ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FULL HOUSE (Super Junior) Yaoi WonHae

    ลำดับตอนที่ #5 : FULL HOUSE ..... 4

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 52








     

     

     

    รุ่งเช้าของวันใหม่ที่สดใสสำหรับใครหลายๆ คน แต่กับหนุ่มหน้าหวานนั้นช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

     

    ดองเฮเร่งดำเนินการในเรื่องต่างๆ ต้องวิ่งเต้นทั้งเรื่องขายคฤหาสน์ ขายหุ้นในบริษัทออกทอดสู่ตลาด ให้กับบริษัทอื่นที่มีเงินทุนหนามาทำการเทคโอเว่อร์ไป แล้วยังต้องเข้าไปขอเวลาผลัดผ่อนกับทางธนาคาร ประนอมหนี้สินต่างๆ ที่มีให้เรียบร้อย แม้จะเหนื่อยขนาดไหนแต่ก็ไม่ปริปากบ่นออกมา

     

    โฮดงมองลูกชายคนเดียวที่วิ่งวุ่นตั้งแต่เช้าด้วยความเศร้าใจ อยากจะเข้าไปช่วยเหลือแบ่งเบาในเรื่องต่างๆ บ้าง แต่ก็โดนคนตัวเล็กขวางทุกทาง บอกว่าเรื่องแค่นี้สามารถจัดการได้ให้เขาอยู่เฉยๆ เป็นพอ.....

     

     

    hhhhhhhhh

     

     

    หลังจากประกาศขายสมบัติทุกอย่างแล้ว ใช้เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ถึงได้มีผู้มาติดต่อ และได้ทำการโอนถ่ายเป็นที่เรียบร้อย

     

    สองพ่อลูกได้นำเงินส่วนที่เหลือจากการชำระหนี้สินก้อนใหญ่ มาซื้อบ้านหลังเล็กๆ อยู่กันสองคน และอีกส่วนหนึ่งได้ทำการจ่ายค่าชดเชยให้กับคนงานในบ้านอย่างเท่าเทียม

     

    ถึงแม้ว่าบรรดาคนงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่ามันเป็นจำนวนเงินที่มากเกินไป แต่ตนเต็มใจให้ อย่าได้ปฏิเสธให้เสียน้ำใจกันเลย มันไม่ได้มากมายเท่าใดนักถ้าเทียบกับความรัก ภักดีที่ทุกคนมีให้เสมอมา

     

    อีกทั้งตอนนี้ดองเฮได้งานที่บริษัทแห่งหนึ่งแล้ว พอจะมีเงินทุนในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันบ้างแล้ว ไม่ได้เดือดร้อนอะไร หากรู้จักใช้สอยอย่างประหยัด

     

     

    hhhhhhhhh

     

     

    จากความเครียดที่สะสมมานานวัน ทำให้ร่างกายของโฮดงทรุดลงอย่างรวดเร็ว ...โรคหัวใจ... โรคประจำตัวที่เป็นอยู่ ออกอาการกำเริบหลายครั้ง แต่โฮดงไม่ได้บอกกับลูกรักให้รับรู้ ด้วยเกรงว่าบุตรชายจะเครียดมากไปกว่านี้ แค่นี้ก็ทำให้ลูกชายที่น่ารักของเขานั้นผ่ายผอมลงไปมากแล้ว

     

     

    ครั้งล่าสุดที่เข้าไปตรวจเช็คร่างกาย นายแพทย์ประจำตัวแนะนำให้เขานั้นเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ เพราะตอนนี้หัวใจของเขาอ่อนแอลงมาก จังหวะการเต้นช้าลง เป็นอันตรายอาจถึงแก่ชีวิตได้

     

    เขารู้ดีว่าการรักษาอาการเจ็บป่วยของตนนั้นในแต่ละครั้งใช้เงินไม่น้อยเลย ยิ่งถ้าต้องเข้ารับการผ่าตัดด้วยแล้ว ค่าใช้จ่ายคงจะเพิ่มสูงเป็นอีกเท่าตัว ไม่อยากให้ลูกรักต้องลำบากวิ่งเต้นอะไรมากกว่านี้แล้ว เขาจึงได้อดทนไม่แสดงอาการให้บุตรชายรับรู้ว่าย่ำแย่ขนาดไหน

     

     

    แต่ความลับไม่มีในโลก เมื่อเขาเกิดหน้ามืดล้มลงในห้องน้ำในขณะที่บุตรชายได้ออกไปทำงาน กว่าดองเฮจะมาพบว่าบิดาของตนหมดสติอยู่ในห้องน้ำก็ค่อนข้างมืดค่ำแล้ว

     

    โฮดงถูกนำส่งเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่มาทำการตรวจเป็นประจำทันที.....

