ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [New][YaoiSF] รวม short fic+one short Exo

    ลำดับตอนที่ #4 : [SF]Spicy or Sweetie? (Kris+Suho) Intro part

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 56


    Title: Spicy or Swettie?

    Auther: ฝาละมีน้องโด้

    Paring : Kris+Suho

    Rate : PG -15

     

     

     

    หลังจากการสอบมิดเทอมสุดหฤโหดผ่านพ้นไป  มหาวิทยาลัยที่เงียบประดุจป่าช้าก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง  บรรดานักศึกษาต่างพากันจับกลุ่มตามสุมทุมพุ่มไม้  นั่งเม้าท์มอยหอยกาบอัพเดทข่าวสารทั่วทั้งมหาลัยคณะไหนใครเป็นยังไงไม่มีพลาดข่าว   นักศึกษาชายส่วนใหญ่ก็จับกลุ่มกันตามซุ้มน้ำแกว่งปากหาคัชชูจากรุ่นน้องสาวๆสวยๆเล่น    

     

    ร่างขาวบางสว่างเจิดจ้านั่งไขว้ห้างดูดไมโลอ่านแมกกาซีน พยาธิรายสัปดาห์” ด้วยสีหน้าแช่มชื่น   ริมฝีปากแดงสวยคลี่ยิ้มบางๆส่งผลให้ใบหน้านั้นน่ามองยิ่งขึ้น

     

     อ่านหนังสือแบบนั้นแล้วยิ้มหวานมันหมายความว่ายังไงห๊ะ  จุนมยอน  คนถูกทักละสายตาจากหนังสือแล้วเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียงเมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิท ก็ยิ้มให้ก่อนจะเอ่ยแซว

     

     แต่งตัวสมฉายา  สวยแต่งตัวทราม ’ เหมือนเดิมเลยนะลู่ห่าน “ คนฟังได้ยินแล้วถึงกับระเบิดหัวเราะออกมาลั่นอย่างไม่แคร์สายตาคนมอง  ความจริงแล้วคงไม่แคร์ตั้งแต่เรื่องแต่งตัวแล้วล่ะ  เพราะคนอะไรหน้าส๊วยสวยแต่แต่งตัวแนวบรม   เสื้อบอลสีดำสวมทับด้วยเสื้อนักศึกษาไม่ติดกระดุมสองเม็ดบน เน็คไทไม่ใส่ กางเกงสแลคสีดำขาลอย ลองเท้าสตั๊ดสีชมพูบานเย็นสะท้อนแสง

     

     ก็เดี๋ยวตอนเย็นไปเตะบอลต่อไง ขี้เกียจเปลี่ยนอ่ะ  ว่าแต่มานั่งอ่านหนังสือสบายอารมณ์นี่ไม่มีเรียนเช้าหรอ  ลู่ห่านถามหลังจากที่เลิกหัวเราะแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆจุนมยอน

     

     ถ้ามีจะเห็นนั่งหัวโด่อยู่นี่ป่ะล่ะ  ว่าแต่ลมอะไรหอบแกมาถึงคณะฉันได้วะ  ได้ข่าวว่าตึกไม่ได้อยู่ใกล้กันเลยนะจ้ะน้องลู่  จุนมยอนคั่นหน้าหนังสือไว้แล้วหันมาจิ้มแก้มแซวอีกคนอย่างจริงจัง  ลู่ห่านหน้าแดงแกล้งปัดมือจุนมยอนออกอย่างหงุดหงิดกลบเกลื่อนอาการ

     

     ก็มาหาแกไง  

     

     ตอแหล มาเต๊าะไอ้เซฮุนเด็กปีหนึ่งวิทย์แพทย์ก็บอกมาเหอะ “ ว่าแล้วเบะปากใส่ก่อนจะดูดไมโลต่อ

     

     โหยยยยยยยยย ไรวะ ก็รู้อยู่แล้วยังจะแซวอีก “ โวยวายแล้วบุ่ยปากใส่อีกคนอย่างน่ารักน่าตี ก่อนจะตบเข่าเบาๆเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้  เออ จุนมยอนแกจำเรื่องลูกพี่ลูกน้องฉันที่ชื่อคริสที่ฉันเคยเล่าให้แกฟังได้ป่ะ 

     

     ไอ้ที่แกว่าหน้าตาดีๆ เรียนเก่งๆ ป่ะ “ จุนมยอนถามก่อนจะงัดนิตยสาร พยาธิรายสัปดาห์  ที่คั่นไว้ขึ้นมาอ่านต่ออย่างไม่ค่อยสนใจในสิ่งที่ลู่ห่านพูดเท่าไหร่

