คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : SF : EXO HUNHAN 100%
และแล้วเวลานี้ก็มาถึง ทั้งคนพี่และคนน้องนั่งเงียบโดยที่ไม่มีใครยอมพูดอะไรแม้แต่คำเดียว หลังจากที่ทานข้าวกับไอ้เด็กนี่และก็แม่ของตัวเองเสร็จ ตัวเขาเองที่รอเวลานี้มาตลอดจนตอนนี้มันก็มาถึงสักที ดูท่าทางนิ่งเงียบและไม่ยอมพูดอะไรของอีกคนแบบนี้ เชื่อเถอะว่าคนข้างๆของผมนั้นต้องกำลังคิดแผนอะไรอยู่แน่นอน
“เป็นอะไรอยู่ๆก็เป็นใบ้ขึ้นมาเหรอ” หันไปสังเกตท่าทีอีกคนอยู่บ่อยครั้งก่อนที่จะเป็นคนเอ่ยขึ้นมา
“เปล่าสักหน่อย เสี่ยวลู่ก็แค่ไม่มีอะไรที่อยากจะพูดก็เท่านั้น” ร่างบางตอบ
“งั้นเหรอ จะว่าไปถนนเส้นนี้เนี่ยก็ไม่มีรถเลยเนอะ” ร่างสูงที่คิดอะไรดีๆขึ้นมาได้ก็ไม่รอช้าเปิดประเด็นทันที
“เหรอ..อืม ก็คงใช่แหละแฮ่” ร่างบางตอบออกไปพร้อมกับหัวเราะแห้งๆเป็นการกลบกลื่น
“แล้วถ้าฉันเผลอ...ปล่อยเธอให้เดินเล่นแถวนี้เป็นการย่อยมื้อค่ำสักนิดหน่อยจะเป็นยังไงนะ” ร่างสูงว่าพร้อมกับหักรถเข้าข้างทาง
“ไม่ดีหรอก”
“เหรอ แต่ฉันว่าดีออกนะ กินอิ่มแล้วก็เดินย่อยดีต่อสุขภาพดีออก” เมื่อจอดรถสนิทร่างสูงก็หันไปจ้องร่างบางที่นั่งอยู่ข้างกันตาไม่กระพริบ
"เสี่ยลู้ไม่ชอบเเดินย่อย" ลู่หานว่าพร้อมกับจับเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ไม่แน่น
“ลงไป” น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยบอกกับร่างบาง
“ไม่ได้นะ ถ้าลงแล้วเสี่ยวลู่จะกลับยังไงอ่ะ”
“นั่นมันเป็นเรื่องที่นายที่จะต้องหาทางแก้ไขเอาเอง”
“แก้ไขบ้าอะไรตอนนี้ นายนั้นแหละที่จะต้องแก้ไขด้วยการพาเสี่ยวลู่ไปส่งที่หอตามคำสั่งของคุณน้า”
“ทำไมจะไม่ได้ ก็ในเมื่อนี้มันรถของฉัน และที่คัญเธอเป็นคนเริ่มก่อนเองนะ” ร่างสูงพูดพร้อมกับยกมือขึ้นตบแก้มร่างเล็กเบาๆ เหตุการณ์นี้มันเหมือนกับที่ร่างบางทำไว้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาที่บ้านของผมนั้นเอง
แต่มันก็ผิดคาดตรงที่ร่างเล็กนั้นดันจับมือของเขาไว้ พร้อมกับสายตาคู่กวางคู่สวยที่กำลังจ้องมาที่เขาอย่างอ้อนวอน ดวงตาที่สุกใสดั่งลูกกวางตัวน้อยที่กำลังอ้อนวอนเพื่อขอร้องให้อีกคนอย่าทำอย่างที่ว่าเลย แถมยังอัพเลเวลมาพร้อมกับการกระพริบตาปิ้งๆสามทีเพื่อเป็นการหลอกล่อให้เหยื่อตายใจ เซฮุนเองที่เจอแบบนี้ก็เผลอหลบตา ก่อนที่จะหันไปมองคนน้องใหม่อีกที
“รุ่นพี่จะให้เสี่ยวลู่ลงจากรถจริงเหรอครับ” ลู่หานยังคงจับมือหนาของคนพี่เอาไว้แน่น
“ลง ไป” เซฮุนที่เรียกสติตัวเองกลับมาได้ก็ตอบกลับอย่างเย็นชา
“เอาจริงเหรอ”
