ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ::: [ฟิคแปล initial-D] The Raging Racer's Heart :::

    ลำดับตอนที่ #3 : มิตร...หรือศัตรู?

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 49


    CHAPTER 3

     

    ความมืดและอากาศที่เย็นเยียบของยามเช้านั้นได้ปกคลุมย่านที่พักอาศัยของเมืองมาเอบาชิทั้งหมด ส่งผลให้แทบไม่มีบ้านหลังไหนเลยที่จะมีแสงไฟลอดออกมาจากหน้าต่างในเวลานี้ แต่หนึ่งในจำนวนน้อยนิดนั้น บ้านของครอบครัวทากาฮาชิก็เป็นหนึ่งในบ้านไม่กี่หลังที่แสงไฟยังคงเปิดอยู่ในเวลานี้เช่นกัน

     

    เรียวซุเกะชำเลืองมองนาฬิกาดิจิตอลข้างหัวเตียงขณะที่กำลังอ่านตำราอยู่ทั้งคืนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ ...4.58 am .... ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนที่สายตาจะกลับไปที่หนังสือที่อยู่ตรงหน้าของเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาตั้งใจไว้ว่าอีกราวๆ ครึ่งชั่วโมงจึงจะเตรียมตัวออกจากบ้าน แต่แล้วความตั้งใจของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อพบว่าเขาต้องอ่านบรรทัดเดิมซ้ำๆ กันมามากกว่าโหลหนึ่งแล้ว ชายหนุ่มจึงปิดหนังสือและหยิบแลปทอปของตนขึ้นมาก่อนที่จะล็อกอินเข้าไปในเว็บของโปรเจคดี อย่างที่เขาได้คาดไว้ มีอีเมล์มากมายจากทั่วกุนมะถูกส่งมาท้าแข่งกับทีมของเขา ซึ่งในอาทิตย์นี้โปรเจคดีจะมีแข่งกับทีมโอเวอร์ไดรฟ์ซึ่งมาจากเขาชิราเนะ  แน่นอนว่าคนฉลาดและรอบคอบอย่างทากาฮาชิ เรียวซุเกะย่อมเตรียมตัวรับมือคู่แข่งของเขามาอย่างดีแล้ว เมื่ออาทิตย์ก่อนเขาก็ได้ไปถ่ายวีดีโอเส้นทางไว้เรียบร้อย ชายหนุ่มจึงนั่งดูไฟล์นั้นสองครั้งก่อนที่จะปิดแลปทอปและไปเตรียมตัวเพื่อที่จะไปมหาวิทยาลัย

     

    หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็ได้คว้ากระเป๋าของเขาและออกไปจากห้อง เรียวซุเกะเดินตรงไปยังรถของตนก่อนที่จะวางมันลงข้างหลังที่นั่งก่อนที่จะเข้าไปในตัวรถ เครื่องยนต์ได้ถูกสตาร์ท เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องโรตารีนั้นดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ ชายหนุ่มได้ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานชั่วครู่ก่อนที่จะเหยียบเร่งรอบขึ้นมาสองสามครั้งก่อนที่จะเข้าเกียร์และขับออกไป เรียวซุเกะนั้นชอบที่จะขับรถในตอนเช้าๆ แบบนี้ ซึ่งถนนนั้นทั้งโล่งแล้วก็เงียบ ในเวลานี้แสงแดดอ่อนๆ เริ่มฉายไปทั่วบริเวณ หมอกบางๆ ปกคลุมทั่วทั้งเมืองส่งผลให้เป็นทิวทัศน์ที่ดูแล้วรู้สึกสบายใจ ชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจหลังจากที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองได้เผลอเหยียบคันเร่งหนักไปในการขับภายในที่ชุมชนแบบนี้ เขาค่อยๆ ลดความเร็วลงและสายตาก็เริ่มสอดส่ายหาบ้านที่เป็นจุดหมายแรกของการเดินทางในเช้านี้ของเขา ไม่นานนักเขาก็พบบ้านหลังที่เขากำลังตามหาอยู่ก่อนที่จะหยุดรถและมองไปยังบ้านหลังนั้น ไม่นานนักเขาก็นำรถเข้าไปจอดที่หน้าบ้านและเดินไปเคาะประตูบ้านเบาๆ

     

    ถึงแม้ว่าบ้านที่เขามาหลังนี้นั้นจะไม่ใหญ่โตและหรูหราเท่าบ้านของครอบครัวทากาฮาชิ แต่มันก็เป็นบ้านที่ท่าทางอยู่สบายทีเดียว มีสนามหญ้าเล็กๆ หน้าบ้านที่เขียวชะอุ่ม บ้านมีลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น ทาด้วยสีครีมดูสบายตา ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายของเจ้าของบ้านได้ดีเลยทีเดียว

     

    เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาประตูนั้นก็ได้เปิดออก เผยให้เห็นดวงหน้าของคนที่เป็นเป้าหมายของเขาออกมาต้อนรับหวัดดีค่ะ โทษทีนะคะ ขอไปหยิบเสื้อแจ็คเก็ตแป๊บนึง มิทสึกล่าวก่อนที่จะวิ่งกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง

     

    เรียวซุเกะมองเธอขณะที่เธอหายตัวเข้าไปในบ้าน ซึ่งปล่อยให้เขายืนอยู่ตรงหน้าประตูที่ถูกเปิดทิ้งไว้เช่นเดิม ชั่วครู่หนึ่งเธอก็กลับมาพร้อมกับกระเป๋าซึ่งสะพายอยู่บนบ่า หนังสือเรียนถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนและเสื้อแจ็คเก็ตซึ่งอยู่ในมือขณะที่เธอกำลังพยายามใส่รองเท้าบูทของเธออยู่ ไม่นานนักเธอก็ลุกขึ้นยืนตัวตรงแล้วก็เตรียมตัวออกจากบ้านก่อนที่จะเหวี่ยงกระเป๋าออกมาข้างหน้าเพื่อที่จะหากุญแจมาไขประตูบ้านอย่างทุลักทุเล

     

    เรียวซุเกะยืนมองเธออยู่ตลอดก่อนที่จะเดินเข้าไปหยิบหนังสือและแจ็คเก็ตออกจากมือของเธอเพื่อทำให้เธอหาของได้สะดวกขึ้น พวกเราไม่ไปสายหรอก ใจเย็นๆ

     

    น้ำเสียงสบายๆ ของเขาทำให้เธอหยุดคุ้ยกระเป๋าก่อนที่จะมองไปยังชายหนุ่มซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เขากำลังจัดเรียงของๆ เธอในมือของเขาอยู่ สายตาของเธอกลับไปยังกระเป๋าของเธออีกครั้งก่อนที่จะเจอกุญแจในที่สุด เธอจัดการล็อคประตูก่อนที่จะใส่มันลงไปในกระเป๋าอีกครั้ง

