ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF EXO [HunHan ChanBaek KrisLay ChenMin TaoHo KaiDo] Rewrite

    ลำดับตอนที่ #4 : SF : EXO KRISLAY 100%

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 66


        

    EP4
        คริส : ผมควรจะทำยังไงกับหัวใจของตัวเองดี 

        สำหรับตอนนี้เราจะให้พระเอกของเราเป็นคนที่เล่าเรื่องทุกอย่างบ้างนะคะ มาคอยลุ้นกันว่า ตอนนี้รุ่นพี่คริสจะทำอย่างไรเมื่อถูกความน่ารักของหนูชิงโจมตีเข้าไปเต็มๆ งานนี้ต้องคอยลุ้นแล้วว่า รุ่นพี่คริส จะแก้ปัญหานี้ยังไง หรือจะยอมรับแล้วเปิดใจรับหนูชิงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต 
     
     
          เช้าวันใหม่ เป็นเช้าที่มาพร้อมกับความสดใสเสมอ เมื่อร่างกายได้พักผ่อนจากความเหนื่อยล่า เหมือนกับใครอีกคนที่ตื่นนอนตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ แถมยังขุดเขาออกมาจากที่นอน ทั้งๆที่วันนี้ไม่มีเรียนช่วงเช้าแท้ๆ แต่ก็จำใจต้องตื่นขึ้นมา
    “รุ่นพี่ครับ ตื่นได้แล้ว”
    “………….”ร่างสูงทำได้เพียงแค่ ยกผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาปิดใบหน้าหล่อเพราะไม่อยากตอบคำถามของใครอีกคน บวกกับยังคงความง่วง
    “รุ่นพี่ ตื่นๆๆๆก่อน”
    “ฉัน จะ นอน เข้าใจไหม” เน้นแต่ละคำอย่างชัดเจน
    “เข้าใจครับ แต่หนูชิงรบกวนให้รุ่นพี่ไปส่งก่อนแล้วค่อยกับมานอนได้ไหม” ร่างสูงที่ยังมีผ้าห่มปิดหน้าอยู่ก็รีบลุกขึ้นทันที ด้วยความโมโห ก่อนที่จะเผลอพูดจาไม่ดีออกไปถ้าไม่ติดตรงที่ สายตาอ้อนวอนนั่น เพราะมันชอบมาพร้อมกับรอยยิ้มหวาน ที่กำลังจ้องอยู่ ร่างสูงของคริสเองก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
    “อืม” คำตอบง่ายๆของคนชิคๆคนนี้ก็ได้สร้างรอยยิ้มกว้างให้กับไอ้เด็กซุ่มซ่ามอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินหลบเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายให้สดชื่น
    “ขอบคุณรุ่นพี่นะครับ” เสียงเล็กเอ่ยขอบคุณมาตามหลัง
     คริสที่กำลังแต่งตัวอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ กำลังมองดูเงาสะท้อนใบหน้าของตัวเอง ก่อนที่มือหนาจะยกขึ้นมาจับบริเวรของหัวใจ ตั้งแต่ได้เห็นรอยยิ้มนั้น จนกระทั้งตอนนี้ หัวใจของเขายังไม่ยอมหยุดเต้นรัวลงได้เลยแม้แต่น้อย
    “เป็นอะไรไปว่ะ”
