คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [os]Look into my eyes (HunBaek)
Paring:Sehun+Baekhyun
Note: ฟิคเรื่องนี้แต่งให้น้องคนนึงในทวิตนะคะ น้องเขารีเควสฮุนแบคมา แต่ท่านอาจจะฟินชานแบคมากกว่า ฮ่าๆๆ สั้นๆสาระไม่มี ไว้อ่านคั่นเวลาละกันนะคะ ^^
“ เฮ้ย แบคฮยอนแกว่าช่วงนี้ไอ้ฮุนมันแปลกๆไปมั๊ย” เสียงทุ้มของแร๊พเปอร์หนุ่มเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็ก
“ แปลกยังไงวะ “ แบคฮยอนถามกลับมาโดยยังไม่ละสายตาจากทีวี
“ฉันว่ามันเหมือนคน.....มีความรักว่ะ”แบคฮยอนใช้ให้หางตามองชานยอลแวบนึงก่อนจะหันไปสนใจทีวีต่อ
“ยังไงวะ “
“ก็แบบชอบทำตาลอยๆ ชอบฟังเพลงรัก นั่งเขียนไดอารี่แล้วยิ้มคนเดียว”
“ นั่นมันเรื่องปกติของมันไม่ใช่ไง๊ ฮ่าๆๆ “แบคฮยอนว่าแล้วหัวเราะปากกว้าง
“ เฮ้ย! แต่ฉันว่าคราวนี้มันแปลกไปจริงนะ “ ชานยอลย้ำ แบคฮยอนเลยล้วงเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาแล้วยื่นให้อีกฝ่าย
“แกเอาโทรศัพท์มาให้ฉันทำไมวะ “
“เอ๊า ก็อยากรู้ไม่ใช่ไง๊ว่าเซฮุนมันเป็นอะไร “
“เออแล้วเกี่ยวไรกับโทรศัพท์วะ “ แร๊พเปอร์ตัวใหญ่ทำหน้างง
“ ก็สายตรงไปเมืองจีนสิวะ ไม่มีเรื่องไหนของเซฮุนที่ลู่ห่านฮยองไม่รู้ “ แบคฮยอนพูดนิ่งๆ แล้วยัดมือถือใส่มือชานยอลก่อนจะลุกเดินเข้าห้องนอนไป
คนตัวเล็กเดินเข้ามาในห้องนอนก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่ม แขนเล็กยกขึ้นก่ายหน้าผากไว้
“จะหงุดหงิดทำไมล่ะแบคฮยอน กะอีแค่ไอ้เด็กนั่นมันสนิทกับพี่ลู่ห่านเอง แล้วเด็กนั่นมันจะชอบใครก็ไม่ใช่เรื่องของนายเลยนะ” แบคฮยอนพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะซบหน้าลงกับหมอน
เสียงประตูเปิดขึ้นเบาๆ แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมามองก็พบว่าเป็นเซฮุน คนตัวเล็กรีบดีดผึงจากเตียงลุกขึ้นนั่ง เซฮุนเห็นแบบนั้นก็หัวเราะเบาๆ
“ พี่ตกใจอะไรของพี่เนี่ย “ แบคฮยอนมุ่ยหน้าใส่เซฮุนอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
“ เข้ามาห้องพี่มีอะไร” ถามอีกฝ่ายโดยไม่ยอมสบตา
“แล้วนั่นพี่คุยกับใครอ่ะ ผนังห้องหรอ“เซฮุนถามขำๆ
“ฉันคุยกับนายนั่นแหละ” แบคฮยอนว่าแล้วตวัดสายตามองอีกฝ่ายตรงๆ ก่อนจะต้องกลั้นหายใจเพราะคำพูดและรอยยิ้มบางๆของมักเน่หน้ามึน
“พูดกับใครก็สบตาคนๆนั้นด้วยสิครับ เขาจะได้รู้ว่าคนที่คุยด้วยอยู่น่ะให้ความสำคัญกับเขารึเปล่า พี่ซูโฮให้มาตามไปกินข้าวน่ะฮะ ผมไปก่อนนะ“
“อ้าวเซฮุนมาทำไรวะ “ชานยอลที่เปิดประตูเข้ามาเจอเซฮุนกำลังจะสวนออกไปก็เอ่ยถาม