     

     

    hhhhhhhhh

     

     

    เวลาผ่านไปพอสมควรที่ห้องฉุกเฉินจะเปิดออก พร้อมกับนายแพทย์เจ้าของไข้ได้เข้ามาเชื้อเชิญให้ดองเฮเข้าไปคุยยังห้องทำงานของตนทันที

     

    คำบอกเล่าถึงอาการของบิดาจากปากของคุณหมอประจำตัว ทำให้ดองเฮแทบจะหมดแรงพยุงกาย ยังดีที่ตอนนี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ มิเช่นนั้นตัวเขาเองคงจะล้มลงกับพื้นแน่ๆ

     

    อาการของบิดาแย่ลงเป็นอย่างมาก จะต้องทำการผ่าตัดโดยเร่งด่วน โดยจะต้องได้รับการยินยอมจากญาติของคนไข้ซะก่อนถึงจะดำเนินการได้

     

    ระหว่างที่กำลังปรึกษาหารือกันอยู่นั้น พยาบาลสาวได้วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาตามนายแพทย์ที่อยู่กับตน ให้ไปตรวจอาการของบิดาที่ทรุดลงกะทันหันทันที

     

    ดองเฮหน้าซีดวิ่งตามคุณหมอไปพร้อมกับพยาบาลสาวที่เข้ามาตาม ร่างบอบบางของคนหน้าหวานเดินวนไปเวียนมาไม่หยุดหย่อน

     

    จนกระทั่งประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกอีกครั้ง คุณหมอคนเดิมเดินมาตบไหล่บอบบางอย่างให้กำลังใจ

     

    คนไข้ต้องการพบคุณ ทำใจดีๆ ไว้นะครับ

     

    อดีตคุณหนูหน้าหวานเดินเข้ามายังห้องฉุกเฉินด้วยใจสั่นระทึก น้ำตาใสๆ หยดลงเปรอะเปื้อนใบหน้า เมื่อเห็นบิดามองมายังตนด้วยรอยยิ้มอ่อนแรง ดองเฮยิ้มทั้งน้ำตาให้กับบิดา กุมมือหนาของบิดาไว้มั่น

     

    โฮดงพยายามเอ่ยคำพูดด้วยความยากลำบากจากเครื่องช่วยหายใจที่ติดอยู่ในโพรงจมูก

     

    หนูด๊อง... ติดต่อคุณซีวอนให้พ่อหน่อย... พ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา... นะหนูด๊อง... พ่อขอร้อง

     

    ได้ครับ... ด๊องขอตัวสักครู่นะครับ คุณพ่อต้องอดทนนะครับ... ฮึก... ถ้าผ่าตัดแล้ว คุณพ่อก็จะหายนะครับ ดองเฮบอกด้วยเสียงกลั้นสะอื้น แล้วรีบลุกออกไปติดต่อผู้ที่บิดาร้องขออยากจะพบหน้าทันที

     

     

    ทั้งที่ใจนั้นไม่อยากจะเสวนากับคนคนนี้เลยสักนิด โชคยังดีหน่อยที่คนรับสายเป็นเยซอง เขาจึงได้ฝากเรื่องไว้ ซึ่งเยซองรับปากว่าจะรีบมาให้เร็วที่สุด

     

     

    hhhhhhhhh

     

     

    ซีวอนรีบมายังโรงพยาบาลพร้อมกับเยซองทันทีที่ทราบเรื่องจากเพื่อนรัก ยอมละทิ้งการประชุมกับหัวหน้าฝ่ายต่างๆ ทันที

     

    ทั้งสองเร่งจังหวะฝีเท้าให้เร็วมากขึ้นด้วยความร้อนใจไม่แพ้กันหลังจากที่จอดรถเสร็จ เยซองรีบวิ่งเข้าไปหาคนตัวเล็กทันทีที่มาถึงห้องผ่าตัด

