ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ZODIAC หน่วยทหารสีขาว

    ลำดับตอนที่ #4 : ราชสีห์ตนนั้น , ซ้อใหญ่

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 57





    ราชสีห์ตนนั้น , ซ้อใหญ่

     

    “ อรุณสวัสดิ์ค่ะท่านพี่ ”

    ลีอาน่าหญิงสาวผมทองยาวสยายทักเลโอที่ตอนนี้เดินเข้ามาร่วมรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว  มือขวาเลื่อนเก้าอี้และนั่งลงบนเบาะสีขาวเนื้อดี

    “ อรุณสวัสดิ์ลีอาน่าน้องสาวสุดที่รักของพี่  ...อรุณสวัสดิ์ครับท่านพ่อ ”  ชายมีอายุนั่งหัวโต๊ะที่ดูยาวเกินความจำเป็นในการรับประทานอาหารมองชายหนุ่มและหญิงสาวที่ดูหน้าคล้ายกันพลางยิ้มให้กับลูกๆที่ดูโตเกินกว่าคนเป็นพ่อคาดเดา

    “ วันนี้ทำไมมาทานข้าวเช้าซะล่ะ!?  วันนี้เข้าเวรช่วงบ่ายมิใช่หรือ?

     ถึงพูดไปอย่างนั้น แต่เลโอก็ไม่เคยตื่นสายเสียที  เลโอที่เป็นพี่ใหญ่และเป็นเด็กดีของบิดาก็ยังคงเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กจนโต คนเป็นพ่อพอหันไปมองลีอาน่าคนที่เป็นน้องสาวทำไมถึงตรงกันข้ามกับคนเป็นพี่เช่นนี้  ทั้งแก่นแก้ว หัวดื้อ และชอบนอนตื่นสายแต่วันนี้ตื่นเช้าสงสัยเป็นเพราะตื่นมาเอาใจพี่ชายแหงๆ

    “ วันนี้ลีอาน่าตื่นเช้า  ท่านพี่ไม่ให้รางวัลลีอาน่าหน่อยเหรอ?  ตามที่คนเป็นพ่อคาดมันต้องมีอะไรแอบแฝงซึ่งลีอาน่าเริ่มงัดลูกอ้อนมาให้เลโอที่นั่งทานข้าวอยู่ฝั่งตรงข้าม

     แล้วน้องอยากได้อะไร หืม?

    “ ก็.... อยากให้ท่านพี่ไปงานเลี้ยงที่บ้านเพื่อนน้องน่ะค่ะ ....ได้หรือเปล่า ? 

    “ แล้วพี่ต้องไปด้วย?  น้องก็รู้ว่าพี่ไม่ค่อยถูกกับงานสังคมสักเท่าไหร่ ” หน้าเลโอซีดลงนิดหน่อย

    “ นะคะๆ นะคะท่านพี่ ...ไปกับลีอาน่านะ! ” น้องสาวว่าพลางวิ่งไปกอดแขนพี่ชายแล้วเขย่าๆว่าตัวเองอยากพี่ชายไปด้วย

    “ ก็ได้ๆ แต่พี่ทำตัวไม่ถูกหรอกนะ ”  มือพี่ชายลูบผมลีอาน่าที่ตอนนี้ดีใจที่พี่ชายไปงานเลี้ยงด้วย

    “ พี่เนี่ยนะทำตัวไม่ถูก!?  พี่ไม่รู้ต่างหากว่าพอพี่เข้าสังคมที่ไรท่านพี่ดูเป็นธรรมชาติมาก ”  ก็อย่างที่ลีอาน่าบอกเลโอเมื่ออยู่กับสังคมจะดูไม่ออกเลยว่าทำตัวไม่ถูกเพราะเจ้าตัวพูดแต่คำหวานและก็ยิ้มตลอดเวลา

    “ พี่แค่ไม่รู้จะพูดอะไรแค่ยิ้มนิดหน่อยกับพูดให้คนอื่นสบายใจแค่นั้นเอง ”

    “ ค่าๆ ลีอาน่าเข้าใจแล้ว ว่าทำไมพี่ชายถึงมีแต่สาวรักสาวหลงขนาดนี้ ”  น้องสาวว่า หน้าก็เซ็งเป็ดบอกบุญไม่รับ

    “ หืม? ” เลโอตีหน้างงใส่

    “ ช่างเถอะค่ะ ” พอพูดถึงเรื่องนี้ที่ไรลีอาน่าถึงกับปวดหัวเพราะพี่ชายจึงเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทานข้าว

    “ อ่าว...”

