ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ZODIAC หน่วยทหารสีขาว

    ลำดับตอนที่ #3 : ราชสีห์ตนนั้น , แสยะยิ้ม

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 57





    ราชสีห์ตนนั้น , แสยะยิ้ม

     

               พระสันตะปาปาเป็นบุคคลที่เทียบเท่าพระราชา  มีอำนาจหน้าที่สูงสุดเป็นผู้นำในวาติกัน  เป็นผู้ที่ทุกคนเคารพนับถือ เพราะพระสันตะปาปาเปรียบเสมือนเป็นผู้แทนวจนะของพระเจ้า  มีความบริสุทธิ์ ความดี งดงาม เด็ดขาดคนชั่วและอมนุษย์

            ดาร์กเลโอเดินมาหยุดลงหน้าประตูบานใหญ่ซึ่งมีองครักษ์สองนายเฝ้าอยู่

    “ ผมมาพบเอสเทอร์ ” ซึ่งนั่นทำให้องครักษ์สองนายถึงกับสั่นเทาด้วยความกลัว  เลโอที่มาในโหมดดาร์กเลโอที่มาพบพระสันตะปาปานั้นมาทีไรห้องหรือตำหนักเละทุกที

    “ คะ...ค..ครับ!!! 

        องครักษ์สองนายตอบรับและผลักประตูให้ดาร์กเลโอเข้าไป

    “ นี่! บีหนึ่งนายคิดเหมือนฉันรึเปล่า?  องครักษ์ด้านซ้ายถามองครักษ์ด้านขวา

    “ นี่! บีสองฉันก็คิดเหมือนนายเช่นกัน ”  องครักษ์ด้านขวาตอบองครักษ์ด้านซ้าย

      ไม่รอดแน่!!!

                องรักษ์สองนายตอบพร้อมกัน  มันคงเป็นฉากโศกนาฏกรรมของพระสันตะปาปาที่หกของวาติกันเสียแล้ว...

              ดาร์กเลโอซึ่งเดินเข้ามาในห้องแล้ว เห็นบุรุษซึ่งตนหมายตาไว้แล้วบุรุษที่หันหลังให้ดาร์กเลโอยืนชมดอกไม้สีขาวอยู่ในแจกันใบงาม เรือนผมสีม่วงเข้มชุดที่ใส่ก็เป็นชุดนักบวชสีขาวยาวปักลายเป็นรูปไม่กางเขนสีแดง มันชั่งงดงามตาเมื่อมีคนพบเห็น  แต่... ไม่ใช่สำหรับดาร์กเลโอ  ดาร์กเลโอเห็นคู่กรณียกยิ้มแสยะด้วยความชอบใจ

      เอสเทอร์... ”  เสียงเย็นเนิบๆของดาร์กเลโอทำให้ผู้ที่ถูกเรียกหันกลับมามอง

    “ ไง เล..อ..โอ...อั๊ก!!  “ ทะ..ท..ท่าเตะในตำนาน”

    โครม!!

               พระสันตะปาปาไม่ทันหันกลับมาทัก ดวงตาสีอเมทิสต์เบิกโพลงเท่าไข่ห่านดวงความเจ็บปวดเข้าช่วงท้อง  พระสันตะปาปาล้มกลิ้งชนกำแพงห้องด้วยฝีเท้าของดาร์กเลโอและท่าเตะในตำนานที่ยืนยิ้มแสยะด้วยความหมั่นไส้

    “ ไง ...เอสเทอร์ที่รัก ”  ดาร์กเลโอทักหลังจากเตะพระสันตะปาปาลงพื้นไปแล้ว

    “ ละ..เล โอ..อึก!!..อั๊ก!! แอ็ก!!

