ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    F4...ถึงร้ายก็รัก [ SJ-Y ]

    ลำดับตอนที่ #5 : F4...ถึงร้ายก็รัก Chapter#4 ชื่อใหม่ของสมาชิกF4คือ?(100%)

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.พ. 53


    F4...ถึงร้ายก็รัก Chapter#4 ชื่อใหม่ของสมาชิกF4คือ?

     

     

    “นี่มันบ้าอะไรเนี่ย!!   เสียงหวานของซองมินร้องขึ้นเมื่อเห็นเศษขยะที่กองอยู่เต็มโต๊ะเรียนไปหมด ตาโตกวาดมองเพื่อนร่วมห้องแต่ละคนอย่างจับผิด ก่อนจะไปสะดุดกับกลุ่มผู้หญิงสามคนที่กำลังหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน

     

     

     

    “พวกเธอใช่มั้ย!?”   ตะโกนถามออกมาเสียงดังก่อนจะเดินมาหยุดหน้าโต๊ะสามสาวที่ตอนนี้กำลังหัวเราะกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

     

     

     

    “เอ๋? เสียงแมลงวันที่ไหนมันมาบินอยู่แถวนี้นะ ได้ยินหรือเปล่ายุนอา”   เสียงแหลมเล็กของผู้หญิงใบหน้าหวานว่าขึ้นก่อนจะหันไปถามยุนอาเพื่อนของเธอ

     

     

     

    “ได้ยินเหมือนกันนะแซจิน อะไรหวี่ๆก็ไม่รู้ เธอล่ะฮานะ”

     

     

     

    “ฉันไม่ใช่แค่ได้ยินนะ ได้กลิ่นเหม็นอะไรซักอย่างด้วยนะ กลิ่นอะไรน้า”   ฮานะลุกขึ้นพูดด้วยเสียงเหยียดหยันก่อนจะมาเดินหมุนรอบตัวซองมินที่ตอนนี้กำลังโกรธมาก สามวันแล้วที่เขาต้องเจอเรื่องแบบนี้ แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์เอาไว้ เพราะถึงยังไงทั้งสามคนก็เป็นผู้หญิง

     

     

     

    “พวกเธอทำใช่มั้ย! ขยะที่อยู่บนโต๊ะฉัน”   ซองมินกระแทกเสียงถาม มือเล็กกำหมัดแน่นพยายามที่จะไม่ใช้วาจาหยาบคายกับผู้หญิง

     

     

     

    “หืม...อ๋อ ฝีมือฉันเองได้ยินมาว่าที่บ้านนายไม่ค่อยมีเงิน ฉันกินของพวกนั้นเสร็จก็เลยเอาไปวางไว้ให้ นายจะได้เก็บไปขายไงล่ะ”   แซจินจีบปากจีบคอพูดก่อนจะหยิบหนังสือแฟชั่นขึ้นมาอ่านโดยไม่สนใจเลยว่าคนที่ยืนอยู่นั้นจะโกรธแค่ไหน  ซองมินเดินกลับไปที่โต๊ะตัวเองอีกครั้งก่อนจะหอบเอาขยะบนโต๊ะไปโยนใส่สามสาวทันที

     

     

     

    “กรี๊ด! แกทำบ้าอะไรของแกน่ะ ฮานะ~เธอดูเสื้อฉันสิ”

     

     

     

    “ทำบ้าอะไรรู้หรือเปล่าว่าชุดนี้ของแซจินราคาเท่าไหร่กันห๊ะ!  ฮานะพูดด้วยน้ำเสียงโกรธจัด

     

     

     

    “หน้าโง่แบบนี้ไม่รู้หรอก ชุดนี้หกล้านวอนเชียวนะ”   ยุนอาว่าขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นผลักอกของซองมินอย่างแรงแต่ก็ไม่ถึงกับเซไปไกล

     

     

     

    “พวกเธอน่ะสิหน้าโง่ ถึงฉันจะเป็นเด็กทุนแต่ก็เข้ามาด้วยสมอง แล้วพวกเธอล่ะถ้าไม่มีเงินจะมีปัญญาเข้ามาเรียนที่นี่ได้หรือไง วันๆเอาแต่แต่งหน้าทำสวยถามจริงเวลาล้างเครื่องสำอางค์ออกมาเนี่ย หน้าพวกเธอมันยังเหมือนเดิมหรือเปล่าห๊ะ!   ซองมินตะคอกออกมาอย่างโมโหที่โดนดูถูกแบบนั้นก่อนจะเดินออกมาจากห้องเรียนโดยมีเสียงกรีดร้องของสามสาวดังไล่หลังมา ขาเล็กก้าวไปหยุดที่หน้าล็อคเกอร์เพื่อจะเอาของแล้วไปนั่งรอฮยอกแจกับเรียวอุคที่เรียนคนละห้อง วันนี้เขาไม่มีอารมณ์เรียนแล้วจริงๆ

     

     

     

