ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [New][YaoiSF] รวม short fic+one short Exo

    ลำดับตอนที่ #9 : [SF]Spicy or Sweetie? (Kris+Suho) part IV :Kris 100%

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 57


    ตื้ดดดดดด ตื้ดดดดดดดดดด~

     

    เสียงออดที่แผดลั่นเรียกให้คนตัวเล็กที่กำลังชุลมุนกับการจับเจ้า "อีกัวน่า"

    เซนต์เบอร์นาดตัวใหญ่วัยฉกรรณ์ ต้องหยุดชะงักลง

     หมาหนุ่มตัวใหญ่ที่พยายามยื้อปลอกคอตัวเองไว้มองเจ้าของหน้าหวานอย่างเป็นต่อ 

     

    ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันน้อยๆอย่างใช้ความคิดแต่เสียงออดที่แผดซ้ำๆ 

    ทำให้ฝ่ามือสวยปล่อยออกจากปลอกคอเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักไปอย่างจำใจ

     

    จุนมยอนมองเจ้าตูบตัวยักษ์เดินสะบัดตูดหนีไปอย่างหงุดหงิด

    ก่อนจะหันไปมองทางประตูหน้าบ้านแล้วพึมพำออกมาเสียงเย็น

    ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญนะ........"

     

     

     

     

     

    …Spicy or Sweetie…

     

    ผมยืนฮัมเพลงอยู่หน้าประตูรั้วบ้านหลังใหญ่อย่างอารมณ์ดีพลางสอดส่ายสายตามองเข้าไปในบริเวณบ้าน

    ขยับตัวเข้าไปกดออดซ้ำอีกครั้ง  ทั้งๆที่เพิ่งกดไป  จงใจยั่วยุอารมณ์เจ้าของบ้าน

    คาดว่าอีกไม่ถึง 5 นาที จุนมยอนก็เดินมาหักหน้างอมาเปิดแล้วล่ะครับ

     

     

     

    วันนี้วันเสาร์ ทั้งๆที่ผมควรจะได้นอนตื่นสายๆให้สมกับที่เรียนหนักมาทั้งอาทิตย์

    แต่ผมกลับได้รับโทรศัพท์จากไอ้ลู่ห่านตั้งแต่หกโมงเช้า 

    โทรมาปลุกแล้วบอกให้ผมออกไปซื้อของที่จะสังสรรค์กันตอนเย็นไว้

    และแน่นอนว่าผมอิดออดกระเง้ากระงอดงอแงใส่มันว่าหัวเด็ดตีนขาดเล็บหลุดฟันคุดเน่า

    ยังไงก็จะไม่ยอมลุกจากเตียงก่อนสิบโมงเช้าแน่ๆ

     

    ไอ้ลูกพี่ลูกน้องเวรตะไลบั้งไฟแตกของผมมันก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

    มันคิดจะเอาที่อยู่บ้านจุนมยอนมาฟาดหัวผม  มันคงจะคิดว่าผมเป็นคนซื้อง่าย

    แค่เอาที่อยู่ของคนที่ตัวเองกำลังตามจีบมาแลกผมก็ยอมทำทุกอย่าง

    ไอ้น้องชั่ว...................

     

     

     

     

     

     

    เสือกรู้ใจกรู

     

     

     

     

     

    มันคิดถูกแล้วล่ะครับที่เอาที่อยู่จุนมยอนมาแลก  เพราะทันทีที่ผมได้ยินข้อเสนอมัน

    ผมก็ตกลงทันทีแบบไม่มีเงื่อนไข  แทบจะขี่รถออกไปซุปเปอร์ทั้งที่ยังไม่อาบน้ำด้วยซ้ำครับ

    แต่ติดที่ว่าผมแบกเกียรติยศ ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของคณะอยู่น่ะสิครับ

    จะให้เดือนวิศวะปีสามอย่างผมออกไปเดินอวดสายตาทั้งที่หน้ายังไม่ได้ล้างฟันไม่ได้แปรงก็ยังไงอยู่

    ผมเลยจัดการอาบน้ำอาบท่าล้างหน้าแปรงฟันเกาไข่ก่อน……..

    เออะ  อย่างหลังสุดนี่ไม่ได้ทำจริงนะครับแค่พูดไปให้มันคล้องจองกันเฉยๆ

     

    ผมยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลาไม่ทันที่จะได้มองหน้าปัด

    ประตูรั้วสีน้ำตาลเข้มถูกกระชากออกอย่างรุนแรงตามอารมณ์ของผู้เปิด

    ก่อนที่ร่างเล็กๆของเจ้าของบ้านจะตามออกมาและหยุดอยู่ครึ่งตัว

     

     

    จุนมยอนเม้มริมฝีปากทันทีที่เห็นหน้าผม  ใบหน้าหวานนั้นงอง้ำลงอย่างเห็นได้ชัด

    ดวงตากลมใสฉายแววดื้อรั้นขึ้นมาทันที ปลายจมูกเล็กๆนั้นเชิดขึ้นอย่างท้าทาย

    วันนี้คนตัวเล็กสวมเพียงเสื้อยืดสีกรมท่าตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นสีส้มเท่านั้น  

    ผิวขาวๆที่ปกติจะถูกปกปิดอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตนักศึกษากับกางเกงสแลคยาวสีดำ

    เลยโผล่ออกมาท้าแดดท้าลม รวมถึงท้าสายตาผมด้วย

     

     

     

    น่ารัก.........

     

     

     

     

    คำๆนี้เป็นคำเดียวที่ลอยวนไปเวียนมาในหัวผมขณะนี้  จนกระทั่งเสียงหวานที่เอ่ยๆขึ้นอย่างห้วนๆ

    กระชากให้ผมหลุดออกจากความคิดตัวเอง

     

    " มีอะไรครับ "น้องเขากอดอกแล้วมองหน้าผมนิ่งๆ  

    ผมยิ้มตอบเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไปอย่างทะเล้น

     

    หลงทางมาน่ะครับ เลยจะมาขอหลบฝนหน่อย "

     

    จุนมยอนที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาหนักๆแล้วพูดกับผมด้วยสีหน้าเพลียๆ

    " ขอเถอะครับ จะตอแหลอะไรก็เห็นใจแดดที่มันส่องเปรี้ยงอยู่กลางกบาลนี่หน่อยเหอะ "

    ผมหัวเราะรวนกับท่าทีของน้องเขาก่อนจะใช้นิ้วโป้งชี้ข้ามหัวไหล่ตัวเองไปที่รถสปอร์ตซีดานสีดำคันงามของบิดาผมที่จอดอยู่ด้านหลัง

     

    "ฮ่าๆ พี่แวะเอาเสบียงที่จะกินกันตอนเย็นมาลงก่อนน่ะ จุนมยอนชะโงกมองตามไป  ก่อนจะหันหลับมามองผมแล้วพยักหน้าอย่างรับรู้ แววตาที่เคยดื้อรั้นอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

     

     เยอะมั๊ยอ่ะ เดี๋ยวผมช่วยเอาลง  คนตัวเล็กถามก่อนจะก้าวออกจากประตูบ้านมาแบบเต็มตัว

     

     ก็เยอะอยู่ครับ แต่ถ้าช่วยกันสองคนสองรอบน่าจะเสร็จ “ ผมบอกก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำจุนมยอนไปแล้วเปิดกระโปรงหลัง จุนมยอนเห็นของที่ผมซื้อมามาก็อุทานออกมาเบาๆก่อนจะหันมามองหน้าผม

     

