ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สำเภารัก...แผ่นดินหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 52


     

                   

    ได้ยินว่าบริษัทมีงานใหม่และก็อาจจะใหญ่ที่สุดในปีนี้เชียวนะ

                    เภตราที่เพิ่งเดินเข้ามาในบริษัทได้ยินหางเสียงแว่วๆ จึงได้เดินเข้าไปสมทบกับเพื่อนที่ยืนคุยกันอยู่ที่โต๊ะทำงานของบาเลียนา

                    งานอะไรเหรอจ้ะ เภตราชะโงกหน้าเข้าไปในกลุ่มเพื่อน

                    บาเลียนาทำตาโตทำเสียงกระซิบกระซาบโดยไม่จำเป็น ได้ยินว่าเป็นคฤหาสน์หลังหนึ่งที่นอกเมืองนะ

                    เภตรายิ้มกว้าง การได้รับงานใหญ่หมายถึงบริษัทจะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ อีกทั้งยังก้าวเข้าสู่การเป็นธุรกิจที่ได้รับความเชื่อมั่นจากกลุ่มคนอีกระดับชั้นของสังคม ที่สำคัญรายได้ของพนักงานก็จะเพิ่มอีกโขเชียวล่ะ

                    แล้วทำไมถึงทำหน้าเครียดกันล่ะ คนที่เภตราหมายถึงคือเจเจซึ่งยืนกอดอกคิ้วขมวดอยู่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ

                    วิคกี้ยักไหล่พร้อมกับปรายตาไปยังเพื่อนสนิท จำปราสาทที่เราไปงานหมั้น เอ่อ...ได้ไหม?

                    อย่าบอกนะว่าเราได้งานนั่น!” เภตราแทบจะตะโกนร้องออกมาอย่างดีใจ ความเก่าแก่ทว่ายังคงความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมในยุคกลาง ยังคงติดตาตรึงใจอยู่จนทุกวันนี้

                    เจ้าของใหม่เค้าอยากให้บริษัทเราเนรมิตให้เป็นที่อยู่อาศัย หลังจากกลายเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงมาตลอดหลายสิบปี

                    เจ้าของใหม่?...ใครกัน เภตราขมวดคิ้วทบทวนความสำคัญของปราสาทต่างๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ในประเทศนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นสมบัติของรัฐบาล

                    คุณยูริกับเจ้าสาวของเขาน่ะสิ

                    เจเจเบือนหน้าหนี ความชอกช้ำแม้จะเจือจางแล้วแต่หากถูกสะกิดก็จะกลับมาเจ็บอีกอย่างช่วยไม่ได้...หากเธอจำต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับความสุขครั้งนี้ของเขาด้วย เจเจก็ไม่แน่ใจว่าจะทนมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่ร้องไห้ได้อย่างไร?

     

                    วันนี้เธอไปกินมื้อค่ำกับฉันได้หรือเปล่า บาเลียนาเอ่ยถามขณะเก็บของอยู่บนโต๊ะ

                    เภตราทำหน้าเจื่อนเมื่อนึกถึงโต๊ะอาหารเย็นที่พรั่งพร้อมไปด้วยครอบครัวเล็กๆ ในบ้านหลังใหญ่

                    ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ก็แค่ถามดู เผื่อเธอจะเซเยส บาเลียนายิ้มปลอบใจ แต่เภตรารู้ว่าเพื่อนของเธอไม่ได้รู้สึกเช่นที่พูด ดวงตาของบีหม่นลงก่อนที่เปลือกตาจะหลุบต่ำปิดบังความรู้สึก

                    ขอโทษนะบี...ไว้พรุ่งนี้ได้ไหม?