    “ แล้วงานจัดวันไหนล่ะ”

    “ สองวันข้างหน้าค่ะ ท่านพี่เตรียมชุดหล่อๆไว้เลย ”

    “ ว่าแต่ลูกลีอาน่าที่หวงพี่ชายนักพี่ชายหนาทำไมถึงอยากให้พี่ชายไปเจอหญิงอื่นบ้างเสียล่ะ?  เลเอลที่นั่งเงียบดูลูกสาวอ่อนพี่ชายโพล่งถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

    “ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะท่านพ่อ  พอดีลูกอยากเจอท่านริชาร์ดบ้าง เลยจะขอยืมเส้นสายท่านพี่เสียหน่อย ”

    “ หืม.. ริชาร์ด  เวลนิซ ที่เป็นเพื่อนเล่นกับเลโอสมัยเด็กน่ะหรือ?

    “ ใช่ค่ะ!  ตอนนี้ท่านริชาร์ดดังในหมู่สาวๆมากเลยนะคะ  ข้าเลยอยากพูดคุยกับเขาบ้างจะเอาไปพูดอวดกับพวกเพื่อนๆบ้าง ” ว่าเสร็จสาวเจ้าก็หน้าเชิด

    “ ว่าแล้วว่าลูกพ่อต้องมีแผนแน่ๆ ถึงยอมให้พี่ชายสุดที่รักออกงานสังคมได้ ”

    “ แต่ว่าถึงกับเชิญตัวริชาร์ดมาได้นี่ งานเลี้ยงครั้งนี้น่าจะใหญ่น่าดู ” เลโอที่เริ่มนั่งเท้าคางแล้วบ่นออกมา

    “ ใช่ค่ะ เป็นงานของท่านหญิงแวลีนซะอย่าง!

    “ นี่น้องรู้จักกับท่านหญิงแวลีนด้วยหรือ ”

    “ น้องยังไม่ได้เล่าให้ฟังหรือคะว่าน้องเนี่ยเป็นเพื่อนสนิทของนางเลย ” น้องสาวหน้ามุ่ยที่พี่ชายไม่รู้เรื่องน้องสาวซะเลย

    “ ใช่แล้ว... แต่ค่อยเล่าทีหลังนะ พี่ต้องไปทำงานที่วาติกันนิดหน่อยน่ะ ” เลโอที่ดูนาฬิกาข้อมือเสร็จก็รีบรุดออกจากโต๊ะทานข้าวทันที

    “ ไปก่อนนะครับท่านพ่อ ลีอาน่า  ” เลโอหยิบเสื้อนอกแบบทหารสีขาวพร้อมหมวกทหารที่เข้ากับชุดมาใส่

    “ ทำงานดีๆล่ะ”  เลเอลสั่งเชิงอวยพรแก่ลูกชาย

    “ ระวังพระสันตะปาปาด้วยนะคะท่านพี่ ” น้องสาวก็ยังขี่หวงวันยังค่ำไม่เคยเปลี่ยนแปลง

    “ ครับๆ ”

    เลโอขึ้นรถม้าของตระกูลคันงามมุ่งตรงไปวาติกันเพื่อจะไปรอรับฟังข่าวเกี่ยวกับ คิวเรียส ซีลีแวน จากปากเหมยหลิน  ซ้อใหญ่ของย่านหอนางโรม

     

    เลโอที่ตอนนี้อยู่ในห้องทำงานแล้วกำลังตรวจเช็คเอกสารที่ตัวเองจะต้องทำภายในวันนี้เสียก่อนและกำลังรอฟลานที่กำลังเชิญบุคคลสำคัญของวันนี้

    และไม่เป็นการรอให้เสียเวลาเสียงเคาะประตูและเสียงขออนุญาตเข้าห้องก็เกิดขึ้น  เลโอคานรับเสียงทันทีและเงยหน้าออกจากกองเอกสารที่กำลังตรวจเช็คอยู่

    “ ว่าไงบ้างครับ ”

    “ ตอนนี้พร้อมแล้วครับหัวหน้า  และนี่เอกสารที่เราร่วมรวมเอาไว้ประกอบการให้การครับ ” 