     นี่ซื้อมาถมที่หรอ เยอะขนาดเนี้ยอ่ะ! ใจคอพี่จะกินแทนน้ำเลยรึไงเนี่ย 

     ก็พี่เห็นคนเราเยอะอ่ะ  ไม่รู้ว่าพวกจุนมยอนกินกันเก่งมั๊ยแต่พี่กับไอ้เหี่ยวแล้วก็ไอ้ลู่น่ะก็คนละเกือบกลมแล้วนะ

     

    “ ผมไอ้แบคไอ้ชานแล้วน่ะไม่เท่าไหร่ ไอ้เลย์ คยองซูแล้วก็จงอินเยอะอยู่ แต่เยอะขนาดนี้คงกินไม่หมดกันหรอกฮะ  น้องเขาว่าก่อนจะดึงโซดาออกมาสามแพ็คแล้วทำท่าจะยก 

     

     ไม่หมดก็เก็บไว้ก็ได้นี่ ของพวกนี้มันไม่เสียอยู่แล้ว  ผมว่าก่อนจะดึงโซดาออกจากแขนน้องเขาหนึ่งแพ็ค

    คนตัวเล็กหันมามองหน้าผมอย่างขัดใจ

     

    เดี๋ยวพี่เอาไปเอง เราน่ะเอาไปแค่สองแพ็คก็พอ แค่นี้ก็เกือบร้อยกิโลแล้วมั้งน่ะ “ ผมว่ายิ้มๆ น้องเขามองหน้าผมงงๆ ก่อนจะถาม

     

     เกือบร้อยโลอะไรพี่ โซดาแพ็คนึงไม่ถึงห้าสิบกิโลสักหน่อย 

     

     อื้มโซดาสองแพ็คน่ะหนักไม่ถึงร้อยหรอกครับ  แต่ถ้ารวมกับน้ำหนักของพี่ที่นั่งอยู่ในจุนมยอนด้วยน่ะก็เกือบร้อยกิโลแล้วล่ะ  ผมก้มลงไปกระซิบที่ข้างๆหูคนตัวเล็กแล้วละใบหน้าออกมายิ้ม 

    จุนมยอนเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม ริมฝีปากแดงสดเม้มเข้าหากัน หูขาวๆขึ้นสีแดงจางๆ

     

     พี่แมร่ง.......” ว่าออกมาเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินหันหลังแบกแพ็คโซดานำหน้าไป   ผมอมยิ้มจนเมื่อยแก้มกับท่าทีหวั่นไหวน่ารักๆแบบนั้นของน้องเขาก่อนจะยกแพ็คโซดากับกล่องเหล้าตามน้องเขาไป

    จุนมยอนที่เดินนำหน้าผมมาจนถึงประตูรั้วๆ จู่ๆก็หยุดเดินกะทันหัน

    ทำเอาผมหยุดเท้าแทบไม่ทัน คนตัวเล็กหันมาเผชิญหน้ากับผม

     พี่............ น้องเขาเรียกผมเสียงนิ่งๆ สายตาออกจะกังวลเล็กๆ

     

     ครับ?” ผมเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม

     

     หมาบ้านผมอ่ะมันดุหน่อยนะ  ถ้ามันวิ่งมาเห่าน่ะปล่อยให้มันเห่าแล้วก็ดมไป

    อย่ายกแข้งยกขาสะบัดสะบิ้งใส่เดี๋ยวมันจะกัดเอา  แล้วก็เรียกชื่อมัน เดี๋ยวมันก็จะหยุดไปเอง

    เดี๋ยวผมจะคอยห้ามมันให้ด้วย แต่อย่าไปทำท่าตกอกตกใจใส่มันจะได้ใจ ไอ้นี่มันแสบนักล่ะ

    จุนมยอนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันไปด้วยขณะพูดถึงเจ้าตูบแสนรัก ผมได้แต่อมยิ้มตาม

     

     

     

    ผมเดินตามคนตัวเล็กเอาของเข้าไปเก็บในบ้านก็เรียบร้อยดีไม่มีอะไร

    จนกระทั่งขากลับออกมาจะมาขนของรอบสองนี่แหละครับ

    ผมแทบลืมตัวปล่อยแพ็คน้ำอัดลมกับขวดเหล้าลงพื้นแล้วกรี๊ดแตก

    เมื่อเจ้าอีกัวน่าที่จุนมยอนพูดถึงวิ่งหูตูบหน้าตั้ง มาเห่ากรรโชกประชิดติดขา

    แล้วเจ้าอีกัวน่านี่ไม่ใช่เซนต์เบอร์นาร์ดธรรมดาๆนะครับ

    อารมณ์แบบเซนต์เบอร์นาร์ดจีเอ็มโอ    คือแมร่งจะใหญ่ไปไหนครับ

     

     

    จุนมยอนที่ยืนอยู่ข้างผมรีบเดินเข้ามาขวางระหว่างผมกับหมาจีเอ็มโอ

    “ หยุดเลยกัวน่าพอนั่งลงเดี๋ยวนี้!!! “ คนหน้าหวานออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงขึง เจ้าหมายักษ์ยอมนั่งลงโดยดี

    แต่สายตายังคงมองเขม็งมาที่ผม  คนตัวเล็กทรุดตัวลงนั่งก่อนจะคว้ามือผมไปจับไว้แล้วดึงให้นั่งตาม

    ถ้าอยู่ในเวลาปกติผมคงดีใจกริบกริ้วไปแล้วที่น้องเขาจับมือผมแบบนี้ แต่อารมณ์ ณ จุดนี้ๆบอกเลยฟินไม่ออก

     

     

    ผมไม่ใช่คนกลัวหมานะ แต่ท่าทีที่เจ้าตัวยักษ์นี่แสดงออกมาทำเอาผมไม่กล้าหือกล้าอือด้วย

    คนตัวเล็กหันมามองหน้าผมก่อนจะอมยิ้มขำๆ แล้วกระชับฝ่ามือผมแน่นขึ้นเล็กน้อยก่อนจะยื่นไปให้เจ้าหมาจีเอ็มโอดม

    จมูกแฉะๆ ดมมือผมอย่างระแวดระวัง 

     “ อ่ะดมซะๆ นี่พี่คริส พี่ชายลู่ห่านไง “  จุนมยอนเหลือบมาสบตาผมก่อนจะดึงมือให้ใกล้เข้าไปอีก แล้วคุยกับเจ้าอีกัวน่า

    ในใจผมก็นึกอยากจะพูดกับเจ้าอีกัวน่าว่าผมนี่แหละแฟนในอนาคตเจ้าของแก  ญาติดีกันไว้นะ

    แต่เกรงว่าเจ้าของหมาจะสั่งให้เจ้ายักษ์ขนปุยตัวนี้มันงับผมนิ้วขาดครับ ไม่เอาดีกว่า

     

     ดีๆ ญาติดีกันไว้นะ ถึงพี่เขาจะหน้าไม่เป็นมิตรแต่ก็ไว้ใจได้อยู่  จุนมยอนว่าแล้วหันมามองหน้าผมยิ้มๆ

    ทำเอาผมเคลิ้มจนเกือบจะเขินแล้วล่ะครับ ถ้าไม่ติดว่าน้องเขาหันมายิ้มแล้วพูดประโยคหลังต่อ

     

     พันธ์ใกล้ๆกัน แต่ไม่รู้พี่เขาได้วัคซีนครบป่ะนะ 

     

     แหมะ พูดงี้เดี๋ยวพี่ก็งับให้ติดเชื้อเลยครับ  ผมว่าแล้วดึงมือข้างที่น้องเขาจับผมไว้ขึ้นมาแล้วงับลงไปเบาๆ

