คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [SF]Spicy or Sweetie? (Kris+Suho) part III : Joonmyun
“ ฮิ้วววววว ไหนบอกไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วทำไมหนีบพี่เขามาไกลถึงคณะฉันเลยวะจุนมยอน “
เสียงแหบแหลมเอ่ยแซวทันทีที่เท้าผมแตะกับอาณาบริเวณของร้าน
ผมยิ้มก่อนจะตอบกลับไปนิ่งๆแล้วเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งติดระเบียงร้าน
ฝั่งตรงข้ามกับแบคฮยอนข้างๆลู่ห่าน “ ไม่ได้หนีบเว้ย เขาลากกีบตามฉันมาเอง “
“ โห แรง! หวัดดีครับพี่ อยู่ดีไม่ว่าดีกลายเป็นสัตว์กีบเลยเนาะ
ปากมันขนาดนี้พี่ยังทนได้ผมนี่โคตรอยากกราบพี่เลย ฮ่าๆ “แบคฮยอนมันว่ากับคนหน้าปรสิต
“ โอ้ยพี่ชิวๆครับ จะด่าจะว่ายังพี่ไม่ว่า ขอแค่อย่าบอกให้พี่หยุดรักก็พอ ฮ่าๆๆ
แล้วนี่ถือว่าพัฒนาสายพันธ์แล้วนะครับ ใหม่ๆนี่พี่ได้เป็นไอ้ตัวไม่มีขาที่น้องเขาส่องกล้องเจอนู่น “
พี่แกหันมาเล่นมุขตอบกลับไอ้แบคฮยอนอย่างอารมณ์ดี แบคฮยอนมันหัวเราะตบไม้ตบมือชอบใจใหญ่
“ ฮ่าๆๆ พี่นี่เสี่ยวสมคำล่ำลือจริงๆ นับถือๆครับ ฮ่าๆ “
พยาธิหัวทองยิ้มรับก่อนจะหันไปลากเก้าอี้มาจากโต๊ะข้างแล้วพยายามดันเข้ามาแทรกระหว่างผมกับระเบียง
“ ไม่เอาเก้าอี้มานั่งบนหัวผมเลยล่ะครับพี่ “ผมหันไปค้อนอีกฝ่ายตาเขียวก่อนจะกัดฟันเหน็บไป
“ ไม่เป็นไรครับ พี่ขอแค่นั่งในใจจุนมยอนก็พอแล้ว “ พี่เขาตอบกลับมาด้วยใบหน้าแช่มชื่น
ทำเอาผมหมดคำจะพูดได้แต่ขยับเก้าอี้ให้พี่เขาเอาเก้าอี้มานั่งข้างๆ
แต่คนทั้งโต๊ะถึงกับฮาครืน หัวเราะกันประหนึ่งว่าดูตุ๊กกี้ฟีทเจอริ่งกับมาดามมดก็ไม่ปาน
ยิ่งไอ้แบคฮยอนนี่หัวเราะถึงขั้นสำลักน้ำลายจนแฟนหูกางมันต้องเอื้อมมือที่ใหญ่ประหนึ่งใบลานมาตบหลังให้
“ ฮ่าๆๆ แค่กๆ ไม่ไหวละ พี่นี่สุดยอดจริงๆเลย ทำจุนมยอนมันยอมลงให้ได้นี่เชื่อเลย
ผมชื่อแบคฮยอนนะพี่ ส่วนไอ้แว่นหูกางๆนี่ชานยอลแฟนผมเอง พวกผมเรียนแพทย์ปีสองฮะ “
“ แกไม่สาธยายญาติโกโหติกาด้วยเลยล่ะว่าเป็นใครมาจากไหน อพยพมาประเทศนี้เมื่อปีอะไร
