คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : FULL HOUSE ..... 1
Part 1
คฤหาสน์หลังงามของนักธุรกิจชื่อดังที่วันนี้ถูกตกแต่งเต็มไปด้วยดวงไฟน้อยใหญ่หลากสีสันทั่วทั้งพุ่มไม้ และต้นไม้น้อยใหญ่โดยรอบบริเวณพื้นที่กว้างขวางของตัวคฤหาสน์.....
เพื่อจัดงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของบุตรชายคนเดียวของตระกูลที่สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ แขกเหรื่อทั้งหลายที่เชิญมาในวันนี้มีแต่บุคคลสำคัญของวงการธุรกิจแทบทั้งสิ้น
ลี โฮดง เจ้าภาพของงานต้อนรับบรรดาแขกเหรื่อ มิตรสหายทางธุรกิจอย่างแช่มชื่น ภูมิใจในตัวของบุตรชายที่น่ารักของตนที่สามารถคว้าปริญญาบัตรจากสถาบันชื่อดังจากต่างประเทศด้วยคะแนนสูงเป็นอันดับหนึ่ง
ในมุมหนึ่งของงาน... ชายร่างสูงรูปงามเจ้าของฉายา คุณชายเทพบุตร ที่รายล้อมไปด้วยสาวๆ ลูกหลานของนักธุรกิจทั้งหลายที่มาร่วมงานวันนี้ ต่างมุ่งหวังว่าหากเป็นที่พอใจของคนที่กุมอำนาจทางธุรกิจของประเทศเกือบทั้งหมดได้ก็สบายไปทั้งชาติ
แต่ชายหนุ่มรูปงามหาได้สนใจไม่ สายตาจ้องมองไปยังเจ้าภาพของงานด้วยความสมเพช รู้ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังของการจัดงานเลี้ยงต้อนรับบุตรชายในครั้งนี้เป็นอย่างดี รอยยิ้มเย้ยหยันเต็มไปด้วยความดูถูกเลือนหายไปทันทีที่เจ้าภาพของงานหันมาเห็นตนเข้า
ชายหนุ่มร่างสูงต้องรีบบอกแม่สาวๆ ที่เกาะเขาติดเป็นปลิงอย่างมีมารยาทว่าขอไปกล่าวคำทักทายกับเจ้าบ้านก่อน ซึ่งสร้างความเสียดายให้กับหญิงสาวกลุ่มนั้นเป็นอย่างมาก
เนื่องจากชายหนุ่มขอตัวไปทักทายเจ้าบ้านเพียงลำพัง มิได้กล่าวเชิญพวกหล่อนคนใดคนหนึ่งให้ร่วมไปด้วยกันแต่อย่างใด
โฮดงรีบเดินเข้ามาต้อนรับบุคคลสำคัญทั้งในวงการธุรกิจและของงานวันนี้ด้วยความยิ้มแย้ม
“สวัสดีครับ คุณชเว ซีวอน ผมรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างมากที่คุณสามารถมาร่วมงานในวันนี้ได้ ขอบคุณมากนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ พอดีวันนี้ผมว่างก็เลยคิดว่าจะมาดูสินค้าซักหน่อยว่าจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่า ไหนล่ะครับสินค้าที่จะนำมาประมูลในวันนี้ ถ้าไม่น่าสนใจผมจะได้กลับ” โฮดงแทบหน้าหงาย เมื่อได้ยินน้ำคำจากชายหนุ่มรุ่นลูกตรงหน้า กล่าวโต้ตอบวาจาของชายหนุ่มผู้ทรงอำนาจทางธุรกิจให้เข้าใจเสียใหม่
“คุณซีวอนหมายความว่ายังไงครับ นี่ไม่ใช่งานประมูลสินค้านะครับ เป็นงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของลูกชายของผม กรุณาเข้าใจให้ถูกต้องด้วยนะครับ”
