คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2
“ไม่!!!!! องค์ชายเยซองทรงปล่อยกระหม่อมเดี๋ยวนี้นะพะย่ะค่ะ องค์ชายเยซองทรงอย่าเล่นพิเรนทร์อย่างนี้นะพะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่สนุกด้วยนะพะย่ะค่ะ!!!!” สองหัตถ์เล็กยกปิดพระกรรณโดยพลัน หลังสดับเสียงกัมปนาทขององครักษ์หน้าหวานคู่กายที่กำลังแผดลั่นด้วยความไม่พอใจอย่างยิ่งยวด
“เอาน่า ... เจ้าใจเย็น ๆ ก่อนสิ แค่ชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้นเอง แค่นี้ทำโวยวายไปได้ ... นี่ !! พวกเจ้าจับดงแฮไว้ดี ๆ สิ”
“เฮ้ย !!! ปล่อยนะพวกเจ้า !! ข้าบอกให้ปล่อย อย่าให้ข้าหลุดไปได้นะ พวกเจ้าได้เห็นดีกับข้าแน่” แม้ตัวจะเล็ก แต่แรงกำลังยังคงเป็นดั่งเช่นบุรุษทั่วไป อีกทั้งยังได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ทำให้บรรดาองครักษ์ระดับล่างต้องออกแรงในการจับรั้งองครักษ์หน้าหวานสหายสนิทขององค์ชายเยซองมากกว่าปกติ จนออกอาการหอบไปตาม ๆ กัน
“ขออภัยขอรับท่านดงแฮ อย่าโกรธพวกข้าน้อยเลยนะขอรับ พวกข้าน้อยต้องปฏิบัติตามพระบัญชาขององค์ชายเยซอง พวกข้าน้อยไม่อาจขัดขืนได้” รองหัวหน้าองครักษ์กล่าวด้วยความรู้สึกผิดไม่น้อย ที่ต้องกระทำกับบุคคลที่มียศตำแหน่งสูงกว่าตน และยังเป็นบุคคลที่ตนนั้นให้ความเคารพอีกด้วย แต่ถึงกระนั้น ตนก็ไม่สามารถขัดขืนพระประสงค์ของผู้ที่มีอำนาจสูงส่งยิ่งกว่าไปได้เช่นกัน
“องค์ชายเยซองทรงรับสั่งให้เจ้าพวกนี้ปล่อยกระหม่อมเดี๋ยวเลยนะพะย่ะค่ะ” องครักษ์หน้าหวานที่ตอนนี้มีใบหน้าบูดบึ้งทันควัน ตวัดสายตาขุ่นเคืองมายังบุคคลต้นเหตุ โดยลืมคำนึงถึงยศตำแหน่งของอีกฝ่ายชั่วขณะ สติที่มีอยู่ระลึกเพียงว่าบุคคลตรงหน้าเป็นสหายสนิทตั้งแต่เมื่อครั้งวัยเยาว์ที่เคยเล่นหัวเล่นหาง กินนอนร่วมกันมาเท่านั้น
“เราไม่ปล่อย เจ้ามีปัญหาอะไรไหม ... เจ้าก็อดทนเพียงชั่วครู่มันจะเป็นไรไป เราไม่ได้สั่งให้เจ้าไปตายซะหน่อย” องค์ชายเยซองยิ่งทรงสำราญกว่าเดิมมาก เมื่อสหายรักถอดหัวโขนที่ประดับลงกลับมาเป็นเพียง ชอง ดงแฮ อีกครั้ง
“ถ้าเป็นเยี่ยงนั้นได้จะดีเสียกว่าพะย่ะค่ะ” หลังกล่าวจบ สองปรางค์ใสพองออก กอปรกับดวงตาขุ่นคว่ำมากกว่าเดิมยิ่งนัก
บรรดาองครักษ์ต่าง ๆ ที่ร่วมอยู่ด้วย ต่างพากันตาโต อ้าปากค้างให้กับท่วงท่าที่ไม่เคยได้พบเห็นขององครักษ์หน้าหวานผู้เก่งกาจที่พวกตนนั้นยกย่อง เคารพ ยอมรับในความสามารถทั้งหมดที่มี ท่วงท่าต่าง ๆ ที่ปรากฎให้เห็นในวันนี้ช่างดูแปลกตาเสียยิ่งนัก
