คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ราชสีห์ตนนั้น , ซ้อใหญ่
ราชสีห์ตนนั้น , ซ้อใหญ่
“ อรุณสวัสดิ์ค่ะท่านพี่ ”
ลีอาน่าหญิงสาวผมทองยาวสยายทักเลโอที่ตอนนี้เดินเข้ามาร่วมรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว มือขวาเลื่อนเก้าอี้และนั่งลงบนเบาะสีขาวเนื้อดี
“ อรุณสวัสดิ์ลีอาน่าน้องสาวสุดที่รักของพี่ ...อรุณสวัสดิ์ครับท่านพ่อ ” ชายมีอายุนั่งหัวโต๊ะที่ดูยาวเกินความจำเป็นในการรับประทานอาหารมองชายหนุ่มและหญิงสาวที่ดูหน้าคล้ายกันพลางยิ้มให้กับลูกๆที่ดูโตเกินกว่าคนเป็นพ่อคาดเดา
“ วันนี้ทำไมมาทานข้าวเช้าซะล่ะ!? วันนี้เข้าเวรช่วงบ่ายมิใช่หรือ? ”
ถึงพูดไปอย่างนั้น แต่เลโอก็ไม่เคยตื่นสายเสียที เลโอที่เป็นพี่ใหญ่และเป็นเด็กดีของบิดาก็ยังคงเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กจนโต คนเป็นพ่อพอหันไปมองลีอาน่าคนที่เป็นน้องสาวทำไมถึงตรงกันข้ามกับคนเป็นพี่เช่นนี้ ทั้งแก่นแก้ว หัวดื้อ และชอบนอนตื่นสายแต่วันนี้ตื่นเช้าสงสัยเป็นเพราะตื่นมาเอาใจพี่ชายแหงๆ
“ วันนี้ลีอาน่าตื่นเช้า ท่านพี่ไม่ให้รางวัลลีอาน่าหน่อยเหรอ? ” ตามที่คนเป็นพ่อคาดมันต้องมีอะไรแอบแฝงซึ่งลีอาน่าเริ่มงัดลูกอ้อนมาให้เลโอที่นั่งทานข้าวอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ แล้วน้องอยากได้อะไร หืม? ”
“ ก็.... อยากให้ท่านพี่ไปงานเลี้ยงที่บ้านเพื่อนน้องน่ะค่ะ ....ได้หรือเปล่า ? ”
“ แล้วพี่ต้องไปด้วย? น้องก็รู้ว่าพี่ไม่ค่อยถูกกับงานสังคมสักเท่าไหร่ ” หน้าเลโอซีดลงนิดหน่อย
“ นะคะๆ นะคะท่านพี่ ...ไปกับลีอาน่านะ! ” น้องสาวว่าพลางวิ่งไปกอดแขนพี่ชายแล้วเขย่าๆว่าตัวเองอยากพี่ชายไปด้วย
“ ก็ได้ๆ แต่พี่ทำตัวไม่ถูกหรอกนะ ” มือพี่ชายลูบผมลีอาน่าที่ตอนนี้ดีใจที่พี่ชายไปงานเลี้ยงด้วย
“ พี่เนี่ยนะทำตัวไม่ถูก!? พี่ไม่รู้ต่างหากว่าพอพี่เข้าสังคมที่ไรท่านพี่ดูเป็นธรรมชาติมาก ” ก็อย่างที่ลีอาน่าบอกเลโอเมื่ออยู่กับสังคมจะดูไม่ออกเลยว่าทำตัวไม่ถูกเพราะเจ้าตัวพูดแต่คำหวานและก็ยิ้มตลอดเวลา
“ พี่แค่ไม่รู้จะพูดอะไรแค่ยิ้มนิดหน่อยกับพูดให้คนอื่นสบายใจแค่นั้นเอง ”
“ ค่าๆ ลีอาน่าเข้าใจแล้ว ว่าทำไมพี่ชายถึงมีแต่สาวรักสาวหลงขนาดนี้ ” น้องสาวว่า หน้าก็เซ็งเป็ดบอกบุญไม่รับ
“ หืม? ” เลโอตีหน้างงใส่
“ ช่างเถอะค่ะ ” พอพูดถึงเรื่องนี้ที่ไรลีอาน่าถึงกับปวดหัวเพราะพี่ชายจึงเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทานข้าว
“ อ่าว...”