     

    ขอบคุณค่ะ หญิงสาวกล่าวขณะเอื้อมมือไปรับสัมภาระที่เธอได้ฝากไว้

     

    เรียวซุเกะส่งแจ็คเก็ตของเธอให้ก่อนที่จะตามมาด้วยหนังสือเรียน เธอถือมันทั้งสองข้างขณะที่ทั้งสองเดินไปที่รถด้วยกัน ชายหนุ่มเดินไปถึงก่อนและเปิดประตูรถให้เธอ

     

    ขอบคุณค่ะ มิทสึกล่าวอย่างประหลาดใจในการปฏิบัติของชายหนุ่มที่ดีเกินกว่าที่เธอคาดไว้หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ระหว่างเธอกับเขาที่ระเบียงบ้านเมื่อคืน เขาปิดประตูให้เธอหลังจากที่เธอเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะเดินไปยังอีกฝั่งของรถ เรียวซุเกะมองไปรอบๆ บ้าน และเขาก็พบว่าไม่มีร่องรอยหรือรถคันใดๆ นอกจากคันที่ครอบครัวของเธอขับมายังบ้านของเขาเมื่อวันก่อนเท่านั้น ชายหนุ่มเปิดประตูรถเข้าไปนั่งก่อนทีจะหันไปถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ

     

    ไม่ลืมอะไรนะ?

     

    เธอมองเขาและพยักหน้าเป็นคำตอบ

     

     

     

    เรียวซุเกะเข้าเกียร์ก่อนที่จะลดเบรกมือลงและมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยกุนมะ ความเงียบได้เข้าปกคลุมในรถชั่วครู่ก่อนที่มิทสึจะหันไปมองชายหนุ่มผู้ซึ่งอยู่ข้างๆ เธอ เขาดูผ่อนคลาย มั่นใจในตัวเองและกระปรี้กระเปร่ามากเธอเห็นเขาชำเลืองมองเธอจากทางหางตาเล็กน้อย ชายหนุ่มรู้ว่าเธอกำลังมองเขาอยู่แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไร ...มองไปยังถนนที่อยู่ข้างหน้าแล้วขับไปตามปกติก็พอแล้ว.... เขาคิด บนใบหน้าของชายหนุ่มนั้น ถ้าหากสังเกตดีๆ แล้ว จะเห็นได้ว่าใต้ตาของชายหนุ่มมีสิ่งที่บ่งบอกว่าเขานอนไม่พออยู่ ซึ่งมันก็คือริ้วรอยแห่งความเหนื่อยล้านั่นเอง

     

    อ่านหนังสือทั้งคืนเลยเหรอเรียวซุเกะซัง มิทสึถาม

     

    ใช่ คนถูกถามตอบห้วนๆ ขณะที่สายตาไม่ได้ละไปจากด้านหน้า

     

     

    มิทสึชำเลืองมองเขาอีกชั่วครู่ก่อนที่จะไปอยู่ที่ถนนตรงหน้าเช่นเดียวกับชายหนุ่ม ...แค่อ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ทำให้เขาดูล้าได้ถึงขนาดนี้หรอก... เธอคิด มีอะไรบางอย่างที่รบกวนจิตใจของเขา.... แต่เรื่องที่เธอจะต้องป้องกันตัวเองจากเขาก็เป็นเรื่องสำคัญกว่าการซักไซ้อะไรไปมากกว่านี้ อีกอย่าง มันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอด้วยที่จะต้องมาถามคำถามในตัวเขาเพิ่มเติมอีก

     

    เป็นเวลาไม่กี่นาทีต่อมาที่มิทสึหันไปหาเขาอีกครั้งหนึ่ง

     

    จะเป็นอะไรมั้ยถ้าจะขอเปิดวิทยุหน่อยน่ะค่ะ เธอกล่าว

     

    ไม่คำตอบที่สั้น ห้วน ง่ายจากปากของเจ้าของรถ

     

    และมันกลายเป็นชนวนสงครามของทั้งสองอีกครั้งหนึ่ง

     

    หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

     

    คุณรู้มั้ย ถ้าคุณไม่อยากมารับชั้นนักล่ะก็ เมื่อคืนนี้คุณก็ไม่ควรที่จะเสนอตัวขึ้นมาแบบนั้นหรอกนะ และถ้ายังไม่รู้ตัวอีกล่ะก็ จะบอกให้ก็ได้ว่าชั้นเองก็ไม่อยากให้คุณมารับเหมือนกัน ชั้นขับรถไปเองก็ได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องมารับชั้นอีกแล้วนะ

     

    ไม่

     

    ไม่ยังงั้นเหรอ!!!?? หมายความว่ายังไง!!?” มิทสึโพล่งออกมา

     

    การไปรับมิทสึจังเป็นการกระทำที่มีเหตุผลดีกว่าการที่มิทสึจังจะขับรถไปเอง

     

    มีเหตุผลดีกว่างั้นเหรอ!!!? ชั้นว่าการฆ่าคุณซะตอนนี้ยังจะเป็นเรื่องที่มีเหตุผลมากกว่าอีก!!!”                   

     

    เรียวซุเกะยักไหล่ก่อนที่จะขับรถต่อไป

     

    หญิงสาวโกรธจนเกือบถึงขีดสุด พาชั้นกลับไปเดี๋ยวนี้ เธอกล่าวเสียงเข้ม

     

    ไม่ เรียวซุเกะตอบ

     

    ใช่

     

    ไม่ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะไปสาย

     

    หญิงสาวขมวดคิ้ว ไหนว่าจะไม่ไปสายไง เธอกอดอกอย่างวางท่า

     

    แต่ชายหนุ่มกลับยักไหล่

     

    โกหก ทากาฮาชิ เรียวซุเกะผู้มีชื่อเสียงคนนี้ย่อมขับไปทันเวลาอยู่แล้ว หญิงสาวกล่าวอย่างลืมตัว

     

    เธอรู้จักชั้นจริงๆ ด้วย คนมีชื่อเสียงกล่าวเรียบๆ

     

    แน่นอน ชั้นน่ะรู้จักทั้งคุณแล้วก็เคซุเกะน่ะแหละ

     

    ในที่สุด ชายหนุ่มก็หันมาหาเธอ

     

     แล้วเธอรู้อะไรอีก?