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ... แหม ๆ เจ้านี่ก็ช่างมีอารมณ์ขันเสียจริง ๆ เลยนะ เราไม่สั่งให้สหายรัก สหายที่เราสนิทด้วยมากที่สุดเพียงคนเดียวของเราต้องเดินทางไปสู่ดินแดนสุขาวดีไวอย่างนั้นหรอกน่า ... ตามใจเราหน่อยไม่ได้เหรอ เราแค่อยากเห็นเจ้าแต่งชุดแบบนี้ก็เท่านั้นเอง” สุรเสียงเอกลักษณ์ประจำองค์สรวญลั่นห้องส่วนพระองค์ วันนี้มีแต่เรื่องสำราญหทัยเกิดขึ้นมากมายให้ได้ยลทั้งนั้น คงจะต้องจดจำเหตุการณ์ในวันนี้ไปอีกนานนับปี
“แล้วทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยพะย่ะค่ะ อีกอย่างหนึ่ง เครื่องแต่งกายเยี่ยงอิสตรีเต็มยศพวกนั้น มันหมายความว่าอะไรพะย่ะค่ะ กระหม่อมขอรบกวนองค์ชายเยซองโปรดทรงช่วยแจ้งความแจ่มชัดให้กระหม่อมเข้าใจทีเถิดพะย่ะค่ะ” เสียงที่เคยหวานระรื่นหู จับใจผู้ฟังมานักต่อนัก ช่างแตกต่างกับตอนนี้อย่างสิ้นเชิง ทำปากยื่นไปยังทิศทางกองเครื่องแต่งกายมากมาย และสามารถเรียกอาการตะลึงงันจากบรรดาองครักษ์คนอื่น ๆ ได้อีกคราเช่นกัน
“โอ้...ดงแฮเอ๋ย เจ้าช่างปราดเปรื่องเสียจริง เราไม่เคยตะล่อมไล่ต้อนเจ้าให้จนมุมได้สักที ในเมื่อเจ้าเข้าใจความประสงค์ของเราชัดเจนแจ่มแจ้งแล้ว ทำใจยอมรับซะเถอะนะ ...
แหม ... เราชักตื่นเต้นแล้วสิ อยากเห็นพระพักตร์ของเจ้าพี่ซีวอนเสียจริง เวลาที่ทรงทอดพระเนตรเห็นเจ้าแต่งกายด้วยชุดแบบนี้เข้าร่วมงานด้วย เจ้าพี่ซีวอนจะทรงมีพระอาการเยี่ยงไร ... นางกำนัลเข้ามาช่วยกันแปลงโฉมท่านองครักษ์ของเราได้แล้ว เสียเวลามามากแล้ว เดี๋ยวพิธีการสำคัญจะเริ่มขึ้นมาซะก่อน ... มาเร็ว ๆ เข้าสิ”
“ไม่นะ !!! พวกเจ้าอย่าเข้ามาใกล้ข้านะ อย่าหาว่าข้าไม่เตือน !!! ... องค์ชายเยซองทรงอย่าทำกับกระหม่อมเยี่ยงนี้นะพะย่ะค่ะ” เจ้าคนตัวเล็กโวยวาย แผดเสียงดังกังวานลั่นห้อง พยายามบิดแขน สะบัดกายให้หลุดพ้นจากการเกาะกุม หากแต่ว่ามิเป็นผลเช่นเดิม
“เอะอะอะไรกันเยซอง !!! เสียงดังไปถึงอุทยานโน่น”
เสียงทรงอำนาจดังขึ้น ขัดจังหวะความสำราญขององค์ชายรองโดยพลัน พระพักตร์อูมหันไปยังที่มาของเสียงดังกล่าว รอยแย้มปริเต็มสองปรางค์ เมื่อครั้นทอดพระเนตรว่าเป็นผู้ใดที่เข้ามาขัดเวลาความสำราญของตนแล้ว จึงรีบดำเนินเข้าไปประคองโดยเร็ว
“ถวายพระพรเสด็จแม่ มิมีเหตุอันใดร้ายแรงหรอกพะย่ะค่ะ ลูกเพียงแค่หยอกล้อท่านองครักษ์หน้าหวาน สหายสนิทของลูกนิดหน่อยน่ะพะย่ะค่ะ ... เจ้าก็โวยวายเสียงดังไปได้นะดงแฮ” องค์ชายเยซองทรงรีบเอ่ยตอบคำถามของพระมารดาโดยพลัน แล้วจึงหันไปตีหน้ายักษ์ใส่เพื่อนตัวเล็กที่ยังคงดิ้นไปมาเป็นปลาขาดน้ำดังเดิม
