ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [New][YaoiSF] รวม short fic+one short Exo

    ลำดับตอนที่ #5 : [SF]Spicy or Sweetie? (Kris+Suho) part I ;joonmyun

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 56


     

     พยาธิตัวตืดเป็นพยาธิตัวแบนในกลุ่มของ Cestoidea มีลักษณะแบนเป็นปล้องๆต่อกันยาวคล้ายเส้นมาม่าไวไวที่พวกแกนั่งโจ้กันอยู่ทุกคืนนั่นแหละ  พยาธิตัวตืดที่เป็นปรสิตในคนก็มีหลายชนิด ตืดหมู ตืดวัว ตืดปลา ตืดแคระ ตืดห่าตืดเหวอะไรก็แล้วแต่อันนี้พวกแกไปจำเอาเอง  จำไอ้ข้อมูลที่มันเด่นๆแล้วก็แตกต่างกัน  สูตรจำก็หากันเองสมองมีก็ใช้ๆคิดกันมั่งไม่ใช่เอาไว้กั้นหูซ้ายกับหูขวา………………..”

     

    แล้วขอโทษเถอะครับพี่จะนั่งโชว์เหงือกอีกนานมั๊ย!!!  ไม่ต้องยิ้มมากก็ได้เดี๋ยวจอบคู่พี่หล่นใส่ตีนผม  ผมที่กำลังนั่งติวให้น้องรหัสอยู่ถึงกับหมดความอดทนตบฝ่ามือลงไปบนโต๊ะม้าหินอ่อนดังเสียงแปะ   เพราะว่าไอ้ผู้ชายหัวทองที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม   ข้างๆน้องผมเอาแต่นั่งมองผมแล้วแยกเขี้ยวโชว์เหงือกสีแดงสดใสและไรฟันขาวสะอาดให้   คนในคณะมันตีลังกาดูรึไงถึงว่าหล่อเลยเลือกให้เป็นเดือนคณะ   

     

    คนหน้าคล้ายพยาธิแส้ม้าไม่เพียงแต่ไม่สะทกสะท้านซ้ำยังตอบกลับมาพร้อมฉีกยิ้มหวานปานน้ำเชื่อมลอดช่อง  ชนิดที่จุนมยอนเห็นแล้วอยากเอาสมุดแลคเชอร์น้องฟาดสักทีให้ฟันเข้าที่

     

     “ ก็ที่พี่ยิ้มนี่เพราะพี่แพ้ไงครับ 

     

     ห๊ะ? แพ้ แพ้อะไร “ ผมขมวดคิ้วทันที

     

     แพ้รักทบ........พบรักแท้ไงครับ 

     

    “………………………..”

     

     ฮิ้วววววววว “  ทันทีที่คริสพูดจบไอ้น้องรหัสตัวดีของผมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามก็ลุกขึ้นโบกมือไชโยโฮ่ฮิ้วทันที  จนผมต้องตวัดสายตาไปมองมันถึงค่อยๆนั่งลงแต่ยังยิ้มล้อๆผมอยู่ดี 

     พ่อแกเป็นจราจรแล้วเอานกหวีดให้กินเป็นอาหารเช้ารึไงจื่อเทา  แล้วแนวข้อสอบกับหนังสือนี่จะไม่เอาแล้วใช่มั๊ย   ฉันจะได้เอาไปให้กระจั๊วห้องไอ้ลู่มันแทะเล่นเป็นอาหารว่าง “ ผมว่าแล้วทำท่าจะโกยข้าวโกยของที่อยู่บนโต๊ะมาไว้ในอกลุกหนี   ไอ้น้องรหัสตัวดีแทบจะพุ่งตัวข้ามโต๊ะมาเกาะแขนผมไว้แล้วล้วงหนังสือทั้งหลายทั้งปวงออกจากอ้อมอกผมออกมาวางลงบนโต๊ะอย่างเดิม 

     

