คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ราชสีห์ตนนั้น , แสยะยิ้ม
ราชสีห์ตนนั้น , แสยะยิ้ม
พระสันตะปาปาเป็นบุคคลที่เทียบเท่าพระราชา มีอำนาจหน้าที่สูงสุดเป็นผู้นำในวาติกัน เป็นผู้ที่ทุกคนเคารพนับถือ เพราะพระสันตะปาปาเปรียบเสมือนเป็นผู้แทนวจนะของพระเจ้า มีความบริสุทธิ์ ความดี งดงาม เด็ดขาดคนชั่วและอมนุษย์
ดาร์กเลโอเดินมาหยุดลงหน้าประตูบานใหญ่ซึ่งมีองครักษ์สองนายเฝ้าอยู่
“ ผมมาพบเอสเทอร์ ” ซึ่งนั่นทำให้องครักษ์สองนายถึงกับสั่นเทาด้วยความกลัว เลโอที่มาในโหมดดาร์กเลโอที่มาพบพระสันตะปาปานั้นมาทีไรห้องหรือตำหนักเละทุกที
“ คะ...ค..ครับ!!! ”
องครักษ์สองนายตอบรับและผลักประตูให้ดาร์กเลโอเข้าไป
“ นี่! บีหนึ่งนายคิดเหมือนฉันรึเปล่า? ” องครักษ์ด้านซ้ายถามองครักษ์ด้านขวา
“ นี่! บีสองฉันก็คิดเหมือนนายเช่นกัน ” องครักษ์ด้านขวาตอบองครักษ์ด้านซ้าย
“ ไม่รอดแน่!!! ”
องรักษ์สองนายตอบพร้อมกัน มันคงเป็นฉากโศกนาฏกรรมของพระสันตะปาปาที่หกของวาติกันเสียแล้ว...
ดาร์กเลโอซึ่งเดินเข้ามาในห้องแล้ว เห็นบุรุษซึ่งตนหมายตาไว้แล้วบุรุษที่หันหลังให้ดาร์กเลโอยืนชมดอกไม้สีขาวอยู่ในแจกันใบงาม เรือนผมสีม่วงเข้มชุดที่ใส่ก็เป็นชุดนักบวชสีขาวยาวปักลายเป็นรูปไม่กางเขนสีแดง มันชั่งงดงามตาเมื่อมีคนพบเห็น แต่... ไม่ใช่สำหรับดาร์กเลโอ ดาร์กเลโอเห็นคู่กรณียกยิ้มแสยะด้วยความชอบใจ
“ เอสเทอร์... ” เสียงเย็นเนิบๆของดาร์กเลโอทำให้ผู้ที่ถูกเรียกหันกลับมามอง
“ ไง เล..อ..โอ...อั๊ก!! ” “ ทะ..ท..ท่าเตะในตำนาน”
โครม!!