     

    ทำใจดีๆ ไว้นะครับ คุณพ่อของคุณจะต้องไม่เป็นอะไรนะครับ เข้มแข็งไว้นะครับ ดองเฮเงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็โผเข้ากอดตัวเยซองแน่น ต้องการที่พึ่งให้กับจิตใจที่อ่อนแอของตนเอง โดยที่เยซองลูบผมนุ่มมืออย่างอ่อนโยน

     

     

    การกระทำของทั้งคู่อยู่ในสายตาของซีวอนโดยตลอด รู้สึกปวดร้าวในอกแปลกๆ ที่เห็นการแสดงออกของทั้งสองคน เบนหน้าหลีกหนีจากภาพตรงนั้นทันที เดินไปพิงกำแพงข้างประตูห้องผ่าตัด ยืนเฝ้ามองร่างบอบบางนั่งสะอื้น ภายในอ้อมกอดของเพื่อนรักไม่วางตา

     

    คุณชายเทพบุตรไม่ได้สังเกตเลยว่า เยซองจับตามองการแสดงออกของเพื่อนรักอยู่ตลอดเวลา รอยยิ้มที่ปรากฏอย่างไม่ให้อีกฝ่ายจับได้ว่า ตนนั้นเห็นท่าทางของเพื่อนรักแทบจะทุกฝีก้าว

     

     

    ..... จนกระทั่ง .....

     

     

    นายแพทย์ที่ทำการผ่าตัดเดินออกด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ดองเฮพยายามดันร่างกายที่อ่อนแรงเข้าไปสอบถามอาการของบิดาว่าเป็นเช่นไร โดยมีเยซองประคองร่างบางไว้ตลอด

     

     

    คุณหมอครับ คุณพ่อเป็นอย่างไรบ้างครับ ท่านปลอดภัยไหมครับ นายแพทย์เจ้าของไข้มีสีหน้าหนักใจกับคำถาม มองคนตรงหน้าด้วยแววตาขออภัย ไม่อยากจะทำร้ายจิตใจของคนญาติผู้ป่วยสักนิด

     

     

    หมอขอโทษนะครับ หมอพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ตอนนี้ทางโรงพยาบาลของเรายังไม่ได้รับการบริจาคหัวใจ หมอได้ทำการยื้อชีวิตเบื้องต้นของคนไข้ไว้แล้ว แต่ร่างกายของคนไข้อ่อนแอ และฝืนกำลังมาโดยตลอด..... คงต้องขึ้นอยู่กับว่าคนไข้จะสามารถอดทนได้มากแค่ไหน

    ตอนนี้คนไข้รู้สึกตัวแล้ว หมอว่าทางที่ดี คุณเผื่อใจไว้สักนิดก็ดีนะครับ..... ไม่ทราบว่าคุณซีวอนคือคนไหนครับ หมอหนุ่มอธิบายความให้รับรู้อาการของโฮดงว่าเป็นเช่นไร แล้วจึงถามถึงบุคคลที่คนไข้ร้องขอพบ

     

     

    ผมเองครับ คุณหมอมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ ซีวอนขานรับแล้วเดินมายังบุคคลทั้งสามที่ทำเหมือนกับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา

     

    ครับ... คนไข้ต้องการพบคุณและบุตรชายนะครับ เชิญด้านในเลยครับ ห้ามเกินห้านาทีนะครับ เพราะคนไข้ต้องการพักผ่อน นายแพทย์เจ้าของไข้กล่าวจบก็เดินออกไปยังห้องพักของตน

     

     

    ทิ้งให้คนทั้งสามยืนมองหน้ากันไปมาด้วยความงุนงง ต่างขบคิดในความต้องการของคนที่อยู่ในห้องด้านใน

    จนซีวอนต้องออกปากเร่งให้คนตัวเล็กเข้าไปในห้องพร้อมกับตนตามความต้องการของโฮดง

     

    ครับ..... ขอบคุณครับ เชิญครับคุณหนูดองเฮ

     

     