    ฟรานยื่นเอกสารหนึ่งปึกไม่หนามากให้หัวหน้า ซึ่งเลโอก็รับไว้และลองเปิดดูค้าวๆ

    “ ขอบใจมากนะครับฟราน  แล้วตัวเหมยหลินล่ะ ”

    “ ตอนนี้อยู่หน้าห้องครับ  จะเชิญตัวเข้ามาเลยรึเปล่าครับ ”

    “ อืม  พาเธอเข้ามาเถอะ ”

    “ ครับ ”

    ฟรานหมุนตัวออกเดินไปเปิดประตูห้องทำงานออก และหญิงสาวที่ดูมีอายุนิดหน่อยก็เดินเข้ามาในห้อง  นางใส่ชุดกี่เผ้าสีแดงเลือดนกที่มีลายดอกโบตั๋นสีดำปักอยู่รอบชุดสวมอัญมณีมีค่าหลากหลายชนิด  มวยผมสีดำถูกปิ่นลายนกยูงสีเขียวมรกตปักอยู่ เครื่องหน้าก็งามสมกับรูปตัว  ปากสีแดงเลือดนกยกยิ้มอย่างถูกใจ เลโอที่ดูรูปประพรรณสัณฐานแล้วผู้หญิงคนนี้อายุคงไม่เกินเลขสี่เป็นแน่

    “ หนีห่าว...  ท่านพาลาดินแห่งวาติกัน ”  เหมยหลินยกยิ้มสีแดงเลือดนกกล่าวคำทักทาย

    “ สวัสดีครับคุณเหมยหลิน  เชิญนั่งครับ เอ่อ...ที่จริงแล้วผมยังไม่ได้เป็นพาลาดินเลยนะครับ ”  เลโอที่ถูกเหมยหลินชมก็ข่าวทันที  ก็อย่างที่รู้พาลาดินคือยศทหารแนวหน้าของวาติกัน  ซึ่งผู้ที่ใช้ยศนี้ได้มีแต่เหล่าโซดิแอ็คเท่านั้น พาลาดินเป็นยศที่พิเศษที่มีอำนาจสั่งการทหารได้ทุกเหล่าทับและมีอำนาจเท่าเสนาธิการหรือนายพลกองทับเช่นกัน  ผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้นถึงสามารถมีกันได้

      แหมๆท่านเลโอ  ตอนนี้ยังแต่อีกไม่นานก็ใช่แล้ว  ถึงยังไม่ใช่แต่ทุกคนเขายอมเชื่อฟังท่านกันเหมือนท่านเป็นพาลาดินแล้วล่ะหน่า...”  เหมยหลินยิ้มกระเซ้า

      ท่านก็พูดเกินไปครับ ” เลโอยิ้มสว่างเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนเหมยหลินแซว

    “ ฮะๆ ท่านนี่หล่อดูดีอย่างที่ใครๆว่าไว้จริงๆ  เหมือนราชสีห์ที่องอาจ ”

    “ ครับ ” เลโอก็ยิ้มรับคำชม

    “ และก็มีด้านมืด ”

     เหมยหลินที่พูดประโยคหลังเบากว่าปกติแต่ก็มิอาจรอดพ้นหูของเลโอไปได้

    “ ครับ  ...เช่นกัน ”  เลโอก็ดูจะยิ้มตามปกติแต่ก็มีความหยิ่งทะนงหน่อยๆ

    “ ฟลาน  คุณออกไปก่อนเถอะครับ  ผมคิดว่าคุณเหมยหลินต้องการความเป็นส่วนตัว ”  ฟลานที่อยู่ด้านหลังเหมยหลินเมื่อได้รับคำสั่งก็หันหลังเดินออกจากห้อง

    “ ดูลูกน้องท่านจะไม่ห่วงท่านเลยนะคะ ” เหมยหลินที่ตอนนี้นั่งไขว่ห้างทำให้เนื้อขาขาวพ้นจากชุดกี่เผ้าสีแดงเลือดนกดูแลจะเย้ายวนเลโอเต็มที่

    “ อย่างนั้นหรือครับ?  เลโอที่ไม่สนใจขาอ่อนเหมยหลินก็ส่งยิ้มสว่างพร้อมคำว่าเจิดจรัสใส่

