คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : My RabBit Chapter #0 InTro
My RabBit Chapter #0 InTro
กรี๊ดดด
เสียงกรีดร้องของบรรดาสาวๆในมหาวิทยาลัยเซนที่ยังคงมีให้ได้ยินเช่นทุกวันนับตั้งแต่สามหนุ่มหน้าหล่อผู้ได้รับฉายาว่าสามกษัตริย์ย้ายเข้ามาเรียนที่นี่ซึ่งนี่ก็นับเป็นปีที่สามแล้ว และไม่ว่าพวกเขาจะเดินไปทิศทางไหนของมหาลัยก็มักจะได้เสียงตอบรับเป็นความคลั่งไคล้ของคนบริเวณนั้นเสมอไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย(?)
“ฮ๊า~ ได้ยินแบบนี้แล้วสดชื่นจริงๆ” ซีวอนเจ้าของรอยยิ้มเทพบุตรว่าขึ้นก่อนจะหันไปฉีกยิ้มกว้างให้สาวๆที่อยู่รอบตัวจนบางคนถึงกับเข่าอ่อนให้กับรอยยิ้มอันน่าหลงใหล
“โรคจิตหรือไง” เสียงทุ้มของเจ้าชายน้ำแข็งอย่างคิบอมว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก เพราะเขาไม่ชอบซักนิดไอ้ที่มาส่งเสียงให้น่ารำคาญหูแบบนี้
“แกสองคนนี่ก็ขยันทะเลาะกันดีนะ คบกันมาได้เป็นสิบปี” หนุ่มหน้ามังกรที่ชื่อฮันกยองว่าขึ้นหลังจากเงียบมานาน ก็ไอ้เพื่อนสองคนนี้มันขัดกันได้ตลอดเวลาอีกคนก็อ่อนโยนจนดูทะเล้นอีกคนก็เย็นเป็นน้ำแข็งขั้วโลก ก็ไม่รู้อะไรผลักดันมันมาเป็นเพื่อนกันแต่ที่แปลกก็คือ มันก็คบกันมาได้ตั้งนานนะเห็นต่างกันขนาดนี้
“ใครมันกวนก่อนเล่า ไอ้บวมนี่ไม่ใช่หรือไง” ซีวอนว่าขึ้นก่อนจะหันไปชิปากใส่คิบอม
“บอมโว๊ย! คิบอม ไม่ใช่บวม ไอ้นี่นิ”
“โอ๊ย! ไม่ต้องกัดกันแล้ว พวกนายช่วยฉันคิดหน่อยสิว่าจะเลี้ยงอะไรดี พอดีช่วงนี้อยากจะมีสัตว์เลี้ยงกับเขาบ้างอ่ะ” คนหน้าจีนว่าขึ้นก่อนจะหยิบแลปทอปขึ้นมาเพื่อเปิดดูว่าตอนนี้ใครนิยมเลี้ยงอะไรกันอยู่
“หน้ามังกรก็เลี้ยงมังกรไปดิ” คิบอมว่าอย่างไม่สนใจนักก็เขาไม่ได้ฉลาดเรื่องอ่อนโยนพวกนี้นี่นา
“เวร! ถ้ามีให้เลี้ยงก็เลี้ยงไปแล้ว” ตอกกลับแรงๆกับความคิดที่ไม่ได้คิดของเพื่อนแก้มบวม
“หมาหรือไม่ก็แมวน่ารักดีออก” ซีวอนเสนอขึ้นบ้างแต่ก็ไม่วายโดนตอกกลับมาหน้าแทบหงาย
“ไอ้วอน ฉันแพ้ขนหมาขนแมว! แกเพื่อนฉันเปล่าวะเนี่ย”
“อะไรของแกวะ อันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ได้ แล้วจะถามทำซากอะไร” คิบอมว่าขึ้นก่อนจะเปรยยิ้มออกมาบางๆเมื่อเหลือบไปเห็นบางอย่างบนหน้าจอแลปทอป
