ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : F4...ถึงร้ายก็รัก Chapter#2 นังหน้าใส VS นังหน้าเนียน (100%)
Chapter #2 นังหน้าใส VS นังหน้าเนียน
“สมน้ำหน้าหมอนั่นจริงๆเลย สะใจ เฮ้ย!” ซองมินที่หลังจากวิ่งหนีมาก็เอาแต่ชื่นชมในความฉลาดของตัวเองก่อนจะนึกได้ว่าเขาลืมอะไรบางอย่างไป....ลี ฮยอกแจ!!!
“แฮ่กๆๆ ฮยอกคือว่าฉัน...เอ๋?” ซองมินนิ่วหน้าด้วยความสงสัยเพราะตอนนี้ที่โต๊ะไม่ได้มีเพียงฮยอกแจแต่กลับมีคนตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งอยู่ด้วย
“ไม่ต้องแก้ตัวหรอกเสียเวลา ไปกันได้แล้ว” ฮยอกแจว่าพลางหยิบกระเป๋าให้ซองมินโดยไม่สนใจเรียวอุคที่นั่งอยู่ซักนิด
“อ้าวแล้วนี่...”
“สนใจอะไรอีก ไปได้แล้ว” เอ่ยออกมาเสียงดุเมื่อรู้ว่าซองมินต้องการจะถามอะไร เรียวอุคที่นั่งอยู่กรอกตาไปมาเหมือนกำลังใช้ความคิดก่อนจะโพล่งขึ้นมา
“โอ๊ย! เจ็บขาจังเลย สงสัยเป็นเพราะหกล้มเมื่อกี๊แน่ๆ นี่นายพยุงฉันไปด้วยสิ”
“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย!!!” ตวาดขึ้นมาเพราะรู้ดีว่าที่เรียวอุคพูดนั้นโกหกทั้งเพ แต่กับซองมิน....
“นายบาดเจ็บ? ตรงไหนล่ะ ขาหรอ? ขอฉันดูหน่อยสิ” คนไม่รู้เรื่องอะไรถลาเข้าไปดูขาของคนตัวเล็กที่อ้างว่าบาดเจ็บทันทีจึงทำให้ไม่เห็นว่าสองคนกำลังจะฆ่ากันทางสายตาอยู่แล้ว
“ใช่ฉันเจ็บที่ขาเพราะหกล้มน่ะ นายพอจะพาฉันไปหอประชุมได้มั้ย”
“ได้/ไม่ได้!!!” สองเสียงเอ่ยออกมาพร้อมกันไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครพูดอะไร
“มินเราจะเอาเขาไปไม่ได้ หมอนี่มันตัวอันตราย”
“ทำไมพูดแบบนี้ล่ะฮยอก ยังไงเขาก็เป็นเพื่อนมนุษย์นะ” ว่าขึ้นอย่างไม่ชอบใจนักที่ฮยอกแจทำท่าไม่ใยดีคนที่บาดเจ็บ
"แต่..."
"ไม่ต้องพูดเลย ถ้านายใจร้ายแบบนี้ฉันจะไม่พูดกับนายแล้วนะ" ซองมินตัดบทคนดื้อไปซะเลยก่อนจะเข้าพยุงคนตัวเล็กที่บาดเจ็บ(?)ให้เดินไปด้วยกัน
"มิน...รอด้วยสิ นายจะสนใจหมอนั่นมากกว่าฉันไม่ได้นะ ซองมิน...ลีซองมิน!"ฮยอกแจตะโกนเรียกซองมินแต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจจากเพื่อนรักเลยซักนิด ร่างบางหันซ้ายหันขวาไปมาก่อนจะตัดสินใจเดินตามไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
คอยดูนะเรียวอุค ฉันจะทำให้นายเผยธาตุแท้ออกมาให้ได้เลย อ๊ากกกก หนูฮยอกแค้น!!!