    “มองอะไรกัน”   ซองมินหันกลับมามองคนที่อยู่แถวนั้นอย่างงงๆเพราะไม่เข้าใจว่าคนพวกนั้นจะมายืนดูเขาทำไม มือเล็กหยิบกุญแจล็อคเกอร์ขึ้นมาเตรียมจะเปิดแต่แค่เขาเสียบกุญแจเข้าช่องเท่านั้นคนด้านหลังก็กรูกันมาจนเขาแทบจะหายใจไม่ออก

     

     

     

    “นี่!! อยากจะรู้จะเห็นอะไรกันนักหนาเนี่ย สอดจริงๆ”   ตะคอกออกมาเสียงดังซึ่งนั่นก็ได้ผลมากเลยทีเดียว กลุ่มใหญ่บริเวณนั้นถอยห่างออกแต่ก็ไม่ไกลนัก ซองมินส่ายหัวให้กับความวุ่นวายที่ไม่จบสิ้นของตัวเองก่อนจะเปิดประตูล็อคเกอร์เพื่อจะหยิบของแต่ก็ต้องชะงักกับกระดาษสีแดงที่พิมพ์สัญลักษณ์หัวกระโหลกเอาไว้พร้อมชื่อF4

     

     

     

    “หมอนี่โดนใบแดง พวกเราหมอนี่โดนใบแดงแล้ว”   เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาก่อนที่คนเหล่านั้นจะเดินเข้ามาหาซองมินด้วยท่าทางเอาเรื่อง

     

     

     

    แผละ!!!

     

     

     

    “ฮ๊า~   เสียงหวานร้องออกมาอย่างตกใจที่จู่ๆก็ถูกนักเรียนกลุ่มใหญ่ปาไข่ใส่ ซองมินหันซ้ายทีขวาทีเพื่อจะหลบหลีกเหตุการณ์นี้แต่ก็ดูท่าจะไม่รอดพ้นเลยซักนิด

     

     

     

    “หยุดนะ! หยุดเดี๋ยวนี้”   ร้องขอออกมาแต่ก็ไม่ได้ผล ไข่นับร้อยใบยังคงถูกปามาจากทิศทางต่างๆแต่เป้าหมายเดียวคือ ซองมิน  คนตัวเล็กยืนกำหมัดแน่นไม่แม้แต่จะขอร้องอีกเป็นครั้งที่สอง ได้แต่ปล่อยให้คนเหล่านั้นปาไข่ใบแล้วใบเล่าเข้าหาตัวเอง ไม่นานนักทุกอย่างก็เข้าสู่ปกติแต่คงมีเพียงซองมินเท่านั้นที่ต่างไปจากคนอื่น เพราะชุดนักเรียนเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบสกปรกและกลิ่นคาว  ขาเล็กก้าวไปยังที่ที่นึงที่ดูจะสงบสุขสำหรับเขามากทีเดียว ดาดฟ้าตึกB’

     

     

     

    “ทุกคนที่นี่โง่จริงๆเลย ฮึก...ไม่รู้หรือไงว่าไข่มีประโยชน์แค่ไหน เอาไปทำอาหารได้ตั้งเยอะ”   เสียงหวานว่าออกมาก่อนจะยกมือเล็กขึ้นปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ระหว่างเดินไปที่ตึกB ตัวเขาก็ถูกจ้องมองจากสายตาไม่เป็นมิตรมากกว่าร้อยคู่ บ้างก็หัวเราะต่อกระซิกกันด้วยความสะใจ ซองมินจึงตัดสินใจเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นไปอีกเพื่อไปยังจุดหมาย

     

     

     

    “ไอ้บ้า!!~ F4 งี่เง่า พวกชอบสร้างความวุ่นวาย ก่อกวน บ้าอำนาจ ฉันลีซองมินจะไม่มีทางยอมแพ้นาย ไอ้หน้ามังกือ!! ไอ้จิตวิปริต F4บ้าบอ ฉันไม่มีทางเรียกพวกนายว่ารุ่นพี่เด็ดขาดไม่มีทาง~

     

     

     

    “นายก็พวกจิตวิปริตแล้วก็ก่อกวนเหมือนกันนั่นล่ะ รู้มั้ยว่าเสียงของนายมันทำให้ฉันนอนต่อไม่ได้”   คนหน้าหวานหันขวับด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าจะมีใครอยู่บนนี้ด้วย ตากลมโตเบิกกว้างขึ้นไปอีกเมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดเจน ปากเล็กสั่นระริกด้วยความรู้สึกกลัวที่ปกปิดไม่มิด

     

     

     

    “ระรุ่นพี่ดงเฮ”   ครางออกมาเบาๆอย่างรู้สึกผิด ถึงเขาจะไม่ชอบF4 แต่คนๆนี้ก็ช่วยเพื่อนเขาไว้เมื่อหลายวันก่อน

     

     

     

    “อ้าว! เมื่อกี๊บอกว่าจะไม่เรียกพวกฉันว่ารุ่นพี่ไงล่ะ”   ว่าขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ร่างอวบที่ตอนนี้กำลังตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด

     

     

     

    “กะก็...”

