ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ::: [ฟิคแปล initial-D] The Raging Racer's Heart :::

    ลำดับตอนที่ #2 : ความเคลือบแคลงที่ยังมีอยู่

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 49


    CHAPTER 2


    ภายในห้องนอนอันมืดมิดนั้น ทากาฮาชิ เรียวซุเกะพลิกตัวไปมองตัวเลขแสดงเวลาสีแดงซึ่งฉายอยู่บนนาฬิกาดิจิตอลข้างหัวเตียงของเขา.... 5.23 am… ชายหนุ่มถอนหายใจน้อยๆ ก่อนที่จะดึงผ้าห่มออกไปแล้วลุกขึ้นจากเตียง เมื่อคืนนี้เขาไม่สามารถข่มตาหลับลงได้เลย ชายหนุ่มผู้นอนไม่หลับหยิบเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเดินไปอาบน้ำ ไม่นานนักเขาก็กลับมายังห้องของตนก่อนที่จะหยิบกุญแจรถแล้วเดินลงบันไดบ้านไปยังประตูใหญ่ เรียวซุเกะเดินออกจากบ้านขณะที่ความมืดของยามเช้ายังปกคลุมอยู่โดยที่ไม่ลืมล็อคประตูก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังรถของตน ชายหนุ่มถอนหายใจขณะที่เริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงดังกระหึ่มของเครื่องยนต์ชั้นเยี่ยมอย่างโรตารีนั้นช่วยทำให้จิตใจของเขาสงบลงได้เล็กน้อย เปลือกตาของเขาปิดลงชั่วครู่ขณะที่ปล่อยให้เครื่องยนต์นั้นทำงานอยู่ ในไม่ช้าเขาก็ลดเบรกมือลงก่อนที่จะเข้าเกียร์อย่างนิ่มนวล

     

     

     

    เคซุเกะเดินลงบันไดใหญ่อย่างงัวเงียก่อนที่จะเดินเข้าไปในครัวและพบว่ากาแฟนั้นได้ถูกเตรียมเอาไว้แล้ว เขารินกาแฟให้ตัวเองแก้วหนึ่งก่อนที่จะเดินไปยังหน้าต่างบานใหญ่เพื่อมองออกไปนอกบ้าน รถของพี่ชายของเขานั้นไม่ได้จอดอยู่ตามที่คาดไว้ ชายหนุ่มจิบกาแฟอย่างเงียบๆ .....เมื่อคืนนี้พี่ชายของเขานั้นดูแปลกๆ ไป ... ทำไมพี่จะต้องสงสัยในตัวฟุโคโตมิ มิทสึด้วยนะ? ยังไงๆ เธอก็เป็นแค่เด็กสาวธรรมดาๆ ไม่ใช่เหรอ? คิ้วของทากาฮาชิคนน้องนั้นขมวดเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด ไม่สิ...เป็นเด็กสาวที่สะสวยคนหนึ่งต่างหาก... นี่อาจคือสิ่งที่พี่ชายของเขาหมายถึงก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าเธออาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขาไขว้เขวได้ถ้าเขาเผลอไป ซึ่งตัวเขาเองก็ยอมรับเรื่องนี้ในจุดหนึ่ง แต่ว่าเขาก็ไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ชายหนุ่มเปิดน้ำล้างแก้วของเขาพอประมาณก่อนที่จะวางไว้ในอ่างล้างจานแล้วเดินกลับขึ้นไปบนห้องและหยิบกุญแจรถของตน เคซุเกะตัดสินใจว่าเช้านี้เขาจะขับไปหาพี่ของเขาบนอากากิแล้วจากนั้นจะฝึกซ้อมอีกนิดหน่อย ในตอนนี้ไม่มีอะไรที่จะสามารถทำให้เขาไขว้เขวจากความพยายามที่จะไปให้ถึงจุดมุ่งหมายของเขาได้ทั้งนั้น ทิ้งความคิดเรื่องผู้หญิงไปซะ พี่ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องไร้สาระแบบนั้นหรอก ซึ่งต่อมาไม่นานนักทากาฮาชิคนน้องก็ขึ้นไปถึงยอดเขาอากากิและพบว่าพี่ชายของเขาไม่ได้ฝึกซ้อมอย่างที่คาดไว้ เคซุเกะจอดรถข้างๆ พี่ชายของตนแล้วจึงเดินข้ามที่กั้นถนนไปหาเรียวซุเกะซึ่งกำลังยืนมองวิวเมืองกุนมะอยู่

     

     

     

    พี่ ชายหนุ่มเรียกขณะที่เดินไปถึงคนที่เขามาหาก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ  ทำอะไรอยู่เหรอ

     

    เปล่า คนถูกถามตอบห้วนๆ มาซ้อมเหรอเคซุเกะ

     

    น้องชายของเขาพยักหน้าเป็นคำตอบ แต่ผมก็มีเรื่องอยากจะพูดกับพี่ด้วยเหมือนกัน

     

    ความเงียบปกคลุมอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะถูกทำลายลงด้วยเสียงทุ้มต่ำของเรียวซุเกะ

     