ทางด้านหอประชุมที่ตอนนี้กำลังอัดแน่นไปด้วยนักเรียนที่เข้ามาใหม่ เด็กๆต่างพากันทยอยเข้ามาเพื่อหาที่นั่ง กลุ่มซองมินก็เช่นกัน ตาโตกวาดมองรอบๆหอประชุมก่อนจะมองเห็นโต๊ะที่ว่างอยู่จึงพยุงเรียวอุคเดินไปทันทีเพราะเกรงว่าขาของเรียวอุคจะระบมหากยืนนานๆ
"ขอบคุณนะ นายชื่อซองมินใช่มั้ยฉันได้ยินฮยอกเรียกแบบนั้น" ว่าขึ้นอย่างนึกขอบคุณซองมินจริงๆ
"อย่ามาเรียกชื่อฉันแค่นั้นนะเราไม่ได้สนิทกัน และ.."
"ฮยอก! เอ่อ...ขอโทษแทนฮยอกด้วยนะ เขาเอาแต่ใจไปหน่อยอ่ะ" ออกโรงปรามเพื่อนรักไม่ให้พูดอะไรไม่ดีใส่คนที่เพิ่งรู้จักอีก แม้จะแอบสงสัยนิดๆว่าคนตัวเล็กนี่ไปทำอะไรให้เพื่อนเขาหรือเปล่า เพราะปกติฮยอกแจจะไม่งอแงใส่คนอื่นแบบนี้
"ไม่เป็นไร ฉันชินแล้วล่ะ ก่อนหน้านายจะมาเขาก็เอาแต่ว่าฉัน เขาไม่อนุญาติให้ฉันนั่งโต๊ะด้วยเพียงเพราะไม่รู้จัก แต่ฉันขาเจ็บจนเดินไม่ไหวจริงๆนะ" เรียวอุคพูดเสียงเบาๆเหมือนคนจะร้องไห้จนคนฟังอย่างฮยอกแจทนไม่ไหวลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางหาเรื่อง
"ฮยอก! นายทำเกินไปแล้วนะ นั่งลงเดี๋ยวนี้เลยนะ" ออกคำสั่งเด็ดขาดจนฮยอกแจเองก็ต้องยอมนั่งลง เรียวอุคจึงเปลี่ยนที่นั่งมานั่งข้างฮยอกแจทันทีก่อนจะกระซิบเบาๆเพื่อไม่ให้ซองมินได้ยิน
'ถ้านายยอมเป็นเพื่อนกับฉัน รับรองว่านายจะได้ซองมินคืน สนมั้ยล่ะ'
ร่างบางนั่งขมวดคิ้วยุ่งกับข้อเสนอของเรียวอุค ไม่เข้าใจว่าทำไมคนรวยๆอย่างหมอนี่ต้องมาขอเขาเป็นเพื่อนด้วย ทั้งๆที่ควรจะไปคบกับคนฐานะใกล้กัน และอีกอย่างถ้าเขายอมเป็นเพื่อนกับคนตัวเล็กนี่ เขาจะได้ซองมินคืนได้ยังไง เพราะเพื่อนเขาก็เหมือนเพื่อนซองมินนั่นแหละ
"ฮยอก! เป็นอะไรโกรธฉันหรอ" ซองมินถามขึ้นเมื่อเห็นฮยอกแจเงียบไปนาน
"ปล่าวนี่ แค่กำลังสำนึกผิดที่ทำตัวไม่ดีกับ หมอนี่..เอ่อ เรียวอุคน่ะ" เรียวอุคฉีกยิ้มกว้างเพราะถ้าฮยอกแจตอบออกมาแบบนั้นก็แสดงว่ายอมรับเขาเป็นเพื่อนแล้วนะสิ เรียวอุคเจ๋งเป้ง!