     โธ่พี่อ่ะ  ใจเย็นๆดิ่  น้องจื่อย้อเย่นนะ  ที่ฮิ้วตะกี้นี้มดกัดตูดเฉยๆ  มันว่าก่อนจะเอาหัวมาถูๆแขนอ้อนตะแง้วๆ อย่ามาๆ ตะกี้มันทำอะไรกับผมไว้ผมยังไม่ลืม 

     

     อ้าวววว มดกัดตูดหรอกหรอ ฉันก็นึกว่าแกเป็นฝีคัณฑสูตร!!!  ผมแก้เผ็ดด้วยการพูดประโยคท้ายออกไปดังๆ ทำเอาคนแถวนั้นหันมามองแล้วพากันซุบซิบว่าใครวะใครเป็นฝีคัณฑสูตร  ไอ้น้องรหัสผมมันถึงกับสะดุ้งแล้วรีบนั่งลงทันที

     

     หูยยยยยยย เล่นแรงว่ะพี่   จื่อเทาเบะปากแล้วบ่นให้  ผมยิ้มแล้วยักไหล่แต่พอเหลือบไปเห็นใครอีกคนนั่งยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆคลออยู่ด้วยก็รู้สึกคันคอขึ้นมาทันที  คนอะไรหน้าตายั่วให้ต่อมอยากด่าให้ทำงานได้ดีจริงๆ

     

     มานั่งหายใจทิ้งเล่นอยู่นี่  ที่คณะคงว่างมากสินะฮะ “  

     

     ครับว่าง.........แต่คงไม่เท่าใจพี่ที่รอจุนมยอนอยู่หรอก  อันนั้นทั้งว่างทั้งกว้างใส่จุนมยอนได้ทั้งตัวพอดีเลย “  พูดจบพี่ชายไอ้ลู่ก็ใช้มือรองเท้าคางแล้วมองหน้าผม

     

     .............................. เงียบครับ เป็นอีกครั้งที่ผมเงียบ  ผมพยายามจะอ้าปากขึ้นด่าอีกฝ่ายแต่ก็ต้องหุบปากลงเพราะนึกอะไรไม่ออก

     

     คิกคิก  เสียงหัวเราะต่ำๆดังลอดออกมาจากจื่อเทาไอ้น้องรหัสทรยศที่ตอนนี้ยกชีทขึ้นมาบังแล้วก้มหน้าลงแนบกับโต๊ะม้าหินอ่อนกลั้นหัวเราะจนตัวสั่นเหมือนไอ้ลู่วันนั้นไม่มีผิด   ผมละอยากจะตัดสายรหัสมันนี่ถ้าไม่ติดว่าต้องพึงพาอาศัยให้มันนู่นทำนี่ให้นี่ผมจะเนรเทศให้มันไปเป็นน้องรหัสไอ้รุ่นพี่เดือนวิศวะนี่ซะให้เข็ด  เข้ากันดีนัก ไอ้ลู่เพื่อนสนิทก็ขายผมไปคนนึงละไอ้น้องรหัสผมมันยังมาเนรคุณขายผมอีกคน    มันน่าฆ่าปาดคอแล้วเอาศพไปฝังหลังส้วมซึมตึกคณะซะจริง

     

    และในขณะที่ผมนั่งเป็นเป้านิ่งให้พี่ชายไอ้ลู่เต๊าะและกวนตีนทางสายตาแล้ว  ก็มีเสียงสวรรค์เสียงหนึ่งดังขึ้นช่วยชีวิตผมไว้

     

     จุนเมียนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!! “ เสียงนุ่มแผดเรียกชื่อผมลั่นทำเอาเด็กคณะวิทย์ที่อยู่แถวนั้นแตกฮือออกเป็นวง   ส่งผลให้เห็นชายหนุ่มรูปร่างเพียวในชุดนักศึกษาสวมทับด้วยเสื้อลายสก็อตสีเขียวแดง  ผมสีดำยาวละบ่า ใบหน้าละมุนละไมและรอยบุ๋มลึกน่ารักที่ข้างแก้ม  กางเกงยีนส์สีซีดขาดเข่ารูเท่าส้วมหลุมและรองเท้าสีเคยขาวเหยียบส้นจนยับเยิน  นิ้วก้อยน้อยๆน่ารักออกโผล่ออกมากระดิกจากรูข้างรองเท้ามือข้างซ้ายถือสมุดสเก็ตภาพ  ไหล่ข้างขวาสะพายกระบอกใส่แบบ  ไม่ใช่ใครอื่นไกลเลยเลย์เพื่อนรักผมเอง  บุคคลผู้สอบเข้าคณะสถาปัตย์ด้วยเหตุผลง่ายๆที่ว่าอยากจะเจอรักแท้ที่ออกแบบได้  เลย์เพื่อนรัก

     

     

    ผมยิ้มออกมาด้วยหัวใจลิงโล้ดพร้อมกับยกมือขึ้นโบกให้  ร่างเพียวยิ้มตอบก่อนจะกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาหาและทักทายผม………………………

     

     

     

     

     

     อ้าวเฮ้ย!! นี่มันพี่คริสเดือนวิศวะปีสามไม่ใช่หรอ เฮ้ยพี่หวัดดีๆ        

     

     

     

    ซะเมื่อไหร่..................

     

     

    ไอ้เลย์ที่วิ่งรี่ตรงเข้ามากำลังจะอ้าปากทักทายผมแต่พอพี่ชายไอ้ลู่ที่นั่งหันหลังให้มันอยู่หันไป  มันก็ชะงักและเปลี่ยนเป้าหมายเข้าไปนั่งเบียดตบไหล่ทักทายพี่ชายไอ้ลู่ทันทีปล่อยให้ผมยืนอึ้งอยู่คนเดียว

     

     อืมๆ หวัดดี น้องใช่คนที่เล่นบอลให้คณะถาปัตย์วันนั้นป่ะ เล่นเก่งใช้ได้เหมือนกันนะเรา“ ไอ้พี่คริสทักทายเพื่อนสนิทผมกลับแล้วเริ่มเปิดบทสนทนาที่ดูเหมือนพวกมันจะสนิทกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน

     

     เฮ้ยยยย ใช่พี่ใช่ พี่จำผมได้ด้วยอ่ะ โคตรดีใจเลย  ผมแมร่งโคตรปลื้มพี่อ่ะ พี่แมร่งเล่นบอลเก่งเหี้ยๆเลย วันนั้นนะลูกยิงพี่โคตรสวยเลยอ่ะ ผมนี่โคตรนับถืออ่ะ นี่ถ้าเป็นไปได้นะผมอยากจะเอาพวงมาลัยมากราบไหว้พี่สักสามทีอ่ะ “ ไอ้เลย์ว่าแล้วแทบจะถลาลงไปกราบแทบเท้าไอ้พี่คริส  ไอ้คนตัวสูงยิ้มหัวเราะชอบใจแล้วดึงเพื่อนผมขึ้นมา  ไอ้จื่อเทาคอยผสมโรงหัวเราะไปด้วย  เออดีพวกไปตั้งคณะตลกกันเลยไป

     

     ฮ่าๆๆๆ เวอร์ไปๆ   ไอ้พี่คริสยิ้มแล้วส่ายหัว ผมเบะปากใส่ไปทีก่อนจะพูดประชด

     

     ทำไมแกไม่ขอเล็บขบพี่เขาไปบูชาด้วยเลยล่ะเลย์  ผมจิกตาใส่ พี่ชายไอ้ลู่ที่อมยิ้มมองตาผมนิ่ง  ไอ้เลย์ปรบไม้ปรบมือชอบใจ

     