เมื่อเห็นบุคคลที่เข้ามาใหม่นั้น มีอำนาจสามารถบังคับสหายผู้สูงศักดิ์ของตนโดยมิอาจโต้แย้งได้ จึงรีบกราบทูลต่อองค์ราชินีขอความช่วยเหลือทันที
“ถวายบังคมพะย่ะค่ะองค์ราชินี ... หาได้เป็นเช่นนั้นไม่พะย่ะค่ะ ขอได้ทรงโปรด องค์ราชินีทรงช่วยกระหม่อมด้วย องค์ชายเยซองทรงมีสติวิปลาสไปแล้วพะย่ะค่ะ” องค์ราชินีหันควับ ตวัดสายตาขุ่นเคืองมองทันที
“เอ่อ...ขอประทานอภัยพะย่ะค่ะ” องครักษ์หน้าหวานถึงกับหน้าหดลงทันที รีบคุกเข่าก้มหน้าลงพื้น รอรับอาญาจากการหมิ่นเบื้องสูง
“เสด็จแม่ทรงอย่าถือสา ดงแฮแค่ยังทำใจยอมรับในสิ่งที่ลูกให้ทำไม่ได้เท่านั้นเองพะย่ะค่ะ เจ้าตัวก็เลยโวยวายเสียงดังไปบ้าง มิได้มีเจตนาจะดูหมิ่นลูกหรือกระไรเลย เสด็จแม่โปรดทรงอภัยด้วย” องค์ชายเยซองทรงทอดพระเนตรเห็นเพื่อนรักนั่งหน้าสลด มีรึที่องค์ชายรูปงามที่สุดในสามภพจะใจร้ายใจดำทนดูเฉย ๆ ได้ ต้องยื่นมือเข้าช่วยก่อนที่เรื่องจะเลยเถิดไปกันใหญ่
“แม่ไม่ได้ว่ากระไรหรอก เพราะดงแฮก็เปรียบประหนึ่งบุตรของแม่อีกคนเช่นกัน แม่เข้าใจว่าพวกลูกสนิทสนมกันมากนัก” องค์ราชินีส่ายพระพักตร์เล็กน้อยให้กับความเข้าใจผิดของบุตรชาย
“ขอบพระทัยเสด็จแม่ที่มิทรงถือสา”
“ขอบพระทัยองค์ราชินีที่มิทรงถือสาหาความ นับว่าเป็นบุญของกระหม่อมยิ่งนักที่ได้รับพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กระหม่อมจะจงรักภักดีตราบเท่าชีวีจะหาไม่พะย่ะค่ะ” ดงแฮประกบฝ่ามือยกขึ้นระดับศีรษะ น้อมรับในน้ำพระทัยอันกว้างขวางและความเมตตากรุณาขององค์ราณีที่ประทานให้แก่ตนเสมอมา
“ช่างซาบซึ้งยิ่งนัก เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าวาจาของเจ้านั้นเป็นคำสัตย์จริง รีบ ๆ เข้าไปเปลี่ยนชุดซะ” องค์ชายเยซองทรงคิดว่าองครักษ์หน้าหวานจะหลงกลเล่นไปตามน้ำด้วยความพลั้งเพลอ แต่สหายรักมิได้หลงกลแต่อย่างใด กลับแผดเสียงตวาดใส่ซะลั่นห้อง
“ไม่พะย่ะค่ะ!!! องค์ชายเยซองทรงอย่าใช้ความจริงใจ สิ่งตั้งมั่นของกระหม่อมมาเล่นสนุกเพียงชั่วครู่ชั่วคราวนะพะย่ะค่ะ”
“เราแค่อยากมั่นใจว่าวจีเสนาะหูที่เจ้าได้กล่าวมาเมื่อสักครู่นั้น จะมีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด สามารถเชื่อถือได้เพียงไหน”
“แต่พระองค์ก็มิควรนำเรื่องนี้มาเป็นข้อต่อรองนะพะย่ะค่ะ ทุกคำสัตย์ที่กระหม่อมถวายให้นั้น หมายถึงความจงรักภักดีต่อองค์เหนือหัวและเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ หาใช่เพียงมธุรสหวานหูเพื่อหาทางรอดให้กับตนเองเท่านั้น
กระหม่อมยินดีถวายชีวิตโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น หากว่านั่นคือความประสงค์ของบรรดาเหล่าเชื้อพระวงศ์ ไม่ว่าจะเป็นพระองค์ไหนก็ตาม หาใช่คำเท็จไม่ และมิใช่วัจนะเพื่อสนองความสนุกส่วนพระองค์อย่างเช่นองค์ชายเยซองตรัสเมื่อสักครู่พะย่ะค่ะ” ดงแฮชี้แจง ยืนยันให้ผู้สูงศักดิ์ทั้งสองได้เข้าใจยังสิ่งที่ตนนั้นปฏิญาณไว้เมื่อครั้งเข้ารับราชการใหม่ ๆ และยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเป็นต้นมา
“แล้วถ้าหากว่าเป็นคำขอร้องล่ะ ดงแฮจะว่าเยี่ยงไร มีความคิดเห็นเป็นเช่นไรบ้าง”
“องค์ราชินี!!!” / “เสด็จแม่!!!~”
“ดงแฮยังไม่ได้ตอบเราเลยนะ หากว่าเป็นคำขอร้องของเรา ดงแฮจะว่าอย่างไรบ้าง”
“เอ่อ ... คือ ... กระหม่อมคิดว่า ... เอ่อ ...” ชอง ดงแฮเกิดอาการคิดหนักกันเลยทีนี้ เมื่อได้ฟังวาจาที่คาดไม่ถึง อยากจะแกล้งทำเป็นหูหนวก ไม่ได้ยินขึ้นมากะทันหันเสียเดี๋ยวนี้
องค์ราชินีทอดพระเนตรบุคคลที่ตนเอ็นดูเสมือนบุตรในอุทรธ์มีสีหน้าคิดหนักมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าพันเท่า คงจะนึกว่าตนนั้นไม่วางใจถึงคำกล่าวทั้งหลาย สุรเสียงนิ่มนวลเอ่ยตรัสวาจาปลอบขวัญ
“เราไม่ได้ระแวงในวัจนะที่เป็นคำสัตย์ดั่งที่เจ้าเอื้อนเอ่ยออกมาหรอกนะ เพราะเราตระหนักถึงความจงรักภักดีของตระกูลชองมาทุกชั่วรุ่นที่ไม่เคยบิดพลิ้ว ยึดถือคำสัตย์ที่ได้สาบานตนไว้ยิ่งชีพ”
“และจะยังคงเป็นเช่นนั้นตลอดไปตราบชั่วลูกชั่วหลานพะย่ะค่ะ” ดงแฮยืดอกรับด้วยความภูมิใจ องค์ราชินีแย้มสรวญ พระเนตรส่องประกายแวววาว
“ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว เจ้าจะรับฟังคำขอร้องของเราดังกล่าวได้หรือไม่ ถ้าเราทำให้เจ้าลำบากใจ เราก็ขออภัยด้วย” พระพักตร์สลดลงเล็กน้อย แต่หางพระเนตรชำเลืองท่าทางขององครักษ์ร่างเล็กฝีมือเยี่ยมไม่วางเว้น
“เอ่อ ... เฮ้อ~ ... ตกลงพะย่ะค่ะ กระหม่อมจะทำตามพระประสงค์ องค์ราชินีทรงอย่าทำพระพักตร์เยี่ยงนั้นเลยพะย่ะค่ะ กระหม่อมรู้สึกไม่สบายใจ”
“จริง ๆ รึ ไม่ได้โกหกคนแก่อย่างเราให้ดีใจเล่นหรอกนะ”
“กระหม่อมมิกล้าเอ่ยคำเท็จต่อเบื้องพระพักตร์หรอกพะย่ะค่ะ”
“เราขอขอบใจดงแฮมากเลยนะที่ยอมทำตามความต้องการของเรา ... เยซอง เครื่องแต่งกายที่จะให้ดงแฮสวมใส่อยู่ที่ไหนกัน นำมาให้แม่ดูหน่อยสิ” ครั้นได้สิ่งที่หวังจากองครักษ์หน้าหวานตัวจ้อยแล้ว องค์ราชินีจึงหันไปสอบถามลูกรักหน้าอูม