“หึหึ..... เหรอครับ อย่าคิดว่าผมไม่รู้เท่าทันความคิดของคุณนะครับคุณโฮดง ตอนนี้ฐานะของคุณเป็นยังไงอย่าคิดว่าจะปกปิดผมได้นะครับ..... แต่ผมไม่คิดว่าคุณจะใช้วิธีนี้มาประคับประคองบริษัทของคุณ” ซีวอนกล่าววาจาเย้ยหยันอย่างไม่คิดจะรักษามารยาทใดๆ ทั้งสิ้น
“คุณซีวอน!!!” โฮดงกัดฟันพูด ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความไม่พอใจ
“ครับ.....? หรือว่าผมพูดอะไรผิดไป ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมก็ต้องกล่าวคำว่า ขอโทษด้วยนะครับ ในความเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อยในงานเลี้ยงวันนี้ของผม ..... แต่ตอนนี้ผมว่าคงจะได้เวลาที่สินค้าควรจะมาโชว์ตัวได้แล้วนะครับ เผื่อผมสนใจอาจจะร่วมลงประมูลกับบรรดานักธุรกิจพวกนั้นก็ได้นะครับ” ว่าจบ ซีวอนก็เดินไปนั่งยังโต๊ะหน้าสุดติดขอบเวทีทันที พร้อมด้วยเลขาที่เป็นเพื่อนสนิทของเขาด้วย
..... ปล่อยให้โฮดงมองตามไปด้วยสายตาเครียดแค้น สองมือกำแน่นเพื่อระงับอารมณ์ที่เพิ่มขึ้นสูง แล้วจึงเดินเข้าไปในตัวคฤหาสน์ทันที .....
hhhhhhhhh
“ไอ้วอน...!!!~ ไอ้ปากหมา!!! เอ็งไปพูดแบบนั้นกับคุณโฮดงได้ยังไงวะ” เสียงของคุณเลขาเพื่อนรักหน้าซาลาเปา กล่าวตำหนิคำพูดคำจาของเพื่อนรักพ่วงตำแหน่งเจ้านายที่เคารพทันทีที่นั่งลงที่โต๊ะด้วยกันแล้ว
“ทำไมไอ้เย่ ข้าพูดอะไรผิด เอ็งก็รู้นี่ก่อนคุณโฮดงจะจัดงานวันนี้ขึ้นมา คุณโฮดงเคยเข้าไปขอความช่วยเหลือจากข้า แต่พอถูกข้าปฏิเสธถึงกับต้องขายลูกตัวเองกิน น่าสมเพช ..... แล้วเอ็งคิดดูว่าเขาจัดงานซะใหญ่โต เชิญนักธุรกิจมาซะมากมายขนาดนี้ แล้วจะไม่ให้ข้าคิดว่าเขาจะประมูลลูกตัวเองขายได้ยังไงวะ” ซีวอนโต้ตอบเพื่อนรักด้วยความไม่พอใจเหมือนกัน ทำไมต้องเข้าข้างคนอื่นด้วย ไอ้เพื่อนเวร!!!
“เออ!!! ที่เอ็งพูดมามันก็ถูก แต่เอ็งก็ไม่ควรไปว่ากล่าวเขาอย่างนั้น จะให้เขาทำยังไงได้วะ ก็ในเมื่อเอ็งไม่อยากให้ความช่วยเหลือเขาเองนี่หว่า แล้วเอ็งคิดว่าเขาเต็มใจที่จะทำอย่างนี้หรือไง..... ข้าคิดว่าไม่เด็ดขาด ไม่มีพ่อคนไหนจะขายลูกกินได้ลงคอหรอก”
“จะให้ข้ายื่นมือเข้าช่วยเหลือบริษัทที่ติดหนี้เป็นพันล้านอย่างนั้นหรือ ไม่เห็นจะคุ้มตรงไหน”
“ทำไมเอ็งต้องคิดถึงแต่กำไรขาดทุนวะ ช่วยคนได้บุญเยอะนะโว้ย อีกอย่างเอ็งก็มีเงินมากตั้งเท่าไร แค่พันล้านขนหน้าแข้งเอ็งไม่ร่วงหรอก”
“เออ!!!... ขนหน้าแข้งข้าไม่ร่วงแน่..... แต่ถ้าคุณโฮดงไม่ติดการพนันอย่างหนัก จนเป็นหนี้ตั้งมากมายขนาดนี้ ข้าก็คงจะให้ความช่วยเหลือไปแล้ว เพราะธุรกิจของเค้าก็น่าสนใจและกำลังไปได้ดีด้วยซ้ำ ..... แต่ข้าว่านะไอ้คุณหนูดองเฮอะไรนี่ ก็คงไม่ต่างจากพ่อเขาเท่าไรหรอก ที่ว่าจบปริญญาจากเมืองนอก ซื้อวุฒิมาหรือเปล่าก็ไม่รู้.... ข้าว่า.....”