แล้วขอโทษที่ฉันยอมลงให้เพราะอ่อนใจเว้ย ไม่ใช่เพราะใจอ่อน“ ผมว่าให้ไอ้เพื่อนนศ.แพทย์ผู้แสนปราดเปรื่อง
แบคฮยอนมันยกมือขึ้นเป็นนัยๆว่ายอมและจะไม่ต่อปากต่อคำกับผมแล้ว
“ จ้าๆ ปากนี่ไม่จืดไม่จางเลยนะพ่อคุณ “
ผมยักไหล่อย่างไม่แคร์กับคำที่มันว่าก่อนจะถามต่อ
“ แล้วตกลงว่านี่โทรตามฉันมามีอะไร หรือแค่จะเรียกมาแซวเฉยๆจะได้กลับ “
“ แหมมมม ไอ้นี่ก็ใจร้อนจริง แม่ใช้ให้ไปซื้อข้าวเหนียวให้หลังเลิกเรียนแง๊ะ พอๆ อย่าเพิ่งด่า ฉันมีเรื่องจะคุยจริงๆ แต่รอคนมาครบก่อน “ ไอ้แบคฮยอนมันแซวยิ้มๆในตอนต้น ผมอ้าปากเตรียมจะพ่นพิษใส่แต่แบคฮยอนมันยกนิ้วชี้ขึ้นมาห้ามไว้ทัน
“ อ้าวหรอ แล้วเหลือใครอ่ะ “ ผมถามกลับเมื่อมองไปรอบๆโต๊ะ มีพี่คริส ผม ไอ้ลู่ห่าน แบคฮยอน ชานยอล
ไอ้พี่จงแดไม่อยู่ขอไปคุยโทรศัพท์กับแม่ทูนหัวยังไม่มา ว่าไปไอ้พี่จงแดมันยังไม่รู้จักกับพวกเพื่อนๆผมเลยนี่นา
ดีแล้วล่ะ เพราะถ้าไอ้พี่จงแดมันมารวมฟิวชั่นกับพวกไอ้ลู่ ไอ้แบค ไอ้เลย์นี่มีหวังผมโดนแซะจนพรุนแน่
“ก็เหลือไอ้เลย์กับน้องรหัสแกไอ้เทาอ่ะ โอ๊ะ! นู่นไงมาพอดี ตายห่ายากกันจริง
ว่าแต่มันเดินมากับใครวะหน้าเหี่ยวๆ หัวล้านๆเหมือนมักคทายกแถวบ้านเลย “ ผมได้ยินไอ้แบคฮยอนพูดแบบนั้น
แล้วหัวใจก็แทบร่วงไปอยู่ตาตุ่ม รีบหันไปดูแทบจะทันทีและสิ่งที่ผมเห็นก็ทำเอาผมแทบจะหวีดร้องออกมา
ไอ้พี่จงแดมันเดินกอดคอมากับไอ้เพื่อนเลวแล้วก็ไอ้น้องรหัสทรราชย์โผ้มมมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!
“ สวัสดีครับทุกคนจงแดเดอะสตาร์ครับ รักผม เชียร์ผม อย่าลืมกด I ส่งไปให้ you
เพื่อคนรักของคุณจะได้รู้ว่ายูน่ะมีไออยู่เคียงข้างเสมอนะครับ “ พี่จงแดมันว่าก่อนจะพ้อยท์ขาโค้งรอบโต๊ะ
เรียกเสียงวี้ดวิ้วผิวปากแซวได้เป็นอย่างดี
ตามติดมาด้วยไอ้เลย์เพื่อนรักที่วันนี้แต่งตัวได้อาร์ทติสเหมือนเคย
เสื้อนักศึกษาสวมทับด้วยเสื้อลายทางสีเหลืองม่วง กางเกงยีนซ์ซีดตัวเดียวตัวเดิมกับเมื่อสามสัปดาห์ก่อน
รองเท้าหูครีบช้างดาวสีฟ้าข้างแดงข้างกับเล็บเท้าดำๆไม่ได้แคะ สะพายกระบอกใส่แบบไว้ด้านซ้าย