“ พี่ซูโฮให้มาเรียกไปกินข้าวน่ะฮะ “ เซฮุนว่ายิ้มๆก่อนจะออกจากห้อง
“ เออ เดี๋ยวไป อ่ะหมาโทรศัพท์ เฮ้ย หน้าแดงๆไม่สบายรึเปล่าวะแบคฮยอน “ ชานยอลถามขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาแล้วยกมือขึ้นแตะแก้มแบคฮยอน คนตัวเล็กดันมือใหญ่ออกเบาๆ
“ป่าวๆ ฉันไม่ได้เป็นอะไร ว่าแต่ลู่ห่านฮยองว่าไงมั่งล่ะ” แบคฮยอนถามด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆเหมือนไม่ค่อยสนใจ แต่ในหัวใจกลับลุ้นระทึกซะยิ่งกว่ารอหวยออก
“พี่เขาบอกว่าให้นายไปถามเซฮุนมันดู “
“ ห๊า ฉันหรอ “ แบคฮยอนถามแล้วชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างงงๆ
“ เออ พี่เขาบอกว่านายนั่นแหละ “ ชานยอลว่าก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้แบคฮยอนนั่งงงอยู่คนเดียว
“ แล้วทำไมต้องเป็นเราวะ “
อาทิตย์ถัดมาเหล่าบรรดาสมาชิกเอ็กโซที่ลุยงานหนักกันมาเกือบอาทิตย์ก็ได้พักยาวติดกันสี่วัน แบคฮยอนกับชานยอลใช้โอกาสนี้ยึดห้องนั่งเล่นนอนดูหนังที่โหลดมาจนตาแฉะ
“ แกถามมันรึยังแบคฮยอน “ ชานยอลถามขึ้นเนือยๆก่อนจะยัดขนมเข้าปาก
“ ยัง ทำไมแกต้องอยากรู้ขนาดนั้นด้วยวะ “ แบคฮยอนเองก็ตอบกลับเนือยๆอย่างเหนื่อยหน่าย นี่ชานยอลถามเขาเป็นรอบที่ร้อยได้แล้วมั้ง
“ นายก็รู้ฉันเสือก “ คำพูดของชานยอลทำเอาแบคฮยอนแทบจะเอาหัวโขกพื้นตายในความหน้าด้านของอีกฝ่าย ชานยอลเห็นแบคฮยอนเงียบไปก็แกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วถามเสียงเบา
“แบคฮยอนแกชอบเซฮุนหรอวะ”
“แกจะบ้ารึไง!!! ฉันป่าวชอบมันนะ “แบคฮยอนได้ยินแบบนั้นก็ตวาดใส่ชานยอล หน้าแดงหูแดง ชานยอลเห็นแบบนั้นก็ยิ่งได้ใจยื่นมือไปบีบแก้มอีกฝ่ายไว้เบาๆ
“ อะไรๆ ฉันแค่โยนหินถามทางดูเอง หน้าแดงแบบนี้หมายความว่าไงวะ นอกใจฉันหรอ ฮ่าๆๆ ”
“ ไม่ใช่เว้ย ปล่อยเลยนะไอ้นี่“แบคฮยอนว่าก่อนจะพยายามแกะมือชานยอลออก ชานยอลหัวเราะร่าก่อนจะพลิกตัวขึ้นนอนทับอีกฝ่าย
“หรอๆ แล้วหน้าแดงทำไมวะ เป็นไข้เฉียบพลันหรอ ฉันลดไข้ให้เอาป่ะ ฮ่าๆๆๆๆ “ ชานยอลแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ คนตัวเล็กทั้งดิ้นทั้งถีบทั้งก่นด่าอีกฝ่ายแต่ชานยอลก็ยังไม่หยุดแกล้ง ซ้ำยังดูสนุกมากด้วยที่เห็นเพื่อนตัวเล็กเดือดพล่าน กลายเป็นว่าสองคนเล่นกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันไปในที่สุดโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าในห้องนั่งเล่นมีใครอีกคนเพิ่มขึ้นมา
“ เล่นกันขนาดนี้ จะได้กันแล้วมั้งฮะน่ะ “ เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆทำเอาแบคฮยอนที่กำลังหัวเราะเสียงใสเล่นกับชานยอลอยู่สะดุ้ง