“พอๆ หยุดพูดเลยเอ็ง พูดแต่ละคำดีๆ ทั้งนั้น เงียบปากไปเลย รำคาญโว้ย!!!!!” เยซองตัดบทเพื่อนรักทันทีอย่างขี้เกียจฟัง ซีวอนแทบจะถวายฝ่ามือลงบนกบาลโตๆ ของเพื่อนรักให้ยุบลงซะบ้าง..... ช่างขัดดีนัก
hhhhhhhhh
ก๊อก..... ก๊อก..... ก๊อก....
“แต่งตัวเสร็จหรือยังลูก แขกเหรื่อมากันเต็มงานไปหมดแล้วนะ”
“เสร็จแล้วครับ..... จ๊ะเอ๋... เป็นยังไงครับ วันนี้ลูกชายของคุณพ่อหล่อมั๊ยครับ จะมีสาวๆ มาหลงเสน่ห์ของด๊องบ้างไหมครับ” เสียงหวานของบุตรชายที่ตะโกนตอบมา พร้อมเปิดประตูบานใหญ่ หมุนตัวไปมาให้ผู้เป็นพ่อยลโฉม
โฮดงมองบุตรชายด้วยความตะลึงงัน แม้ว่าจะใส่ชุดสูทธรรมดา แต่ด้วยโครงหน้าที่ได้มารดามาเต็มๆ นั้น ทำให้บุตรชายเพียงคนเดียวของตนงดงามดั่งเช่นสตรีได้ไม่ยาก
หลังจากได้สติ... โฮดงสวมกอดบุตรชายด้วยความรัก โดยที่ดองเฮกอดตอบคนเป็นพ่อแนบแน่นด้วยความคิดถึง เนื่องจากตนเองนั้นต้องไปศึกษายังต่างประเทศหลายปี เพิ่งจะได้กลับมาบ้านเกิดก็เมื่อวานนี้เอง ต่อไปนี้จะได้อยู่กับครอบครัวเสียที
“หนูด๊องของพ่อน่ารักอยู่แล้ว ใครเห็นก็ต้องชอบแน่ๆ แต่พ่อว่าน่าจะเป็นพวกผู้ชายซะส่วนใหญ่นะที่น่าจะหลงเสน่ห์ของลูก” โฮดงกล่าวล้อลูกชายหน้าหวาน
“คุณพ่อ!!!! ด๊องเป็นผู้ชายนะครับ จะต้องมีผู้หญิงมาสนใจสิ ไม่ใช่ผู้ชาย” ดองเฮอมลมเข้าแก้ม ส่งค้อนให้บิดาวงใหญ่ ออกอาการงอนนิดๆ เมื่อฟังคำพูดของบิดาจบ
“ฮ่าๆๆ..... ก็มันจริงนี่หน่า หนูด๊องของพ่อหน้าหวานขนาดนี้... สมมติว่าหนูด๊องนุ่งกระโปรงนะ ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าหนูด๊องเป็นผู้ชาย” โฮดงหัวเราะลั่นห้องกับท่าทางของลูกชาย ยิ่งเอ่ยคำหยอกล้อมากขึ้นอย่างอารมณ์ดี
“คุณพ่ออ่ะ เดี๋ยวด๊องก็งอนไม่ลงไปร่วมงานซะหรอก”
“ได้ยังไงกันลูก วันนี้หนูด๊องเป็นคนสำคัญของงานนะ จะงอแงได้ยังไงกัน.... ไปลูกลงไปข้างล่างกันดีกว่า แขกรอพบหน้าลูกชายของพ่อจะแย่แล้วนะ” โฮดงรีบโอบเอวบางของลูกชาย รั้งให้เดินลงไปข้างล่างพร้อมกันทันที
ดองเฮยู่ปากน้อยๆ อย่างไม่พอใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแล้วซบหน้าลงกับไหล่ของบิดาเดินเคียงคู่กันลงไปยังงานข้างล่าง
hhhhhhhhh
เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะของแขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างเงียบลงในทันทีที่สายตาของพวกเขาเหลือบเห็นเจ้าของงานตัวจริงเดินเคียงคู่ลงมาบิดาร่างใหญ่
เสียงที่เงียบลงอย่างกะทันหันทำให้เยซองหันไปมองแขกทั้งหลายอย่างแปลกใจ แล้วจึงมองตามสายตาของคนพวกนั้นที่ยืนมองด้วยความตะลึงค้างอยู่กับที่
ดวงตาตี่ๆ เบิกกว้างขึ้น อ้าปากค้าง เมื่อเห็นบุคคลที่เดินคู่มากับเจ้าภาพของงาน มือเล็กๆ ไม่สมตัวสะกิดเพื่อนรักยิกๆ ให้หันมามอง