กระเป๋ากีต้าร์โปร่งไว้ด้านขวา มันหมุนตัวสามรอบก่อนจะโค้งหัวแทบติดพื้นหนึ่งทีแล้วแนะนำตัว
“ ครับและผมเลย์เอเอฟนะครับ รักผม เชียร์ผม แอดเข้ามาเรียนถาปัตย์ด้วยกันนะครับ
แล้วผมจะทำให้รู้ว่ารักแท้ที่ออกแบบได้มันเป็นยังไง อั้ยย่ะ! “ มันว่าแล้วก็เขินกับคำพูดตัวเอง
ทำเอาทั้งโต๊ะอดโห่ปนหัวเราะไม่ได้
และคนสุดท้ายน้องรหัสผมเอง มันยิ้มน้อยๆ ยืดหลังตรงก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงและทำนอง
ประหนึ่งว่ามันเป็นผู้ลงสมัครประธานชั้นปีกำลังหาเสียงก็ไม่ปาน
“ ผมจื่อเทา ขยันเอา...........ใจใส่ ใสใส แบ๊วๆครับ “ จื่อเทาแกล้งพูดเว้นวรรคเรียกความเสียวจากทุกคนในโต๊ะ
ก่อนจะปิดด้วยคำนิยามที่สวนทางกับสิ่งที่มันพูดตอนแรกโดยสิ้นเชิง
คนทั้งโต๊ะหัวเราะชอบใจก่อนจะหันไปหาเก้าอี้มาให้อีกสามคนที่เพิ่งมาถึงนั่ง
ผมที่กำลังช็อคกับสายสัมพันธ์แบบสายฟ้าแลบของไอ้พี่จงแดกับเพื่อนรักและน้องรหัสทรราชย์
ได้แต่นั่งมองทั้งสามคนยิงมุขกันสนุกสนานก่อนจะยกมือขึ้นมานวดขมับ
ความรู้สึกเหมือนได้เห็นควายออกลูกเป็นไข่ อะไร ทำไม พวกเอ็งไปสนิทกันตอนไหน!!!
ทำไมตบมุขให้กันประหนึ่งว่าร่วมหอลงโลงกันมาแต่ชาติปางก่อน และก่อนที่ผมจะเวียนหัวตายไปซะก่อน
ไอ้ลู่ห่านที่นั่งข้างๆก็เอื้อมมือมาจับไหล่ก่อนจะถามไถ่สารทุกข์สุกดิบผมด้วยเสียงละมุน
“ เป็นอะไรไปวะจุนมยอนพี่ฉันมันทำแกท้องหรอ หน้าเครียดเชียว “ ผมกำลังจะอ้าปากด่าไอ้ลู่แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อไอ้เลย์มันลุกมาจากเก้าอี้แล้วมานั่งคุกเข่าข้างๆเก้าอี้ผมก่อนจะก้มลงกราบที่ตักผมงามๆหนึ่งที
ผมได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ไม่ทันได้ถามว่ามันอะไร ไอ้เพื่อนรักสุดอินดี้ก็เงยหน้าขึ้นมามองผม
ด้วยสายตาหวานซึ้งก่อนจะเอื้อนเอ่ยประโยคที่ทำเอาผมอยากจะตบมันให้คว่ำ
“ กราบสวัสดีครับเพื่อนรัก ไม่เจอกันแป็บเดียวมีผัวเป็นตัวเป็นซะแล้วนะครับ “
“ ยัวฟาเตอร์สิไอ้ห้อย แล้วนี่แกกับไอ้เทาไปรู้จักมักจี่กับไอ้พี่จงแดนี่ได้ยังไงห๊ะ!