"อื้ม..ดีแล้ว เป็นเพื่อนกันอ่ะดีออก ว่าแต่นายชื่ออะไรอ่ะ"ซองมินที่เพิ่งรู้ตัวว่าตนยังไม่รู้จักชื่อเพื่อนใหม่ถามขึ้น
"เรียวอุค"คนตัวเล็กตอบสั้นๆ ก่อนจะหันไปสนใจบนเวทีที่ตอนนี้เหล่าF4ได้เดินขึ้นมาบนเวทีแล้ว
"สวัสดีทุกคนๆนะครับ และก็ขอต้อนรับเข้าสู่โรงเรียนเราอย่างเป็นทางการด้วยนะ" คยูฮยอนกรอกเสียงนุ่มนวลลงไมค์โครโฟน ทำเอาคนที่ฟังอยู่ถึงกับเคลิ้มกันไปหลายตลบ ยกเว้นซองมินที่ยังคงอึ้งอยู่ เขาจำได้ ใช่! คนๆนั้นเป็นเพื่อนของไอ้หน้ามังกรแน่ๆ
"แค่เพื่อนก็ใหญ่ขนาดนี้ แล้วหมอนั่น...ฮ๊า!" ซองมินบ่นออกมาเบาๆก่อนจะเหลือบไปเห็นฮันกยองที่นั่งไขว่ห้างด้วยมาดเท่ห์ๆ อยู่ด้านหลังของรุ่นพี่หน้าหล่อ
"มินเป็นอะไร ทำหน้าแบบนั้นอ่ะ" ฮยอกแจถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นหน้าเพื่อนรักซีดลงเรื่อยๆ
"คะคือ...ว่าตอนที่ฉันไปห้องอาหารน่ะ ฉันไปมีเรื่องกับหมอนั่นมา"ตอบเสียงสั่นพลางชี้นิ้วไปที่ฮันกยอง เขารู้สึกกลัวคนๆนั้นขึ้นมาซะแล้วสิ
"ฮ้า...ระรุ่นพี่ฮันกยอง มินทำอะไรเขาไปหรือเปล่า?"
"กะก็...กระโดดถีบไปทีนึงอ่ะ"
"ห๊ะ! ลีซองมิน ตายแน่งานนี้ เขาน่ะเป็นคิงส์ของที่นี่นะ นายทำอะไรลงไปเนี่ย" ว่าอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้เพราะฮันกยองขึ้นชื่อมากเรื่องความโหดที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครกล้าเหมือน ทำไมเขาถึงมีเพื่อนที่ซื่อนัก จะมาเรียนที่ไหนก็น่าจะศึกษาประวัติโรงเรียนบ้าง แล้วแบบนี้จะรอดกันมั้ยเนี่ย
คนตัวเล็กที่ยืนอยู่เงียบๆ ยังคงทอดสายตาไปยังชายหนุ่มหน้าหล่อที่ยืนเด่นอยู่บนเวที สายตาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหว ริมฝีปากบางยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเปรยออกมาเบาๆ ราวกับว่าจะให้เพียงสายลมเท่านั้นที่จะได้ยิน
"ผมกลับมาแล้วนะครับ พี่คยูฮยอน"
>>>>>>>>>>>50%<<<<<<<<<
ต่อที่เหลือนะคะ
"แต่..."
"ไม่ต้องพูดเลย ถ้านายใจร้ายแบบนี้ฉันจะไม่พูดกับนายแล้วนะ" ซองมินตัดบทคนดื้อไปซะเลยก่อนจะเข้าพยุงคนตัวเล็กที่บาดเจ็บ(?)ให้เดินไปด้วยกัน
"มิน...รอด้วยสิ นายจะสนใจหมอนั่นมากกว่าฉันไม่ได้นะ ซองมิน...ลีซองมิน!"ฮยอกแจตะโกนเรียกซองมินแต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจจากเพื่อนรักเลยซักนิด ร่างบางหันซ้ายหันขวาไปมาก่อนจะตัดสินใจเดินตามไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
คอยดูนะเรียวอุค ฉันจะทำให้นายเผยธาตุแท้ออกมาให้ได้เลย อ๊ากกกก หนูฮยอกแค้น!!!