     

    หญิงสาวถอยหลังไปเล็กน้อย หมายความว่ายังไง

     

     

     

    เรียวซุเกะนำรถเข้าจอดที่ข้างทางซึ่งมันทำให้เขาสามารถสบตาสีน้ำเงินเทาของเขากับเธอได้อย่างตรงๆ มือซ้ายของเขาเอื้อมไปจับเบาะของเธออย่างช้าๆ ก่อนที่ดวงหน้าของเขาจะเข้ามาใกล้เธอ เธอกำลังปิดบังอะไรจากชั้นอยู่?เสียงเย็นยะเยียบอย่างเคยนั้นได้ออกมาจากปากของทากาฮาชิ เรียวซุเกะ ประกายแห่งความหวาดกลัวที่อยู่ในนัยน์ตาของเธอเป็นเครื่องพิสูจน์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี บอกมาซะ

     

    จะบ้าไปแล้วเหรอ!!! ชั้นจะไม่บอกอะไรคุณทั้งนั้น!!! อย่ามายุ่งเรื่องของชั้นนะ!!!!” หญิงสาวร้องอย่างโกรธเกรี้ยว พยายามที่จะดิ้นรนจากการคุกคามของเรียวซุเกะ

     

    เหรอ...แต่อย่างที่บอกไว้นะว่า ถ้าเธอเข้ามายุ่งวุ่นวายกับครอบครัวหรือทีมของชั้นล่ะก็ ชั้นเองก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ในเรื่องในเรื่องที่เธอปิดบังอยู่เหมือนกัน

     

    คุณไม่ได้เป็นคนสร้างทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้หรอกนะ ทากาฮาชิ เรียวซุเกะ!!!!”

     

     

     

     

    ในที่สุด ชายหนุ่มก็กลับไปพิงพนักของเขาอีกครั้ง ดวงตาอันเยียบเย็นของเขาหันมาสบกับเธอ  ถ้าอย่างนั้น ชั้นก็จะสืบให้ได้ว่าเธอกำลังปิดบังอะไรจากชั้นอยู่ ฟุโคโตมิ มิทสึ เขากล่าวอย่างเรียบๆ ก่อนที่รถจะเริ่มออกตัวอีกครั้ง

     

    คุณไม่รู้ตัวเลยรึไงว่าพูดอะไรออกมาน่ะมิทสึกล่าวขณะที่น้ำเสียงเธอเริ่มกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

     

    ชายหนุ่มยักไหล่ สิ่งทีเธอได้ระเบิดออกมาเมื่อครู่ได้บอกอะไรบางอย่างเป็นนัยๆ กับเขาแล้ว ชายหนุ่มชำเลืองมองเธอเล็กน้อย ซึ่งเขาพบว่าสายตาของเธอนั้นกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันอย่างคนที่กำลังใช้ความคิด มือของเธอนั้นอยู่ที่ประตูรถราวกับว่าเธอกำลังพยายามจะอยู่ให้ไกลจากเขามากที่สุด เขากระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะเอื้อมมือไปเปิดวิทยุตามที่เธอขอไว้ตั้งแต่แรก

     

     

     

    เมื่อเสียงเพลงได้โลดแล่นผ่านลำโพง มิทสึจังหันไปมองชายหนุ่มอย่างพินิจพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ไม่ได้มีสีหน้าหรือท่าทางใดๆ ปรากฏออกมาทั้งสิ้น เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว เธอจังกลับไปจ้องมองวิวนอกหน้าต่างอีกครั้ง เป็นเวลากว่าชั่วโมงครึ่งที่การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มีเสียงของบทสนทนาหรือเสียงใดๆ เกิดขึ้นนอกจากเสียงเพลงของวิทยุ เมื่อเรียวซุเกะได้เข้าไปจอดรถในลานจอดของมหาวิทยาลัยแล้ว มิทสึก็เปิดประตูรถออกและเดินฉับๆ โดยที่ไม่มีคำใดๆ ออกมาจากปากของเธอทั้งสิ้น

     

    เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว เรียวซุเกะจึงเริ่มหยิบสัมภาระของเขาออกมาและเดินไปยังตึกเรียนของเขาเช่นกัน

     

     

     

     

    ชั่วโมงเรียนในตอนเช้าของเขาในวันนี้แทบไม่ได้เข้าหัวของเขาเลย เป็นเวลาประมาณบ่ายโมงที่เขาและเพื่อนร่วมคณะกำลังมุ่งหน้าไปยังโรงอาหารของมหาวิทยาลัย โรงอาหารของมหาวิทยาลัยกุนมะนั้นเป็นโรงอาหารที่สร้างใหม่ ห้อมล้อมไปด้วยกระจกและทาด้วยสีขาวทั้งหมดซึ่งทำให้ดูเรียบร้อยสะอาดตา รอบๆ โรงอาหารจัดเป็นสวนหย่อมขนาดย่อมซึ่งทำให้บรรยากาศการรับประทานอาหารที่นี่นั้นดีเยี่ยมทีเดียว พวกเขาได้เลือกนั่งที่โต๊ะซึ่งอยู่ริมหน้าต่าง บางคนก็เริ่มหยิบอาหารกลางวันของตนออกมา บ้างก็วางของทิ้งไว้และออกไปซื้อหาอะไรมารับประทาน ซึ่งบนโต๊ะนั้น ก็เหลือแต่เพียงทากาฮาชิ เรียวซุเกะซึ่งกำลังนั่งอ่านตำราอยู่เพียงคนเดียว

     

     

     

     

    เรียวซุเกะคุง คู่แข่งคราวหน้าของโปรเจคดีเป็นใครเหรอ? เสียงของเพื่อนของเขาคนหนึ่งถามขณะกลับมาจากการซื้ออาหารกลางวันและวางมันลงบนโต๊ะ แต่คนถูกถามก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาขณะตอบ

     

    ตอนนี้ก็มีแค่ทีมโอเวอร์ไดรฟ์เท่านั้นแหละ เรียวซุเกะยักไหล่

     

    น่า บอกมาเหอะว่าจะมีทีมอะไรอีก พวกเรารู้ดีว่ามีทีมตั้งไม่รู้เท่าไหร่มาต่อแถวยาวเหยียดเพื่อที่จะมาท้าโปรเจคดีน่ะ แต่ชายหนุ่มผู้ถูกถามกลับยักไหล่อีกครั้งก่อนที่จะไปจดจ่อกับตำราเหมือนเดิม

     

    พวกเพื่อนๆ ของเรียวซุเกะนั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าเรียวซุเกะนั้นเคร่งเครียดกับการแข่งของเขามากขนาดไหน พวกเขาจึงไม่รบกวนชายหนุ่มอีกโดยเปลี่ยนบทสนทนาเป็นเรื่องอื่นแทน

     

     

     

     