                    บาเลียนาจ้องมองเพื่อนอย่างมีความหวัง เอ่อ...ฉันทำให้เธอลำบากหรือเปล่า

                    เปล่าเลย...ฉันก็อยากจะนั่งคุยกับเธอบ้าง ที่ไม่ใช่เวลางานน่ะ เภตรายิ้มกว้างเมื่อนึกถึงคืนวันเก่าๆ

                    งั้นก่อนกลับเราไปเดินที่จัตุรัสกันไหม

                    ดีสิ เภตรารับคำ

                    แต่ทันทีที่ทั้งสองก้าวพ้นประตูบริษัทออกมา คนขับรถประจำตัวของเธอก็ปราดเข้ามายืนอยู่ในสายตา

                    ขอเวลาสักชั่วโมงนะ เภตราเอ่ยกับคนขับรถ

                    อย่าเลยเพชร...ฉันไม่อยากเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอลำบากใจ...เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกันนะ บาเลียนาเขย่ามือเพื่อนเบาๆ พร้อมกับแยกตัวออกมุ่งตรงไปยังถนนที่พลุกพล่านตามลำพัง

                   

                    เภตราครุ่นคิดมาตลอดทางตั้งแต่ที่หน้าบริษัทจนกระทั่งถึงพระราชวังอันเป็นที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ของเธอ รั้วรอบขอบชิดทำให้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงกฎระเบียบซึ่งบีบรัดจนแทบไม่อาจระบายลมหายใจเข้าออกตามความปรารถนาได้

                    อาจเป็นเพราะอานุภาพความรักที่ทำให้เธอไม่รู้สึกเช่นนี้ในตอนแรก หากแต่นานวันเข้าก็อดที่จะเปรียบเทียบกับสภาพความเป็นอยู่ที่ดำเนินมายี่สิบกว่าปี เฉพาะอย่างยิ่งกับสภาพความเคยชินในอดีตที่เธอรู้สึกว่านั่นคือตัวตนที่แท้จริงของเธอ

                    มาบัดนี้เธอไม่แน่ใจว่าจะอยู่ภายใต้กรอบแห่งอิสรภาพนี้ได้นานเท่าไหร่...

                    คุณผู้หญิงเข้าบ้านผิดหรือเปล่า

                    เภตราชะงักเท้าที่บันไดหินเกือบขั้นบนสุด เหลียวหาที่มาของเสียง ชายคนรักของเธอกอดอกยืนพิงต้นไม้ใหญ่กำลังมองมา

                    หญิงสาวยิ้มเนือยๆ ให้ พร้อมกับเดินเข้าไปหาเขา

                    ขอโทษค่ะ...แต่คนรักของฉัน เขาบอกว่าอยู่ที่นี่

                    งั้นคุณก็มาถูกที่แล้วล่ะ องค์อาดีนทรงสวมกอดหญิงสาวแน่นๆ เภตราหลับตาลงซุกใบหน้ากับไหล่ของเขา

                    ว่างแล้วหรือคะ

                    อืม...วันนี้ผู้คนไม่รู้หายไปไหนกันหมด ผมก็เลยยกเลิกการประชุมแล้วมาดักรอคุณที่นี่

              เภตรายันตัวจากอ้อมกอดอบอุ่น เงยหน้ามองเขา เห็นดวงตาเป็นประกาย

                    ล้อฉันเล่นอีกแล้วนะ

                    เปล่าสักหน่อย...วันนี้องค์ประชุมไม่ครบ ผมก็เลยให้คนที่มานั่งพักกินของว่างก่อนกลับ...แล้วก็เดินมารอคุณ...

                    เชื่อก็ได้ค่ะ เภตราเดินตามองค์อาดีนมาที่สระน้ำเล็กๆ ด้านข้างของสวนใหญ่ ซึ่งครั้งหนึ่งที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่สำหรับเดินเล่นของเจ้าแครอท...จุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้พบกับเขา

                    งานยุ่งมากหรือ

                    เปล่านี่คะ...ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น? เธอแหงนหน้ามองดวงตาเต็มไปด้วยความห่วงใยของเขา

                    ผมคิดว่าเราคุยกันได้ทุกเรื่องเสียอีก องค์อาดีนทรงบีบมือเล็กในอุ้งพระหัตถ์เบาๆ

                    เภตรายิ้มให้ก่อนจะเบนหน้าไปมองแสงแดดยามเย็นที่ต้องกระทบผิวน้ำก่อให้เกิดความระยิบระยับน่ามอง

                    ฉันสบายดี เพียงแต่...

              องค์อาดีนทรงเลิกพระขนงสูง หัตถ์สองข้างจับไหล่ของหญิงสาวให้หันกลับมา ทรงทอดพระเนตรนิ่งที่ดวงตาคู่งามนั่นราวกับต้องการจะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดในหัวใจดวงน้อยนั่น

                    คุณคงห่วงฉันมากเกินไป...อาดีนคะ ฉันไม่อยากให้พะวักพะวนเกี่ยวกับฉันจนกระทั่งเบียดบังเวลางานแบบนี้...