ทางด้านหอประชุมที่ตอนนี้กำลังอัดแน่นไปด้วยนักเรียนที่เข้ามาใหม่ เด็กๆต่างพากันทยอยเข้ามาเพื่อหาที่นั่ง กลุ่มซองมินก็เช่นกัน ตาโตกวาดมองรอบๆหอประชุมก่อนจะมองเห็นโต๊ะที่ว่างอยู่จึงพยุงเรียวอุคเดินไปทันทีเพราะเกรงว่าขาของเรียวอุคจะระบมหากยืนนานๆ
"ขอบคุณนะ นายชื่อซองมินใช่มั้ยฉันได้ยินฮยอกเรียกแบบนั้น" ว่าขึ้นอย่างนึกขอบคุณซองมินจริงๆ
"อย่ามาเรียกชื่อฉันแค่นั้นนะเราไม่ได้สนิทกัน และ.."
"ฮยอก! เอ่อ...ขอโทษแทนฮยอกด้วยนะ เขาเอาแต่ใจไปหน่อยอ่ะ" ออกโรงปรามเพื่อนรักไม่ให้พูดอะไรไม่ดีใส่คนที่เพิ่งรู้จักอีก แม้จะแอบสงสัยนิดๆว่าคนตัวเล็กนี่ไปทำอะไรให้เพื่อนเขาหรือเปล่า เพราะปกติฮยอกแจจะไม่งอแงใส่คนอื่นแบบนี้
"ไม่เป็นไร ฉันชินแล้วล่ะ ก่อนหน้านายจะมาเขาก็เอาแต่ว่าฉัน เขาไม่อนุญาติให้ฉันนั่งโต๊ะด้วยเพียงเพราะไม่รู้จัก แต่ฉันขาเจ็บจนเดินไม่ไหวจริงๆนะ" เรียวอุคพูดเสียงเบาๆเหมือนคนจะร้องไห้จนคนฟังอย่างฮยอกแจทนไม่ไหวลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางหาเรื่อง
"ฮยอก! นายทำเกินไปแล้วนะ นั่งลงเดี๋ยวนี้เลยนะ" ออกคำสั่งเด็ดขาดจนฮยอกแจเองก็ต้องยอมนั่งลง เรียวอุคจึงเปลี่ยนที่นั่งมานั่งข้างฮยอกแจทันทีก่อนจะกระซิบเบาๆเพื่อไม่ให้ซองมินได้ยิน
'ถ้านายยอมเป็นเพื่อนกับฉัน รับรองว่านายจะได้ซองมินคืน สนมั้ยล่ะ'
ร่างบางนั่งขมวดคิ้วยุ่งกับข้อเสนอของเรียวอุค ไม่เข้าใจว่าทำไมคนรวยๆอย่างหมอนี่ต้องมาขอเขาเป็นเพื่อนด้วย ทั้งๆที่ควรจะไปคบกับคนฐานะใกล้กัน และอีกอย่างถ้าเขายอมเป็นเพื่อนกับคนตัวเล็กนี่ เขาจะได้ซองมินคืนได้ยังไง เพราะเพื่อนเขาก็เหมือนเพื่อนซองมินนั่นแหละ
"ฮยอก! เป็นอะไรโกรธฉันหรอ" ซองมินถามขึ้นเมื่อเห็นฮยอกแจเงียบไปนาน
"ปล่าวนี่ แค่กำลังสำนึกผิดที่ทำตัวไม่ดีกับ หมอนี่..เอ่อ เรียวอุคน่ะ" เรียวอุคฉีกยิ้มกว้างเพราะถ้าฮยอกแจตอบออกมาแบบนั้นก็แสดงว่ายอมรับเขาเป็นเพื่อนแล้วนะสิ เรียวอุคเจ๋งเป้ง!