    คนตัวเล็กกว่าแหวเสียงดัง ก่อนจะพยายามดึงมือออกแต่ผมไม่ยอมปล่อย

     

    ใบหน้าหวานเบ้ลงเมื่อมองหลังมือตัวเองที่ผมเพิ่งจะอ้าปากแล้วละใบหน้าออกมา

    รอยน้ำลายผมติดอยู่เป็นรูปฟัน

     

    “ อี๋!!! พี่แมร่งโสโครกอ่ะ แหวะ  รับผิดชอบเลย  จุนมยอนว่าแล้วทำหน้าพะอืดพะอม

    ผมที่เห็นน้องเขาทำหน้าแบบนั้นก็ได้แต่หัวเราะขำ  ก่อนจะดึงมือน้องเขามาแล้วเช็ดเข้ากับเสื้อเชิ้ตตัวเอง

     

     โอ๋ๆ พี่ขอโทษๆ ฮ่าๆๆ 

     ไม่ต้องมาหัวเราะเลย พี่รู้ป่ะว่าในน้ำลายคน ซีซี มีแบคทีเรียอยู่ประมาณ 500 ล้านตัว

    แล้วแบคทีเรียพวกนี้นะ......อื้อ!!!  คนตัวเล็กตั้งท่าจะเปิดสกินแลคเชอร์วิชาจุลชีพใส่ไม่หยุดผมเลย

    จัดการใช้ไม้ตายที่เคยเห็นผ่านตามา!!!!!

     

     

     งัดนิ้วชี้ขึ้นก่อนจะป้ายลงไปบนลิ้นน้องเขางามๆหนึ่งที

    จัดว่าได้ผลดีทีเดียวครับ  จุนมยอนงับปากลงฉับก่อนจะพยายามถุยน้ำลายไล่ความเค็มออกจากปาก

     

     พี่ยอมแล้วครับๆ ผิดไปแล้ว ขนของเข้าบ้านกัน  แล้วก่อนที่น้องจะเขาจะทันตั้งตัว  ผมรีบยกมือขึ้นยอมแพ้

    ชวนน้องเขากลับเข้าเรื่องก่อนที่จะโดนสรรเสริญบรรพบุรุษ  คนตัวเล็กมองผมอย่างไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่แต่ก็ยอมหยุด

     

     

     

     

    ผมหย่อนก้นลงนั่งกับโซฟาในห้องนั่งเล่นหลังจากที่ชวนกับเจ้าของบ้านจัดของจนเสร็จ

    สายตาผมมองสำรวจไปรอบๆ บ้านจุนมยอนจัดว่าใหญ่พอสมควรครับ แต่ก็ไม่เว่อร์อลังการ

    ในบ้านตกแต่งแบบเรียบๆ ให้ความรู้สึกสบายๆ  แต่มีบางมุมของบ้านที่ตกแต่งแบบอาร์ทๆด้วยของดีไอวาย

    ที่ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าเป็นฝีมือลูกชายเจ้าของบ้านแน่นอน

     

     มองอะไรพี่ วางแผนขโมยของบ้านผมหรอ  เสียงหวานเอ่ยแซวขำๆ ก่อนที่มือเล็กจะยื่นแก้วน้ำผลไม้เย็นๆให้

    ผมรับมาจิบดับกระหายก่อนจะตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

     ของพี่ไม่อยากได้หรอกครับ  ที่อยากได้อ่ะหัวใจลูกชายเจ้าของบ้าน 

     

    ว่าและต้องโดน.......พี่ไม่เสี่ยวซักวันได้มั๊ยเนี่ย “ จุนมยอนถามสีหน้าจริงจัง

     

     พี่ไม่ได้เสี่ยวนะ พี่แค่ทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ 

     

     พอเลยๆ อยู่กับพี่นานๆละไมเกรนผมจะขึ้น 

     

     จะเป็นไมเกรนหรือว่าหวั่นไหว “ ผมแซวแล้วยิ้มหวานให้ แต่น้องเขาทำหน้าเฉยๆก่อนจะตอบกลับมา

     

     ไมเกรน 

     

     ไม่หวั่นไหวเลยอ่ะ? “ ผมว่าก่อนจะทำหน้าอ้อน แต่คนตัวเล็กก็ส่ายหน้าช้าๆตอบกลับมา

     

     หึ 

     

     สักนิดก็ไม่? “ ผมถามอีกครั้งแล้วมองค้อนน้องเขาแบบดัดจริต  จุนมยอนอมยิ้มแล้วตอบกลับมา

     

     ไม่ 

     นี่พี่งัดมุขมาใช้จนเกือบเกลี้ยงโกดังแล้วนะ หวั่นไหวให้หน่อยเห๊อ “ ผมพูดเหมือนกับว่ากำลังต่อสินค้าแถวชายแดน

    แต่น้องเขาก็แค่ยิ้มเล็กแล้วส่ายหน้า

     

     ใจร้ายจัง “ ผมว่าแล้วทำปากยื่นเหมือนเด็ก

     

     พอแล้ว ผมไปละ 

     

    จุนมยอนหัวเราะเสียงใสก่อนตั้งท่าจะเดินออกไป  ทำเอาผมร้องท้วงแทบไม่ทัน

     อ้าว ไปไหนอ่ะ 

     

    “ ไปหาทำงานครับ  สายโด่งแล้ว 

     

     งานไรอ่ะ ให้พี่ช่วยป่ะ 

     

     ผมว่าจะไปรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านหน่อยอ่ะ 

     

     หรอๆ งั้นรดน้ำต้นไม้เสร็จแล้วไปรดน้ำสังข์กับพี่ต่อได้มั๊ยอ่ะ 

     

     เปลี่ยนเป็นรดน้ำศพแทนจะไม่ปฏิเสธเลยครับ 

     

     ฮ่าๆๆ พี่หยอกเล่น เดี๋ยวพี่ไปช่วยรด “ ผมหัวเราะร่าเมื่อเห็นจุนมยอนตอบกลับมาแบบเหนื่อยหน่าย

    ก่อนจะสะอึกเพราะคำพูดน้องเขา

     

     ไม่ต้องกระแดะเลยพี่ แต่งตัวมาซะหยั่งกับจะไปหาเสียงเลือกตั้ง “ คนตัวเล็กว่าแล้วชี้นิ้วไปที่เสื้อเชิ้ตสีครีม

    กับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลที่คนตัวสูงใส่มา 

     

    และเมื่อเห็นว่าคนหน้าพยาธิเหมือนจะจุกกับคำพูดตัวเอง คนหน้าหวานเลยแก้ลำ

    พูดความจริงออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

     

     เดี๋ยวเสื้อเปื้อนหมด พี่รอผมอยู่นี่แหละ  ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว 

     

     อ่าครับ ผมตอบรับไป  ในใจแอบเซ็งตัวเอง รู้งี้น่าจะใส่เสื้อแถมลิโพกับกางเกงขาสั้นมาก็พอ

    เสือกห่วงหล่อไม่เข้าเรื่อง  เลยพลาดโอกาสจะได้ส่องน้องเวลาอยู่ในโลกส่วนตัวเลย

    อยากด่าตัวเองแมร่งสักพันครั้ง วุ้ย! ไอ้คริสไอ้หน้าหล่อ ไอ้หน้าหล่อเหี้ยๆ ไอ้โคตรของโคตรหล่อ

     

     พี่...... 

