ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ::: [ฟิคแปล initial-D] The Raging Racer's Heart :::

    ลำดับตอนที่ #1 : ฟุโคโตมิ มิทสึ

    • อัปเดตล่าสุด 8 ส.ค. 49


    CHAPTER 1

    สายลมอ่อนๆ ยามค่ำของเมืองมาเอบาชิพัดพาใบไม้ที่ร่วงหล่นตามพื้นถนนให้ปลิวไปทั่ว ในเวลานี้ตัวเมืองนั้นได้ถูกปกคลุมไปด้วยผืนท้องฟ้ากำมะหยี่สีดำซึ่งประดับไปด้วยดวงดาวอันสุกใสราวกับอัญมณี เมืองมาเอบาชิเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกุนมะ แสงไฟตามข้างทางบ้างก็กระพริบบ้างก็ฉายสีสันต่างๆนานา ส่งผลให้เมืองทั้งเมืองนั้นมีความคึกคักไม่แพ้ตอนกลางวันเลยทีเดียว

     


    ภายในคฤหาสน์สไตล์โมเดิร์นหลังใหญ่ ซึ่งมีเจ้าของเป็นเจ้าของโรงพยาบาลทากาฮาชิอันโด่งดังนั้น ทากาฮาชิ เรียวซุเกะกำลังนั่งพินิจพิจารณาข้อมูลบนหน้าจอของแลปทอปสีเงินของตนบนโต๊ะทำงานในห้องของเขา มือใหญ่เสยผมสีดำเข้มในขณะที่ใช้ความคิด ทากาฮาชิ เรียวซุเกะมักจะเป็นคนที่การวางแผนและการวิเคราะห์มาเป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดี ตัวสูง มีความฉลาดเฉลียวและสุขุมเยือกเย็น ทำให้เรียวซุเกะนั้นเป็นคนดังคนหนึ่งทั้งในมหาวิทยาลัย และในวงสังคมคนทั่วไปทีเดียว ภายในห้องนั้นทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกจัดไว้อย่างเรียบร้อย หนังสือถูกแยกเป็นหมวดหมู่เรียงตามตัวอักษรอยู่บนชั้น เตียงซึ่งถูกปูอย่างเรียบตึง และพื้นห้องที่ปราศจากฝุ่นผงนั้นแสดงให้เห็นถึงลักษณะของนิสัยของเจ้าของห้องได้อย่างดี แต่แล้ว ความเงียบก็ได้ถูกทำลายลงโดยเสียงเปิดประตูของแขกที่ไม่ได้รับเชิญคนหนึ่ง

    ว่าแล้วว่าพี่ต้องอยู่ในนี้ พ่อกับแม่กำลังเรียกหาพี่อยู่แน่ะ แขกที่ไม่ได้รับเชิญนั้นเดินเข้าไปหาพี่ชายของตน สายตาของเขานั้นจับจ้องไปทีข้อมูลตัวเลขและกราฟที่กระจัดกระจายและดูยุ่งเหยิงอยู่บนหน้าจอ ก่อนที่คิ้วของเขาจะขมวดเข้าหากันอย่างฉงน

    นี่แหละน้า...สิ่งยากๆ ที่อัจฉริยะอย่างพี่เค้าทำกัน... ทากาฮาชิ เคซุเกะนึกในใจ ก่อนที่จะโยกหัวซึ่งมีทรงผมซอยสั้นสีทองปลายแหลมไปมา จากนั้นสายของเขาจึงไปอยู่ที่พี่ชายของตน เคซุเกะเป็นน้องชายของเรียวซุเกะซึ่งมีอายุห่างกัน 2 ปี โดยที่มีนิสัยที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่เขาก็เป็นคนที่เคารพรักพี่ของตัวเองมาก และเขาก็เป็นคนที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีไม่แพ้พี่ชายของตัวเองเลยเช่นกัน

     

     


    พี่จะไปรึเปล่า

    เรียวซุเกะพยักหน้า ก่อนที่จะเซฟข้อมูลและปิดแลปทอป จากนั้นจึงลุกขึ้นยืน หมุนตัวจากโต๊ะทำงานมายังน้องชาย

    ไปกันเถอะ ทั้งสองเดินออกจากห้องโดยที่เรียวซุเกะให้เคซุเกะเดินออกไปก่อน จากนั้นตัวเองจึงเดินตามออกไป สองพี่น้องทากาฮาชิเดินลงบันไดมาด้วยกันเพื่อไปหาพ่อกับแม่ของตน แต่แล้วเท้าที่ก้าวเดินก็ต้องชะงัก เมื่อมีเสียงหนึ่งเอ่ยทักขึ้น

    ทากาฮาชิ เรียวซุเกะ! ดีจริงที่ได้เจอเธออีก การเรียนเป็นยังไงบ้างหรือ? ชายคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ตรงโถงของบ้านทักเรียวซุเกะซึ่งกำลังเดินลงบันไดมาพอดี

    ไปได้ดีครับคุณอากาโทริ แล้วครอบครัวคุณเป็นยังไงครับ? ” ชายหนุ่มผู้ถูกทักกล่าวอย่างสุภาพขณะจับมือกับเขา อากาโทริเป็นหนึ่งในแขกที่มาเยี่ยมเยียนบ้านทากาฮาชิในวันนี้ เขายิ้มอย่างร่าเริงขณะจับมือกับชายหนุ่ม

    สบายดี! ถึงแม้ว่าฉันจะอยากให้ลูกชายของฉันขยันเรียนเหมือนเธอบ้างก็เถอะนะ

     

    ผมมั่นใจว่าเขาเองก็ตั้งใจเรียนเช่นกันครับ เรียวซุเกะยิ้ม แต่แล้วบทสนทนาก็ถูกขัดด้วยเสียงของผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง

    เรียวซุเกะ! อยู่นี่เองหรือลูกทากาฮาชิ เอมิผู้เป็นแม่ของเรียวซุเกะเดินเข้ามาหา ขอตัวเขาซักครู่นะคะ

    อากาโทริพยักหน้า แม่ของเรียวซุเกะจึงพาลูกชายของตนไปอีกทางหนึ่ง
    พ่อกำลังรอลูกอยู่แน่ะ พวกเราอยากให้ลูกได้เจอใครบางคนน่ะจ้ะเอมิกล่าวขณะเดินนำเรียวซุเกะ โดยที่เคซุเกะนั้นไม่ได้เดินตามมาด้วย ทั้งสองเดินออกจากห้องโถงไปยังห้องรับแขกของบ้านซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่ง



