ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [New][YaoiSF] รวม short fic+one short Exo

    ลำดับตอนที่ #7 : [SF]Spicy or Sweetie? (Kris+Suho) part II :Kris

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 56


     

     คนมีความรักมักจะดูเด็กลงไปนิดนึง อรั้ยยย 

     

    ......................................

     

     คนมีความรักมักจะไม่ทำหน้าตาบึ้งตึง ฮิ้วววว 

     

    ..............................................

     

    “ คนมีความรักมักจะชอบทำแววตาหวานซึ้งงงงง ฮิ๊ฮิ๊ 

     

     ..............จงแดถ้ามรึงยังไม่หยุดร้องเพลงกับเอานิ้วจิ้มแก้มกรู  มรึงโดนกุจับนึ่งแน่  ไอ้เชี่ย แมร่งกวนตีน  ผมหันไปพูดทั้งที่นิ้วไอ้จงแดยังคงจิ้มจึ้กๆอยู่ที่ข้างแก้ม  ผมกับเพื่อนเพิ่งเลิกเรียนกันครับแล้วกำลังประชุมงานกลุ่มกันอยู่  แต่ไอ้จงแดแมร่งก็เสือกกวนตีนมาร้องเพลงแล้ววี้ดว้ายแซว   นี่ถ้าไม่เห็นแก่ว่าผมเคารพตีนกาบนใบหน้ามันละตบคว่ำไปแล้ว

     

     โหย ดุด้วยๆ กลัวแล้วจ้า ฮ่าๆๆๆๆ  มันว่าแล้วทำหน้าทำตาล้อเลียนจนผมรู้สึกว่าเส้นที่ขามันกระตุกขึ้นมาตะหงิดๆ   ถ้าได้ยกเท้าขึ้นมาลูบหน้าใครคนบางคนแถวนี้สักทีคงจะหาย

     

     กวนตีนละมรึง  มรึงรับผิดชอบส่วนที่ต้องพรีเซ็นต์ไปเลย ปากดีนัก  ไปๆวันนี้พอแค่นี้แหละ งานเสร็จแล้วก็เอามารวมกันแล้วค่อยคุยอีกรอบ กุไปละปวดเยี่ยวแมร่งตั้งแต่ตอนอาจารย์สอนละ  บายว่ะ “ ผมว่าก่อนจะโยนงานชีทงานใส่ไอ้จงแดแล้วเก็บดินสอปากกาเข้ากระเป๋า เพื่อนคนอื่นๆก็เออออทยอยกันเก็บข้าว  ส่วนผมเองก็เตรียมจะดิ่งไปห้องน้ำทันที  ตะกี้มัวแต่คุยงานลืมไปครับว่าปวดฉี่

     

     เฮ้ยคริสสสสส เฮ้ยยย  รอกุด้วย 

     

     อะไรของมรึงนักหนาเนี่ย กุจะไปเยี่ยวจะตามมาช่วยถือรึไง “ ผมหันไปด่าไอ้จงแดที่พยายามสับขาสั้นๆวิ่งตามผมมา  พอมันได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะก้ากออกมาก่อนจะทำหน้าทะเล้นพร้อมตะโกนกลับมา

     เออ กุช่วยป่ะล่ะ ฮ่าๆๆ 

     

     พ่องส์ เฮ้ยยยย!!!!  เหี้ย “ ผมที่เพิ่งหันไปด่าไอ้จงแดถึงกับต้องปล่อยสัตว์เลื้อยคลานตัวน้อยๆออกมาวิ่งเล่นเมื่อหันกลับมาแล้วเกือบจะชนเข้ากับสิ่งมีชีวิตนายหนึ่งเข้า  ไม่ใช่ใครครับน้องเทาเอง 

     

     ไม่ใช่เหี้ยครับพี่นี่คน  น้องเขาตอบกลับมานิ่งๆ ผมยิ้มแห้งๆก่อนจะทักน้องเขากลับ

     

    “ เออ สวัสดีจื่อเทา 

     