     

    และก่อนที่ผมจะได้ด่าตัวเองไปมากกว่านี้  คนหน้าหวานก็เอ่ยเรียกขึ้นมาด้วยเสียงเรียบๆ

    ทำเอาซะผมตกใจจนต้องเงยหน้าขึ้นมามองอย่างสงสัย  และเมื่อเห็นสีหน้าหม่นลงของคนตรงหน้ายิ่งทำให้ผมตกใจมากขึ้น

     

     

     ครับ? 

     

     ไม่โกรธผมใช่มั๊ย “ จุนมยอนถามด้วยเสียงอ้อมแอ้ม

     

     เฮ้ย พี่จะไปโกรธเราทำไมอ่ะ “ ผมถามกลับไปด้วยความตกใจปนสงสัย

     

     ก็ที่ผมว่าพี่เรื่องเสื้อผ้าพี่อ่ะ 

     

     ฮื่ออ  ผมครางออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าน้องเขาคิดมากเรื่องที่ว่าผมไปตะกี้

    ก่อนจะที่ผมจะขยับขึ้นไปยืนข้างหน้าน้องเขา  คิดมากก พี่ไม่อะไรหรอก ก็ถูกของเราแหละ 

    พี่แค่เสียดายเฉยๆว่าน่าจะใส่เสื้อยืดมาจะได้ไปช่วยได้  ขอบใจนะที่เป็นห่วงความรู้สึกพี่อ่ะ 

    ผมพูดแล้วยื่นมือไปลูบกลุ่มผมนุ่มของอีกฝ่าย 

     

    น้องเขาจะรู้มั๊ยเนี่ยว่าผมต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหนห้ามแขน

    ตัวเองไม่ให้ดึงน้องเขาเข้ามากอดแน่นๆ

    เล่นห่วงความรู้สึกกันแบบนี้  ผมดีใจจนรู้สึกเหมือนว่าเท้าจะลอยๆจากพื้นเลย

     

     

    น้องเขาปล่อยให้ผมยืนลูบหัวอยู่สักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดกับผม

    แล้วหลบสายตา ก่อนจะเดินออกไป  ทิ้งให้ผมยืนใจสั่นอยู่คนเดียวกับท่าทางเคอะเขินของน้องเขา

     ทีวีเปิดดูได้ตามสบายเลยนะพี่  ถ้าหิวก็ไปหาอะไรกินในครัวได้เลยนะ

    ผมปอกผลไม้แช่ไว้ในตู้เย็นอ่ะ  ผม...ผมไปรดน้ำต้นไม้ละ 

     

     

     

     

     

    ตายแน่ไอ้คริส มรึงตายแน่ๆ

     

     

     

     

     

     

    50%







    หลังจากที่ผมนอนกลิ้งเกลือกบนโซฟาไปสามร้อยหกสิบแปดท่า

    จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นวี่แววว่าคนน่ารักที่บอกผมว่าจะไปทำงานแป็บนึง จะกลับมา

    ผมเลยหยิบเอานาฬิกาพูม่าเรือนสีดำโก้เก๋ของเก๊จากประเทศบ้านเกิดเตี่ยขึ้นมาดูเวลา

     

    12:30

     

    เป็นชั่วโมงแล้ว ที่จุนมยอนหายไป น้องเขาคงไม่ได้ลื่นล้มหัวฟาดพื้นเพราะใจผมที่ละลายอยู่ใช่มั๊ยครับ

    ถุ้ยยยย! ทำเป็นเล่นไป ผมผุดลุกขึ้นจากโซฟาด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะสาวเท้าออกจากบ้านหลังโต

     

    หูแว่วเสียงงุ้งงิ้งๆ เหมือนใครกำลังทะเลาะกับอะไรอยู่ เร่งให้ผมสาวเท้าตามเสียงนั้นไปเร็วขึ้นจนเกือบจะวิ่ง

    ผมเดินลัดเลาะมาตามทางที่โรยหินแม่น้ำก้อนเล็กๆไว้ โดยมีต้นชาประดับกั้นทั้งสองข้างเหมือนกำแพงเตี้ยๆ

    สูงประมาณหัวเข่า 

     

    ยิ่งใกล้เสียงก็ยิ่งชัดขึ้น ทำให้ผมมั่นใจว่าเป็นเสียงของจุนมยอนแน่นอน

     

    หยุด!! บอกให้หยุดไง! เฮ้ย!!! อย่า!!! “ จุนมยอนตะโกนออกมาลั่นด้วยน้ำเสียงออกจากตื่นตระหนก

    หัวใจผมบีบตัวแน่นร่างของผมพุ่งออกไปโดยอัตโนมัติ

     

    จุนมยอน!!!!! ผมตะโกนออกไปสุดเสียง 

     

    ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะทำให้ลำคอผมตีบจนแทบจะหายใจไม่ออก.....

     

     

    จุนมยอนใช้ฝ่ามือเล็กๆกำปลอกคอเจ้าอีกัวน่าไว้แน่น 

    อีกมือถูกยกขึ้นมาเพื่อป้องใบหน้าไม่ให้ถูกน้ำที่เจ้ากัวน่ากำลังจะสะบัดใส่ 

    สายตาสองคู่ทั้งจากเจ้านายหน้าหวานและหมายักษ์หน้าปุยหันมามองผมที่ตะโกนจนฝ้าบ้านแทบถล่มแบบงงๆ

     

    อะไรของพี่อ่ะ ตะโกนทำไมไปรษณีย์มาส่งพัสดุหรอ  “ จุนมยอนถามผมงงๆ

     ผมที่ไม่รู้จะแก้เก้อยังไงได้แต่ผงกหัวไปตามน้ำแอ๊บเนียนบนกองหน้าที่แตกละเอียดยับ

     

    ก็เซ็นรับแล้วก็เอาของไปไว้ให้ผมที่รับแขกก็ได้ไม่เห็นต้องแตกตื่นเลย

    แล้วนี่พี่ไม่ได้วิ่งตามไปกัดล้อรถเขาใช่มั๊ย จุนมยอนว่าเรียบๆแล้วอาบน้ำให้เจ้าตูบต่อ

     

    จ้ะ ผมขานรับออกไปแบบที่สติยังไม่ค่อยเข้าร่างดี  ก่อนจะชะงัก เอ๊ะ! น้องเขาว่าผมเป็นกวางมูสป่ะครับ

     

     “ ดีละๆ งันกลับไปรอผมในบ้านแป็บ เดี๋ยวผมอาบน้ำไอ้ยักษ์นี่เสร็จแล้วผมตามเข้าไป คนหน้าหวานว่าพลางพยักเพยิดหน้าให้ผมกลับเข้าบ้านไป

     

    ไม่เอาอ่ะ  ให้พี่นั่งๆนอนๆ เฉยๆ ไม่สบายใจเลยเลยอ่ะ ผมส่ายหน้า

     

    ไม่ต้องคิดมากหรอกฮะ  และอีกอย่างพี่เป็นแขกผมเป็นเจ้าบ้านจะให้พี่มาทำงานบ้านงกๆได้ไง จุนมยอนว่าแล้วยิ้มบางๆ ทำเอาผมใจเต้นจนอดพูดกับน้องเขาไม่ได้ว่า

     

    พี่เป็นคนจีนนะ

     

    แล้วคนจีนอยากโดนตีนมั๊ยครับ

     

    ไม่จ้ะ ผมรีบงับปากลงเมื่อน้องเขาหันมาค้อนให้วงเบ่อเร้อ

     

     

     

    เอาน่ะพี่ไปรอในบ้านเหอะ เดี๋ยวผมก็เสร็จแล้ว แป็บเดียว จุนมยอนเอ่ยปัดขึ้นมาอีกครั้งอย่างอึดอัด

