คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CRY 1 เริ่ม
CRY 1 เริ่ม
เช้าวันจันทร์ อากาศที่สดใส มิกส์ เด็กหนุ่มหน้าใส จิตใจน่ารัก ได้ตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพราะวันนี้คือวันเปิดเทอมวันแรกของเขา นั่นเอง
มิกส์ เด็กหนุ่มผู้ที่มีความสุข สดใจ ร่าเริง เป็นลูกชายคนโตของครอบครัว จิราชิวุฒนกุล มีน้อง 2 คน หญิง 1 ชาย 1 ผู้หญิงชื่อ มิวส์ ส่วนน้องชายคนเล็กชื่อ แม็กส์ ทั้ง 3 คนนั้นมีนิสัยที่แตกต่างกันมากโดยสินเชิง มิกส์ เป็นคนที่ดูอ่อนโยนไปกับทุกสิ่ง ช่างพูดช่างคุย เป็นคนรักครอบครัว เรียนเก่ง และเป็นนักกีฬาของโรงเรียนด้วย มิวส์ เป็นคนที่ชอบแกล้ง ล้อเรียนคนอื่นๆ ส่วนแม็กส์ เป็นคนที่เงียบ ขรึม ไม่ค่อยพูดเท่าไร
“แม่ครั... อุ๊บ ตึกๆ ๆ ๆ ๆ โครม”
“มิกส์! เป็นอะไรไหมลูก”
“ไม่เป็นไรครับ แฮะๆๆๆ มิกส์แค่มันทันดูก็เลยสะดุดขาตัวเอง คงเพราะรีบด้วยละครับ กลัวไปโรงเรียนวันแรกสายนะครับ”
“เสียงอะไรตกอะแม่ อ้าวพี่มิกส์ลงไปนั่งจับกบอะไรอยู่ตรงนั้นนะ” มิวส์น้องสวยตัวแสบของผม พอเห็นผมนั่งจุมปุกอยุ่ที่พื้นบันได ก็ล้อเลียนผมเลยครับ
“มิวส์ขอโทษพี่เข้าเดียวนี้นะ พูดอะไรออกมานะ พี่มิกส์เขาเจ็บอย่นะ ยังจะมาล้อพี่เขาอีก ป่ะมิกส์ลูก ไปกินข้าวกัน ลุกไหวไหม”
“แม่อ่ะ”
“อะไร ไม่ขอโทษพี่แล้วยังจะมาขึ้นเสียงกับแม่อีกนะ ไม่งั้นก็ไปเรียกน้องลงมากินข้าวไป” น้องสาวผมหน้าเจื่ยนเลยครับโดนแม่ว่าให้ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเริ่มเจ็บแป้บๆขึ้นมาแล้วละครับ แต่ก็ต้องรีบลุกครับ เดียวสายต้องรีบกินข้าวอีกครับ
กินข้าวเสร็จสับ ผมว่าจะรีบไปโรงเรียน เพราะไม่อยากสายตั้งแต่วันแรกนะครับ เพราะตอนนี้ก็สายมาแล้ว เพาะตอนที่ลงมาข้างล่างผมตกลงจากบันได แล้วทำให้ช้าไปครับ พอจะรีบเดินออกไปพ่อผมก็เรียกเอาไว้ครับ
“เดียวก่อนมิกส์ รอแป๊บนึงลูก อย่าพึ่งไป”
“เดียวมิกส์สายนะพ่อ กลัวไม่ทันรถรอบแรกอ่ะ เดียวพ่อก็ต้องไปเตรียมเปิดร้านไม่ใช่หรอไงครับ” พ่อของผมเปิดร้านขายอาหารตามสั่งครับ ส่วนแม่ของผมเป็นพนักงานบริษัทเกี่ยวกับเรื่องผิวพรรณครับ
“น่านะ แป๊บเดี๊ยวเดียวพ่อไปเอากล้องก่อนละ เรามาถ่ายรูปครอบครัวของเรา และวันแรกที่มิกส์เปิดเรียนไง”
“ครับ แต่พ่อก็ถ่ายทุกปี แต่ละปีวันแรกของผมก็สายตลอดเลยนะครับ”
ผมพูดเสร็จพ่อของผมก็ไปเอากล้องมาถ่ายรูปหมู่ของครอบครัวของเราครับ
“มาทุกคน มาถ่ายรูปกัน เอาละ กดแล้วนะ” ตี๊ดดดดดดดดดดด
“พ่อครับเร็วๆครับ เดียวไม่ทันนะ” พอพอ่ผมกดที่ชัดเตอร์ก็รีบวิ่งมาเพื่อที่จะถ่ายรูปครับ
แชะ!