                    ไม่สักหน่อยทรงกลั้นพระสรวลไว้เต็มที่ พยายามไม่ให้คนรู้ทันจับได้

                    วันนี้ไม่ใช่ แต่เมื่อวาน เมื่อสองวันก่อน อาทิตย์ที่แล้ว...อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะคะ มันทำให้ฉันไม่สบายใจคุณรู้ไหม...ฉันไม่อยากเพิ่มภาระให้แก่คุณอีก

                    คิดมาก

                    เภตราส่งเสียงในลำคอ นึกเหมือนกันว่าจะได้เห็นลักษณะของผู้ชายคือการแสดงออกว่าตนคิดน้อยเหลือเกิน ทั้งที่จริงแล้วก็ไม่ต่างจากผู้หญิงนักหรอก เพียงแต่ถ้าไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวพันโยงใยใหญ่โต พวกเขาก็มักจะทำเป็นมองข้ามแล้วทำลืมๆ มันซะ

                    จะเรียกแบบนั้นก็ได้ แต่ฉันไม่อยากให้กษัตริย์แห่งวาดิเมียร์ถูกครหาว่าแอบหนีการประชุมเพียงเพื่อมายืนรอผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง

                    แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นคือคุณ ก็คงไม่มีใครกล้าพูดแบบนั้น

                    ไม่พูดต่อหน้า ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีใครพูดนี่คะ...ถือว่าฉันขอร้องล่ะ เราเจอกันทุกมื้อค่ำ มันก็น่าจะพอแล้ว เสียงท้ายประโยคแผ่วเบา ดูเหมือนเธอจะกำลังต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเอง ใช่...แค่นั้นยังไม่พอสำหรับเธอ

                    หากจะทำให้คุณสบายใจขึ้น องค์อาดีนทรงลูบปลายคางของหญิงสาวอย่างแผ่วเบาเป็นการปลอบโยน

                    ค่ะ

                    เภตรารับคำแต่ทว่าตอนนี้ความสบายกายที่นี่เทียบไม่ได้กับความสบายใจที่ได้อยู่กับเพื่อนรักในห้องที่มีพื้นที่จำกัดแต่สามารถแสดงความเป็นตัวตนได้อย่างเต็มที่

                    แต่เธอคงไม่กล้าบอกความในใจนี้ให้เขารู้ เธอควรจะเก็บมันไว้ครุ่นคิดหาทางออกเพื่อค้นหาทางออกที่ดีที่สุดให้แก่ตัวเอง และมันต้องเป็นทางออกสำหรับความรักที่ดีที่สุดเช่นกัน...

                   

                  เภตราสูดลมหายใจลึกๆ ขณะเดินผ่านประตูปราสาทเก่าเข้าไป หลายต่อหลายครั้งที่เธอเคยนั่งรถผ่านสถานที่ดุจเหมือนต้องมนต์ขลังเช่นนี้ และมักจะจินตนาการว่าตัวเองได้เป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นผู้ตกแต่งภายในทั้งหมด ท่ามกลางความชื่นชมของครอบครัวและเพื่อนสนิท

                    เมื่อตอนที่เธอมีโอกาสเข้ามาในปราสาทหลังนี้ครั้งแรก ความใฝ่ฝันของเธอก็ยังไม่หมดไป แม้ว่ามันจะกลายเป็นสถานที่จัดงานหมั้นของคู่รักที่มีหน้ามีตาคู่หนึ่งในประเทศนี้

                    แต่ความต้องการของเธอกลับหยุดลงทันทีเมื่อรู้ว่าครอบครองคนใหม่เป็นใคร ซึ่งเธอก็หวังใจว่าจะไม่ได้พบกับเขาตลอดเวลาที่เธอเข้ามาทำงานที่นี่

                    ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น ฉันรู้ว่าเธอปลื้มมันจะตายอยู่แล้ว จำได้ว่าตอนนั้นกลับจากโรงเรียน เราเกือบจะมุดรั้วเข้ามาได้แล้วเชียว ถ้าตาลุงนั่นไม่โผล่มาซะก่อน

