ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF EXO [HunHan ChanBaek KrisLay ChenMin TaoHo KaiDo] Rewrite

    ลำดับตอนที่ #19 : SF : EXO HUNHAN 100%

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 66



         


    EP9






        หลังจากผ่านการเรียนมาแบบลากเลือดในช่วงปีหนี่งของผมและปีสามของรุ่นพี่ โอ เซฮุน เรียกได้ว่านี่เป็นโอกาสทองที่เราจะได้พักผ่อนแบบไม่รู้สึกผิดว่าจะส่งงานอะจารย์ไม่ทันหรือมหกรรมการควิซแห่งชาจติอะไรแบบนี้ ผมเลยถือโอกาสนี้กลับบ้านเกิดเสียเลยและก็ไม่ลืมที่จะลากคุณแฟนสุดหล่อของผมไปด้วยเพราะแต่ละวันเรียนหนักยิ่งกว่าผมอีก ขืนปล่อยให้พี่เขาอยู่กับหนังสือแบบนี้ต่อไปเห็นทีจะได้เป็นบ้าก่อนเป็นหมอแน่ อันนี้ผมหมายถึงตัวเองด้วยครับ ที่สำคัญเทอมหน้าพี่เขาก็ปีสี่แล้ว เรียกได้ว่าการเรียนของพี่เขาจะต้องไปใช้ชีวิตในโรงพยาบาลเลยก็ว่าได้เพราะว่าจะเรียนเกี่ยวกับความผิดปกติของร่างกาย โดยจะเรียนรู้ว่าเมื่อร่างกายของเราเกิดโรคต่างๆแล้วจะเป็นอย่างไร มีอาการอย่างไรบ้าง เชื้ออะไรที่จะก่อให้เกิดโรคนั้นๆ และมียาอะไรที่ใช้ในการรักษาได้บ้างอะไรเถือกๆนั้น 

    หลังจากที่เท้าเล็กๆของผมเหยียบท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่งปุ๊บก็ไม่ลืมที่จะเช็คอินเพื่ออัพเดทให้เหล่าเพื่อนๆได้รู้ว่าผมได้มาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพแล้วและกำลังที่จะเดินทางไปที่บ้านของผม
    "พี่เซฮุนเรามาแพลนกันดีกว่าว่าวันนี้เราจะทำอะไรแล้วก็ไปที่ไหนกันบ้าง"
    "...."
    "ผมอยากพาพี่ไปทำอะไรหลายอย่างมากเลย นี่พี่รู้ปะว่าอาหารจีนที่บ้านผมอร่อยมากๆเลย จริงด้วยมีร้านโปรดอยู่ร้านหนึ่งรสชาติอย่างงี้เลย" ผมว่าพร้อมกับยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างเป็นการบอกว่ารสชาติมันสุดยอดของความอร่อยมากจริงๆ
    "..."
    "เนี่ยไม่ได้อยากจะโม้หรอกนะ ถ้าพี่ได้ลองชิมนะพี่ต้องชอบแน่ๆเสี่ยวลู่ฟันธงพอถึงบ้านปุ๊บเราไปปั๊บเลยไหมครับ"
    "....."
    "ทำถึงถึงเอาแต่เงียบเล่าเจ็ทแล็กหรือไงเกาหลีกับจีนห่างกันแค่ชั่วโมงเดียวเองเถอะ"
    "ก็เราเล่นพูดซะไม่เปิดช่องว่างเลยนี่นา"
    "นี่พี่กำลังจะบอกว่าเสี่ยวลู่พูดมากเหรอ"
    "พี่เผลอคิดดังไปเหรอ รู้ได้ไงเนี่ย"
    "ย๊าห์อยากตายเหรอโอเซฮุน ที่นี่ถิ่นเสี่ยวลู่นะเดี๋ยวก็ปล่อยทิ้งที่สนามบินซะหรอก" ผมว่าอย่างโมโหหน่อยๆ คู่เราสองคนก็ประมาณนี้แหละครับคุยกันดีๆได้ไม่เท่าไรหรอก เป็นต้องทะเลาะกันตลอดแต่จะเรียกว่าทะเลาะก็คงไม่ใช่ คือถ้าจะเรียกให้ถูกพี่เขาชอบกวนประสาทให้ผมโมโหเล่นๆมากกว่า 
    "ขอโทษครับคุณเสี่ยว ลู่หาน" 