“ แล้วงานจัดวันไหนล่ะ”
“ สองวันข้างหน้าค่ะ ท่านพี่เตรียมชุดหล่อๆไว้เลย ”
“ ว่าแต่ลูกลีอาน่าที่หวงพี่ชายนักพี่ชายหนาทำไมถึงอยากให้พี่ชายไปเจอหญิงอื่นบ้างเสียล่ะ? ” เลเอลที่นั่งเงียบดูลูกสาวอ่อนพี่ชายโพล่งถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะท่านพ่อ พอดีลูกอยากเจอท่านริชาร์ดบ้าง เลยจะขอยืมเส้นสายท่านพี่เสียหน่อย ”
“ หืม.. ริชาร์ด เวลนิซ ที่เป็นเพื่อนเล่นกับเลโอสมัยเด็กน่ะหรือ? ”
“ ใช่ค่ะ! ตอนนี้ท่านริชาร์ดดังในหมู่สาวๆมากเลยนะคะ ข้าเลยอยากพูดคุยกับเขาบ้างจะเอาไปพูดอวดกับพวกเพื่อนๆบ้าง ” ว่าเสร็จสาวเจ้าก็หน้าเชิด
“ ว่าแล้วว่าลูกพ่อต้องมีแผนแน่ๆ ถึงยอมให้พี่ชายสุดที่รักออกงานสังคมได้ ”
“ แต่ว่าถึงกับเชิญตัวริชาร์ดมาได้นี่ งานเลี้ยงครั้งนี้น่าจะใหญ่น่าดู ” เลโอที่เริ่มนั่งเท้าคางแล้วบ่นออกมา
“ ใช่ค่ะ เป็นงานของท่านหญิงแวลีนซะอย่าง! ”
“ นี่น้องรู้จักกับท่านหญิงแวลีนด้วยหรือ ”
“ น้องยังไม่ได้เล่าให้ฟังหรือคะว่าน้องเนี่ยเป็นเพื่อนสนิทของนางเลย ” น้องสาวหน้ามุ่ยที่พี่ชายไม่รู้เรื่องน้องสาวซะเลย
“ ใช่แล้ว... แต่ค่อยเล่าทีหลังนะ พี่ต้องไปทำงานที่วาติกันนิดหน่อยน่ะ ” เลโอที่ดูนาฬิกาข้อมือเสร็จก็รีบรุดออกจากโต๊ะทานข้าวทันที
“ ไปก่อนนะครับท่านพ่อ ลีอาน่า ” เลโอหยิบเสื้อนอกแบบทหารสีขาวพร้อมหมวกทหารที่เข้ากับชุดมาใส่
“ ทำงานดีๆล่ะ” เลเอลสั่งเชิงอวยพรแก่ลูกชาย
“ ระวังพระสันตะปาปาด้วยนะคะท่านพี่ ” น้องสาวก็ยังขี่หวงวันยังค่ำไม่เคยเปลี่ยนแปลง
“ ครับๆ ”
เลโอขึ้นรถม้าของตระกูลคันงามมุ่งตรงไปวาติกันเพื่อจะไปรอรับฟังข่าวเกี่ยวกับ คิวเรียส ซีลีแวน จากปากเหมยหลิน ซ้อใหญ่ของย่านหอนางโรม
เลโอที่ตอนนี้อยู่ในห้องทำงานแล้วกำลังตรวจเช็คเอกสารที่ตัวเองจะต้องทำภายในวันนี้เสียก่อนและกำลังรอฟลานที่กำลังเชิญบุคคลสำคัญของวันนี้
และไม่เป็นการรอให้เสียเวลาเสียงเคาะประตูและเสียงขออนุญาตเข้าห้องก็เกิดขึ้น เลโอคานรับเสียงทันทีและเงยหน้าออกจากกองเอกสารที่กำลังตรวจเช็คอยู่
“ ว่าไงบ้างครับ ”
“ ตอนนี้พร้อมแล้วครับหัวหน้า และนี่เอกสารที่เราร่วมรวมเอาไว้ประกอบการให้การครับ ”
ฟรานยื่นเอกสารหนึ่งปึกไม่หนามากให้หัวหน้า ซึ่งเลโอก็รับไว้และลองเปิดดูค้าวๆ
“ ขอบใจมากนะครับฟราน แล้วตัวเหมยหลินล่ะ ”
“ ตอนนี้อยู่หน้าห้องครับ จะเชิญตัวเข้ามาเลยรึเปล่าครับ ”