    “ กราบแทบเท้าครับพี่เขย 

     

     เอ่อคือ......  น้องมันพุ่งเข้ามาประชิดตัวผมแล้วยกมือไหว้ที่หัวไหล่ข้างๆหน้า  ผมกำลังจะอ้าปากบอกน้องแกไปว่าที่กราบเมื่อกี้นี่หน้าไม่ใช่ตีนแต่น้องแกแทรกขึ้นมาพร้อมกับยกมือขึ้นห้ามผมไว้

     

     ไม่ครับ พี่ไม่ต้องถามครับว่าผมมาวันนี้ผมมีอะไร  ผมแค่เอานี่มาให้ “ ว่าจบก็ยื่นกระดาษเอสี่ให้ผมแผ่นนึง 

     

    “ เอ่อ....   ผมกำลังจะถามว่าอะไร แต่น้องมันก็ขัดขึ้นมาอีก

     

     ไม่ครับพี่ไม่ต้องขอบคุณ เรื่องแค่นี้ผมไม่ถือเป็นบุญคุณ  ความจริงแล้วผมต้องก้มกราบพี่ด้วยซ้ำ ขอบคุณพี่มากนะครับที่จะมากำราบพี่รหัสผมให้ เอาให้อยู่นะครับพี่  ผมว่าสถานการณ์ตอนนี้พี่แกเกินจะกอบกู้ได้ละ ยังไงก็ฝากพี่ด้วยนะ  อนาคตของชาติอยู่ในกำมือพี่แล้ว สู้!!!! เพื่อชาติ ผมไปละ หวัดดีครับ “ พูดจบน้องแกยืนชูกำปั้นเงยหน้ามองฟ้าเท่ๆประมาณสามนาทีแล้วก็ก้มลงมาตบไหล่ผมสองสามทีแล้วเดินจากไป   ผมยืนมองตามหลังน้องเขาไปงงๆ  ไอ้จงแดที่ตามมาทีหลังมองตามหลังน้องเขาไปก่อนจะหันมามองหน้าผมแล้วดึงกระดาษแผ่นนั้นออกจากมือผม

     

     

     อะไรวะ  อ้าวตารางเรียนเด็กปีสองวิทย์จุลนี่มรึง ใครเอามาให้วะ 

     

     น้องรหัสจุนมยอนน่ะ เอาคืนมา  ผมว่าก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ากระดาษแผ่นนั้นไว้แล้วรีบพับใส่กระเป๋า

     

     หวงๆ กับเพื่อนกับฝูงก็หวง แล้วนี่ไม่ปวดฉี่แล้วไง๊ 

     

     เออว่ะกุลืม มรึงไม่เข้าใช่ป่ะ กุฝากกระเป๋าหน่อย  ผมว่าก่อนจะเหวี่ยงกระเป๋าใส่ไอ้จงแดแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที  เมื่อตะกี้สตั๊นกับน้องเทาอยู่ฮะ  ลืมไปเลยว่าจะมาเยี่ยว

     

     

     

     

     ฮู้วววว ค่อยโล่งหน่อย เฮ้ยมหาขอกระเป๋ากรูหน่อย “ ผมสะบัดน้ำล้างมือใส่ไอ้มหาก่อนจะยื่นไปขอกระเป๋า  จงแดมันมองผมเคืองๆก่อนจะเหวี่ยงกระเป๋ามากระแทกผมดังพลั่ก

     

     อ่ะกระเป๋า  แมร่งกลัวคนอื่นไม่รู้ไง๊ว่าเรียนหนัก  กระเป๋ามรึงนี่สิบกิโลได้มั้งเนี่ย 

     

     บ่นมากตีนกาบนใบหน้าเพิ่มนะมรึง  แค่นี้หน้ายังยับไม่พออีกหรอวะ  ผมว่ายิ้มๆก่อนจะเข้าไปกอดคอไอ้แก่ไว้  มันชกท้องผมคืนไม่เบานัก

     

     ฮ่าๆๆๆ  สัดอย่าล้อปม เดี๋ยวกรูเตะ ว่าแต่จะเอาไงวะ  มรึงจะไปไหนต่อ คณะวิทย์? 