“หรือจะให้ฉันลากลงไป”
“ได้ จะทำอย่างนี้ใช่ไหม ” ร่างบางว่าพร้อมกับยกโทรศัพท์โชว์เบอร์ของมารดาร่างสูงให้ดู
“คิดว่าฉันกลัวเหรอ”
“กลัวไม่กลัวไม่รู้ รู้แค่ว่าถ้าคุณน้ายุนอารู้ล่ะก็ รุ่นพี่ไม่รอดแน่” ร่างบางว่าพร้อมกับโทรออกหาปลายสายทันที
“ฉันคงไม่โง่ปล่อยให้เธอโทรไปฟ้องแม่ฉันหรอกนะ” ร่างสูงว่าพร้อมกับตรงเข้าไปแย้งโทรศัพท์ออกมาจากมือของร่างบาง ลู่หานเองที่พอจะเดาทางออกอยู่บ้างก็รีบเอาโทรศัพท์ไปซ้อนไว้ด้านหลัง
“เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”
“ไม่มีทางซะหรอก”
ระหว่างที่ทั้งสองกำลังยื้อแย่งกันอยู่นั้น คนที่อยู่ปลายสายก็เอ่ยทักขึ้นมาทันที
‘น้องลู่ว่าไงลูก ถึงแล้วเหรอ’ ร่างสูงที่ได้ยินเสียงแม่ของตัวเองก็ถึงกับหยุดทันที
“ออกรถสิครับ ถ้าไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงหูแม่พี่” ลู่หานกะซิบเบาๆให้ร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าได้ยิน ก่อนที่จะหันไปพูดกับคนปลายสาย
“ยังเลยครับ ตอนนี้เสี่ยวลู่กำลังมีปัญหานิดหน่อยน่ะครับ” ร่างสูงเองเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มออกรถ พร้อมกับมองหน้าร่างเล็กอย่างทำอะไรไม่ได้
‘ฝากไว้ก่อนเถอะ’ เซฮุน
“คุณแม่ครับ แต่ตอนนี้ปัญหาทุกอย่างเสี่ยวลู่เคลียร์ได้หมดแล้วล่ะครับ”
‘อะไรกันเรานี้ หรือว่าพี่เค้าแกล้งบอกแม่มานะ’
“ก็มีนิดหน่อยครับ แต่คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะความน่ารักของเสี่ยวลู่พี่เขาไม่กล้าแกล้งได้ลงคอหรอกครับ” ร่างบางหันไปมองหน้าร่างสูงพร้อมกับยกมือขึ้นไปหยิกแก้มคนพี่เบาๆเป็นการยั่วโมโหบ้าง
‘แน่ใจนะ’
“ครับผม งั้นเสี่ยวลู่ว่างสายแล้วนะครับ” ก่อนที่จะกดวางสายไป
“ร้ายไม่เบานี่”
“อย่าเนี่ยเขาไม่ได้เรียกร้ายหรอก แต่เขาเรียกว่าฉลาดต่างหาก”
“ระวังตัวให้ดีแล้วกันถึงทีฉันเมื่อไรเธอไม่รอดแน่”
“รุ่นพี่ก็พูดงี้ตลอดแหละ ไม่เห็นจะทำอะไรเสี่ยวลู่ได้เลย”
“อย่าทำเป็นมั่นใจไปหน่อยเลย อย่าพลาดก็แล้วกัน”
ตลอดทางยังคงมีบทสนทนาที่ขัดแย้งกันบ้าง ก่อนที่รถคันหรูจะขับเข้ามาถึงที่หอพักนักศึกษาต่างชาติ
“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง ถึงแม้ว่ารุุ่นพี่จะไม่ได้เต็มใจก็ตาม”
“กองไว้ตรงนั้นแหละ”
“โอ้เธอเจ็บจี๊ดเลยอ่ะแต่ไม่สะทกสะท้านหรอกนะ แล้วก็คนอะไรเป็นรุ่นพี่ซะเปล่าดูไม่เหมือนคนที่มีวุฒิภาวะเอาซะเลย ใจแขบอีกต่างหาก”
“เธอว่าใครห๊ะ”
“ทำไม รับไม่ได้หรือไงโธ่เอ้ยไม่แมนเลยขนาดรุ่นพี่ว่าเสี่ยวลู่เสี่ยวลู่ยังรับได้เลย”
"เธอนี่มัน....."
เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองคนเปิดศึกฝาดฟันกันด้วยสายตาก่อนที่ร่างเล็กเองที่เป็นฝ่ายหลบสายตาแล้วเปิดประตูรถเดินขึ้นหอพักของตัวเองไป
“ระวังตัวให้ดีเถอะกวางป่าเอ้ย” ร่างสูงที่ตะโกนตามหลังร่างบางที่กำลังเดินขึ้นห้องไปอย่างที่กำชัยชนะอยู่ในมือ แต่เมื่อพอได้ยินประโยคที่คนพี่ตะโกนไปก็หันกลับมาโต้ตอบอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“บอกตัวเองเถอะไอ้รุ่นพี่ฆาตกร ” ก่อนที่จะรีบเดินเข้าไปโดยที่ไม่หันกลับมองมองร่างสูงอีก
เมื่อเซฮุนได้ยินดังนั้นก็ถึงกับกระตุกยิ้มทันที เมื่อนึกถึงครั้งแรกที่ได้เจอกันโดยบังเอิญที่ร้านของแม่ตัวเองเมื่อครั้งนั้น มันก่อให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมาขนาดนี้เชียวเหรอ ที่สำคัญคือเขาไม่นึกเลยว่าร่างบางจะโกรธกันมากขนาดนี้
“กวางป่าเอ้ย คิดได้ไง นี่ฉันไปก่อคดีแย้งชานมไข่มุกของนายเหรอเนี่ย” ก่อนที่จะขับรถออกไป
ร่างบางที่เดินมาจนถึงห้องตัวเองก็ทำได้เพียงกรีดร้องในใจเท่านั้น แหม คิดว่าเรากลัวหรือไง ฝันไปเถอะครั้งหน้านะเจอหนักแน่
“รู้จักเสี่ยวลู่น้อยไปแล้ว”
ร่างบางเตรียมตัวอาบน้ำชำระร่ายกาย เมื่อเสร็จภารกิจทุกอย่างก็เดินมาล้มตัวลงนอนที่เตียงเดี่ยวของตัวเอง เปลือกตาบางค่อยๆหลับลงอย่าช้าๆ
ค่ำคืนที่แสนหวานกำลังผ่านไปอย่างช้าๆลู่หานที่กำลังหลับสบายอยู่บนเตียง ได้ยินเสียงแว่วแปลกๆที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ด้วยเสียงอันแผ่วเบา แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ลู่หานตื่นจากการนอนอันแสนหวานแต่อย่างใด คงเป็นเพราะเหนื่อยมาทั้งวันเลยทำให้ร่างบางเลือกที่จะไม่ลืมตาขึ้นมาดู เสียงนุ่มทุ้มที่ข้างหูดังเข้ามาในโสตประสาทอีกครั้ง เอ่ยเรียกชื่อผู้ที่นอนหลับไหนใกล้ใบหูเล็กที่รับกับสันกรามเรียวสวยได้เป็นอย่างดี
“นี่กวางป่า ตื่นได้แล้ว” เสียงที่คุ้นหูนั่นทำให้ร่างบางเริ่มที่จะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้าง ลู่หานมองไปรอบๆห้องที่ตัวเองนอนอยู่ก็ไม่พบว่ามีใครอยู่ในห้องเลยนอกจากตัวเขาเองที่เป็นเจ้าของห้องนี้และสุดท้ายก็เลือกที่จะหลับตาลงอีกครั้ง
“กวางน้อยของเซฮุน ตื่นได้แล้วนะครับ” คราวนี้ร่างบางสะุด้งตื่นขึ้นมาเต็มตาด้วยความตกใจเพราะอะไรบางอย่างที่ทำให้ลู่หานรู้สึกเอะใจว่านี่มันแปลกเกินไปแล้ว พบว่าร่างสูงที่เพิ่งจะมาส่งตนนั้นตอนนี้กำลังนอนคล่อมร่างของตัวเองอยู่
ลู่หานตกใจกับสถานการณ์ตรงหน้ามากจึงทำได้เพียงนิ่งเงียบ และจ้องใบหน้าหล่อของคนที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น ส่วนใบหน้าคมสันของเซฮุนกำลังจ้องมองมาที่ลู่หานแล้วค่อยๆโน้มลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก
ริมฝีปากหนาค่อยๆเลื่อนมาที่ริมฝีปากเล็กที่กำลังกัดริมฝีปากตัวเองอยู่อย่างน่ารัก