    เรื่องของฟุโคโตมิ มิทสึล่ะสิ เรียวซุเกะผงกหัวเล็กน้อย

     

    เคซุเกะถึงกับผงะไปข้างหลังเมื่อได้ยินคำพูดของพี่ชายของตน พี่รู้ได้อย่างไรกัน? หรือว่าพี่เองก็กำลังคิดถึงเรื่องของเธออยู่? พี่ ผมอยากจะบอกว่าผมไม่ได้สนใจในตัวเธอแม้แต่นิดเดียวเลยนะชายหนุ่มแก้ต่าง

     

    ทากาฮาชิคนพี่หันมามองน้องชายของตนก่อนที่จะเลิกคิ้วอย่างสงสัย

     

     จริงเหรอ?” เขากล่าวอย่างไม่ค่อยเชื่อนัก

     

    เคซุเกะยักไหล่ เธอก็น่ารักอยู่นะ แต่ว่าตอนนี้ผมไม่อยากมีแฟนหรอก ผมรู้ดีว่าเรื่องแบบนี้มันส่งผลต่อพี่ยังไง และก็ไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นกับผมด้วย

     

    เคซุเกะ สิ่งที่เกิดขึ้นกับชั้นมันไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นกับแกเสมอไปหรอกนะ แกควรจะทำในสิ่งที่แกคิดว่าควรทำมากกว่า เรียวซุเกะถอนหายใจ

     

    ชายหนุ่มคนน้องมองพี่ชายของตนอย่างงงๆ แต่ว่าเมื่อวานพี่เตือนผมให้ออกห่างจากเธอนี่นา เขาแย้ง

     

    ไม่ใช่อย่างนั้น แค่บอกว่าให้ระวังเฉยๆ เรียวซุเกะกล่าว เด็กคนนั้นรู้บางอย่างและเธอกำลังปิดบังมันอยู่ ชั้นคิดว่าชั้นน่าจะรู้มันในอีกไม่ช้า แต่กว่าจะถึงตอนนั้นเวลาจะพูดอะไรกับเธอก็ระวังหน่อยก็แล้วกันเคซุเกะ พวกเราไม่ต้องการให้ข้อมูลรั่วของเราไหลออกไปยังคู่แข่งหรือแม้แต่คนทั่วไปหรอกนะ เขาเว้นวรรคเล็กน้อย  ชั้นไม่ไว้ใจเธอเลย

     

    โอเคเคซุเกะพยักหน้ารับ  แล้วพี่คิดว่าเธอกำลังปิดบังอะไรอยู่ล่ะ

     

    เยอะแยะ ชายหนุ่มตอบอย่างห้วนๆ ขณะที่สายตาทอดมองไปยังเมืองกุนมะ แน่นอนว่าเธอรู้จักทั้งตัวเขาและเคซุเกะ นอกจากนี้ยังรู้เรื่องรถอีกด้วย แล้วทำไมเธอจะต้องไม่เต็มใจที่จะตอบเขาว่าเธอขับอะไรด้วยล่ะ? เธอคงจะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ปิดบังไว้ซึ่งเรียวซุเกะนั้นตัดสินใจแล้วว่าจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไร ไม่มีทางที่เธอจะเข้ามาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้สร้างไว้อย่างยากลำบากอย่างแน่นอน

     

    ถ้าไม่มีอะไรแล้ว แกน่าจะเริ่มทำในสิ่งที่แกตั้งใจจะทำซะทีนะเคซุเกะ เขาเปลี่ยนประเด็ขณะนหันไปมองน้องชายของตน

     

    ชายหนุ่มผู้ถูกหันไปมองขมวดคิ้ว พี่รู้ได้ยังไงว่าผมไม่มีเรื่องที่จะมาคุยกับพี่แล้วน่ะ

     

    มีเหรอ?

     

    เปล่า

     

    เรียวซุเกะผงกหัวเล็กน้อยก่อนที่จะเอาเท้าลงแตะพื้น มาดูซิว่ามีอะไรที่ชั้นต้องช่วยบ้าง

     

    ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนที่จะเดินตามพี่ชายของตนไปยังรถของพวกเขาซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลนัก....

     

     

     

     

    อ๊ะ! มากันแล้วเหรอลูก!” ทากาฮาชิ เอมิกล่าวอย่างร่าเริงเมื่อได้เห็นลูกชายทั้งสองของเธอกำลังเดินเข้ามาในบ้าน ไปอาบน้ำได้แล้วจ้ะ เดี๋ยวคุณฟุโคโตมิก็จะมาแล้วนะ

     

    กำลังมาเหรอครับ? เคซุเกะกล่าวอย่างประหลาดใจ ขณะที่สายตาของเขานั้นเหลือบมองพี่ชายของตนซึ่งไม่ได้แสดงท่าทีอะไรทั้งนั้น

     

    จ้ะ พ่อของลูกเชิญพวกเขาตอนที่ลูกออกไปซ้อมกันเมื่อคืนน่ะ เธอตอบขณะที่กำลังย้ายโต๊ะกินข้าวและปูผ้าคลุมโต๊ะที่ทำจากไหมอยู่ เมื่อรู้สึกได้ว่าลูกชายทั้งสองนั้นยังไม่เคลื่อนไหวไปไหนจึงหันไปกล่าวอีกครั้ง ไปเตรียมตัวได้แล้วจ้ะ เดี๋ยวพวกเขาก็จะมาถึงกันแล้ว

