คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : FULL HOUSE ..... 5
งานศพของโฮดงถูกจัดขึ้นในโบสถ์แห่งหนึ่ง โดยมีซีวอนและเยซองเป็นหัวแรงใหญ่ในการดำเนินงานต่างๆ ร่วมด้วยบรรดาคนงานที่เคยรับใช้ต่างมาช่วยงานกันอย่างพร้อมหน้าเมื่อทราบข่าว
ดองเฮนั่งซึม เหม่อมองไปร่างของบิดาที่นอนแน่นิ่งอยู่ในโลง ดวงตาคู่สวยคลอหยาดน้ำใสตลอดเวลา จนตอนนี้ดวงตาเริ่มช้ำแดงก่ำ เสียงสะอื้นไห้ยังมีให้ได้ยินเล็กน้อย พยายามอดกลั้นความรู้สึกหดหู่ทั้งปวงด้วยความยากลำบาก ไม่อยากให้ใครต้องมาเป็นห่วงตนเองมากนัก โดยเฉพาะชายหนุ่มสองคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตนเองเลยสักนิด แต่ก็รับปากจะเป็นธุระจัดการทุกอย่างให้
ซีวอนมองคนตัวเล็กด้วยความเป็นห่วง เดินเข้ามานั่งเคียงข้าง เอื้อมมือโอบกอดให้คนตัวเล็กมาซบไหล่ ดองเฮไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เวลาที่อ่อนแอแบบนี้ หากมีใครสักคนยื่นมือมาให้ความอบอุ่นทางใจขอรับไว้ก่อน พอจิตใจเริ่มเข้มแข็งจะได้มีแรงสู้ในวันพรุ่งนี้ต่อไปได้โดยลำพัง
“คุณหนูดองเฮเข้มแข็งไว้นะครับ คุณพ่อของคุณไปสบายแล้ว คุณอย่าทำให้ท่านทุกข์ใจนะครับ” ซีวอนเอ่ยปลอบใจคนตัวเล็กในอ้อมแขน ทั้งชีวิตไม่เคยต้องมาทำอะไรอย่างนี้มาก่อน รู้สึกกระดากใจอยู่บ้าง
“ขอบคุณนะครับ สำหรับทุกอย่าง” เสียงหวานบอกอย่างสั่นเครือ หยาดน้ำใสยังไหลรินหยดลงบนไหล่หนาจนเปียกชุ่ม
“เลิกร้องไห้นะครับ เดี๋ยวคุณพ่อคุณจะหลับไม่สบาย อย่าทำให้ท่านต้องเป็นกังวลนะครับ” ซีวอนลูบผมนุ่ม ปลอบประโลมให้คลายความหมองเศร้าทั้งหลาย
ดองเฮพยักหน้ารับ พยายามกลั้นสะอื้นให้หายไป เรียกกำลังของตนให้เข้มแข็งดั่งเดิม แม้ว่ามันจะยาก แต่ก็ต้องทำให้ได้ เพื่อว่าบิดาของตนจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง
hhhhhhhhh
หลังจากงานพิธีฝังศพของบิดาเสร็จสิ้น แขกเหรื่อต่างทยอยกันกลับโดยมีดองเฮกล่าวคำขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ แววตาคู่สวยยังคงฉายแววเศร้าสร้อยอยู่ตลอดเวลา เสียงหวานที่แหบแห้งลงเอ่ยคำขอบคุณบรรดาอดีตคนงานที่เคยรับใช้ในคฤหาสน์หลังเดิมที่มีความทรงจำมากมาย
จนกระทั่งตอนนี้จะเหลือเพียงแค่ดองเฮ ซีวอน และเยซองคอยจัดการส่วนที่เหลือให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงจะแยกย้ายกันกลับบ้าน
“ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยเป็นธุระจัดการเรื่องต่างๆ ให้ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ดองเฮกล่าวขอบคุณชายหนุ่มสองคนในความช่วยเหลือที่ได้รับ เยซองยิ้มรับคำกล่าวนั้น ลูบผมคนตัวเล็กกว่าด้วยความเอ็นดู
“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ..... เข้มแข็งไว้นะครับ ถ้ามีเรื่องอะไรให้ผมช่วยเหลือ ไม่ต้องเกรงใจนะครับ” เยซองบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ดองเฮพยักหน้าพร้อมส่งรอยยิ้มไปให้ ขอบคุณในความมีน้ำใจของเยซองที่แม้จะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ก็เต็มใจให้ความช่วยเหลือเสมอ
ซีวอนมองภาพของเพื่อนรักและคุณหนูร่างเล็กอย่างหงุดหงิด ไม่ค่อยชอบใจที่เพื่อนรักแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งเกินไป ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อคนตัวเล็กหันมาทางตน
“ขอบคุณมากนะครับคุณซีวอน และก็ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณต้องยุ่งยากมาเป็นธุระจัดการเรื่องต่างๆ ให้ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ขอตัวก่อนนะครับ”
ดองเฮก้มหน้าก้มตากล่าวคำขอบคุณ กำลังจะก้าวเดินออกไปยังรถของตนเพื่อเดินทางกลับบ้านไปพักผ่อน วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ แต่โดนบางอย่างฉุดรั้งไว้เสียก่อน
“เดี๋ยว!!! คุณกำลังจะไปไหน” ซีวอนจับแขนเล็ก รั้งไว้ไม่ให้ก้าวเดินไปไหน เยซองและดองเฮหันมามองด้วยความงุนงง
“เอ็งไปรั้งคุณหนูดองเฮไว้ทำไมวะ เค้าจะได้กลับไปพักผ่อน เอ็งไม่เห็นเหรอว่าเค้าเพลียจะแย่อยู่แล้ว” เยซองถามด้วยความไม่เข้าใจผสมความไม่พอใจในการกระทำของเพื่อนรัก
“ปล่อยผมเถอะนะครับ วันนี้ผมเหนื่อยไม่มีแรงมาสู้กับคุณหรอก ผมจะกลับบ้านไปพักผ่อนนะครับ” เสียงหวานบอกคนที่ฉุดรั้งตนไว้ด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ ไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้าจะมาขวางตนไว้ทำไม
“ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ คุณจะกลับบ้าน ผมก็จะพากลับ” ซีวอนบอกด้วยเสียงเรียบเฉยไม่สนใจอาการของคนตัวเล็กที่ทำคิ้วขมวดจนแทบจะผูกติดกันอยู่แล้ว
“ผมกลับเองได้ บ้านผมกับบ้านคุณมันคนละทางอยู่แล้ว ไม่ต้องไปส่งผมหรอกครับ ผมเข้มแข็งพอ ขอบคุณในความหวังดีนะครับ” ดองเฮพยายามโน้มน้าวให้ซีวอนเข้าใจ คิดถึงหมอนนุ่มๆ จะแย่อยู่แล้ว
“ใครบอกให้คุณกลับไปยังบ้านหลังนั้น คุณจะต้องไปอยู่บ้านผมต่างหาก”
“เฮ้ย!!!! เอ็งจะบ้าหรือไงวะ / หา...? คุณว่าอะไรนะ”