    พี่เขากวนประสาทผมได้ไม่เท่าไรคนของที่บ้านก็มารับเราสองคน พอมาถึงบ้านผมเท่านั้นแหละครับทุกคนดูให้ความสนใจกับใครอีกคนที่มากับผมทันที โดยเฉพาะป๊าผมที่ทำท่าทางวางท่าซะไม่มี นี่กำลังขู่พี่เซฮุน
    ทางอ้อมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ส่วนพี่เซฮุนเองตอนนี้เหมือนคนเป็นใบ้เลยครับ ใครถามอะไรก็ไม่ตอบเอาแต่มองหน้าผม 
    "พี่เซฮุนป๊าถามว่าเป็นยังไง มาจีนครั้งแรกเหรอ" ผมเองก็ลืมไปครับว่าพี่เซฮุนพูดจีนไม่ได้นี่นา ก็ว่าเห็นยืนเงียบเชียวครับป๊าผมถามอะไรก็ไม่ตอบเอาแต่สบตาป๊าผมแล้วก็หันมามองผม แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมา 
    "เอ่อ ใช่ครับเพิ่งมาครั้งแรกครับ" 
    "他不会说中文? พูดจีนไม่ได้ "  ป๊าผมหันมาพูดกับผมก่อนที่จะหันไปมองพี่เซฮุนอีกครั้ง ผมเองก็ได้แต่พยักหน้าให้ป๊าก่อนที่จะหันไปแปลประโยคเมื่อกี้ให้พี่เซฮุนฟัง สงสัยช่วงที่พี่เซฮุนอยู่ที่จีนผมคงได้รับหน้าที่เป็นล่ามส่วนตัวให้พี่เขาแน่นอนครับ 
    "มาถึงแล้วเหรอเด็กๆ" และกว่าที่จะมีใครได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ม๊าผมก็เดินออกมาจากในครัวสงสัยคงเข้าครัวเตรียมมื้อเที่ยงไว้สำหรับทุกคนวันนี้ครับ
    "ม๊าเสี่ยวลู่คิดถึงม๊าจังเลย" ผมที่ได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่ก็วิ่งเข้าไปกอดทันทีครับ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน
    ดูเหมือนว่าม๊าผมจะสวยขึ้นหรือเปล่าเนี่ย  แล้วก็ไม่ลืมที่จะแนะนำพี่เซฮุนให้กับม๊าตัวเอง
    "ม๊าครับนี่พี่เซฮุน"
    "โอ เซฮุน โตขึ้นมากเลยนะเนี่ย" ม๊าผมหันไปพูดกับพี่เซฮุนบ้าง พี่เขาทำหน้างงๆด้วยครับคงสงสัยว่าม๊าผมพูดเกาหลีได้ยังไงล่ะมั้งครับ
    "สวัสดีครับ"
    "เมื่อกี้โดนตาแก่นี่แกล้งหรือเปล่าลูก"
    "แกล้งเหรอครับ"

    เห็นรุ่นพี่โอเซฮุนทำหน้างงๆผมก็เกือบจะหลุดขำออกมาซะแล้ว นี่คงยังงงแน่นอนเลยครับว่าโดนป๊าผมแกล้งตอนไหน แล้วก็ที่กำลังโดนแกล้งตอนนี้เห็นทีว่าจะเป็นป๊าผมแทนเพราะหน้าตาป๊าตอนนี้คือมองซ้ายทีขวาทีคงมั้งครับว่าเราสามคนคุยอะไรกันครับ
    为什么不说中文,说韩语我听不懂 ทำไมไม่พูดจีนกัน ผมไม่เข้าใจภาษาเกาหลีนะ ” 
    那是你的事,与我无关 นั่นมันเรื่องของคุณไม่เกี่ยวกับฉันค่ะ 
    "ไปกินข้าวกันดีกว่าลูก หิวกันหรือยัง"