“ไปกันเถอะ ฉันรู้แล้วว่าแกควรเลี้ยงอะไร” ว่าขึ้นแล้วจัดการปิดแลปทอปของเพื่อนหน้าจีนเสียเองก่อนจะพยักหน้าเรียกให้ทั้งคู่ลุกตามไป
“เดี๋ยวเซ่ แกไม่ได้หมายถึงเต่าใช่มั้ย ไม่เอานะ ฉันไม่อยากซ้ำกับไอ้เยซองประธานหน้าจืดนั่น” ฮันกยองโวยวายขึ้นมาแต่อีกคนก็ไม่ได้สนใจจะฟังมันซักนิด ขายาวก้าวเร็วๆไปที่รถสปอร์ตคันหรูของตัวเองส่วนฮันกยองกับซีวอนที่พอจะรู้แล้วว่าถามไปก็คงไร้ประโยชน์จึงแยกย้ายไปรถตัวเองแล้วขับตามคิบอมไป แต่ยังไม่ทันพ้นประตูมหาลัยรถคันหรูของคิบอมก็เบรกกะทันหันจนคนตามแทบจะจูบบั้นท้ายเอา
“ขอโทษนะครับ เราอนุญาตให้คุณออกนอกมหาลัยตอนนี้ไม่ได้ นี่เวลาบ่ายโมงสิบสามนาทีสี่สิบสี่วินาทียังไม่มีคลาสไหนเลิกเรียน กรุณากลับเข้าไปด้วยครับไม่งั้นผมจะลงบันทึกพวกคุณนะครับ” เสียงหวานเอ่ยอย่างนอบน้อม ฮันกยองที่ชะโงกหัวออกมาจากรถพอเจอเข้ากับรองประธานหน้าจืด(พอกับไอ้ประธานเลย)ก็แทบจะหุบหัวเข้าไปไม่ทัน คุณระเบียบมาคุมเองเลยหรอวันนี้
“นี่อย่ามาทำตัวน่ารำคาญน่า พวกฉันมีธุระนะ” คิบอมว่าขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ตาคมกวาดมองคนตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ โตขนาดนี้แล้วยังใส่แว่นอันเท่าบ้าน ไหนจะไอ้เสื้อตัวโคร่งนี่อีก รกหูรกตาชะมัด
“มีธุระก็ไม่ได้ครับ กฎคือกฎ” ว่าขึ้นอย่างไม่ท้อถอย ตาโตจ้องมองอีกฝ่ายผ่านแว่นหนาด้วยสายตาที่ดุดันไม่แพ้กัน ซีวอนที่รออยู่นานจึงลงจากรถมาเจรจากับรองประธานเสียเอง
“ปล่อยเราไปดีกว่านะ ถ้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่านายเป็นใคร รองประธานลีดงเฮ” กระซิบแผ่วเบาข้างหูร่างบาง อีกฝ่ายถลึงตาโตอย่างตกใจที่ซีวอนพูดเหมือนรู้ความลับ แม้จะไม่ค่อยเชื่อนัก แต่พอเงยหน้าไปสบตากับร่างสูงที่ยิ้มอย่างผู้ชนะอยู่ก็พอจะเดาอะไรบางอย่างออก
“ฉลาดใช่เล่น ความลับก็คงต้องเป็นความลับ พวกนายไปได้แล้ว” ร่างบางว่าขึ้นก่อนจะโบกมือเล็กหยอยๆไปเชิงไล่ ซีวอนหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะเดินขึ้นรถตัวเองไปโดยที่คิบอมกับฮันกยองได้แต่มองอย่างงงๆแต่ไม่ทันได้ถามซีวอนก็บีบแตรไล่ซะก่อน คิบอมจึงค่อยๆเลื่อนรถออกไป