ทำไมดูสนิทกันอย่างกับชาติที่แล้วเป็นเฮลิโคแบคเตอร์ไพโรไลแบคทีเรียกับกระเพาะอาหารห๊ะ
แล้ว...แอะ!! ถุยๆ “ ไม่ทันที่ผมจะด่าจบไอ้เลย์มันก็เอานิ้วมือมันป้ายลงมาบนลิ้นผมอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ
เวลาที่มันอยากให้ผมเงียบ แล้วผมก็เงียบจริงตามที่มันต้องการเพราะต้องถุยน้ำลาย
เอาความเค็มที่ปลายลิ้นออก ไอ้เลย์มันฉีกยิ้มหวานก่อนจะตบไหล่ผมปุๆ
“ เอาน่าๆ เพื่อนเลิฟ ไม่เอาๆ อย่ามองเพื่อนเลย์ด้วยสายตาแบบนั้นครับ
เพื่อนเลย์แค่กลัวจุนเมียนจังจะขาดไอโอดีนน้าเพื่อนเลย์เลยป้อน ไม่เอาๆ ไม่โวยวาย ไปๆ
หาน้ำ หาขนมกินกันดีกว่าไปๆ ป่ะๆ พี่คริสครับ เชิญพี่ด้วยครับ ไปครับไปดูในร้านกัน มีไรกินมั่ง “
ไม่ทันที่ผมจะได้อ้าปากสรรเสริญเยินยอไอ้เพื่อนเลวมันก็ดึงผมให้ลุกขึ้นด้วยขาหน้ามัน
พร้อมกับยื่นขาหน้าอีกข้างที่ยังว่างไปสะกิดไหล่ไอ้พี่คริสให้ลุกตามมาด้วย ผมขืนตัวน้อยๆแต่ก็พอจะรู้
ว่าสู้แรงไอ้เลย์ไม่ไหวเลยปล่อยให้มันลากเข้าร้านไปโดยมีไอ้พี่คริสเดินตามมาแบบยิ้มๆ ผมเลยหันไปค้อน
ให้หนึ่งทีก่อน จะหันมาหาเรื่องกับไอ้เพื่อนตัวดีที่วันๆจ้องแต่จะเอาผมใส่พานแล้วไปถวายพี่ชายไอ้ลู่มัน
“ แกชวนฉันมาคนเดียวก็ได้ แกจะไปชวนพี่ชายไอ้ลู่มาด้วยทำไมวะเลย์ “
“ ก็ถ้าฉันมากับแกแค่สองคนค่าน้ำค่าขนมก็หารสองช้ะ? “ ไอ้เลย์ถามกลับ ผมพยักหน้ารับ
“ ก็เออสิ “
“ แต่ถ้าฉันมากับแกแล้วก็พ่วงพี่คริสมาอีกคนแกว่าใครจ่าย “
“ก็ไอ้พี่พยาธิมั้ง “
“ เออ ก็แค่นั้นแหละ “ ไอ้เลย์มันว่าก่อนจะเดินนำผมเข้าร้านไป แหมรักกันดีจริงๆครับเพื่อนผม
ทันที่เข้ามาในร้านกลิ่นหอมอุ่นๆของกาแฟก็ลอยมาแตะจมูก บวกกับบรรยากาศ
การตกแต่งร้านด้วยเอิร์ธโทนกับสไตล์ร้านแบบคลาสสิค ทำเอาผมเผลอยิ้มออกมา
โดยไม่รู้เลยว่ามีคนบางคนเฝ้ามองอากัปกิริยาผมแล้วอมยิ้มตามอยู่
ผมสอดส่ายสายตาสำรวจภายในร้านด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างผ่อนคลาย
ก่อนที่ประสาทจะตึงเปรี้ยขึ้นมาอีกครั้งเพราะเสียงไอ้เพื่อนเลวที่แผดลั่นคับร้าน
“ แอร้ยยยยยย คยองซูน้องเลิฟ พี่เลย์มิสยูหลายจ้ะคนดี “ ไอ้เลย์มันถลาเข้าไปกอด
เด็กผู้ชายตัวเล็กท่าทางเรียบร้อยในชุดนักศึกษาที่กำลังหันหน้าหันหลังจัดขนมเค้กใส่จานอยู่
ก่อนจะโดนมือปริศนายื่นเลยออกมาจากเคาท์เตอร์ผลักหัวมันออกจากน้องชายตัวเล็กผู้น่าสงสาร