    หลังจากนั้นม๊าก็ลากผมกับพี่เซฮุนไปกินข้าวทันทีเลยครับ ทิ้งให้ป๊าผมยืนทำหน้าเหลอหลาอยู่ตรงนั้นคนเดียว แต่ไม่นานป๊าก็มานั่งร่วมโต๊ะกินมื้อเที่ยงด้วย การกินข้าวด้วยกันมื้อแรกของพี่เซฮุนกับครอบครัวผมเรียกได้ว่ามีแต่เสียงหัวเราะเฮฮาของผมกับม๊าที่เป็นฝ่ายเข้าใจทั้งภาษาจีนและภาษาเกาหลีครับ ป๊าก็ดูพยายามที่จะคุยกับพี่เซฮุนมากส่วนว่าที่ลูกเขยอย่างพี่เซฮุนเองก็ดูมีความพยายามที่จะตอบมากๆเช่นกันครับ นี่ถ้าเกิดปล่อยสองคนนี้ไว้ด้วยกันคงจะสนุกน่าดูเลยครับทุกคนว่าไหม พอหลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จผมกับพี่เซฮุนก็ขึ้นมาพักที่ห้องของผมช่วงเย็นๆค่อยลงไปกินข้าวอีกรอบ


    "เสี่ยวลู่ สอนภาษาจีนพี่บ้างสิ"

    ไม่รู้ว่าพี่เซฮุนเขาคิดอะไรอยู่ครับ อยู่ๆบอกอยากเรียนภาษาจีนซะอย่างนั้น แต่ก็พอจะเข้าใจได้แหละครับคงอยากคุยกับป๊าผมล่ะมั้ง เป็นเอ็นดูมากเลยแฟนใครก็ไม่รู้ 
    "เสี่ยวลู่คิดค่าจ้างนะครับบอกไว้ก่อน"
    "หน้าเลือด" พี่เซฮุนว่าพร้อมกับดีดหน้าผากผมเบาๆหนึ่งที
    "หน้าเลือดอะไรเล่าเนี่ยเขาเรียกวัยรุ่นสร้างตัวต่างหาก รู้จักไหมพี่อ่ะ"
    "ก็สอนก่อน รอจ่ายทีเดียวไม่ได้หรือไง"
    "จ่ายทีเดียว.." ผมว่าประโยคนี้มันฟังดูยังไงๆนะครับ คือความหมายของมันกำลังทำผมหน้าแดงแน่นๆเลยครับตอนนี้


    หลังจากที่ผมกับลู่หานได้อยู่กันสองคนหลังกินมื้อเที่ยงกันเสร็จผมก็มีความคิดว่าช่วงเวลาที่ผมอาศัยอยู่ที่จีนผมควรจะต้องศึกษาภาษาจีนเอาไว้บ้างเพื่อเอาตัวรอดหรือเอาไว้ใช้เวลาคุยกับป๊าของลู่หาน แต่พอเอ่ยปากขอให้น้องช่วยก็ไม่วายโดนก่อกวนจากคนน้องกลับมา ผมเลยจัดการดีดหน้าผากไปหนึ่งทีพร้อมกับทิ้งประโยคชวนคิดให้น้องได้หน้าแดงเล่นๆอีกหนึ่งประโยค
    "ว่าไง รอจ่ายทีเดียวได้ไหมครับ"
    "อย่ามาปากหวานเสี่ยวลู่ไม่หลงกลหรอกนะจะบอกกให้"
    "หลงกลอะไร พี่แค่อยากให้เราสอนพี่พูดจีนแค่นั้นเอง"
    "ไม่ต้องมาแกล้งเลยรู้ทันหรอก"
    "คนแมนเขาไม่แกล้งกันหรอก" ผมว่าเรียนแบบประโยคที่คนน้องชอบพูดบ่อยๆ ทำเอาตอนนี้จากที่ตอนแรกผมมั่นใจว่าน้องหน้าแดงเพราะกำลังเขิน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าน้องคงจะหน้าแดงเพราะกำลังโมโหผมมากกว่าแล้วล่ะครับ
    "นั่นมันคำพูดเสี่ยวลู่นะ"
    "แต่พี่แฟนเสี่ยวลู่นะครับ"
    "ย๊าห์โอเซฮุน อย่ามาพูดแบบนี้กับเสี่ยวลู่นะเดี๋ยวก็จับปล้ำเลยนี่" คำพูดคำจานี่มันช่างน่าโดนกัดสั่งสอนซะไม่มีเลยครับ ไม่รู้ว่าใครสอนให้พูดแบบนี้ แต่ถึงจะเป็นคำพูดห่ามๆที่ไม่เหมาะกับน้องเลยแต่พอน้องพูดมาแบบนี้มันก็ดูน่ารักเหมือนกันแฮะ 
    "ตัวเท่าลูกเจี๊ยบอย่ามาทำเก่งให้มาก"
    "แล้วพี่อ่ะ ตัวใหญ่ซะเปล่าแต่ป๊อดซะไม่มี"