"อื้ม..ดีแล้ว เป็นเพื่อนกันอ่ะดีออก ว่าแต่นายชื่ออะไรอ่ะ"ซองมินที่เพิ่งรู้ตัวว่าตนยังไม่รู้จักชื่อเพื่อนใหม่ถามขึ้น
"เรียวอุค"คนตัวเล็กตอบสั้นๆ ก่อนจะหันไปสนใจบนเวทีที่ตอนนี้เหล่าF4ได้เดินขึ้นมาบนเวทีแล้ว
"สวัสดีทุกคนๆนะครับ และก็ขอต้อนรับเข้าสู่โรงเรียนเราอย่างเป็นทางการด้วยนะ" คยูฮยอนกรอกเสียงนุ่มนวลลงไมค์โครโฟน ทำเอาคนที่ฟังอยู่ถึงกับเคลิ้มกันไปหลายตลบ ยกเว้นซองมินที่ยังคงอึ้งอยู่ เขาจำได้ ใช่! คนๆนั้นเป็นเพื่อนของไอ้หน้ามังกรแน่ๆ
"แค่เพื่อนก็ใหญ่ขนาดนี้ แล้วหมอนั่น...ฮ๊า!" ซองมินบ่นออกมาเบาๆก่อนจะเหลือบไปเห็นฮันกยองที่นั่งไขว่ห้างด้วยมาดเท่ห์ๆ อยู่ด้านหลังของรุ่นพี่หน้าหล่อ
"มินเป็นอะไร ทำหน้าแบบนั้นอ่ะ" ฮยอกแจถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นหน้าเพื่อนรักซีดลงเรื่อยๆ
"คะคือ...ว่าตอนที่ฉันไปห้องอาหารน่ะ ฉันไปมีเรื่องกับหมอนั่นมา"ตอบเสียงสั่นพลางชี้นิ้วไปที่ฮันกยอง เขารู้สึกกลัวคนๆนั้นขึ้นมาซะแล้วสิ
"ฮ้า...ระรุ่นพี่ฮันกยอง มินทำอะไรเขาไปหรือเปล่า?"
"กะก็...กระโดดถีบไปทีนึงอ่ะ"
"ห๊ะ! ลีซองมิน ตายแน่งานนี้ เขาน่ะเป็นคิงส์ของที่นี่นะ นายทำอะไรลงไปเนี่ย" ว่าอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้เพราะฮันกยองขึ้นชื่อมากเรื่องความโหดที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครกล้าเหมือน ทำไมเขาถึงมีเพื่อนที่ซื่อนัก จะมาเรียนที่ไหนก็น่าจะศึกษาประวัติโรงเรียนบ้าง แล้วแบบนี้จะรอดกันมั้ยเนี่ย
คนตัวเล็กที่ยืนอยู่เงียบๆ ยังคงทอดสายตาไปยังชายหนุ่มหน้าหล่อที่ยืนเด่นอยู่บนเวที สายตาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหว ริมฝีปากบางยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเปรยออกมาเบาๆ ราวกับว่าจะให้เพียงสายลมเท่านั้นที่จะได้ยิน
"ผมกลับมาแล้วนะครับ พี่คยูฮยอน"
>>>>>>>>>>>50%<<<<<<<<<
ต่อที่เหลือนะคะ
“อุคกี้!!!” เสียงเรียกที่ดุดันทำเอาคนที่กำลังจะย่องเข้าบ้านสะดุ้งโหยง หันมายิ้มแห้งๆให้พี่ชายหน้าสวยที่นั่งคุมเชิงอยู่ตรงโซฟาสุดหรูจากอิตาลี
“พี่แจ~ มีอะไรหรอฮะ วันนี้น้องกี้เหนื่อยมากแล้วนะ เฮ้อ!” ว่าพลางถอนหายใจออกมายาวๆแสดงออกให้รู้ว่าเหนื่อยจริงๆ
“ทำไมถึงไล่คนของพี่กลับ พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าถ้าจะเรียนที่นั่นต้องมีบอดี้การ์ดคุม!” แจจุงเอ่ยเสียงดุ แต่ถึงอย่างนั้นมือเรียวยังคงลูบผมน้องชายอย่างเอ็นดู
“ก็เพื่อนน้องกี้เขากลัวบอดี้การ์ดนี่นา พี่แจไม่อยากให้น้องกี้มีเพื่อนหรอฮะ”