               ยังพูดไม่ทันครบดวงตาสีอเมทิสต์ต้องเบิกโพลงเข้าอีกครั้ง  เพราะฝีเท้าของดาร์กเลโออีกเช่นเคย ลูกเตะ ลูกถีบ อีกสารพัดที่ขนมาใส่พระสันตะปาปาผู้น่าสงสารเหมือนขนกระทำแค้นผู้ถูกกระทำมาแต่ชาติปางก่อน 

                เสียงที่ดังออกนอกห้องของพระสันตะปาปาบ่งบอกได้เลยว่ากำลังถูกยำจนเละแน่ๆ โดยฝีมือของทหารที่ขึ้นตรงกับตนเองและเคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเลโอจึงไม่เรียกพระสันตะปาปาแต่กลับเรียกชื่อของพระสันตะปาปานั่นเอง

     

               เสียงแห่งความวินาศเงียบลงทำให้เหล่าองครักษ์ที่เฝ้าประตูเริ่มวิตกกังวลว่าพระสันตะปาปาของตนเองนั้นอยู่ดีกินดีอยู่รึเปล่าหรือจะขึ้นไปเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าเสียแล้ว

    “ อะ...โอ๊ย!! เลโอ อ่า... ทำไมเตะเค้าซะแรงขนาดนี้ล่ะ ”

              พระสันตะปาปาลุกยืนขึ้นหลังจากนอนกองกับพื้นเสียนานนึกว่าจะกลืนไปกับพื้นเสียแล้ว

    “ หึหึ ถึงผมเตะเอสเทอร์หนักแค่ไหน คุณก็ไม่ตายอยู่ดีนี่ครับ ”  ดาร์กเลโอยิ้มเหี้ยมทำให้พระสันตะปาปาขนลุกขนพองไปกับเสียงที่น่ากลัวที่ออกมาจากดาร์กเลโอ

    “ ถึงเราที่เป็นพระสันตะปาปาแล้วและมีพลังฟื้นตัวมากจะโดนลูกเตะลูกถีบเจ้าแล้วไม่ตาย แต่ความเจ็บปวดมันก็ยังมีนะ ”

    “ นี่คือบทลงโทษไงเอสเทอร์  มันคือการทรมานที่คุณควรจะได้รับ ”  ดาร์กเลโอแสยะยิ้ม

    “ เหอะๆเราไม่ชอบรอยยิ้มของเจ้าตอนนี้เลยเลโอเพื่อนรัก ” พระสันตะปาปาเหงื่อแตก

    “ คุณบอกว่าผมเป็นเพื่อนรัก แต่ทำไมคุณถึงชอบลวนลามผมเสียนี่ ”

    “ ก..ก็ แค่...แตะนิดแตะหน่อยเอง ”  พระสันตะปาปายิ้มจาง

    “ นิดหน่อยนี่รวมสะโพกผมด้วยหรือ? ” ดาร์กเลโอแสยะยิ้มเหี้ยมกว้าง

    “ ก..ก็ มือมันไปเอง ร...เราหยุดไม่ได้ แฮะๆ ” พูดพลางเหงื่อเริ่มท้วมตัว

    “ เหรอ..” เพียงเท่านี้พระสันตะปาปาก็โดนบรรเลงเพลงวินาศอีกรอบ 

     

    “ จะ..จ..เจ้า ทำเราเจ็บหลายรอบจังนะเลโอ ”   

             พระสันตะปาปาที่ได้สติคืนมาหลังจากโบกมือบ๊ายบายพระผู้เป็นเจ้าไปหมาดๆ และตอนนี้เขาก็กลับมานั่งที่โต๊ะทำงานมือหนึ่งกุมเบ้าตาอีกมือหนึ่งกุมท้อง

    “ แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับที่คุณทำกับผม ”  ดาร์กเลโอที่ตอนนี้นั่งลงบนเก้าอี้ที่จัดไว้ให้หันหน้าเข้าโต๊ะทำงานก็ยิ้มเย็นเบาๆ

    “ ระ ...ร..ทำอะไรเจ้า!?