ซีวอนมองท่าทางของเลขาเพื่อนรักด้วยความสงสัย เมื่อเห็นท่าทางแปลกๆ ของเยซอง
“เป็นอะไรของเอ็งไอ้เย่ สะกิดข้าทำไม” เยซองยังหาเสียงของตัวเองไม่เจอ ได้แต่ชี้มือชี้ไม้ไปยังทิศทางของตัวคฤหาสน์ ซีวอนส่ายหน้าให้เพื่อนรักอย่างระอา แล้วจึงหันตามไปยังทิศทางที่เยซองชี้มา
ซีวอนนั่งอึ้ง ค้างกับภาพที่เห็น บุคคลร่างเล็กน่าทะนุถนอม ดวงหน้าหวานหยด ผิวขาวใส รอยยิ้มมีเสน่ห์ที่มีฟันซี่เล็กๆ ประดับอยู่ทั้งสองข้างแจกจ่ายให้กับแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ขณะเดินเคียงข้างกับโฮดงด้วยความมั่นใจมายังเวทีเล็กๆ ที่จัดเตรียมไว้
ยิ่งเสียงหวานที่เอ่ยคำขอบคุณผู้มาร่วมงานตามแรงคะยั้นคะยอของบิดา สร้างความเคลิบเคลิ้มให้กับผู้ร่วมงานไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง โดยเฉพาะเยซองที่ตอนนี้ดวงตาตี่ๆ กลายเป็นรูปหัวใจไปแล้ว
“อะ...ไอ้วอน เอ็งช่วยบอกข้าทีว่านี่หรือคือผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิงปลอมตัวมา คนอะไรวะหน้าโคตรหวานเลย”
“ข้าไม่แน่ใจว่ะ ผู้หญิงหรือเปล่าวะเนี่ย สวยโคตรๆ เลยเอ็ง”
“ใช่...นางฟ้าชัดๆ นางฟ้าจำแลงแปลงกายมาเดินเล่นบนแดนดินมนุษย์ให้ข้าพเจ้าได้ชื่นชม” เยซองที่ตอนนี้ยังไม่เลิกเพ้อ แต่ตรงข้ามกับซีวอนที่ดึงตัวเองให้หลุดออกมาจากภวังค์ของคนตัวเล็กได้แล้ว กลับต้องตกใจในคำพูดเมื่อสักครู่ของตัวเองที่เผลอไผลไปกับคนร่างบางตรงหน้า หวังว่าเพื่อนรักคงจะไม่ได้ยินประโยคเมื่อสักครู่
จนกระทั่ง..... บุตรชายคนเดียวของตระกูลลีเดินลงจากเวที เพื่อมาสมทบกับเพื่อนๆ ของตนแล้ว เสียงฮือฮา วิพากษ์วิจารณ์จึงดังขึ้นอีกครั้ง
ซีวอนจ้องมองตามการก้าวเดินของคนตัวเล็กไม่วางตา ถึงแม้จะหลุดจากภวังค์ได้แล้ว แต่ไม่สามารละสายตาไปได้เลย ยิ่งเวลาที่ร่างบางอยู่กับเพื่อนๆ พูดคุยหยอกล้อกันด้วยความสนุกสนานเป็นกันเองแล้ว ยิ่งทำให้มีเสน่ห์เฉพาะตัวเผยออกมามากยิ่งขึ้น
โฮดงมองตามสายตาของซีวอนแล้วกระหยิ่มยิ้มย่องเป็นอย่างมาก จากสายตานั้นที่ตนมองเห็น ในแววตาของคุณชายเทพบุตรนักธุรกิจคนสำคัญนั้น แตกต่างจากสายตาของบุคคลอื่นที่มาร่วมงาน
สายตาที่ใช้เพ่งพินิจพิเคราะห์ ไม่ใช่แววตาหื่นกระหายอย่างที่แขกคนอื่นมองกัน เขาหมายมั่นไว้แล้วว่า ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น คนที่เขาเลือกที่ให้ความไว้วางใจ หวังจะฝากฝังให้ดูแลบุตรชายคนเดียวของตนก็คือ ชเว ซีวอน ผู้นี้เท่านั้น ถึงแม้ชายหนุ่มจะคิดว่าเขาขายลูกกินก็ตาม
hhhhhhhhh
ดองเฮหลบมานั่งยังโต๊ะหินอ่อนด้านหลังคฤหาสน์ หลบเสียงอึกทึกวุ่นวายสักครู่ด้วยรู้สึกปวดศีรษะขึ้นมา ร่างกายคงยังปรับตัวให้เข้าสภาพอากาศของบ้านเกิดได้ไม่มากนัก ขอมานั่งสูดดมความหอมของหมู่มวลดอกไม้ที่ตนชอบดีกว่า