    ภายในห้องรับแขกนั้นถูกประดับประดาด้วยเครื่องแต่งบ้านที่ถูกเลือกเฟ้นมาเป็นอย่างดีโดยฝีมือของมัณฑนากรมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นโซฟาสีครีมตัวสวยแสนสบาย ผ้าม่านสีขาวที่ทำจากไหมถูกพับจีบไว้อย่างสวยงาม รูปวาดราคาแพงที่อยู่บนผนัง ทุกสิ่งทุกอย่างดูสวยงามและสบายตาไปหมดสมกับที่เป็นบ้านของเจ้าของโรงพยาบาลทากาฮาชิอันโด่งดัง บัดนี้ ห้องรับแขกของบ้านก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามชื่อของมันอยู่ โดยที่แขกของวันนี้คือครอบครัวพ่อแม่ลูกครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเป็นครอบครัวที่มีสำคัญมากๆ ครอบครัวหนึ่งทีเดียว

    บนโซฟาตัวสวยนั้น ครอบครัวสองครอบครัวกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส หัวหน้าครอบครัวทากาฮาชิ ซึ่งดูท่าทางอายุประมาณปลายๆ สี่สิบ หรือไม่ก็ห้าสิบต้นๆ กำลังพูดคุยอย่างสนุกสนานกับคู่สามีภรรยาและลูกสาว 1 คน เมื่อเรียวซุเกะเดินเข้ามาในห้องนั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงสายตาของหญิงสาวซึ่งจ้องมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนที่มันจะกลับไปทิศทางเดิม

    เรียวซุเกะ! มานี่มา พ่อของชายหนุ่มเรียก ก่อนที่จะเขยิบที่ให้ลูกชายของตนได้เข้าร่วมวงสนทนา นี่คือเพื่อนที่สนิทที่สุดคนหนึ่งของพ่อ ฟุโคโตมิ มาซาโอะ เราเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน คุณโยโกะ ภรรยาของเขา และมิทสึจัง ลูกสาวคนเดียวน่ะชายวัยกลางคนกล่าวแนะนำอย่างร่าเริง นี่คือเรียวซุเกะ ลูกชายอีกคนของฉัน มาซาโอะเพิ่งย้ายมาจากโตเกียว เขาจะมาทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกันกับพ่อทากาฮาชิ ฟูจิมาโระพูดอย่างภาคภูมิใจ เรียวซุเกะโค้งทักทายครอบครัวฟุโคโตมิอย่างสุภาพก่อนที่จะจับมือกับมาซาโอะ

    ฉันได้ยินว่าเธอเรียนอยู่คณะแพทย์ กำลังอยู่ปีสุดท้ายใช่ไหมมาซาโอะกล่าวก่อนที่จะหันไปมองลูกสาวคนเดียวของตน มิทสึก็ใกล้จะจบแล้วเหมือนกัน แต่เธอเหลืออีก 2 ปีน่ะ

    เรียวซุเกะยิ้มรับอย่างสุภาพ

    รู้สึกเหมือนกับว่า... ผู้หญิงคนนี้มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่... ชายหนุ่มคิด ขณะที่สายตาจับจ้องไปที่ฟุโคโตมิ มิทสึ

     



    พามิทสึจังไปหาเคซุเกะสิลูก ทากาฮาชิ เอมิกล่าว ซึ่งเรียวซุเกะก็พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้

    มิทสึจัง?

    หญิงสาวผู้ถูกเรียกยิ้มอย่างสุภาพ ก่อนที่จะลุกออกจากโซฟาแล้วเดินตามเรียวซุเกะออกไป

    ได้เจอเคซุเกะรึยัง เรียวซุเกะถาม

    เจอแล้วค่ะมิทสึตอบขณะพยักหน้า

    ทั้งคู่เดินมาด้วยความเงียบไร้ซึ่งบทสนทนาใดๆ เมื่อทั้งสองเดินมาถึงห้องโถง ก็พบว่าเคซุเกะกำลังยืนอ่านนิตยสารเกี่ยวกับรถอยู่ เมื่อชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาในห้อง จึงเงยหน้าขึ้นมา

    พี่!” ทากาฮาชิคนน้องกล่าวเรียกเมื่อเห็นร่างของเรียวซุเกะและมิทสึอยู่ตรงหน้า มือวางนิตยสารไว้ในถุงผ้าเหมือนเดิม จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาพี่ชายของตน

    ในที่สุดก็ได้เจอครบทั้งสองคนซักที มิทสึยิ้มน้อยๆ

    เรียวซุเกะพยักหน้า หัวของเขาคิดไม่ออกเลยว่าจะชวนเธอคุยอะไรดี

    ดื่มอะไรไหมชายผมสีเข้มเสนอ

    ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ

    งั้นชั้นขอซักแก้วดีกว่าแฮะ!” เคซุเกะกล่าวอย่างร่าเริงก่อนที่จะเดินเข้าไปในครัว เรียวซุเกะหันไปมองมิทสึเชิงว่าให้เข้าไปก่อน เธอยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะตามทากาฮาชิคนน้องเข้าไป เธอรู้สึกเบื่อ.....เบื่อเพราะนึกไม่ถึงว่าพ่อแม่จะลากเธอมายังงานสังสรรค์ที่น่าเบื่ออย่างนี้ด้วย เธอไม่เข้าใจเลยว่าพวกเขาจะพาเธอมาด้วยทำไม

    แน่ใจนะว่าจะไม่ดื่มซักหน่อยน่ะเคซุเกะกล่าวขณะรินไวน์ขาวใส่แก้วตนเอง ภายในครัวของบ้านทากาฮาชินั้นสะอาดเอี่ยม ครบครันไปด้วยเครื่องครัวทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเตาอบไฟฟ้า อุปกรณ์ในการทำอาหารสารพัด เครื่องปรุงต่างๆ ซึ่งได้รับการดูแลอย่างดีโดยเหล่าแม่บ้าน กลางห้องนั้นมีโต๊ะกินข้าวโต๊ะใหญ่อยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งบัดนี้เป็นที่ๆ เคซุเกะกำลังเตรียมเครื่องดื่มนั่นเอง

    คิดว่าสักแก้วก็ไม่เลวนะมิทสึยิ้มก่อนที่จะเดินไปยังคนที่ชวนเธอ




    เรียวซุเกะมองน้องชายของตน ซึ่งบัดนี้มีรอยยิ้มเจืออยู่บนหน้าน้อยๆ ขณะที่มือกำลังหยิบแก้วให้มิทสึ ชายหนุ่มมองไปรอบๆห้องก่อนที่จะไปยืนพิงตรงเคาท์เตอร์ที่อยู่ตรงข้ามกับที่ๆ เคซุเกะกับมิทสึกำลังจิบไวน์

    อย่าดื่มมากละกัน เคซุเกะ

    คนถูกเตือนพยักหน้ารับ เขารู้ดีว่าแอลกอฮอล์กับนักขับรถนั้นมีผลต่อกันขนาดไหน

    มิทสึ ชอบกุนมะมั้ย เคซุเกะเอ่ยถาม ซึ่งบัดนี้ได้จัดการสิ่งที่อยู่ในแก้วของตนหมดเกลี้ยงแล้ว

    ชอบมากเลย เงียบดี

    เธอเป็นคนโตเกียวเหรอ?”