    “ เอสเทอร์คุณยังจะถามผมอีกเหรอ  ว่าคุณทำอะไรกับผมไว้ ”  ยิ้มเย็นของดาร์กเลโอทำให้พระสันตะปาปากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

    “ เราทำอะไร? ” พระสันตะปาปาเริ่มหน้าซีดด้วยความสงสัย

    “ คุณสั่งให้ผมไปเมืองแถบเหนือเพื่อให้ผมไปฆ่าพวกกูลเนี่ยนะ ”

               เมืองแถบเหนือที่เลโอไปนั้นใช้เวลาเดินทางโดยขี่ม้าเป็นเวลาสองเดือน เพื่อไปจับกูลเพียงสิบตน

    “ อะ..อืม ก็ชาวบ้านแถบนู้นเขาร้องเรียนมานี่ ”  พระสันตะปาปาตอบอึกอัก

    “ แค่กูลสิบตนใช้นักบวชหรือทหารของศาสนาจักรทั่วไปก็ได้หนิ ทำไมต้องให้ผมไปด้วย?  แววตาสีฟ้าเย็นชาจ้องเขม็งมายังบุคคลตรงหน้า

    “ อะ..เอ่อ.... ” 

    “ คุณรู้ไหมเอสเทอร์ งานของผมมันล้นมือมาก ไหนจะต้องสืบหาคนที่จะเข้ามาเป็นโซดิแอ็คอีก  ไหนจะเรื่องอมนุษย์ที่อยู่ในเมืองอีก คุณคิดว่าการตัดสินใจของคุณมันถูกหรือ?  ในหน้าที่พระสันตะปาปาน่ะ ”  ดาร์กเลโอยิ้มแสยะรอเวลาขย้ำ

    “ เรา..เราขอโทษ เราผิดไปแล้ว ”

              พระสันตะปาปาก้มหน้าขอโทษดาร์กเลโอเบาๆ  “ เราแค่อยากให้เจ้าพักผ่อนบ้างเท่านั้น...  เมืองทางเหนืออากาศดี ดอกไม้ก็สวย หญิงงามมากมาย  เราอยากให้เจ้าคลายเครียด ” 

      ไม่เป็นไร ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วง แต่..คุณควรดูเวลาและหน้าที่ที่ผมต้องทำบ้างเท่านั้น ”  ดาร์กเลโอเริ่มอ่อนลงเนื่องจากได้รับรู้ความหวังดีของคนเป็นเพื่อน

    “ อืม ”

               พระสันตะปาปายังก้มหน้านิ่งคอตกเช่นเดิมแต่เริ่มเบาใจบ้างแล้ว  เห็นดังนั้นดาร์กเลโอก็พ่นลมหายใจออกมาบ้าง

    “ คุณนี่เด็กจริงๆถึงคุณจะอายุมากกว่าผมสองปีก็ตามเถอะ!  เอาล่ะถ้าผมว่างเมื่อไหร่เราค่อยไปเที่ยวด้วยกันเหมือนเมื่อก่อนแล้วกัน ”  ดาร์กเลโอพูดพลางลอบมองเอสเทอร์เพื่อนรัก พอเห็นแววตาสีอเมทิสต์สดใสเช่นเดิมก็เบาใจ

    “ อื้ม!! รักเลโอที่สุดเลย! 

                ปากว่ามือถึงยังไม่ทันตั้งตัวก็โดนเอสเทอร์เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดมาสวมกอดเข้าแน่น ขโมยหอมแก้มสองที  ดาร์กเลโอตอนแรกเริ่มอ่อนลงพอโดนขโมยหอมแก้มก็กลับมาเป็นโหมดเย็นชาบ้าเลือดอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มที่แสยะกว้าง

    “ คุณยังไม่เข็ดใช่ไหม? หืม?... ”

        ยิ้มเย็นๆทำให้พระสันตะปาปาเสียวสันหลังวาบเหงื่อตกท้วมตัว

    “ แฮะๆ... อย่านะเลโอ!! 

              ท่าเตะในตำนานโดนซีกหน้าพระสันตะปาปาหน้าเบี้ยวตามแรงเตะจนต้องกระอักเลือดหลายซีซีพร้อมเสียงพากย์ว่า  Ooh No...