    พอโดนคนน้องสบประมาทแบบนี้ผมก็อยากจะสั่งสอนน้องมันขึ้นมาจริงๆซะแล้วล่ะสิ พอคิดได้ดังนั้นผมก็หันไปมองคนน้องอย่างคาดโทษก่อนที่จะขยับเข้าไปหาคนน้องเพราะเรานั่งอยู่บนเตียงคนละฝั่งกัน ส่วนคนน้องเองก็ทำท่าจะลุกออกจากเตียง ซึ่งผมไวกว่าคว้าตัวน้องไว้ได้แล้วกดลงกับเตียง ผมเองก็ดีดตัวขึ้นไปคร่อมน้องเอาไว้
    "เสี่ยวลู่ไม่เล่นนะปล่อยเลย"
    "แล้วใครว่าพี่เล่นล่ะ" ผมว่าพร้อมกับค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้ ส่วนคนใต้ร่างผมก็หันหน้าหนีไปอีกทางทันที ไม่รู้หรือไงว่าหันหนีแบบนี้มันก็เท่ากับเปิดทางชัดๆ เด็กหนอเด็กช่างไม่รู้อะไรซะเลย
    "..."
    "ทำแบบนี้คือเปิดทางเหรอครับเสี่ยวลู่"
    "เปิดทางบ้าอะไรเล่าลงไปเลยนะ เสี่ยวลู่จะไปอาบน้ำ"
    "ถ้าจะให้ลงก็ต้องจ่ายก่อนสิครับ"  
    "เจ้าเล่ห์มาก พ่อแม่รู้ไหมเนี่ยว่าเป็นคนแบบนี้"
    "พ่อแม่พี่รู้ครับ แต่แฟนพี่นี่สิครับไม่รู้ว่าเขารู้หรือเปล่า"
    "งืออออ อย่ามาทำให้เขินจะได้ไหมเนี่ย"
    "หึ แล้วคนแมนที่ขู่ว่าจะปล้ำพี่ไปไหนซะแล้วล่ะครับ"
    "อย่ามาสบประมาทคนแมนอย่างเสี่ยวลู่นะ ถ้าเสี่ยวลู่เอาจริงพี่นั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายขอร้องเสี่ยวลู่บอกเลย"