    “ ข้าเหมยหลิน...  อาจจะฆ่าท่านก็ได้นะคะ ”  เหมยหลินเริ่มหน้าบูดเมื่อเลโอไม่สนใจขาอ่อนของนางเลย  ถึงเหมยหลินจะดูไม่สาวแล้วก็ตามแต่นางก็ถือว่าเป็นคนที่งามเหมือนดอกโบตั๋นที่แย้มกลีบงาม

    “ คงไม่มีทางหรอกครับ ”

    “ ท่านคิดว่าข้าเป็นคนดีที่ไม่สามารถฆ่าคนได้หรือคะ?  จิตสังหารพุ่งไปทางเลโอที่ต้นตอของจิตสังหารมาจากเหมยหลิน

    “ ไม่ใช่หรอกครับ ”

    “ แล้วอะไร ”

    “ ......... ”

    เหมยหลินที่หน้าบูดอยู่แล้วก็หน้าบูดยิ่งกว่าเดิมเมื่อไม่ได้คำตอบจากเลโอที่ดูแล้วว่าเลโอเป็นคนที่ไม่สามารถทำอะไรนางได้ ถึงนางจะเป็นซ้อใหญ่ของหอนางโรมแต่ใช่ว่าหอนางโรมจะมีความสงบสุขเสมอไป  นางต้องฝึกฝนวิชาแขนงต่างๆเพื่อใช้ต่อสู้และรวมถึงเวทมนต์ด้วยจนนางมีฝีมือเทียบเท่านักสู้หรือนักเวทขั้นสูง และฉายาของนางคือ  โบตั๋นสีดำ

    นางดูแล้วว่าเลโอไม่ใช่คนไม่ดีอะไรแถมดูเป็นเด็กดีด้วยซ้ำ  แล้วทำไมถึงไม่กลัวนางบ้างล่ะ ทั้งขู่ ทั้งปล่อยจิตสังหารบ้างแล้ว  ...แต่ชายตรงหน้าดูไม่กลัวนางเลย

    เวลาผ่านไปล่วงเลยไปหลายนาทีจนเหมยหลินหยุดการปล่อยจิตสังหารออกมา  และแล้วเลโอก็แย้มฝีปากออก

    “ ....เพราะคุณไม่สามารถฆ่าผมได้ ”

    มันคือคำพูดที่แสนธรรมดา ไม่มีจิตสังหาร ไม่มีอาวุธ  แต่ทำไมใจของเหมยหลินเหมือนถูกของมีคมจ่อที่ลำคอจนการหายใจติดขัด ใจสั่นเต้นระรัว เหมือนมีสัตว์ร้ายคอยจ้องจะขย้ำเอาชีวิต

    “ อ..อ..อะไรกัน เจ้าคือใคร! ” น้ำลายที่กลืนยากฝืนกลืนลงคอ เหมยหลินพูดอย่างตื่นตระหนก

    “ หือ? ผมก็คือเลโอ  ลีโอนาสที่หก เป็นทหารของวาติกันสิครับ คุณคิดว่าผมคือใครหรือ...”

    เลโอตอบหน้าใสซื่อพร้อมเอียงคอหน่อยๆ

    “ ม..ไม่ใช่!! ข้าไม่ได้ถามเพื่อเอาคำตอบแบบนั้น! ” เหมยหลินสั่นกลัว เหงื่อกายเริ่มออกจากใบหน้าและลำตัว  เลโอที่ดูไม่เข้าใจคำพูดของเหมยหลินก็เริ่มจะงงตาม

    “ ข้าหมายถึงรังสีที่ดูเหมือนสัตว์ร้ายนั่น และไอที่เป็นความมืดรอบตัวเจ้า!

    “ เฮ้อ.. มันออกมาอีกแล้วสินะ เดี๋ยวนี้ออกมาบ่อยจริง...  ก็ง่ายๆครับ พลังสามอย่างมันตีกันน่ะครับ ”

    “ สามอย่าง!? ” เหมยหลินเริ่มงง เพราะคนเราจะมีพลังแค่หนึ่งอย่างหรือสองประเภทคือ พลังชีวิตและพลังเวทแต่สองอย่างนี้จะรวมกันเป็นหนึ่งเดียว  ...แต่คนๆนี้มีพลังตั้งสามอย่าง มันจะเป็นไปได้อย่างไร

    “ อืม... ก็ พลังชีวิต พลังเวท และก็พลังกลุ่มดาวจักรราศี อืมใช่ๆสามอย่าง ” ว่าพลางก็ยกมือนับตามนิ้ว

    “ เป็นไปไม่ได้!!  พลังจักรราศีพอเข้าใจ แต่ทำไมพลังชีวิตกับพลังเวทมันถึงไม่เข้ากันล่ะ มันคือหนึ่งเดียวกันนะ!