เรียวปากบางสีสดหวานเผยอรอยยิ้มสวยเผยออกมา ยามมองท้องฟ้าเบื้องบน หมู่ดาวส่องประกายระยิบระยับเต็มทั่วท้องนภายามค่ำคืน ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงทุ้มนุ่มเรียกจากทางด้านหลัง
“อะแฮ่ม...!!! สวัสดีครับคุณหนูลี ดองเฮ” คนตัวเล็กหันไปมองทางด้านหลัง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มปริศนาเป็นแขกของงาน จึงลุกขึ้นยืน ก้มศีรษะแสดงความเคารพด้วยความสุภาพ คาดคะเนว่าบุคคลตรงหน้าจะต้องมีอาวุโสมากกว่าตนเป็นแน่
“สวัสดีครับ ขอบคุณที่มาร่วมงานนะครับ คุณ...เอ่อ...”
“ซีวอนครับ ชเว ซีวอน เรียกผมว่าซีวอนก็ได้นะครับ” ซีวอนแนะนำตัวเองด้วยแววตาพราวระยับ เขาแอบตามคนร่างบางมาอย่างเงียบๆ ตั้งแต่เห็นดองเฮแยกตัวออกมาจากเพื่อนๆ ของคนตัวเล็กแล้ว
ดองเฮมองสายตาของคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ รู้สึกแปลกๆ กับสายตาอย่างนั้นที่มองตนเหมือนกับประเมินค่า ราคาอะไรบางอย่าง
“ค...ครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ คุณซีวอนที่มาร่วมงานในวันนี้ เชิญตามสบายนะครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ” ดองเฮกล่าวคำขอบคุณตามมารยาทแล้วจะหันตัวเดินกลับเข้าไปในงาน แต่ถูกมือแกร่งของอีกคนรั้งไว้ กระชากแขนบางให้เข้ามาประชิดตัว
“อ๊ะ!!! คุณซีวอนกรุณาปล่อยผมนะครับ ผมเจ็บ” ดองเฮตกใจในการกระทำของคนตรงหน้าเป็นอย่างมาก เอ่ยคำประท้วง พยายามรักษามารยาทให้ได้มากที่สุด เพราะยังไงเสียคนคนนี้ก็เป็นแขกของบิดา
“จะรีบไปไหนล่ะครับ หรือว่าจะรีบไปโชว์ตัวให้คนอื่นดูต่อ” ซีวอนบีบแขนบอบบางแน่น อย่างไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมต้องรู้สึกไม่พอใจ เพียงแค่คิดว่าคนตัวเล็กจะต้องเร่ขายตัวเองให้กับคนอื่น
“คุณพูดอะไรน่ะ ปล่อยผมนะ ผมเจ็บ” ดองเฮพยายามแกะมือหนาให้ปล่อยตนอย่างยากลำบาก ดวงหน้าหวานเริ่มบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
“ทำไม...? หรือว่ายอมรับความจริงไม่ได้ ที่ถูกผมจับได้..... ว่าแต่ว่าคุณหนูดองเฮเป็นผู้ชายจริงๆ น่ะเหรอ” ซีวอนกล่าวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ทำให้คนมองเสียวสันหลังแปลกๆ
“ผมเป็นผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วก็ช่วยกรุณาปล่อยมือผมได้แล้ว ผมต้องออกไปต้อนรับแขกที่มาร่วมงานต่อ”
“หึหึ... จะไปเร่ขายคนอื่นให้เสียเวลาทำไม ผมอยู่ตรงหน้าคุณนี่ไง ไหนลองพิสูจน์ให้ผมเห็นสิว่าลีลาของคุณน่ะเก่งแค่ไหน จะคุ้มค่ากับเงินที่ผมจะเสียไปหรือเปล่า”
..... เพี๊ย!!!!!!.....