                    บาเลียนาหลับตานึกถึงอดีต สีหน้าของเธอไม่ต่างจากเด็กสาวช่างฝัน ตรงกันข้ามกับผู้ที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน เภตรากลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะกลั้นใจก้าวผ่านประตูไม้บานใหญ่ไป

                    ภายในโอ่โถงไม่ต่างไปจากงานวันหมั้น เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีดอกไม้ ผ้าม่านหรือพรมมาประดับประดาสร้างสีสันให้แก่สถานที่เก่าแก่แห่งนี้ มันจึงดูเหมือนพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่มีคุณค่าน่าศึกษาด้วยตัวของมันเอง

                    เสียดายจัง ถ้าเจเจเมาด้วยก็ดีสิ บาเลียนามองรอบตัวแล้วก็อดนึกถึงเพื่อนไม่ได้

                    ดีแล้วล่ะที่ไม่มา ฉันจะได้ไม่ต้องคอยปลอบใจยัยนั่น วิคกี้พึมพำ

                    ฉันจำได้ว่านั่นมันหน้าที่ของเพชรไม่ใช่เหรอ บีช่วยทบทวนความจำ

                    เออ นั่นล่ะ ใครปลอบก็เหมือนกัน แต่รู้ไว้เถอะว่าฉันไม่ชอบใจผู้หญิงประเภทยัยเจเลยจริงๆ

                    ยังไง บีทำหน้ายุ่ง ไม่น่าเชื่อว่าผู้ที่มีอุดมการณ์ในเรื่องผู้ชายร่วมกัน หาใช่เพื่อนตายอย่างที่เธอเคยนึกไว้

                    ประเภททำตัวไร้ค่า พอผู้ชายไม่รักไม่สนใจแทนที่จะสะบัดก้นแอ่นอกหาใหม่ กลับเกาะแข้งเกาะขาไม่ยอมปล่อยมือจากผู้ชายที่ไม่แยแส ประเภทขาดเธอเหมือนขาดใจ ไม่มีศักดิ์ศรีเลยจริงๆ วิคกี้แบะปากยักไหล่ประกอบ

                    บีเกือบจะหลุดหัวเราะออกมาแล้ว นี่น่ะหรือคุณสมบัติของความเป็นสาวมั่น ไม่แคร์และทำตัวเด่นเหนือใครเพียงเพื่อกลบเกลื่อนความอ่อนแอของหัวใจทั่งไม่เคยมีความรักมาเยี่ยมเยือนสักครั้ง หรือไม่พวกหล่อนก็เพลี่ยงพล้ำและพ่ายแพ้กับความรักจนไม่อาจหวนกลับย้อนไปคืนวันเก่าๆ เพื่อตอกย้ำความทุกข์ของตัวเองอีกครั้ง

                    ก่อนที่บทสนทนาจะดำเนินต่อไป คุณกาโตฟก็พาร่างใหญ่โตเข้ามาพร้อมกับอินทีเรียมือหนึ่งผู้ที่ไม่พิสมัยหญิงใดในโลกหล้า แต่ไม่ใช่เพราะผู้ชายที่มีความละเอียดมากกว่าผู้หญิงคนนั้นหรอกนะที่ทำให้สาวๆ ยืนนิ่งเหมือนต้องมนต์

                    หากแต่เป็นผู้ที่เดินรั้งท้ายเข้ามาต่างหากล่ะ เจ้าของคฤหาสน์คนใหม่

                    คุณยูริ วิคกี้ครางเบาๆ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีวันจะแลหญิงอื่น เพราะสถานภาพที่เปลี่ยนไปแล้วของเขา แต่ความสง่างามภูมิฐานและดวงตาเจ้าชู้ดูมีเสน่ห์นั่นทำให้เธออดไม่ได้ที่จะชื่นชมอย่างเปิดเผย

                    บาเลียนาที่เพิ่งตื่นจามนต์สะกดเช่นเดียวกันนั้น เบือนหน้ากลับไปมองเพื่อนสินท ซึ่งอีกฝ่ายไม่ได้มีสายตาชวนฝัน หากแต่กำลังส่งยิ้มให้อย่างสุภาพแก่คนทั้งสาม ประเภทไม่มีใครน้อยหน้ากว่ากัน