    ไม่กี่นาทีต่อมา สายตาของเรียวซุเกะก็ละจากตำราของตนก่อนที่เขาจะรู้สึกได้ว่าขนบริเวณลำคอของเขานั้นลุกชัน ความรู้สึกที่แปลกประหลาดนั้นได้เข้าครอบงำภายในจิตใจของเขา ความรู้สึกที่ว่านั้นทำให้สายตาของชายหนุ่มเริ่มมองสำรวจรอบๆ โรงอาหาร ..ไม่มีอะไรผิดปกติ....ในขณะที่เขากำลังขจัดความรู้สึกนั้นออกไปก่อนที่จะเริ่มอ่านตำราอีกครั้ง บางสิ่ง....ไม่สิ บางคนที่อยู่ภายนอกโรงอาหารก็ได้กลายมาเป็นจุดสนใจของเขาแทน

     

    จุดสนใจที่ทากาฮาชิ เรียวซุเกะกำลังมองอย่างสงสัยอยู่นั้นกำลังเดินทั่กๆ ไปยังร่มไม้ใหญ่ภายในสวนหย่อมซึ่งสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนจากจุดที่เขานั่งอยู่ เธอวางสัมภาระของเธอลงก่อนที่จะหยิบอาหารกลางวันและตำราของเธอออกมา เธออยู่คนเดียว.... จากอีกด้านหนึ่งของสายตาของเขา เขามองเห็นคนๆหนึ่งกำลังเดินไปยังที่ๆ เธอนั่งอยู่ ดวงตาของชายหนุ่มนั้นหรี่ลงขณะที่มองทั้งสองคนอย่างระแวดระวัง ผู้ชายคนนั้นเกือบจะเดินไปถึงตรงหน้าเธอแล้วในขณะที่เธอไม่ได้รู้สึกตัวเลย

     

    เมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนมาอยู่ตรงหน้า หญิงสาวจึงยิ้มให้เขาเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มพูดคุยกัน .....เธอคงจะไม่เป็นอะไร....แต่ทำไมความรู้สึกแย่ๆ กลับก่อตัวขึ้นภายในจิตใจของเขากัน? แต่ว่าสัญชาติญาณของทากาฮาชิ เรียวซุเกะก็ไม่เคยผิดพลาด เขารู้ดีว่าควรจะเชื่อในสัญชาติญาณของตัวเขาเอง ดวงตาสีน้ำเงินเทาของชายหนุ่มจึงยังไม่ละไปจากผู้ชายคนนั้นเลย ชายคนนั้นเริ่มทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เธอ ....ใกล้....นั่งใกล้เกินไป...ซึ่งมิทสึนั้นได้เขยิบออกห่างเขาเล็กน้อย แต่แล้วเรียวซุเกะก็ลุกขึ้นในทันทีเมื่อผู้ชายคนนั้นเอามือไปจับแขนของเธอ

     

    เดี๋ยวมา ชายหนุ่มกล่าวเรียบๆ ก่อนที่จะเดินออกไป

     

     

     

    ....ในเวลาไม่นานนัก.....

     

    มิทสึค่อยๆ ขยับแขนเธอออกจากมือของผู้ชายคนนั้น ชั้นจำเป็นต้องอ่านหนังสือจริงๆ ค่ะ เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ

     

    คืนนี้จะมีปาร์ตี้ที่หอของผม เธอน่าจะมาสนุกด้วยกันนะ

     

    ขอโทษด้วยค่ะ คือคืนนี้ชั้นมีนัดแล้ว ขอบคุณที่เชิญค่ะหญิงสาวกล่าวอย่างสุภาพขณะที่ค่อยๆ เขยิบตัวออกห่าง

     

    แต่ชายคนนั้นไม่ลดละ ไม่เป็นไรหรอกน่า ปารตี้คืนนี้จะเป็นปาร์ตี้ใหญ่ของปีเลยนา ถ้าไม่มาเธอจะต้องเสียใจแน่ๆ

     

    คืนนี้เธอไม่ว่างหรอกเสียงเข้มเสียงหนึ่งดังขึ้น

     

    ทั้งมิทสึและชายคนนั้นหันไปทางต้นเสียงทันที ซึ่งคนหนึ่งมองต้นเสียงด้วยสายตารำคาญที่ถูกรบกวน ในขณะที่อีกคนหนึ่งมองด้วยสายตาที่รู้สึกยินดีเหมือนได้รับรางวัลอะไรบางอย่าง

     

    มิทสึไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกดีใจที่ได้พบทากาฮาชิ เรียวซุเกะมาก่อนเลย แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกยินดีเป็นที่สุด

     

    ไม่มีใครถามอะไรนายซักหน่อย ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นขณะที่ความประหลาดใจฉายชัดอยู่บนหน้าเมื่อพบว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือทากาฮาชิ เรียวซุเกะ เธอเป็นของชั้นแล้วทากาฮาชิ ไปหากลุ่มสาวๆ แฟนคลับของนายไป

     

    ชั้นไม่ได้เป็นของใครทั้งนั้น!!”มิทสึโพล่งอย่างเดือดดาลขณะที่กระเถิบออกห่างจากเขาเป็นวาแล้ว

     

    นายจะไปไหนก็ไปได้แล้ว เรียวซุเกะกล่าวขณะที่ยืนกอดอกด้วยท่าทีข่มขู่อยู่ตรงหน้าชายคนนั้น

     

    มันยังไม่จบหรอกนะทากาฮาชิ!!” เขากล่าวเสียงกร้าวขณะหยิบกระเป๋าของเขาและเดินเข้ามาหาเรียวซุเกะ ดวงตาของทั้งสองจ้องมองกันแวบหนึ่งก่อนที่ชายคนนั้นจะเดินชนชายหนุ่มแล้วจากไป

     

     

     

    เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว เรียวซุเกะจึงหันไปหามิทสึ ชายหนุ่มเดินไปยังสัมภาระของเธอซึ่งยังคงวางอยู่บนพื้น เขานั่งยองๆ ลงเก็บดินสอของเธอขึ้นมา

     

    ทำอะไรอยู่น่ะ เธอถามขณะที่เดินเข้าไปหาเขา ชายหนุ่มกำลังเขียนอะไรบางอย่างบนปกในของหนังสือของเธอ

     

    ถ้ามีอะไรล่ะก็นะ ชายหนุ่มกล่าวก่อนที่จะลุกขึ้นยืน ดวงตาของเขาจับจ้องเธอก่อนที่จะหมุนตัวเดินออกไป

     

    มิทสึมองเขาชั่วขณะก่อนที่จะหยิบหนังสือของเธอขึ้นมา ความประหลาดใจฉายขึ้นมาบนใบหน้าเมื่อเธอเปิดไปยังปกใน เธอหันไปมองเรียวซุเกะที่กำลังเดินออกไปก่อนที่จะกลับมาที่หนังสือของเธออีกครั้ง ซึ่งชื่อและเบอร์มือถือของเขาได้ถูกเขียนไว้ด้วยลายมือสะอาดสะอ้านบนปกในของหนังสือของเธอนั่นเอง