“เอาละๆ จะทำอะไรก็ทำ แล้วนี่บอกพี่ฮันกยองหรือยังว่าเข้าไปเรียนที่นั่น” แจจุงเอ่ยถามเมื่อนึกถึงเพื่อนพี่ชายที่เรียนอยู่ที่เดียวกับเรียวอุคแถมยังเป็นถึงคิงส์เสียด้วยซ้ำ
“ยังฮะ กลัวว่าบอกพี่ฮันแล้วพี่กี้จะรู้เรื่องด้วย ผมอยากเซอร์ไพรส์”
คนตัวเล็กฉีกยิ้มกว้างออกมาเมื่อนึกถึงคยูฮยอนคนที่เขานั้นแอบรักมานาน แม้ว่าจะตามตื๊อมาหลายปีแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จซักที แต่คราวนี้ก็มั่นใจพอควรเพราะเขาอุตส่าห์ไปร่ำเรียนวิชาตื๊อหนุ่มจากอเมริกามาเชียวนะ มันต้องสำเร็จซักแผนละน่า^_^
“ฮ๊า~ แย่แล้วพี่แจ เราลืมไปรับพี่ฮีนิมที่สนามบิน!!!” เรียวอุคโวยวายออกมาเสียงดังเมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้พี่ชายคนโตจะกลับมาจากอเมริกา แถมยังกำชับอีกว่าเขาต้องไปรับด้วย
“เรา? ไม่ใช่สิอุคกี้คนเดียว เพราะพี่ไม่นับหมอนั่นเป็นพี่ชาย!”
“แต่พี่ฮีนิม...”
“แล้วคิดว่าฉันนับแกเป็นน้องชายหรือไงห๊ะ! นังหน้าเนียน!!” เรียวอุคพูดไม่ทันจบเสียงของพี่ชายคนโตอย่างฮีชอลก็ดังขึ้นมาขัดซะก่อน เรียวอุคจึงถลาเข้าไปหาด้วยความเร็วเพราะกลัวจะโดนด่าเรื่องที่ไม่ไปรับ
“นี่แกด่าฉันหรอ นังหน้าใส!!!” เรียวอุคหันซ้ายทีขวาทีไม่รู้จะห้ามศึกเช่นไร เพราะต้องแต่จำความได้พี่ชายหน้าสวยสองคนก็ทะเลาะกันมาแบบนี้ตั้งแต่เด็กไม่รู้ไปโกรธเกลียดกันมาแต่ชาติไหน
นังหน้าใส นังหน้าเนียน ใครคิดคำด่านี้ให้พี่ผมนะ ผมว่ามันดูน่ารักมากเลยล่ะ
“แล้วแกคิดว่าฉันชมแกอยู่หรือไง สมองน้อยนิดของแกประมวลผลไม่เป็นหรอ”
“มากไปแล้วคิมฮีชอล! ถ้าฉันได้เป็นพี่แกเมื่อไหร่แกตายแน่” แจจุงลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางเอาเรื่องแต่มีหรือที่ฮีชอลจะกลัว เพราะยังไงแจจุงก็เป็นน้องที่ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรพี่อยู่แล้ว
“หน้าอย่างแกจะทำอะไรฉันได้ รีบเข้านอนเลยไปเผื่อคืนนี้จะฝันว่าเป็นพี่ฉัน”
“ช้าไปแล้วพี่ชาย ฉันฝันว่าได้ตบแกไปหลายรอบแล้วล่ะ สภาพแกอ่ะนะ อย่าให้พูด คิกๆ”
“แจจุง!!! นี่แกกล้าตบฉันในฝันงั้นหรอ ตายซะเถอะ!” ฮีชอลถลาเข้าไปหาแจจุงก่อนจะฟาดที่แขนไปหลายที มือเรียวหยิกไปทั่งร่างกายน้องชายอย่างไม่ปราณีโดยที่เรียวอุคเองก็ไม่รู้จะทำยังไง จนต้องไปตามบอดี้การ์ดของทั้งคู่มาช่วยจับแยกไปคนละทาง
“คุณชายเล็กไปพักผ่อนเถอะคะ พรุ่งนี้ยังต้องไปเรียนนะคะ” เสียงแม่บ้านเอ่ยกับเรียวอุคที่ตอนนี้นั่งหอบกินอยู่บนโซฟาเพราะกว่าจะจับทั้งคู่แยกกันได้ก็เล่นเอาเหนื่อยแทบแย่
จากนี้ไป บ้านนี้จะกลับมาวุ่นวายอีกครั้ง เตรียมตัวให้ดีนะครับ คุณบอดี้การ์ดทั้งหลาย