     

     

     

    “ไม่ต้องพูดหรอกฉันพอจะเข้าใจแล้วนี่โดนใบแดงมาสินะ”   ร่างสูงกว่าว่าขึ้นก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาแล้วบรรจงเช็ดหน้าให้ร่างอวบอย่างตั้งใจ ตาโตเหลือบมองใบหน้าคมคายตรงหน้าเล็กน้อย เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นแต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามีใครมาตีกลองเล่นในใจเขาซะอย่างนั้น

     

     

     

    “เอ้าเสร็จล่ะ! กลับบ้านแบบนี้คงแย่แน่ เพื่อนนายไปไหน ฉันหมายถึงคนที่ไม่ใช่อุคกี้”   ถามขึ้นก่อนจะยัดผ้าเช็ดหน้าของเขาใส่มือเล็กของซองมิน

     

     

     

    “เอ่อ..เขายังเรียนไม่เสร็จฮะ”   ตอบออกไปสั้นๆก่อนจะก้มหน้าลงเพื่อหนีสายตาดึงดูดคู่นั้น

     

     

     

    “หรอ..งั้นเอานี่ไปแทนละกัน แล้วก็ขอโทษแทนเพื่อนฉันด้วย”   ดงเฮว่าขึ้นก่อนจะถอดสูทตัวนอกของตัวเองออกแล้วจัดแจงเปลี่ยนเสื้อตัวเองกับร่างเล็กโดยที่ซองมินนั้นก็ได้แต่แข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกเมื่อถูกจับต้องตัวในแบบอ่อนโยนของรุ่นพี่คนนี้

     

     

     

    “ระรุ่นพี่...นี่มันมีชื่อรุ่นพี่ปักอยู่นะฮะ ผมว่ามันคงจะไม่เหมาะ”   ร้องทักขึ้นมาเมื่อสังเกตเห็นชื่อที่ปักอยู่ว่าเป็นของ ลีดงเฮ

     

     

     

    “ก็ดีแล้วนี่ ถ้าใครกล้าปาไข่ใส่เสื้อฉัน ฉันจะฆ่ามันเอง!!!   ว่าด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะเดินออกไปโดยถือเสื้อของซองมินไปด้วย คนตัวเล็กจ้องมองแผ่นหลังที่เดินหายเข้าไปในตึกจนลับตาก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาบางๆ

     

     

     

    บางทีF4ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดแล้วล่ะมั้ง อย่างน้อยก็รุ่นพี่ดงเฮคนนึงแล้วล่ะ

     

     

    *****************************

     

     

     

     

    “พี่กี้ฮะ วันนี้ไปทานข้าวกับน้องกี้นะ”   เสียงหวานของเรียวอุคว่าขึ้นขณะนั่งอยู่ในห้องพักของF4 ที่ตอนนี้มีเพียงเขากับคยูฮยอนเท่านั้น มือเล็กเกาะแขนแกร่งไว้แน่นแล้วเขย่ามันไปมาเป็นเชิงร้องขอ

     

     

     

    “แต่พี่เพิ่งไปกับเรามาเมื่อเช้าเองนะ จะไปอีกแล้วหรอ”   ว่าขึ้นอย่างรู้สึกลำบากใจ ไม่อยากจะทำตัวให้ความหวังแต่อดสงสารไม่ได้

     

     

     

    “ความจริงน้องกี้ก็อยากจะทานข้าวกับพี่กี้ทุกๆมื้อนั่นแหละ บางทีอาจจะอยากทานพี่กี้ด้วยนะฮะ ถ้ายังดื้อไม่ยอมไปแบบนี้”   ว่าขึ้นพร้อมฉีกยิ้มกรุ่มกริ่มมาให้ทำเอาคยูฮยอนเสียวสันหลังวาบรู้สึกกลัวคนตัวเล็กขึ้นมาจับใจ ตั้งแต่กลับจากอเมริกาเขารู้สึกได้เลยว่าตัวเองถูกรุกหนักกว่าเดิมหลายเท่านัก ถึงแม้ว่าถ้าเกิดคนตัวเล็กจะทำอะไรเขาจริงๆมีหรือเขาจะสู้ไม่ได้ แต่ทำไมเขารู้สึกกลัวจัง!

     

     

     

    “โอเคๆ พี่จะไปทานข้าวกับเราเสร็จแล้วก็กลับบ้านเลยแล้วกันนะ”

     

     

     

    “พี่กี้ของน้องกี้น่ารักที่สุดเลย”   ว่าก่อนจะซบหัวลงบนไหล่กว้างทันทีโดยที่ร่างสูงก็เอาแต่นั่งเกร็งทำอะไรไม่ถูก เมื่อเจอรุกแบบนี้

     

     

     

    “เราไม่เบื่อหรอมาคอยตามพี่แบบนี้ ทำไมไม่อยู่กับเพื่อนๆ”

     

     

     

    “ไม่หรอกฮะก็หัวใจสั่งมานี่นา พี่กี้รำคาญน้องกี้ใช่มั้ยฮะ”

     

     

     

