ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF EXO [HunHan ChanBaek KrisLay ChenMin TaoHo KaiDo] Rewrite

    ลำดับตอนที่ #20 : SF : EXO HUNHAN END

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 66



                                                                     

    EP10
    ตอนนี้เราเดินทางมาจนถึงช่วงสุดท้ายของ ฮุนฮานแล้วนะคะทุก เรามาติดตามความน่ารักของคู่นี้กันดีกว่าค่ะ 





    ขณะนี้เวลา 22:00 BEIJING
    ผมมองมอดูนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง หลังจากที่ลู่หานพาผมไปกินอาหารที่เขาอยากกินหลังจากนั้นก็ตะลอนพาผมเที่ยวชมความงานของปักกิ่งยามค่ำคืน ที่นี่เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นศูนย์กลางทางการปกครอง การศึกษา การขนส่ง และวัฒนธรรมจีน ผู้คนที่นี่ก็น่ารักครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไรว่าเขาพูดอะไรกัน แต่ดูจากการที่นำเสนอนั่นนี่ให้ผมลองก็คงจะเป็นรอยยิ้มที่ส่งมาให้ด้วยครับ มันเลยทำให้บรรยากาศมันดูอบอุ่นมากๆ ลู่หานเองวันนี้คงจะมีความสุขอยู่ไม่น้อยที่ได้แกล้งผม 

    "มีความสุขจังเลยนะครับวันนี้"
    "มันแน่นอนอยู่แล้ว โอกาสได้ออกมาเที่ยวเล่นแบบนี้ใช่ว่าจะมีบ่อยๆ"
    "แล้วปกติไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเหรอ" จะว่าไปผมก็ไม่เคยถามน้องเลยครับว่าทำไมน้องถึงเลือกที่จะชิงทุนข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนไกลถึงเกาหลีด้วย ทั้งที่ที่จีนเองก็มีที่เรียนหลายที่ที่น่าจะตอบโจทย์ของน้อง
    "ไม่หรอกเพราะป๊าหวง"
    "แล้วทำไงป๊าถึงยอมให้ไปเรียนไกลขนาดนั้นล่ะ"
    "เพราะเสี่ยวลู่โตแล้ว ก็ต้องออกไปเรียนรู้โลกกว้างใช่ไหมล่ะขืนอยู่แต่ในกรอบแบบนี้คงตามใครเขาไม่ทัน"
    "....." มันก็จริงอย่างที่น้องว่าแหละครับ แต่ผมว่ามันน่าจะมีอะไรที่มากกว่านี้ เพราะน้องดูคิดนานไป เหมือนเขากำลังพยายามหาเหตุผลมาบอกผมมากกว่า
    "พี่ขอความจริงได้ไหม"
    "ที่จริงมันก็ไม่มีอะไรหรอก เสี่ยวลู่แค่อยากออกไปใช้ชีวิตที่ไม่มีพ่อแม่ค่อยช่วยก็เท่านั้น ได้ลองทำอะไรด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเป็นลูกแหง่"
    "อยากพิสูจน์ตัวเองว่างั้น"
    "ก็ประมาณนั้นครับ"

    พอเดินเล่นชมเมืองกันไปพักใหญ่ผมจึงเสนอว่าเราควรที่จะกลับกันได้แล้ว เพราะนี่มันก็ดึกมากแล้วด้วย คนข้างๆผมเองก็เหมือนจะเริ่มไม่ไหวแล้วแหละครับ จากตอนแรกที่เดินคุยกันดีๆตอนนี้น้องเกาะแขนซ้ายผมไว้แน่นศีรษะเล็กนั่นก็อิงมาซบต้นแขนผม ดวงตากวางที่เคยสุกใสตอนนี้ก็ปิดลง มีเพียงแค่สองเท้าเล็กเท่านั้นครับที่ยังคงทำงานอยู่