พระสันตะปาปาไม่ทันหันกลับมาทัก ดวงตาสีอเมทิสต์เบิกโพลงเท่าไข่ห่านดวงความเจ็บปวดเข้าช่วงท้อง พระสันตะปาปาล้มกลิ้งชนกำแพงห้องด้วยฝีเท้าของดาร์กเลโอและท่าเตะในตำนานที่ยืนยิ้มแสยะด้วยความหมั่นไส้
“ ไง ...เอสเทอร์ที่รัก ” ดาร์กเลโอทักหลังจากเตะพระสันตะปาปาลงพื้นไปแล้ว
“ ละ..เล โอ..อึก!!..อั๊ก!! แอ็ก!! ”
ยังพูดไม่ทันครบดวงตาสีอเมทิสต์ต้องเบิกโพลงเข้าอีกครั้ง เพราะฝีเท้าของดาร์กเลโออีกเช่นเคย ลูกเตะ ลูกถีบ อีกสารพัดที่ขนมาใส่พระสันตะปาปาผู้น่าสงสารเหมือนขนกระทำแค้นผู้ถูกกระทำมาแต่ชาติปางก่อน
เสียงที่ดังออกนอกห้องของพระสันตะปาปาบ่งบอกได้เลยว่ากำลังถูกยำจนเละแน่ๆ โดยฝีมือของทหารที่ขึ้นตรงกับตนเองและเคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเลโอจึงไม่เรียกพระสันตะปาปาแต่กลับเรียกชื่อของพระสันตะปาปานั่นเอง
เสียงแห่งความวินาศเงียบลงทำให้เหล่าองครักษ์ที่เฝ้าประตูเริ่มวิตกกังวลว่าพระสันตะปาปาของตนเองนั้นอยู่ดีกินดีอยู่รึเปล่าหรือจะขึ้นไปเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าเสียแล้ว
“ อะ...โอ๊ย!! เลโอ อ่า... ทำไมเตะเค้าซะแรงขนาดนี้ล่ะ ”
พระสันตะปาปาลุกยืนขึ้นหลังจากนอนกองกับพื้นเสียนานนึกว่าจะกลืนไปกับพื้นเสียแล้ว
“ หึหึ ถึงผมเตะเอสเทอร์หนักแค่ไหน คุณก็ไม่ตายอยู่ดีนี่ครับ ” ดาร์กเลโอยิ้มเหี้ยมทำให้พระสันตะปาปาขนลุกขนพองไปกับเสียงที่น่ากลัวที่ออกมาจากดาร์กเลโอ
“ ถึงเราที่เป็นพระสันตะปาปาแล้วและมีพลังฟื้นตัวมากจะโดนลูกเตะลูกถีบเจ้าแล้วไม่ตาย แต่ความเจ็บปวดมันก็ยังมีนะ ”
“ นี่คือบทลงโทษไงเอสเทอร์ มันคือการทรมานที่คุณควรจะได้รับ ” ดาร์กเลโอแสยะยิ้ม
“ เหอะๆเราไม่ชอบรอยยิ้มของเจ้าตอนนี้เลยเลโอเพื่อนรัก ” พระสันตะปาปาเหงื่อแตก
“ คุณบอกว่าผมเป็นเพื่อนรัก แต่ทำไมคุณถึงชอบลวนลามผมเสียนี่ ”
“ ก..ก็ แค่...แตะนิดแตะหน่อยเอง ” พระสันตะปาปายิ้มจาง
“ นิดหน่อยนี่รวมสะโพกผมด้วยหรือ? ” ดาร์กเลโอแสยะยิ้มเหี้ยมกว้าง
“ ก..ก็ มือมันไปเอง ร...เราหยุดไม่ได้ แฮะๆ ” พูดพลางเหงื่อเริ่มท้วมตัว
“ เหรอ..” เพียงเท่านี้พระสันตะปาปาก็โดนบรรเลงเพลงวินาศอีกรอบ
“ จะ..จ..เจ้า ทำเราเจ็บหลายรอบจังนะเลโอ ”
พระสันตะปาปาที่ได้สติคืนมาหลังจากโบกมือบ๊ายบายพระผู้เป็นเจ้าไปหมาดๆ และตอนนี้เขาก็กลับมานั่งที่โต๊ะทำงานมือหนึ่งกุมเบ้าตาอีกมือหนึ่งกุมท้อง
“ แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับที่คุณทำกับผม ” ดาร์กเลโอที่ตอนนี้นั่งลงบนเก้าอี้ที่จัดไว้ให้หันหน้าเข้าโต๊ะทำงานก็ยิ้มเย็นเบาๆ