“ อืม พาเธอเข้ามาเถอะ ”
“ ครับ ”
ฟรานหมุนตัวออกเดินไปเปิดประตูห้องทำงานออก และหญิงสาวที่ดูมีอายุนิดหน่อยก็เดินเข้ามาในห้อง นางใส่ชุดกี่เผ้าสีแดงเลือดนกที่มีลายดอกโบตั๋นสีดำปักอยู่รอบชุดสวมอัญมณีมีค่าหลากหลายชนิด มวยผมสีดำถูกปิ่นลายนกยูงสีเขียวมรกตปักอยู่ เครื่องหน้าก็งามสมกับรูปตัว ปากสีแดงเลือดนกยกยิ้มอย่างถูกใจ เลโอที่ดูรูปประพรรณสัณฐานแล้วผู้หญิงคนนี้อายุคงไม่เกินเลขสี่เป็นแน่
“ หนีห่าว... ท่านพาลาดินแห่งวาติกัน ” เหมยหลินยกยิ้มสีแดงเลือดนกกล่าวคำทักทาย
“ สวัสดีครับคุณเหมยหลิน เชิญนั่งครับ เอ่อ...ที่จริงแล้วผมยังไม่ได้เป็นพาลาดินเลยนะครับ ” เลโอที่ถูกเหมยหลินชมก็ข่าวทันที ก็อย่างที่รู้พาลาดินคือยศทหารแนวหน้าของวาติกัน ซึ่งผู้ที่ใช้ยศนี้ได้มีแต่เหล่าโซดิแอ็คเท่านั้น พาลาดินเป็นยศที่พิเศษที่มีอำนาจสั่งการทหารได้ทุกเหล่าทับและมีอำนาจเท่าเสนาธิการหรือนายพลกองทับเช่นกัน ผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้นถึงสามารถมีกันได้
“ แหมๆท่านเลโอ ตอนนี้ยังแต่อีกไม่นานก็ใช่แล้ว ถึงยังไม่ใช่แต่ทุกคนเขายอมเชื่อฟังท่านกันเหมือนท่านเป็นพาลาดินแล้วล่ะหน่า...” เหมยหลินยิ้มกระเซ้า
“ ท่านก็พูดเกินไปครับ ” เลโอยิ้มสว่างเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนเหมยหลินแซว
“ ฮะๆ ท่านนี่หล่อดูดีอย่างที่ใครๆว่าไว้จริงๆ เหมือนราชสีห์ที่องอาจ ”
“ ครับ ” เลโอก็ยิ้มรับคำชม
“ และก็มีด้านมืด ”
เหมยหลินที่พูดประโยคหลังเบากว่าปกติแต่ก็มิอาจรอดพ้นหูของเลโอไปได้
“ ครับ ...เช่นกัน ” เลโอก็ดูจะยิ้มตามปกติแต่ก็มีความหยิ่งทะนงหน่อยๆ
“ ฟลาน คุณออกไปก่อนเถอะครับ ผมคิดว่าคุณเหมยหลินต้องการความเป็นส่วนตัว ” ฟลานที่อยู่ด้านหลังเหมยหลินเมื่อได้รับคำสั่งก็หันหลังเดินออกจากห้อง
“ ดูลูกน้องท่านจะไม่ห่วงท่านเลยนะคะ ” เหมยหลินที่ตอนนี้นั่งไขว่ห้างทำให้เนื้อขาขาวพ้นจากชุดกี่เผ้าสีแดงเลือดนกดูแลจะเย้ายวนเลโอเต็มที่
“ อย่างนั้นหรือครับ? ” เลโอที่ไม่สนใจขาอ่อนเหมยหลินก็ส่งยิ้มสว่างพร้อมคำว่าเจิดจรัสใส่
“ ข้าเหมยหลิน... อาจจะฆ่าท่านก็ได้นะคะ ” เหมยหลินเริ่มหน้าบูดเมื่อเลโอไม่สนใจขาอ่อนของนางเลย ถึงเหมยหลินจะดูไม่สาวแล้วก็ตามแต่นางก็ถือว่าเป็นคนที่งามเหมือนดอกโบตั๋นที่แย้มกลีบงาม
“ คงไม่มีทางหรอกครับ ”