    ก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกมา เมื่อจัดการกับร่างกายของตนเสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว
    “รุ่นพี่ครับ วันนี้หนูชิงไม่ได้กลับมานอนที่หอนะครับ”
    “จะไปไหน” พูดออกไปอย่างไม่ทันคิดพร้อมกับน้ำเสียงที่ใช้พูดเมื่อกี้นี่มันเหมือนจะแอบไม่พอใจนิดหน่อย ก่อนที่ร่างหนาจะปรับคีย์เสียงให้อยู่ในระดับที่เป็นปกติให้ได้มากที่สุดเพื่อไม่ให้ไอ้เด็กนี่สงสัยและถามคำถามอะไรที่ตัวเขาเองยังไร้ซึ่งคำตอบขึ้นมา
    “คือหนูชิงจะไปทำงานที่บ้านซูโฮน่ะครับ พอดีอาจารย์ให้ทำงานกลุ่มเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลี ”
    “อืม”
    “ว่าแต่ รถของรุ่นพี่คันไหนเหรอครับ” เสียงเล็กเอ่ยถาม
    “….” และก็เป็นอีกครั้งที่เขาเลือกที่จะใช้ความเงียบเป็นคำตอบ ก่อนที่จะเดินเร็วๆไปที่รถพร้อมกับขึ้นนั่งประจำที่คนขับทันที
    “ว๊าว ที่แท้แล้วรถคันนี้เป็นของรุ่นพี่คริสเองเหรอครับ”
    “อะไร”
    “ก็ ตอนที่หนูชิงมาเรียนที่นี้วันแรก หนูชิงคิดว่า รถคันนี้เป็นของเสี่ยวลู่อ่ะ”
    “ฮึ นอกจากจะซุ่มซ่าม แล้วยังบื้ออีกต่างหาก”
    “รุ่นพี่!! ถึงหนูชิงจะบื้อแต่หนูชิงก็น่ารักนะ” ใช่น่ารัก ร่างสูงเองก็เห็นด้วยกับความคิดเห็นนั้นเหมือนกัน
    ‘อีกแล้วนะไอ้คริส คิดอะไรแบบนี้อีกแล้ว’ และแล้วความเงียบก็เข้าควบคุมทุกอย่างอีกครั้ง
    ก่อนที่ทั้งสองจะขับรถไปยังคณะของใครอีกคน โดยที่ระหว่างทางก็ไม่ได้มีบทสนทนาอะไรเพิ่มเติมไปมากกว่านั้น
    “ขอคุณครับรุ่นพี่ที่มาส่ง ”
    “อื้ม” ก่อนที่จะขับรถออกมาทันที โดยที่สายตาก็แอบดูกระจกหลังมองใครอีกคน ที่กำลังเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนๆ
     “เฮย~ตื่นเช้าขนาดนี้ เรียนก็ตั้งบ่ายแล้วเราจะไปไหนล่ะทีนี้ ” ร่างสูงขับรถออกมาเรื่อยๆก่อนที่จะจอดรถที่คณะตัวเอง
    “ไหนๆก็ตื่นแล้ว เข้าคณะรอเรียนเลยแล้วกัน” ร่างสูงเดินเข้ามาที่คณะ อย่างปกติเช่นทุกวัน
    แล้วเดินหาโต๊ะว่างเพื่อนั่งอ่านทบทวนสิ่งที่จะเรียนในวันนี้ ก่อนที่เพื่อนอย่างเทา จะเดินเข้ามาหา
    “ว่าไงไอ้คุณชาย ทำไมวันนี้มาเร็วจัง”
    “เปล่า”
    “ไม่ต้องเลย แค่กูมองหน้ามึงเนี่ยก็เห็นไปถึงลำไส้ใหญ่แล้ว”