“นี่พะย่ะค่ะเสด็จแม่” องค์ชายรองแย้มสรวญจนพระเนตรหยีลงแทบจะมองไม่เห็น รีบนำเครื่องแต่งกายเต็มยศที่หญิงสาวทั้งหลายชอบสวมใส่กันมาหนึ่งชุดจากเสื้อผ้ากองโตให้พระมารดาทอดพระเนตร
“ชุดนี้น่ะรึ ลูกเป็นคนเลือกเองหรือไร” องค์ชายดวงพักตร์อวบอิ่มรีบพยักพระพักตร์ตอบ
“เฮ้อ~ ใช้ไม่ได้เลย ... มีฮโย เจ้ารีบไปตามท่านมินจีให้เตรียมเครื่องหอม เครื่องประทินผิวต่าง ๆ แล้วก็เครื่องแต่งกายสำหรับการเข้าร่วมงานพิธีมาด้วย ... อ้อ นำมาหลาย ๆ ชุดก็แล้วกัน เราจะได้เลือกชุดที่เหมาะกับดงแฮมากที่สุด ส่วนพวกที่เหลือช่วยกันพาดงแฮเข้าไปชำระร่างกายให้สะอาดระหว่างรอท่านมินจีมาถึง เร็ว ๆ เข้า ทุกอย่างต้องเรียบร้อยก่อนเวลาสำคัญจะเริ่มขึ้น เข้าใจไหม”
“เพคะองค์ราชินี เชิญท่านดงแฮทางนี้เจ้าค่ะ”
“เอ่อ ... เฮ้อ~” องครักษ์หน้าหวานคิดไม่ตก ได้แต่เดินคอตกตามนางกำนัลทั้งหลายไปอย่างเสียมิได้ แม้ในใจนั้นคิดแต่เพียงว่า ไม่รู้คิดผิดหรือคิดถูกที่ยอมทำตามพระประสงค์ของทั้งสองพระองค์ หรือว่าตนเองนั้นคิดผิดตั้งแต่ที่เริ่มคบหาสมาคมกับองค์ชายเยซองเมื่อสมัยเป็นเด็กแล้วกันแน่
***************************************************************************
ภายในห้องบรรทมส่วนพระองค์ ตอนนี้คราคร่ำไปด้วยข้าราชบริพารที่มาถวายงาน แพรพรรณที่ออกแบบและตัดเย็บโดยช่างที่มีฝีมือมากที่สุดในเมืองหลวงถูกนำมาวางเรียงรายให้องค์รัชทายาททรงเลือกได้ตามพระทัย เครื่องประดับ เครื่องทรงมากมายวางตามมุมต่าง ๆ เพื่อให้เข้ากับฉลองพระองค์ที่จะทรงสวมใส่ในงานพิธีที่กำลังจะเริ่มในมิช้า
แต่ว่าองค์รัชทายาทผู้งามสง่ากลับมิได้เคร่งครัดในเรื่องนี้มากนัก โดยส่วนพระองค์แล้วมิใคร่จะใส่ใจซะด้วยซ้ำ อยากจะแย้มโอษฐ์เอ่ยบอกกับบรรดานางใน ข้ารับใช้เหลือเกินว่า หยิบชุดไหนมาให้ตนใส่ก็ได้ไม่ขัดข้องอยู่แล้ว เพราะถึงยังไงตนก็ต้องเข้าร่วมงานที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่เพลาข้างหน้านี้ อยากจะหายตัวหนีหายไปจากที่นี่ ไม่ให้ใครตามหาเจอ ให้ผ่านพ้นวันนี้ไปก่อนก็ยังดี แต่เนื่องจากตนนั้นไม่สามารถกระทำเยี่ยงนั้นได้ จึงจำเป็นต้องเลือกมาหนึ่งชุด แล้วก็ได้แต่ประทับนิ่งเป็นหุ่นให้คนเหล่านั้นแต่งองค์ทรงเครื่องจนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหลายแหล่ถึงได้พากันออกไป
หลังจากที่บรรดาข้ารองพระบาททั้งหลายได้ออกไปกันหมดแล้ว เวลาส่วนพระองค์เพียงเล็กน้อยที่ตนปรารถนาก็ดำเนินมาถึง องค์รัชทายาทในเครื่องฉลององค์เต็มยศเพิ่มความมีสง่าราศีมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมยิ่งนัก หากพระโอษฐ์ที่บางเฉียบยิ่งกว่าอิสตรีจะแย้มออกสักนิด คงไม่มีผู้ใดปฏิเสธความงามสง่าจนต้องมอบดวงใจทั้งดวงให้พระองค์ได้ครอบครองเป็นแน่