“ ระ ...ร..ทำอะไรเจ้า!? ”
“ เอสเทอร์คุณยังจะถามผมอีกเหรอ ว่าคุณทำอะไรกับผมไว้ ” ยิ้มเย็นของดาร์กเลโอทำให้พระสันตะปาปากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
“ เราทำอะไร? ” พระสันตะปาปาเริ่มหน้าซีดด้วยความสงสัย
“ คุณสั่งให้ผมไปเมืองแถบเหนือเพื่อให้ผมไปฆ่าพวกกูลเนี่ยนะ ”
เมืองแถบเหนือที่เลโอไปนั้นใช้เวลาเดินทางโดยขี่ม้าเป็นเวลาสองเดือน เพื่อไปจับกูลเพียงสิบตน
“ อะ..อืม ก็ชาวบ้านแถบนู้นเขาร้องเรียนมานี่ ” พระสันตะปาปาตอบอึกอัก
“ แค่กูลสิบตนใช้นักบวชหรือทหารของศาสนาจักรทั่วไปก็ได้หนิ ทำไมต้องให้ผมไปด้วย? ” แววตาสีฟ้าเย็นชาจ้องเขม็งมายังบุคคลตรงหน้า
“ อะ..เอ่อ.... ”
“ คุณรู้ไหมเอสเทอร์ งานของผมมันล้นมือมาก ไหนจะต้องสืบหาคนที่จะเข้ามาเป็นโซดิแอ็คอีก ไหนจะเรื่องอมนุษย์ที่อยู่ในเมืองอีก คุณคิดว่าการตัดสินใจของคุณมันถูกหรือ? ในหน้าที่พระสันตะปาปาน่ะ ” ดาร์กเลโอยิ้มแสยะรอเวลาขย้ำ
“ เรา..เราขอโทษ เราผิดไปแล้ว ”
พระสันตะปาปาก้มหน้าขอโทษดาร์กเลโอเบาๆ “ เราแค่อยากให้เจ้าพักผ่อนบ้างเท่านั้น... เมืองทางเหนืออากาศดี ดอกไม้ก็สวย หญิงงามมากมาย เราอยากให้เจ้าคลายเครียด ”
“ ไม่เป็นไร ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วง แต่..คุณควรดูเวลาและหน้าที่ที่ผมต้องทำบ้างเท่านั้น ” ดาร์กเลโอเริ่มอ่อนลงเนื่องจากได้รับรู้ความหวังดีของคนเป็นเพื่อน
“ อืม ”
พระสันตะปาปายังก้มหน้านิ่งคอตกเช่นเดิมแต่เริ่มเบาใจบ้างแล้ว เห็นดังนั้นดาร์กเลโอก็พ่นลมหายใจออกมาบ้าง
“ คุณนี่เด็กจริงๆถึงคุณจะอายุมากกว่าผมสองปีก็ตามเถอะ! เอาล่ะถ้าผมว่างเมื่อไหร่เราค่อยไปเที่ยวด้วยกันเหมือนเมื่อก่อนแล้วกัน ” ดาร์กเลโอพูดพลางลอบมองเอสเทอร์เพื่อนรัก พอเห็นแววตาสีอเมทิสต์สดใสเช่นเดิมก็เบาใจ
“ อื้ม!! รักเลโอที่สุดเลย! ”
ปากว่ามือถึงยังไม่ทันตั้งตัวก็โดนเอสเทอร์เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดมาสวมกอดเข้าแน่น ขโมยหอมแก้มสองที ดาร์กเลโอตอนแรกเริ่มอ่อนลงพอโดนขโมยหอมแก้มก็กลับมาเป็นโหมดเย็นชาบ้าเลือดอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มที่แสยะกว้าง
“ คุณยังไม่เข็ดใช่ไหม? หืม?... ”
ยิ้มเย็นๆทำให้พระสันตะปาปาเสียวสันหลังวาบเหงื่อตกท้วมตัว
“ แฮะๆ... อย่านะเลโอ!! ”
ท่าเตะในตำนานโดนซีกหน้าพระสันตะปาปาหน้าเบี้ยวตามแรงเตะจนต้องกระอักเลือดหลายซีซีพร้อมเสียงพากย์ว่า Ooh No...