    "ง่วงแล้วหรือไงเรา"
    "ก็เวลานี้ที่เกาหลีเสี่ยวลู่ต้องนอนแล้วอ่ะ มันเลยง่วง"
    "ลืมตาเดินดีๆก่อนครับ เดียวสะดุดล้ม"
    "ไม่ไหวหรอกง่วงมากเลย เสี่ยวลู่ขอขี่หลังหน่อยได้ไหมอ่ะ นะนะ"
    "ให้ขี่ก็ได้ แต่ไม่ให้ขี่ฟรีๆหรอกนะ"
    "อีกแล้ว ทำไมต้องมีข้อแม้ตลอดเลยอ่ะ นี่แฟนนะเสี่ยวลู่เป็นแฟนพี่นะขอขี่หลังแบบฟรีๆแบบไม่ต้องจ่ายไม่ได้เหรอ" 

    พอเห็นว่าคนน้องเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้างเลยย่อตัวลงเป็นคำตอบของคำถาม พอน้องเห็นว่าผมไม่พูดอะไรก็ยิ้มหวานพร้อมกับกระโดดขึ้นเกาะหลังของผมทันที แล้วก็ไม่ลืมที่จะหอมแก้มผมไปด้วยอีกหนึ่งฟอด พอผมยืดตัวตรงเท่านั้นแหละครับรู้เรื่องเลย เห็นตัวเล็กอย่างกับลูกหมาแต่หนักใช้ได้เลยครับ 

    "นี่ หนักไปไหมเนี่ยเรา"
    "ปากเสีย หนักบ้าอะไรเล่าอย่ามาบูลลี่นะ"
    "ก็มันจริงนี่นา เกิดหลังพี่หักทำไงเนี่ย"
    "ไม่หักหรอกน่า พี่อย่ามาเว่อร์แล้วก็รีบๆเดินเลยเสี่ยวลู่ง่วงแล้วนะ"
    "ครับผมคุณนายโอ"
    "อย่ามาเล่นกับใจคนอื่นแบบนี้นะ"
    "หึ"
    "ยังจะมาหัวเราะอีก"

    ผมไม่พูดอะไรทำเพียงแค่เดินตรงไปเรื่อยๆคนที่อยู่บนหลังผมก็เงียบเหมือนกัน น้องทำแค่เอียงหัวซบไหล่ผมอย่างตอนแรกเท่านั้นพร้อมผมลมหายใจอุ่นที่เข้าออกอย่างเสม่ำเสมอตรงบริเวณต้นคอผมสงสัยคงเหนื่อยจนเผลอหลับไปมั้งครับ พอคิดได้แบบนี้ผมก็เผลอหลุดหัวเราะออกมากับความน่ารักนี่ที่นานๆทีจะได้เห็น แต่มันก็ผิดคาดที่พอคนบนหลังได้ยินผมหัวเราะน้องก็ทักขึ้นมาทันที

    "หัวเราะอะไร คิดแผนแกล้งเสี่ยวลู่หรือเปล่าเนี่ย"
    "เปล่า"
    "ไม่เชื่อหรอก เพราะพี่อ่ะมันขี้แกล้ง"
    "ไม่ได้จะแกล้งจริงๆ"
    "แน่นะ ไม่ได้คิดแผนโยนเสี่ยวลู่ลงจากหลังแน่นะ"
    "ครับ"
    "งั้นเสี่ยวลู่ขอหลับตาสักแป๊บได้ไหมครับ"
    "ถ้าง่วงก็นอนเถอะ ถึงรถแล้วเดี๋ยวพี่ปลุก"
    "ทำไมวันนี้ใจดี"
    "ก็ใจดีทุกวันนั่นแหละ แต่ใครไม่รู้บอกพี่ชอบแกล้ง"

    พอผมเดินมาถึงรถก็เล่นเอาเหงื่อตกเหมือนกันนะครับเนี่ย ผมเรียกคนน้องเบาๆแต่ดูเหมือนว่าคนบนหลังจะขาดสัญญาณการตอบรับไปอย่างถาวรเรียบร้อยแล้วผมเลยจัดการให้น้องนั่งรถดีๆก่อนแล้วค่อยจัดท่าให้น้องได้นอนสบายๆ แล้วก็ไม่ลืมที่จะพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปในโทรศัพท์เพื่อบอกความต้องการของตัวเองให้คุณลุงที่รับหน้าที่เป็นสารถีพาเราออกมาเที่ยวในวันนี้ ลุงเขาพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ผม