     

     

     

    ทั้งวันของวันนั้นได้ผ่านไปโดยที่ไม่มีอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้น มิทสึเก็บข้าวของของเธอหลังจากชั่วโมงเรียนสุดท้ายได้ผ่านพ้นไป เธอรู้สึกกังวลเล็กน้อยกับการเดินทางกลับบ้านกับทากาฮาชิ เรียวซุเกะที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า ซึ่งทุกๆสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องและอาคารเรียน ลมเย็นๆ ที่กระทบหน้าเธอมันทำให้รู้สึกดีขึ้น เธอปล่อยตัวไปกับความรู้สึกดีๆ ที่มีความอบอุ่นของดวงอาทิตย์มากระทบใบหน้าชั่วครู่ก่อนที่จะนึกถึงเรียวซุเกะซัง เท้าของเธอก้าวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปยังลานจอดรถซึ่งเรียวซุเกะกำลังคอยอยู่ คิ้วของมิทสึขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เธอกำลังจะเดินไปหานั้นกำลังยืนอยู่ข้างๆ รถของตนขณะที่มีสาวๆ จำนวนหนึ่งยืนหัวเราะคิกคักอยู่รอบๆ ตัวเขา ....น่าหมั่นไส้..... เธอเดินไปหาพวกเขาอย่างเงียบๆ เมื่อชายหนุ่มมองเห็นคนที่เขากำลังยืนรออยู่เดินเข้ามาหาแล้วนั้น เขาจึงพยักหน้าเป็นการรับรู้ เมื่อเห็นดังนั้นแล้วกลุ่มสาวๆ ก็หันไปหาคนที่ชายหนุ่มกำลังมองอยู่อย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด

     

    เด็กคนนั้นเป็นใครกัน? เสียงกระซิบกระซาบเสียงหนึ่งได้ลอยเข้ามากระทบหูของเธอ

     

    เด็กคนนั้นจะต้องไม่ใช่แฟนหรืออะไรของเขาทั้งนั้นแหละ อีกเสียงหนึ่งกล่าวอย่างหงุดหงิด

     

    มิทสึพยายามที่จะไม่ยิ้ม ผู้หญิงพวกนั้นอิจฉาเธอ!

     

    ขอโทษนะ เรียวซุเกะกล่าวก่อนที่จะเดินไปยังฝั่งผู้โดยสารของรถแล้วจึงเปิดประตูให้กับมิทสึ

     

    หญิงสาวพยักหน้าขณะกล่าวขอบคุณและก้าวเข้าไปข้างใน

     

    ไม่นานนัก ชายหนุ่มก็เข้ามานั่งในรถเช่นกัน มิทสึมองออกทางด้านข้างหน้าต่างไปยังกลุ่มแฟนๆ ของเรียวซุเกะซึ่งได้ถอยห่างออกไปและเริ่มกระซิบกระซาบกันยกใหญ่ ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็มีแต่คนชื่นชอบทากาฮาชิ เรียวซุเกะทั้งนั้น...เธอคิด....เครื่องยนต์ได้ถูกสตาร์ทก่อนที่จะเคลื่อนออกจากช่องจอดและมุ่งหน้าไปยังทางออกของลานจอดรถ ทันใดนั้น แสงไฟแสงหนึ่งก็ได้ดึงความสนใจจากเรียวซุเกะไป เขารู้สึกได้ว่ามิทสึกำลังโน้มตัวมาข้างหน้าและมองออกไปยังกระจกรถข้างตัวเขา

     

    รถคันหนึ่งได้พุ่งเข้ามาหาFC ตรงกลางลำด้วยความเร็วเดียวกัน เรียวซุเกะกดน้ำหนักเท้าลงบนคันเร่งก่อนที่จะเหยียบเบรกอย่างหนักในชั่วเสี้ยววินาที ส่งผลให้ด้านท้ายรถนั้นปัดออกไปทางซ้ายและทำให้ FC สามารถหลบรถที่พุ่งเข้ามาได้อย่างเฉียดฉิว รถคันนั้นพุ่งผ่านพวกเขาไป ซึ่งเรียวซุเกะจำได้ว่าคนขับรถคันนั้นคือผู้ชายที่เข้ามาหามิทสึเมื่อตอนบ่ายนั่นเอง ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นเต็มไปด้วยโทสะเมื่อพบว่าแผนของเขานั้นทำไม่สำเร็จ

     

    FC สีขาวนั้นกลับมาตั้งลำอีกครั้งและออกไปจากลานจอดรถราวกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น

     

    นักศึกษาที่อยู่บริเวณนั้นต่างหายใจไม่ทั่วท้องกันไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นสายตาของพวกเขาก็ไปรวมอยู่ที่รถต้นเหตุกันเป็นจุดเดียว รถคันนั้นได้ชนเข้ากับเสาไฟฟ้าอย่างจัง ประตูของรถได้เปิดออกและคนขับได้คลานออกมาก่อนที่จะมองไปยังด้านหน้าของกระโปรงรถ เครื่องยนต์นั้นได้ดับไปแล้วและเขาก็ตะโกนกร่นด่า FC สีขาวที่กำลังลับไปจากสายตายกใหญ่

     

     

     

    ต่อมา...

     

    ความเงียบงันนั้นได้เข้าปกคลุมภายในรถมาตลอดทาง เรียวซุเกะยังคงขับรถต่อไปโดยที่ไม่ได้เอ่ยอะไรทั้งสิ้น หญิงสาวข้างตัวเขานั้นดูท่าทางไม่ได้ตกใจอะไรมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เขามองเห็นเธอกำลังเอื้อมมือไปเปิดวิทยุจากทางหางตา เธอกลับดูท่าทางสบายๆ ด้วยซ้ำ .....น่าสนใจมาก

     

    เรียวซุเกะซัง...

     

    หืม?