     

     เออ เดือนคณะฉันเลยนะเว้ย  นั่นไงมันเดินมานู่นพอดีเลย “ ลู่ห่านว่าแล้วก็สะกิดไหล่จุนมยอนให้เงยหน้าขึ้นมามอง

     

     คนไหนวะ “ จุนมยอนหรี่ตาพยายามมองตามนิ้วมือลู่ห่านไป

     

    “ ไอ้นี่ไง ไอ้ตัวสูงๆ หัวทองๆเนี่ย เป็นไงๆ หล่ออย่างกับพระเอกการ์ตูนเลยป่ะ “ ลู่ห่านชี้ไปที่ร่างสูงโปร่ง ซึ่งยืนยิ้มสดใสอยู่ท่ามกลางหมู่คน  จุนมยอนขมวดคิ้วก่อนจะพูดออกมาไม่เบานัก  ทำเอาคนแถวนั้นรวมทั้งคนที่เพิ่งถูกชี้ให้มองต่างมองมาที่คนตัวเล็กเป็นสายตาเดียว

     

    “ พระเอกการ์ตูนเชี่ยอะไร ดูยังไงๆแมร่งก็แองกรี้เบิร์ดชัดๆ  ยิ้มทีนี่หยั่งกะพยาธิแส้ม้าที่ฉันส่องกล้องเจอเมื่อวาน  จุนมยอนพูดจบก็ยกหนังสือขึ้นอ่านต่อ  รอยยิ้มบางๆกับใบหน้าอิ่มสุขแสดงให้เห็นว่าคนตัวเล็กนั้นตัดขาดจากโลกภายนอกแล้วโดยสิ้นเชิง 

     

     

     

     

     

    นี่แหละครับจุนมยอนเจ้าของฉายา หวานแต่หน้าปากหมามาก

     

     

     

     

     

     

     

     

    ใต้ตึกวิศวะที่คราคร่ำไปด้วยบรรดานักศึกษา ลู่ห่านชะโงกหน้ามองหาลูกพี่ลูกน้องตัวเอง  ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นชายหนุ่มผมทองรูปร่างหน้าตาเหมือนนายแบบนั่งไขว่ห้างพิงม้านั่งอยู่  คนหน้าหวานก้าวฉับๆไปหาลูกพี่ลูกน้องตัวสูงแทบจะทันที

     

     ไงวะมรึง  มือเล็กตบเข้าที่บ่ากว้างเบาๆก่อนจะนั่งลงข้างๆ คนตัวสูงเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้มให้

     

     ก็ดีได้ยินน้องเขาด่าชัดเจนครบถ้วนทุกคำเลยว่ะ ฮ่าๆๆๆ  คริสว่าก่อนจะหัวเราะอย่างคนไม่คิดมาก

     

     สมฉายาเลยมั๊ยล่ะ ฮ่าๆๆๆ  ลู่ห่านว่าก่อนจะนั่งลงข้างๆ

     

     กุว่าตัวจริงยิ่งกว่าฉายาอีกว่ะ  แต่เขาก็น่ารักดี กุแมร่งโคตรชอบอ่ะ “ คริสพูดแล้วยิ้มกว้าง ทำเอาลู่ห่านอดแซวไม่ได้

     

     เฮ้ย! โรคจิตป่ะวะมรึง  ชอบให้เขาด่าเนี่ย 

     

     ไม่รู้ว่ะ กุฟังแล้วกุก็ขำๆอ่ะ ออกแนวอึ้งแล้วก็ประทับใจมากกว่า ไปสรรหาคำด่าแบบนั้นมาจากไหนว่ะ แล้วตัวจริงๆก็เป็นคนอ่อนโยนไม่ใช่รึไง? 

     

     เออ จุนมยอนมันก็มีมุมน่ารักอ่อนโยนอ่ะ แต่มันไม่ค่อยแสดงให้คนที่ไม่สนิทเห็น มรึงไปรู้มาได้ไงเนี่ย “ ลู่ห่านถามอย่างสงสัย คริสยิ้มบางๆสายตามองเหม่อไปข้างหน้า

     

     พรหมลิขิตน่ะ 

     

    แหวะ! น้ำเน่านะมรึง แล้วมรึงจะเอาไงต่อเนี่ย กุแมร่งอุตส่าห์ปูทางให้ละ จุนมยอนมันด่ากลับมาซะป่นปี้หมดเลย” คนหน้าหวานเบรคอารมณ์ลูกผู้พี่ซะหัวแทบทิ่ม 