     

    เคซุเกะชำเลืองมองพี่ชายอีกครั้งก่อนที่จะหมุนตัวเดินขึ้นบันไดไปยังบนบ้าน

     

    มีอะไรรึเปล่าจ๊ะเรียวซุเกะ เอมิกล่าวขณะที่เห็นว่าลูกชายคนโตของตนยังยืนอยู่ที่เดิม

     

    ชายหนุ่มส่ายหัวเป็นคำตอบก่อนที่จะเดินขึ้นไปแต่งตัวเหมือนกับน้องชายของตน มีอะไรบางอย่าง....บางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเลย ลางสังหรณ์ของเขาบอกเขาว่าพ่อแม่จะต้องทำอะไรกับเขาแน่ๆ.... เรียวซุเกะเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเงียบๆ ขณะกำลังใช้ความคิด ....นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่เขารู้สึกไม่แน่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเลย ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มไม่เป็นไปตามที่เขาคิดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงอันอ่อนนุ่ม ขณะที่สายตาทอดมองลงไปยังพื้นพรมข้างล่าง จะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ..... เขาเชื่ออย่างนั้น

     

    เคซุเกะเดินออกจากห้องน้ำก่อนที่จะมาเก็บของของตนแล้วเดินลงบันไดมา

     

    วันนี้ก็ออกไปซ้อมเหมือนอย่างเคยเหรอลูก เอมิยิ้มให้กับลูกชายคนเล็กขณะที่กำลังช่วยแม่บ้านจัดโต๊ะกินข้าวอยู่

     

    ลูกชายคนเล็กพยักหน้ารับ ก่อนที่จะเปิดประเด็น ทำไมพ่อถึงไม่เคยพูดถึงบ้านฟุโคโตมิมาก่อนเลยล่ะครับแม่

     

    แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมเหรอจ๊ะ? เอมิยักไหล่

     

    พ่อของมิทสึจังเล่าเรื่องของพวกเราให้เธอฟังน่ะครับ ผมก็เลยสงสัยว่าทำไมพ่อถึงไม่เคยพูดถึงพวกเขาบ้าง

     

    แม่ว่าลูกคงต้องถามพ่อเองแล้วล่ะจ้ะ เธอยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับลูกชาย

     

     

     

    แต่แล้วบทสนทนาก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงกริ่งประตูบ้าน แม่ลูกสบตากันเล็กน้อย ก่อนที่จะหันไปยังฟูจิมาโระซึ่งเดินเข้ามาในห้องและกำลังจะไปเปิดประตูรับแขก

     

    เรียวซุเกะล่ะ? ชายวัยกลางคนถาม

     

    เดี๋ยวผมไปตามให้ ลูกชายคนเล็กตอบขณะที่รีบวิ่งออกไปจากห้อง

     

     

    ยินดีต้อนรับ!” ฟูจิมาโระกล่าวทักทายขณะเปิดประตูบ้านและพบกับแขกของเขาซึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้า

     

    สวัสดีทุกคน ครอบครัวฟุโคโตมิกล่าวทักทาย

     

    เข้ามาสิ เชิญๆ ฟูจิมาโระกล่าวเชิญขณะที่ผายมือไปยังในบ้าน ซึ่งเอมิก็มาสมทบกับฟูจิมาโระด้วยเช่นกัน

     

    เดี๋ยวพวกเด็กๆ ก็ลงมาแล้วค่ะ พอดีพวกเขาเพิ่งกลับมาถึงบ้านสักพักนี่เอง ขอโทษด้วยนะคะ เอมิกล่าว เชิญเข้ามานั่งในห้องนั่งเล่นก่อนค่ะ

     

     

     

    เคซุเกะเดินไปหยุดอยู่ตรงประตูห้องของพี่ชายของตนก่อนที่จะเคาะประตูและเปิดมันเข้าไป  

     

    พี่ พวกฟุโคโตมิมากันแล้วนะ ชายหนุ่มกล่าวขณะที่สายตาไปหยุดอยู่ที่พี่ชายของตนซึ่งกำลังนั่งอยู่เงียบๆ ในห้อง เขาสังเกตได้ว่าพี่ชายของเขายังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อเลย พี่ยังไม่อาบน้ำเหรอ?