    เยซองจำต้องปล่อยอ้อมกอดที่คอยประคองดองเฮไว้ไม่ให้ล้มอย่างแสนเสียดาย แล้วก็ส่ายหน้ายิ้มๆ ออกมา เมื่อเห็นภาพด้านหลังของคนทั้งคู่เดินเคียงข้างกันเข้าไปด้านใน

     

     

    ทำไมมันช่างดูเหมาะสมกันขนาดนี้วะ”

     

     

     

    hhhhhhhhh

     

     

     

    ภายในห้องพักฟื้น ร่างของโฮดงนอนอยู่บนเตียงที่มีเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ช่วยชีวิตต่างๆ เยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งสายน้ำเกลือ ถุงเลือด เครื่องกระตุ้นการหายใจ รวมถึงเครื่องตรวจจับชีพจรและอัตราการเต้นของหัวใจ

     

     

    ดองเฮรีบถลาเข้ามากอบกุมฝ่ามือของบิดาไว้มั่น พยายามกลั้นน้ำตาแห่งความอ่อนแอไว้ภายใน ส่งรอยยิ้มสวยที่บิดาชอบเป็นกำลังให้ จะได้มีแรงต่อสู้กับโรคร้ายนี้

     

    ซีวอนเดินตามมาแล้วมาหยุดลงตรงหน้าเตียง ส่งรอยยิ้มให้โฮดงด้วยความเห็นใจและส่งกำลังใจให้ ก้มศีรษะทำความเคารพคนที่มีอาวุโสมากกว่าตน

     

     

    คุณพ่อรู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ เจ็บตรงไหนบ้าง เดี๋ยวคุณพ่อก็จะหายแล้วนะครับ คุณพ่อต้องอดทน อย่ายอมแพ้นะครับ

    พ่อรู้ตัวเองดี หนูด๊อง..... พ่อคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน อย่าร้องไห้นะลูก เกิดแก่เจ็บตายมันเป็นเรื่องธรรมดา

     

     

    ไม่ครับ เดี๋ยวคุณพ่อผ่าตัดอีกครั้ง คุณพ่อก็จะหายดี กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้แล้ว อย่าพูดเรื่องอย่างนี้อีกนะครับ ด๊องใจไม่ดีเลย ถ้าคุณพ่อไม่อยู่ แล้วด๊องจะอยู่กับใครล่ะครับ คุณพ่อต้องหายนะครับ

     

    ไม่มีใครฝืนชะตาได้หรอกลูก..... คุณซีวอนครับ ซีวอนสะดุ้งตัวเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตน

     

    หลังจากที่นั่งฟังบทสนทนาของสองพ่อลูกแล้วรู้สึกสงสารคนตัวเล็กแสนแกร่งตรงหน้าเป็นอย่างมาก เขารับรู้ความเคลื่อนไหวของคนหน้าหวานมาโดยตลอด ตั้งแต่ประกาศขายทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มี

    เพราะเขาก็เป็นคนกว้านตามซื้อของทุกอย่างของสองพ่อลูกไว้เอง ซ้ำยังให้ราคาสูงกว่าท้องตลาดด้วยซ้ำ เขานับถือน้ำใจของดองเฮเป็นอย่างมาก ตัวเองยอมลำบากเพื่อให้บิดาได้สบายในชีวิตบั่นปลายมากที่สุด

     

     

    ครับคุณโฮดง ผมอยู่ตรงนี้แล้วครับ

    ผะ...ผมมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณบางเรื่องน่ะครับ... มะ...ไม่ทราบว่าจะเป็นการรบกวนเกินไปหรือเปล่า

     

    เรื่องอะไรครับ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงที่ผมพอจะช่วยได้ ผมก็ยินดี ซีวอนรับปากแต่ก็ยังสามารถกันตัวเองได้ หากเรื่องที่โฮดงร้องขอเกินกว่ากำลังของตนเองที่จะช่วยเหลือได้ อาจจะถูกกล่าวหาว่า ตนเป็นคนไม่รักษาคำพูดได้

     

    ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผม...ผะ...ผมรบกวน หะ...ให้คุณ...ดูแลหนูด๊องด้วย เพราะแกไม่เหลือใครแล้ว...จะได้...ไหมครับ โฮดงกล่าวคำติดๆ ขัดๆ ด้วยความเหนื่อยหอบจากการฝืนร่างกายมากเกินความจำเป็น เขาขัดคำสั่งของหมอที่ห้ามไม่ให้ฝืนกำลังของตน