    "เสี่ยวลู่ถึงบ้านแล้วครับ" ผมเรียกคนที่นอนหลับเบาๆพร้อมกับบีบแก้มเล็กทั้งสองข้างให้ยู้เข้าหากันด้วยมือเพียงข้างเดียว แต่ถึงจะโดนก่อกวนยังไงก็ไม่เห็นท่าว่าลู่หานจะตื่นจากการหลับไหลเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายเลยตัดสินใจอุ้มคนน้องเข้าบ้านไปทั้งอย่างนั้นเลยครับ พอเดินเข้ามาในบ้านก็เห็นป๊าของลู่หานกำลังเดินจิบชาออกมาจากห้องครัวคงสัยคงเพิ่งจะกลับมาจากงานเลี้ยงมั้งครับ เพราะท่านยังอยู่ในชุดเดิมก่อนออกจากบ้านไปเมื่อช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก

    "发生了什么?为什么你 。。 เกิดอะไรขึ้นทำไมนายถึง..."
    เอ่อ..แล้วแบบนี้ผมควรจะทำยังไงดีล่ะครับ ผมควรจะพูดยังไงให้ท่านเข้าใจ แต่ก่อนอื่นคงต้องวางคนหลับลงบนโซฟาตัวที่ใกล้ที่สุดก่อน แล้วพยายามอธิบายเป็นภาษาใบ้ที่พอจะเข้าใจได้ง่ายๆอย่างเช่นการทำท่านอนให้ป๊าของลู่หานเข้าใจก่อนที่ท่านจะตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษว่า
    "Can you speak english?" เท่านั้นแหละครับผมนี่ทำหน้างงเลย เพราะทำไมผมถึงเพิ่งจะมานึกออกกันนะว่าก็ในเมื่อผมพูดจีนไม่ได้และป๊าของลู่หานเองก็พูดเกาหลีไม่ได้ แล้วทำไม่เราไม่พูดอังกฤษกันล่ะ สงสัยผมคงจะเรียนหนักจนเริ่มเบลออย่างที่น้องว่าจริงๆนั่นแหละครับ
    "พูดได้ครับ"
    "ก็แล้วทำไมไม่พูดตั้งแต่แรกเล่าปล่อยให้ป๊าทำหน้างงอยู่ได้ตั้งนานสองนาน"
    "เอ่อ"
    "เอาเถอะ แล้วนั่นคงกินเยอะจนเผลอหลับไปใช่ไหม"
    "เหมือนจะเป็นอย่างนั้นครับ"
    "งั้นก็พากันขึ้นไปพักผ่อนได้แล้วไป ป๊าไม่กวนแล้ว"
    "ขอบคุณครับ"
    "ขาดเหลืออะไรก็บอกน้องนะ"
    "ครับ"
    "โธ่อะไรอะไม่สนุกเลย" คนที่ผมเข้าใจว่าหลับอยู่พูดขึ้นมาหลังจากที่พ่อของเจ้าตัวเดินขึ้นห้องไปแล้ว ผมหันกลับไปมองหน้าคนพูดก็เห็นอีกคนยิ้มหวานส่งมาให้
    "ได้ทีแล้วเอาใหญ่เลยนะ"
    "อะไร เสี่ยวลู่ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย"
    "มานี่เลย มาให้คิดบัญชีซะดีๆ
    "ไม่เอา~ เสี่ยวลู่ง่วงแล้วเราไปนอนกันก่อนไม่ได้เหรอนะ" ลู่หานว่าพร้อมกับเดินมาเกาะหลังของผมอีกครั้ง ผมที่ตัวสูงกว่าหลายเซนย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อให้น้องกระโดดขึ้นหลังได้ง่ายขึ้น
    "ได้มาอยู่มาเที่ยวด้วยกันแบบนี้แล้วดีจัง" อยู่ๆน้องก็พูดขึ้น
    "..."
    "ไม่อยากให้เปิดเทอมเลยจริงๆเราคงจะหาเวลาว่างมาทำอะไรแบบนี้ยากแน่ๆ"
    "..."
    "แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเวลานี่เนาะ"
    "ครับ"