     เฮ้ยแมร่งความคิดดีว่ะจุนเมียน  พี่ๆผมขอเล็บขบหน่อยดิ่  ไอ้เลย์ยกนิ้วโป้งให้ผมแล้วหันไปขอเล็บขบจากไอ้พี่คริส   ผมอดไม่ได้เอื้อมตัวข้ามฝั่งไปดึงคอเสื้อมันให้นั่งดีๆแล้วหันมาหา

     

     เลย์กุประชดเลย์  ไอ้เลย์มันหัวเราะลั่นอย่างชอบใจ  ว่าแต่ไอ้เลย์กับไอ้เทานี่มันเพื่อนกับน้องผมไม่ใช่หรอ   ทำไมแมร่งไปนั่งฝั่งเดียวกับไอ้พี่คริสหมดแล้วทิ้งผมไว้ข้างนี้คนเดียววะ  แล้วประเด็นคือเหมือนช่วยกันรุมทึ้งผมวะ

     

     ฮ่าๆๆ ว่าแต่พี่คริสมาทำอะไรที่นี่อ่ะ  ไอ้เลย์เลิกหัวเราะแล้วเริ่มมองคนรอบข้างมากขึ้น  มันหันไปมองไอ้พี่คริสแต่ไอ้เสาไฟฟ้าหน้าแองกรี้เบิร์ดมันไม่ตอบเพียงแค่ยิ้มเฉยๆ  มันเลยหันมามองหน้าผมแล้วเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม  ผมกำลังจะอ้าปากตอบแต่ไอ้จื่อเทาน้องรักคนเดิมก็ยื่นหน้ามาทำหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์ส่วนตัวให้แบบไม่ได้ร้องขอ

     

     มาเป็นทูตคณะสานสัมพันธ์กับเด็กวิทย์จุลผู้เลื่องชื่อน่ะพี่ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ “ จื่อเทาว่าจบแล้วตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะทุ้มลึก  พลอยหัวเราะกันไปทั้งโต๊ะ   ผมกำลังจะอ้าปากด่าไอ้จื่อเทาไอ้เลย์เพื่อนรักก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

     โหยพี่ คนนี้ผมหวงนะเนี่ย..........  ผมอมยิ้มน้อยๆ เมื่อพี่ชายไอ้ลู่หน้าเสียหน่อยนึง  กำลังจะยิ้มสะใจแต่ไม่ทันที่มุมปากผมจะได้ขยับ  ผมก็ต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นแทน

     

     แต่ถ้าเป็นพี่นะผมยกให้ฟรีเลย  แถมข้าวสารให้สองกระสอบกับควายสองตัวด้วยเลยเอา ฮ่าๆๆ  ไอ้เลย์ว่าแล้วก็หัวเราะลั่นหันไปแท็กไม้แท็กมือกับไอ้เทา  ไอ้คนหัวทองที่นั่งคั่นกลางอยู่ก็หัวเราะตามเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนแก้วหน้าม้าเมากัญชาไม่มีผิด 

     

     ไอ้เชี่ยเลย์!!! หัวเราะขนาดนี้ดูดเนื้อกับเพื่อนที่คณะมารึไง  ไอ้สอง ห.!!!  “ ผมแว้ดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้  รู้สึกร้อนผ่าวนิดๆที่ใบหน้า  ทำไมใครๆก็หักหลังผมวะ  ไอ้พี่หน้าพยาธิแส้ม้านี่แมร่งมีดีตรงไหน ปกติใครมาจีบผมนะพวกมันกันซีนแทบเป็นแทบตายแต่พอเป็นไอ้พี่คริสนี่  พวกมันแทบจะจับผมใส่พานแล้วถวายให้

     

    “ บ้าหรอตะเองเค้าไปทำงานกับเพื่อนที่คณะมาไม่ได้ไปดูดเนื้อซะหน่อย  ว่าแต่ 2ห.ที่พูดถึงนี่อะไรจ้ะคนดี “ ไอ้เลย์ใช้นิ้วกรีดน้ำตาที่เล็ดออกมาจากหางตาออกแล้วถามผมขำๆ ผมยกยิ้มมุมปากแล้วบอกออกไป