เยซองและดองเฮตะโกนถามสุดเสียง ซีวอนทำหน้าเบ้ ยกมือขยี้หูตัวเองให้หายอื้อ
“จะตะโกนกันทำไมเนี่ย อยู่ใกล้แค่นี้เอง..... อย่างที่ได้ยินกันนั่นแหละ คุณต้องไปอยู่ที่บ้านผมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
“ทำไมผมต้องไปอยู่บ้านคุณด้วย หรือว่าคุณกลัวว่าผมจะอยู่คนเดียวไม่ได้ ผมบอกแล้วไงครับว่าผมเข้มแข็งพอ ไม่ต้องห่วงครับ ปล่อยผมได้แล้ว” ดองเฮพยายามใจเย็นกับคนตรงหน้าให้ได้มากที่สุด คิดในแง่ดีว่าซีวอนคงจะเป็นห่วงกลัวว่าเขาจะอยู่คนเดียวไม่ได้
“คุณลืมที่คุณโฮดงบอกไว้แล้วหรือไงครับ ว่าคุณจะต้องอยู่ในความดูแลของผม คุณจะต้องไปอยู่กับผมที่คฤหาสน์ชเว” ซีวอนย้ำเตือนความจำให้กับคนตัวเล็กที่เริ่มส่งแววตาไม่พอใจมาให้ เยซองมองทั้งสองคนด้วยความงุนงง เกิดอะไรขึ้นในห้องพักฟื้นเมื่อวันนั้น
“ผมไม่ได้ลืมครับ แต่ผมรู้ว่าคุณแค่รับปากไปอย่างนั้นเอง เพื่อให้คุณพ่อของผมสบายใจ ท่านจะได้จากไปอย่างสงบ คุณไม่จำเป็นต้องฝืนใจหรอกครับ ผมเข้าใจดี”
“ใครบอกคุณว่าผมฝืนใจ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว... ไป... กลับบ้านกันได้แล้ว ผมเหนื่อย... อยากจะพักผ่อนเต็มทีแล้ว”
“ไม่!!! ปล่อยผมนะ ผมจะกลับบ้านผม ผมบอกให้ปล่อย” ดองเฮดิ้น ขืนตัวไว้ไม่ยอมไปตามแรงรั้งของซีวอน ยื้อยุดกันอยู่นานจนซีวอนทนไม่ไหว จับดองเฮอุ้มพาดบ่าแล้วหันมาพูดกับเยซองที่ยืนยิ้มมองการกระทำของตน
“ไอ้เย่ เดี๋ยวเอ็งขับรถของคุณหนูจอมดื้อนี่ไปนะ แล้วเจอกันที่บ้าน” ว่าจบก็รีบสาวเท้าไปยังรถคันหรูที่มีคนขับรถคอยเปิดประตูรออยู่แล้ว
“เออ...รู้แล้วครับ อย่าทำอะไรคุณหนูของข้ารุนแรงนักนะโว๊ย ไอ้เพื่อนเวร!!!” เยซองตะโกนไล่หลังไป เมื่อเห็นซีวอนโยนคนตัวเล็กที่ดิ้นไปมาเป็นปลาขาดน้ำเข้าไปในรถ แล้วจึงเดินไปที่รถอีกคัน ขับตามหลังรถของเพื่อนรักไปทันที
hhhhhhhhh
ภายในรถคันแรกมีคนสองคนมองตากันอย่างสุดซึ้ง..... เอ๊ย!!! ไม่ใช่แหละ..... คนสองคนจ้องตากันอย่างดุเดือด ดองเฮนอนราบกับเบาะรถโดยมีซีวอนคร่อมร่างของตนอยู่ ตั้งแต่ที่โดนจับพาดบ่ามาจนกระทั่งคนตัวสูงโยนร่างของเขาเข้ามาในตัวรถอย่างแรง
ซีวอนก็รีบเข้ามากักขังคนตัวเล็กให้อยู่ในอ้อมแขนแกร่งไม่ให้ขัดขืนใดๆ ได้อีก จับไหล่คนตัวเล็กกดลงกับเบาะนุ่มด้วยแรงทั้งหมดที่มี
“ปล่อยผมนะ ผมจะกลับบ้าน”
“ก็กำลังจะพากลับอยู่นี่ไง จะเรื่องมากอะไรอีก”
“นั่นมันบ้านคุณ ไม่ใช่บ้านผม ผมจะกลับบ้านของผม”
“อย่ามาดื้อด้านกับผมนะ คุณต้องไปอยู่ที่บ้านของผมกับผม”
“ไม่เอา!!!~ ผมจะกลับบ้านผม ปล่อยซี่ ปล่อย!!!”