    หญิงสาวยิ้มน้อยๆก่อนส่ายหน้าและจิบไวน์ของเธอต่อ

    ก็ไม่เชิงนะ แต่ตอนนี้ชั้นคิดถึงเพื่อนมากๆ เลย มิทสึตอบอย่างเศร้าๆ

    เดี๋ยวก็หาเพื่อนใหม่ได้เองแหละน่าเคซุเกะปลอบแล้วมิทสึจะมาเรียนที่มหาวิทยาลัยกุนมะด้วยรึเปล่า

    มิทสึพยักหน้ารับ

    แล้วจะไปยังไงเหรอ...เอ้อ! มิทสึจังติดรถไปกับพี่ก็ได้นี่นาเคซุเกะแนะ

    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อยากจะขับไปเองมากกว่าน่ะมิทสึกล่าว สายตาของจับไปที่เรียวซุเกะแวบหนึ่ง ซึ่งกำลังยืนพิงเคาท์เตอร์ฟังการสนทนาของทั้งสองอย่างเงียบๆ ซึ่งชายหนุ่มก็รู้สึกได้แต่ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ

    ทำไมไม่ไปด้วยกันล่ะ คือไหนๆ ก็ต้องไปที่เดียวกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอชายหนุ่มกล่าว

    มิทสึยกมือขึ้นเป็นเชิงปฏิเสธ
    ไม่เป็นไรหรอก แค่ขับรถเอง ถ้าขับเองก็จะได้ศึกษาเส้นทางไปด้วยไง

    ก็นะเคซุเกะผงกหัว ก่อนที่จะหันไปยังพี่ชายของตนซึ่งกำลังมองพวกเขาอย่างเงียบๆ

    ขอถามอะไรหน่อยสิ มิทสึเอ่ย

    อะไรเหรอ?

    อากากินี่ไกลเท่าไหร่เหรอ?”

    อากากิ? เคซุเกะทวน

    มิทสึพยักหน้าก่อนที่สายตาจะไปจับที่เรียวซุเกะผู้ซึ่งไม่ได้มีท่าทางสนใจอะไร

    อากากิไงหญิงสาวย้ำได้ยินมาว่าวิวบนนั้นสวยมาก

    เคซุเกะมองเรียวซุเกะตาปริบๆ ก่อนที่จะหัวเราะออกมา
    ใช่ วิวบนนั้นสวยมากๆ โธ่ ใครจะไปทันนึกว่าเธอถามเรื่องวิวชายหนุ่มหัวเราะหึๆ มันก็ไม่ค่อยไกลหรอก คืนนี้ชั้นกับพี่ก็จะไปที่นั่น ไปด้วยกันมั้ยล่ะมิทสึจัง

    จริงเหรอ!?”หญิงสาวกล่าวอย่างตื่นเต้นคืนนี้เหรอ? จะไปกันกี่โมงล่ะ ชั้นไปแน่ถ้ามันไม่เป็นการรบกวนน่ะนะเธอจ้องมองเรียวซุเกะอีกครั้งก่อนที่สายตาจะกลับไปที่ทากาฮาชิคนน้อง

    ปกติเราจะไปกันตอนสามทุ่มครึ่ง ก็ในอีก 15 นาทีนี้แหละเคซุเกะว่าขณะมองดูนาฬิกาข้อมือ

    ไม่เป็นการรบกวนจริงๆ นะ?มิทสึย้ำ

    ไม่หรอก กว่าจะไปถึงนั่นก็อย่างน้อยชั่วโมงนึงแหละ ใช่มั้ยพี่?เมื่อพูดจบ น้องก็หันไปทางพี่ชาย

    พี่ชายผู้ถูกขอความเห็นไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ผงกหัวน้อยๆเท่านั้น ก่อนที่จะปล่อยแขนที่กอดอกอยู่ลง

    เอาเสื้อแจ๊คเก็ตไปด้วยก็แล้วกัน เรียวซุเกะกล่าวขณะที่ดวงตาสีเข้มของเขาสบกับมิทสึ เขาพินิจพิจารณาเธออยู่แวบหนึ่ง ถึงจะเป็นช่วงเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที แต่มันก็มากพอที่จะสังเกตเห็นในสิ่งที่เขาอยากเห็น และแล้วชายหนุ่มก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องครัวอย่างรวดเร็ว

    เคซุเกะมองพี่ชายของตนแล้วขมวดคิ้วก่อนที่จะหันไปหามิทสึ

    เขาเป็นคนเงียบๆ อย่างนั้นตลอดเลยเหรอ หญิงสาวถาม

    ก็ขึ้นอยู่กับว่าอยู่กับใครน่ะนะ

    มิทสึพยักหน้าและจิบไวน์ของเธอต่อ เมื่อเคซุเกะรู้ตัวว่าพูดไม่ดีออกไปจึงรีบชี้แจง

    พี่เค้ายังไม่รู้จักเธอดีน่ะ

    มิทสึยิ้มตอบ

    ไปเตรียมตัวกันเถอะ พี่ไม่ชอบไปสายน่ะชายหนุ่มเริ่มขยับเท้า ก่อนที่จะนึกอะไรบางอย่างได้เราน่าจะบอกให้พ่อแม่ของมิทสึรู้ไว้ด้วยนะ

    หญิงสาวพยักหน้าเห็นด้วยก่อนที่จะดื่มสิ่งที่อยู่ในแก้วจนหมด จากนั้นจึงนำไปวางไว้ในซิงค์น้ำ มิทสึเดินตามเคซุเกะออกจากห้องครัวไปยังห้องรับแขกซึ่งเหล่าพ่อแม่ยังนั่งคุยกันอยู่

     


    เมื่อเห็นหญิงสาวและชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้อง ผู้ใหญ่ทั้ง 4 คนจึงหยุดการสนทนาลง มาซาโอะและโยโกะยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะเขยิบที่บนโซฟาให้มิทสึนั่ง แต่เธอส่ายหน้า

    หนูขอโทษที่ขัดจังหวะค่ะ พ่อ แม่ คือหนูจะขอออกไปกับเคซุเกะซังกับเรียวซุเกะซังคืนนี้ซักพักได้มั้ยคะ มิทสึกล่าวขณะที่คุกเข่าลงข้างๆ พ่อแม่ของตน

    พ่อแม่ของเคซุเกะหันไปที่ลูกชายคนเล็กซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ

    พี่ของลูกล่ะ พ่อของเขาถาม

    กำลังรออยู่ครับ

    มิทสึจัง แน่ใจนะจ๊ะว่าอยากไป เอมิผู้เป็นแม่ของชายหนุ่มที่มิทสึจะออกไปด้วยถามอย่างประหลาดใจ