     

    เรียวซุเกะส่ายหัวเป็นคำตอบก่อนที่จะลุกขึ้นยืน เขาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเสื้อตัวใหม่ เขาเพิ่งจะอาบน้ำไปตอนเมื่อเช้านี้เอง... เมื่อเปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้ว ชายหนุ่มจึงหันไปพูดกับน้องชายของตน

     

    ไปกันเถอะ ชายหนุ่มกล่าวขณะเดินออกไปจากห้องซึ่งเคซุเกะนั้นเดินตามอออกไปอย่างเงียบๆ ขณะที่ความรู้สึกว่าพี่ชายของเขานั้นแปลกๆ ไปได้ก่อตัวขึ้นในสมองของเขา ชายหนุ่มทั้งสองเดินลงบันไดมาด้วยกันก่อนที่จะเดินเข้าไปทักทายแขกในห้องนั่งเล่นของบ้าน

     

     

     

    สวัสดีครับ ต้องขอโทษด้วยครับที่มาสาย เรียวซุเกะกล่าวขณะที่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับน้องชายของตนก่อนที่จะโค้งอย่างสุภาพ

     

    สวัสดี เรียวซุเกะ เคซุเกะ มาซาโอะกล่าวทักทายพร้อมกับรอยยิ้ม

     

    ไม่ต้องขอโทษหรอกจ้ะ โยโกะกล่าวด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

     

    เรียวซุเกะโค้งคำนับอย่างสุภาพ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นแล้ว ดวงตาของเขานั้นก็ได้สบกับฟุโคโตมิ มิทสึ ดีจริงๆ ที่ได้พบกับเธออีก มิทสึจัง ชายหนุ่มกล่าว

     

    หวัดดี มิทสึจังเคซุเกะทักทายบ้าง ซึ่งรอยยิ้มของเขานั้นเจืออยู่บนใบหน้าต่างกับพี่ชายของเขาซึ่งไม่ได้มีรอยยิ้มให้เธอ

     

    สวัสดีค่ะเรียวซุเกะซัง เคซุเกะซัง หญิงสาวกล่าวขณะที่โค้งคำนับอย่างสุภาพ

     

     

    ถ้างั้นเราย้ายไปที่ห้องทานข้าวกันดีกว่านะคะ เอมิกล่าวอย่างนิ่มนวลเมื่อเห็นว่าสมาชิกนั้นมากันครบแล้ว ซึ่งพวกผู้ใหญ่ก็เริ่มเดินออกจากห้องก่อนที่จะตามด้วยพวกเด็กๆ

     

    มิทสึจัง เชิญ เรียวซุเกะกล่าว หมายความว่าให้เธอเดินออกไปจากห้องก่อน

     

    ขอบคุณค่ะ มิทสึผงกหัวและกล่าวอย่างสุภาพก่อนที่จะเดินผ่านชายหนุ่มออกไป เธอรู้ดีว่าเขากำลังจับตามองเธออยู่อย่างระมัดระวัง เคซุเกะนั้นเดินไปพร้อมกับเธอและได้คุยกันในเรื่องเบาๆ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยปัดเป่าความรู้สึกไม่ไวใจของเรียวซุเกะที่มีในตัวของเธอออกไปเลย สายตาของเขาจับจ้องมาที่เธอตลอดเวลา เมื่อทั้งสามเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหารแล้ว เคซุเกะก็เลือกที่นั่งซึ่งอยู่ติดกับเธอในขณะที่ยังคุยกับเธออยู่ ซึ่งเรียวซุเกะก็ได้ตรงเข้าไปนั่งยังเก้าอี้ที่ว่างอยู่ตัวเดียวซึ่งอยู่ตรงข้ามกับมิทสึจัง พวกผู้ใหญ่นั้นยังคงคุยกันอยู่เมื่อแม่บ้านได้เข้ามาเสิร์ฟอาหารจานแรก สายตาของเรียวซุเกะนั้นมองไปรอบๆ ห้อง เขาพบว่ามาซาโอะกับพ่อของเขานั้นกำลังคุยกันถึงเรื่องเก่าๆ กันอยู่ โยโกะกับแม่ของเขาก็กำลังเปิดประเด็นเรื่องงานอดิเรกของตน และเคซุเกะกับมิทสึนั้นกำลังคุยกันในเรื่องธรรมดาๆ อย่างที่คนในวัยนี้คุยกันเหมือนเดิม ชายหนุ่มมองทั้งสองคนอย่างพิจารณา ดูเหมือนว่ามิทสึจังจะดูเปิดเผยกับน้องชายของเขามากกว่า

                                   

    เธอหัวเราะ

     

    ดวงตาของเรียวซุเกะนั้นหรี่ลงเล็กน้อยก่อนที่จะไปอยูที่น้องชายของเขาซึ่งรอยยิ้มนั้นฉายอยู่บนหน้า ...บ้าเอ๊ย เคซุเกะปล่อยตัวกับเธอมากเกินไปแล้ว.... ทั้งๆ ที่เตือนไปแล้วแท้ๆ ...ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบถ้วยซุปมิโสะก่อนที่จะยกมันขึ้นมาจิบอย่างช้าๆ ซึ่งเขาวางมันลงอย่างแผ่วเบาก่อนที่จะเลื่อนเก้าอี้ไปข้างหลังและลุกขึ้น

     

    ขอตัวซักครู่นะครับ เรียวซุเกะกล่าวขณะโค้งอย่างสุภาพก่อนที่จะเดินออกไป

     

    เมื่อได้เห็นดังนั้น ความงงงันก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเคซุเกะ พี่ชายของเขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลยนี่นา เมื่อได้เห็นท่าทีที่ผิดหวังของพ่อของเขาแล้ว เขาก็แน่ใจได้เลยว่าพี่เขาต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ

     

    ในไม่ช้า บทสนมนาก็เริ่มต้นอีกครั้ง เคซุเกะจึงเปิดประเด็นกับมิทสึจังถึงเรื่องที่ว่าวันก่อนนั้นเธอได้ทำอะไรมาบ้าง

     

     

     

    พูดก่อนสิ เคซุเกะกล่าวเมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่นั่งข้างๆ มีท่าทางอยากจะพูดอะไรบางอย่าง

     

    ขอโทษค่ะ พอดีอยากจะขอเข้าห้องน้ำหน่อยน่ะค่ะ เธอพูดอย่างเขินๆ

     

    เคซุเกะรู้สึกประหลาดใจในคำถามเล็กน้อย แน่นอนสิ อยู่ตรงมุมแถวบันไดน่ะ

     

    หญิงสาวผงกหัวรับก่อนที่จะกล่าวขอตัวออกจากห้อง เธอเดินขึ้นไปยังบันได ผ่านระเบียงบ้านและพบว่าห้องน้ำนั้นอยู่ทางขวามือริมสุดทาง ซึ่งต่อมาไม่นานนักเธอก็ออกมาจากห้องน้ำ เมื่อกำลังเดินกลับไปยังห้องรับประทานอาหาร เธอก็พบว่าระเบียงที่เดินผ่านมาเมื่อครู่นั้นได้มีใครบางคนเข้าไปยืนอยู่แล้ว เท้าของเธอนั้นหยุดลงก่อนที่สายตานั้นจะจับจ้องไปยังแผ่นหลังของชายหนุ่มซึ่งยืนมองออกไปนอกบ้านอย่างเงียบๆ  เมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนจับจ้องอยู่ ชายหนุ่มจึงค่อยๆ หันมาสบตากับเธอ

     

    มิทสึค่อยๆ หายใจเข้าอย่างช้าๆ ก่อนที่จะเปิดประตูซึ่งออกไปยังระเบียงบ้าน เธอปิดประตูอย่างนุ่มนวล ขณะที่สายตานั้นสำรวจทั่วๆ ชายหนุ่ม และแล้วสายตาของเธอก็มาหยุดตรงที่บุหรี่ซึ่งอยู่ระหว่างนิ้วของเขาในมือซ้าย

     

    เรียวซุเกะรู้สึกได้ถึงจุดที่สายตาของเธอมาหยุดอยู่ เขาไตร่ตรองเล็กน้อยก่อนที่จะนำมันกลับมาที่ริมฝีปากของเขาอีกครั้ง เขามองตาของเธอซึ่งยังจดจ้องอยู่ที่บุหรี่ของเขาจนกระทั่งดวงตาของทั้งสองนั้นมาสบกัน

     

    หญิงสาวก้าวเท้ามาอยู่ตรงหน้าเขาขณะที่สายตาของเขาและเธอยังไม่ได้ละจากกัน ส่วนบนสุดของศีรษะของเธอนั้นเกือบจะถึงริมผีปากบนของเขา มือของเธอนั้นคว้าบุหรี่ไปจากเขาก่อนที่จะดับมันในที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะซึ่งอยู่ใกล้ๆ คนที่กำลังจะเป็นหมออย่างคุณควรจะรู้ว่าการสูบบุหรี่มันไม่ดีกับตัวคุณเองนะ หญิงสาวกล่าว

     

    เรียวซุเกะมองเธออย่างตกตลึง เธอแย่งบุหรี่จากเขาไปแล้วก็มาเทศน์เขายังงั้นเหรอ!? เขาไม่เคยถูกใครอบรมแบบนี้มาก่อน สายตาที่แข็งกระด้างของเขานั้นกลับไปจับจ้องที่เธอเช่นเดิม

     

    เธอมองเขากลับ

     

    เธอไม่ควรเข้ามายุ่งกับเรื่องของคนอื่นหรอกนะ ชายหนุ่มกล่าวอย่างเรียบๆ ขณะที่ความรู้สึกในใจของเขานั้นไม่ได้เป็นอย่างนั้น เวลาที่เขาไม่สบายใจแบบนี้ เขาต้องการสูบบุหรี่ซักมวนจริงๆ

     

    มิทสึรู้สึกได้ว่าตัวเธอนั้นเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งเมื่อถูกจับจ้องด้วยสายตาที่เย็นชาของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า ความรู้สึกที่เหมือนถูกยิงด้วยน้ำแข็งซึ่งทะลุเข้าไปยังร่างและวิญญาณของเธอนั้นทำให้ความเย็นเยียบค่อยๆ แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เธอมีความรู้สึกว่านิ้วเท้าของเธอเริ่มไม่มีความรู้สึกราวกับว่าเลือดนั้นไม่ได้ไปหล่อเลี้ยงเลยซักนิด แต่ว่าสายตาของเธอนั้นก็ยังไม่ลดละที่จะจับจ้องสายตาของเขา

     

    ไม่ต้องห่วง ชั้นไม่เสียเวลาอันมีค่าเป็นครั้งที่สองไปกับคนที่ไม่สมควรจะได้รับมันหรอก หญิงสาวกล่าวขณะที่มองเขาอย่างหัวจรดเท้าซึ่งหมายความว่าเธอพูดถึงเขานั่นเอง