สิ้นคำดูถูกของซีวอน ฝ่ามือบางข้างที่ว่างกระทบกับใบหน้าของอีกฝ่ายจนหน้าหันทันที ดองเฮโกรธจนตัวสั่น ไม่เคยมีใครมาพูดจาดูถูกพร้อมทั้งกระทำเยี่ยงนี้กับตน
“อย่ามาทำหยาบคาย ป่าเถื่อน ดูถูกผมอย่างนี้นะ ปล่อย!!! ผมบอกให้ปล่อย!!!”
ซีวอนลิ้มรสชาติเฝื่อนของเลือดภายในปาก ที่โดนมือเล็กๆ นั่นตบซะเต็มแรง หันหน้ากลับมาจ้องดองเฮด้วยดวงตาวาวโรจน์ไม่แพ้กัน เพิ่มแรงบีบลำแขนบอบบางแล้วกระชากเข้าหาตนอย่างแรง มืออีกข้างโอบเอวบางให้แนบชิดติดลำตัวไว้แน่น กักขังให้อยู่ภายในอ้อมแขน
ดองเฮพยายามดิ้นสะบัดตัว เพื่อหวังจะให้หลุดพ้นจากพันธนาการของมนุษย์ร่างหนากว่าตนเป็นอย่างมากให้ได้ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่สะทกสะท้าน สะเทือนแต่อย่างใดกับแรงที่เหมือนแมวดิ้นของคนตัวเล็ก
“กล้ามากนะลี ดองเฮ ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าผมมาก่อน นี่คือบทลงโทษของคุณ” สิ้นคำซีวอนจับคางมนให้เงยขึ้นมา ประกบริมฝีปากลงไปยังริมฝีปากสีสดอย่างรุนแรง ไม่ได้รุกล้ำเข้าไปข้างในแต่อย่างใด
ดองเฮยืนนิ่งค้าง ดวงตากลมโตสีชาเบิกกว้าง ตกใจในการกระทำจาบจ้วงของซีวอนเป็นอย่างมาก มือบางเล็กๆ พยายามออกแรง ผลักดันแผ่น อกแกร่งแข็งแรงสมชายชาตรีให้ออกห่าง
ซีวอนถอนริมฝีปากออกมา แล้วผลักร่างบางของดองเฮให้ล้มลงไปปะทะกับพื้นอย่างแรง ร่างใหญ่โตอาศัยจังหวะที่คนหน้าหวานตั้งตัวไม่ทัน แล้วรีบก้มลงไปคร่อมร่างบางให้อยู่ใต้ร่างของตน
ดองเฮทั้งเจ็บ ทั้งจุก จากการกระแทกพื้นอย่างแรงโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ดวงตาหวานฉายแสงวาวโรจน์ มองคนด้านบนที่กักขังอิสระภาพ ด้วยการคร่อมร่างของตนด้วยความไม่พอใจ
“คุณทำบ้าอะไรของคุณ ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ” ดองเฮตวาดเสียงดังให้กับการกระทำของคนตัวใหญ่ ด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความขุ่นมัว ซีวอนมองริมฝีปากบางที่เริ่มบวมเจ่อน้อยๆ จากการกระทำของตนแล้วแทบทนไม่ไหว มันดูยั่วยวนอย่างไม่อาจจะอธิบายได้