     

     ห.แรกก็ห้อยไง  ผมแอบขำเมื่อเห็นคิ้วไอ้เลย์กระตุกเบาๆ  แต่ใบหน้ามันยังคงเปื้อนยิ้มแล้วถามผมต่อ

     

     แล้วห.ที่สองล่ะ 

     

     ก็เหี้...... เชี่ย!!! แหวะ!! ถุ้ย!!!  ไม่ทันที่ผมจะปล่อยสัตว์โลกน่ารักคลานออกมาจากปาก  นิ้วเรียวยาวของไอ้เลย์ก็ป้ายลงบนลิ้นผม  ทำเอาผมต้องหยุดพูดแล้วถุยน้ำลายทิ้งเพราะนิ้วมันทิ้งความเค็มไว้ที่ปลายลิ้นผม

     

     ไม่เอาๆ จุนเมียนพูดไม่เพราะเดี๋ยวเพื่อนไม่รักนะครับ “ ไอ้เลย์ว่าแล้วก็ยิ้มกว้างก่อนจะเช็ดนิ้วที่เปื้อนน้ำลายผมลงกับแขนเสื้อนักศึกษาของจื่อเทา   ไอ้จื่อเทาทำหน้าหยีน้อยๆก่อนจะบ่นเบาๆ แต่ผมได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ

     

     พี่อ่ะ เดี๋ยวผมติดเชื้อปากมอมของพี่จุนมยอนมาพอดี “ จบประโยคไอ้พี่คริสกับเลย์ก็หัวเราะลั่นผมเม้มปากก่อนจะลุกขึ้นเก็บข้าวเก็บของทันที   ไม่ทนแล้วแมร่ง!!!! 

     

     เฮ้ยเดี๋ยวๆ จะไปไหนอ่ะจุนเมียน  ไอ้เลย์หยุดหัวเราะแล้วรีบคว้าข้อมือผมไว้ทันทีที่ผมลุกจากโต๊ะ

     

     ไปห้องสมุด  พวกแกอยู่กับฉันมากเดี๋ยวจะพลอยติดเชื้อปากมอมของฉันไปด้วย 

     

     เฮ้ยพี่อย่างอนดิ่ ผมล้อเล่นเฉยๆ  ไอ้เทาพูดเสียงอ่อย  ผมเหลือบไปเห็นมันทำหน้าสลดแล้วก็พอใจนิดๆ แต่พอมองเลยไปเห็นพี่ชายลู่นั่งอมยิ้มมองผมด้วยสายตามองเด็กแล้วอาการคันคออยากด่าก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาอีก  แต่ผมจะไม่ยอมพลาดอีกแล้ว ด่าไปเดี๋ยวได้โดนสวนมาด้วยมุขชวนวิงเวียนอีกพอดี  สะบัดหน้าใส่แล้วเดินหนีแมร่งดีกว่า

     

     ฉันไม่ได้งอน  แล้วก็ถ้าไม่มีใครตายหรือเป็นอะไร ไม่ต้องโทรมาแล้วก็ไม่ต้องไปตามด้วยเข้าใจมั๊ย  ผมว่าก่อนจะเดินออกมาทำทีเหมือนว่าโกรธมาก ความจริงก็โกรธแหละแต่ไม่มาก  แค่อยากให้แมร่งตามมาง้อเฉยๆ

                    ผมก้าวขาฉับๆมุ่งหน้าจะไปห้องสมุด  หลังจากที่เดินออกมาจากโต๊ะยังไม่ทันจะถึงหน้าคณะดี ก็มีเสียงตะโกนเรียกมาจากข้างหลัง

     