เพียงแต่ว่า ดวงใจที่องค์รัชทายาททรงอยากครอบครองไว้แต่เพียงผู้เดียวมากที่สุดนั้น คงจะไม่มีวันเป็นจริงขึ้นมาได้อย่างแน่นอน ...
“หากเจ้าสามารถมาเข้าร่วมงานวันนี้ได้ก็คงจะดีไม่น้อย แต่เราก็คงจะหวังมากเกินไป ความฝันเล็ก ๆ ของเราคงไม่สมปรารถนาในชาตินี้เป็นแน่” ถ้อยคำรำพึงจากสุรเสียงนุ่มทุ้มลอยตามสายลมอ่อนพัดผ่านพระองค์ทรงฝากความหวังให้สายลมนี้เป็นตัวช่วยในการส่งข้อความจากดวงหทัยที่อัดแน่นอยู่ในพระอุระไปยังท่านผู้นั้นให้ได้รับรู้สักนิดก็ยังดี ...
***************************************************************************************
“ว๊าก!!! โอ๊ย เจ็บ!!! ฮ่า ๆ มันจั๊กกะจี้นะ อย่าทำแบบนั้น ฮ่า ๆ”
“อยู่นิ่ง ๆ สิเจ้าคะท่านดงแฮ พวกข้าทำไม่ถนัดนะเจ้าคะ”
“ก็มันจั๊กกะจี้นี่ ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
“ท่านดงแฮอย่าตีน้ำเจ้าค่ะ พวกข้าเปียกไปหมดแล้ว”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ”
เสียงอึกทึกครึกโครมภายในห้องน้ำส่วนพระองค์ขององค์ชายเยซองที่ตอนนี้มีลิงทโมนบางตัวครอบครองอยู่ ไม่ต้องเข้าไปดูให้เห็นกับตา เพียงแค่ได้ยินเสียงก็พอจะนึกภาพออกว่าเกิดอะไรขึ้นในนั้น เจ้าลิงกังในคราบขององครักษ์ผู้เก่งกาจคงจะกำลังแผลงฤทธิ์ออกเดชเพื่อรั้งเวลาที่เจ้าตัวคิดว่าอัปยศในชีวิตไว้ให้นานที่สุด
“ดงแฮเป็นเยี่ยงนี้ประจำเลยรึเยซอง แม่ล่ะสงสัยยิ่งนัก” สีพระพักตร์ขององค์ราชินีมีทีท่าขบคิดอย่างหนัก
“เรื่องปกติน่ะพะย่ะค่ะ คือว่า เจ้านั่นบ้าจี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว อีกอย่างคงจะหาเรื่องถ่วงเวลาด้วยนะพะย่ะค่ะ” องค์ชายเยซองเฉลยความอย่างรู้ทันความคิดของสหายสนิทของตน
“เฮ้อ~ ป่านนี้ห้องน้ำของลูกคงจะเละเทะ ไม่มีดีแน่ ๆ ซนจริง ๆ เชียว” เหมือนจะต่อว่า หากเพียงว่าสายพระเนตรที่เปี่ยมไปด้วยความเอ็นดูนั้นบ่งบอกถึงความรู้สึกที่แท้จริงได้เป็นอย่างดี
“ถวายพระพรเพคะองค์ราชินี องค์ชายเยซอง หม่อมฉันจัดเตรียมสิ่งของที่พระองค์ประสงค์มาให้แล้วเพคะ”
“โอ้... ท่านมินจีมาได้เวลาพอดิบพอดี ข้ากำลังต้องการคนปราบลิงทโมนอยู่เชียว เชิญท่านมินจีเข้าไปด้านในได้เลย เราขอเลือกเครื่องแต่งกายแปลงโฉมให้ลิงทโมนแสนซนด้านในก่อนนะ” องค์ราชินีผายพระหัตถ์ไปทางด้านหลัง สายพระเนตรวิบวับจับจ้องเครื่องทรงโอฬารต่าง ๆ มากมาย
“เพคะ...”