              และลงท้ายด้วยลงไปนอนกับพื้นอีกเช่นเคย

    “ อืม... ผมลืมไปว่าคุณเรียกผมมาทำไม?  ดาร์กเลโอชายตามองบุคคลที่อยู่แทบเท้า

    “ ระ..เรา คะ..ค..แค่...คิดถึง ” 

                คำตอบง่ายๆได้ใจความ ที่ต้องทำให้เลโอหยุดทำงานมาหาไอ้บ้าหื่นกามก็ด้วยเหตุผลนี้เนี่ยนะ  ดาร์กเลโอแผ่รังสีอำมหิตพลางพูดว่า

    “ ผมก็คิดถึงคุณ ไปเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าซะนะ ”  ตามด้วยรวมมิตรลูกหลายลูกมาผสมรวมกันจนทำให้คนที่รับประทานกระอักเลือดเป็นลิตรๆได้เลย....

    อวสาน เอสเทอร์ พระสันตะปาปาที่หก

    หลังดาร์กเลโอจัดการกับพระสันตะปาปาเสร็จก็เดินย่างก้าวออกจากห้อง  องครักษ์ที่เฝ้าประตูผงะโค้งเคารพเลโอหนึ่งครั้ง  ตอนนี้ดาร์กเลโอได้สลายหายไปหมดสิ้นแล้วเหลือเพียงราชสีห์แห่งตะวันคนเดิมที่เปลี่ยนหน้าตาและนิสัยไปอย่างกับพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ

    เลโอเดินตามทางระเบียงหวังจะกลับไปห้องทำงานของตน สายตาก็เหม่อมองขึ้นมองบนฟ้าที่ตอนนี้ตะวันขึ้นตรงศรีสระเสียแล้ว

    “ เฮ้อ... เที่ยงแล้วหรือนี่ ไปพักทานข้าวข้างนอกดีกว่า ” 

              หลังจากออกกำลังกายเสียนานเลโอที่คิดว่าท้องต้องรับสารอาหารบ้างแล้วเพราะต้องกลับไปเคลียร์งานเอกสารที่ห้องทำงานให้เสร็จก่อนเย็นด้วยและเมื่อวานเขาก็นัดกับลีอาน่าว่าจะกลับมาทานข้าวมื้อค่ำพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อพี่ชายและน้องสาวเสียหน่อย...

           เลโอหยุดยืนหน้าภัตตาคารอาหารที่สร้างจากไม้สีขาวและแซมด้วยสีแดง เป็นภัตตาคารที่สูงและใหญ่  ภัตตาคารอาหารเรดแรบิท  ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของนครหลวงวาติกันมาก เป็นภัตตาคารที่มีอาหารทุกชนิดที่อยู่ทุกมุมโลก ร้านอาหารที่มีผู้คนจากทุกสารทิศแวะเวียนมารับประทานอาหารเพราะเป็นร้านดังที่ได้รับรางวัลและได้รับการโหวตว่าขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยและความสวยงามของหน้าตาอาหาร

    “ ยังมีที่ว่างอยู่ไหมนะ? ” คิดพลางราชสีห์หนุ่มมือจับคาง หัวคิ้วสีทองขมวดเข้ากัน

    “ เอาเป็นว่าเข้าไปก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ”  คิดเสร็จเท่าก็ย่างก้าวเข้าร้านที่มีพนักงานสวมชุดเมดสีขาวดำยืนเปิดประตูให้

    กริ๊ง~

    เสียงกระดิ่งที่อยู่บนบานประตูดังต้อนรับแขก

    “ ยินดีต้อนรับค่ะ! ท่านเลโอ ” เมดบริการที่อยู่ใกล้เคาน์เตอร์ทักเลโอที่พึ่งเดินเข้ามาภายในร้าน

    “ สวัสดีครับ คุณเมอร์ลี่ ” เลโอยิ้มตอบทักทายให้เมอร์ลี่ เมดบริการผมส้มที่สนิทกับเลโอ ซึ่งเมอร์ลี่ก็ยิ้มตอบให้เลโอเช่นกัน

    “ ไม่ทราบว่ามีที่ให้ผมบ้างไหมครับ?