“เนี่ยน่ะหรอ คิมคิบอมเจ้าชายน้ำแข็ง นึกว่าจะหล่อซักแค่ไหน” ร่างบางว่าขึ้นพลางขยับแว่นหนาของตัวเองให้กลับมาอยู่บนจมูกโด่งรั้นตามเดิมก่อนจะเดินกลับเข้าไปในตึกเพราะเขามีเรียนต่ออีกหนึ่งคลาส
*******************************
ทางด้านสามหนุ่มที่ตอนนี้กำลังเดินหาร้านขายสัตว์เลี้ยงกันให้วุ่นภายในตลาดเมียงดง ไหนจะคนที่เยอะมากซะเวอร์ ไหนจะอากาศที่ร้อนอบอ้าวจนอยากจะเป็นลม ทำเอาคุณชายทั้งสามที่เพิ่งจะเคยมาเดินที่แบบนี้ครั้งแทบอยากหนีกลับบ้านให้รู้แล้วรู้รอดกันไป แต่ติดตรงที่ว่ายังไม่เจอสิ่งที่ต้องการ
“เฮ้ย! จะเจอได้หรือยังฉันอึดอัดนะโว๊ย!” ซีวอนที่ความอดทนน้อยสุดโวยวายขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“ก็เดี๋ยวสิวะ คนมันยังหาไม่เจอนี่หว่า” คิบอมว่าขึ้นสายตายังคงเหลียวซ้ายแลขวาหาในสิ่งที่ตั้งใจพาฮันกยองมาซื้อก่อนจะยิ้มออกมาบางๆเมื่อเหลือบไปเห็นร้าขายสัตว์เลี้ยงตรงหัวมุมจึงไม่รอช้ากอดคอเพื่อนสองคนตรงดิ่งไปทันที
“กระต่าย!!!!” ฮันกยองร้องออกมาอย่างไม่ค่อยจะเชื่อสายตานัก ไอ้ที่เขามาเดินตากแดดตากลมแทบตายเพื่อที่จะมาซื้อกระต่ายตัวน้อยเนี่ยนะ
“เออดิ เห็นเป็นมังกรหรือไง รีบๆเลือกเหอะน่า” คิบอมว่าก่อนจะเดินออกไปรอหน้าร้านที่มีซีวอนยืนอยู่ก่อนแล้ว
“ตกลงแกพามันมาซื้ออะไร” ซีวอนถามขึ้น
“กระต่ายน่ะ”
“กระต่ายเนี่ยนะ แกดูหนังหน้ามันหน่อยสิวะ หน้าอย่างโหดให้เลี้ยงกระต่าย” ว่าขึ้นอย่างไม่เห็นด้วยนัก ก็หน้าฮันกยองมันออกจะโหดแบบมีระดับขนาดนั้นเรื่องที่จะให้เลี้ยงกระต่ายมันออกจะตลกไปหน่อย
“เอ้าหมาแมวก็เลี้ยงไม่ได้ มังกรก็ไม่มีให้มัน เต่ามันก็ไม่เอา จะให้มันเลี้ยงเสือหรือไง” ตอบเสียงห้วนก่อนจะเดินตัวปลิวไปซื้อน้ำร้านข้างๆมาดับกระหาย
“คุณจะซื้อกระต่ายหรือจ๊ะ” เสียงแหบพร่าของเจ้าของร้านว่าขึ้น ฮันกยองหันไปพยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันกลับมาสนใจเจ้ากระต่ายสีขาวขนปุยในกรงต่อ
“ตัวนั้นมันแพงนะจ๊ะ คุณซื้อไม่ไหวหรอก ตัวนี้มันเป็นตัวพิเศษของร้าน”
“พิเศษยังไงผมเห็นมันก็เหมือนตัวอื่นๆ” ถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะเท่าที่ดูก็ไม่เห็นมันจะพิเศษตรงไหนนอกจากดึงดูดคนให้มองมันเท่านั้น