“ ท่านคิดว่าข้าเป็นคนดีที่ไม่สามารถฆ่าคนได้หรือคะ? ” จิตสังหารพุ่งไปทางเลโอที่ต้นตอของจิตสังหารมาจากเหมยหลิน
“ ไม่ใช่หรอกครับ ”
“ แล้วอะไร ”
“ ......... ”
เหมยหลินที่หน้าบูดอยู่แล้วก็หน้าบูดยิ่งกว่าเดิมเมื่อไม่ได้คำตอบจากเลโอที่ดูแล้วว่าเลโอเป็นคนที่ไม่สามารถทำอะไรนางได้ ถึงนางจะเป็นซ้อใหญ่ของหอนางโรมแต่ใช่ว่าหอนางโรมจะมีความสงบสุขเสมอไป นางต้องฝึกฝนวิชาแขนงต่างๆเพื่อใช้ต่อสู้และรวมถึงเวทมนต์ด้วยจนนางมีฝีมือเทียบเท่านักสู้หรือนักเวทขั้นสูง และฉายาของนางคือ โบตั๋นสีดำ
นางดูแล้วว่าเลโอไม่ใช่คนไม่ดีอะไรแถมดูเป็นเด็กดีด้วยซ้ำ แล้วทำไมถึงไม่กลัวนางบ้างล่ะ ทั้งขู่ ทั้งปล่อยจิตสังหารบ้างแล้ว ...แต่ชายตรงหน้าดูไม่กลัวนางเลย
เวลาผ่านไปล่วงเลยไปหลายนาทีจนเหมยหลินหยุดการปล่อยจิตสังหารออกมา และแล้วเลโอก็แย้มฝีปากออก
“ ....เพราะคุณไม่สามารถฆ่าผมได้ ”
มันคือคำพูดที่แสนธรรมดา ไม่มีจิตสังหาร ไม่มีอาวุธ แต่ทำไมใจของเหมยหลินเหมือนถูกของมีคมจ่อที่ลำคอจนการหายใจติดขัด ใจสั่นเต้นระรัว เหมือนมีสัตว์ร้ายคอยจ้องจะขย้ำเอาชีวิต
“ อ..อ..อะไรกัน เจ้าคือใคร! ” น้ำลายที่กลืนยากฝืนกลืนลงคอ เหมยหลินพูดอย่างตื่นตระหนก
“ หือ? ผมก็คือเลโอ ลีโอนาสที่หก เป็นทหารของวาติกันสิครับ คุณคิดว่าผมคือใครหรือ...”
เลโอตอบหน้าใสซื่อพร้อมเอียงคอหน่อยๆ
“ ม..ไม่ใช่!! ข้าไม่ได้ถามเพื่อเอาคำตอบแบบนั้น! ” เหมยหลินสั่นกลัว เหงื่อกายเริ่มออกจากใบหน้าและลำตัว เลโอที่ดูไม่เข้าใจคำพูดของเหมยหลินก็เริ่มจะงงตาม
“ ข้าหมายถึงรังสีที่ดูเหมือนสัตว์ร้ายนั่น และไอที่เป็นความมืดรอบตัวเจ้า! ”
“ เฮ้อ.. มันออกมาอีกแล้วสินะ เดี๋ยวนี้ออกมาบ่อยจริง... ก็ง่ายๆครับ พลังสามอย่างมันตีกันน่ะครับ ”
“ สามอย่าง!? ” เหมยหลินเริ่มงง เพราะคนเราจะมีพลังแค่หนึ่งอย่างหรือสองประเภทคือ พลังชีวิตและพลังเวทแต่สองอย่างนี้จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ...แต่คนๆนี้มีพลังตั้งสามอย่าง มันจะเป็นไปได้อย่างไร
“ อืม... ก็ พลังชีวิต พลังเวท และก็พลังกลุ่มดาวจักรราศี อืมใช่ๆสามอย่าง ” ว่าพลางก็ยกมือนับตามนิ้ว
“ เป็นไปไม่ได้!! พลังจักรราศีพอเข้าใจ แต่ทำไมพลังชีวิตกับพลังเวทมันถึงไม่เข้ากันล่ะ มันคือหนึ่งเดียวกันนะ! ”