    สมกับเป็นน้องเขานั่นแหละครับ ความอยากเอาชนะนี่ไม่เกินใครเลย พอโดนแหย่โดนยุเข้าหน่อยนี่เรียกได้ว่าถึงไหนถึงกันเลย สงสัยคงจะต้องได้สั่งสอนสักหน่อยแล้วแหละครับกับการอยากเอาชนะเนี่ย ขืนไปโดนใครท้าให้ทำอะไรพิเรนๆเนี่ยคงได้ทำตามคำท้าแน่ๆ ซึ่งข้อนี้ผมคงจะยอมให้มันเกิดขึ้นไม่ได้
    "ลู่หาน..."
    "อย่ามาเรียกชื่อแล้วไม่พูดแบบนี้สิ คนฟังมันใจไม่ดีนะ"
    "พี่จะขอเตือนในฐานนะพี่ชายว่าอย่าเที่ยวไปอยากเอาชนะและต่อปากต่อคำกับใครแบบนี้มั่วซั่วเข้าใจไหมเพราะเราไม่รู้ว่าผลที่จะตามมามันเป็นยังไง แต่ ในฐานะแฟนพี่ขอเตือนเลยว่าอย่าเล่นกับไฟ เพราะอะไรรู้ไหมครับ"
    "......" คนที่อยู่ใต้ร่างผมส่ายหัวเบาๆ ผมจึงก้มลงไปกระซิบใกล้ๆกับใบหูเล็กน่ารักนั่นพร้อมกับกัดเบาๆไปหนึ่งที
    "เพราะไฟมันร้อนยังไงล่ะ"
    "ถ้าไฟมันร้อน เสี่ยวลู่จะเอาน้ำดับเอง"
    "หึ งั้นเหรอครับ ตอนนี้ดูเหมือนว่าไฟในตัวพี่มันจะร้อนซะแล้วสิ ไหนลองดับไฟให้ดูหน่อยได้ไหมครับ"
    "ถ้าอยากให้ดับจริงๆก็ต้องล็อคประตูก่อนสิครับ เดี๋ยวป๊าม๊ามาขัดจังหวะ" 

    ไอ้เด็กนี่มันร้ายสมกับความปากดีของมันจริงๆเลยครับ พอผมเดินไปล็อคประตูอย่างที่น้องมันว่าแต่พอหันกลับมาก็โป๊ะเชะเลยครับ ลู่หานวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปแล้ว แต่ก็ไม่วายโผล่ใบหน้ากวางป่าของตัวเองออกมาล้อเลียนที่ผมตกหลุมพลางของเขา ไอ้เด็กเลี้ยงแกะเอ้ย 

    "ฝากไว้ก่อนเถอะ คืนนี้ไม่รอดแน่"
    "คิดว่ากลัวเหรอ แบร่" ยังจะมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผมอีกสงสัยคืนนี้คงต้องจัดการขั้นเด็ดขาด สั่งสอนให้เด็กมันดูสักหน่อยครับว่าคนแมนที่แท้จริงมันเป็นยังไง



    พอตกเย็นที่ตอนแรกผมเข้าใจว่าพวกเราจะได้กินมื้อเย็นฝีมือม๊า แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นไงมาไงครับเห็นคุณแม่มาเคาะห้องแล้วบอกว่าวันนี้จะไปงานวันเกิดเพื่อนคุณพ่อ หากเราสองคนอยากไปด้วยก็เตรียมตัวเองใหพร้อมแต่ถ้าไม่ม๊าผมจะสั่งแม่บ้านให้ทำอาหารเย็นไว้ให้ แต่สุดท้ายผมก็ปฏิเสธม๊าทั้งสองทางเพราะว่าจะพาคนพี่ออกไปเปิดหูเปิดตายามค่ำคืนของประเทศจีนดีกว่า แล้วตอนนี้ช่วงเวลาทุ่มกว่าๆผมกับพี่เซฮุนก็มาอยู่ที่ร้านอาหารแห่งที่ผมเคยบอกว่าอยากจะพาพี่เขามากินตอนที่เราอยู่สนามบิน
    "พี่เซฮุนไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเสี่ยวลู่สั่งให้รับรองเลยว่าเริศ"
    "โอเคครับ"
    "ครับอีกแล้ว"
    "พูดหวานๆไม่ชอบหรือไง"
    "ชอบครับ แต่มันไม่ชิน"

    ก่อนที่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ผมก็ชี้นิ้วสั่งสิ่งที่ผมอยากกินและสิ่งที่คิดว่าพี่เซฮุนจะชอบ ที่สำคัญเมนูลับที่ไม่ว่าใครที่มาร้านนี้ก็จะต้องได้กิน เพราะว่าหากไม่ได้กินจะถือซะว่ามาไม่ถึงจีนแผ่นดินใหญ่ สักพักอาหารมากมายที่ผมสั่งก็เริ่มมาเสิร์ฟ 