และลงท้ายด้วยลงไปนอนกับพื้นอีกเช่นเคย
“ อืม... ผมลืมไปว่าคุณเรียกผมมาทำไม? ” ดาร์กเลโอชายตามองบุคคลที่อยู่แทบเท้า
“ ระ..เรา คะ..ค..แค่...คิดถึง ”
คำตอบง่ายๆได้ใจความ ที่ต้องทำให้เลโอหยุดทำงานมาหาไอ้บ้าหื่นกามก็ด้วยเหตุผลนี้เนี่ยนะ ดาร์กเลโอแผ่รังสีอำมหิตพลางพูดว่า
“ ผมก็คิดถึงคุณ ไปเฝ้าพระผู้เป็นเจ้าซะนะ ” ตามด้วยรวมมิตรลูกหลายลูกมาผสมรวมกันจนทำให้คนที่รับประทานกระอักเลือดเป็นลิตรๆได้เลย....
อวสาน เอสเทอร์ พระสันตะปาปาที่หก
หลังดาร์กเลโอจัดการกับพระสันตะปาปาเสร็จก็เดินย่างก้าวออกจากห้อง องครักษ์ที่เฝ้าประตูผงะโค้งเคารพเลโอหนึ่งครั้ง ตอนนี้ดาร์กเลโอได้สลายหายไปหมดสิ้นแล้วเหลือเพียงราชสีห์แห่งตะวันคนเดิมที่เปลี่ยนหน้าตาและนิสัยไปอย่างกับพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ
เลโอเดินตามทางระเบียงหวังจะกลับไปห้องทำงานของตน สายตาก็เหม่อมองขึ้นมองบนฟ้าที่ตอนนี้ตะวันขึ้นตรงศรีสระเสียแล้ว
“ เฮ้อ... เที่ยงแล้วหรือนี่ ไปพักทานข้าวข้างนอกดีกว่า ”
หลังจากออกกำลังกายเสียนานเลโอที่คิดว่าท้องต้องรับสารอาหารบ้างแล้วเพราะต้องกลับไปเคลียร์งานเอกสารที่ห้องทำงานให้เสร็จก่อนเย็นด้วยและเมื่อวานเขาก็นัดกับลีอาน่าว่าจะกลับมาทานข้าวมื้อค่ำพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อพี่ชายและน้องสาวเสียหน่อย...
เลโอหยุดยืนหน้าภัตตาคารอาหารที่สร้างจากไม้สีขาวและแซมด้วยสีแดง เป็นภัตตาคารที่สูงและใหญ่ ‘ภัตตาคารอาหารเรดแรบิท’ ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของนครหลวงวาติกันมาก เป็นภัตตาคารที่มีอาหารทุกชนิดที่อยู่ทุกมุมโลก ร้านอาหารที่มีผู้คนจากทุกสารทิศแวะเวียนมารับประทานอาหารเพราะเป็นร้านดังที่ได้รับรางวัลและได้รับการโหวตว่าขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยและความสวยงามของหน้าตาอาหาร
“ ยังมีที่ว่างอยู่ไหมนะ? ” คิดพลางราชสีห์หนุ่มมือจับคาง หัวคิ้วสีทองขมวดเข้ากัน
“ เอาเป็นว่าเข้าไปก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ” คิดเสร็จเท่าก็ย่างก้าวเข้าร้านที่มีพนักงานสวมชุดเมดสีขาวดำยืนเปิดประตูให้
กริ๊ง~
เสียงกระดิ่งที่อยู่บนบานประตูดังต้อนรับแขก