“ นั่นคือสิ่งที่คุณไม่ควรรู้และไม่สามารถรับรู้ มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณ ” เลโอคิ้วขมวดตอบเสียงเย็น
“ !!! ” เหมยหลินหน้าซีดทันตา นางไม่ควรจะรับรู้เรื่องนี้ซึ่งนางก็ไม่อยากจะรับรู้แล้วด้วย
“ เอาล่ะ คุณตอบคำถามผมมาได้แล้ว ”
“ ด..ได้ เราจะตอบให้ ”
“ คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับ คิวเรียส ซีลีแวน ตอบผมมา ”
“ ข้า...ข้าเป็นคนชักชวนเขาเข้าวงการเท่านั้น ”
“ อืม... เป็นตามที่ข้อมูลเขียนไว้ ” เลโอพลิกกระดาษข้อมูลที่ฟลานนำมาให้เขาก่อน
“ แล้วเขามาอยู่ที่หอนางโรมคุณบ่อย ”
“ ใช่ ”
“ เขามาที่หอนางโรมคุณตอนไหน เวลาไหน? ”
“ หอเราเปิดตลอดเวลา แต่คิวเรียสชอบมาช่วงกลางคืน เวลาประมาณสองทุ่มได้ ” เหมยหลินที่รู้สึกบรรยากาศที่น่ากลัวเริ่มคลายลงนางจึงตอบคำถามได้คล่องขึ้น ไม่มานั่งเกร็งเหมือนเมื่อครู่
“ แล้วถ้าผมต้องการพบเขา... ”
“ ได้ ข้าช่วยให้ท่านได้พบเขาแน่ ...ท่านต้องการพบเขาเมื่อไหร่ ”
“ ขอบคุณ ผมต้องการพบเขาคืนนี้ คุณช่วยผมได้ใช่ไหม ”
“ ไม่มีปัญหา ส่วนเวลาก็ตามที่ข้าบอก เขาต้องมาคืนนี้แน่ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นข้ามิอาจช่วยท่านได้นะ ”
“ เรื่องปัญหาที่จะเกิดผมจัดการเอง ...แต่ดูคุณจะมั่นใจจริงเลยนะครับ ” เมื่อบรรยากาศคายลงเลโอก็ยกยิ้มสว่าง
“ ก็ใช่น่ะสิ! เจ้านั่นมันเสเพลจะตาย ” เหมยหลินหน้าเหยเกทันทีเมื่อพูดถึงบุคคลที่ไม่น่าควรจำ
“ เช่นนั้นเลย? ”
“ ใช่ เจ้านั่นมันยิ่งกว่าเสเพลซะอีก เฮ้อ... ว่าแต่ท่านจะไปพบหมอนั่นทำไมหรือเจ้านั่นมันไปสร้างปัญหาอะไร!? ” เหมยหลินหน้าตื่น เมื่อคิดว่าคิวเรียสจะไปสร้างปัญหาให้นางเดือดร้อนด้วย
“ เปล่าหรอก ...แค่จะชักชวนมาร่วมงานเท่านั้นครับ ”
“ ร่วมงาน!! ”
หญิงสาวปากเลือดนกอึ้งทันที เมื่อคิดว่าคิวเรียสที่นางรู้จักจะได้ร่วมงานกับนายพลหรือว่าที่พาลาดินอย่างเลโอที่เป็นคนดังและดูแสนดีขนาดนี้แถมน่ากลัวอีกต่างหาก
“ ใช่ครับ เขาคือคนที่ผมตามหาและเขาจะเป็นกำลังให้ผม ”
“ ถ้าว่าอย่างนั้นข้าก็จะช่วยท่านอย่างเต็มที่ เด็กคนนั้นเป็นคนน่าสงสาร ถ้าได้อยู่กับท่านเขาคงดูมีชีวิตชีวากว่าที่เป็นอยู่ ” ดวงตาอันแพรวพราวหมองลงเมื่อพูดถึงความเป็นอยู่ของชายหนุ่มผมเพลิงในตอนนี้
“ ก็อย่างที่พูดมาน่ะครับ เอาเป็นว่าผมจะมาที่หอนางโรมโบตั๋นสีดำของคุณตอนสองทุ่ม แล้วคุณก็ช่วยพาพบไปพบคิวเรียส ซีลีแวนคนนั้น ”