“ลงโทษที่คุณตบหน้าผมยังไงล่ะ แล้วต่อจากนี้จะเป็นการประเมินราคาของคุณว่ามันจะคุ้มกับเงินที่ผมจะต้องเสียไปหรือเปล่า” ซีวอนประกบริมฝีปากบางที่กำลังอ้าออก หวังจะโต้ตอบวาจาของเขาอีกครั้ง เรียวลิ้นแทรกเข้าไปในโพรงปากนุ่ม ควานหาลิ้นเล็กๆ ของอีกฝ่ายให้มาร่วมประสานกับตน
ดองเฮเบิกตากว้างอีกครั้ง เมื่อโดนจู่โจมไม่ทันตั้งตัวอีกหน ถดลิ้นเล็กสีสวยของตนหนีอีกฝ่ายที่รุกไล่ภายในช่องปากไม่ลดละ มือบางทั้งทุบ ทั้งตีชายหนุ่มอีกคนอย่างไม่เป็นผลสำเร็จด้วยแรงที่มีน้อยเกินไป สองขาเรียวดิ้นเตะ พยายามถีบลำตัวของซีวอนให้ออกห่าง .....
แต่กลับเป็นว่าโดนซีวอนแทรกลำตัวเข้ามากลางหว่างขาแทน ใช้ขาแกร่งแข็งแรงของตนบังคับกดเรียวขาบอบบางไว้ทั้งสองข้าง จับมือบางที่ทุบตีตนอยู่ทั้งสองข้างด้วยมือเพียงข้างเดียว วางไว้เหนือศีรษะเล็กๆ นั่น
ซีวอนไล่ต้อนเรียวลิ้นของคนตัวเล็กให้ร่วมประสานกับตนเองได้สำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญชำนาญการมากประสบการณ์กว่า ความหอมหวานที่ได้รับจากร่างข้างใต้ ทำให้เขาระงับความต้องการของตัวเองไม่ไหว อยากจะสัมผัสเรือนร่างบอบบางให้มากกว่านี้ มือแกร่งข้างที่ว่างลูบไล้เรือนร่างบางไปมา กระตุ้นอารมณ์ของดองเฮให้เพิ่มมากขึ้น
ดวงตาหวานปรือลงช้าๆ อย่างไม่สามารถควบคุมร่างกาย และความรู้สึกของตัวเองได้ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะโดนจู่โจมมากมายขนาดนี้มาก่อน แม้ตนจะเคยจุมพิตมาบ้าง แต่ก็เป็นแค่การทักทายกันตามธรรมเนียมของวัฒนธรรมตะวันตกเท่านั้น ไม่เคยจุมพิตแบบลึกซึ้งอย่างนี้มาก่อน
เสียงหวานครางเครือในลำคออย่างกลั้นไม่ไหว เมื่อซีวอนเลื่อนมือมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวออกจนหมด แยกสาบเสื้อออกจากกัน ลูบไล้แผ่นอกบางขึ้นลงไปมา จนเลื่อนมือมาถึงตุ่มเล็กๆ สีสดที่ประดับอยู่ บีบเคล้นจนมันเริ่มเป็นไตแข็ง คนตัวเล็กเงยหน้าสูดอากาศเข้าปอด หอบหายใจถี่รัว
ซีวอนซุกไซ้ใบหน้ากับซอกคอหอมอ่อนๆ เฉพาะตัว ที่ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมใดๆ ให้ฉุนจมูก เลื่อนลงมายังอกบางที่ถูกปลดกระดุมเสื้อออกหมด เม้มปากสร้างรอยจารึกสีแดงแสดงความเป็นเจ้าของเรือนร่างยั่วยวนนี้
“อา...อืม...”