     จุนเมียนๆๆๆๆๆ เดี๋ยวๆรอก่อน  ผมแอบอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเก็กขรึมแล้วหันหน้ากลับไปหา ไอ้เลย์วิ่งมากับจื่อเทาด้วยท่าทีตื่น ก่อนจะมาหยุดยืนหอบอยู่เบื้องหน้าผมแต่ไม่ยักกะเห็นพี่ชายไอ้ลู่ตามมาด้วยแต่ช่างหัวพยาธิแส้ม้ามัน   แค่สุดท้ายไอ้เลย์กับไอ้เทาตามมาง้อก็พอแล้ว

     

     มีอะไร ใครตาย? รู้ใช่มั๊ยว่าถ้าไม่มีใครตาย ใครบางคนแถวนี้อาจจะได้ตายแทน  ผมพูดเสียงเข้ม  ไอ้จื่อเทาที่ก้มหน้าเอามือเท้าเข่าหายใจหอบอยู่รีบเงยขึ้นมาแล้วบอกเสียงร้อนรน

     

     มีฮะพี่ มีคนตายแน่ๆอ่ะถ้าพี่ไม่ได้ เด็กคณะเราแมร่งตีกันอ่ะ 

     

     เอ๊าาาาาา!!! “ ผมร้องออกมา ไอ้กุก็นึกว่ามาง้อ

     

     ไม่องไม่เอ๊าแล้วจุนเมียน รีบไปเหอะ  ก่อนที่มันจะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตเหอะ  ไอ้เลย์เร่งเร้า ผมเลยนึกขึ้นมาได้ว่าไม่ใช่เวลามางอนนี่หว่า

     

     แล้วมันตีกันอยู่ตรงไหนวะ 

     

     ทางเชื่อมตึกอ่ะพี่ “  จื่อเทาตอบผมพยักหน้าน้อยๆรับรู้

     

     เออๆ ไปเหอะว่ะ  ผมว่าแล้วออกวิ่งไปยังทางเชื่อมตึก  เมื่อไปถึงภาพที่ผมเห็นคือนักศึกษาเกือบยี่สิบคนยืนล้อมเป็นวงกลมอยู่  เมื่อพยายามมองฝ่าเข้าไปกลางวงเห็นนักศึกษาชายสองคนกำลังดึงและผลักกันนัวเนีย ป้ายที่ห้อยคออยู่บอกได้เป็นอย่างดีว่าเป็นพวกปีหนึ่ง  ผมถอดกระเป๋าที่สะพายอยู่โยนไปให้เทาที่วิ่งตามมาหยุดอยู่ข้างๆก่อนจะเดินฝ่าวงล้อมเข้าไป

     

     

    เพี้ยะ!!!    เพี้ยะ!!!

     

     

    ผมพุ่งตัวเข้าไปยังรุ่นน้องคณะทั้งสองคนที่กำลังกำคอเสื้อกันและกันไว้แล้วผลัดกันแลกหมัดนัวเนีย  ก่อนจะง้างมือตบลงไปแรงๆบนหัวทุยๆของไอ้เด็กปีหนึ่งทั้งสองคน  หนึ่งในนั้นคาดว่ายังโกรธจนหน้ามืดตาลายอยู่ปล่อยมือออกจากปกคอเสื้อเพื่อนแล้วเหวี่ยงหมัดใส่   แต่ผมโยกตัวหลบทันก่อนจะสวนกลับไปด้วยหมัดขวาเต็มแรงจนรุ่นน้องคนนั้นหงายหลังแล้วดึงเอาเพื่อนที่ตัวเองกำลังชกอยู่ด้วยหงายหลังล้มลงไปด้วย

     

     

    “ ทำอะไรกัน!!!! “ ผมตะโกนถามเสียงดังลั่น  จนได้ยินเสียงตัวเองก้องสะท้อนกับผนังตึก  กว่ายี่สิบชีวิตที่ยืนอยู่ ณ บริเวณนั้นเงียบสนิท  รุ่นน้องสองคนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม 

     