นางกำนัลผู้ได้รับหน้าที่ปราบลิงกังตัวขาวน้อมรับคำสั่งโดยพลัน รีบเคลื่อนกายยังจุดหมายทันที แต่แล้วก็แทบลมจับ เมื่อเห็นสภาพของห้องน้ำส่วนพระองค์ที่เคยสวยงามนั้น บัดนี้ได้กลับกลายเป็นสิ่งตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
“ว้าย...ตายแล้ว!!! ทำไมมันถึงได้เละเทะแบบนี้กัน ท่านดงแฮหยุดเล่นน้ำเดี๋ยวนี้นะเจ้าคะ พวกเจ้ารีบเข้าไปจับตัวท่านดงแฮให้อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวข้าจะเป็นผู้ลงมือเอง”
ลิงกังตัวขาวจอมป่วนสะดุ้งโหยง เมื่อได้ยินเสียงแห่งความหายนะที่กำลังคืบคลานมาถึงตน
“อ้ายหย๋า ซี้แล้วดงแฮเอ๋ย ไม่น่าเล่นเพลินไปหน่อยเลย โอ๊ย!!! เจ็บ ๆ ท่านมินจีช่วยเบามือหน่อย ผิวข้าจะถลอกหมดแล้ว”
“ต้องขัดแรง ๆ อย่างนี้สิเจ้าคะ คราบไคลต่าง ๆ จะได้ออกหมด อยู่เฉย ๆ นะเจ้าคะ ไม่เยี่ยงนั้นจะเจ็บมากกว่านี้” ยิ่งมีเสียงร้องโหยหวนขององครักษ์แสนซนมากเท่าไหร่ ยิ่งเสมือนเป็นการกระตุ้นให้ผู้ปราบพยศมือฉมังออกแรงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
“ข้าอยู่เฉย ๆ แล้วไง เบา ๆ หน่อยสิ มันเจ็บนะ” น้ำตาขององครักษ์หน้าหวานปริ่มคลอเต็มสองเบ้า นึกแค้นใจสหายผู้สูงศักดิ์ของตนยิ่งนัก
องค์ชายเยซองทรงระวังองค์ไว้ให้ดีนะ เจ็บนี้กระหม่อมจะต้องขอทวงคืนให้ได้ คอยดู โอ๊ย!!! เจ็บ ๆ ๆ ๆ
************************************************************************
“อืม ชุดนี้น่าจะเข้าที ดงแฮใส่แล้วจะช่วยขับผิวพรรณให้ผุดผ่องมากขึ้น ลูกมีความเห็นว่ายังไง”
“ตามแต่เสด็จแม่จะเห็นสมควรพะย่ะค่ะ บอกตามตรง ลูกไม่มีความรู้เรื่องนี้สักเท่าใดนัก ดูอย่างชุดที่ลูกเลือกให้ดงแฮตอนแรกสิพะย่ะค่ะ ถ้าดงแฮใส่คงจะประหลาดพิลึก”
“ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพียงแต่ว่าดงแฮเหมาะกับชุดแบบนี้มากกว่าชุดที่ปิดถึงต้นคอเยี่ยงนั้น”
“ฮ่า ๆ เห็นจะเป็นเยี่ยงนั้นนะพะย่ะค่ะ เอ่อ ... เสด็จแม่ คือว่าลูกมีข้อสงสัยบางอย่างจะทูลถามพะย่ะค่ะ”
“เรื่องที่แม่เห็นดีเห็นงามยอมเล่นไปกับลูกด้วยนะรึ ... ไม่มีเหตุผลอื่นใดมากมายหรอก เพราะแม่รู้ดีว่างานเลือกคู่ในวันนี้ พี่ของลูกก็คงมิเลือกผู้ใดมาเป็นชายาเป็นแน่ เรื่องนี้แม่ว่าลูกก็รู้ดีอยู่แก่ใจอยู่แล้วมิใช่รึ จะมาถามแม่เพื่ออันใดกัน”