    หลังจากที่ผมเงียบไปแล้วยืนดูน้องเขาเอาน้ำจากสายยางราดให้เจ้ากัวน่านิ่งๆ

     

    เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วก็พูดงี้อ่ะ ผมว่า  จุนมยอนแกล้งทำหูทวนลมไม่ได้ยิน

    ผมเลยพูดต่อ ให้พี่ช่วยเหอะเตี่ยกับม๊าพี่สอนมาว่าอยู่บ้านท่าอย่านิ่งดูดาย เปิด wifi ให้ลูกท่านเล่นนะ นะ ให้พี่ช่วยเหอะ

    ผมว่าอย่างสำบัดสำนวน  จุนมยอนได้แต่หันมามองผมอย่างเอือมระอาก่อนจะหันกลับไปอาบน้ำให้เจ้ากัวน่าต่อ

    ปากขมุบขมิบเบาๆพอให้หูผมกระดิก  สำนวนมันมาจากพจนานุกรมเล่มไหนวะ

    มาจากพจนานุกุ ฉบับปรับปรุงพิเศษ สร้างโดยกุ ใช้โดยกุ กุรู้เรื่องอยู่คนเดียวครับ

    ครับ งั้นเชิญคุณพจนานุกูเข้าไปนั่งรอในบ้านเงียบๆด้วยครับ เดี๋ยวเสร็จแล้วตามไปครับคนน่ารักว่าก่อนจะละมือข้างนึงจากเจ้าตูบยักษ์ผายไปทางบ้านแล้วส่งสายตาบอกเป็นนัยว่า เข้าบ้านไปซะถ้ายังอยากจะหายใจอยู่

    และแน่นอนว่าผมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจแต่หาปฎิบัติตามไม่ ยืนปักหลักค้ำหัวน้องเขาอยู่งี้แหละครับ

    เวลาผ่านไปไม่นานจุนมยอนก็ละมือที่กำลังลูบน้ำให้ซึมเข้าสู่ขนปุยๆของเจ้ากัวน่า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผม

    คือถ้าไม่ได้ช่วยงานผมนี่จะไม่ยอมไปจริงๆใช่มั๊ย

    อ่าหะ

     

    ด้านน้องเขาตอกมาสั้นๆ สะบัดปลายเสียงขึ้นนิดๆให้กรีดลงมากลางใจคนฟังอย่างผม แต่ระดับคริสเดือนวิศวะสิ่งแวดล้อมแล้วชิวมากครับ แค่นี้จิ๊บจี๊บบบบบ

     

    เขาเรียกมั่นคงครับ ผมหยอดกลับไปแบบไม่รั้งรอ 

     

    พอเลยๆ จะช่วยก็นั่งดิ่ ยืนเป็นเสาไฟอยู่ได้ เดี๊ยะให้หมาเยี่ยวใส่ซะให้เข็ดปากน้องว่าครับ แต่หูแดงเถือก
    เปิดโอกาสให้ผมเห็นช่องแล้ว ผมก็ใส่ไม่ยั้งสิครับ

     

    ให้พี่เป็นเสาไฟฟ้า พี่ก็ยอมอ่ะถ้าได้เคียงข้างหลักกิโลอย่างมยอนอยู่บนไหล่ทางหลวง น้องเขามองหน้าผมอย่างระอา ผมยิ้มตอบก่อนที่น้ำจากปลายสายยางที่น้องเขาถืออยู่จะพุ่งเข้าหน้าผมด้วยวิถีโค้งแบบโปรเจ็คไทล์

     เป็นการสิ้นสุดบทเกี้ยวพาราสีผมโดยดุษฎีครับ

     

    ผมไม่กล้าหือกับจุนมยอนอีกเลยได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำตามที่น้องเขาบอกงกๆ

    ก็ไม่ได้กลัวอะไรหรอกนะครับ แค่ไม่อยากเป็นนิ่วจากการกินน้ำประปาจากสายยางเขียว  โถ่

     

     

    บ้านพี่ทำอะไรหรอ เสียงใสลอยมากระทบโสต

    ขณะที่ผมกำลังตั้งอกตั้งใจอยู่กับการลูบขนเจ้ากัวน่าที่เปื้อนฟองแชมพูให้ตั้งขึ้นเป็นทรงโมฮอก

    เลยมีเพียงเสียงทุ้มๆที่ครางรับจากลำคอเบาๆเท่านั้น

     

    หืม

     

    บ้านพี่อ่ะ ทำงานอะไร จุนมยอนถามซ้ำก่อนจะคว้าข้อมือของผมไว้

    แล้วบีบแชมพูอาบน้ำหมาให้เพิ่ม  ผมยิ้มรับก่อนจะหันไปฟอกขาปุยๆของเจ้ากัวน่า

     

    ทำฟาร์มครับ ฟาร์มวัวนม

     

    อ้าว แล้วทำไมพี่มาเรียนวิศวะสิ่งแวดล้อมอ่ะ ไม่สานต่องานที่บ้านหรอ คนตัวเล็กถามก่อนจะ

    ราดน้ำจากสายยางลงชะขนขาเจ้ากัวน่าให้เปียกขึ้นอีกนิด 

     

    ฟาร์มวัวพี่ไม่ค่อยถนัดน่ะ แต่ถ้าฟาร์มรักอ่ะว่าอย่าง ผมหันมาขยิบตาให้น้องเขาไปที

     

    สาระดิ่ ผมถามดีๆเนี่ย จมูกโด่งเชิดขึ้นอย่างเริ่มเคือง ริมฝีปากแดงๆเริ่มยื่นออกมาน้อยๆ
    ผมอมยิ้มกับภาพน่ารักๆนั้นก่อนจะตอบออกมาดีๆ

     

    ฮ่ะๆๆ ว่าไงดี.....พี่ชอบเรียนฟิสิกส์น่ะ มันดูเป็นจริงแล้วก็สัมผัสได้

    แล้วอีกอย่างจบไป พี่ก็กะว่าจะไปพัฒนาฟาร์มช่วยที่บ้านจากความรู้ที่เรียนๆมานี่แหละ

    เรื่องการบำบัดของเสียพัฒนาสิ่งแวดล้อมของฟาร์มอะไรประมาณนี้ 

    ให้ฟาร์มเรามีเอกลักษณ์ไปเลยเรื่องการจัดสรรทรัพยากร การกำจัดของเสียทำนองเนี้ย
    เอาให้เป็นที่ยอมรับจากสังคมแล้วก็เป็นที่ดูงานได้ก็เจ๋งเลย

     

    โอ้โห มีสาระเหมือนกันนะพี่อ่ะ

     

    ความรัก ความหวังดีก็มีครับ ให้ไปหมดแล้วด้วย ผมยิ้มน้อยๆพร้อมกับสบตาน้องเขา

     

    .......อะ  เอา  ผมเอาน้ำราดละนะ  ฟอกนานแล้ว เดี๋ยวมันหนาว จุนมยอนรีบเปลี่ยนเรื่อง  หันไปเปิดน้ำให้แรงขึ้นแล้ว

    เอาน้ำราดบริเวณหลังเจ้ากัวน่าเพื่อไล่ฟองออก   ผมเองได้แต่อมยิ้มแล้วไล้มือไปตามตัวเจ้ากัวน่าเพื่อช่วยไล่เอาฟองออก

     

     

     

    จังหวะที่จุนมยอนขยับย้ายขึ้นมาราดน้ำที่บริเวณใกล้ๆหัว  เจ้าตูบขนปุยก็แผงฤทธิ์

    สะบัดขนซะน้ำกระเด็นเซ็นซ่าน   ฟองสีขาวกระจุยกระจายไปทั่วติดหัวติดหูผมกับจุนมยอนไปหมด

    แถมไอ้ตัวตัวแสบยังอาศัยช่วงที่พวกผมตกใจโวยวายกันอยู่ใส่เกียร์หมาจะวิ่งหนีไป 

    แต่เจ้าของตัวเล็กไหวตัวทันพริบไอ้หมาเจ้าเล่ห์  กระโดดสุดตัวตะครุบตูดมันเอาไว้ได้

     

    ผมหัวเราะจนตัวโยนกับท่าโดดน้องเขา  ก่อนจะโดนว่าเสียงเขียว

     

    ไม่ช่วยแล้วยังจะหัวเราะอีก!! ตอนเด็กขาดโซเดียมหรอะฮะ!