    “………………….” เขาทำเพียงแค่เงียบและมองหน้าเพื่อนอีกคนและคิดเล่นๆว่ามึงจะมองไปดูกากอาหารที่ไม่สามารถย่อยได้ของกูเหรอที่ลำไส้ใหญ่ แต่ถึงอย่างไรก็ใช่เขารู้ดีว่าไม่มีเรื่องอะไรที่คนอย่างไอ้เทามันไม่รู้ เพียงเพราะแค่มันก้าวเดินเข้ามา สายข่าวของมันก็รายงานทันที ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ก็พวกกลุ่มเด็กปี2  ที่ยกย้องให้เพื่อนเขาเป็นลูกพี่ใหญ่  ทั้งๆที่ไอ้เทามันก็เรียนทันตแท้ๆ
    “ไม่ต้องมาเงียบ ความเงียบของมึงใช้กับกูไม่ได้ครับเพื่อน”
    “เปล่า แค่ไม่มีอะไรจะพูด”
    “เออๆ แล้วแต่มึงเหอะ ว่าแต่วันนี้ไปผับป่ะแล้วนี้ไอ้ไคแม่งยังไม่มาอีกเหรอว่ะ” ถามหาเพื่อนอีกคนที่ไม่รู้ว่าป่านนี้มันมัวไปทำอะไรอยู่ ยังไม่เข้าคณะอีก
     “ไอ้เทา นี่มึงไม่มีเรียนหรือไง มานั่งเผือกอะไรที่คณะกู แม่งอาจารย์สัมภาษณ์มึงเนี่ยแกคิดได้ไงรับมึงเข้าทันตว่ะ” ไคที่เดินเข้าคณะมาเมื่อเห็นเพื่อนจองตนก็แทรกบทสนทนากวนบาทาขึ้นมาทันที
    “อ้าวสาดดดดด มึงพูดแบบนี้ มึงยังเห็นกูเป็นเพื่อนไหมเนี้ย”
    “พวกมึงสองตัวเลิกเห่าสักที รำคาญ” คริสที่ทนฟังเพื่อนทั้งสองเปิดศึกปะทะน้ำลายแล้วรำคาญก็เอ่ยห้ามทับทันทีเพราะไม่อย่างนั้นคงอีกนานกว่าพวกมันจะด่ากันเสร็จ
     “มันเป็นไรวะ” ไคที่แอบกระซิบกับเทาที่อยู่ไม่ไกล
    “ไม่รู้ว่ะ”เทา
    “กูมีเรื่องอยากถาม” ร่างสูงที่คิดถึงใครอีกคนที่เขาเริ่มไม่แน่ใจ และที่สำคัญยังมีอาการแปลกๆ อย่างอัตราการเต้นของหัวใจช่วงนี้ด้วย
    “ว่า” เทา
    “ช่วงนี้กูรู้สึกว่ากูแปลกไปว่ะ”
    “แปลกไงวะ เท่าที่กูเห็นมึงก็เป็นปกตินะ คือมึงเงียบเป็นปกติจนกูเองยังดูไม่ออกเลยว่าอารมณ์ไหนมึงแปลก อารมณ์ไหมไม่แปลก” ไค
    “คือกู………..” คริส
    “มึง………..”ไค
    “กู………..”
    “แม่งจะพูดก็รีบพูดดิสัส กูลุ้น”
    “กูยังไม่พูดดีกว่า ไว้ให้กูแน่ใจอะไรบางอย่างก่อน”
    “สาดดด ยุให้อยากแล้วจากไป” เทาที่เราฟังว่าเพื่อนจะพูดอะไรถึงขั้นสบถออกมา
    ก่อนที่จะเดินหนีจากบทสนทนาของเพื่อนรักทั้งสองคน เพราะตอนนี้ก็ใกล้ที่จะถึงเวลาเรียนเข้าไปทุกที แล้ว ส่วนเพื่อนผิวสีแทนอย่างไคจะวิ่งตามมา
    “เห็นไอเทาชวนคืนนี้ที่เดิม มึงไปป่ะ”
    “ไม่รู้ แล้วใครไปบ้าง”
    “ทุกคนอ่ะ เหลือแค่มึงเนี่ยแหละคนสุดท้าย ตอบกูไปหรือไม่ไป”
    “…………………” ร่างสูงที่นิ่งไป จะว่าไปแล้วตั้งแต่เปิดเทอมมา เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วคืนนี้ใครอีกคนก็ไม่อยู่
    “ว่าไงครับคุณชาย”
    “อืม”
    “ขอบใจเพื่อน อย่างน้อยมึงก็ยังตอบกู”