    “ ไม่มีก็ต้องมีสิคะ สำหรับท่านเลโอที่เป็นแขกประจำร้านเราน่ะค่ะ”

    เมอร์ลี่ยิ้มกว้างและผายมือเชิญให้เลโอเข้าไปในร้าน

    “ เชิญชั้นสามเลยค่ะ ”

              เลโอเดินไปที่ชั้นสามที่เมอร์ลี่เมดผมส้มบอก  แต่ขณะที่เลโอกำลังเดินขึ้นชั้นสาม  ชายหนุ่มร่างสูงรูปร่างดีก็กำลังเดินผ่านร่างเลโอไปเช่นกัน โดยไม่ทันคิดว่าโชคชะตากำลังหมุนวนมาให้เขารับชะตานั้นแล้ว ผมสีเพลิงซอยสั้นระบ่านิดหน่อย ดวงตาถูกบดบังด้วยแว่นกันแดดสีชา ร่างสูงเสื้อโค้ดสีดำถูกลมพัดทำให้เผยรอยปานที่คล้ายรอยสักสีดำอยู่ตรงท้องน้อยด้านซ้ายใกล้ขอบกางเกงหนา  ร่างสูงเดินออกนอกร้านที่มีแสงอาทิตย์แยงตา ดีที่เขาใส่แว่นตากันแดดอยู่ไม่นั้นสายตาเขาอาจจะเสียเพราะแสงที่สว่างและร้อนมากเกินไป

    “ เฮ้อ... ร้อนโคตรเลย ไม่นึกเลยว่าที่นครหลวงวาติกันมันจะเป็นทะเลทรายไปได้!!  โลกนะโลก!! จะร้อนไปไหนเนี่ย!!!!

              ว่าซะยาวเหยียด ร่างสูงผมเพลิงก็เดินจากไปอย่างสง่างามหรือหน้าด้านเพราะคำพูดหรือตะโกนเมื่อกี้ทำให้ชาวบ้านหันมามองตาเป็นมันเหมือนจะคาดโทษข้อหาทำให้ชาวบ้านหนวกหู

     

     

    “ อาหารมาแล้วค่ะ! เชิญรับประอาหารให้อร่อยนะคะ ”  บริกรสาวเมอร์ลี่ยกถาดอาหารมาให้เลโอที่ตอนนี้อยู่ภายในชั้นสามของร้าน ภายในร้านเรดแรบิทนี้มีทั้งหมดสามชั้นและชั้นที่นิยมหรือราคาแพงที่สุดขนาดต้องสั่งจองล่วงหน้าหนึ่งเดือนเพื่อได้ที่นั่งที่ดีที่สุดคือบริเวณชั้นสามของร้าน เพราะชั้นสามของร้านนั้นเป็นที่ที่มองทิวทัศน์ของนครหลวงวาติกันได้ชัดเจนและได้บรรยากาศดีที่สุด ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่มาทานอาหารชั้นสามนั้นก็ต้องมีกำลังทรัพย์มากเป็นธรรมดา ส่วนมากก็เป็น นักธุรกิจ นักการเมือง นายทหารชั้นสูง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หรือ ดาราศิลปินชั้นแนวหน้าของวงการ

    บริกรสาวเมอร์ลี่จัดแจงยกอาหารขึ้นเสิร์ฟบนโต๊ะ อาหารที่เลโอสั่งก็จะเป็นอาหารของชาติตะวันออกมาประมาณสองสามอย่าง และน้ำเปล่ามาหนึ่งแก้ว

    “ ดีจังเลยนะครับ มีที่ว่างตรงข้างหน้าต่างด้วย ”

     เลโอหันไปคุยกับบริกรสาวเมอร์ลี่ที่จัดวางอาหารบนโต๊ะและส่งยิ้มสว่างเหมือนพระอาทิตย์มาให้ส่งผลให้บริกรสาวเมอร์ลี่หน้าขึ้นสีระเรื่อ

    “ ค..ค่ะ เผอิญว่าเมื่อกี้มีแขกที่มาทานเสร็จแล้วพอดีน่ะค่ะ เป็นนายแบบชื่อดังเลยนะคะ!  บริกรสามเมอร์ลี่ยิ้มกว้างเมื่อพูดถึงนายแบบที่เคยใช้โต๊ะเดียวกับเลโอ เลโอหัวเราะนิดหน่อยกับการแสดงท่าทีที่ดูตื่นเต้นของบริกรสาวผมส้ม

    “ อย่างนั้นเลยหรือครับ?