     ฉันถามว่าพวกนายทำอะไรกัน!!! ทำไมไม่ตอบเป็นใบ้กันรึไงหรือว่าไม่เข้าใจภาษามนุษย์ จะเอาล่ามมั๊ยเดี๋ยวหาให้  ผมถามซ้ำด้วยน้ำเสียงดุดัน  น้องสองคนสะดุ้งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมแบบกล้าๆกลัว  คนทางด้านซ้ายมือชี้นิ้วไปทางอีกคนแล้วพูดเสียงเบา

     

     มันมาหาเรื่องผมก่อนครับพี่ 

     

     ฉันไม่รับรู้และไม่สนใจว่าพวกนายมีเรื่องกันด้วยเหตุผลอะไรมันไม่ใช่เรื่องของฉัน  แต่พวกนายควรจะให้เกียรติสถานที่บ้าง  หัวมีก็หัดคิดกันบ้างไม่ใช่ว่าวางไว้บนบ่าให้มันหนักเล่น  ช่วยคิดและพัฒนาตัวเองให้เท่ากับระดับการศึกษาที่พวกนายได้รับด้วย  แล้วมารยาทน่ะถ้าเคยได้รับการอบรมสั่งสอนมาก็เอาออกมาใช้ด้วย  อย่าให้เขาด่าเขาว่าได้ว่า ”ต่ำ คณะเราไม่เคยสั่งเคยสอนให้พวกนายทำตัวแบบนี้   การศึกษาก็มีแล้วช่วยพัฒนาด้วย  เข้าใจมั๊ย? “ ผมร่ายยาวแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อยรุ่นน้องทั้งสองคนพยักหน้าน้อยๆ  

     

     เข้าใจก็ดีแล้ว  ไปล้างหน้าล้างตาแล้วแต่งตัวใหม่ซะ  แล้วพวกที่ยืนล้อมกันอยู่นี่ไม่มีอะไรทำกันใช่มั๊ยถึงมาหายใจทิ้งเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้โลกโดยไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเนี่ย  ผมที่บอกรุ่นน้องสองคนนั้นจบก็หันมาเล่นไอ้พวกที่ยืนล้อมวงอยู่ต่อ  ทุกคนบริเวณนั้นรีบแตกฮือออกจากกันแล้วเดินหนีไปแทบจะทันที  ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อทุกคนแยกย้ายกันไปหมดเหลือไอ้เลย์ จื่อเทาแล้วก็ไอ้พี่คริส............

     

     

    ว่าแต่ไอ้คนหลังนี่มาจากไหนวะ  นึกว่าแมร่งกลับคณะไปไหนต่อไหนละ

     

    ผมขยับดึงแขนเสื้อนักศึกษาที่ร่นขึ้นมาจนกระดุมตึงลง  ก่อนจะเดินเข้าไปหาไอ้เลย์กับจื่อเทา  น้องรหัสมันยื่นกระเป๋าให้ผมก่อนไอ้เลย์จะถามแล้วเดินรอบตัวผมราวกับจะสำรวจความเสียหาย

     

                    “ เจ็บตรงไหนรึเปล่าอ่ะจุนเมียน  โดนอะไรมั่งมั๊ย 

                   

                    “ หึ ไม่โดนอะไรหรอก หลบทันแต่กระดุมแขนเสื้อแมร่งเกือบขาดอ่ะ  สงสัยเป็นเพราะตอนชกแน่ๆเลย  ผมว่าแล้วพลิกกระดุมตรงข้อมือขึ้นมาดู 

     

     พี่ก็เปรี้ยวเกิ๊นนนน ไม่พูดไม่จาเดินเข้าไปตบหัวไอ้สองตัวนั้นซะคว่ำ  ตัวมันไม่ใช่น้อยๆนะพี่ น้องหมีควายเลย ผมละใจหายหมด  จื่อเทาว่าสีหน้าแสดงความวิตกกังวล  ผมอมยิ้มแล้วยื่นมือเข้าไปลูบหัวมันเบาๆ 

     