    “เอ่อ...เราไปทานข้าวกันนะ พี่เริ่มหิวแล้ว”   โพล่งขึ้นมาอย่างต้องการบ่ายเบี่ยงที่จะตอบก่อนจะลุกเดินนำออกไป โดยที่เรียวอุคนั้นก็ได้แต่นั่งยิ้มถึงแม้ว่าข้างในจะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆขึ้นมาแล้วก็ตาม

     

     

     

    “กฎข้อที่หนึ่ง ตื๊อไปเรื่อยๆจนกว่าเขาจะรำคาญแต่ตอนนี้เขายังไม่รำคาญเพราะงั้นน้องกี้สู้ตาย!!~   ว่าขึ้นเบาๆก่อนจะเดินตามร่างสูงออกไปด้วยเช่นกัน

     

     

     

     

    ณ. ร้านอาหารซังมยอน

     

     

     

    “ขออาหารที่แพงที่สุดในร้านมาสองที่ครับ”   เสียงนุ่มกล่าวกับบริกรที่มายืนรอก่อนจะหันไปหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงข้าม

     

     

     

    “ต้องการอะไรอีกมั้ย”

     

     

     

    “ไม่ฮะ”   ตอบออกไปสั้นๆก่อนจะยกมือขึ้นมาเท้าคางมองหน้าร่างสูงอย่างจริงจังจนคนถูกมองนั่งไม่ติดเก้าอี้เมื่อถูกจ้องตรงๆแบบนี้

     

     

     

    “อืม...ฮีชอลยังไม่มาเรียนอีกหรอหรือว่าไปเรียนกับแจจุง”   เอ่ยถามขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องฮีชอลเพื่อนสนิทอีกคนของกลุ่มF4 ที่ตอนนี้ได้ข่าวมาจากคนตัวเล็กว่ากลับมาได้สามสี่วันแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาเรียนเลย

     

     

     

    “อ้อ..พี่ฮีนิมบอกว่าขอจัดการเรื่องที่บ้านก่อน เพราะไม่อยู่หลายปีรู้สึกว่าพี่แจจัดการเปลี่ยนอะไรไปหลายอย่างแถมไม่ใช่สีแดงอีก เขาก็เลยจัดการเรื่องนู้นก่อน อ๊า~   ว่าขึ้นก่อนจะตาโตเมื่อเห็นหน้าตาของอาหารที่คยูฮยอนสั่งมาให้ทาน

     

     

     

    “หรอ...สงสารไอ้วอนมัน ใจจะขาดอยู่แล้วอยากเห็นหน้าฮีชอลจะตาย”   ว่าพลางตักอาหารเข้าปากพร้อมๆกับมองการกินของร่างเล็กที่ดูจะมอมแมมเหมือนเด็กซะเหลือเกิน

     

     

     

     

    “โตแล้วนะเรา”   ว่าพลางดึงทิชชู่ในกล่องออกมาเช็ดส่วนที่เลอะตรงมุมปากให้ร่างเล็กโดยที่อีกคนก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ร่างสูงใส่ใจเขาเหมือนกัน

     

     

     

    “ขอบคุณฮะ”   เรียวอุคว่าขึ้นก่อนจะนั่งกินต่อไปเงียบๆ ทั้งที่ในใจมันอยากจะตะโกนออกมาดังๆซักทีสองทีให้หายอัดอั้นใจ แค่คิดว่าเขาดีด้วยเพียงนิด หน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นอย่างบอกไม่ถูกแล้วสิ

     

     

     

    **********************************************

     

     

     

    “มินนะมิน บอกว่าให้มารอตอนบ่ายสอง ป่านนี้ทำไมยังไม่มาอีกนะ”   ฮยอกแจว่าขึ้นพลางเดินหมุนไปหมุนมาอยู่หน้าตึกที่นัดกับซองมินไว้แต่นี่ผ่านมากว่าชั่วโมงแล้วยังไม่เห็นแม้เงา

     

     

     

    “รอเพื่อนของนายอยู่หรอ”   เสียงทุ้มดังมาจากข้างหลังร่างบางจึงหันกลับมามองก่อนจะถอยกรูดเมื่อคนที่เข้ามาทักเป็นฮันกยองกับซีวอน

     

     

     

    “เอ่อ..ฮะ ผะผมรอเพื่อนอยู่”   ตอบออกไปเสียงสั่นๆ

     

     

     

    “หมอนั่นไม่มาแล้วล่ะพรุ่งนี้ก็ด้วย เพราะฉันให้ใบแดงไปแล้ว ป่านนี้คง..”   ว่าขึ้นก่อนจะเว้นประโยคสุดท้ายแล้วเดินออกไปทิ้งฮยอกแจยืนอึ้งกับคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่

     

     

     

    “อ่า..เพื่อนนายไม่น่าไปกระโดดถีบหมอนั่นเลยนะ ช่างเหอะฉันจะลองหาทางพูดให้ เพราะสงสารพวกนายหรอกนะ”   ซีวอนว่าก่อนจะเดินตามฮันกยองไป ฮยอกแจที่ยังคงอึ้งไม่เลิกก็ต้องอึ้งอีกรอบเมื่อได้ยินว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากหนึ่งในF4