*******************************************
"ฮยอก...นายว่าจากนี้ไปจะเป็นยังไง" ซองมินถามขณะเดินกลับบ้านกับฮยอกแจ คิ้วสวยย่นเข้าหากันเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิตต่อจากนี้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
"ฉันก็ไม่รู้ แต่นายจำไว้นะฉันอยู่ข้างนายเสมอ"
"แล้วฉันควรทำไงต่อไป"
"เรื่องวันนี้นายอาจจะโดนอะไรแน่ๆเตรียมใจเอาไว้ พอหลังจากนั้นเราจำเป็นมากที่ต้องหลบหน้าเขา แต่นายก็ไม่ต้องคิดมากนะ ฉันไปก่อนละ"ว่าขึ้นก่อนจะแยกเดินไปอีกทางเพราะบ้านอยู่คนละซอย ซองมินมองเพื่อนรักเดินไปจนลับตา ก่อนจะเดินไปนั่งที่สนามเด็กเล่นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก
"ซองมินเอ๊ย! หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆเลยเชียว ไอ้บ้านั่นก็ไม่รู้จักบอก ใครจะคิดว่าเป็นคิงส์หน้าตายังกะมังกรต้ม" บ่นออกมาเบาๆก่อนจะนั่งลงบนชิงช้าแล้วฟุบหน้าลงกับเข่าตัวเอง สายลมเอื่อยๆพัดมากระทบตัวให้ได้เย็นสบาย ร่างเล็กจึงเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าภัยกำลังจะมาถึงตัว
"หลับแล้วสินะ หึ...ไปเอาตัวเด็กนั่นมา!!!"
จากนี้ไป บ้านนี้จะกลับมาวุ่นวายอีกครั้ง เตรียมตัวให้ดีนะครับ คุณบอดี้การ์ดทั้งหลาย
*******************************************
"ฮยอก...นายว่าจากนี้ไปจะเป็นยังไง" ซองมินถามขณะเดินกลับบ้านกับฮยอกแจ คิ้วสวยย่นเข้าหากันเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิตต่อจากนี้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
"ฉันก็ไม่รู้ แต่นายจำไว้นะฉันอยู่ข้างนายเสมอ"
"แล้วฉันควรทำไงต่อไป"
"เรื่องวันนี้นายอาจจะโดนอะไรแน่ๆเตรียมใจเอาไว้ พอหลังจากนั้นเราจำเป็นมากที่ต้องหลบหน้าเขา แต่นายก็ไม่ต้องคิดมากนะ ฉันไปก่อนละ"ว่าขึ้นก่อนจะแยกเดินไปอีกทางเพราะบ้านอยู่คนละซอย ซองมินมองเพื่อนรักเดินไปจนลับตา ก่อนจะเดินไปนั่งที่สนามเด็กเล่นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก
"ซองมินเอ๊ย! หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆเลยเชียว ไอ้บ้านั่นก็ไม่รู้จักบอก ใครจะคิดว่าเป็นคิงส์หน้าตายังกะมังกรต้ม" บ่นออกมาเบาๆก่อนจะนั่งลงบนชิงช้าแล้วฟุบหน้าลงกับเข่าตัวเอง สายลมเอื่อยๆพัดมากระทบตัวให้ได้เย็นสบาย ร่างเล็กจึงเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าภัยกำลังจะมาถึงตัว
"หลับแล้วสินะ หึ...ไปเอาตัวเด็กนั่นมา!!!"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น