“โอเค เดียวพ่อไปดูรูปแป๊บนะ”
“เป็นไงบ้างค่ะคุณ สวยไหม”
“โอเคสวยมากเลย เอาละลูกๆทุกคนเดินทางไปเรียนได้ครับ” กว่าจะปล่อยให้ไปเรียนได้นะครับอิอิ พ่อผมก็เป็นซะแบบนี้ละครับ แกชอบถ่ายรูปครับ
“ครับผม มิกส์ไปเรียนก่อนนะครับ” ผมก็รีบวิ่งเลยครับ กลัวไปไม่ทันรถรอบแรกครับ
ตุ๊บ!
“โอ๊ย! เอาอีกแล้ว ลงจนได้นะ”
“มิกส์เป็นอะไรไหมลูก แม่บอกแล้วว่าอย่าวิ่ง”
“ก็มิกส์กลัวไปโรงเรียนไม่ทันนะครับแม่ แต่ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ ถลอกนิดหน่อยครับ”
“คราวหน้าคราวหลังนะถึงรีบก็อย่าวิ่งนะลูก เดียวเกิดแข่งขาหักไปจะทำไง”
“ครับ แต่ก็ไม่เป็นไรนิครับ งั้นมิกส์ไปเรียนก่อนนะครับ” มิกส์ของเรายังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าโรคร้ายที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเริ่มที่จะแสดงผลออกมาแล้วครับ
“รอด้วยครับ หว่ามาไม่ทันจนได้สินะเรา สายตั้งแต่วันแรกอีกแล้ว ยังไงก็ต้องรอรอบต่อไปละสินะ”
เอี๊ยดดดดด!
“อ้าวมิกส์ยังไม่ไปโรงเรียนอีกหรอ”
“ยังอ่ะเรามาไม่ทันรถรอบแรกนะ แล้วนนท์ละจะไปไหน ไม่ไปเรียนไง” นนท์เพื่อนสนิทที่สุดของมิกส์ ทั้งสองเรียนห้องเดียวกันตั้งแต่ม.1จนมาถึงม.4ก็ยังได้อยุ่ห้องเดียวกัน
“เราว่าจะไปเรียนสายๆหน่อยนะ เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของพี่ชายเรานะ แต่ดันมาตรงกับวันเปิดเรียนวันแรกเอาซะได้นะ”
“อ้าวหรอ ยังไงก็ขับรถดีดีละระวังๆด้วยละ ช่วงนี้รถรามันเยอะเพราะเป็นวันเปิดเรียนวันแรกด้วย ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”
“อืม ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้างั้นเราไปก่อนนะ”
“โอเค แล้วเจอกันที่โรงเรียนนะ” พอนนท์ขับรถออกไปแล้วผมก็ต้องมายืนรอรถบัสประจำทางต่อไปครับ
รอไม่นานรถบัสก็มาครับ ขึ้นรถมาก็หาที่นั่งเลยครับ แต่รู้สึกว่าจะไม่ได้นั่งครับเพราะคนมันนั่งเต็มไปหมดแล้วครับ แต่ถ้าจะรอคันต่อไปคงไม่ทันคาบเรียนคาบแรกแน่เลยครับ เลยตัดสินใจยืนซะเลยครับ