     

    คือชั้น...ชั้นอยากจะขอบคุณน่ะค่ะหญิงสาวพยายามกล่าวน้ำเสียงให้เป็นธรรมชาติมากที่สุดที่ช่วยชั้นไว้

     

    ชายหนุ่มเพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น

     

    ความเงียบงันเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง ชายหนุ่มเริ่มสงสัยว่าจะอีกนานเท่าไหร่กันเธอถึงจะนึกถึงเรื่องที่เกิดในลานจอดรถได้

     

    ปกติแล้วเรียวซุเกะซังจะมีผู้หญิงเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังเหมือนอย่างวันนี้เหรอคะ?หญิงสาวถามอย่างสงสัย

     

    เรียวซุเกะหันมามองเธออย่างประหลาดใจ สิ่งที่เธอพูดออกมานั้นมันหลุดจากที่เขาคิดเอาไว้มาก ชายหนุ่มซ่อนความประหลาดใจไว้ก่อนที่จะเอ่ยตอบอย่างเรียบๆ

     

    มันน่ารำคาญน่ะเรียวซุเกะเริ่มรู้สึกสงบลงอีกครั้งก่อนที่จะขับต่อไปอย่างเงียบๆ สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้นก็คือเธอไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในลานจอดรถตลอดระยะทางจนถึงบ้านเลยสักนิด ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงไม่ได้อยู่ในความสนใจของเธอเลยล่ะ? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่..... ปฏิกริยาของเธอนั้นไม่ใช่ปฏิกิริยาเด็กสาวทั่วไป... ซึ่งเมื่อเขาส่งเธอเสร็จแล้ว เรียวซุเกะก็ตรงกลับบ้านทันที

     

     

     

    กลับมาแล้วเหรอลูกเอมิกล่าวด้วยรอยยิ้มน้องของลูกเพิ่งทานข้าวเสร็จจ้ะ ตอนนี้กำลังคอยลูกอยู่ข้างบนบ้านแน่ะ

     

    เรียวซุเกะพยักหน้าก่อนที่จะเข้าไปทานอาหารเย็นในห้องครัว

     

    ไม่นานนักชายผมทองหัวตั้งก็เข้ามาในห้อง ผมได้ยินเรื่องของพี่วันนี้แล้วล่ะ ชายหนุ่มกล่าวขณะนั่งลงบนเก้าอี้ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับพี่ชายของตนเป็นยังไงบ้าง? เรื่องมิทสึเจออะไรบ้างรึเปล่าพี่

     

    เรียวซุเกะกลืนสิ่งที่กำลังเคี้ยวอยู่ก่อนที่จะเอ่ยตอบ มีเรื่องน่าสนใจเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ชายหนุ่มตักเข้าปากอีกคำหนึ่ง

     

    แล้วเจออะไรกันล่ะพี่

     

    ถ้ารู้อะไรมากกว่านี้ก็จะบอกก็แล้วกัน คนที่เป็นพี่ชายกล่าว เตรียมพร้อมรึยังเคซุเกะ อ่านหนังสือเสร็จแล้วเหรอ?

     

    เคซุเกะกลอกตาไปมาเล็กน้อย เสร็จแล้ว ชายหนุ่มวางข้อศอกลงบนโต๊ะก่อนที่จะเอ่ยต่อ

     

    หลังจากที่เราพิชิตกุนมะแล้ว เราจะไปไหนต่อเหรอพี่

     

    เมือถึงตอนนั้นเดี๋ยวเราก็จะรู้เอง

     

    และแล้ว เรียวซุเกะทานก็ทานข้าวอย่างเงียบๆ ในขณะที่น้องชายของเขานั้นนั่งเคาะโต๊ะอย่างใจลอย....

     

     

     

    พี่ พี่คิดว่าคืนนี้มิทสึจังจะอยากออกไปกับเรามั้ย เคซุเกะเอ่ยทำลายความเงียบ แต่คนถูกถามกลับไม่ได้ตอบอะไร พี่ชายของเขายังทานข้าวอยู่อย่างเดิม

     

    ผมรู้น่าว่าพี่ไม่เชื่อใจเธอ เวลาพูดกับเธอผมก็จะระวังให้มากก็แล้วกัน ผมแค่อยากจะถามเธอเรื่องโตเกียวเท่านั้นแหละ เคซุเกะแจง

     

    ยังมีอีกหลายวิธีที่จะรู้เรื่องของโตเกียวนะเคซุเกะ เรียวซุเกะขมวดคิ้ว

     

    เคซุเกะยักไหล่ขณะที่ปากของเขานั้นยิ้มน้อยๆ ผมก็แค่สงสารเธอน่า เธอย้ายมาที่นี่โดยที่ไม่มีเพื่อนเลยนะ

     

    ได้ยินดังนั้น ภาพของมิทสึซึ่งกำลังนั่งใต้ต้นไม้อยู่คนเดียวแวบเข้ามาในหัวของเรียวซุเกะทันที....มันก็แล้วแต่แกละกัน แค่ระวังตัวไว้ด้วยล่ะเคซุเกะ

     

    แน่นอน อีกอย่าง คนที่จะใช้เวลาอยู่กับเธอมากกว่าผมก็คือพี่น่ะแหละทากาฮาชิคนน้องพยักหน้า

     

    เรียวซุเกะตักอาหารเข้าปากอีกคำ เรื่องนั้นมันไม่เคยอยู่ในหัวของเขามาก่อนเลยสักนิด เขาจะต้องอยู่กับเธอตลอดเวลาที่ทาคุมิและน้องชายของเขากำลังฝึกซ้อมอยู่ ช่วงนี้เขาเป็นอะไรไปกัน....ดูเหมือนว่าศูนย์ของเขาจะเสียไป....การนอน...ใช่แล้ว คงเป็นเพราะเขาไม่ได้นอนมาสองวันติดกันแล้วแน่ๆ นี่คือเหตุผลทีเขาบอกกับตัวเอง....

     

     

     

    โอเค ถ้างั้นผมจะไปโทรหาพ่อแล้วขอเบอร์เธอนะเคซุเกะกล่าวขณะลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินออกไป

     

    เรียวซุเกะมองน้องชายของตนเดินออกไปจากห้อง เขารู้สึกได้ถึงความสนใจซึ่งกันและกันของน้องชายของเขาและมิทสึ แต่ความรู้สึกนี้มันก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่เขารู้สึกได้มาก่อนหน้านี้ เขาจัดการอาหารที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็วก่อนที่จะขึ้นไปยังชั้นสองเพื่ออาบน้ำ ซึ่งเขารู้ดีว่าเขาไม่มีเวลาเหลือเมื่อกลับมาจากชิราเนะแน่ๆ ในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ชายหนุ่มก็ลงมายังห้องนั่งเล่นพร้อมกับกระเป๋าใส่แลปทอปของเขาในมือ เขาได้ยินเสียงคนคุยกันลอยออกมาจากห้อง.....