“ กวนตีนละไอ้กัมจง “ แบคฮยอนพูดใส่คนที่ยืนหัวเราะค้ำหัวเขากับชานยอลเสียงเขียวก่อนจะถีบขาชานยอลที่พาดขาเขาอยู่ออกแล้วลุกขึ้นนั่งจัดผมจัดเพ้า
“ผมจะออกไปซื้อยาข้างนอกพี่จะเอาอะไรกันป่ะ “
“ ใครเป็นไรวะจงอิน คยองซูป่วยหรอ “ จงอินส่ายหัว
“ ป่าวฮะไม่ใช่พี่คยองซู ไอ้เซฮุนตะหาก “
“ แล้วมันเป็นอะไร เป็นเมื่อไหร่ แล้วตอนนี้เป็นยังไงมั่ง “ แบคฮยอนถามอาการน้องเล็กของวงหน้าตาตื่น ทำเอาจงอินหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นอมยิ้มแทนเมื่อแบคฮยอนมองเขาตาเขียว
“ ใจเย็นฮะพี่ มันแค่เป็นหวัดเฉยๆฮะ ผมโทรบอกพี่ซูโฮแล้ว เมื่อกี้พี่คยองซูก็ยกข้าวต้มไปให้มันกินละ เดี๋ยวผมก็จะลงไปซื้อยามาให้มันกินเนี่ย “
“เออๆ งั้น นายก็รีบไปเหอะ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปดูมันหน่อย“แบคฮยอนบอกกับจงอินก่อนจะรีบลุกขึ้นแต่โดนชานยอลฉุดแขนไว้ก่อน
“ เดี๋ยวววววววววว”
“ อะไรของแกวะชานยอล“ แบคฮยอนหันมาถามชานยอลงงๆ ก่อนจะแทบทรุดเพราะคำพูดอีกฝ่าย
“ อย่าลืมถามมันด้วยนะว่ามันแอบชอบใครอยู่อ่ะ” เคยได้ยินมานะฮะว่าความเสือไม่เข้าใครออกใคร แต่ทำไมเข้าชานยอลแล้วไม่เห็นออกไปไหนเลย
คนตัวเล็กค่อยๆแง้มประตูช้าๆเมื่อเห็นว่ามักเน่ของวงนั่งกินข้าวต้มอยู่บนเตียงเงียบๆก็เดินเข้าไปหาก่อนจะดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆเตียงอย่างถือวิสาสะ เซฮุนยิ้มให้แบคฮยอนบางๆหน้าที่เคยสดใสซีดเซียวลงเพราะพิษไข้
“มาเยี่ยมไข้หรอฮะ”
“อืม เป็นยังไงบ้าง“แบคฮยอนถามโดยไม่ยอมสบตาอีกฝ่ายก่อนจะเอื้อมมือไปแตะแก้มเซฮุนเบาๆ
“ก็แข็งแรงดีนะฮะ ถ้าไม่ติดว่ามีไข้กับน้ำมูกไหลอ่ะนะ”เซฮุนว่าก่อนจะหัวเราะจางๆ
“เป็นหวัดแท้ๆยังมีแก่ใจกวนอารมณ์คนอีกนะนายน่ะ”แบคฮยอนมุ่ยหน้าก่อนจะละมือออก แต่เซฮุนคว้ามือเล็กๆนั่นไว้แล้วกดให้แนบกับแก้มเขาอย่างเดิม แบคฮยอนตกใจเล็กๆแต่ก็ไม่ได้ขืนมือออก
“ พี่ไม่ยอมมองตาผมอีกแล้วอ่ะ “ เซฮุนพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ แต่น้ำเสียงนั้นออกจะเศร้าๆ แบคฮยอนนิ่งเงียบไปไม่ได้พูดหรือมีปฏิกิริยา สายตานั้นจับจ้องไปที่ถ้วยข้าวต้มในมือเซฮุน
มักเน่ของวงยิ้มบาง ละฝ่ามือเล็กออกจากใบหน้าตนแล้วเปลี่ยนเป็นกุมไว้ก่อนจะเอี้ยวตัววางถ้วยข้าวต้มลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง
“ผมเคยบอกพี่แล้วไม่ใช่หรอฮะว่าถ้าพูดกับใครให้มองตาคนนั้นๆด้วย” เซฮุนว่าก่อนจะใช้มือดันปลายคางอีกฝ่ายให้เงยขึ้น
“คนๆนั้นเขาจะได้รู้ไงฮะว่าพี่สนใจในสิ่งที่เขาพูดอยู่ เขาจะได้รู้ว่าพี่คิดยังไง “เซฮุนพูดต่อเมื่อแบคฮยอนเงยหน้าขึ้นสบตาตน