“ ยินดีต้อนรับค่ะ! ท่านเลโอ ” เมดบริการที่อยู่ใกล้เคาน์เตอร์ทักเลโอที่พึ่งเดินเข้ามาภายในร้าน
“ สวัสดีครับ คุณเมอร์ลี่ ” เลโอยิ้มตอบทักทายให้เมอร์ลี่ เมดบริการผมส้มที่สนิทกับเลโอ ซึ่งเมอร์ลี่ก็ยิ้มตอบให้เลโอเช่นกัน
“ ไม่ทราบว่ามีที่ให้ผมบ้างไหมครับ? ”
“ ไม่มีก็ต้องมีสิคะ สำหรับท่านเลโอที่เป็นแขกประจำร้านเราน่ะค่ะ”
เมอร์ลี่ยิ้มกว้างและผายมือเชิญให้เลโอเข้าไปในร้าน
“ เชิญชั้นสามเลยค่ะ ”
เลโอเดินไปที่ชั้นสามที่เมอร์ลี่เมดผมส้มบอก แต่ขณะที่เลโอกำลังเดินขึ้นชั้นสาม ชายหนุ่มร่างสูงรูปร่างดีก็กำลังเดินผ่านร่างเลโอไปเช่นกัน โดยไม่ทันคิดว่าโชคชะตากำลังหมุนวนมาให้เขารับชะตานั้นแล้ว ผมสีเพลิงซอยสั้นระบ่านิดหน่อย ดวงตาถูกบดบังด้วยแว่นกันแดดสีชา ร่างสูงเสื้อโค้ดสีดำถูกลมพัดทำให้เผยรอยปานที่คล้ายรอยสักสีดำอยู่ตรงท้องน้อยด้านซ้ายใกล้ขอบกางเกงหนา ร่างสูงเดินออกนอกร้านที่มีแสงอาทิตย์แยงตา ดีที่เขาใส่แว่นตากันแดดอยู่ไม่นั้นสายตาเขาอาจจะเสียเพราะแสงที่สว่างและร้อนมากเกินไป
“ เฮ้อ... ร้อนโคตรเลย ไม่นึกเลยว่าที่นครหลวงวาติกันมันจะเป็นทะเลทรายไปได้!! โลกนะโลก!! จะร้อนไปไหนเนี่ย!!!! ”
ว่าซะยาวเหยียด ร่างสูงผมเพลิงก็เดินจากไปอย่างสง่างามหรือหน้าด้านเพราะคำพูดหรือตะโกนเมื่อกี้ทำให้ชาวบ้านหันมามองตาเป็นมันเหมือนจะคาดโทษข้อหาทำให้ชาวบ้านหนวกหู
“ อาหารมาแล้วค่ะ! เชิญรับประอาหารให้อร่อยนะคะ ” บริกรสาวเมอร์ลี่ยกถาดอาหารมาให้เลโอที่ตอนนี้อยู่ภายในชั้นสามของร้าน ภายในร้านเรดแรบิทนี้มีทั้งหมดสามชั้นและชั้นที่นิยมหรือราคาแพงที่สุดขนาดต้องสั่งจองล่วงหน้าหนึ่งเดือนเพื่อได้ที่นั่งที่ดีที่สุดคือบริเวณชั้นสามของร้าน เพราะชั้นสามของร้านนั้นเป็นที่ที่มองทิวทัศน์ของนครหลวงวาติกันได้ชัดเจนและได้บรรยากาศดีที่สุด ดังนั้นคนส่วนใหญ่ที่มาทานอาหารชั้นสามนั้นก็ต้องมีกำลังทรัพย์มากเป็นธรรมดา ส่วนมากก็เป็น นักธุรกิจ นักการเมือง นายทหารชั้นสูง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หรือ ดาราศิลปินชั้นแนวหน้าของวงการ
บริกรสาวเมอร์ลี่จัดแจงยกอาหารขึ้นเสิร์ฟบนโต๊ะ อาหารที่เลโอสั่งก็จะเป็นอาหารของชาติตะวันออกมาประมาณสองสามอย่าง และน้ำเปล่ามาหนึ่งแก้ว
“ ดีจังเลยนะครับ มีที่ว่างตรงข้างหน้าต่างด้วย ”