     ก็ถ้าจีบอ้อมๆไม่น่าจะได้ ก็คงต้องจีบตรงๆละว่ะ 

     

     ระวังมันด่าพ่อเอานะ  ลู่ห่านพูดขำๆ คริสยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆในลำคอ

     

     เออ กุก็กลัวอยู่เนี่ย ว่าแต่พรุ่งนี้บ่ายมรึงมีเรียนป่ะวะลู่ 

     

     พรุ่งนี้บ่ายกุว่างทำไมวะ 

     

     แล้วจุนมยอนว่างด้วยป่ะ 

     

     ไม่มั่นใจว่ะ แต่น่าจะว่าง 

     

     เออ....งั้นพรุ่งนี้บ่ายนัดจุนมยอนให้กุหน่อย ม้านั่งข้างคณะวิทย์ที่เดิมของมรึงนั่นแหละ  กุไปก่อนนะมีแลบว่ะ

    บาย “ ลู่ห่านพยักหน้าตอบน้อยๆ  มือเรียวล้วงเอาโทรศัพท์เครื่องบางในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาก่อนจะต่อสายหาใครบางคน

     

     ฮัลโหล จุนมยอนหรอ..................

     

     

    _________________________________________________________________________________

     

                    ม้านั่งข้างตึกวิทยาศาสตร์มักจะถูกใช้เป็นแหล่งพักพิงอิงอาศัยของบรรดานักศึกษาไม่วาจะคณะวิทย์เองหรือคณะอื่นที่มาเพื่อการใดๆก็ตาม  ความร่มรื่นจากเงาของต้นไม้ใหญ่กับลมเย็นๆที่พัดโชยอยู่ตลอดเวลาทำให้หนังตาคนตัวเล็กที่ถูกเพื่อนสนิทนัดไว้หนักขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  คนตัวเล็กพลิกหน้าหนังสือจุลชีพในมือช้าๆก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากหาว   เมื่อเห็นหัวทองๆของเพื่อนสนิทโผล่มาแต่ไกลก็อ้าปากไว้เตรียมจะพ่นคำด่า  แต่ทว่าลู่ห่านรู้ทันยกมือขึ้นปรามก่อนที่จะโดนสรรเสริญบรรพบุรุษ

     

    หยุดเลย! อะไรที่คิดจะพ่นออกมาน่ะกลืนลงคอไปเดี๋ยวนี้เลย  ลู่ห่านว่าพร้อมกับชี้นิ้วสั่ง ทำเอาคนที่กำลังจะอ้าปากด่าตกใจเผลอทำตามที่อีกคนบอก หุบปากฉับแล้วกลืนคำด่าที่มีลงคอไปจนหมด  ลู่ห่านหัวเราะขำกับปฎิกิริยาตอบสนองของอีกฝ่ายก่อนจะยื่นมือข้ามโต๊ะไปยีจนกลุ่มผมสีแดงของอีกฝ่ายแตกยุ่ง

     

     ฮ่าๆๆๆ นายนี่มันน่ารักจริงๆเลยจุนมยอน 

     

     พอเลยๆ แล้วนี่น้ำจะท่วมเทือกเขาหิมาลัยรึไงเนี่ย แกถึงได้แต่งตัวถูกระเบียบเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าเนี่ย จุนมยอนปัดมืออีกฝ่ายออกแล้วมองตั้งแต่หัวจรดเท้า แอบตกใจเล็กๆที่วันนี้ลู่ห่านแต่งตัวได้สวนทางกับแนวทางการดำเนินชีวิตมาก   เสื้อเชิ้ตนักศึกษาแขนยาวสีขาวสะอาดถูกติดกระดุมทุกเม็ด ใส่เน็กไทด์สีดำติดตราสัญญาลักษณ์มหาลัย  แถมท้ายด้วยรองเท้าหนังสีดำขัดมันอย่างดี  ผมสีทองถูกเซ็ทมาอย่างพิถีพิถันทำให้หน้าตาน่ารักนั้นชวนมองมากขึ้นจม  ลู่ห่านแต่งตัวแบบนี้แล้วดูดีจะตาย  ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมมันถึงได้คิดใกล้ใฝ่ต่ำแต่งตัวล้ำชาวบ้านมาได้แทบทุกวัน 

     

     พรีเซ็นต์งานอ่ะดิ่ โดนอาจารย์โขลกซะเละเลยคร้าบบ ไม่อยากจะคุยขางี้สั่นพั่บๆอ่ะ ฮ่าๆๆ 

     ฮ่าๆๆ เออๆเข้าใจ ว่าแต่วันนี้นัดมามีอะไรอ่ะ  จุนมยอนถาม  ลู่ห่านหยุดหัวเราะแล้วอมยิ้มน้อยๆ