    ผมตอบรับลู่หานพร้อมกับพาน้องเดินขึ้นบรรไดไปอย่างช้าๆ เพราะหากก้าวพลาดมีหวังจากที่จะได้นอนบ้านคงได้เปลี่ยนไปนอนที่โรงพยาบาลแทนแน่ๆ หลังจากมาถึงห้องนอนเราก็จัดการธุระส่วนตัวของเองให้เรียบร้อยแต่พอถึงเวลานอนจริงๆกลับนอนไม่หลับกันซะอย่างนั้น  
    "พี่เซฮุนเสี่ยวลู่ขอกอดหน่อยได้ไหมนอนไม่หลับอ่ะ"
    "แค่กอดเหรอ"
    "ย๊าห์ อย่ามาล่อแหลมตอนนี้นะ ลู่หานคนแมนสู้คนนะครับ"
    "เพ้อเจอ"
    "ตัวเองเริ่มก่อนเองนะ เสี่ยวลู่ก็แค่พูดตามความรู้สึกก็เท่านั้น"
    "เดี๋ยวนี้กล้าพูดอะไรแบบนี้แล้วเหรอเรา"
    "กล้าพูดมาตั้งนานแล้วเถอะไม่เห็จะแปลกตรงไหนเลย คนเป็นแฟนกันมีอะไรกันมันก็ปกตินี่นา"
    "ย๊าห์ลู่หาน นอนๆไปเลยไม่ต้องมากอดด้วย"
    "ทำเป็นรับไม่ได้ เสี่ยวลู่รู้หรอกว่าพี่เองก็คิด"
    "ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นแหละนอนได้แล้ว"
    "ตอนนี้ไม่ง่วงเลยอ่ะ ทำไงดี"
    "ลู่หานมือ.." 

    เด็กนี่มันดื้อจริงๆครับ นอกจากหน้าตาทะเล้นนี่แล้วมือเล็กๆนั่นก็ทำท่าปูไต่วนเวียนอยู่ช่วงอกผมไปด้วย เล่นเอาสติผมเริ่มที่จะเลอะเลือนขึ้นมาทันที ก่อนที่จะจับมือซนๆนั่นกุมไว้ตรงตำแหน่งของหัวใจที่ตอนนี้มันเต้นแรงประหนึ่งเสียงกลองศึกก็ไม่ปาน
    "ใจเต้นแรง แสดงว่าตอนนี้กำลังหวั่นไหวเหรอครับ"
    "ถ้ายังอยากนอนก็เงียบน่า"
    "เสี่ยวลู่บอกไปแล้วว่านอนไม่หลับ นั่นหมายความว่าเสี่ยวลู่ไม่อยากนอน"
    "นี่อยากเจ็บตัวจริงๆใช่ไหมเนี่ย ถึงได้เอาแต่พูดเรื่องนี้"
    "ไม่รู้สิครับ แล้วพี่เซฮุนว่าไงล่ะ"

    หลังจากประโยคนั้นของน้องผมเลยดีดตัวขึ้นมาคร่อมร่างเล็กเอาไว้ พร้อมกับจ้องมองดวงตากวางสุกใสนั่นที่มันก็กำลังมองสบตาผมอยู่เช่นกัน ผมโน้มหน้าเข้าไปใกล้เพื่อที่จะได้มองความสุกใสในแบบที่ผมชอบใกล้ๆก่อนที่จะถามความแน่ใจจากคนน้อง
    "รู้ใช่ไหมว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น"
    "รู้ครับ"
    "รู้ว่า"
    "รู้ว่าเรากำลังทำอะไรกันครับ"
    "ทำอะไรครับ"
    "ทำแบบนี้ครับ" ลู่หานว่าพร้อมกับยื่นใบหน้าเล็กขึ้นมาจุ๊บที่จมูกของผมหนึ่งทีก่อนเลื่อนลงมากดจูบลงที่ริมฝีปากแน่นอนว่าผมก็ไม่ปล่อยให้คนน้องผลักออกอย่างตอนแรก มือข้างซ้ายของผมล็อคท้ายทอยของลู่หานเอาไว้เพื่อไม่ให้ผลักออก