     

     ก็น่าจะแหละ  แอบดูตารางเรียนแล้วจุนมยอนเพิ่งเลิกเรียนเดี๋ยวกรูว่าจะพาน้องเขาไปกินข้าวหน่อยแต่ไม่รู้ว่าจะเจอรึป่าวว่ะ  

     

     เออๆ ลองๆไปดูก่อน  เดี๋ยวกรูไปด้วยนะ 

     

     อ้าววันนี้ไม่รีบไปช่วยที่ร้านหรอ “ ผมถามขึ้นมา  บ้านไอ้จงแดมันเป็นร้านขายเครื่องดนตรีครับ  ปกติมันจะชอบแจ้นไปช่วยเฝ้าร้านเพราะถ้าขายได้มันก็ได้แตะเอียจากเตี่ยมันสิบเปอร์เซ็นต์  แล้วคิดดูนะครับเครื่องดนตรีชิ้นนึงราคาเท่าไหร่ สิบเปอร์เซ็นต์นี่ก็ไม่ใช้น้อยเลยนะครับ  ถ้าไปเฝ้าร้านทุกวันแล้วขายได้อย่างน้อยวันละชิ้นหรือสองวันชิ้นนี่มันมีตังค์เก็บไปเข้าคอร์สดึงหน้าได้ตลอดชีวิตเลยนะครับ

     

     ไม่เป็นไรหรอกพี่ชายกรูอยู่ให้มันขายไป  มรึงนินทาอะไรกรูอยู่ในใจรึป่าววะ กรูเหมือนจะสัมผัสได้  จงแดมันมุดแขนผมออกไปก่อนจะจัดผมที่มีปิดกระหม่อมมันอยู่แค่เล็กน้อย

     

    “ มรึงบ้าละๆ  ไปๆ  เดี๋ยวไปไม่ทันกรูจุนมยอนกลับก่อนละซวยเลย “ ผมว่าก่อนจะตบหัวไอ้จงแดเบาๆ  ไอ้แก่มันโวยวายก่อนจะวิ่งไล่เตะผม  ผมกับมันวิ่งเล่นแล้วหัวเราะไปตามทางเดินจนกระทั่งไอ้จงแดมันหันไปเห็นอะไรเข้าแล้วหยุดลงวิ่งแบบกระทันหัน

                   

     คริสๆๆๆ เดี๋ยวๆๆๆ  ไอ้จงแดว่าก่อนจะตะโกนเรียกผมลั่นแล้วกวักมือยิกๆ

     

     อะไรๆ “ ผมเดินเข้าไปหาแล้วหันไปเพ่งสายตามองตามมันไป  ก็เจอกลุ่มนศ.สัตวแพทย์ใส่เสื้อกาวน์ยาวขาวสะอาดตาประมาณ4-5คนยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่หน้าตึกคณะก็ร้องอ๋อออกมาเบาๆ

     

     มรึงรอกุแป็บดิ่ “ ไอ้จงแดว่าก่อนจะวิ่งตรงไปยังกลุ่มนศ.สัตวแพทย์กลุ่มนั้น  แล้วหยุดอยู่ห่างจากกลุ่มนั้นประมาณ10เมตร

     

     

     

     มินซอกกกกกกกกก!!!! “ เหยดดดดดดดดด อยู่ดีๆไอ้จงแดก็ตะโกนขึ้นมาลั่น  ทำเอานศ.กลุ่มนั้นรวมทั้งผมสะดุ้ง  มินซอกหันมามองจงแดอย่างตกใจ  ดวงตาเรียวเล็กพยายามเบิกโพลงให้โตที่สุดเท่าที่จะทำได้  ไอ้จงแดมันฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเริ่มร้องเพลง

     