     

    แต่ว่าสีหน้าของเรียวซุเกะก็ไม่ได้มีปฏิกริยาใดๆ กับคำพูดนั้น เขาก้าวเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ ก่อนที่จะก้มลงกระซิบใกล้ๆ หูของเธอ

     

    ชั้นกำลังจับตาดูเธออยู่นะ ฟุโคโตมิ มิทสึ ถ้าเธอเข้ามาวุ่นวายกับครอบครัวหรือทีมของชั้นล่ะก็ เธอจะต้องเสียใจไปจนตายแน่ น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขานั้นทำให้กระดูกสันหลังของเธอเย็นเยียบ ขนบริเวณต้นคอของเธอนั้นตั้งชันขณะที่ลมหายใจของเขานั้นสัมผัสกับผิวของเธอ และกลิ่นของเขาที่เธอสัมผัสได้เช่นกัน

     

    เธอพยายามบังคับร่างกายที่สั่นเทาของเธอไม่ให้ทรุดฮวบลง ....

     

    เรียวซุเกะเคลื่อนศีรษะของเขาออกห่างจากหญิงสาวก่อนที่จะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้านโดยที่ไม่ได้หันมามองเธออีกเลย เมื่อชายหนุ่มออกไปแล้ว มิทสึก็พยายามทำให้ร่างกายตัวเองหยุดสั่นจากการคุกคามของเรียวซุเกะโดยการกอดตัวเธอเอง เธอไปทำอะไรให้เขากัน เขาถึงได้ทำอย่างนั้นกับเธอ... หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนที่จะเตือนสติตัวเองให้สงบลง เธอจะต้องรีบกลับไปในห้องรับประทานอาหารก่อนที่พวกเขาจะสงสัยว่าเธอไปไหนมา เธอสูดลมหายใจอีกครั้งก่อนที่จะหลับตาลงชั่วครู่ ลมเย็นๆ ยามค่ำพัดกระทบใบหน้าของเธอก่อนที่เธอจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น หญิงสาวเดินกลับเข้าไปยังห้องรับประทานอาหารอีกครั้งแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม เธอวางผ้ากันเปื้อนลงบนตักก่อนที่จะคีบอาหารรับประทานอย่างเงียบๆ

     

    เมื่อกี๊คิดว่าหลงทางซะแล้วนะเนี่ย เคซุเกะแหย่ หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ขณะสบตาเขาก่อนที่มันจะกลับไปอยู่ที่จานของเธออีกครั้ง

     

    เคซุเกะมองเธออย่างสงสัย เขาหันไปมองพี่ชายของตนซึ่งสายตาของเขานั้นลดลงไปอยู่ที่จานอีกครั้งเช่นกัน พี่ชายของเขาทานข้าวราวกับว่าเขาไม่สนใจอะไรในโลกนี้อีกแล้วอย่างนั้นแหละ....

     

    ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย มิทสึจัง เคซุเกะถาม

     

    หญิงสาวผงกหัวก่อนที่จะส่งยิ้มเพื่อเป็นการทำให้เขาแน่ใจ เธอมองเรียวซุเกะแวบหนึ่งก่อนที่จะลดสายตาลงอีกครั้ง เขาทำท่าราวกับว่าเมื่อครู่นั้นไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่าเธอรู้ดี...รู้ดีว่าชายหนุ่มคนนี้คิดว่าคนรอบข้างของเขานั้นเป็นคนโง่กันทุกคน แต่เธอจะไม่ใช่หนึ่งในคนพวกนั้น อย่างไรก็ตาม ทากาฮาชิ เรียวซุเกะย่อมรู้สึกถูกเธอคุกคามอย่างแน่นอน มิฉะนั้นเขาคงจะไม่ทำอะไรอย่างนั้นแน่ๆ หญิงสาวหันไปมองพ่อแม่ของเธอซึ่งมีท่าทางภูมิใจในตัวเธอเหลือเกิน ถ้าพวกเขารู้เรื่องนั้นของเธอล่ะก็......เธอสะบัดความคิดนั้นของเธอทิ้งไป ทากาฮาชิ เรียวซุเกะจะต้องไม่มีวันรู้เรื่องนั้น เธอจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพบว่าชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอนั้นกำลังมองเธออยู่ เธอมองเขากลับ ....นายน่ะแหละที่จะต้องหันไปมองทางอื่นก่อน...เธอคิด

     

    เพราะสายตาที่ท้าทายของเธอ เรียวซุเกะจึงมองเธออย่างไม่ละสายตาเช่นกัน ชายหนุ่มคีบบางอย่างในจานของเขาก่อนที่จะนำมันเข้าปากและเคี้ยวโดยที่ยังจ้องตากับเธออยู่ ...น่าสนุก....เขาคิด สายตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย เขากระตุกรอยยิ้มเล็กน้อยก่อนที่สายตาของเขาจะหันไปมองพ่อแม่ของเธอ เขารู้สึกได้ว่าความกังวลของเธอนั้นฉายขึ้นมาแวบหนึ่งก่อนที่มันจะหายไป

     

    การรุกก่อนย่อมได้เปรียบเสมอ...