    ผมเริ่มละเมียดละไมกดจูบริมฝีปากเล็กเพื่อชิมความหวาน บางจังหวะก็กดจูบหนักๆบ้างก็แกล้งกัดริมฝีปากล่างของลู่หานจนลู่หานเผลอหลุดเสียงครางหวานออกมา ซึ่นมันก็เป็นจังหวะที่ดีให้ผมได้แทรกลิ้นชื้นเข้าไปทักทายกับเรียวลิ้นของคนน้อง ที่พยายามจะโต้กลับผมอย่างเงอะงะ และก่อนที่ผมจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้ก็จำต้องผลักออกจากคนน้อง เพราะผมคงจะโลภมากไปหน่อยจนเกือบเผลอทำให้น้องขาดอากาศหายใจ

    "นี่กะจะฆ่ากันหรือไง" ลู่หานว่าเสียงหอบ
    "ไม่มีใครตายเพราะโดนจูบหรอกนะ"
    "แต่จะตายเพราะขาดอากาศหายใจน่ะสิ"
    "แล้วยังไงครับ คนแมนอยากต่อไหม"
    "ก็ไม่ได้ห้ามนี่"
    "นี่เกิดพี่ฟันแล้วทิ้งทำไง"
    "หาแฟนใหม่ครับ" พอได้ฟังคำตอบของลู่หานผมก็ดีดหน้าผากเล็กนั่นเป็นการสั่งสอนหนึ่งทีกล้าดียังไงถึงได้ตอบแบบนี้
    "เอาดีๆสิ"
    "ก็ให้ทำไงอ่ะ ไม่รู้หรอกแต่ก่อนจะได้หาแฟนใหม่เสี่ยวลู่คงร้องไห้เป็นเต่าเผาอ่ะ หลังร้องจนพอใจคงไปฟ้องป๊ามั้ง ให้ป๊าไปจัดการลากตัวพี่มาสั่งสอนแล้วหลังจากนั้นก็ตัดน้องชายพี่ทิ้งแล้วค่อยส่งคืนสู่ธรรมชาติ" 
    "หึ ตัดทิ้งเลยเหรอ"
    "ครับต้องตัดทิ้งเท่านั้น"
    "โหดไปหรือเปล่า"
    "แค่นี้ยังน้อยไปเถอะ"
    "แล้วถ้าตัดทิ้งเนี่ยเราจะไม่เสียใจเหรอ"
    "ทำไมต้องเสียใจด้วย พี่สิที่ต้องเสียใจ เพราะเสี่ยวลู่จะไปประกาศให้ทั่วเลยว่าพี่ไม่มีหนอนชาเขียว"
    "แค้นฝั่งหุ่นนะเราอ่ะ"
    "เขาเรียกว่าฉลาดต่างหาก"
    "งั้นเหรอ แล้วคนฉลาดจะนอนได้หรือยังครับ"
    "อ้าวไม่ทำต่อเหรอ"
    "ไม่ครับ"
    "ไรอ่ะอุตส่าห์ให้ท่าเลยนะเนี่ย เป็นคนดีเกินไปแล้วนะโอ เซฮุน"
    "เขาเรียกว่าให้เกียรติต่างหาก มาทำมิดีมิร้ายลูกเขาถึงบ้านเขานี่คงไม่ดีหรอกจริงไหม"
    "คงงั้นมั้งครับ"
    "ถ้าเข้าใจแล้วก็นอนได้แล้วครับ"
    "ตั้งแต่คบกันมาเสี่ยวลู่เคยบอกรักพี่หรือยังนะ"