    ค่ะ หญิงสาวพยักหน้า เหล่าพ่อแม่ของทั้งสองมองหน้ากันแวบหนึ่ง หลังจากนั้นฟุโคโตมิ โยโกะจึงกล่าวกับลูกสาวอย่างอ่อนโยน

    ใส่เสื้อแจ๊คเก็ตด้วยนะจ๊ะ

    ขอบคุณค่ะพ่อ แม่มิทสึกล่าว รอยยิ้มระบายอยู่บนพวงแก้ม หลังจากนั้นจึงหันไปหาเคซุเกะซึ่งพยักหน้ารับ ก่อนที่ทัทั้งสองจะเดินออกไปด้วยกัน

    เหล่าพ่อแม่มองทั้งสองคนเดินออกไปจากห้องอยู่พักหนึ่ง

    ทากาฮาชิ ดูเหมือนว่าลูกสาวฉันจะเลือกลูกชายคนเล็กของคุณนะ มาซาโอะหัวเราะ สงสัยคุณต้องหาคนอื่นให้เรียวซุเกะแล้วล่ะ

    แต่ว่าทากาฮาชิ ฟูจิมาโระไม่ได้หัวเราะด้วย เขาเพียงแต่ขมวดคิ้วและพยักหน้ารับน้อยๆ เท่านั้น

     

     

    หลังจากที่เขาได้เปลี่ยนเสื้อและเธอได้หยิบแจ๊คเก็ตของตนติดมาด้วยแล้ว เคซุเกะกับมิทสึเดินออกมาจากบ้านหลังใหญ่ ทั้งสองเดินมายังโรงรถโรงใหญ่ซึ่งมีรถราคาแพงเรียงรายจอดอยู่ แต่ที่เด่นสะดุดตาที่สุดก็คือรถมาสด้า Rx-7 รุ่นเก่าและใหม่ทั้งสองคันซึ่งเจ้าของก็คือพี่น้องทากาฮาชิแห่งเรดซันนั่นเอง

    เรียวซุเกะซึ่งสตาร์ทรถของตนเรียบร้อยแล้วนั้นกำลังนั่งรอทั้งสองคนอยู่ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มของเขาจับจ้องไปยังเคซุเกะและมิทสิซึ่งกำลังเข้าไปใน
    FD สีเหลือง เมื่อเครื่องโรตารีของมันกระหึ่มเสียง เขาก็ส่งสัญญาณให้น้องชายของตนออกตัวไปก่อน

    เคซุเกะพยักหน้ารับก่อนที่จะลดเบรกมือและเหยียบคันเร่งพุ่งออกไปยังถนน จากนั้นเรียวซุเกะจึงตามออกไป



    เมื่อ
    FD ได้นำพามิทสึและเคซุเกะเข้าสู่ท้องถนนที่เต็มไปด้วยสีสันของแสงไฟข้างทางมุ่งหน้าไปยังยอดเขาอากากิ อันเป็นที่ฝึกซ้อมและเป็นที่ๆ เรดซันซึ่งเป็นทีมของเรียวซุเกะเป็นเจ้าถิ่นอยู่ สายตาของนั้นมิทสึจ้องมองกระจกข้างของรถ ความไม่พอใจฉายชัดบนแววตาของเธอ แย่... ทำไมเขาต้องมาขับตามหลังด้วยนะ... หญิงสาวต้องการเห็นว่าเขานั้นขับรถอย่างไร เธอเหลือบมองเคซุเกะทางหางตาแวบหนึ่ง จากนั้นจึงเลื่อนลงมาที่มือของเขาซึ่งกำลังเปลี่ยนเกียร์อย่างนุ่มนวล

    พวกนายคือพี้น้องทากาฮาชิแห่งเรดซันที่มีชื่อเสียงนั่นใช่มั้ย หญิงสาวยิงคำถาม เคซุเกะยักคิ้วด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยก่อนที่รอยยิ้มจะเข้ามาแทนที่

    เคยได้ยินเรื่องของเรามาแล้วอย่างงั้นสิ

    พ่อเคยพูดถึงพวกนายที่เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทบ่อยๆ น่ะ หญิงสาวหัวเราะแล้วชั้นเองก็เคยเห็นนาย รถของนาย แล้วก็ชื่อทีมของนายบนปกนิตยสารด้วย

    ถ้างั้นเธอก็ชอบการอัดรถล่ะสิเคซุเกะว่า ขณะที่ตาจับจ้องไปที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่เธอกลับหัวเราะหึๆ

    ก็นิดหน่อย

    มิน่า....เธอถึงสนใจอากากิ รู้อยู่แล้วล่ะสิว่าพวกเราจะไปซ้อมกันที่นั่น

    ก็ประมาณนั้น พอได้ยินว่าคืนนี้จะไปอากากิ ก็เดาได้อยู่แล้วว่าจะไปทำอะไรมิทสึยิ้มก่อนที่จะกล่าวต่อไปอีกอย่างคือ ไม่อยากอยู่ร่วมวงกับพวกผู้ใหญ่ด้วย มันน่าเบื่อ

    ชั้นกับพี่ก็ไม่อยากอยู่ด้วยเหมือนกันเคซุเกะเสริม ทันใดนั้นคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย ขณะที่สายตาจับจ้องไปที่กระจกหลัง

     



    แปลกแฮะ ชายหนุ่มพูดเสียงอู้อี้กับตัวเอง

    อะไรเหรอ

    เปล่าหรอก คือปกติแล้วพี่จะขับอยู่ใกล้มากกว่านี้นี่นา แต่ทำไมวันนี้...สายตาของเคซุเกะกลับไปที่กระจกหลังอีกครั้ง พี่เป็นอะไรไปนะ..

    มิทสึมองกระจกข้าง ไกลเกินไป....ไกลเกินกว่าที่จะเห็นความสามารถของเขาได้... หญิงสาวถอนหายใจ

    แย่จริง...

     



    มิทสึปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับความคิดที่หมุนเวียนอยู่ในหัวของเธอ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่นั่งข้างๆ เงียบผิดปกติ ทากาฮาชิ เคซุเกะจึงเอ่ยขึ้น

    เป็นอะไรรึเปล่า มิทสึ

    ไม่เป็นอะไร อีกไกลมั้ยกว่าจะถึงหญิงสาวยิ้ม มือโบกน้อยๆ เป็นเชิงบอกว่าไม่มีอะไรจริงๆ

    ไม่ไกลมากแล้วล่ะเคซุเกะตอบ

    อืมสายตาของมิทสึมองออกไปนอกหน้าต่าง ตอนนี้แสงสีรอบข้างทางน้อยลงกว่าตอนที่เพิ่งออกจากบ้านทากาฮาชิมาก ต้นไม้ดำทะมึนข้างทางนั้นแผ่กิ่งก้านปกคลุมถนนทั้งสองข้าง ดาวบนท้องฟ้าเห็นได้ชัดขึ้น เห็นได้ชัดว่าทั้งสองนั้นมาใกล้ภูเขาอากากิแล้วจริงๆ

    แล้วเคซุเกะซังก็เรียนคณะแพทย์ด้วยใช่มั้ย หญิงสาวถามขณะที่ดวงตายังจับจ้องไปยังทิวทัศน์ภายนอก

    ชั้นน่ะเหรอ? เปล่าหรอก ชั้นแค่เรียนโน่นนี่นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเองเคซุเกะตอบด้วยท่าทีสบายๆ

    แล้วจะไม่สืบต่อกิจการที่บ้านเหรอ?