    “ นั่นคือสิ่งที่คุณไม่ควรรู้และไม่สามารถรับรู้ มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณ ” เลโอคิ้วขมวดตอบเสียงเย็น

    !!!  เหมยหลินหน้าซีดทันตา นางไม่ควรจะรับรู้เรื่องนี้ซึ่งนางก็ไม่อยากจะรับรู้แล้วด้วย

      เอาล่ะ คุณตอบคำถามผมมาได้แล้ว ”

    “ ด..ได้ เราจะตอบให้ ”

    “ คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับ คิวเรียส  ซีลีแวน ตอบผมมา ”

    “ ข้า...ข้าเป็นคนชักชวนเขาเข้าวงการเท่านั้น ”

    “ อืม... เป็นตามที่ข้อมูลเขียนไว้ ” เลโอพลิกกระดาษข้อมูลที่ฟลานนำมาให้เขาก่อน

    “ แล้วเขามาอยู่ที่หอนางโรมคุณบ่อย ”

    “ ใช่ ”

    “ เขามาที่หอนางโรมคุณตอนไหน เวลาไหน?

    “ หอเราเปิดตลอดเวลา แต่คิวเรียสชอบมาช่วงกลางคืน เวลาประมาณสองทุ่มได้ ”  เหมยหลินที่รู้สึกบรรยากาศที่น่ากลัวเริ่มคลายลงนางจึงตอบคำถามได้คล่องขึ้น ไม่มานั่งเกร็งเหมือนเมื่อครู่

    “ แล้วถ้าผมต้องการพบเขา... ”

    “ ได้ ข้าช่วยให้ท่านได้พบเขาแน่ ...ท่านต้องการพบเขาเมื่อไหร่ ”

    “ ขอบคุณ ผมต้องการพบเขาคืนนี้ คุณช่วยผมได้ใช่ไหม ”

    “ ไม่มีปัญหา ส่วนเวลาก็ตามที่ข้าบอก เขาต้องมาคืนนี้แน่  แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นข้ามิอาจช่วยท่านได้นะ ”

    “ เรื่องปัญหาที่จะเกิดผมจัดการเอง ...แต่ดูคุณจะมั่นใจจริงเลยนะครับ  ” เมื่อบรรยากาศคายลงเลโอก็ยกยิ้มสว่าง

    “ ก็ใช่น่ะสิ! เจ้านั่นมันเสเพลจะตาย ” เหมยหลินหน้าเหยเกทันทีเมื่อพูดถึงบุคคลที่ไม่น่าควรจำ

    “ เช่นนั้นเลย?

    “ ใช่ เจ้านั่นมันยิ่งกว่าเสเพลซะอีก เฮ้อ... ว่าแต่ท่านจะไปพบหมอนั่นทำไมหรือเจ้านั่นมันไปสร้างปัญหาอะไร!? ” เหมยหลินหน้าตื่น เมื่อคิดว่าคิวเรียสจะไปสร้างปัญหาให้นางเดือดร้อนด้วย

    “ เปล่าหรอก ...แค่จะชักชวนมาร่วมงานเท่านั้นครับ ”

    “ ร่วมงาน!!

    หญิงสาวปากเลือดนกอึ้งทันที เมื่อคิดว่าคิวเรียสที่นางรู้จักจะได้ร่วมงานกับนายพลหรือว่าที่พาลาดินอย่างเลโอที่เป็นคนดังและดูแสนดีขนาดนี้แถมน่ากลัวอีกต่างหาก

    “ ใช่ครับ เขาคือคนที่ผมตามหาและเขาจะเป็นกำลังให้ผม ”

    “ ถ้าว่าอย่างนั้นข้าก็จะช่วยท่านอย่างเต็มที่ เด็กคนนั้นเป็นคนน่าสงสาร ถ้าได้อยู่กับท่านเขาคงดูมีชีวิตชีวากว่าที่เป็นอยู่ ” ดวงตาอันแพรวพราวหมองลงเมื่อพูดถึงความเป็นอยู่ของชายหนุ่มผมเพลิงในตอนนี้