     

     

     

    “แย่ละ แล้วมินอยู่ที่ไหนเนี่ย หรือว่ากลับบ้านไปแล้วนะ”   ว่าขึ้นก่อนจะเดินออกจากโรงเรียนอย่างวิตกกังวลไม่รู้ว่าป่านนี้ซองมินจะเป็นยังไงบ้าง เขาเองก็แวะไปดูไม่ได้เสียด้วยเพราะต้องไปทำงานร้านโจ๊กซึ่งปกติซองมินจะไปทำด้วยแต่เห็นท่าว่าวันนี้ต้องอยู่ทำคนเดียวเสียแล้ว

     

     

    “สวัสดีครับ ร้านชินดงฮียินดีต้อนรับคะครับ”    เสียงของฮยอกแจว่าขึ้นตามความเคยชินเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งที่หน้าร้านดังแต่พอหันหน้ามาก็เจอกับร่างของรุ่นพี่หน้าหล่อที่ช่วยเขาไว้หลายวันก่อนยืนอยู่ตรงหน้าซะอย่างนั้น

     

     

     

    “ตกใจอะไร หน้าฉันเหมือนผีหรือไง มีอะไรกินมั่งเนี่ย”   ดงเฮว่าขึ้นก่อนจะเดินไปนั่งโต๊ะที่ว่างอยู่

     

     

     

    “เอ่อ...ร้านโจ๊กก็ต้องมีโจ๊กสิฮะ รุ่นพี่เอ่อ...คุณจะให้มีอะไร”   ตอบออกไปท่าทางกวนๆเพราะเขารู้สึกไม่ชอบไอ้มาดขี้เก๊กของรุ่นพี่คนนี้เลยซักนิด

     

     

    “อืม...ตอบได้หลักแหลมมาก เข้าเรื่องดีกว่าไม่เฉไฉละนะ วันนั้นฉันช่วยนายเอาไว้วันนี้เลยอยากจะมาฝากท้องไว้กับนายหน่อยน่ะ”

     

     

    “รุ่นพี่ เอ้ย! คุณว่าไงนะฮะ ฮ๊า~ที่แท้ก็หวังผลนี่เอง เอาสิฮะอยากทานกี่ชามก็เชิญฮะ แต่ผมบอกไว้ก่อนนะผมมีแค่พันสองร้อยวอน เกินจากนี้คุณล้างจานใช้หนี้ด้วยนะฮะ”

     

     

    “งั้นฉันขอโจ๊กสิบที่กินที่ร้านแล้วก็กลับบ้านอีก20ที่แล้วกันนะ เร็วๆล่ะฉันหิวแล้ว”

     

     

     

    “ฮ๊า~ ผมไม่มีจ่ายจริงๆนะ ทำไมสั่งเยอะแบบนี้ล่ะ เฮ้อ! ตามใจคุณทานให้หมดละกันผมจะให้เขาหักเงินเดือนผมแทนก็ได้ แล้วหลังจากนี้เราก็หมดเวรหมดกรรมต่อกัน”   กระแทกเสียงใส่ก่อนจะไปจัดการตามที่คุณชายหน้าหล่อสั่ง ตาสวยเหลือบมองร่างสูงที่นั่งฮัมเพลงอยู่ในร้านเป็นครั้งคราวก่อนจะเปรยยิ้มออกมาบางๆเมื่อนึกอะไรบางอย่างได้

     

     

     

    “เสร็จฮยอกแจแน่คุณชาย~

     

     

       

    “นี่ฮะโจ๊กสิบที่ ที่คุณชายสั่งไว้ได้แล้วนะฮะ แล้วส่วนที่จะเอากลับบ้านเราจะทำให้ตอนคุณใกล้จะทานเสร็จนะฮะ แล้วก็ทานให้อร่อยนะฮะ”   ว่าขึ้นหลังจากหายไปเตรียมอาหารอยู่นานก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้ร่างสูงกว่าอย่างเป็นมิตร(?) โดยที่อีกฝ่ายก็ไม่ทันเอะใจอะไรเลย ตักโจ๊กเข้าปากด้วยความหิวโหย
     
     
     
    “แค่กๆๆๆ”   สำลักออกมาแทบจะทันทีที่โจ๊กสัมผัสถูกปลายลิ้น ตาที่ไม่โตนักหยีเข้าหากันจนเป็นเส้นตรงพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่เหยเกจนน่าเกลียด
     
     
     
    “อร่อยมั้ยฮะรุ่นพี่”   ว่าเสียงทะเล้นก่อนจะถือวิสาสะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับดงเฮ
     
     
     
    “ปรุงมาเปรี้ยวขนาดนี้ใครจะกินได้ห๊ะ!!”
     
     
     
    “อะอ้าว..แย่จริง รุ่นพี่ลองชามนี้ดูก่อนสิฮะ ผมขอโทษจริงๆ”   ว่าพลางตักโจ๊กมาจ่อที่ปากให้ดงเฮทันที อีกฝ่ายที่ไม่ทันคิดก็อ้าปากรับโจ๊กเข้าไปอีกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน...
     