    ไม่ล่ะ ชั้นจะไปเป็นนักแข่งรถมืออาชีพน่ะ


    สายตาของมิทสึละจากหน้าต่างกลับมาที่ชายหนุ่ม เธอสามารถรับรู้ได้ว่าคำตอบของเคซุเกะนั้นจริงจังขนาดไหน

     

     ดีมากเลยนะที่รู้ว่าจริงๆ แล้วตัวเองอยากจะเป็นอะไร มิทสึกล่าวด้วยน้ำเสียงปนเศร้า แต่รอยยิ้มยังปรากฏอยู่บนดวงหน้าของเธอในขณะที่สายตากลับไปอยู่ที่หน้าต่างอีกครั้ง

    แล้วเธอล่ะมิทสึ?”เคซุเกะถามกลับ

    ชั้นน่ะเหรอ? ก็ต้องเป็นหมออยู่แล้ว!” หญิงสาวหัวเราะ แต่เคซุเกะกลับรู้สึกประหลาดใจในท่าทีของเธอ

    ขำอะไรเหรอ?

    เปล่าหรอก มิทสึยิ้ม ก็ถ้าไม่เป็นหมอ ชั้นเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรเหมือนกัน ชั้นถึงบอกว่ามันดีไงที่รู้ว่าเราอยากจะเป็นอะไรกันแน่

    เคซุเกะยิ้มตอบ

    แล้ว..?

    หือ?

    แล้วเคซุกะซังคนดัง มีใครมาอยู่ข้างๆ แล้วรึยังเอ่ย?มิทสึถาม แต่คนถูกถามกลับมองเธออย่างประหลาดใจ

    เธอนี่ซื่อจริง

    หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ
    ก็นะ เธอกำลังรอคำตอบจากเขา แต่เมื่อเห็นว่าคนถูกถามไม่ยอมตอบ เธอจึงกระตุ้นเขาเล็กน้อย

    แล้ว...?

    ไม่มีหรอกเคซุเกะตอบห้วนๆ ชั้นไม่มีเวลาพอที่จะมาเถลไถลไร้สาระกับเรื่องแบบนี้หรอกนะ

    เถลไถลเหรอ? หญิงสาวทวนคำ คิ้วของเธอยักสูงขึ้น

    ชายหนุ่มผงกหัวเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แจงรายละเอียดอะไรให้เธอฟังอีก

    ไม่เบื่อแย่เหรอ?


    แต่ชายหนุ่มกลับหัวเราะหึๆ

    เอาน่า ชั้นรู้ดีว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องกับนักอัดรถ

    มิทสึอยากถามเขามากกว่านี้ แต่คำถามเหล่านั้นก็ไม่ได้หลุดออกมาเพราะว่าเธอยังไม่สนิทพอที่จะถามคำถามที่เป็นส่วนตัวขนาดนั้น เธอจึงเบี่ยงประเด็นเล็กน้อย

     


    แล้วเรียวซุเกะซังคิดเหมือนกันรึเปล่า

    คำตอบของเคซุเกะคือยักไหล่
    น่าจะนะ อ้อ พวกเรามาถึงตีนเขาแล้วล่ะชายหนุ่มกล่าวขณะที่ดวงตาสีน้ำตาลของเขาจับจ้องกลับไปยังพี่ชายของตนอีกครั้ง เขาอยู่ห่างไปหลายช่วงตัวทีเดียว...



    สนิทกันมากเลยนะมิทสึกล่าวเสียงนุ่ม

    เคซุเกะพยักหน้ารับ

    โชคดีมากเลยนะที่เกิดมาแล้วมีพี่ชาย

    ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ กล่าว น้ำเสียงของเธอดูเหงาๆ เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงพยายามปลอบเธอให้รู้สึกดีขึ้น

    เป็นลูกคนเดียวมันก็มีข้อดีเหมือนกันแหละเคซุเกะว่า

    มิทสึยิ้มรับ
    มันก็ถูก หญิงสาวตอบขณะที่ดวงตาสีน้ำเงินของเธอมองทิวทัศน์ข้างทางซึ่งมืดสนิทนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อความเงียบเข้าปกคลุมภายในรถอีกครั้ง เธอจึงเอ่ยทำลายมันเสีย

    ปกติแล้วที่อากากิมีรถมากรึเปล่า

    มีเยอะก็ในวันหยุดหรือไม่ก็วันที่พวกเรามีแข่งน่ะแหละเคซุเกะตอบ ขณะที่ดวงตานั้นกลับไปมองที่กระจกหลังอีกครั้ง แสงไฟหน้าของ FC ของเรียวซุเกะนั้นหายลับไปแล้ว ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้นกับพี่เขากันนะ?

    มีอะไรเหรอ?มิทสึถาม เมื่อเห็นท่าทีที่เป็นกังวลของเคซุเกะ เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มจึงปัดมันออกไปอย่างรวดเร็ว

    เปล่า ไม่มีอะไร เรามาถึงยอดแล้วล่ะเคซุเกะกล่าวเรียบๆ จากนั้นจึงพา FD เข้าไปจอดข้างๆ รถคันอื่นๆ ซึ่งมีอยู่ไม่มากนักในที่จอดรถของยอดเขาอากากิ ภายในลานจอดรถนั้นมีไฟหลวงส่องให้แสงสว่างอย่างสลัวๆ เท่านั้น ซึ่งเหล่าผู้คนที่อยู่ที่นี่อยู่แล้วต่างหันมาทางรถของเขาเป็นทางเดียว



    เมื่อเสียงกระหึ่มของเครื่องโรตารีได้เงียบลง เคซุเกะจึงอธิบายให้มิทสึฟังเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเธอมองคนที่ยืนอยู่อย่างประปรายอย่างสงสัย

    นี่คือสมาชิกที่เหลือของทีมเรดซัน ส่วนคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือคนขับของโปรเจคดี ทีมของพี่น่ะ

    โปรเจคดี? หญิงสาวเอ่ยทวน เมื่อได้ยินดังนั้นเคซุเกะจึงพยักหน้ารับ

    มานี่สิ จะแนะนำให้เธอได้รู้จักกับทุกๆคนก่อนที่พี่จะมาถึง แล้วเราจะได้เริ่มซ้อมกันเลย