“น้อยๆหน่อยพี่ น้อยหน่อย “ เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมกับใบหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่าง ทำเอาไอ้เลย์เบะปาก
แต่ก็ยอมถอยห่างออกมาแต่โดยดี
“ น้อยๆอะไรจงอิน คยองซูมันน้องรหัสฉันนะเว้ย ฉันกอดด้วยความรักแบบพี่น้อง
ไม่ได้คิดอะไรซะหน่อย “ ไอ้เลย์มันเถียงกลับพร้อมกับทำหน้าบี้ปากเบี้ยวใส่
ใช่แล้วครับ เด็กผู้ชายที่ไอ้เลย์ถลาเข้าไปกอดตะกี้ก็คือคยองซู น้องรหัสไอ้เลย์มันนั่นแหละครับ
น้องเขาชื่อคยองซูน่ารักเรียบร้อย แต่ก็แอบฮาอยู่เหมือนกัน แล้วเด็กผู้ชายที่ยืนเถียงไอ้เลย์อยู่ฉอดๆ
นี่ก็จงอินครับวิศวะเครื่องกลปีหนึ่งแฟนน้องคยองซูเค้า แล้วก็เป็นเจ้าของร้านกาแฟที่พวกผมยืนอยู่นี่แหละครับ
“ ถ้าเป็นคนอื่นพูดผมจะเชื่ออยู่หรอก แต่ถ้าอะไรก็ตามที่ออกมาจากปากพี่
ผมถือว่าความน่าเชื่อถือแมร่งติดลบอ่ะ แล้วจะแดกอะไรมั๊ยครับ ถ้าแดกก็รีบๆสั่งมา
เวลาผมเป็นเงินเป็นทองครับ “ จงอินว่ากลับมาพร้อมใบหน้ายียวน คยองซูส่ายหัวนิดๆให้พี่รหัสกับแฟนตัวเอง
ก่อนจะหันมายิ้มกับก้มหัวให้ผมกับไอ้พี่คริสแล้วเดินเข้าไปเตรียมของในเคาท์เตอร์
“ เออๆ รู้แล้ว คยองซูพี่ขอกระทิงแดงปั่นใส่วิปครีมแก้วนึงนะจ้ะ “ประโยคแรกไอ้เลย์มันตะโกนใส่จงอินครับ ส่วนประโยคหลังก็หันไปบอกน้องรหัสมันด้วยน้ำเสียงหวานจ๋อย แต่เนื้อในประโยคแสนจะกวนตีน
“ มีแต่การ์มอกโซนแดกมั๊ยฮะ กวนตีนละพี่ จะกินอะไรเอาดีๆ “ จงอินมันว่า ไอ้เลย์หันมาทำหน้าฉุน
แล้วดุจงอิน
“ มรึงนี่ไม่รู้จักมารยาทเลยว่ะจงอิน กรูคุยกับน้องรหัสกรูนะเนี่ย “
“ คยองซูพี่เขาเอาเอสเพรสโซ่ปั่นกับเครปเค้กนะ เชิญครับ เดี๋ยวผมเอาไปให้ที่โต๊ะ “ จงอินทำเหมือนไม่ได้ยิน
ที่ไอ้เลย์พูดหันไปสั่งเมนูให้เสร็จสรรพตบท้ายด้วยการไล่ออกจากร้านแบบเนียนๆ
“ เออ กรูไปก็ได้ ชิส์ “ ไอ้เลย์มันสะบัดหน้าใส่จงอินก่อนจะหันมายิ้ม
แล้วพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับผมแล้วก็พี่คริส “ พี่คริสกับจุนเมียนจะกินอะไรก็ตามสบายนะครับ
จ่ายตังค์ให้ด้วย ไปรอที่โต๊ะก่อนนะครับ สวัสดีครับ “ ไอ้เลย์มันว่าก่อนจะไหว้ถอนสายบัวแล้วเดินตัวปลิวออกจากร้านไป
ทิ้งให้ผมยืนอึ้งอยู่สักพักก่อนจะหันไปหาไอ้คนตัวสูงที่อยุ่ข้างๆ
“ เออ พี่จะกินไรมั๊ย ไม่....ไม่ต้องจ่ายให้มันก็ได้นะ เดี๋ยวผมจ่ายเอง “ ผมถามอายๆ เพราะระเบิดที่ไอ้เลย์ทิ้งไว้
พี่คริสยิ้มก่อนจะเอื้อมมือมาโยกหัวผมเบาๆ