“ก็มันสามารถทำให้คุณมีความสุขได้น่ะสิ แต่บางครั้งมันก็ทำให้คุณหึงมันได้ด้วยนะ” ฮันกยองขมวดคิ้วยุ่งกับคำที่ได้ยินที่บอกว่ามันทำให้มีความสุขได้ก็พอจะเชื่ออยู่หรอกก็มันน่ารักนี่ แต่อย่างที่สองทำให้หึงได้ บ้า! ใครมันจะหึงกระต่ายกันฟ่ะ
“คุณไม่เชื่อก็ได้นะจ๊ะ เพราะที่มันยังอยู่ที่นี่ก็เพราะไม่มีใครเชื่อป้านั่นแหละ”
“งั้นหรอ? ผมจะซื้อมัน” ฮันกยองว่าออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น อยากจะรู้นักกระต่ายที่ไหนทำให้คนหึงได้ แต่ถ้าไม่หึงละก็พ่อจะเอาระเบิดมาปาร้านให้ดู แล้วก็เอาไอ้กระต่ายนี่ไปทิ้งข้างทางด้วย
“เอ๋? มันแพงนะจ๊ะ ตัวนี้สามแสนวอนเชียวนะ”
“ย่าส์!!! ใช่เล่นเลยนะเราเจ้าตัวเล็ก คุณป้ารับบัตรเครดิตมั้ยครับ ผมพกเงินสดมาไม่พอ”
“รับสิจ๊ะ” ทันทีที่เจ้าของร้านพูดจบฮันกยองก็ยื่นบัตรเครดิตสีเงินให้โดยไม่ลังเล มือหนาลูบหูกระต่ายเบาๆอย่างกลัวว่ามันจะเจ็บ ไม่นานนักจึงออกมาสมทบกับเพื่อนที่ยืนรอกันจนหน้าด้านไปตามๆกัน
“เฮ้ๆ น่ารักใช่หยอก ทำไมตัวนี้มันดูดีจังอ่ะ” ซีวอนว่าพลางลูบหัวเจ้ากระต่ายน้อยอย่างนึกเอ็นดู
“เอ้าๆ ไปกันได้แล้ว ร้อนแก้มแตก” คิบอมว่าออกมาทำเอาฮันกยองที่ยังไม่คล่องเกาหลีแม้จะอยู่มานานถึงกับหน้าเอ๋อไปทันที อะไรคือ ร้อนแก้มแตกฟ่ะ
“ไอ้นี่ก็มัวสงสัยอยู่นั่นแหละ มันหมายถึงร้อนตับแตกน่ะแต่นั่นมันมั่วไปเอง พวกแกจะไปไหนกันต่อก็ไปเลยนะ ฉันมีเดทวะ” ซีวอนว่าก่อนจะแยกตัวไปหาเด็กที่นัดเอาไว้
“ฉันก็ต้องไปรับเรียวอุคที่โรงเรียนอ่ะ แกก็ไปตามทางแกล่ะกันนะ” ว่าขึ้นก่อนจะเดินไปที่รถตัวเองแล้วขับออกไปด้วยความเร็วเพราะนี่ใกล้เวลาเลิกเรียนของน้องชายตัวแสบแล้ว
“เอาล่ะ งั้นเรากลับบ้านกันบ้างดีกว่านะคุณกระต่าย” ว่าขึ้นแล้วเดินไปที่รถของตัวเองบ้างแต่ยังไม่ทันจะออกรถเจ้าของร้านขายสัตว์เลี้ยงก็วิ่งมาดักหน้าไว้ซะก่อน
“เอ่อ..ป้าลืมบอกไป กระต่ายตัวนี้กินเป็นแต่พายฟักทองนะจ๊ะ แล้วอีกสามวันมันจะกินข้าวตามปกติ” คุณป้ายังสวยพูดจบก็เดินกลับเข้าไปในร้านอีกครั้ง ฮันกยองหันไปมองเจ้ากระต่ายที่อยู่เบาะข้างคนขับอย่างงงๆ กระต่ายกินพายฟักทอง? กระต่ายกินข้าว? เอ...หรือมันจะพิเศษจริงๆนะ
ความคิดเห็น