     
     
    “แค่กๆๆๆ นายทำรถน้ำปลาคว่ำหรือไง บ้าเอ๊ย!”
     
     
     
    “อีกแล้วหรอฮะ ว๊า~ ผมนี่แย่จังเลยนะฮะ”   ว่าพลางลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าร้านไปอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะออกมาพร้อมกับโจ๊กที่ดงเฮสั่งกลับบ้านอีกยี่สิบที่
     
     
     
     
    “นายแกล้งฉันใช่มั้ย? ไอ้ที่เอามาให้นี่ก็กินไม่ได้!!”   กระแทกเสียงใส่อย่างโมโห เพราะเพิ่งจะรู้ตัวว่าถูกแกล้ง มือหนากำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์ตัวเอง เขา...ไม่เคยถูกใครทำแบบนี้มาก่อน
     
     
     
    “ใครบอกว่ากินไม่ได้ฮะ ผมน่ะอุตส่าห์ยอมถูกหักเงินเดือนเชียวนะฮะ ที่เอามาเนี่ย มีสองถุงที่กินได้รุ่นพี่ก็ไปหาเอาเองแล้วกันนะฮะถ้าอยากกินมากนัก”
     
     
     
    “ฮึ่ย! ฝากไว้ก่อนเหอะเจ้าเด็กแสบ ของพวกนั้นน่ะเอาไปทิ้งซะฉันไม่เอา แล้วนี่..แสนวอนสำหรับโจ๊กห่วยๆของนาย เจอกันที่โรงเรียนเมื่อไหร่นายตายแน่!!”   ว่าขึ้นก่อนจะวางเงินจำนวนหนึ่งเอาไว้แล้วกระฟัดกระเฟียดออกไปอย่างขัดใจ ตาคมกรอกไปมาอย่างใช้ความคิด เขาจะต้องแก้แค้นเจ้าเด็กนี่ให้ได้เลย
     
     
     
     
    ***************************
               
     
     
    อีกด้านฮันกยองที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวกำลังฮัมเพลงอย่างมีความสุข รอยยิ้มที่ใครก็ไม่ค่อยได้เห็นถูกเผยออกมาจนปกปิดไม่มิดก่อนจะกลายเป็นเสียงหัวเราะเบาๆ มีความสุข?ที่ได้แกล้งคนอวดดี อีกไม่นานเจ้าเด็กตัวกลมก็จะไปจากโรงเรียนนี้ ความจริงเขาอยากจะให้ไปตั้งแต่วันแรกด้วยซ้ำแต่คยูฮยอนดันไม่ยอมไล่ออก เขาเลยต้องเปลี่ยนมาให้ใบแดงแทน
     
     
     
    “ขะขออนุญาตฮะ รุ่นพี่คือว่าพวกเราขอเปลี่ยนแผนของรุ่นพี่ได้มั้ยฮะ”   เสียงหอบโยนมาพร้อมกับร่างเล็กของลูกน้องทั้งสองที่ดูเหมือนจะรีบร้อนอย่างมากที่จะมาหาฮันกยอง ก่อนจะพูดสิ่งที่ต้องการบอกออกไป
     
     
     
    “ทำไม?”
     
     
     
    “คะคือว่า...เอ่อ ผมขอโทษนะฮะแต่ว่าผมทำคนที่สวยขนาดนั้นไม่ลงหรอกฮะ รุ่นพี่ให้ผมไปฉุดหมอนั่นแทนได้มั้ยฮะ”
     
     
     
    “แกจะบ้าหรือไง!!! ใครเขาสอนแกมาแบบนี้ แล้วตาต่ำหรือไงไปมองไอ้อ้วนตุ๊ต๊ะนั่นว่าสวย ไอ้ที่ให้ทำไม่ทำจะกินอุ้งตี-นมังกรหรือไง!!”   ตวาดออกมาอย่างโมโหที่ลูกน้องที่อุตส่าห์ไว้ใจทำงานไม่ได้เรื่องอย่างที่หวัง
     
     
     
    “เรื่องที่ให้เราไปปาไข่เราก็ทำไปแล้วนะครับ แต่ตอนนี้คงทำอีกไม่ได้ เพราะหมอนั่นใส่เสื้อรุ่นพี่ดงเฮอยู่ เราไม่กล้าพอหรอกฮะ”   ร่างเล็กอีกคนว่าขึ้นบ้าง
     
     
     
    “เสื้อดงเฮ? เป็นไปได้ยังไง”
     
     
     
    “ผมว่ารุ่นพี่ไปดูเองดีกว่านะฮะ”   ร่างสูงพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะลุกออกจากห้องไปที่สระน้ำข้างโรงเรียนเพราะลูกน้องสองคนบอกว่าเจ้าเด็กตัวกลมอยู่ที่นั่น ขายาวก้าวถี่ๆเพื่อไปให้ถึงที่หมายก่อนจะเห็นหลังเล็กๆนั่งอยู่ริมสระ ร่างสูงจึงย่องเข้าไปใกล้ๆโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว
     
