและแกล้งไหลตามน้ำไป เขาไม่คิดเลยว่าจะมาเจอชายตรงหน้าที่มีผมเพลิงในงานนี้ เขาไม่น่ามาเลยจริงๆ
“ สวัสดีครับท่านเลโอ ลีโอนาส...”
คิวเรียสส่งยิ้มละลายใจให้เด็กหนุ่มผมทองที่เขาแอบจ้องมองมาตลอด ใครจะคิดว่าจะมาเจอคนที่ตัวเองคิดว่าเกลียดขี้หน้าแต่พอได้มาเจอตัวจริงแล้ว คิวเรียสเองก็ไม่อาจรั้งความรู้สึกที่มีต่อเด็กหนุ่มตรงหน้าได้
ตากลมโตสีฟ้ากระจ่างดั่งท้องฟ้า ผมเส้นทองใหมสลวยน่าสัมผัส ผิวกายขาวเสมือนหิมะแรก เอวที่ดูบางบวกกับส่วนสูงที่ดูน่ารักน่าชั่งเมื่อสวมเข้ากับชุดที่ตัด
เห็นครั้งแรกคิวเรียสแทบจะกระโดดกอดด้วยความหมั่นเคี้ยวแต่ก็ทำมิได้ เพราะเจ้าคนน่ารักนั้นเป็นถึงนายทหารแห่งวาติกัน และอดอิจฉาเจ้าราชองครักษ์ผมน้ำตาลไม่ได้ ได้ทั้งพูดคุย ส่งสายตาแถมยังได้สัมผัสกายกันอีก เห็นแล้วคิวเรียสแทบคลั่ง แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของเจ้าของเรือนผมทองแล้วคิวเรียสเองก็อดยิ้มตามเสียมิได้และเมื่อคิดถึงคนที่เคยมาทาบทามเขาให้มาเป็น โซดิแอ็คแล้วเขายอมถวายกายถวายใจให้เลยเพื่อจะได้อยู่กับคนที่เขาหลงจนโงหัวไม่ขึ้นเสียแล้ว
“ เอ่อ...คุณคิวเรียสเป็นอะไรรึเปล่าครับ? ” คิวเรียสทำหน้าเคลิ้มฝันไม่นานก็ถูกเรียกโดยเจ้าของดวงตาสีฟ้าที่ดูเปล่งประกาย เห็นแล้วคิวเรียสอดใจเต้นมิได้
“ ปะ..ป..เปล่าครับ ”
“ ฮิๆ โดนเสน่ห์ของเลโอเข้าแล้ว ” ริชาร์ดเห็นท่าทีคิวเรียสผิดปกติจึงเดาได้ เมื่อเขาก็เคยเป็นเหมือนกัน ตอนที่เขาเจอเลโอตอนเด็กครั้งแรก
“ ริชาร์ด...” เลโอตีหน้าบึ้ง
“ คงงั้นมั้งครับ ” คิวเรียสตอบริชาร์ดที่ยืนยิ้มอยู่
“ คิวเรียส.. คุณอย่าไปใส่ใจคำพูดของริชาร์ดมากเกินไปสิครับ ” เลโอไม่ยอมแพ้จึงเถียงไปบ้าง
“ เห็นเลโออย่างนี้ น้องสาวของเขาหวงเขามากนะครับ ระวังตัวไว้นะครับ ” ริชาร์ดหัวเราะคิกคัก
“ เหรอครับ แต่ผมเห็นท่านลีอาน่าอยู่ด้านนู้น ผมจึงลอบเข้ามาได้โดยน้องสาวที่ขี้หวงพี่ชายไม่เห็นนะครับ ...คงไม่เป็นไร ” คิวเรียสเองก็ยิ้มคุยกับริชาร์ดกันมันส์จนไม่สนใจเลโอที่อยู่ระหว่างกลางทั้งสองคน
“ นี่! ”
“ ผมเลยต้องมาดูแลแทนน้องลีอาน่านี่ไงครับ ” ริชาร์ดยังพูดต่อโดยไม่สนใจเสียงที่เลยโอคัดเมื่อกี้
“ แต่ท่านคงปล่อยผมใช่ไหมครับ ”
“ ไม่ต้องเรียกท่านก็ได้ คุณตอนนี้ก็เปรียบเสมือนเพื่อนผมแล้ว ”
“ แหม... ใจดีจังครับ ” คิวเรียสยิ้มใส่
“ ไม่หรอกเลโอใจดีกว่าฉันอีก ” ริชาร์ดหันมาตบหลังเลโอเบาๆ
“ จริงหรือครับ? ” คิวเรียสเองก็หันมาจ้องเลโอที่ดูหน้าบูดหน่อยๆ
“ อืม.. คงงั้นมั้ง! ” เลโอตอบ
“ นั้นถ้าผมทำอย่างนี้ล่ะ... ” คิวเรียสคว้าตัวเลโอมากอดทางด้านหลังแล้วใช้คางเกยกับบ่าของเลโอ ซึ่งริชาร์ดเห็นก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แต่สำหรับเลโอไม่ใช่ เขาตกใจเบิกตากว้างเมื่อโดนคว้าร่างโดยไม่รู้ตัว “ คุณจะอภัยให้ผมไหม? ”
“ นี่! คิวเรียสฉันขอเตือนเลยนะอย่าไปทำรุ่มร่ามกับเลโอเขา เดี๋ยวจะเหมือนเอสเทอร์เอา ” ริชาร์ดเตือนคิวเรียสนิ่มๆ
“ เอสเทอร์? ” คิวเรียสทวนชื่อที่ไม่เคยได้ยิน
“ หึหึ ปล่อยผมดีกว่านะครับ คุณคิวเรียส ซีลีแวน ”
เสียงเย็นยะเยือกทำให้ผู้ที่ได้ยินสั่นสะท้านไปทั้งตัว มันดังมาจากร่างของเลโอเขาใกล้จะเป็นดาร์กเลโอแล้ว คิวเรียสเมื่อได้ยินก็รีบปล่อยมือและรีบออกห่างเลโอ ซึ่งริชาร์ดเองก็กระเทิบออกห่างเช่นกัน
“ ยะ..ย..ยอมแล้ว ” คิวเรียสยกมือทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะทำท่ายอมแพ้และแลไปทางริชาร์ดที่ทำหน้าเหยเกแถมหัวเราะแห้งๆให้อีก
“ ฉันเตือนแล้วนะ ”
ความคิดเห็น