เลโอหันไปคุยกับบริกรสาวเมอร์ลี่ที่จัดวางอาหารบนโต๊ะและส่งยิ้มสว่างเหมือนพระอาทิตย์มาให้ส่งผลให้บริกรสาวเมอร์ลี่หน้าขึ้นสีระเรื่อ
“ ค..ค่ะ เผอิญว่าเมื่อกี้มีแขกที่มาทานเสร็จแล้วพอดีน่ะค่ะ เป็นนายแบบชื่อดังเลยนะคะ! ” บริกรสามเมอร์ลี่ยิ้มกว้างเมื่อพูดถึงนายแบบที่เคยใช้โต๊ะเดียวกับเลโอ เลโอหัวเราะนิดหน่อยกับการแสดงท่าทีที่ดูตื่นเต้นของบริกรสาวผมส้ม
“ อย่างนั้นเลยหรือครับ? ”
พอเลโอพูดแหย่เข้าหน่อยบริกรสาวเมอร์ลี่ก็ทำหน้าพ่องแก้มอย่างหน้าเอ็นดู บริกรสาวเมอร์ลี่อายุห่างหรือน้อยกว่าเลโอสองปีและอายูเท่ากับลีอาน่าน้องสาวเลโอ พอเห็นท่าทางแบบนี้ของเมอร์ลี่ก็ทำให้เลโอคิดถึงลีอาน่าขึ้นมาทันที
“ ขอโทษนะครับ เผอิญว่าผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกศิลปินดารานายแบบ แบบนี้น่ะครับ ” เลโอยิ้มแหย๋นิดหน่อย
“ ก..ก็สมกับเป็นท่านเลโอน่ะค่ะ ” บริกรสาวเมอร์ลี่ยิ้มและส่ายหัวไปมา
“ เหรอครับ? ”
เลโอเอียงคอสงสัยนิดหน่อย พอเจอท่าทางน่ารักบ้องแบ๊วของเลโอ เมอร์ลี่หน้าขึ้นสีพร้อมอาการหน่ายใจที่เลโอทำท่าทางน่ารักแบบนี้ประจำจึงทำให้เลโอติดโพลจากการโหวตของประชาชนในเมืองว่าเป็นชายที่น่ารักน่าหยิกเป็นที่สุด
“ เมอร์ลี่ไม่คุยกับท่านแล้ว.. ขอให้ทานอาหารให้อร่อยนะคะ ”
บริกรสาวเมอร์ลี่โค้งให้เลโอหนึ่งครั้งแล้วจึงเดินกลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ ปล่อยให้เลโอเผชิญหน้ากับความงง ว่าคุยกันดีๆถึงตัดบทออกไปเร็วจัง เลโอหน่ายใจกับท่าทีกับเมอร์ลี่ที่เดินจากไป
“ ไม่เข้าใจผู้หญิงเลย เฮ้อ... ”
เลโอนั่งบ่นนิดหน่อยแล้วคิดว่าถ้าไม่รีบทานเขาคงเคลียร์งานไม่เสร็จก่อนค่ำเป็นแน่...
กลางฝูงชนหนาแน่นย่านการค้าในเมืองทางตอนใต้ของเมืองหลวงวาติกัน ชายคนหนึ่งที่สวมผ้าคลุมสีตุ่นด้านบนถูกคลุมด้วยหมวกที่ติดกับผ้าคลุม ภายใต้หมวกจึงมองไม่เห็นใบหน้าของชายผู้สวมใส่ เส้นผมสีน้ำเงินเข้มที่ดูยาวโผล่พ้นออกจากหมวก
“ หลงทางแล้วสิ.. โบสถ์อยู่ทางไหนเนี่ย ” ชายที่สวมผ้าคลุมสีตุ่นมองซ้ายสลับขวาไปมา
“ จ๊อก~ ”
“ ห..หิวแล้วด้วย ” มือขาวซีดยื่นออกมาพ้นผ้าคลุมแล้วกุมท้อง ขายาวใต้ผ้าคลุมสีตุ่นเดินเข้ากลางฝูงชนที่ดูหนาแน่นอีกครั้งและกลืนหายไปกับคลื่นมนุษย์ที่กำลังทยอยเข้ามาเดินจับจ่ายใช้สอยภายในย่านการค้าขาย
ความคิดเห็น