    “ ก็อย่างที่พูดมาน่ะครับ เอาเป็นว่าผมจะมาที่หอนางโรมโบตั๋นสีดำของคุณตอนสองทุ่ม แล้วคุณก็ช่วยพาพบไปพบคิวเรียส ซีลีแวนคนนั้น ”

    “ ได้ ข้าเข้าใจแล้ว ”

    “ ขอบคุณสำหรับความร่วมมือครับ ขอบคุณคุณเหมยหลินมากๆ ไว้ครั้งหน้าถ้าพบกันใหม่ผมจะขอเลี้ยงข้าวคุณซักมื้อเพื่อเป็นการตอบแทนนะครับ ”  เลโอที่ดูจะหมดคำถามและได้ความร่วมมือจากเหมยหลินแล้วก็เชิญชวนเหมยหลินมานั่งทานข้าวซักมื้อ  แต่เหมยหลินนี่สิใบหน้าเริ่มซีดทันที เมื่อคิดว่าจะได้พบชายหนุ่มคนตรงหน้านี้อีกจึงขอปฏิเสธ ไปเพื่อความอยู่รอดของตนเอง

    “ น่าเสียดายจังเลยนะครับ ” เมื่อสาวปากเลือดนกปฏิเสธเลโอก็มีสีหน้าหม่นหมองลง

    “ ข้าต้องขอโทษท่านจริงๆ ”

    “ ไม่เป็นไรหรอกครับ ”

    “ นั้นข้าขอตัวก่อน ” เมื่อเสร็จธุระเหมยหลินก็มิอาจจะอยู่ต่อได้หรือไม่อยากอยู่ต่อ นางก็ขอลานะตรงนี้

    “ เชิญครับ ” เลโอลุกขึ้นให้ความเคารพแก่สุภาพสตรีเมื่อเหมยหลินจะกลับ

    เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมการหายตัวไปของเหมยหลินและการปรากฏตัวของฟลาน

    “ คราวนี้สอบสวนช้าจังเลยนะครับ ” ฟลานที่พึ่งเดินเข้ามาก็ทักขึ้น

    “ ช้าอะไรกันครับ ” เลโอเดินกลับไปนั่งเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง

    “ ก็ผ่านไปแค่ยี่สิบนาทีเองนะครับ ”

    “ เร็วจะตาย ” เลโอหน้ามุ่ยนิดหน่อย

    “ ก็ที่ผ่านมาท่านใช้เวลาแค่ห้านาทีเองนะครับ ”

    “ เหรอ... ผมว่านานออก ” เลโอเริ่มเอียงคอแสดงความน่ารัก

    “ เฮ้อ... ท่านอย่าทำท่านั้นออกมาสิครับ ผมเห็นแล้วไม่อยากจะค้านคั้นต่อ ” ฟลานหน่ายใจกับอาการหรือท่าทางน่ารักๆของเจ้านาย ...แต่ก็ไม่คาดคิดว่าหัวหน้าที่น่ารักของเขาเมื่อสอบปากคำทีไรไอ้ท่าทีน่ากลัวแถมอันตรายมาจากไหนในตัวของเลโอ ฟลานเคยถูกเลโอสอบสวนข้อหามีความลับปกปิดเขา เจอครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ฟลานถึงสาบานกับตัวเองว่าจะไม่มีความลับให้เลโอจับได้อีกแล้ว ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วจริงๆ...

    “ นั้นผมขอไปทำงานต่อนะครับ ” คิดแล้วก็กลัวจับใจรีบหนีไปทำงานต่อดีกว่า

    “ อืม ไปเหอะ ...แต่ผมรู้นะว่าคุณคิดอะไรอยู่  ” ฟลานสะดุ้งเฮือก สันหลังเย็นวาบทันทีเลยรีบชิ่งออกจากห้องทันที จนห้องเงียบลงอีกครั้ง

    “ พลังนี้ตีกันบ่อยขึ้นแล้วสินะ ...แต่ก็ไม่มีปัญหา ” เลโอนั่งพิงพนักเก้าอี้ตัวงามแล้วใช้สมองคิดว่าคืนนี้จะหาวิธีตอบโต้ คิวเรียส  ซีลีแวน อย่างไร

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×