     เพื่อนรัก คิม จงอิน หรือไค พร้อมกับ คริสเดินเข้ามานั่งรอเรียนในห้องเรียนเพียงไม่นานอาจารย์ประจำคลาสนี้ก็เดินเข้ามาทำการสอน อย่างเช่นปกติ
     “เฮ่ย !ไอ้คริส ไอ้เทามันบอกเห็นมึงไปส่งใครที่ศิลปกรรมว่ะ”ไคถาม
    “……………….” หันหน้าไปมองเพื่อนแล้วก็หันกลับมาสนใจหนังสือเหมือนเดิม ทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ไคถาม
    “มึงอย่าเงียบดิ กูรู้นะ เห็นไอ้เทามันบอกน่ารักด้วย” เพราะไม่อยากที่จะพูดอะไรมาก เลยตอบคำถามของเพื่อนออกไปให้มันจบๆ
    “อืม”
    “เด็กใหม่ว่างั้น” จ้องหน้าคาดคั้นเอาคำตอบ
    “อืม”
    “นี่ใจคอมึงจะพูดแค่คำนี้”
    “อืม แล้วมึง”
    “กู!!กูทำไม”  ตั้งแต่ที่เป็นเพื่อนกับไอไคมา นอกจากผมแล้วก็มีไอ้ จงแด แล้วก็ไอ้ไค เนี้ยแหละที่เงียบพอๆกัน แต่วันนี้มันดูผิดแปลกไปจากที่เคยเป็น
    “มึงดูมีพิรุธบางอย่าง” คราวนี้เป็นผมบ้างที่จ้องหน้า คาดคั้นเอาคำตอบจากมัน
    “ไม่มีอะไรทันนั้นอ่ะ เลิกพูดได้แล้ว โน้นฟังอาจารย์ไป” ฮึ!ที่แท้แม่งมันก็ไม่ต่างอะไรไปจากผมเลย
    ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องเลิกคลาสแล้ว ผมกับเพื่อนอย่างไคก็เดินออกมาจากห้องเรียน ก่อนที่จะไปอยู่ที่จุดศูนย์รวมของพวกเรา นั้นก็คือ ใต้ตึกคณะแพทย์ที่ตอนนี้เพื่อนๆส่วนใหญ่ของผมรออยู่ที่นั้นก่อนแล้ว
    “ว่าไงครับพวกมึง กว่าจะมาได้” ชานยอล ที่เอ่ยทักเป็นคนแรก
    “ไอ้จงแดล่ะ” ถามหาเพื่อนอีกคน ที่วันนี้ยังไม่ได้เจอกันเลย
    “เดี๋ยวคงมามั้ง” เทา
    “มึงมาก็ดีแล้วคริส เมื่อเช้ากูเจอยัยนั้นด้วย ไหนมึงบอกแม่งอยู่อเมริกาไม่ใช่เหรอ” เซฮุน
    “ใคร”
    “กูรู้ว่ามึงรู้”
    “อืม ทำไม”
    "เปล่า.....แค่บอกเฉยๆ"
    “พวกมึงนี้คุยอะไรกันว่ะ พูดกันคนละคำสองคำ เสือกเข้าใจกันอีก” ชานยอลที่ฟังบทสนทนาระหว่างเพื่อนสองคนเอ่ยถาม
    “เปล่า”
    นั่งรอเพียงไม่นาน เพื่อนอีกคนก็เดินมา ด้วยท่าทางที่เงียบขรึมเป็นปกติของมัน คงไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจาก คิม จงแด
    “มาช้านะมึง” เป็นชานยอลเหมือนเคยที่เอ่ยทัก
    “โทษที พอดีอาจารย์เลทนิดหนน่อย”
    “โอเค ไหนๆก็มากันครบทุกคนแล้ว จะไปเลยไหม”
    “…………………………….” ทุกคนเงียบ โดยมีเพียงแค่ปาร์ค ชานยอลคนเดียวเท่านั้นที่กำลังพูด
    “พวกมึงแม่งไม่ตอบกูอีก เจอกันที่ผับพี่กูแล้วกัน ” และเพื่อนหูกางก็เดินออกไปพร้อมกับเพื่อนๆคนอื่น เหลือก็เพียงแค่ผมเท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่ เพราะคำพูดของเซฮุนที่บอกกับเขา เมื่อไม่นานมานี่ มันทำให้เขาเริ่มที่จะสับสน อยู่มาก