     “ รักนะครับคนดีของผมจะวันไหนก็รักเพียงเธอออออออออ ซารางเฮโยครับดวงใจ แล้วมันก็จบด้วยการหมุนตัวทำมือเป็นรูปหัวใจแล้วโยนใส่มินซอก  กลุ่มเพื่อนที่ยืนอยู่กับมินซอกพากันเป่าปากแซวแล้วหัวเราะอย่างสนุกสนาน  คนโดนปาหัวใจใส่ก้มหน้าอายๆแล้วหันไปทุบเพื่อนที่ยืนอยู่รอบข้าง  ก่อนจะตะโกนใส่ไอ้จงแดอย่างเขินๆ

     

     บ้า!!!!! “

     

     ถึงเค้าจะบ้า  แต่เค้าก็บ้าแต่กับคนที่เค้ารักนะอ้วน “ อื้อหืออออออออ  มหามรึงกล้ามาก ไอ้จงแดตะโกนประโยคอมตะนิรันกาลกลับไป  ทำเอามินซอกที่เขินแทบจะบิดตัวเป็นเกลียวอยู่แล้ว  เขินเข้าไปใหญ่หันมาตะโกนใส่ไอ้จงแดแล้ววิ่งหนีเข้าไปในตึกคณะ

     

    “ บ้าๆๆๆ เค้าอายเพื่อนนะเหี่ยว  เค้าไม่คุยด้วยแล่ววววว 

     

     

    เพื่อนๆของมินซอกพากันตบมือเกลียวกราว   ไอ้จงแดหมุนตัวก่อนจะโค้งหัวเหมือนนักแสดงที่เพิ่งโชว์จบ  แล้วเดินกลับมาหาผมด้วยรอยยิ้มกว้างสว่างไสวเหมือนเปลวไฟเทียนพรรษา

     

     โห มรึงความหน้าด้านนี่ไม่แพ้ริ้วรอยบนใบหน้าเลยนะ 

     

     คนมันรักอ่ะทำไงได้ อรั้ยยยยย “ ไอ้จงแดว่าก่อนจะทำท่าเหมือนเขินคำพูดตัวเอง   ผมตบหัวมันเบาๆแล้วหัวเราะ  ไอ้คู่นี้ก็น่ารักดีครับ  ไอ้จงแดมันตามจีบตามแซวมินซอกมาตั้งแต่สมัยอยู่ปีหนึ่งละครับ  คนนึงก็แซวอีกคนก็เขิน  แซวกันไปกันมาจนอยู่ปีสามแล้วมันก็ยังไม่ยอมคบกันแต่คำพูดคำจาเริ่มสนิทกันอย่างกับคนอยู่กินฉันผัวเมียมาแล้ว แรกๆเรียกเค้าตัวเอง หลังๆมาอ้วนกับเหี่ยว เออก็น่ารักแปลกๆดี    วิธีจีบมันก็เข้าท่าครับไว้ผมเอาไปใช้กับจุนมยอนมั่งดีกว่า

     

     

                    ผมกับไอ้จงแดเดินคุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนถึงหน้าตึกคณะวิทย์  บรรดานศ.ที่เพิ่งเลิกเรียนต่างพากันทยอยเดินลงมาทำให้บริเวณใต้ตึกเต็มไปด้วยคน   ผมพยายามใช้ส่วนสูงที่พ่อแม่ให้มามากกว่าชาวบ้านชาวช่องเขาให้เป็นประโยชน์  สอดส่ายสายตามองหาคนตัวเล็กที่น่าจะกลืนไปกับผู้คน   แต่สายตาผมกลับมองเห็นจุนมยอนได้อย่างเด่นชัด  ร่างเล็กในชุดนักศึกษากับผิวขาวสว่าง  รอยยิ้มน้อยๆของคนตัวเล็กที่หันไปยิ้มให้เพื่อนร่วมเซคทำเอาหัวใจผมเต้นรัว   ผมยืนนิ่งทำตัวไม่ถูกปกติเห็นผมหยอดๆจุนมยอนไปใช่ว่าไม่เขินนะครับ  เขินครับแต่เก็บอาการ

     

     