     
     
    “โง่ๆๆ ไข่ตอนนี้แพงจะตาย ไอ้พวกดีแต่ใช้เงินทำเรื่องไร้สาระ ถ้าเอาไปขายฉันต้องได้เงินเยอะแน่เลย อ๊า~ ถ้าถูกปาอีกคราวนี้ฉันจะรีบรับมันแล้วเก็บใส่กระเป๋าแล้วเอาไปตั้งขายซะ กำไรชัดๆ”
     
     
     
    “สมองของคนจนนี่วันๆคิดแต่เรื่องเงินสินะ”    ร่างเล็กผวาเมื่อเสียงไม่พึงประสงค์ - -*ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ใบหน้าเล็กหันมามองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอย่างเช่นทุกครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วถอยหลังมาอีกสองสามก้าว ฮันกยองนิ่งไปชั่วครู่เมื่อเห็นใบหน้าของร่างเล็กเต็มๆตา ผมสีทองลู่ลงกับใบหน้า ปากอวบอิ่มแดงนิดๆจากการกัดปากของร่างเล็กเอง แผงอกบางสีขาวนวลที่มีเพียงสูทตัวนอกเท่านั้นปกปิดอยู่ทำให้ร่างสูงหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
     
     
    ผมทำคนที่สวยขนาดนั้นไม่ลงหรอกฮะ
     
     
    คำพูดของลูกน้องคนสนิทลอยเข้ามาในหัว ฮันกยองหลับตาลงแล้วสะบัดหน้าไปมาเพื่อไล่ความคิดประหลาดออกจากหัว ก่อนจะลืมตามาเจอตาคู่โตจ่ออยู่ตรงหน้า
     
     
     
    O_O”
     
     
     
    “เฮ้ย!!!”
     
     
     
    “เอ้า... ร้องทำไมแค่นี้ก็ตกใจไปได้”   ว่าขึ้นอย่างตกใจไม่แพ้กันที่ร่างสูงร้องออกมาดังขนาดนั้น
     
     
    “ใครใช้ให้นายเอาหน้ามาใกล้ฉันเล่า! หน้าอย่างกะผีก็ต้องตกใจน่ะสิ”   โพล่งออกมาทันทีก่อนจะรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทางเพราะกลัวว่าร่างเล็กจะเห็นใบหน้าที่กำลังแดงขึ้นเรื่อยๆของตัวเอง
     
     
     
    “ก็แค่จะดูว่านายเป็นอะไร มองหน้าฉันแล้วก็สะบัดหัวไปมาแบบนั้นหมายความว่าไง”
     
     
     
    “กะก็...มันเรื่องของฉันน่า!! นายเหอะจะไปยั่วใครล่ะถึงไม่ใส่เสื้อสีขาวข้างใน หรือว่าเพิ่งจะเสร็จธุระจากไอ้ดงเฮมัน”  
     
     
     
    “ต่ำ! สมองคิดแต่เรื่องต่ำๆ ใจคอจะสูงแต่ตัวใช่มั้ย? วันๆคิดแต่เรื่องใต้สะดือ เพราะนายโลกถึงเอียง นายมันหนักโลก ถามจริงเหอะเรียนผ่านมาได้ขนาดนี้เพราะวิชาเพศศึกษาหรือเปล่าห๊ะ!!!”   ตวาดกลับเสียงดังลั่น มือเล็กกำแน่นด้วยความโกรธถึงใจจะบอกว่ากลัว แต่ร่างสูงไม่มีสิทธิ์มาใช้คำพูดแบบนี้กับเขา
     
     
    “มากไปแล้วนะ!!! ปากอย่างนายมันต้องโดนดีซักทีถึงจะรู้สึก!”   ว่าขึ้นก่อนจะเอื้อมมือไปกระชากแขนเล็กแล้วลากไปที่รถคันหรูของตัวเอง
     
     
     
    “ไอ้บ้า!!~ ปล่อยนะ ปล่อยเซ่”
     
     
     
    “หุบปาก!!!ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”   หันมาตะคอกใส่หน้าแล้วออกแรงลากอีกครั้ง ซองมินที่กลัวจนถึงขีดสุดก็พยายามที่จะจับทุกอย่างข้างทางไว้ไม่ว่าจะต้นไม้หรืออะไรก็ตามแถวนั้น
     
     
     
    “ฮากัน ฉันไม่เอานะ”   ร้องออกมาด้วยความกลัวเพราะตอนนี้เขากำลังถูกจับยัดเข้ารถ ฮันกยองที่พอได้ยินบางคำในประโยคก็ถึงกับชะงัก เอ่อ...เมื่อกี๊เจ้าตัวกลมเรียกชื่อเขาหรือเปล่านะ?
     