    “หึ..จะกลับมาทำไมในเมื่อเลือกที่จะไป” ร่างสูงกระตุกยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่จะเดินตามเพื่อนคนอื่นไปเช่นกัน
     ร่างสูงของคริสที่กำลังจะเดินมาถึงรถ และคนที่เขาไม่อยากเจอมากที่สุดตอนนี้ก็กำลังยื่นอยู่ตรงหน้าเขา ร่างสูงเองก็ไม่ได้สนใจก่อนจะเดินไปขึ้นรถ ถ้าไม่ติดที่มือเรียวนั้นคว้าแขนไว้ก่อน
     “คริส!!” ทำเพียงแค่นิ่งเท่านั้นโดยที่ไม่ทำอะไร จนมือเล็กนั้นยอมละออกไป
    “เราขอโทษ วันนี้คริสคงมีธุระใช่ไหม  เราไม่รบกวนก็ได้”
    “……………….” เพียงแค่มือเล็กนั้นละออกจากเขา เขาก็เดินไปขึ้นรถทันที โดยที่ไม่ได้เอ่ยคำพูดอะไรใดๆ กับใครอีกคนเลย ก่อนที่จะขับรถออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด
     “ทำไม………….” ร่างสูงยกมือขึ้นมาตรงบริเวรหัวใจอีกครั้งที่มันกำลังเต้นอย่างแรง เพียงเพราะคำพูดที่ดูเหมือนเศร้านั้น
    “ผมควรจะทำยังไงกับหัวใจของตัวเองดี ”
          ทั้งที่คิดว่าไม่มีเยื่อใยกันแล้ว แต่หัวใจกับเรียกร้องหา ทั้งที่คิดว่าไม่อยากเจ็บปวด แต่อีกใจก็อยากที่จะให้อภัย ความสับสนนี้มันทำให้ใครอีกหลายคนต้องปวดหัวกับมัน แต่รอยยิ้มนั้นล่ะ รอยยิ้มของใครอีกคนที่กำลังกวนใจเขาอยู่ตอนนี้เช่นกัน รอยยิ้มที่มอบมาให้ผมด้วยความบริสุทธิ์นั้นล่ะ
    “ยัยเด็กซุ่มซ่าม” มุมปากเรียวกระตุกยิ้มทุกครั้งที่เขาคิดถึง น้ำเสียง รอยยิ้ม และคำพูดต่างๆ
    ทั้งที่กำลังสับสนกับคนสองคน แต่ชายหนุ่มจะรู้หรือไม่กับอีกคนอาจเป็นเพราะความห่างไกลที่ไม่ได้เจอกันนาน อาจทำให้แค่สับสน แต่อีกคนที่อยู่ด้วยกันนั้น เป็นคนที่หัวใจตัวเองเรียกหา ทั้งที่แต่ก่อนไม่ค่อยยิ้ม แต่ตอนนี้ เขากับยิ้มทุกครั้งที่คิดถึงใครอีกคน


    เอาแล้วล่ะสิ ใครกันนะที่มาทำให้เฮียคริสสับสน แล้วคนที่เซฮุนพูดถึงจะเป็นใคร ตอนหน้าต้องติดตามจ้า ถ้าเป็นอย่างนี้หนูชิงของเราแย่แน่เลย แล้วสุดท้ายเฮียคริสจะรู้ใจตัวเองหรือเปล่านะ
    ถ้าใครอยากรู้ต้องติดตามกันนะคะ ว่าเรื่องราวความรักครั้งนี้จะเป็นอย่างไร แล้วหนูชิงจะทำยังไงหากเฮียคริสเลือกที่จะเสี่ยงกับความรักครั้งเก่าแล้วกลับไปหาใครอีกคน
     

     
     
    ปล. มาติดตามเป็นกำลังใจให้หนูชิงกันด้วยนะคะ
     
    TB


    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×