     ไม่ใช่อะไรหรอก  ผมกลัวว่าถ้าพี่ตายแล้วสายรหัสขาด ผมจะไม่มีแนวข้อสอบกับหนังสือเรียนไว้อ่านน่ะ  ไอ้น้องทรพียิ้มพูดแล้วยิ้มละไม  จนผมอดไม่ได้ใช้มือที่ลูบหัวมันอยู่ขยุ้มกลุ่มผมสีดำเป็นประกายของมันแล้วกระชากลงมาแรงๆหนึ่งที  ทำเอาไอ้เด็กขอบคล้ำร้องลั่น  ผมหัวเราะกับเลย์เบาๆ ก่อนที่ผมจะหยุดหัวเราะเพราะเสียงหัวเราะทุ้มๆจากใครบางคนที่ผมลืมไปแทบสนิทว่ายืนใช้ออกซิเจนอยู่แถวนั้นด้วย   ผมจ้องจนคนตัวสูงเปลี่ยนจากหัวเราะมาเป็นยิ้มแล้วเลิกคิ้วขึ้น เป็นเชิงถาม

     

     ทำไมฮะ  ผมมองพี่ไม่ได้หรอ  “ ผลเลยตอบกลับไปแบบกวนๆปนจิกกัด

     

     มองได้ครับ แต่ถ้าสงสารก็อย่ามองแบบนั้นนานๆ 

     

     ทำไม 

     

     มันเป็นการทำร้ายหัวใจพี่ให้ทำงานหนักครับ “ ผมพรูลมหายใจออกมายาวเหยียดทันทีที่ได้ยิน

     

     ผมเพิ่งรู้นะว่านอกจากพี่จะพิการเพราะฟันไม่เข้าปากแล้วยังอยากจะปากแตกเพิ่มด้วยอ่ะ  ผมตอกกลับไป  คราวนี้ไอ้พี่คริสมันหัวเราะออกมาเบาๆแทน  ผมขมวดคิ้วน้อย ไอ้พี่นี่ก็บ้า โดนด่าแล้วเสือกสนุก ตลกอะไรนักหนาวะ 

     

     เฮ้ยเลย์ฉันว่าไอ้รุ่นพี่ที่แกนับถือนักนับถือหนามีปัญหาทางสมองแล้วว่ะ ส่งไปให้ไอ้แบคฮยอนกับชานยอลตรวจสมองหน่อยก็ดีนะ  ฉันไปล่ะนะ  “ ผมว่าแล้วส่ายหัวเบาๆ  ก่อนลมหายใจจะสะดุดเพราะมือใหญ่ที่เอื้อมมาใกล้ใบหน้า  นิ้วเรียวยาวหยิบเส้นผมที่อยู่บนเสื้อนักศึกษาผมออกแล้วปัดเบาๆ  ผมไม่รู้ว่าคนตัวสูงเดินเข้ามาใกล้ตั้งแต่เมื่อไหร่  รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ใบหน้าผมรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาแปลกๆ

     

     เดินดีๆนะครับ  ระวังอย่าไปตกหลุมรักของพี่เข้าล่ะ “ เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี  ผมเงยหน้าขึ้นมองรอยยิ้มนั้นก่อนจะหันหน้าหนีแล้วรีบเดินออกจากบริเวณนั้นแทบจะทันที  

    ได้ยินเสียงไอ้เทากับเลย์โห่ฮิ้วอะไรกันอยู่เบื้องหลังแมร่งสงสัยจะซ้อมพากันไปแห่บั้งไฟกัน   แต่ผมไม่สนใจหันไปมอง  พยายามย้ายตัวเองออกไปให้ไกลจากบริเวณนั้นให้เร็วที่สุด

     

     

     

     ผมว่าที่ที่แห่งนั้นมีพลังงานพิเศษบางอย่างแล้วแหละ  ผมได้ถึงใจสั่นแปลกแบบเนี้ย...................

     

     

     

     

     

     

     

    To be continue

    ______________________________________________________________________________


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×