     

    มิทสึจังกับเคซุเกะพูดถูก มันน่าจะดีกว่าถ้าพรุ่งนี้มิทสึจังติดรถไปมหาวิทยาลัยกับผมน่ะครับ ชายหนุ่มกล่าวเรียบๆ

     

    พวกผู้ใหญ่กันมาทางเขาเป็นทางเดียว

     

    เป็นความคิดที่ดีมากเลย ฟูจิมาโระกล่าว คิดว่ายังไงฮึ มาซาโอะ

     

    เป็นความคิดที่ดีมาก ชายวัยกลางคนกล่าวขณะหันไปทางลูกสาวของตน ทีนี้ลูกก็จะได้ไม่ต้องไปคนเดียวแต่เช้าแล้วนะ

     

    แม่ก็เห็นด้วยจ้ะ ถ้าลูกมีเพื่อนไปด้วยลูกก็จะได้ไม่เหงาไง โยโกะเสริม

     

    แม่คะ หนูไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูไม่อยากรบกวนเรียวซึเกะซัง เขาคงจะต้องยุ่....

     

    ไม่เป็นไรหรอกครับ เพราะถึงยังไงๆ ผมก็ต้องไปทางนั้นอยู่แล้ว

     

    เคซุเกะมองพี่ชายของตนอย่างสงสัย แต่ก่อนที่เขาจะได้อ้าปากถามเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนใจ เขาก็ต้องเก็บคำถามไว้เมื่อสายตาของพี่ชายของเขานั้นบอกให้เขาอยู่เงียบๆ

     

    มิทสึมองชายหนุ่มอย่างไม่ค่อยแน่ใจ ชั้นขับไปเองได้ค่ะ เธอกล่าว แต่ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะเรียวซุเกะซัง

     

    ถ้างั้นเราผลัดกันขับก็ได้ พรุ่งนี้ผมจะเป็นคนขับเอง แล้วมิทสึจังก็เป็นคนขับในวันต่อไป ชายหนุ่มยักไหล่ เขาเห็นได้ชัดว่าหญิงสาวกำลังเคี้ยวฟันของตัวเองอยู่ ....จะอะไรกันนักกันหนาฮึ...เธอคิด

     

    ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ อีกอย่าง ชั้นอาจจะต้องอยู่ที่มหาวิทยาลัยจนถึงค่ำก็ได้

     

    ถ้าอย่างนั้นผมจะรออยู่ที่ห้องสมุดก็แล้วกันเรียวซุเกะกล่าวอย่างเรียบๆ

     

    มิทสึพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ตอนนี้เธออยากกรี๊ดใส่เขาดังๆ เหลือเกิน

     

    ถ้างั้นก็ตกลงกันได้แล้วนะ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เรียวซุเกะไปรับหนูที่บ้านในตอนเช้าก็แล้วกัน ฟูจิมาโระกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขามองไปทางมาซาโอะซึ่งกำลังยิ้มด้วยเช่นกัน

     

    เรียวซุเกะไม่มีทางที่จะไม่ทันสังเกตเห็นถึงสายตาของพ่อของเขาเมื่อครู่ เขามองไปยังแม่ของตนและไปที่โยโกะ ซึ่งคู่หลังนั้นกำลังคุยกันอย่างออกรสถึงเรื่องที่ว่าลูกสาวของเธอจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวเวลาไปมหาวิทยาลัย และแล้วสายตาของเขาก็ไปหยุดลงที่เคซุเกะซึ่งกำลังมองเขาอยู่อย่างงงๆ แต่ชายหนุ่มก็เริ่มทานต่ออย่างเงียบๆ เช่นเคย

     

     

     

    หลังจากที่ตบท้ายมื้อเย็นด้วยของหวานและผลไม้แล้ว พวกผู้ใหญ่ก็กลับเข้าไปคุยในห้องนั่งเล่นอีกครั้งขณะที่พวกลูกๆ เข้าไปในห้องเครื่องเสียงและเครื่องเล่นต่างๆ แทน

     

     

    เคซุเกะนั่งลงบนโซฟาหนังสีขาวตัวใหญ่ก่อนที่จะเปิดทีวี ซึ่งมิทสึก็ได้นั่งลงข้างๆ อย่างเงียบๆ

     

    เรียวซุเกะนั้นเลือกที่จะนั่งเก้าอี้ซึ่งเข้าชุดกัน ซึ่งความระแวดระวังในตัวของเธอนั้นยังไม่หายไปจากสายตาของเขา เมื่อความเงียบได้เข้าปกคลุมชั่วครู่ ชายหนุ่มจึงเอื้อมมือไปหยิบหนังสือซึ่งวางอยู่บนโต๊ะและเริ่มเปิดอ่าน เมื่อเวลาผ่านไปราวชั่วโมงหนึ่งหรือมากกว่านั้น พ่อแม่ของพวกเขาก็พบว่าทั้งเคซุเกะและมิทสึกำลังนั่งดูทีวีอย่างเงียบๆ ในขณะที่เรียวซุเกะกำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างเงียบๆ เช่นกัน