“ จุนมยอนสั่งเลย เดี๋ยวพี่เลี้ยง ยังไงพี่ก็เป็นพี่ ให้พี่เลี้ยงน่ะถูกแล้วครับ
อย่าคิดมากเลย ในหัวเราน่ะเก็บไว้คิดถึงพี่คนเดียวก็พอแล้ว “
“ ยังจะหยอด..... “ ผมพูดพร้อมกับจับมือใหญ่ที่ลูบหัวผมเล่นอยู่ออกทั้งที่ใจสั่น
ก่อนจะรีบเดินไปหาคยองซู แล้วสั่งเมนูที่คิดไว้ในหัว
“ คยองซูพี่เอาโกโก้ร้อนนะ แล้วก็สตอเบอร์รี่ช็อตเค้ก......สองที่ “
ผมพูดเสียงเบาเมื่อคนตัวสูงก้าวมายืนข้างๆ
น้องเขาอมยิ้มก่อนจะพูดกับผมอย่างอารมณ์ดี
“ฮะ สองที่นะฮะ “
ผมพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะตั้งท่าเดินออกจากร้านไป แต่พี่คริสเอื้อมมือมาจับแขนผมไว้ก่อน
ผมหันไปมองพี่เขางงๆ พี่เขาก็ยิ้มกว้างตอบกลับมา
“ ขอบใจนะ “
“ ฮะ? เรื่อง? “
“ ก็ที่สั่งขนมเผื่อพี่ไง “
“ อะ...อ๋อ อื้ม “ ผมก้มหน้าก้มตาตอบ เพราะรู้สึกผิวหน้ามันร้อนแปลกๆเวลาที่พี่เขา
มองตาแล้วยิ้มให้
ผมยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะสะดุ้งเพราะฝ่ามืออุ่นยื่นมาแตะที่แก้มเบาๆ
“ ไม่สบายรึเปล่าเนี่ย พูดน้อยไม่สมเป็นเราเลยนะ ฮ่าๆ “ เสียงทุ้มเอ่ยปนหัวเราะ
ผมหันไปค้อนให้คนตัวสูงกว่าวงใหญ่ก่อนจะรีบเดินออกจากร้านมานั่งรวมกันกับเพื่อนที่โต๊ะหน้าร้าน
ไอ้จื่อเทาน้องทรราชย์เอ่ยปากเปิดประเด็นทันทีที่ตูดผมสัมผัสกับเก้าอี้
“ ไปสั่งเค้กแต่งงานมาหรอครับพี่ นานจัง ฮ่าๆๆๆ “ ไอ้เทามันว่าแล้วหัวเราะเสียงดัง
ก่อนคนในโต๊ะหัวเราะตามไปด้วย
“ ป่าว พี่ไปสั่งเค้กงานศพให้น้องรหัสน่ะ เห็นว่าน่าจะตายวันนี้ เร็วๆนี้แหละ “
ผมหันไปยิ้มหวานให้มันก่อนจะพูดเสียงเย็น ทำเอาจื่อเทามันสะดุ้งก่อนจะบุ่ยปากใส่ผม
“ แรงตลอดอ่ะพี่อ่ะ ผมแค่หยอกเล่นเอง อ้าวพี่เขยมาแล้วหรอ นั่งครับๆ “
ไอ้เทามันสลดได้ไม่ถึงหนึ่งนาที พอไอ้พี่คริสมามันก็ร่าเริงขึ้นมาแทบจะทันที
คนตัวสูงยิ้มน้อยๆ ก่อนจะยกจานเค้กมาวางไว้ตรงหน้า ผมพยักหน้านิดๆแทนคำขอบคุณก่อนจะดึง
จานเค้กมาไว้หน้าตัวเองแล้วลอกแผ่นพลาสติกที่ติดอยู่กับเค้กออก
“ว่าแต่แกเรียกพวกฉันมารวมกันวันนี้มีอะไรวะแบคฮยอน “ ผมถามก่อนจะตักเค้กเข้าไปปาก
แบคฮยอน พยักหน้าถี่ๆ เหมือนกับเพิ่งนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้
“ คือว่าที่นัดมาวันเนี้ย ฉันว่าจะนัดกลุ่มเราอ่ะไปสังสรรค์กันนิดหน่อย
เพราะว่าฉันก็ใกล้จะสอบแล้ว เรียนก็เรียนหนักขึ้นทุกวัน ไอ้เลย์ ไอ้ลู่มันก็งานเยอะขึ้นทุกวันๆ