“ ได้ ข้าเข้าใจแล้ว ”
“ ขอบคุณสำหรับความร่วมมือครับ ขอบคุณคุณเหมยหลินมากๆ ไว้ครั้งหน้าถ้าพบกันใหม่ผมจะขอเลี้ยงข้าวคุณซักมื้อเพื่อเป็นการตอบแทนนะครับ ” เลโอที่ดูจะหมดคำถามและได้ความร่วมมือจากเหมยหลินแล้วก็เชิญชวนเหมยหลินมานั่งทานข้าวซักมื้อ แต่เหมยหลินนี่สิใบหน้าเริ่มซีดทันที เมื่อคิดว่าจะได้พบชายหนุ่มคนตรงหน้านี้อีกจึงขอปฏิเสธ ไปเพื่อความอยู่รอดของตนเอง
“ น่าเสียดายจังเลยนะครับ ” เมื่อสาวปากเลือดนกปฏิเสธเลโอก็มีสีหน้าหม่นหมองลง
“ ข้าต้องขอโทษท่านจริงๆ ”
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ ”
“ นั้นข้าขอตัวก่อน ” เมื่อเสร็จธุระเหมยหลินก็มิอาจจะอยู่ต่อได้หรือไม่อยากอยู่ต่อ นางก็ขอลานะตรงนี้
“ เชิญครับ ” เลโอลุกขึ้นให้ความเคารพแก่สุภาพสตรีเมื่อเหมยหลินจะกลับ
เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมการหายตัวไปของเหมยหลินและการปรากฏตัวของฟลาน
“ คราวนี้สอบสวนช้าจังเลยนะครับ ” ฟลานที่พึ่งเดินเข้ามาก็ทักขึ้น
“ ช้าอะไรกันครับ ” เลโอเดินกลับไปนั่งเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง
“ ก็ผ่านไปแค่ยี่สิบนาทีเองนะครับ ”
“ เร็วจะตาย ” เลโอหน้ามุ่ยนิดหน่อย
“ ก็ที่ผ่านมาท่านใช้เวลาแค่ห้านาทีเองนะครับ ”
“ เหรอ... ผมว่านานออก ” เลโอเริ่มเอียงคอแสดงความน่ารัก
“ เฮ้อ... ท่านอย่าทำท่านั้นออกมาสิครับ ผมเห็นแล้วไม่อยากจะค้านคั้นต่อ ” ฟลานหน่ายใจกับอาการหรือท่าทางน่ารักๆของเจ้านาย ...แต่ก็ไม่คาดคิดว่าหัวหน้าที่น่ารักของเขาเมื่อสอบปากคำทีไรไอ้ท่าทีน่ากลัวแถมอันตรายมาจากไหนในตัวของเลโอ ฟลานเคยถูกเลโอสอบสวนข้อหามีความลับปกปิดเขา เจอครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ฟลานถึงสาบานกับตัวเองว่าจะไม่มีความลับให้เลโอจับได้อีกแล้ว ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วจริงๆ...
“ นั้นผมขอไปทำงานต่อนะครับ ” คิดแล้วก็กลัวจับใจรีบหนีไปทำงานต่อดีกว่า
“ อืม ไปเหอะ ...แต่ผมรู้นะว่าคุณคิดอะไรอยู่ ” ฟลานสะดุ้งเฮือก สันหลังเย็นวาบทันทีเลยรีบชิ่งออกจากห้องทันที จนห้องเงียบลงอีกครั้ง
“ พลังนี้ตีกันบ่อยขึ้นแล้วสินะ ...แต่ก็ไม่มีปัญหา ” เลโอนั่งพิงพนักเก้าอี้ตัวงามแล้วใช้สมองคิดว่าคืนนี้จะหาวิธีตอบโต้ คิวเรียส ซีลีแวน อย่างไร
ความคิดเห็น