ยืนบนรถจนมาถึงโรงเรียนครับ ผมก็รีบเดินลงจากรถเลยครับ เพราะได้ยินเสียงอ๊อดเข้าห้องแล้วครับ มาวันแรกผมก็ไม่ทันเข้าแถวอีกตามเคยครับ
“มิกส์ วันนี้ก็มาสายอีกตามเคยนะ” เบส เพื่อนผู้หญิงที่ผมสนิทที่สุดในห้องทักขึ้นครับ
“ก็เรามาไม่ทันรถรอบแรกนะ เลยต้องรอรถรอบต่อไปเลยมาสายนะ” ผมรีบตอบเบสทันทีครับ
“อืม แต่ก็ดีแล้วละที่มาทันคาบเรียนคาบแรก แต่เราว่าอาจารย์คงไม่สอนหรอกมั่ง เพร้เปิดเทอมวันแรกทีไรก็ไม่มีการสอนหรอ นอกเสียจากให้นะนำชื่อแล้วก็เพื่อนใหม่ในห้องก็เท่านั้นละนะ”
จริงอย่างที่เบสบอกครับ เพราะวันนี้เป็นวันแรกของการเรียนอาจารย์เลยไม่สอนมากเท่าไรครับ แต่อาจารย์ให้พวกเราแนะนำชื่อแล้วทำความรู้จักกัน ทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ครับ
พักเที่ยงวันนี้ ผมกับเบสก็พากันลงมากินข้าวกันครับ คิดขึ้นได้ว่าลืมใครไป นนท์นั้นเองครับ ตั้งแต่แยกจ้านนท์ที่ป้ายรถประจำทางจนพักเที่ยงผมยังไม่เห็นนนท์เลยครับ หายไปไหนของเขานะ รู้ไหมว่าเพื่อนเขาเป็นห่วงนะ
“มิกส์เป็นอะไรไปอ่ะ นั่งเหม่อลอยอยู่ได้ รีบกินได้แล้วข้าวอ่ะเดียวก็จะขึ้นเรียนแล้วนะ” ผมนั่งเหม่อลอยคิดเป็นห่วงนนท์มากไปหน่อยครับ เบสเลยทักผมให้หลุดออกจากภวังค์ห้วงความคิดของผมครับ
“อืม เราแค่คิดอะไรนิดหน่อยนะไม่มีอะไรหรอก”
“อ่ะจ่ะ แต่ก็นั่งเหม่อลอยมองไปไหนก็ไม่รู้เราเรียกตั้งนาน แล้วนี้นั่งเหม่อลอยถึงใครนิ”
“ก็จะใครซะอีกละก็นนท์ไง วันนี้เรายังไม่เห็นนนท์เลยตั้งแต่แยกกันที่ป้ายรถประจำทางนะ ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน แล้วก็วันนี้ก็เป็นวันครบรอบวันตายพี่ของนนท์ด้วยนะ” ผมรายให้เบสฟังซะยาวเลยครับ ก็คนมันเป็นห่วงเพื่อนนิครับ
“อ้าวหรอ เราก็ลืมไปเลยนะเนี่ย เดียวก็คงมาละเราว่านะ”
“อืม หวังว่าคงจะมานะ”
กินข้าวเสร็จผมกับเบสก็ขึ้นห้องเรียนเพื่อไปรอเรียนวิชาต่อไปครับ วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากมายครับ จนเลกเรียนผมก็ไม่เห็นนนท์เลยครับ ชักจะเป็นห่วงขึ้นมาแล้วสิ เพื่อนหาไปแบบนี้ใจไม่ดีเลย กลัวเกิดอะไรขึ้นแบบที่ไม่ได้คาดคิดจังนะ