     พอเลโอพูดแหย่เข้าหน่อยบริกรสาวเมอร์ลี่ก็ทำหน้าพ่องแก้มอย่างหน้าเอ็นดู บริกรสาวเมอร์ลี่อายุห่างหรือน้อยกว่าเลโอสองปีและอายูเท่ากับลีอาน่าน้องสาวเลโอ พอเห็นท่าทางแบบนี้ของเมอร์ลี่ก็ทำให้เลโอคิดถึงลีอาน่าขึ้นมาทันที

    “ ขอโทษนะครับ เผอิญว่าผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกศิลปินดารานายแบบ แบบนี้น่ะครับ ” เลโอยิ้มแหย๋นิดหน่อย

    “ ก..ก็สมกับเป็นท่านเลโอน่ะค่ะ ” บริกรสาวเมอร์ลี่ยิ้มและส่ายหัวไปมา

    “ เหรอครับ?

     เลโอเอียงคอสงสัยนิดหน่อย พอเจอท่าทางน่ารักบ้องแบ๊วของเลโอ  เมอร์ลี่หน้าขึ้นสีพร้อมอาการหน่ายใจที่เลโอทำท่าทางน่ารักแบบนี้ประจำจึงทำให้เลโอติดโพลจากการโหวตของประชาชนในเมืองว่าเป็นชายที่น่ารักน่าหยิกเป็นที่สุด

    “ เมอร์ลี่ไม่คุยกับท่านแล้ว.. ขอให้ทานอาหารให้อร่อยนะคะ ”

     บริกรสาวเมอร์ลี่โค้งให้เลโอหนึ่งครั้งแล้วจึงเดินกลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ ปล่อยให้เลโอเผชิญหน้ากับความงง ว่าคุยกันดีๆถึงตัดบทออกไปเร็วจัง เลโอหน่ายใจกับท่าทีกับเมอร์ลี่ที่เดินจากไป

    “ ไม่เข้าใจผู้หญิงเลย เฮ้อ... ”

    เลโอนั่งบ่นนิดหน่อยแล้วคิดว่าถ้าไม่รีบทานเขาคงเคลียร์งานไม่เสร็จก่อนค่ำเป็นแน่...

     

     

    กลางฝูงชนหนาแน่นย่านการค้าในเมืองทางตอนใต้ของเมืองหลวงวาติกัน  ชายคนหนึ่งที่สวมผ้าคลุมสีตุ่นด้านบนถูกคลุมด้วยหมวกที่ติดกับผ้าคลุม  ภายใต้หมวกจึงมองไม่เห็นใบหน้าของชายผู้สวมใส่  เส้นผมสีน้ำเงินเข้มที่ดูยาวโผล่พ้นออกจากหมวก

    “ หลงทางแล้วสิ.. โบสถ์อยู่ทางไหนเนี่ย ” ชายที่สวมผ้าคลุมสีตุ่นมองซ้ายสลับขวาไปมา

    จ๊อก~

    “ ห..หิวแล้วด้วย ” มือขาวซีดยื่นออกมาพ้นผ้าคลุมแล้วกุมท้อง ขายาวใต้ผ้าคลุมสีตุ่นเดินเข้ากลางฝูงชนที่ดูหนาแน่นอีกครั้งและกลืนหายไปกับคลื่นมนุษย์ที่กำลังทยอยเข้ามาเดินจับจ่ายใช้สอยภายในย่านการค้าขาย

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×