                    ผมยืนนิ่งปล่อยให้จุนมยอนเดินผ่านหน้าไปได้สักพัก  จนกระทั่งไอ้จงแดที่อยู่ข้างๆสะกิดบอกถึงรู้ตัวแล้วตะโกนเรียกคนตัวเล็กไว้ก่อนที่เขาจะเดินไปไกลมากกว่านี้

     

     

     จุนมยอนครับบบบบบบบ!!!! “ น้องเขาหันมามองผมด้วยสีหน้าตกใจนิดๆ ก่อนใบหน้านั้นจะกลับคืนสภาพเดิมพร้อมพ่นคำสรรเสริญบรรพบุรุษให้ผมเต็มที่  ผมยิ้มแล้วโบกมือให้น้องเขาเมินหน้าหนีก่อนจะเดินต่อ  ผมเลยป้องปากตะโกนไป

     

     เดินไปไกลจากตัวพี่ไม่ว่า  แต่อย่าไปไหนไกลใจพี่นะครับ!!  ผมหลุดขำออกมาเบาๆเมื่อเห็นน้องเขาเดินสะดุด  จุนมยอนหันมามองหน้าผมด้วยสายตาเอือมระอาก่อนจะหันกลับไปแล้วเดินต่อ   แต่พอน้องเขาเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เบิกตาโพลงเหมือนเจออะไรเข้าก่อนจะวิ่งกลับมาหาผม

     

     

     เฮ้ย!/เฮ้ย! “ ผมกับคนตัวเล็กร้องออกมาพร้อมกัน   เมื่อจุนมยอนที่กำลังวิ่งตรงมาสะดุดขาตัวเอง สองแขนเล็กเอื้อมมาจับแขนผมไว้มั่นผมจับแขนเล็กๆนั่นตอบเป็นการช่วยพยุงก่อนใบหน้าหวานจะเซมากระแทกกับอกผมอย่างจัง

     

     เจ็บ.........  คนตัวเล็กในอ้อมแขนผมบ่นออกมา  ผมละมือข้างนึงออกมาแตะที่จมูกโด่งสวยที่เริ่มแดงของอีกฝ่าย จุนมยอนเงยหน้าขึ้นสบตาผมนิ่ง   

     

     เพี้ยง!! ไม่หัก ไม่ยุบ ไม่บวม ผมลูบปลายจมูกนั้นเบาๆก่อนจะเป่าลมลงไปแล้วยิ้มให้  จุนมยอนผละใบหน้าหนีพร้อมหลบสายตาก่อนจะขยับมายืนข้างๆแล้วกอดแขนผมไว้แน่น  ผมหันมามองหน้าน้องเขางงๆ แต่ไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องหันไปมองตามเสียงของบุคคลที่เพิ่งจะวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้า

     

     จุนมยอน อ้าว! เอ่อ......หวัดดีครับ “ เด็กหนุ่มผมสีออกจะแดงทักจุนมยอนด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะค่อยๆหุบยิ้มลงแล้วหันมามองผมพร้อมกับก้มหัวให้นิดๆเป็นเชิงทักทายเมื่อมองเห็นว่าจุนมยอนกอดแขนผมแน่น   ผมยิ้มกลับไปให้เด็กหนุ่มผมแดงแต่ไม่รู้ว่าผมยิ้มแบบไหนนะ  น้องเขาถึงดูจะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่  บรรยากาศรอบด้านเริ่มตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

     

     หวัดดีฮิมชานมีอะไรรึป่าว  จุนมยอนทักขึ้นมาทำลายความตรึงเครียดพร้อมกับแอบเขย่าแขนผมเล็กๆ  ผมเหล่มองน้องเขานิดนึงก่อนจะหันไปมองเด็กหนุ่มตรงหน้า

     

     เอ่อ....ทำไม จุนมยอนกับพี่เขา?  เด็กที่ชื่อฮิมชานถาม

     