‘ขออย่าให้อย่าให้นนท์เป็นอะไรไปเลยนะ’ ด้วยความเป็นห่วงเพืท่อนผมก็ได้แค่ภาวนาขอไม่ให้เพื่อนเป็นอะไร
ผมว่าจะไปตามหานนท์นะครับ แต่ก็ไม่ได้ไปเพราะวันนี้ต้องไปพบหมอเพื่อทำการตรวจร่างกายครับ ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไรครับ เจ็บ ออดๆ แอดๆ ตั้งแต่เด็กแล้วครับ นึกขึ้นได้ก็เลยเดินมารอรถที่หน้าโรงเรียน เพื่อที่จะได้ไปหาหทอเพื่อทำการตรวจสุขภาพร่างกายครับ
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ครับ ขอบคุณมากครับคุณหมอ” พอหมอตรวจเสร็จผมก็ขอบคุณแล้วก็เตรียมตัวกลับบ้านครับ
“จ้า ไม่เป็นไร”
“ครับผม ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะครับ”
“จ้า ยังไงก็กลับบ้านดีดีละน้องมิกส์” พอลาคุณหมอประจำตัวของผมแล้ว ผมก็รีบตรงดิ่งกลับบ้านทันทีครับ
ที่รีบกลับก็ไม่ใช่เรื่องรีบร้อนอะไรหรอครับ ก็เพราะบ้านของผมจะถือธรรมเนียมการกินข้าวว่าต้องกินข้าวพร้อมกันเสมอครับ ไม่ว่าใครจะทำอะไรก็ต้องรีบมาที่โต๊ะอาหารเพื่อที่จะได้กินข้าวพร้อมกันครับ
“กลับมาแล้วครับ ทุกคน อ้า! หอมจังเลยครับแม่ วันนี้แม่ทำอะไรกินครับ” มาถึงปุ๊บผมก็ตรงดิ่งเดินมาที่ครัวทันทีครับ เพราะได้กินหอมของอาหารมื้อเย็นวันนี้ที่แม่ผมทำครับ
“กลับมาแล้วหรอลูก วันนี้แม่ทำผัดพริกขิงของโปรดของลูกด้วยนะ เอ่อแล้ววันนี้เป็นไงบ้าง เรียนวันแรกได้เพื่อนใหม่เยอะป่ะเรา”
“ว้าว! วันนี้ได้ทานของโปรดด้วย ส่วนเรื่องเรียนวันนี้ก็ไม่มีอะไรมากครับ อาจารย์ไม่สอนเท่าไรครับ เพื่อนใหม่ก็มีบ้างครับ วันแรกของการเรียนก็แบบนี้แหละครับ”
“จ้า แล้ววันนี้ไปตรวจสุขภาพหมอว่ายังไงบ้างลูก”
“ก็บอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แข็งแรงดีครับ” หมอนี้ก็แปลกนะครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรมากก็ต้องให้ไปตรวจทุกเดือนเลย ไม่รู้จะตรวจไปทำไม ตรวจทีไรก็บอกว่าแข็งแรงดีไม่เป็นอะไร
“ดีแล้วที่ไม่ได้เป็นอะไร ถ้าอย่างนั้นมาช่วยแม่ยกกับข้าวไปตั้งโต๊ะหน่อยนะ” โดนใช้อีกแล้วครับ
“ครับผม”
เพล้ง! “โอ๊ย!”