                    สวัสดีสาวๆ ขอโทษที่ทำให้รอ วันนี้คุณยูริจะมาเพิ่มเติมให้อีกเล็กน้อย หลังจากที่เลขาของเขาได้ส่งรายงานมาให้เราดูเมื่ออาทิตย์ก่อน

                    คุณกาโตฟผายมือไปยังบุรุษในชุดสูทสีฟ้าอมเทา ซึ่งช่วยขับให้ดวงหน้าของผู้สวมใสสดใสชวนมองอีกเท่าตัว

                    ครับ ผมทราบว่าพวกคุณคงได้รับมอบหมายงานกันแล้ว ที่นี้ผมก็จะขอทราบรายละเอียดคอนเซ็ปต์ที่พวกคุณจะนำไอเดียของผมมาปรับแต่งปราสาทหลังนี้

                    บีหันมาองหน้าเภตรา นี่มันควรจะเป็นเรื่องที่จะพูดกันในห้องประชุมไม่ใช่เหรอ?

                    ตามนี้นะทุกคน เดี๋ยวแยกย้ายไปในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบเลย ผมจะพาคุณยูริไปดูห้องนอนก่อน คุณกาโตฟพร้อมอินทีเรียมือหนึ่งเดินตามเจ้าของคฤหาสน์ขึ้นบันไดไป

                    ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณยูริจะมาคุมงานเอง วิคกี้ขยับเสื้อผ้า สำรวจความเรียบร้อย ก่อนจะกระวีกระวาดหอบเอกสารตรงไปยังส่วนที่ส่วนเองรับผิดชอบ

                    ถึงฉันจะมีแฟนแล้วก็เถอะ แต่ก็ไม่รับรองว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อต้องอยู่กับคุณยูริสองต่อสอง ต่อให้ห้องนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นหนาเป็นนิ้วก็ตามเถอะ บียักไหล่ก่อนจะลงมือหยิบเอกสารของตัวเอง และยืนรอเพื่อนสนิทซึ่งทำหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความเห็นกับคำพูดเมื่อครู่ของเธอ

                    อย่างว่าแหละ หากฉันเป็นล่ะก็ต่อให้บรรยากาศโรแมนติกกว่านี้สักร้อยเท่า หรือล่องลอยอยู่บนสวรรค์ชั้นไหน ก็คงไม่มีสายตาไว้มองใครอยู่แล้ว ในเมื่อเธอก็มีเทพบุตรเป็นของตัวเองอยู่ทั้งคน บีหรี่ตาลงก่อนจะเดินแยกไปทางขวามือ

                    เภตราเงยหน้ามองตามหลังเพื่อนไป พร้อมกับถอนหายใจอย่างหนักหน่วง งานนี้หนักกว่าที่คิดไว้ ไม่ใช่เพราะการเข้ามารับผิดชอบอย่างเต็มตัว แต่จิตใจของเธอกำลังหนักอึ้งเต็มไปด้วยผู้ชายที่ชื่อยูริ...

                    ไม่ใช่เพราะเขาข้ามาครอบครองหัวใจของเธอแทนที่ใครอีกคนที่จับจองอยู่ก่อนแล้ว แต่เธอกำลังครุ่นคิดถึงความรู้สึกที่แสดงออกยามเมื่ออยู่หน้าเขา

                    ครั้งหนึ่งเธอเคยอึดอัดกับผู้ชายที่พยายามพิชิตหัวใจเธอคนนี้ แต่กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่าเขาก็เป็นผู้ชายที่คู่ควรแก่ความรักของเธอไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าชายอีกคนหนึ่ง เหตุการณ์ในอดีตเธอรดพ้นจากความตายก็เพราะเขา ดังนั้นในฐานะที่เธอมีพันธะทางหัวใจแล้วจึงมอบความไว้วางใจในฐานะผู้มีพระคุณตลอดเวลา

                    จนกระทั่งเมื่อถึงงานวันหมั้น คุณยูริก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการสถานะนั้นจากเธอ และพร้อมที่จะยกเลิกพันธะทันทีที่เภตรายินดีจะใช้ชีวิตร่วมกับเขา

                    แล้วเช่นนี้จะให้เธอแสดงออกกับเขาอย่างไรดี

     

                   

                   

     

                   

                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×