     



    ทั้งสองคนลงจากรถ เคซุเกะโบกมือให้กับทุกคนแล้วก็ไปเข้าร่วมวงสนทนาของสต๊าฟทีม เขาแนะนำให้มิทสึได้รู้จักกับเพื่อนของเขาทีละคนๆ
    นี่คือฟูจิวาระ ทาคุมิจากโปรเจคดี เคซุเกะกล่าวขณะที่ผายมือไปทางทาคุมิที่ยิ้มรับอย่างสุภาพ

    ยินดีที่ได้รู้จักค่ะหญิงสาวกล่าวขณะจับมือกับนักขับของโปรเจคดี ยังเด็กๆ อยู่เลยนี่นา.... เธอคิด

    ทาคุมิพยักหน้าอย่างอ่อนน้อมก่อนที่มิทสึจะเห็นว่าสีชมพูนั้นระบายขึ้นมาบนแก้มของเขา เมื่อเธอสัมผัสมือกับชายหนุ่ม

    น่ารักแฮะ... มิทสึยิ้มก่อนที่จะหันไปทางต้นเสียงของเครื่องโรตารีซึ่งเพิ่งปรากฏร่างอย่างช้าๆ เข้ามาในบริเวณลานจอดรถ



    FC สีขาวที่มีชื่อเสียงนั้นเข้ามาหยุดข้างๆ รถรุ่นเดียวกันซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่กว่า เมื่อเครื่องยนต์ได้หยุดทำงานแล้วนั้น ทากาฮาชิ เรียวซุเกะจึงก้าวออกมาจากรถ เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว สมาชิกทีมก็ได้หยุดการสนทนาและหันไปทางหัวหน้าทีมที่เป็นที่เคารพยิ่งของตน

    มิทสึมองสต๊าฟของโปรเจคดีและสมาชิกของทีมเรดซันซึ่งสายตาของทุกคนนั้นไปรวมอยู่กันที่เรียวซุเกะ ทุกๆ คนกำลังรอให้เขาพูดอยู่ ทุกคนดูท่าทางให้ความเคารพเขามาก ไม่เว้นแม้แต่คนที่ดูท่าทางอายุมากกว่าตัวเขาเอง ใบหน้าของชายหนุ่มนั้นไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ ในขณะที่กริยาท่าทางนั้นกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง และการเคลื่อนไหวนั้นก็เป็นลักษณะเฉพาะของคนที่มีความเก่งกาจเป็นพิเศษอย่างเขาเท่านั้น



    ประชุมวันนี้จะสั้นกว่าปกตินิดหน่อยนะ เคนตะ มานี่ ชั้นจะพูดกับนายก่อนเรียวซุเกะกล่าวกับเด็กหนุ่มผิวเข้ม ท่าทางอายุประมาณ19-20 ...อาจจะเท่ากับเคซุเกะหรืออ่อนกว่านิดหน่อย....มิทสึคิด เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว เคนตะจึงเดินตามเรียวซุเกะไปยัง S14 ของเขาซึ่งจอดอยู่ข้างๆ FD จากนั้นชายหนุ่มร่างสูงจึงหยิบแลปทอปของตนออกมาแล้วพูดคุยและให้คำแนะนำกับเด็กหนุ่มคนนั้น เมื่อเรียวซุเกะให้คำแนะนำเสร็จ เคนตะก็เข้าไปในรถแล้วก็เริ่มออกวิ่งทันที หลังจากนั้นสมาชิกในทีมก็ได้รับคำแนะนำทีละคนๆ เหมือนกับที่เคนตะได้รับ ทำอย่างกับมืออาชีพแน่ะ....มิทสึคิดในใจ ขณะที่ดวงตาของเธอนั้นจับจ้องอยู่ที่เรียวซุเกะอยู่ตลอดเวลา ในที่สุดก็ถึงตาของเคซุเกะในการรับคำแนะนำจากพี่ชายของตน

     



    งั้นเดี๋ยวจะไปยืนดูวิวตรงรั้วกั้นถนนนั่นหน่อยนะมิทสึกล่าว จากนั้นจึงเดินไปจากชายหนุ่มผมทองเมื่อพี่ชายของเขาเรียก

    เคซุเกะเดินเข้าไปหาพี่ชายของตน และฟังคำแนะนำอย่างตั้งใจก่อนที่จะนำ
    FD พุ่งทะยานไปยังถนนในเขาอากากิเช่นกัน

     



    เมื่อเสร็จสิ้นการให้คำแนะนำแล้ว เรียวซุเกะจึงเดินเข้าไปหารถตู้ 2 คันซึ่งจอดอยู่ใกล้ๆ รั้วกั้นถนนก่อนที่จะพูดคุยกับเหล่าสต๊าฟ เขาเปิดแลปทอปและชี้แจงรายละเอียดต่างๆ อย่างเช่นทุกครั้ง



    น่ารักไม่เบาเลยนะเนี่ย เรียวซุเกะได้ยินสต๊าฟของเขาคนหนึ่งกล่าว เขาหายใจเข้าลึกๆ แล้วหายใจออกยาวๆ ..เย็นไว้ และแล้วเคนตะก็ปรากฏตัวอีกครั้ง เรียวซุเกะจึงเดินเข้าไปพูดคุยด้วย

    มิทสึยืนมองเรียวซุเกะจากทางหางตาของเธอ เป็นคนที่มีเสน่ห์มากกว่าที่เคยได้ยินมาซะอีก แต่ก็ดูลึกลับมากกว่าที่คิดเช่นกัน เธอคิด



    เธอก็เหมือนกันเหรอ? เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นข้างๆ หญิงสาว

    มิทสึหมุนตัวไปหาต้นเสียง เธอยิ้มให้กับชายเจ้าของเสียงซึ่งเข้ามายืนข้างๆ เธอ สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่เรียวซุเกะเช่นกัน

    อะไรนะคะ? หญิงสาวถามอย่างงงงวยเมื่อได้ยินคำถามแปลกๆ จากชายคนนั้น

    ฟูมิฮิโระหันมามองเธอด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะพยักเพยิดไปทางเรียวซุเกะ ฟูมิฮิโระเป็นหนึ่งในสต๊าฟของโปรเจคดีและเรดซัน เขารู้จักกับเรียวซุเกะมานานและเรียวซุเกะก็ให้ความไว้วางใจเขามากเช่นกัน นอกจากนี้ชายคนนี้ก็ยังทำหน้าที่เป็นโฆษกของทีมอีกด้วย

    เป็นแฟนคลับของเรียวซุเกะด้วยล่ะสิเรา เขากล่าวอย่างอารมณ์ดี

    มิทสึเลิกคิ้วอย่างสงสัย
    ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะคะ

    ก็มองเขาอยู่ไม่ใช่เหรอฟูมิฮิโระตอบ

    เพราะว่าอยากจะรู้ว่าเขาพูดอะไรกับทุกคนบ้างต่างหากค่ะ มิทสึชี้แจง


    งั้นเหรอเขาตอบสั้นๆ น้ำเสียงมีความเคลือบแคลงปนอยู่เล็กน้อย ดูท่าทางเป็นคนดีนะเรา งั้นชั้นมีอะไรดีๆ จะบอกให้

    มิทสึพยักหน้าอย่างสงสัย

    ฟูมิฮิโระจ้องมองเรียวซุเกะซึ่งกำลังประชุมอยู่กับเหล่าสต๊าฟของโปรเจคดีแวบหนึ่งก่อนที่ดวงตาของเขาจะมาสบตากับหญิงสาว
    อย่าเข้าใกล้เขามากเกินไปก็แล้วกัน ทากาฮาชิ เรียวซุเกะไม่ได้มีฉายาดาวหางสีขาวแห่งอากากิผู้เดียวดายแต่ชื่อหรอกนะ

    เมื่อได้ยินคำพูดเตือนแปลกๆ ของฟูมิฮิโระแล้วนั้น หญิงสาวจึงมองฟูมิฮิโระอย่างงงๆก่อนที่จะกล่าวชี้แจง

    คิดว่าคงเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ ชั้นไม่ได้สนใจเรียวซุเกะซังแบบนั้น

    แต่ฟูมิฮิโระกลับเพียงยิ้มรับน้อยๆ
    จำที่ชั้นพูดไว้ให้ดีก็แล้วกัน



    เมื่อพูดจบ เขาก็เดินจากมิทสึกลับไปยังกลุ่มของสต๊าฟโปรเจคดีซึ่งกำลังสาละวนอยู่กับการเก็บข้อมูลของรถคันอื่นๆ อยู่ เธอมองเขาเดินจากไป แล้วจึงหันไปมองเรียวซุเกะซึ่งกำลังยืนคุยกับเคนตะแวบหนึ่งก่อนที่จะไปหยุดอยู่ที่วิวของภูเขาอากากิตรงหน้าอีกครั้ง จากที่นี่สามารถเห็นแสงสีของเมืองที่อยู่ลิบๆ ได้ ที่นี่วิวสวยสมกับที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่หนึ่งของอากากิเลยทีเดียว



    ความคิดต่างๆ นั้นหมุนวนอยู่ภายในหัวของหญิงสาว ...ทำไมเขาต้องมาเตือนเธอเรื่องทากาฮาชิ เรียวซุเกะด้วย? ตามเรียวซุเกะงั้นเหรอ? เฮอะ
    ! เธอยังรู้จักเขาเพียงแค่นิดเดียวเองเท่านั้น! แต่แล้วความคิดต่างๆ ก็ต้องฟุ้งกระจายเมื่อเสียงทุ้มหนักเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆ เธอ

    ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ บ้างล่ะ?

    หญิงสาวสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงต่ำๆ ของเรียวซุเกะ

    ชายหนุ่มเจ้าของเสียงก้าวมายืนข้างๆ เธอ สายตานั้นทอดยาวไปไกลยังหุบเขาเบื้องล่างก่อนที่จะมาหยุดที่หญิงสาวซึ่งอยู่ข้างๆ ตัว

    คุณทำให้ชั้นกลัวนะ!” คนที่สะดุ้งกล่าวอย่างไม่พอใจก่อนที่จะสูดลมเข้าลึกๆ

    ชายหนุ่มมองหญิงสาวแวบหนึ่งก่อนที่จะกลับไปยังสมาชิกในทีมอีกครั้ง

    โอเคๆ งั้นชั้นไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจไม่ทราบมิทสึถามอย่างท้าทาย ดวงตาสีน้ำเงินของเธอจับจ้องไปยังเรียวซุเกะ แต่คนถูกจ้องกลับไม่ใส่ใจ เขาหยิบแลปทอปของตนขึ้นมาและเริ่มต้นคีย์ข้อมูลต่างๆ อย่างที่เคยทำ

    คุณเป็นคนที่หยาบคายมาก หญิงสาวต่อว่า ความหงุดหงิดได้ก่อตัวขึ้นภายในจิตใจของเธอ มันเกิดอะไรขึ้นกัน? เขาไม่ใช่เหรอที่ควรจะเป็นคนเทคแคร์เธอในวันนี้ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะหันไปมองกลุ่มสต๊าฟของโปรเจคดีอีกครั้ง

     

    เรียวซุเกะมองหญิงสาวอย่างระมัดระวัง คราวนี้อะไรอีกล่ะ..? ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ เขานั้นกำลังมองดูทีมของเขาอย่างพินิจพิจารณาและเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีค่าเอาไว้

    มีอะไรน่าสนใจรึ? ชายหนุ่มเริ่ม

    กว่าจะขยับปากพูดได้ซะทีนะมิทสึกล่าวขณะมองเขาด้วยหางตา มีค่ะ วิวที่นี่สวยมากเลย

    เธอขับรถอะไรเหรอเรียวซุเกะไม่ใส่ใจในกริยาของหญิงสาว

    มิทสึขมวดคิ้วกับคำถามที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้รับมาก่อน แต่หญิงสาวกลับยักไหล่
    ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ

    ถ้างั้นเธอก็ไม่รู้เรื่อง....เรียวซุเกะหมายถึงการอัดรถ

    หญิงสาวหัวเราะก่อนที่จะกลอกตาไปมา
    ใช่ ประมาณนั้น

    แต่เรียวซุเกะกลับเลิกคิ้ว

    มิทสึรู้สึกได้ถึงความสงสัยที่ก่อตัวขึ้นภายในตัวของชายหนุ่ม ...เกือบไปแล้ว... เมื่ออยู่ต่อหน้าคนๆ นี้ เธอจะต้องระมัดระวังตัวให้มาก ไม่อย่างนั้นเขาก็จะรู้ในทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอพยายามปิดบังอยู่แน่ๆ

    ขอตัวก่อนนะ ชายหนุ่มกล่าวขณะที่เดินกลับไปหาลูกทีม

    มิทสึถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความกังวลและความตื่นเต้นค่อยบรรเทาลงหลังจากที่ชายหนุ่มข้างตัวได้เดินจากไป ...ฉลาดเหลือเกิน ... เธอจะต้องระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้ ความรู้สึกที่ว่าเขาได้ล่วงรู้ความลับของเธอแล้วนั้นก่อตัวขึ้นมาภายในจิตใจของเธอ ..แย่.... หญิงสาวก้าวข้ามรั้วกั้นถนนก่อนที่จะนั่งลงและถอนหายใจอีกครั้ง สิ่งสำคัญที่เธอจะต้องทำคือต้องไม่ให้เขาได้ล่วงรู้ความลับของเธอและสงสัยในตัวเธอเป็นอันขาด ซึ่งมันก็ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจมากเมื่อทากาฮาชิ เรียวซุเกะนั้นไม่ได้มาหาเธออีกเลย จนกระทั่งเธอและเขากลับมาถึงบ้าน ซึ่งเขาก็เพียงแค่กล่าวคำอำลาอย่างสุภาพกับเธอและครอบครัวของเธอเท่านั้น