    "พี่ลองชิมอันนี้ดูอร่อย" ผมว่าพร้อมกับคีบอาหารไปใส่จานให้พี่เซฮุน
    "ขอบคุณครับ"
    "ชิมๆ"
    "มันคืออะไรเหรอ"
    "ซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวาน"

    และอื่นๆอีกมากมายที่ผมตักใส่จานให้พี่เขา เราสองคนกินมื้อค่ำไปได้สักพักเมนูลับก็พร้อมเสิร์ฟแล้วครับ พออาหารเมนูสุดท้ายถูกวางลงบนโต๊ะอาหาร พี่เซฮุนก็หันหน้ามามองผมอย่างสงสัยประมาณว่า ผมสั่งเมนูนี้มาเหรอ มันคืออะไรแล้วมันกินได้จริงๆใช่ไหมและที่สำคัญใครจะเป็นคนกิน

    "อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับ ผมว่ามันอร่อยออก"
    "มันคือ...."
    "เปิบพิสดารไง มาถึงจีนแล้วไม่กินนี่เท่ากับมาไม่ถึงนะครับพี่เขามองหน้าผมก่อนที่จะหันกลับไปมองสิ่งที่ตัวเองจะต้องกินมันมีทั้งตุ๊กแกแห้ง แมงป่อง ปลาดาว ม้าน้ำ ไข่จั๊กจั่น หรือแม้กระทั่งงูเสียบไม้ เนี่ยผมบอกเลยว่ามันคือเมนูอันลือชื่อของปักกิ่งเชียวนะครับ
    "พี่ว่าบางทีเราไม่จำเป็นต้อง..."
    "ไม่ครับ เสี่ยวลู่ว่ามันจำเป็นครับ ครั้งหนึ่งในชีวิตเลยนะครับ"
    "แต่..."

    ผมไม่ปล่อยให้พี่เซฮุนพูดอะไรไปมากกว่านี้จัดการยื่นเมนูที่คิดว่าซอฟที่สุดไปให้พี่เซฮุนอย่างไข่จั๊กจั่น หน้าพี่เซฮุนคือลำบากใจมากครับตอนที่พี่เขายื่นมือออกมารับไข่จั๊กจั่นย่างจากมือผม นี่ถือว่าผมใจดีเลือกอันที่เบาที่สุดที่คิดว่าพี่เซฮุนจะกินได้ให้เลยนะครับเนี่ย
    "มันอร่อยพี่เซฮุน ลองชิมดูหน่อยสิ"
    "ก่อนจะกินพี่ขอพูดอะไรอย่างได้ไหม"
    "คุณได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้" ผมว่าพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้
    "ถ้าเราไม่ใช่แฟนพี่นะรับลองได้เลยเราไม่รอดแน่"
    "ครับ แต่ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับที่พอดีเสี่ยวลู่เป็นแฟนพี่ เพราะฉะนั้นพี่นั่นแหละไม่รอดแน่ กินเข้าไปเลย" ผมว่าพร้อมกับเกาคางพี่เขา เป็นไงครับนี่คือการเอาคืนที่คนตรงหน้าชอบแกล้งผมดีนักตอนช่วงรับน้อง คิดว่าลู่หานคนนี้จะลืมเหรอว่าโดนแกล้งอะไรไปบ้าง ซึ่งลู่หานคนนี้ไม่มีทางลืมหรอกแค้นนี้ต้องชำระ มันคือการหลอกให้เหยื่อตายใจแล้วฆ่าให้ตายทีหลังอย่างเลือดเย็นครับ 55555 

    "เสี่ยว ลู่หาน รู้ไว้เลยนะว่ากลับถึงห้องเมื่อไรไม่รอดแน่"



     



    มาแล้วจ้า รอกันนานไหมเอ่ย สำหรับใครที่รออ่านเรามาต่อแล้วจ้า ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะแล้ว
    #ขอคุณคนที่คอมเม้นท์และคนที่ติดตามอ่านนิยายเรานะคะ
    ปล.คู่ต่อไปจะเป็นใครนะ และจะสนุก วุ่นวายยังไง รอลุ้นกันได้จ้า♡♡♡♥♥♥♥

                                                       ♥♥100%♥♥








    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×