     
     
    “นายว่าไงนะ”   ถามขึ้นแล้วดึงซองมินออกมาจากรถแต่ก็ไม่ได้ปล่อยแขนเล็กให้เป็นอิสระ
     
     
    “ฉันไม่เอานะ”   ตอบออกไปอย่างงงๆ
     
     
     
    “ไม่ใช่ก่อนหน้านั้นอีก”
     
     
     
    “ฮะ..ฮากันไง ก็ชื่อนายไงเล่า!!!”   ตะคอกใส่หน้ามือเล็กอีกข้างพยายามที่จะแกะมือหนาออกแต่ก็ไม่เป็นผลเลยซักนิด ฮันกยองที่พอได้ยินแบบนั้นก็แทบอยากจะจับเจ้าเด็กดื้อกดน้ำตาย กล้าดียังไงมาเปลี่ยนชื่อเขาแบบนั้น แต่เขารู้สึกเหมือนว่ามีวิธีจัดการกับเจ้าเด็กดื้อนี่ซะแล้วสิ
     
     
    “ชื่อฉันหรอ? อืมเอาแบบนี้นะถ้านายอยากรอด นายลองบอกชื่อF4มาสิ ถ้าถูกหมดวันนี้ฉันจะปล่อยนายไปแต่ถ้าไม่ถูกนายต้องยอมไปกับฉันดีๆ โอเคมั้ย?”
     
     
    “โอเคเลยถ้าแบบนั้น แต่นายต้องปล่อยฉันไปตามที่พูดจริงๆนะ”   ว่าขึ้นอย่างดีใจเพราะมั่นใจเต็มร้อยเลยล่ะไอ้เรื่องจำชื่อคนเนี่ย ง่ายจะตาย
     
     
     
    “อะ...ว่ามา”
     
     
     
    “เริ่มจากนาย..ฮากัน คยูนอน ซอวอนแล้วก็รุ่นพี่ดงเฮ ^_^”   ร่างสูงยกยิ้มมุมปากตั้งแต่ได้ยินชื่อตัวเองแบบผิดๆก่อนจะมาชะงักกับชื่อสุดท้ายที่นอกจากจะถูกแล้วยังมีคำนำหน้าว่ารุ่นพี่อีกทั้งที่กับคนอื่นร่างเล็กไม่ได้เรียกแบบนั้น รอยยิ้มเลือนหายไปชั่วครู่ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกหงุดหงิดโดยไม่รู้ตัว
     
     
     
    “ไปกับฉัน!”   ว่าเสียงแข็งก่อนจะจับร่างเล็กเหวี่ยงเข้าไปในรถอย่างแรงจนหัวกระแทกเข้ากับประตูอีกด้านแต่ฮันกยองก็ไม่คิดจะสนใจแทรกตัวเองตามเข้าไปโดยที่ซองมินก็เอาแต่ร้องลั่นจะลงท่าเดียว
     
     
     
    “จอดเดี๋ยวนี้นะ! ฉันก็บอกชื่อไปหมดแล้ว นายจะจับฉันมาทำไมอีกเล่า”
     
     
     
    “ฟังให้ดีนะเจ้าเด็กแสบ ฮันกยอง คยูฮยอน ซีวอน ดงเฮ”   ฮันกยองหันมาสบตาคู่โตอย่างจริงจังก่อนจะพูดชื่อสมาชิกF4ออกมาทีละคน และแน่นอนว่านั่นทำให้ตาที่โตอยู่แล้วของซองมินเบิกกว้างขึ้นไปอีก มือเล็กยกขึ้นป้องปากอย่างตกใจก่อนจะหันหลังหนีร่างสูงทันทีเมื่อรู้ว่าที่พูดไปตอนแรกนั้นผิดเท่ากับว่าเขาจะต้องยอมไปกับหมอนี่แต่โดยดี
     
     
    “แต่ฉันก็พูดชื่อรุ่นพี่ดงเฮถูกนะ อย่างน้อยนายก็ควรจะปล่อยฉันไป”
     
     
     
    “โอกาสฉันให้นายไปแล้ว แต่นายทำมันพังเองนี่ ไปกับฉันนายคงจะไม่ชักดิ้นตายหรอก หรือถ้าตายก็จะจัดงานศพให้”    ว่าขึ้นก่อนจะมองออกไปนอกรถ ความเงียบค่อยๆเข้ามาปกคลุมภายในรถจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงหายใจ
     
     
     
    “นี่เจ้าตัวกลม เด็กแสบ เจ้าอ้วน!”   เรียกออกมาเบาๆเมื่อรู้สึกว่ารอบกายมันเงียบจนเกินไปแต่พอไม่ได้ยินเสียงตอบรับจึงชะโงกหน้าไปดูก่อนจะพบว่าเด็กแสบของเขานั้นหลับพริ้มไปเสียแล้ว มือหนาเอื้อมไปหยิบผ้าห่มที่พกติดรถประจำออกมาห่มให้ร่างเล็กพร้อมกับแทรกตัวเองเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกัน
     
     
     
    “คุณชองขับนิ่มๆนะ ฉันจะนอน”   เอ่ยขึ้นบาๆกับคนขับรถก่อนจะซบหัวลงบนหลังของร่างเล็กแล้วหลับตาลงด้วยความเพลียแล้วจมดิ่งสู่ห้วงนิทราในเวลาต่อมา
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×