     

     

    คุณพ่อครับ คุณพ่อไม่เป็นอะไรซะหน่อย ทำไมจะต้องฝากด๊องกับนายนี่ด้วย ด๊องจะอยู่กับคุณพ่อ ซีวอนส่ายหน้าเมื่อคนตัวเล็กเริ่มงอแง ดื้อแพ่ง ไม่ยอมรับความจริงที่มีให้เห็นให้ฟัง

     

    คุณซีวอนครับ ผมขอร้อง ถือซะว่าเห็นแก่ผมเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ โฮดงไม่ยอมฟังน้ำเสียงของลูกรักที่ออกอาการงอนอย่างเห็นได้ชัด วอนขอคำตอบกับคุณชายเทพบุตรยอดนักธุรกิจของประเทศ ด้วยความหวังอีกครั้ง

     

    ได้ครับ ผมจะดูแลคุณหนูดองเฮให้ดีที่สุด ผมให้สัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย ซีวอนตกปากรับคำอย่างเห็นใจคนตรงหน้า และความต้องการของตนที่อยู่ไม่ลึกเท่าไรนักสั่งให้ทำ

     

    หนูด๊องล่ะลูก รับปากพ่อได้ไหมว่าหนูจะไปอยู่กับคุณซีวอน รับปากพ่อได้ไหม โฮดงมองหน้าลูกชายด้วยความรักทั้งหมดที่มี มองเป็นครั้งสุดท้าย เขารู้ตัวดีว่าคงจะไม่สามารถอยู่ร่วมกับบุตรของตนได้อีกแล้ว เวลาเหลือน้อยเต็มที

     

    ดองเฮพยักหน้าตอบบิดาด้วยน้ำตานองอาบเต็มแก้มเนียนใสทั้งสองข้าง ด้วยความสะเทือนใจ รับรู้อุณหภูมิของบิดาที่เริ่มจะลดลงจากมือที่กอบกุมอยู่

     

     

    ครับ... ด๊องรักคุณพ่อนะครับ

    พ่อก็รักลูก รักมาก ผมฝากดวงใจของผมด้วยนะครับคุณซีวอน

     

     

    โฮดงส่งรอยยิ้มให้บุตรชาย เอ่ยคำฝากฝังอีกครั้งกับชายหนุ่มอีกคน หลับตาลงด้วยรอยยิ้ม หมดห่วงแล้วเมื่อคนที่รักมากที่สุดมีคนคอยดูแล

     

     

    ..... พร้อมกับเสียงของเครื่องตรวจวัดชีพจร อัตราการเต้นของหัวใจดังต่อเนื่องยาวเป็นเสียงเดียว .....

     

     

    ดองเฮซบใบหน้ากับอกอุ่นของบิดา สะอื้นจนตัวโยนกับร่างไร้วิญญาณของผู้ให้กำเนิด

     

    ซีวอนมองภาพตรงหน้าด้วยความสะเทือนใจ เดินเข้ามารั้งคนตัวเล็กไว้ในอ้อมกอด

     

    เมื่อหมอและพยาบาลต่างวิ่งเข้ามาดูอาการเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณของเครื่องช่วยชีวิต จนกระทั่งหมอหนุ่มนำผ้าสีขาวขึ้นมาปิดใบหน้าของโฮดงเป็นการยืนยันว่าคนไข้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ

     

     

    ซีวอนกอดปลอบ ลูบผมนุ่มของร่างเล็กที่สั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้นไห้อย่างอ่อนโยน โดยดองเฮกอดร่างหนาแน่น ฝังหน้าร้องไห้กับอกแกร่ง ลืมอาย ลืมความโกรธเคืองที่เคยมีมาจากการกระทำของซีวอนสิ้น

     

     

    หลับให้สบายนะครับคุณโฮดง ไม่ต้องห่วงคุณหนูดองเฮ ผมจะดูแลเป็นอย่างดี ผมสัญญา

     

     

     

     

     

     

     

    <<<  íîíîíîíîíîíîíîíîíîíîíîíîíî >>>

     

     













    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×