    เมื่อกล่าวคำอำลาเสร็จแล้ว หญิงสาวจึงตามพ่อแม่ของตนไปขึ้นรถซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านทากาฮาชิ เมื่อรถได้ออกตัวและวิ่งผ่านแสงสีต่างๆ ของเมือง ฟุโคโตมิ โยโกะก็ได้เอ่ยทำลายความเงียบ

    สนุกมั้ยลูก

    ค่ะ สนุกมาก แต่หนูยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมวันนี้หนูถึงอยู่ที่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ มิทสึกล่าว

    พ่อก็แค่อยากให้ลูกได้เจอกับเพื่อนของพ่อแล้วก็ครอบครัวของเขาเท่านั้นแหละมาซาโอะว่าขณะที่ตามองลูกสาวของตนผ่านทางกระจกหลัง

    หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะหันไปมองวิวนอกหน้าต่างของรถ..



    พี่...พี่ยังตื่นอยู่รึเปล่า เคซุเกะเรียกพี่ชายของตนขณะที่มือเคาะประตูห้องอย่างแผ่วเบา

    ตื่นอยู่ เข้ามาสิเคซุเกะชายหนุ่มเจ้าของห้องกล่าวรับ

    ทากาฮาชิคนน้องเดินเข้าไปในห้องของพี่ชายก่อนที่จะนั่งลงบนเตียง สายตาของเขาจับจ้องไปยังเรียวซุเกะซึ่งกำลังพิมพ์ข้อมูลลงยังแลปทอปสีเงินของเขาอย่างที่เขาเคยเห็นจนชินตา

    ทำอะไรอยู่เหรอพี่

    วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มาในคืนนี้ เรียวซุเกะตอบเรียบๆ ในขณะที่สายตายังไม่ละไปจากหน้าจอ

    อ้อชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียงตอบรับ ก่อนที่จะเริ่มจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาในการเข้ามาหาพี่ของเขาในคืนนี้ แล้วพี่คิดว่ามิทสึจังเป็นยังไงบ้าง?

    นิ้วของเรียวซุเกะหยุดเคลื่อนไหวในทันที ก่อนที่เจ้าของนิ้วนั้นจะหมุนเก้าอี้มาหาน้องชายของตน เขาหรี่ตามองเคซุเกะเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวอย่างเรียบๆ

    เวลาอยู่กับเธอ จะพูดอะไรก็ระวังด้วยละกันเคซุเกะ เธอรู้ดีว่าเราเป็นใคร

    เคซุเกะขมวดคิ้ว
    ผมรู้น่าพี่ เธอบอกว่าเธอรู้จักเราอยู่แล้วตอนที่ขับไปอากากิ ชายหนุ่มเอียงคออย่างฉงน ทำไมเหรอพี่?

    มีข้อสงสัยในตัวเธอนิดหน่อย แต่ชั้นก็อยากจะสืบดูให้แน่ใจก่อน ทากาฮาชิคนพี่ตอบ จากนั้นจึงหมุนตัวกลับไปยังแลปทอปของตนเองเหมือนเดิม

    เกี่ยวกับมิทสึน่ะเหรอ?

    แต่คำถามนี้ก็ไม่มีคำตอบออกมาจากคนที่จะต้องตอบ เคซุเกะจึงกล่าวต่อ

    เธอดูดีออก

    เธอรู้อะไรๆ มากกว่าที่เธอพูดออกมาเยอะ เคซุเกะ เรียวซุเกะสวน ประกายไฟของการท้าทายที่ฉายชัดในแววตาของเธอมันคือข้อพิสูจน์เรื่องนี้ได้อย่างดีทีเดียว...

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    สวัสดีค่ะทุกท่าน! ในสุดผลงานอันนี้ก็ได้ออกมาให้ทุกท่านได้อ่านกันซักที ฟิึคนี้เป็นฟิึคของคนแคนาดาที่เราได้อ่านเมื่อตอนปลายเดือนมกรา (ซึ่งอีกเดือนนึงก็จะสอบโอเนตเอเนต เวร..) เราอ่านแล้วติดมากๆ นั่งอ่านทั้งวันไม่ยอมไปไหนเลย คนเขียนเขียนได้ชวนให้ติดตามและสร้างปมไว้ดีมาก เราชอบมากๆ เลยเอามาแปลให้อ่านกันค่ะ กว่าจะแปลตอนนี้เสร็จก็ล่อไปเกือบอาทิตย์พอดี บอกตรงๆ ว่าเหนื่อยมากแล้วมันก็เป็นฟิคที่ยาวมาก (แต่ก็จะทำ 55+)ยังไงๆ ก็ขอให้ช่วยติดตามด้วยนะคะ! ขอบคุณมากๆ ค่ะ

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับฟิคนี้

    ในฟิคนี้จะมีคำศัพท์ที่เกี่ยวกับรถเยอะมาก ซึ่งถ้าใครไม่เคยอ่านการ์ตูนมาก่อนล่ะก็ต้องงงแน่ๆ เลย แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เราได้ลงรูปของรถที่ปรากฏอยู่ในเรื่องนไว้แล้วค่า

    รูปของ Mazda Rx-7 FC3S หรือที่เรียกว่า FCของเรียวซุเกะ


    รูปของ Mazda Rx-7 FD3S หรือที่เรียกว่า FD ของเคซุเกะ


    รูปของ Nissan silvia หรือที่เรียกว่า S14 ของเคนตะ




    ฟิคนี้เป็นฟิคที่มีรถเยอะมากเลย เป็นธีมหลักของเรื่องนี้เลยล่ะค่ะ ไว้คราวหน้าจะมาอัพรูปของเรียวซุเกะ เคซุเกะ และมิทสึให้ทุกท่านได้ยลโฉมกันนะคะ แล้วเจอกันค่ะ ^^/

    Original Author : CelicaChik
    Original fiction's url ::
    http://www.fanfiction.net/s/2111166/1/

    ปล.คนเขียนมี Celica อยู่คันนึงด้วย แต่รู้สึกว่าจะเจออุบัติเหตุจนพังไปแล้ว ไว้จะแปลตอนที่ CelicaChik เค้าทิ้งข้อความคุยกับคนอ่านนิดนึงมาให้อ่านกันค่ะ! (คงเป็นอีกหลายๆ ตอนจากนี้แหละ) อาจจะใช้เวลาซักนิดกว่าจะอัพตอนใหม่ ไงๆ ก็ขอให้ติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×