ไอ้เทาเดี๋ยวมันก็จะเรียนหนักขึ้นด้วยเหมือนกัน เดี๋ยวก็จะไม่ค่อยได้เจอกันแล้ว ก็เลยว่าไปกินไปเล่นกันหน่อย
น่าจะดีไง แกคิดว่าไงอ่ะ “
“ ก็ดีนะ ก็เดี๋ยวจะไม่ค่อยเจอกันแล้ว ไปสังสรรค์กันหน่อยก็ดีว่ะ “ ผมว่าก่อนจะตักเค้กเข้าปากไม่ได้สนใจมองหน้าไอ้แบคฮยอนกับคนอื่นสักเท่าไหร่
“ แล้วถ้าฉันจะชวนพี่จงแด คยองซู จงอินแล้วพี่คริสด้วยล่ะไปด้วยวะ แกจะว่ายังไง “ แบคฮยอนถาม
ผมเงยหน้าขึ้นมามองมันงงๆ
“ ก็ชวนไปดิ่วะ ทำไมแกต้องถามความเห็นฉันด้วยล่ะ “ ไอ้แบคฮยอนมองหน้าผมไม่พูดอะไร
แต่ยกมือขึ้นชี้ที่มุมปาก ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“ เค้กติดมุมปากน่ะ ไหนให้ให้พี่ดูหน่อย “ พี่คริสที่นั่งข้างผมพูดขึ้นมาเบาๆ
ผมเอียงหน้าให้ ก่อนที่นิ้วเรียวจะปาดเค้กออกจากมุมปากผมอย่างนุ่มนวล
“ อ๊ะ! “ ผมอ้าปากงับครีมที่ติดอยู่ที่ปลายนิ้วเรียวอย่างลืมตัว ก่อนจะละริมฝีปากตัวเอง
ออกมาเมื่อคนตัวสูงอุทาน ผมเงยหน้าขึ้นสบตาคนตัวสูงที่ตอนนี้แค่มองผ่านๆ
ก็พอจะรู้แล้วว่าหน้าพี่เค้าแดงแค่ไหน ลมหายใจผมติดขัดเมื่อเสียงคนในโต๊ะจู่ๆเงียบไป
และเมื่อผมหันมาก็พบว่าทุกคนในโต๊ะมองผมแล้วอมยิ้มเงียบๆไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ
“ เออ แกๆ คือๆ คือ.......... “ ผมรีบพยายามหาเรื่องพูดอะไรออกมา เพื่อแก้สถานการณ์แต่ก็กลาย
เป็นว่าผมพ่นอะไรออกมาไม่เป็นคำ ใบหน้าก็มีแต่จะร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ
ลู่ห่านที่นั่งอยู่ข้างๆผมเลยถือจังหวะพูดออกมาด้วยเสียงสั่นๆ เหมือนคนกลั้นขำ
ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินหนีออกไปเป็นคนแรก
“ งั้นวันเสาร์นี้เจอกันบ้านแกนะจุนมยอน ฉันไปก่อนนะ “
“ ห๊ะ!!! ว่าอะไรนะ เดี๋ยวดิ่เฮ้ย เดี๋ยว “ ผมถามออกมาอย่างงๆ แต่คนทั้งโต๊ะก็ไม่ว่าอะไร
ยิ้มปนหัวเราะแล้วพากันเดินหนีผมไป ทิ้งให้ผมอยู่กับระบบประมวลผลของตัวเอง
ผมหันหน้าไปหาไอ้คนตัวสุงที่นั่งอยู่ข้างๆผม พี่เขาเอื้อมมือมาตบบ่าผมเบาๆก่อนจะลุกหนีไปอีกคน
เดี๋ยวนะ........งง ทำไม!! อะไร!!! เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็ว เกิดขึ้นไว เรื่องหลายอย่างเกิดไล่ๆกัน
โลกมันหมุนเร็วขึ้นทุกวันมยอนตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอยยยยยย TT
To Be Continue……….
ความคิดเห็น