“ แล้วพี่ก็จะได้รู้ด้วยว่าอีกคนเขาคิดยังไงกับพี่ “ เซฮุนพูดก่อนจะเลื่อนหน้าใบหน้าเข้าไปประทับจูบลงบนริมฝีปากเล็กแผ่วเบา ริมฝีปากอุ่นขยับจูบอย่างนุ่มนวลมือฝ่าแกร่งยกขึ้นประคองใบหน้าเล็กไว้ ริมฝีปากเรียวจูบเม้มลงไปเบาๆก่อนจะละออกมา
เซฮุนมองใบหน้าของอีกฝ่ายแล้วยิ้มออกมาบางๆ แก้มป่องของแบคฮยอนขึ้นสีแดงเรื่อ นัยน์ตาสดใสมีน้ำตาคลออยู่น้อยๆ ฝ่ามือแกร่งลูบแก้มนั้นเบาๆ
“ผมชอบพี่นะ” แบคฮยอนได้ยินเซฮุนพูดแบบนั้นก็เหมือนว่าสติจะกลับมาคนตัวเล็กกระพริบตาถี่ๆก่อนจะชี้นิ้วหาตัวเอง
“ นายชอบฉัน? “เซฮุนไม่ตอบแต่พยักหน้าช้าๆแทน
“อะ.....อะไร ทำไม ทำไมฉันไม่รู้มาก่อนเลยล่ะ “
“ก็พี่หลบหน้าหลบตาผมตลอดเลยอ่ะ ผมแทบจะเขียนไว้บนหน้าผากแล้วด้วยซ้ำว่าผมชอบพี่อ่ะ“เซฮุนพูดปนหัวเราะ
“ก็ถ้าฉันมองตานาย นายก็รู้หมดสิว่าฉันคิดอะไรอ่ะ“แบคฮยอนพูดเบาๆแล้วก้มหน้า เซฮุนเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะบอกยิ้มๆ
“ผมไม่รู้หรอก “
“ นายรู้ “แบคฮยอนเถียง เขารู้ดีว่าเซฮุนรู้แต่ที่บอกว่าไม่รู้นี่จงใจจะให้เขาพูดออกมาเองแน่นอน
“ผมไม่รู้จริงๆ ”
“ ไม่รู้ก็ไม่ต้องรู้ ข้าวนี่กินอิ่มแล้วใช่มั๊ยเดี๋ยวฉันเอาถ้วยไปเก็บให้ “แบคฮยอนพูดก่อนจะลุกขึ้น เซฮุนคว้าข้อมืออีกฝ่ายไว้ก่อนจะรั้งเอวอีกฝ่ายให้นั่งลงบนเตียง
“ โหยยยย พี่อ่ะ ผมรู้แต่ก็อยากฟังจากปากพี่นี่ฮะ บอกผมหน่อยนะ นะๆ “เซฮุนกระซิบอีกฝ่ายอ้อนๆก่อนจะกดปลายจมูกลงกับเนียนใส แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายก่อนจะเลิกคิ้ว เซฮุนพยักหน้าช้าๆ
“ ฉันก็ชอบนายเหมือนกัน........เซฮุน” คนตัวเล็กว่าก่อนจะหอมแก้มอีกฝ่ายเบาๆแล้วยิ้มให้จนตาหยี
หลังจากที่จงอินซื้อยามาให้เซฮุนกินเรียบร้อยแล้วแบคฮยอนก็ออกจากห้องเซฮุนมา ชานยอลแทบจะถลาเข้าไปกอดแขนแบคฮยอนไว้แล้วถามอย่างกระตือรือร้น
“ เฮ้ย แบคฮยอนตกลงแกถามมันยังวะ “
“ ยัง “แบคฮยอนตอบก่อนทำท่าจะเดินเอาถ้วยข้าวต้มไปเก็บในครัวแต่ชานยอลก็รั้งไว้
“ เอ้า แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้สักทีล่ะว่ามันแอบชอบใคร “
“ ฉันรู้แล้ว “
“ อ้าว ไม่ถามแล้วรู้ได้ไงวะ “
“ก็มันบอกอ่ะ “
“อ้าว แล้วตกลงมันชอบใครวะ “
“ ก็คนที่พี่ลู่ห่านให้ถามนั่นแหละ “ แบคฮยอนพูดยิ้มๆแล้วหนี ชานยอลยกมือขึ้นเกาหัวงงๆ
“ คนที่พี่ลู่ห่านให้ถาม.....ก็ไอ้แบคฮยอน คนที่เซฮุนชอบคือคนที่พี่ลู่ห่านให้ไปถาม งั้นก็แปลว่าคนที่เซฮุนชอบก็คือแบคฮยอน !!!!! ห่าแล้วก็ไม่เสือกบอกกันตรงๆ แมร่งอ้อมโลกอยุ่ได้!!!”
END
ความคิดเห็น