“มิกส์ เป็นอะไรไหมลูก”
“ไม่เป็นไรครับ ดีที่ไม่โดนลวกอะครับ เกือบไปแล้ว ทำไมเราซุ้มซ้ามแบบนี้นะ”
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว งั้นเดียวแม่ทำเองนะ มิกส์รีบขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะนะ ลงมาก็อย่าลืมเรียกเจ้ามิวส์กับเจ้าแม็กส์ลงมากินข้าวด้วยละ เดียวทางนี้แม่จัดการเองนะ”
“ครับผม ถ้าอย่างนั้นมิกส์ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ”
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จผมก็เดินลงมาเพื่อจะกินข้าว แต่ก็ไม่ลืมเรียกเจ้าตัวแสบสองตัวนะครับ
“มิวส์ แม็กส์ ลงไปกินข้าวได้แล้วนะ ใครไม่ลงไปพี่กินหมดก่อนไม่รู้ด้วยนะ” มิวส์กับแม็กส์นั้นเป้นคนที่ขี้เกียจนิดๆครับ ถ้าไม่เรียกให้ลงไปกินข้าวก็จะอยู่แต่ในห้องของใครของมันครับ แล้วสองคนนี้เวลาผมเรียกให้ไปกินข้าวผมต้องมีอะไรมาล้อหรือไม่ก็บอกว่าผมจะกินให้หมดครับ
“พี่มิกส์ รอมิวส์ด้วย”
“พี่มิกส์อย่ากินหมดก่อนแม็กส์นะ เดียวแม็กส์ตามลงไป” นั้นไงครับ พูดยังไม่ทันขาดคำดีเลยครับ
กินข้าวปลาอาหารเสร็จผมก็มานั่งดูทีวีกับพ่อครับ ดูละครหลังข่าวจบผมก็ขึ้นห้องเพื่อที่จะไปเขียนไดอารี่ต่อครับ
ไม่รู้ว่าผมเป็นอะไรนะครับถ้าไม่ได้เขียนไดอารี่ผมรู้สึกว่ามันขาดอะไรไปนะครับ ไม่รุ้สิครับคงเพราะเราเขียนมานานตั้งแต่เด็กๆแล้วมั่งครับ มันเลยติดการเขียนไดอารี่มาจนถึงทุกวันนี้ครับ
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
“เข้ามาเลยครับห้องไม่ได้ล็อค”
“มิกส์ยังไม่นอนอีกหรอลูก แล้วนั้นนั่งทำไรอยุ่จ่ะ”
“ยังครับ อ่อนี้หรอครับ ผมก็นั่งเขียนไดอารี่อยู่นะครับ”
“อืมจ่ะ แม่เอานมมาให้นะ กินแล้วก้นอนซะนะตอนนี้ก็ดึกแล้วเดียวพรุ่งนี้ไปเรียนสายนะ”
“ครับผม ผมเขียนอีกนิดหน่อยก็เสร็จแล้วครับ อ่อแล้วก้ขอบคุณสำหรับนมอุ่นๆด้วยนะครับ”
“จ้า รีบรีบนอนละ แม่ไปก่อนละ”
“ครับ”
3/05/2556
เปิดเทอมวันแรก
วันนี้ผมตื่นแต่เช้ามากกกกเลยครับ เพราะวันนี้เป็นวันแรกของการเรียนของผม แต่พอจะลงไปกินข้าวที่ห้องครัวดันเกิดเหตูไม่คาดฝันขึ้นครับ ผมดันเดินตกบันไดซะได้ แต่ก็ไม่เป็นไรมากครับ
แล้วก็ได้ถ่ายรูปพร้อมหน้าพร้อมตากันของครอบครัวเล็กๆของเรา
วันนี้ผมรีบมากวิ่งไปได้นิดหน่อยผมก็เกิดหกล้มเอาซะอย่างนั้นยังก็เด็กหัดเดินแล้วฝืนวิ่งแล้วก็ล้มลงไป แต่ก็ไม่เป็นอะไรมากครับ
เดินมาถึงที่ป้ายรถประจำทางผมก็พลาดรถรอบแรกครับ
วันนี้การเรียนก็ไม่มีอะไรมากเพราะเป็นวันแรกของเทอมใหม่ครับ ได้เพื่อนใหม่เยอะเลยครับ เพื่อนเก่าๆที่เลื่อนชั้นอยู่ที่ห้องเดียวกันก็เยอะครับ สรุปแล้ววันนี้เป็นวันแรกที่ผมมีความสุขแล้วความทุกข์ปนกันเล็กน้อยครับ แต่ก็ถือว่าเป็นวันที่ดีมากเลยละครับ
ง่วงแล้วผมของนอนก่อนนะครับ พรุ่งนี้ก็เริ่มวันใหม่แล้ว ผมอยากให้วันใหม่ของผมนั้นมีแต่ความสุขครับ
มิกส์
ความคิดเห็น