     

    เมื่อเดินเข้าไปก็พบว่าเคซุเกะกำลังคุยอย่างออกรสกับมิทสึ ทั้งสองยิ้มและหัวเราะอย่างสนุกสนาน

     

    พี่!”เคซุเกะกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม มิทสึจังตัดสินใจจะไปกับเราด้วย ผมก็เลยออกไปรับตอนที่พี่กำลังอาบน้ำอยู่แน่ะ

     

    เรียวซุเกะพยักหน้ารับ ไปคอยข้างนอกกันเถอะ ชายหนุ่มเดินออกไปโดยที่ไม่ได้หันมามองว่าพวกเขาจะเดินตามมาหรือไม่ เพราะเขารู้ดีว่าทั้งสองคนจะต้องเดินตามมาอย่างแน่นอน

     

    ทั้งสามนั้นยืนรออยู่ข้างๆ รถของสองพี่น้องในโรงรถ ความมืดและอากาศเย็นๆ นั้นได้ปกคลุมไปทั่วบริเวณ เรียวซุเกะมองนาฬิกาข้อมือของเขาชั่วแวบหนึ่งก่อนที่จะหันไปมองถนน ซึ่งเหล่าลูกทีมของเขานั้นได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว

     

    มิทสึได้หันไปมองพี่ชายของเคซุเกะและสังเกตเห็นว่ารอยยิ้มเล็กๆ ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา รอยยิ้มแรกของทากาฮาชิ เรียวซุเกะที่เธอได้เห็น.... เห็นได้ชัดว่าเขามีความภูมิใจในทีมของเขามากเพียงใด ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาจึงปกป้องทีมของเขาขนาดนั้น เธอรู้สึกดีต่อเรียวซุเกะมากขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเขา แต่แล้วรอยยิ้มนั้นก็จางหายไปอย่างช้าๆ เมื่อลูกทีมของเขานั้นเข้ามาใกล้ ซึ่งในที่สุดเขาก็กลายเป็นเรียวซุเกะแบบเดิม

     

     

     

    เมื่อรถตู้สองคันและ 86 ทูโทนขาวดำนั้นมาหยุดลงตรงหน้าพวกเขา ทุกๆ คนก็ออกมาจากรถและทักทายสองพี่น้องทากาฮาชิและมิทสึ

     

    ถ้าเรียบร้อยแล้วเราก็ไปกันเถอะ ชั้นจะไปกับรถตู้เอง เรียวซุเกะกล่าวขณะทีทุกคนกำลังเข้าไปนั่งในรถของแต่ละคน

     

    วันนี้พี่จะไม่ขับไปเองเหรอ เคซุเกะถามอย่างประหลาดใจ พี่ชายของเขาส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนที่จะปีนเข้าไปในรถตู้

     

    ชายหนุ่มขมวดคิ้วก่อนที่จะเข้าไปในรถของตน มิทสึเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างๆ ชายหนุ่ม เธอปิดประตูรถก่อนที่จะถามเขาอย่างนิ่มนวล ทุกอย่างเรียบร้อยนะ?

     

    เคซุเกะพยักหน้าก่อนที่จะสตาร์ทรถและตามทาคุมิออกไปซึ่งตบท้ายด้วยรถตู้ทั้งสองคัน เป็นตอนที่พวกเขาขึ้นมาอยู่บนทางด่วนแล้วกว่าที่เคซุเกะจะหันไปหาเธอ

     

    ติดใจพี่แล้วล่ะสิ

     

    มิทสึหันขวับ ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ!!!??”เธอตาโต

     

    เคซุเกะยักไหล่ก่อนที่สายตาของเขาจะกลับไปที่ถนนอีกครั้ง ก็เห็นเธอจ้องพี่นี่

     

    ชั้นไม่ได้จ้อง ชั้นแค่มองอย่างที่ชั้นมองนายน่ะแหละ แล้วก็เหมือนกับที่มองคนอื่นๆ ด้วยหญิงสาวกล่าวขณะที่ตาเธอจ้องเคซุเกะเขม็ง

     

    โอเคๆ ก็แค่ถามดูเท่านั้นแหละ เคซุเกะตอบ

     

    แล้วทำไมถึงต้องถามแบบนั้นด้วยล่ะมิทสึถามอย่างงงๆ

     

    ก็เพราะว่าพวกผู้หญิงมักจะพยายามเข้าหาพี่น่ะสิ

     

    อ๋อ....ใช่ วันนี้ตอนที่เลิกเรียนแล้วก็มีกลุ่มผู้หญิงเข้ามารุมล้อมเขาเหมือนกัน เธอกล่าว

     

    หืมมมมม เคซุเกะพยักหน้ารับ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเขาเลย สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือทำไมพี่ชายของเขายังคงสติมั่นคง ยังรักษาสถานะโสดได้ต่างหาก

     

    ทำไมเขาถึงยังโสดอยู่ล่ะ เคซุเกะคุง                        มิทสึถามอย่างสงสัย

     

    เคซุเกะหันไปมองเธอพร้อมกับขมวดคิ้ว คำพูดที่ให้ระวังเวลาพูดคุยกับเธอของพี่ชายนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา

     

    ทำไมถึงอยากรู้ล่ะ จะสืบเรื่องพี่รึไง? ชายหนุ่มถามอย่างสงสัย เขาเพิ่งจับได้ว่าเธอแอบมองแล้วทีนี้จะมาซักไซ้เขาเรื่องชีวิตส่วนตัวของพี่อย่างนั้นเหรอ?

     

    เปล่านะ ก็แค่สงสัยเท่านั้นแหละ ก็มีสาวๆ ตั้งหลายคนอยากจะออกเดทกับเขาแทบตายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ สำหรับเขาแล้ว มันดูไม่น่าจะเป็นปัญหาในการหาแฟนสักคนเลยนะ

     

    มันไม่ใช่เรื่องที่เธอควรยุ่งเลยนะมิทสึจัง เคซุเกะกล่าวเสียงเข้ม

     

    หลังของมิทสึถอยไปข้างหลังด้วยความงุนงง ทำไมเขาจะต้องโกรธขนาดนี้ด้วยล่ะ? สายตาของเธอกลับไปอยู่ที่วิวนอกหน้าต่างอีกครั้ง ความรู้สึกอยากกลับบ้าน....กลับโตเกียวและกลับไปหาเพื่อนๆ ของเธอนั้นได้แวบเข้ามาในหัวของเธอ การเดินทางที่เหลือในคราวนั้นไม่มีอะไรอีกนอกจากความเงียบ....ซึ่งเคซุเกะก็ไม่ได้คุยอะไรกับเธออีกเลย ความเหงานั้นได้ถาโถมเข้ามาในจิตใจของเธออีกครั้ง ทั้งๆ ที่เขาน่าจะเป็นสิ่งที่เข้าใกล้คำว่าเพื่อนที่เธอมีอยู่ตอนนี้แล้วแท้ๆ....ถ้าเธอเรียกเขาว่าแบบนั้นได้น่ะนะ

     

     

     

    การเดินทางสิ้นสุดลงเมื่อทั้งสองคนมาถึงยอดเขาชิราเนะ ชิราเนะเป็นภูเขาไฟเก่าซึ่งดับไปนานแล้ว ที่นี่เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงอีกที่หนึ่งของกุนมะ ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญที่หนึ่งทีเดียว เมื่อ FD ได้ดับเครื่องแล้ว หญิงสาวจึงมองเคซุเกะแวบหนึ่งก่อนที่จะปลดเข็มขัดนิรภัยออก