     

    ฮ่าๆๆๆ

     

    ว่าแล้วยังไม่รู้สึกอีก โอยยยย เอาโซ่มาให้ผมหน่อยมันจะหลุดละเนี่ย ตอนนั้นเองผมถึงพยายามกลั้นหัวเราะ

    รีบไปหยิบเอาโซ่ที่วางอยู่ใกล้ๆมาให้น้องเขา

     

    คนตัวเล็กล่ามโซ่เจ้ากัวน่าไว้ทั้งๆท่านอน  ผมเลยลงไปนั่งยองๆแล้วช่วยฉุดน้องเขาให้ลุกขึ้นมานั่ง

     

    จุนมยอนยึดแขนผมไว้เพื่อช่วยทรงตัวใบหน้าหวานใสเปื้อนไปด้วยฟองแชมพู 

    แก้มขาวๆขึ้นสีลามไปถึงหูด้วยความเหนื่อย ผมนุ่มสีเข้มเปียกเปื้อนน้ำจนชี้โด่ชี้เด่ไปมา 

    ผิวขาวยิ่งดูขาวซีดมากขึ้นเมื่อถูกน้ำ  ดวงตากลมใสที่สะท้อนแววดื้อรั้นหัวแข็งให้เห็นอยู่ตลอด

    เงยขึ้นสบกับดวงตาผมอย่างไม่ตั้งใจ

     

     

    ผมยกฝ่ามือกว้างๆขึ้นลูบเอาฟองที่เปื้อนแก้มขาวออกช้าๆ

    ดวงตากลมใสที่สะท้อนว่าสั่นไหวดึงดูดให้ผมละสายตาไปไหนไม่ได้

    เหมือนเวลาเดินช้าลง  โลกทั้งใบแทบจะหยุดหมุน

    หูผมอื้อไปหมด  ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผมเลื่อนหน้ามาใกล้กับน้องเขาขนาดนี้

     

     

    ใกล้......จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ  

     

    ใกล้...... ใกล้เกินไป

     

    ยะ...อย่าฮะ เสียงหวานเอ่ยสั่นๆ จากริมฝีปากเล็กที่แทบจะแนบชิดอยู่กับริมฝีปากของผม

     ช่วยเรียกสติผมให้กลับเข้าร่างแต่กระนั้นผมก็ไม่ยอมละใบหน้าออกมา

     จุนมยอนทำท่าจะบ่ายหน้าหนี

     

    อย่า....ผมร้องห้ามเบาๆ  คนตัวเล็กหยุดก่อนจะเม้มริมฝีปากเข้าหากันช้าๆอย่างระมัดระวัง

    เพราะความห่างเพียงลมหายใจกั้น

     

    พี่ไม่ทำอะไรหรอกครับ  ไม่ทำมากไปกว่านี้แล้ว  อย่ากลัว อย่าหนีพี่เลยนะ ผมพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบ

    ก่อนจะขยับเข้าไปกดจมูกลงบนแก้มขาวใส  แล้วสูดเอากลิ่นหอมเข้าไปจนเต็มปอด

     

    ผมละปลายจมูกจากแก้มนุ่มออกมาสบตาคนตัวเล็กอีกครั้ง  ใบหน้าน่ารักที่เคยมีแววดื้อรั้น
    หยิ่งพยศผยองมาตอนนี้เหลือไว้เพียงแววตาที่ไหวระริก

     

    ผมยกฝ่ามือขึ้นลูบใบหน้านั้นอีกครั้ง 

    ความรู้สึกอยากจะบอกเล่าอะไรบางอย่างเอ่อขึ้นมาจนล้น

     

     “ จุนมยอนพี่......

     

    ตื้ดดดดดดดด 

     

    ไม่ทันที่ผมจะได้พูดสิ่งที่คิดไว้  เสียงออดหน้าบ้านก็แผดสนั่นขึ้นมาเสียก่อน

    ผมกลั้นใจแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงนั้น  แล้วเอ่ยปากต่อ

     

    คือพี่จะบอกว่า........

     

    ตื้ดดดดดดดดดดด ตื้ดดดดดดดดดดดดด ตื้ดดดดดดดดดด ตื้ดดดดดดดดดดดดดด

     

    “ …..ไอ้เชี่ยลู่ ผมเข่นเขี้ยวออกมา  เสียงกดออดรัวกวนตีนๆทำเอาผมแทบจะลืมไปเลยว่าจะพูดอะไรกับจุนมยอน 

    ความรู้สึกที่ล้นๆอกอยู่เมื่อกี้นี้ก็ปลิวหายไปกับสายลมแสงแดดแทบจะสิ้น

     

    คนตัวเล็กได้โอกาสผละออกจากอ้อมแขนผม  ก่อนจะเลิกคิ้วใส่แล้วหลบสายตาทันทีที่ผมมองตอบ

    บ้านพี่สอนกดออดกันงี้ใช่ป่ะ

     

    ผมได้แต่กรอกตาขึ้นไปมองฟ้า ในใจล่ำๆอยากจะบีบคอไอ้คนหน้าประตูให้ตายห่าไปข้าง 

     

    ตื้ดดดดดดดดดดดดดด ตื้ดดดดดดดดดดดดดดดดดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

    ผมพี่ว่าไปเปิดประตูให้มันหน่อยไป ก่อนน้องพี่มันจะทำปุ่มกดออดบ้านผมจมเข้าไปในเสา
    เดี๋ยวผมรบกับไอ้แสบนี่เสร็จแล้วเดี๋ยวผมตามออกไป จุนมยอนว่าแล้วพยักเพยิดไปทางหน้าบ้าน

    ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะผุดลุกขึ้นแล้วเดินไปหน้าบ้านพร้อมอารมณ์คุกรุ่น

     

    ประตูรั้วสีเข้มถูกกระชากออกอย่างแรง  พร้อมกับร่างเปียกปอนของผมก้าวออกมาเผชิญกับแขกผู้มาใหม่

     

    เชี่ยลู่กวนตีน!!!! ทันทีที่หัวทองๆเข้ามาอยู่ในลานสายตาผมก็ทักทายลูกพี่ลูกน้องด้วยถ้อยคำสุดจะเอ็นดู

    ดับพายุในใจที่กำลังโหมกระหน่ำ

    โอ้โห สวัสดีครับ เพิ่งรู้ว่าเขาทักทายกันแบบนี้ สงสัยต้องจดไว้เป็นความรู้ใหม่ต้อนรับ  AEC ซะและ

    ไอ้ลู่ว่าขำๆแล้วยิ้มยียวนเชิญชวนให้เอาตีนแนบหน้าอย่างไม่สะทกสะท้าน 

    ตอนแรกผมกะจะด่ากราดมันสักชุดสองชุด  แต่พอมองเห็นถนัดๆว่ามันกับไอ้พวกที่ยืนอยู่ข้างหลังใส่เสื้อผ้าอะไรกันมาแล้วทำเอาลิ้นไก่ผมเป็นอัมพาต