     อ๋อ นี่พี่คริสแฟนเราน่ะ “ จุนมยอนโพล่งออกมา  ผมที่กำลังพิจารณาสังขารน้องฮิมชานตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่ได้ยินแล้วแทบจะสำลักน้ำลายด้วยความดีใจแบบช็อกๆ แต่แรงเล็บที่จิกลงบนแขนทำให้ผมต้องสงบปากสงบคำไว้

     

     แฟน?  ไม่เห็นจุนมยอนจะบอกเราเลยว่ามีแฟนอ่ะ  “ เด็กที่ชื่อฮิมชานทำหน้าตกใจ   

     

     เรากับพี่เขาเพิ่งคบกันน่ะ “ อือจริง  เพิ่งคบตะกี้สดๆเลยและคาดว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้กรูจะโดนบอกเลิกแล้วด้วยครับ

     

     จริงหรอ? “ ฮิมชานขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยเชื่อ ผมยกแขนขึ้นโอบไหล่จุนมยอนแล้วกำลังจะตอบไปเพราะเริ่มรำคาญแต่จงแดมันแหลมหน้าขึ้นมาแล้วตอบแทนผม

     

    “ จริงสิครับน้อง เพื่อนพี่น่ะเป็นแฟนกับเพื่อนน้องจริงๆ แล้วจุนมยอนก็ชอบไอ้คริสเพื่อนพี่ม๊ากมากด้วย  ถ้าไม่เชื่อนะเดี๋ยวให้น้องจุนมยอนแสดงความรักผ่านการกระทำ จุ๊บเหม่งไอ้คริสให้ดูก็ได้ น้องว่าไงครับ “ ผมได้ยินแบบนั้นแล้วก็อมยิ้มทันที  ผิดกับจุนมยอนที่จิกตามองจงแดซะตาแทบถลน

     

     ไม่ครับไม่ต้อง! “ ฮิมชานโพล่งออกมา ผมแอบเบะปากเล็กๆอย่างนึกเสียดาย 

     

     แล้วที่ว่าจุนมยอนจะไปหาแบคฮยอนกับชานยอลที่คณะล่ะ  ให้เราไปส่งมั๊ยวันนี้เราเอารถน้องทองเหลือง 

     

     เฮ้ยไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปกับพี่คริสได้  นายกลับบ้านเหอะได้ยินว่าวันนี้คุณป้าจะพาไปกินข้าวข้างนอกไม่ใช่หรอ 

     

     อ๋ออื้ม จุนมยอนไม่ไปจริงๆหรอ 

     

     เราไม่ว่างน่ะ ฮิมชานไปเหอะ เราไปละนะ  คราวนี้เป็นจุนมยอนที่ตัดบทบอกลาเด็กฮิมชานแล้วกอดแขนผมดึงออกไปจากบริเวณนั้นทันที  ไอ้จงแดหันไปยิ้มแล้วโบกมือบ๊ายบายให้เด็กฮิมชานอย่างกวนตีนก่อนจะวิ่งตามพวกผมมา

     ตลอดทางที่เดินออกมาจากหน้าตึกวิทย์  ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยจนกระทั่งจุนมยอนลากผมมาหยุดอยู่ที่รอรถเมล์  น้องเขาปล่อยแขนผมก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ ผมไม่ว่าอะไรเดินเข้าไปยืนเอาหลังพิงป้ายโฆษณาด้านหลังข้างๆน้องเขา  ไอ้จงแดเดินไปนั่งเก้าอี้ถัดไปสามตัว

     

     

    “ พี่จะไม่ถามอะไรผมเลยหรอ “ จุนมยอนถามแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาผม  ตากลมใสไม่มีแววจะแผลงฤทธิ์ใดๆใส่หลงเหลืออยู่เลย  ผมยิ้มอบอุ่นกลับไปให้ก่อนจะตอบ

     

     ไม่หรอกครับ คนเป็นแฟนกันต้องเชื่อใจกันไงครับ 

     