    อยู่ๆน้องก็พูดอะไรแบบนี้ขึ้นมาเล่นเอาซะผมทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันครับ เพราะหากมองย้อนกลับไปคำว่ารักเป็นอะไรที่เรายังไม่เคยได้พูดมันออกไปเลยทั้งสองฝ่าย ด้วยเพราะเราแสดงความรักกันออกมาในลักษณะการก่อกวนอีกคนเสียมากกว่า พอจะพูดคำว่ารักก็เกินขัดเขินขึ้นมาเสียอย่างนั้น
    "ถ้าเสี่ยวลู่ยังไม่เคยบอก งั้นเสี่ยวลู่ขอบอกตอนนี้ได้ไหมครับ"
    "...."
    "เสี่ยวลู่รักพี่เซฮุนนะครับ"
    "...."
    "อย่าเงียบสิคนบอกรักใจแป้วหมดแล้วนะ"
    "หึ"
    "ไม่บอกรักเสี่ยวลู่บ้างเหรอ"
    "เปลี่ยนจากการบอกรักเป็นเรามาลองใช้ชีวิตร่วมกันหลังจากนี้อีกสักห้าสิบปีแทนได้ไหม"
    "ทั้งชีวิตเลยนะนั่น พูดแบบนี้จะขอแต่งงานหรือไง"
    "ยังขอตอนนี้ไม่ได้หรอกเพราะยังเรียนไม่จบเลย แต่ขอจองไว้ก่อนได้ไหม เรียนจบแล้วค่อยแต่ง"
    "ถ้าจะจองไหมอ่ะแหวน"
    "งั้นพรุ่งนี้พาไปซื้อแหวนเลยดีไหม"
    "โธ่นึกว่าเตรียมมาพร้อมแล้วซะอีก"
    "หึ พี่รักเราเหมือนกันนะครับ"
    "คริ เขินเหรอครับหน้าแดงเชียว"
    "พอๆ นอนได้แล้ว"

    ผมว่าพร้อมกับคว้าตัวน้องเข้าสู่อ้อมกอดเพื่อซ่อนใบหน้าของตัวเองที่กำลังเขินกับคำพูดหวานๆที่ตัวเองพูดออกไปเมื่อครู่ แต่พอได้พูดมันออกไปแล้วมันทำให้ผมมีความสุขมากเลยครับ สุขที่เห็นว่าลู่หานมีความสุข สุขเพราะเห็นว่าลู่หานยิ้มเพราะคำว่ารักของผม ถึงแม้ว่าความรักของเราจะไม่ได้หวานชื่นอย่างคู่อื่น แต่ก็ยังคงมีความหวานเพื่อหล่อเลี้ยงหัวใจสองดวงของเราสองคน มันก็เหมือนกับร่างกายของมนุษย์ที่ต้องการน้ำตาลนั่นแหละครับ ถึงแม้ว่าจะต้องการน้ำตาลในปริมาณที่ไม่มากแต่ก็ยังคงขาดน้ำตาลไม่ได้เพราะหากขาดไปเลยร่างกายของเราก็อาจจะเป็นพิษได้ 

    "กอดแน่นไปแล้วเสี่ยวลู่หายใจไม่ออกนะ"
    "ดีจะกอดให้ตายกันไปข้างเลย"
    "ถ้าเสี่ยวลู่ตายพี่นั่นแหละจะเสียใจ"
    "นั่นสิ คงเสียใจหน้าดูเลย"
    "ลองไม่เสียใจดูสิ เสี่ยวลู่จะมาหลอกผีพี่"
    "ผีแบบนี้พี่ไม่กลัวหรอก เผลอๆจับผีปล้ำด้วย"
    "ย๊าห์"
    "ไม่ต้องมาย๊าห์เลย นอนได้แล้วพี่ง่วงแล้วเนี่ย"
    "ชิ นอนก็ได้"
    "ฝันดีครับไอ้เด็กกวางป่า" ผมว่าพร้อมกับจุ๊บไปที่หน้าผากมนเป็นการบอกฝันดี คนน้องเองก็เช่นกันครับต่างกันตรงที่น้องจุ๊บที่ริมฝีปากผมแทน ก่อนที่เราจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปพร้อมกัน
    "ฝันดีครับ" 












     
    จบบริบูรณ์ 100%จ้า เย้ๆๆๆๆ 
    สำหรับตอนนี้นะคเป็นยังไงกันบ้างเอ่ยสำหรับตอนจบของคู่ ฮุนฮาน 
    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรานะคะ และยิ่งคนที่คอมเม้นท์ให้เรา เราต้องของคุณมากๆเลยนะ
    ปล.คู่ต่อไปจะเป็นคู่ของใครอย่าลืมติดตามกันด้วยนะ
    #我爱你们 
    :-D:-D:-D

























    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×