     

     

     

    มิทสึ ได้เวลาไปกันแล้วลูก มาซาโอะกล่าว ขณะมองมายังลูกสาวของตน

     

    พี่น้องทากาฮาชิลุกขึ้นยืนพร้อมกัน เคซุเกะนั้นปิดทีวีส่วนเรียวซุเกะนั้นวางหนังสือไว้ที่เดิม ซึ่งทั้งหมดได้เดินไปส่งแขกที่ประตูใหญ่ของบ้าน

     

    มิทสึจัง ขอที่อยู่เธอสำหรับวันพรุ่งนี้ด้วย เรียวซุเกะกล่าวขณะที่เดินเข้าไปหาหญิงสาว

     

    คือว่า ชั้นยังไม่แน่ใจว่าที่อยู่ของเรา... หญิงสาวขมวดคิ้ว

     

    มาซาโอะหัวเราะก่อนที่จะส่งที่อยู่ของบ้านของเขาให้กับเรียวซุเกะ

     

    จะไปรับตอนหกโมงเช้านะมิทสึจัง เรียวซุเกะกล่าว

     

    หญิงสาวพยักหน้ารับ จะทำยังไงดีล่ะทีนี้.....

     

     

     

    เมื่อพวกเขากล่าวลากันเรียบร้อยและประตูบ้านนั้นปิดสนิทแล้ว ฟูจิมาโระก็ได้หันมาทางลูกชายของเขาพร้อมกับรอยยิ้ม

     

    พ่อฮะ ทำไมพ่อไม่เคยพูดถึงพวกเขามาก่อนเลยล่ะฮะ เคซุเกะถาม

     

    ชายวัยกลางคนยักไหล่ พ่อยุ่งมากจนลืมไปเลยน่ะ ฟูจิมาโระหันไปทางลูกชายคนโตของเขา ดีมากที่ลูกเสนอตัวไปรับมิทสึจังไปมหาวิทยาลัย เพราะเธอยังไม่ค่อยรู้ทางของที่นี่เท่าไหร่

     

    มันเป็นความคิดของเคซุเกะต่างหากล่ะครับ เรียวซุเกะกล่าวอย่างเรียบๆ

     

    ยังไงก็เถอะ ทั้งสองคนก็ขึ้นไปนอนได้แล้ว อีกอย่าง ลูกดูเหนื่อยมากเลยนะเรียวซุเกะ

     

    ผมไม่เป็นไรหรอกครับ ชายหนุ่มตอบขณะกำลังหมุนตัวเดินขึ้นไปบนบ้าน

     

    เคซุเกะเดินตามพี่ชายของตนไป พี่

     

    หืม? คนถูกเรียกกล่าวขณะเปิดประตูห้องของตนแล้วเดินเข้าไป

     

    ทำไมพี่ถึงเกิดเปลี่ยนใจเรื่องไปรับเธอพรุ่งนี้ขึ้นมาได้ล่ะ

     

    เมื่อวานชั้นไม่ได้บอกว่าจะไม่ไปรับเธอซักหน่อย มิทสึจังเป็นคนบอกว่าเธออยากจะขับไปเองต่างหาก

     

    อือฮึ ชายหนุ่มมองพี่ชายในขณะที่เขากำลังหยิบเสื้อผ้าของตนก่อนที่จะออกไปอาบน้ำ เคซุเกะเดินไปยังเตียงของพี่ชายของเขาก่อนที่จะนอนลงขณะรอให้เขากลับมา เมื่อเขากลับมาแล้วชายหนุ่มจึงเริ่มเปิดประเด็นอีกครั้ง

     

    พี่

     

    หือ?

     

    ถ้าพี่ไม่ไว้ใจเธอแล้วทำไมพี่จะต้องไปกับเธอด้วยล่ะ

     

    เรียวซุเกะนั่งลงที่เก้าอี้ที่โต๊ะทำงานของเขาก่อนที่จะตอบอย่างเรียบๆ เพราะว่าชั้นอยากจะรู้อะไรบางอย่างน่ะสิ

    เคซุเกะไตร่ตรองในคำพูดของพี่ชายของตนชั่วครู่ แล้ว....พี่จะสืบเรื่องของเธออย่างนั้นเหรอ

     

    เรียวซุเกะพยักหน้า ประมาณนั้น ชั้นจะต้องรู้ในสิ่งที่ชั้นอยากรู้ให้ได้ และเธอจะต้องบอกมันกับชั้น ถึงแม้ว่าเธอจะอยากบอกหรือไม่ก็ตาม ชายหนุ่มกล่าวเสียงเข้ม



    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ต้องขอโทษด้วยที่หายไปนานนะคะ

    พอดีตอนนี้เพิ่งปิดเทอม เพิ่งมีเวลามาแปลนี่แหละค่ะ

    ขอบคุณสำหรับทุกการเยี่ยมชมนะคะ คิดว่าคงจะได้อัพตอนต่อไปในอีกไม่กี่วันนี่แหละค่ะ

    แล้วเจอกันนะคะ ^^/



     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×