     

    ต้องขอโทษด้วยนะ ชั้นไม่น่าไปซักไซ้เรื่องพี่ชายของนายเลยเธอกล่าวอย่างเศร้าๆ ขณะก้าวออกมาจากรถ และอออกเดินฉับๆ โดยไม่ได้สนใจรอใครเลย

     

    เฮ้!” ทาคุมิตะโกนเรียก จะไปไหนเหรอครับ? ชายหนุ่มถามขณะกำลังออกมาจากรถ

     

    พอดีชั้นเห็นว่าที่นี่มีทะเลสาบด้วยน่ะค่ะ ก็เลยอยากจะไปดูซักหน่อย เธอตอบอย่างนุ่มนวล โชคดีในการซ้อมนะคะ สิ้นเสียงของหญิงสาว เธอก็เดินลับไป

     

    ความเคลือบแคลงใจยังอยู่ในสายตาของทาคุมิขณะที่มองเธออยู่ ซึ่งเธอดูแปลกๆ ไปจากเมื่อสองวันที่แล้ว ชายหนุ่มยักไหล่ก่อนที่จะเดินไปรวมตัวกับสมาชิกของโปรเจคดี

     

    เธอคงไม่เป็นไรนะครับ ทาคุมิกล่าวกับเคซุเกะ

     

    แต่คำตอบของเคซุเกะคือการยักไหล่และมองไปทางอื่นแทน

     

    ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะฟูจิวาระ เรียวซุเกะถามขณะที่เพิ่งเดินมาถึง

     

    เธอดูแปลกๆ ไปน่ะครับ

     

    อ้อ? เรียวซุเกะเอ่ยขณะที่สายตาของเขาผ่านจากนักขับรถของทีมไปยังที่ๆ มิทสึหายลับไปก่อนที่จะกลับมาที่ทั้งสองคนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เรามาเริ่มงานของเราดีกว่า อย่างที่พวกนายเห็นตอนที่ขึ้นมาที่นี่ ถนนที่นี่เป็นถนนสองเลน ซึ่งแสดงว่ามีโอกาสที่จะมีรถสวนมาด้วย และถนนก็ค่อนข้างกว้างกว่าที่เคยเจอมา ดังนั้นการเลือกไลน์จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้านายจะเข้าข้างใน พึงระลึกไว้ด้วยว่าคู่แข่งเองก็อาจจะเข้ามาจากเลนนอกได้เช่นกัน ที่นี่ไม่มีร่องระบายน้ำก็จริง แต่ว่าก็ต้องระวังขอบของท่อด้วย เรื่องความแตกต่างระหว่างความสูงของคอสะพานกับถนนก็สำคัญ อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องน้ำที่ขังอยู่บนถนน เพราะฉะนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันเสาร์ล่ะนะ ซึ่งพวกนายทั้งสองคนก็อย่าลืมเรื่องการรักษากริ๊พของยางระหว่างการแข่งด้วยล่ะ ฟุจิวาระ เคซุเกะ ทั้งสองคนไปลองขับเพื่อจำจังหวะของถนนก่อน ชั้นมีเวลาให้ 2 ชั่วโมงก่อนที่เราจะเริ่มจับเวลากัน เอาล่ะ ไปกันได้แล้ว

     

    เคซุเกะและทาคุมิพยักหน้ารับก่อนที่จะเข้าไปในรถของแต่ละคน

     

    เคซุเกะ

     

    ชายหนุ่มหันไปหาต้นเสียงก่อนที่จะหยุดเดิน

     

    เกิดอะไรขึ้นรึ

     

    เคซุเกะถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยตอบ พี่พูดถูก เธอถามคำถามกับผมมาตลอดทางเลยล่ะ แล้วผมก็บอกไปว่ามันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอ...

     

    เธอถามอะไรบ้างล่ะ เรียวซุเกะกล่าวอย่างเรียบๆ

     

    ก็นะ.....มันเริ่มจากการที่ผมเห็นเธอมองพี่อยู่ตลอด ซึ่งเธอก็บอกว่าเธอแค่มองเฉยๆ แต่ผมก็เริ่มรู้สึกเอะใจตอนที่เธอถามเรื่องส่วนตัวของพี่นี่แหละ อย่างเช่นว่าทำไมถึงไม่มีแฟนอะไรทำนองนี้ น้ำเสียงเธอดูเหมือนกับว่าเธอกำลังสืบเรื่องพี่อยู่ยังไงก็ไม่รู้

     

    อย่างนั้นเหรอ... สายตาของชายหนุ่มมองออกไปไกลๆ ก่อนที่จะกลับมาที่น้องชายของตนอีกครั้ง ชั้นคิดว่าเธอคงแค่สงสัยเฉยๆ น่ะแหละเคซุเกะ แต่ก็ดีแล้วที่ได้รู้ว่าแกยังทำตามสิ่งที่ชั้นบอกอยู่ ไม่ต้องห่วงในเรื่องที่เธอถามหรอก

     

    แต่เรื่องที่เธอถามคำถามเกี่ยวกับพี่มันจะไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ

     

    เรียวซุเกะยักไหล่ ชั้นไม่ปล่อยเรื่องหยุมหยิมแบบนี้มากวนใจชั้นหรอก เอาเรื่องนี้เก็บไว้ในใจซะ เวลาแข่งแกก็ทิ้งอารมณ์หรือความรู้สึกออกไปให้หมดแล้วจดจ่ออยู่กับการขับอย่างเดียวด้วย

     

    เคซูเกะพยักหน้า

     

    ไปได้แล้ว แกมีเวลาแค่ 2 ชั่วโมงนะ

     

    น้องชายพยักหน้ารับก่อนที่จะเข้าไปในรถของเขาและปิดประตู เรียวซุเกะมองน้องชายของตนขณะที่กำลังคาดเข็มขัดและเริ่มสตาร์ทรถ เคซุเกะมองพี่ชายของเขาแวบหนึ่งก่อนที่จะพา FD ออกไป ชายหนุ่มมองน้องชายของตนพักหนึ่งก่อนที่จะหมุนตัวและออกเดินไปยังทิศทางเดียวกันกับที่มิทสึได้เดินไปก่อนหน้านี้


    -----------------------------------------------------------------

    ไปงานหนังสือเมื่อวันที่ 19 มาค่ะ หมดเงินไปสามพันกว่ากับการ์ตูน ดิค และหนังสือนิยายอื่นๆ อีกมากมาย วันนั้นคนเยอะมากๆ จนไม่อยากนึกเลยค่ะว่าวันหยุดจะคนเยอะขนาดไหน

    แล้วเจอกันนะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่า..
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×