     

    ไอ้ลู่ยังคงความเป็นเจ้าแห่งการก่อวินาศกรรมทางแฟชั่นได้ไม่เปลี่ยนแปลง

    หัวทองๆของมันตัดกับเสื้อสีแดงสดสกรีนภาษาอังกฤษตัวเท่าลูกควายเผือกว่า ‘ Up to me ‘

    กางเกงสีผ้าอ่อนสั้นเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมรอยยับย่นที่ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าเก็บมาจากราวตากผ้าแล้วใส่ทันทีแน่ๆ

    รองเท้าสตั๊ดสีบานเย็นคู่เก่งที่มันมักจะใช้เตะบอลตอนเย็นเป็นประจำก็ถูกสวมมา

    แต่ดีว่าวันนี้พิเศษหน่อยมีก้อนโคลนที่แสดงถึงการผ่านสมรภูมิอันโชกโชนติดรองเท้าแมร่งมาด้วย

     

    ไอ้จงแดเพื่อนหน้าแก่ของผมก็แพ้กันวันนี้มาในผ้าเหลือง เอ้ย! เสื้อยืดสีเหลือง

    กางเกงขาสั้นสีม่วงเสมอเข่าเกือบจะเดฟกับรองเท้าแตะตราดาวเทียมสีส้ม 

    น้องเลย์ผู้อาร์ทติสวันนี้ก็ยังคงสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นขาดรุ่ยๆตัวเดิมกับเสื้อยืดสีเขียว
     และรองเท้าผ้าใบรุ่นพิเศษมีช่องให้นิ้วตีนสัมผัสกับอากาศได้อย่างแช่มชื่น

      จื่อเทาน้องเขยผมมาในเสื้อเชิ้ตลายดอกหลากสีกับกางเกงยีนส์ขาสั้น โดยมีเพื่อนหน้าอึนยืนใส่ยืดสีกากีอยู่ข้างๆ

     

    สามแยกปากหมาหรอวะ ครบเลย เขียว เหลือง แดง ดอก กากี

     

    เฮ้ยคริส มรึงเก่งว่ะ สมแล้วที่เป็นพี่น้องกับกุ เข้าใจคอนเซปการแต่งตัวของพวกกุด้วย
    แมร่งรักเมิงว่ะ ฮ่าๆๆๆ
    ไอ้ลู่ว่าแล้วโผเข้ามากอด ทำเอาผมยกเท้าขึ้นมากันแทบไม่ทัน

     

    ไม่ต้องมากอดเลยเชี่ย เดี๋ยวกุคัน

     

    หงุดหงิดๆ  ทำไมวะคริส กุมาขัดจังหวะอะไรมรึงรึป่าว ไอ้ลู่เลิกคิ้วขึ้นแล้วมองผมอย่างจับผิด
    ผมได้แต่ยักไหล่แล้วตอบกลับไปเสียงสูง

     

    ป๊าวว

     

    หรออออออ แล้วนี่จุนมิกุไปไหน ไม่เห็นออกมารับเพื่อนรักหน้าตาดีคนนี้เลย

     

    อาบน้ำให้กัวน่าอยู่ข้างในอ่ะ เดี๋ยวกุไปช่วยไอ้เหี่ยวยกของลงก่อนนะ

    แก่แล้วไม่เจียมเดี๋ยวแมร่งหลังยอกพอดี ผมว่าแล้วมองเลยไปที่เพื่อนซี้หน้าแก่ของผม

    ที่กำลังขะมักเขม่นอยู่กับการหิ้วถุงของกินออกจากกระโปรงท้ายรถมินิแวนสีขาวสะอาดตาของมัน

     

    เออๆ งั้นเดี๋ยวกุเข้าไปหาจุนมิมันก่อนนะ ฝากเอาของลงด้วย อย่าแอบแดกไก่สดล่ะมรึง

     

    พ่องดิ่

     

    พ่อกุก็อามรึงป่ะวะ ฮ่าๆๆๆ ผมง้างมือขึ้นจะโบกหัวทองๆของไอ้ลู่ให้คว่ำ

    แต่มันไวก้มหลบฝ่ามือผมก่อนจะวิ่งฉิวเข้าบ้านไป ผมมองตามหลังมันแล้วส่ายหัวเบาๆ



    มีหมอที่ไหนรับรักษาโรคกวนตีนมั๊ยครับ ผมจะพาน้องชายผมไปรักษา

    พี่เขยหวัดดีครับ จื่อเทายกมือขึ้นไหว้ผมทั้งๆที่มือถือถุงกับข้าว ทำเอาเล็บตีนไก่สดที่โผล่ออกมาจากถุงเฉี่ยวตาผมไปไม่กี่เซนต์

     

    อ่าหวัดดีเทา สบายดีมั๊ย ผมถามกลับก่อนจะคว้าถุงของน้องเค้ามาถือไว้

     

    ก็น่าจะดีกว่าพี่เยอะอ่ะ ฮ่าๆๆ ผมนึกว่าพี่รหัสผมจะฆ่าพี่หมกท่อไปแล้วซะอีก

     

    ฮ่าๆๆ ยังหรอกๆ พี่ยังไหว ว่าแต่น้องนี่ใครอ่ะ ผมว่าแล้วชี้นิ้วไปที่ไอ้เด็กหน้าอึน 
    น้องมันรีบวางของลงแล้วยกมือไหว้ผม

     

    หวัดดีครับ ผมเซฮุนเพื่อนไอ้เทามัน

     

    เซฮุน.....เซฮุน อ้อ เด็กไอ้ลู่ป่ะ ผมถามยิ้มๆ น้องมันอมยิ้มแล้วพึมพำเบาๆพอให้หูผมกระดิก
      ใครเด็กใครเดี๋ยวรู้เลยอะไรสักอย่าง

     

    เฮ้ยๆๆๆ สนใจกุบ้างกุกับน้องเลย์ยังอยู่ตรงนี้นะเว้ย  นิ้วมือกุสองคนจะหลุดแล้ว

    มาช่วยกันขนของบ้างเว้ยเฮ้ย

     

    แหม่ หลวงพี่ก็ใจร้อนไปได้ ผ้าเหลืองที่ห่มมาวันนี้ไม่ช่วยเยียวยาจิตใจเลยแหงะ

     

    ตลกใหญ่ละ เสื้อยืดเถอะสาด มาช่วยกุขนของเลยมรึง

    เออๆ รู้ละ ยิ่งโมโหหน้ายิ่งแก่นะเว้ย ถ้าหน้ามรึงแก่กว่านี้อีกนิดนี่ก็เป็นทวดกุได้ละนะเว้ย ผมรีบเข้าไปช่วยไอ้เพื่อนหน้าเหี่ยวขนของก่อนจะแซวและกระแซะไหล่มัน  ทำเอาหลวงพี่ของขึ้นง้างเท้าขึ้นหมายจะลูบตูด

     

    เชี่ยยยย เดี๋ยวกุเตะให้ไส้ออกมาพันลิ้นไก่เลยนิ “                                                                                                                   

     

    ฮ่าๆๆ กุหยอกเล่นๆ



    ผมถือของวิ่งหนีเข้าบ้านมา ก่อนที่จะหยุดแบบกะทันหันทำเอาไอ้แก่ที่วิ่งไล่กวดผมมาติดๆ
    เบรคไม่ทันชนหลังผมเข้าไปแบบเต็มๆ  