     อ๋อ ผมลืมบอก  เราเลิกกัน “ จุนมยอนตีหน้านิ่งแววรั้นสะท้อนขึ้นมาในตากลมสวยแทบจะทันที  ผมหัวเราะเบาๆ กะไว้แล้วครับว่าน้องเขาต้องมาไม้นี้   จุนมยอนเบะปากใส่สะบัดหน้าหนีผมก่อนจะนั่งเงียบไปสักพัก  แล้วหันมามองหน้าผมอีกครั้ง  ผมเลิกคิ้วขึ้นพร้อมรอยยิ้ม  น้องเขาหลบสายตาก่อนจะถามเสียงอ้อมแอ้ม

     

     แล้วตกลงว่าจะไม่ถามผมจริงๆหรอ  ผมลากพี่มาเอี่ยวด้วยแบบเนี้ย “ ผมระบายยิ้ม

     

     ไม่หรอกครับ  ก็ถ้าจุนมยอนอยากเล่า เดี๋ยวจุนมยอนก็เล่าให้พี่ฟังเองแหละ  แต่ถ้าจุนมยอนไม่อยากเล่าพี่ถามไปก็เท่านั้นแหละ  ผมบอกน้องเขาพร้อมรอยยิ้มเพราะผมคิดแบบนั้นจริงๆ  ผมตามจีบน้องเขาแบบนี้บางทีก็ดูเหมือนผมจะรุกเร็วและเร่งเร้า  แต่ความจริงแล้วเปล่าเลยผมก็หยอดน้องเขาไปเรื่อยๆ น้องเขาจะยังไงก็สุดแล้วแต่ใจน้องเขาครับ

     

     

    จุนมยอนหลบสายตาผมก่อนจะก้มหน้าบ่นอะไรพึมพำๆอยู่คนเดียว  ใบหูเล็กที่แดงเรื่อขึ้นมาทำให้ผมอมยิ้ม  แสงแดดสีส้มยามเย็นสาดสะท้อนกับใบหน้าขาวใสที่ขึ้นสีแดงจางกับลมเย็นๆที่พัดมา  ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบผมอีกฝ่ายแผ่วเบา  จุนมยอนสะดุ้งตัวน้อยๆก่อนจะหันมามองผม  หน้าน้องเขาทำให้ผมรู้สึกอยากพูดประโยคบางประโยคออกมา

     จุนมยอนพี่.......... 

     

     

     เฮ้ย!!! รถเมล์มาแล้ว  จอดๆๆ จอดครับ  ถ้าไม่จอดผมเต้นรถเมล์มอเรียกนะเออ  อยู่ๆไอ้จงแดก็ตะโกนขึ้นมาผมกับจุนมยอนสะดุ้งแล้วหันไปมอง  เมื่อเห็นว่ารถเมล์มาแล้วก็ไม่มีใครคิดจะพูดอะไรอีกครับขามันสั่งให้วิ่งไปขึ้นรถแบบด่วนๆตามประสบการณ์เก่า 

     

     

    และก็เป็นจริงตามประสบการณ์ครับ  ไม่รู้ว่านี่รถเมล์มอรึว่ารถขนต่างด้าวเข้าเมืองคนถึงได้เนืองแน่นขนาดนี้  จุนมยอนที่ขึ้นรถมาก่อนก้าวถอยหลังมาชนอกผมเพราะพื้นที่ด้านท้ายรถเหลือเท่ามดดิ้นตาย   พวกที่พึ่งขึ้นมาใหม่ก็พยายามจะยัดตัวเองเข้ามา  แรงที่มากระแทกหลังผมทำให้ผมเซไปชนจุนมยอนที่อยู่ด้านหน้า พอรถเริ่มออกตัวจุนมยอนก็เซถอยหลังมาชนอกผมอีกจนผมต้องยกแขนขึ้นโอบไหล่เล็กไว้เพื่อประคองให้คนตัวเล็กทรงตัวอยู่  ซึ่งผมก็กลัวอยู่เหมือนกันว่าจะโดนด่าแม่รึป่าวแต่น้องเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร  คงเป็นเพราะไม่ไหวจริงๆนั่นแหละครับ

     