     

     มีคนๆนึงอยากเจอแก 

     

     ใคร?  คิ้วเล็กขมวดเป็นปมอย่างสงสัย

     

     ลูกพี่ลูกน้องฉันเอง  คำตอบของลู่ห่านทำเอาจุนมยอนร้องออกมาเบาๆ  กุว่าแล้ว   คนอย่างเสี่ยวลู่ห่านที่วันๆไม่พูดถึงอะไรนอกจากแมนยูกับโอเซฮุนถึงได้ออกปากเล่าเรื่องพี่ชายหน้าตาดีขึ้นมา

     

     แล้วนี่แกขายฉันให้พี่ชายแกเท่าไหร่ล่ะเนี่ย  จุนมยอนถามอีกฝ่ายที่เริ่มลงมือปลดกระดุมแขนเสื้อนักศึกษาแล้วพับจนมาถึงข้อศอก

     

     รองเท้าสตั๊ดคู่นึง “ ลู่ห่านตอบทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตาพับแขนเสื้อ

     

     อะไรวะ  ฉันมีค่าแค่รองเท้าสตั๊ดคู่เดียวเองไง๊ น้อยใจว่ะ  จุนมยอนว่าแล้วเบะปากใส่อีกฝ่าย 

     

     ของนำเข้า รุ่นลิมิตเต็ด ขาดอีกไม่กี่สตางค์ก็แตะแสนแล้ว  ลู่ห่านเงยหน้าขึ้นมาบอกแล้วขยิบตาให้ 

     

     เออ แบบนี้ค่อยพอให้อภัยได้หน่อย 

     

     ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ น่าๆ ลองคุยดูก่อน คริสมันก็เป็นคนดีคนนึงเลยนะเว้ย “ ว่าแล้วก็เอื้อมมือไปโยกหัวจุนมยอนที่นั่งฝั่งตรงข้าม

     

     ดีที่แกว่านี่ยังไง  ถ้าเป็นแบบแกนี้ฉันไม่นับว่าดีนะ “ จุนมยอนถามกลับแล้วแลบลิ้นใส่อีกฝ่าย 

     

     แหม ปากอย่างงี้เดี๋ยวพี่ก็จูบโชว์เลยนิ “ ลู่ห่านชี้หน้าคาดโทษ  จุนมยอนยักไหล่เหมือนไม่แคร์

     

     เอาสิจะด่าให้จำชื่อแม่ไม่ได้เลย   ได้ยินแบบนั้นแล้วลู่ห่านก็ได้แต่ทำหน้ายู่แล้วนั่งลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เล่นอะไรเล่นได้แต่อย่าเล่นให้เลยเถิดจนจุนมยอนทนไม่ไหวด่าออกมา  เพราะมันจะพาลเดือดร้อนไปถึงบุพการีที่บ้านและบรรพบุรุษที่อยู่บนชั้นฟ้า

     

     

    จุนมยอนนั่งคุยกับลู่ห่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อช๊อปวิศวะเดินตรงเข้ามา  จุนมยอนเลิกคิ้วให้ลู่ห่านเป็นเชิงให้หันไปมองด้านหลัง  ลู่ห่านยิ้มกว้างแล้วกวักมือเรียกลูกผู้พี่อย่างสนิทสนม 

     

     ไงวะไอ้ลู่ หวัดดีครับจุนมยอน  คนตัวสูงทักทายลูกพี่ลูกน้องตัวเองก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามแล้วส่งยิ้มพร้อมทักทายคนน่ารัก

     

     สวัสดีฮะ  จุนมยอนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ยิ้มแต่ก็ไม่ได้กระชากเสียง เพียงแค่นั้นก็ทำให้คนตัวสูงยิ้มออกมาได้แล้ว

     

     พี่ชื่อคริสนะ  วิศวะสิ่งแวดล้อมปีสามครับ 

     

     ไม่บอกชื่อพ่อชื่อแม่กับบ้านเลขที่ด้วยเลยล่ะฮะ  จุนมยอนตอกกลับ  ลู่ห่านที่นั่งอยู่ข้างๆคริสอมยิ้มออกมาจางๆเมื่อเพื่อนสนิทเริ่มแผลฤทธิ์ก่อนจะต้องใช้เล็บจิกแขนตัวเองแน่นเพื่อกลั้นหัวเราะเมื่อคริสตอบคนตัวเล็กกลับไป

     