     

    เชี่ยมรึง! ดั้งกุหักแล้วมั้งเนี่ย ไอ้แก่มันว่าแต่อารมณ์นี้หูผมอื้อไปหมดแล้วกับภาพที่เห็นตรงหน้า


    คนตัวเล็กเขย่งปลายเท้าขึ้นใช้แขนเล็กๆเกี่ยวคอไอ้ลู่ไว้แน่นแล้วกระซิบกระซาบหัวร่อต่อกระซิกกันคิกๆคักๆ

    ผมยืนนิ่งเป็นรูปปั้นหินในยุคสำริด   ไม่ได้หึงไม่อะไรแต่ตากุร้อนเป็นไฟ   อิจฉาครับ
     กุเต๊าะมาตั้งนานเพิ่งได้หอมแก้ม   ไอ้เชี่ยลู่แมร่งมาไม่ถึงห้านาทีหน้านี่แทบจะทิ่มกันอยู่ละ

    เฮ้ยยย! เล่นเลสกันหรอมรึง

     

    ผมกับไอ้จงแด รวมทั้งจุนมยอนกับไอ้ลู่ถึงกับสะดุ้ง  เมื่อน้องเลย์ที่เดินตามเข้ามาตอนไหนไม่รู้
    ตะโกนถามเสียงดังก่อนหัวเราะร่า

     

    ตลกละไอ้เลย์ ตลกละ จุนมยอนหันมาว่าน้องเลย์ก่อนจะเหลือบมามองหน้าผมนิดนึงแล้วหลบสายตาแล้วเดินเข้าบ้าน

    เดี๋ยวไปเปลี่ยนเสื้อแป็บนะ


    เอ้าจริงๆนะเนี่ย ถ้าเล่นเลสกันแล้วไม่ชวนเค้า นี่โกรธอ่ะ ฮ่าๆๆๆ ไอ้น้องเลย์ยังย้ำคำเดิม ทำเอาไอ้ลู่ฮาครืน

    มรึงแมร่งก็จังไรละเลย์ ฮ่าๆๆ มาๆกุช่วยถือของ

    เออดีๆ กระดูกนิ้วมือกุลั่นสามรอบละเนี่ย  มรึงเอานี้ไป เดี๋ยวกุเอาที่เหลือนี่ไปไว้ในครัวก่อน น้องเลย์ยื่นถุงของให้ลูกพี่ลูกน้องผมครึ่งนึง แล้วเจ้าตัวก็รีบสลัดอีแตะถือถุงที่เหลือเข้าบ้านไปเร็วจี๋   ตามด้วยไอ้จงแด
    ไอ้ลู่เองก็กำลังจะเดินตามเข้าไปแต่ผมรีบคว้าคอเสื้อมันไว้ด้วยมือข้างที่ถือถุงไก่อย่างลืมตัว 


    แอร้กกกกกกกก  เล็บตีนยาวๆของไก่สดปักเข้าท้ายทอยขาวๆทำเอาไอ้ลู่ร้องลั่น 

    ผมรีบละมือออกมาแล้วขอโทษขอโพย

    เฮ้ยๆๆ ขอโทษๆๆ กุลืมตัวๆ

     

    แมร่งงง มรึงสาบานมาสิว่ามรึงไม่ได้ตั้งใจอ่ะ เชี่ยย เจ็บอ่ะ น้องผมมันลูบคอปรอยๆ ดูท่าคงจะเจ็บจริง

    ผมเอื้อมมือไปจับหัวไอ้ลู่หมุนกลับหลัง  ปรากฏว่าท้ายทอยมันมีรอยแดงเป็นจุดเล็กๆมีเลือดไหลซิบๆ

     

    กุพูดจริงๆเนี่ย ถ้ากุจะแกล้งมรึงนะ กุไม่จิ้มแค่นี้

     

    โห แรงกว่านี้ก็ทะลุคอกเลยมั๊ยไอ้พี่ชายยยย ไอ้ลู่หันมาพูดใส่หน้าผม

     

    ฮ่าๆๆ มรึงก็ว่าไปเรื่อย ว่าแต่เมื่อกี้มรึงคุยอะไรกับจุนมยอนวะ ผมหัวเราะก่อนจะลูบหัวไอ้ลู่ที่หน้างอคอหักเป็นปลาแม่กลองไปซะละ

     

    ก็ไม่มีอะไร จุนมยอนมันมาอ้อนกุว่ามันอยากเมาทำไมวะ หึงอ่ะเด้  

     กุแค่อิจฉาเหอะ อีกอย่างนะมรึงไม่กล้านอกใจไอ้น้องหน้าอึนนั่นหรอก 

     

    มรึงเจอเซฮุนแล้วหรอ ไอ้ลู่ถามผมอย่างเหวอๆ

     

    เออดิ่ ก็ออกไปช่วยถือของตะเกี้ย

     

    มันได้พูดอะไรกับมรึงมั๊ย ไอ้ลู่ถามผมอย่างลนๆ

     

    ก็ป่าวนิ ไมวะ

     

    ไม่มีอะไรหรอกกก เออ คืนนี้มรึงก็ระวังไว้นะคริส

     

    ทำไมวะ

     

    เดี๋ยวมรึงเห็นจุนมยอนเมามรึงก็รู้เองแหละ

     

    เฮ้ย กุรับได้ มรึงก็รู้ว่ากุชอบน้องเขามาตั้งแต่....

    เออน่า เดี๋ยวมรึงรู้เลย กุเข้าบ้านละนะ ไอ้ลู่ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะรีบเข้าบ้านไปเมื่อจื่อเทากับเซฮุนเดินเข้ามา
    ผมได้แต่ขมวดคิ้วอย่างสงสัย    ทำไมไอ้ลู่มันต้องเตือนผมจริงจังขนาดนั้นด้วย เฮ้ย ผมรับได้นะจริงๆ
    ผมไม่ได้ชอบน้องเขาแค่ผิวเผิน  ผมพร้อมจะยอมรับทุกอย่างที่เขาเป็น

     

     

    To Be Continue……….

                        

     

    มาต่อแล้วค่าาาา 
    พาร์ทพี่คริสพาร์ทนี้ยาวมว๊ากกกกกกก (แอบยาวแบบไม่มีสาระด้วย ฮ่าๆ)
    และคาดว่าถ้าแต่งแล้วมาลงทีเดียวคงจะอีกนาน เลยขอแบ่งพาร์ทพี่คริสเป็น
    4 กับ 4.1 นะคะ
    ยังไงต้องขอโทษด้วยนะคะที่หายไปนาน  แล้วก็มุขอาจจะฝืดๆไปบ้างนะคะ
    มรสุมทางการศึกษาถาโถมหนักเลยค่ะช่วงนี้  จริงๆมันหนักมาจะเป็นปีแล้ว   เศร้า
    TT

    แต่ยังไงก็ยืนยันคำเดิมนะคะว่าไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้แน่นอน แม่ยกคู่นี้น่ารักมากๆๆๆๆ จริงๆ
    เรารักทุกคนมากๆเลย แล้วก็ขอบคุณด้วยค่ะที่รอแล้วก็ชอบฟิคเรา

    เลิฟโคตรๆค่ะ ^^


    ป.ล. กระทู้เก่าโดนแบนไปแล้วนะคะ แต่ว่าเราย้ายฟิคมาลงนี่หมดแล้ว
    เอ็นซีอยู่ในเอกทีนะคะ ส่วนลิงค์เอกทีนก็อยู่ในไบโอทวิต
    ถ้าหาไม่เจอยังไงก็ถามได้นะคะ 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×