     

     ร้อน 

     

     ห๊ะ?  เสียงเล็กเอ่ยออกมาเบาๆ ผมได้ยินไม่ค่อยถนัดเลยก้มหน้าลงไปฟัง  จุนมยอนส่ายหัวน้อยๆไม่ยอมพูดซ้ำ  แต่เท่าที่ผมสังเกตได้จากเม็ดเหงื่อที่เริ่มผุดออกมาตามไรผมคนตัวเล็กกับแก้มแดงๆและปากยื่นๆก็ทำให้ผมเดาได้ไม่ยากว่าเมื่อตะกี้น้องเขาว่าอะไร 

     

     

     ผมยืดตัวขึ้นเต็มความสูงก่อนจะค่อยๆขยับตัวแทรกๆ ดันๆ ตัวเองพร้อมกับโอบคนตัวเล็กให้เขยิบตามมา  จนกระทั่งชิดกับผนังรถผมก็ขยับตัวเบี่ยงให้เกิดช่องว่างเล็กๆระหว่างตัวผมกับผนังรถก่อนจะสะกิดไหล่เล็กแล้วพยักเพยิดให้  จุนมยอนสบตาผมแวบนึงก่อนจะมุดเข้ามายืนอยู่ในช่องว่างเล็กๆนั่น  ผมค้ำแขนลงกับผนังข้างนึง  ส่วนอีกข้างก็จับที่โหนด้านบนไว้  เลยดูเหมือนน้องเขาจะอยู่ในอ้อมแขนผมกลายๆ  จุนมยอนยืนก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงยขึ้นมา  อาจจะเป็นเพราะน้องเขาอยู่ใกล้กับตัวผมมาก  ผมเลยถือโอกาสมองเก็บรายละเอียดน้องเขาซะเลย ไม่โดนด่าดีด้วยเพราะน้องเขาไม่เห็น ฮ่าๆๆๆ

     

     ขอบคุณฮะ............ “ เสียงเล็กเอ่ยออกมาเบาๆแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ทำเอาก้อนเนื้อในอกผมเต้นรัว  ผมยิ้มกว้างอย่างห้ามตัวเองไม่ได้  ละมือข้างนึงจากราวโหนมายีหัวคนตัวเล็กๆก่อนจะหุบยิ้มลงแทบจะทันทีเมื่อคนตัวเล็กเอนหัวหลบแล้วเงยหน้าขึ้นมาว่าแล้วย่นจมูกใส่ก่อนจะแทรกตัวออกจากอ้อมแขนผมแล้วลงรถไปเพราะถึงหน้าคณะแพทย์พอดี

     

     

     

     

     ยิ้มอะไร รักแร้อ่ะหัดทาสารส้มมั่งเหอะ เหม็นเปรี้ยวแล้วเนี่ย  

     

     

     

     

    ผมยกแขนขึ้นดมรักแร้เพื่อพิสูจน์กลิ่น  กลิ่นโคโลญจน์ที่ทามาเมื่อเช้ายังคงติดทนอยู่ก็เบาใจ  ก่อนจมูกจะพ่นลมหายใจยาวเหยียดออกมา  ไอ้เหี่ยวที่ลงรถตามมาตบบ่าผมแรงๆสองสามทีแล้วยิ้มให้  ผมพยักหน้าแล้วยิ้มเป็นเชิงว่าไม่เป็นอะไรก่อนจะเดินตามคนตัวเล็กไป

     

     

     

     

     

    ผมเข้าใจนะครับว่าน้องเขาเขิน  แต่บางทีมันก็กระชากมู้ดกันเกินไปนะเออ  





    ___________________________________________________________________________________________________________

     


    มินซอก&จงแด 
    ใคร..อาจจะไม่เข้าใจว่าความสัมพันธ์ของเรา นั้นมันเป็นเช่นไร........
     

    คู่รักเหนือกฎเกณฑ์  ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆสำหรับคู่นี้ แค่รู้ว่าเหี่ยวอ้วนเรียลเป็นพอ
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×