“พูดไม่รู้เรื่องใช่มั๊ย... หา!!!! หรือว่าอยากจะให้ผมทำโทษคุณแบบวันนั้นอีก” ซีวอนแกล้งโน้มหน้าลงไปให้ใกล้กับคนตัวเล็กที่หลับตาปี๋ เม้มริมฝีปากแน่น ปากหยักคลี่รอยยิ้มอย่างพึงพอใจออกมา เคลื่อนตัวลงทาบทับ วางใบหน้าซบอกบาง หลับตาลง จมูกโด่งสูดดมความหอมที่โชยมาเข้าปอด
ดองเฮเบิกตากว้าง พยายามดิ้นให้พ้นจากอ้อมแขนของคนด้านบน สองมือดันศีรษะได้รูปให้พ้นตัว ซีวอนรำคาญกับอาการดื้อดึง ต่อต้านของคนตัวเล็ก มือหนาจับมือบางชูไว้เหนือศีรษะ น้ำเสียงจริงจังเอ่ยเตือนร่างข้างใต้ดักทางก่อนที่ดองเฮจะอ้าปากพูดอะไรออกมา
“ถ้าคุณหนูดองเฮยังไม่อยากถูกผมปล้ำบนรถล่ะก็ หยุดดิ้นขัดขืนเสียที อย่าหาว่าผมไม่เตือน ผมไม่ได้ล้อเล่น... อยู่เฉยๆ ด้วย จนกว่าจะถึงบ้าน วันนี้ผมเหนื่อยอยากพักแล้ว”
ได้ผล... คำขู่ของซีวอนส่งผลทันตาเห็น เมื่อคนเรือนร่างบอบบางข้างใต้หยุดทุกการเคลื่อนไหว ได้แต่นอนนิ่งๆ ให้ซีวอนซบอยู่อย่างนั้นด้วยความไม่เต็มใจ
ซีวอนยิ้มกริ่มถูกใจกับปฏิกิริยาของดองเฮเป็นอย่างมาก ปล่อยข้อมือบางออก แล้วสอดวงแขนเข้าไปทางด้านหลังบอบบาง กอดกระชับให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้น
คนขับรถเจ้าประจำที่สนิทรู้ใจเจ้านายทั้งสองของคฤหาสน์หลังงามเป็นอย่างดี แทบจะไม่มีสมาธิปฏิบัติหน้าที่ของตน เมื่อเหลือบมองกระจกมองหลังเห็นนายของตนนอนยิ้ม ซบร่างของคุณหนูคนสวยแนบแน่น คำขู่ต่างๆ ที่ใช้หลอกล่อคนตัวเล็ก
ทำให้คนขับรถคนสนิทถึงกับอมยิ้มอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ ไม่เคยเห็นท่าทางของเจ้านายเป็นถึงขนาดนี้มาก่อน รอยยิ้มที่ซีวอนเผลอตัวแสดงออกมานั้น ดูยังไงก็เป็นรอยยิ้มแห่งความสุข สมใจ
แม้ว่าตอนแรกคุณหนูร่างบางจะไม่ค่อยยินยอมกับการกระทำของนายตนซะเท่าไหร่ แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก..... ทั้งสองร่างที่กอดกันกลมต่างหลับฝันเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์ไปด้วยกัน โดยที่มือบางของคุณหนูคนงามวางอยู่บนแผ่นหลังกว้างของเจ้านายตน กอดกระชับจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน
อาจจะเป็นเพราะความเหน็ดเหนื่อยจากงานที่ผ่านมาทั้งวัน ประกอบกับอากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในรถ ทำให้ทั้งคู่เข้าสู่กระแสนิทราได้ไม่ยากนัก แต่เป็นภาพที่ทำให้คนมองยิ้มอย่างมีความสุขตามไปด้วยเช่นกัน
..... สงสัยว่าคฤหาสน์ชเว คงจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้กระมัง .....
hhhhhhhhh
ความคิดเห็น