“เสด็จแม่ทรงทราบเรื่องราวมาก่อนรึพะย่ะค่ะ”
“เปล่าเลย แม่แค่เดาเท่านั้น มันมีความเป็นไปได้ตั้งมากมายที่ทำให้แม่คิดแบบนี้ หากว่าซีวอนมิได้เลือกใครในงานวันนี้ ก็คงอาจจะเป็นว่าซีวอนมิได้มีใจปฏิพัทธ์กับหญิงงามทั้งหลายอย่างที่แม่คาดเดาเป็นแน่”
“ถ้าสมมติว่า เจ้าพี่ซีวอนทรงเข้าข่ายอย่างที่เสด็จแม่ตรัสมา เสด็จแม่และเสด็จพ่อจะทรงทำพระทัยให้ยอมรับได้หรือพะย่ะค่ะ”
“เยซอง... ไม่มีพ่อแม่คนไหนจะยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของลูกไม่ได้หรอกนะ พ่อกับแม่เพียงแค่หวังให้ลูกของตนเป็นคนดีเท่านั้นก็พอแล้ว ...
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ถ้าซีวอนเลือกดงแฮจริง แม่ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ดีกว่าจะให้ซีวอนเลือกใครที่ไหนก็ไม่รู้มาเป็นคู่ครอง สู้เลือกคนที่รู้เห็นนิสัยกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยดีกว่าเป็นไหน ๆ”
“แล้วเรื่องทายาทสืบสกุลล่ะพะย่ะค่ะ”
“ลูกไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ แม่เตรียมการสำหรับเรื่องนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว ดงแฮอาจจะลำบากในช่วงแรก แต่ต่อไปก็คงจะชินในไม่ช้า”
“เสด็จแม่ทรงหมายความว่ายังไงพะย่ะค่ะ ลูกไม่เข้าใจ”
“ไม่เข้าใจน่ะดีแล้ว ลูกอย่ารู้อันใดมากเลย เดี๋ยวจะเผลอตัวไปบอกดงแฮซะก่อน แล้วดงแฮไม่ยอมขึ้นมาจะเป็นเรื่องทีหลัง ลูกมาช่วยแม่เลือกชุดที่เข้ากับหนูดงแฮดีกว่า แม่อยากเห็นไว ๆ ซะแล้วสิ หนูดงแฮใส่แล้วจะงามขนาดไหนกันนะ”
“หนูดงแฮเหรอพะย่ะค่ะ ลูกฟังแล้วจั๊กกะจี้ชอบกล”
“ฮิฮิ ... แม่อยากเรียกแบบนี้มาตั้งนานแล้ว น่ารักดีออก”
“ตามพระทัยเสด็จแม่พะย่ะค่ะ แต่ลูกขอเรียกแบบเดิมดีกว่า ไม่อยากตายด้วยสายตาพิฆาตน่ะพะย่ะค่ะ”
สองแม่ ลูกต่างช่วยกันเลือกเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับลิงกังจอมป่วนที่โดนปราบจนอยู่หมัดด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้ทุกข์ร้อนกับเสียงหงิง ๆ ที่ดังมาจากห้องน้ำเป็นระยะ ๆ นั่นเลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น