เสียงหวานครางเครือ เมื่อซีวอนครอบครองติ่งไตเล็กๆ บนอกสวย ขบกัด ดูดดึง เลียไล้วนเวียนอยู่อย่างนั้น อกบางแอ่นขึ้นรับสัมผัสซ่านไหวในห้วงอารมณ์ มือบางที่เป็นอิสระขยุ้มกลุ่มผมดกดำ กดศีรษะของคนด้านบนให้แนบชิด ปรนเปรอตนให้มากขึ้น
ดองเฮสะดุ้ง รู้สึกตัวจากความเผลอปล่อยตัวให้ร่วมไปตามห้วงอารมณ์ใคร่ทันที เมื่อมือของซีวอนกอบกุมเคล้นคลึงส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวผ่านกางเกงสแล็คราคาแพง สองมือเล็กออกแรงผลักซีวอนที่ไม่ระวังตัวออกไปสุดแรง รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปยังตัวคฤหาสน์ทันที
ซีวอนนอนมึนงงจากการกระทำของคนตัวเล็กเมื่อครู่ ยันตัวขึ้นนั่ง ริมฝีปากหยักได้รูปเผยรอยยิ้มให้กับความหวานที่ได้รับจากคนตัวเล็ก แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคุณหนูลี ดองเฮ ช่างไร้เดียงสากับเรื่องพรรค์อย่างนี้ขนาดไหน
ไม่แน่ตนเองอาจจะเป็นคนแรกที่ได้จุมพิตริมฝีปากบางแนบแน่นขนาดนี้ก็ได้ แค่คิดก็ไม่สามารถหยุดรอยยิ้มที่เริ่มจะกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปากตัวเองเบา รสชาติหอมหวานจากสัมผัสเมื่อครู่ยังคงอยู่ไม่ได้หายไปไหน
“หึหึ..... ผู้ชายจริงๆ ด้วย”
.....คุณชายเทพบุตรชเว ซีวอนคงจะไม่รู้ตัวว่า มีบุคคลถึงสองคนแอบลอบมองการกระทำของเขาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เพียงแต่คนทั้งคู่อยู่ห่างกัน คนละมุมเท่านั้นเอง .....
โฮดงยืนยิ้มอย่างชอบใจในการกระทำของคุณชายเทพบุตร นักธุรกิจสุดหล่อเป็นอย่างมาก เท่านี้ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า ตนควรจะฝากฝังบุตรชายที่รักยิ่งกว่าสิ่งใดไว้กับคนคนนี้ได้ ดูท่าทางของอีกฝ่ายแล้ว คงจะมีใจให้ไม่น้อย ไม่เช่นนั้นคงไม่ทำการอุกอาจแบบนี้กับลูกรักของตนเป็นแน่
เยซองที่มองหาเพื่อนรักในงานไม่เห็นแม้แต่เงา จึงออกตามหามาเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงหวานที่ตรึงใจตวาดลั่นมาทางด้านหลังคฤหาสน์ เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ด้วยเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายกับคนงามร่างเล็กก็เป็นได้ .....
แต่... สิ่งที่สองตาตี่ๆ เห็นนั้น กลับกลายเป็นว่า ไอ้คุณเจ้านายเพื่อนรักตัวดีกลับมากอดรัดฟัดเหวี่ยง บังคับปลุกปล้ำคุณหนูคนสวยอยู่ที่สวนด้านหลังนี่เอง ถ้าคุณหนูร่างบางไม่ได้สติขึ้นมาซะก่อน ไอ้เพื่อนรักมันคงจะร่วมรักกับคุณหนูคนสวยตรงนั้นแน่ๆ
“โถ่...ไอ้วอนเอ๊ย!!!! หลงเสน่ห์คุณหนูดองเฮเข้าแล้วล่ะสิ ไอ้เพื่อนเวร!!! ตัดหน้ากันเฉยเลย ..... ข้าเห็นว่าเอ็งเป็นเพื่อนรักหรอกนะโว้ย...!!! ยอมหลีกทางให้ก็ได้วะ” เยซองส่ายหน้าระอาใจกับท่าทางของเพื่อนรักที่ยกมือขึ้นลูบริมฝีปากที่ได้สัมผัสแนบแน่นกับริมฝีปากบางสีสดพร้อมรอยยิ้มที่นานๆ จะมีสักที
<<< íîíîíîíîíîíîíîíîíîíîíîíîíî >>>
ความคิดเห็น