     ตอนแรกก็ว่าจะบอกด้วยแหละครับ  เผื่อว่างๆจุนมยอนจะแวะไปหา แต่พี่กลัวว่าเราจะลำบากเลยคิดไว้ว่าเดี๋ยวมารับเองดีกว่า ส่วนเรื่องชื่อพ่อชื่อแม่นี่ก็ไว้บอกตอนพี่พาจุนมยอนไปพบท่านเลยดีกว่าครับ  คิ้วเล็กกระตุกน้อยๆเมื่อคนตัวสูงตอบเขากลับมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม   

     

     กวนตีน.... “ ปากเล็กพึมพำออกมาเบาๆ คริสเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะถามซ้ำ

     

     ห๊ะ? ว่าอะไรนะครับ 

     

     อยากกินขนมจีนน่ะฮะ 

     

     พอดีเลย พี่รู้จักอยู่ร้านนึงอร่อยเหาะเลย  วันหลังจุนมยอนสนใจไปกินด้วยกันมั๊ยล่ะ  คริสยิ้มสดใสให้อีกฝ่าย  จุนมยอนเองก็ไม่ยอมการ์ดตกพูดตัดบทอีกฝ่ายทันที

     

     ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่เห็นลู่ห่านว่าพี่มีเรื่องอยากจะคุยกับผม 

     

    อ๋อครับ........พี่จะบอกว่าพี่จะจีบเราน่ะ 

     

     ห๊ะ?  จุนมยอนร้องออกมาเมื่อคริสออกมาด้วยน้ำเสียงเรื่อยและรอยยิ้มกว้างเหมือนพูดเรื่องปลูกผักทำนาอยู่ยังไงหยั่งงั้น

     

     พี่บอกว่าพี่จะจีบเรานะครับ  คริสพูดย้ำอีกครั้งแต่จุนมยอนยังคงอึ้งไม่หาย  ตั้งแต่ออกจากท้องพ่อท้องแม่มาเคยโดนจีบก็เยอะ แต่ไอ้ที่เดินเข้ามาแล้วบอกตรงๆว่าจะจีบนี่ก็มีไอ้ผู้ชายหัวทองสูงเป็นเสาไฟฟ้าคนนี้แหละคนแรก

     

     พี่รู้ว่าตอนนี้จุนมยอนเองก็ไม่มีใคร พี่ถามไอ้ลู่มาแล้ว  แล้วจริงๆจุนมยอนก็เป็นคนน่ารักมากๆด้วย อันนี้พี่บังเอิญรู้มาเอง  เพราะฉะนั้นเราไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะปฏิเสธพี่เพราะพี่จะขอแค่จีบก่อนเฉยๆ ถ้าหลังจากนี้ไปจุนมยอนจะว่าอะไรยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที  ส่วนนี่ขนมพี่ซื้อมาฝากครับ  คริสฉวยโอกาสตอนที่อีกฝ่ายกำลังอึ้งทึ่งมึนอยู่ร่ายยาวก่อนจะยื่นถุงขนมที่ซื้อติดมือมาให้คนตรงหน้า  จุนมยอนก้มลงมองถุงขนมก่อนจะถามมึนๆเมื่อเห็นกล่องขนมสามสี่กล่องวางซ้อนกันอยู่ข้างใน

     

     อะไร? ทำไมหลายกล่องจัง 

     

     ขนมเอแคร์น่ะฮะ จุนมยอนจะได้รู้ว่าพี่แคร์มาก  สิ้นคำคริสจุนมยอนแทบจะเอาหัวโขกโต๊ะตาย ถึงแม้จะรู้สึกว่าผิวหน้าจะร้อนผ่าวนิดๆกับประโยคเมื่อครู่แต่ความรู้สึกรับไม่ได้นั้นมีมากกว่า   ส่วนลู่ห่านที่นั่งอยู่ข้างๆคริสนี่กำไม้กำมือกลั้นหัวเราะจนหน้าดำหน้าแดง  จุนมยอนเห็นแล้วก็อยากจะเชือดให้ตายนัก

     

     ผมไม่ชอบของหวานฮะ  แม้จะรู้สึกแพ้เล็กๆกับประโยคของคนตัวสูงแต่คนตัวเล็กก็ยังไม่ยอมแพ้ดันถึงขนมกลับคืนไปให้  คริสยิ้มแล้วดันกลับก่อนจะพูดประโยคที่ทำเอาท้องไส้จุนมยอนปั่นป่วน

     

     ไม่หวานหรอกครับ  ถ้าเทียบกับหน้าจุนมยอนแล้วเอแคร์พี่นี่จืดสนิทเลยแหละ 

     

     

     

     

     

    น็อคดาวน์.......................

     

     

     

     

     

    To be continue

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×