“พี่ขอนะ” ร่างสูงพูดออกมาแค่ประโยคเดียวเท่านั้นก่อนที่จะประกบริมฝีปากบางทันที ร่างบางที่กำลังงงอยู่กับเหตุการณ์นี้ก็เริ่มดิ้นเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดนั้น
“ปล่อยนะ ปล่อยยยยยยยย” ร่างบางตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงก่อนที่จะผลักร่างสูงให้ออกห่างจากตัวเอง
“พี่ทำบ้าอะไรอยู่รู้ตัวหรือเปล่า”
“รู้สิ เพราะพี่รักเราไง”
“จะเป็นไปได้ไงก็ในเมื่อ”
“เสี่ยวลู่ เชื่อพี่เถอะนะพี่รักเรารักมากด้วย” ร่างสูงที่กำลังพูดเพื่อกล่อมให้ร่างบางยอมเชื่อใจ ว่าตนนั้นรักคนที่อยู่ตรงหน้านี้มากมายเพียงใด
“จริงเหรอครับ”
“ใช่พี่รักเรา ได้ยินไหม เซฮุนรักเสี่ยวลู่นะ” ร่างสูงเดินเข้ามาประกบจูบอีกครั้ง โดยที่ครั้งนี้ร่างบางไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด ก่อนที่อะไรหลายๆอย่างจะเป็นไปตามความต้องการของคนที่อยู่เบื้องบน
“เสี่ยวลู่ก็รักพี่เซฮุนเหมือนกันนะครับ” ร่างบางเอ่ยบอกกันคนตัวสูง ถึงแม้ในใจจะแอบคิดว่าเราจะไปรักไอ้คนแบบนี้ได้ยังไง มันเป็นไปได้ด้วยเหรอเพราะระหว่างตัวเองกับรุ่นพี่คนนี้ก็ใช่ว่าจะมีเส้นทางรักที่หวานชื่นเสียเมื่อไร
“แต่ฉันไม่อยากได้ความรักจากเธอ” ร่างบางที่ไม่เข้าใจว่าร่างสูงกำลังพูดเหมือนกับคำว่ารักที่ร่างเล็กได้บอกไปเป็นแค่สิ่งไร้ค่าที่ร่างสูงนั้นไม่ต้องการ
“หมายความว่ายังไง…..”
“เธอมันโง่เองยังไงล่ะ ลู่หาน ฉันหว่านล้อมแค่นิดหน่อยเองก็ตกหลุมพลางซะแล้ว” ร่างสูงมองหน้าร่างบางด้วยอารมณ์ที่แตกต่าง
“เลว…… เลวที่สุด” ร่างบางว่าพร้อมกับมือเล็กตบตีร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าไปด้วย
"ก็รู้นี่ว่าฉันเลว แต่นายก็ยังถวายตัวเองให้ฉัน"
"ไม่นะ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับฉันเนี่ยยยยยยยยยยยยย"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ฮึก!!!!เลว….ไอ้คนเลว ” ลู่หานตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง ก่อนที่สายตาเรียวเล็กที่เปื้อนรอยน้ำตายังคง มองหาอีกคนที่ปู้ยี้ปู้ยำตัวเอง แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น ร่างบางสำรวจตัวเองอีกครั้ง และก็พบว่าเสื้อผ้าทุกอย่างยังคงอยู่ครบ ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด
“อย่าบอกนะว่า……..” ลู่หานที่เริ่มเรียงลำดับเหตุการณ์ได้ ก็ยิ่งโกรธแค้นร่างสูงเข้าไปใหญ่ นี้ขนาดในความฝันยังตามมารังควานเลยเหรอเนี่ย
“แม้แต่ในฝันยังไม่เว้นเลยเหรอเนี่ย ไอ้ฆาตกร แย้งชานมไข่มุกยังไม่พอ ยังกล้ามาทำแบบนี้กับเสี่ยวลู่ถึงในฝันอีก ” ลู่หานคงจะลืมไปแล้วว่าระหว่างความจริงและความฝันนั้นมันเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ตัวเขาได้เอาทั้งสองเรื่องมารวมกันถึงแม้ว่าใครอีกคนจะไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยก็ตาม
ความคิดเห็น