คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : FULL HOUSE ..... 11
หลังจากตื่นนอนกลางวัน แล้วลงไปสอบถามความคืบหน้าของการทำความสะอาดเรือนไม้ว่าเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง เห็นมีแต่คนงานบางส่วนตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งเท่านั้น
คนตัวเล็กที่เขายกเรือนไม้หลังนี้ให้เป็นเจ้าของกลับไม่ปรากฏกายให้เห็นแม้แต่เงา พร้อมด้วยเพื่อนรัก แม่นม หรือแม้แต่มินวู คนขับรถประจำกายก็หายไปด้วย จนสาวใช้ต้องเข้ามาบอกให้รับรู้ถึงการหายไปของคนทั้งสี่
แต่ด้วยอคติบางส่วนที่มีจากประสบการณ์ที่ผ่านมากับคนตัวเล็ก ในใจเกรงกลัวว่าดองเฮจะใช้โอกาสนี้หนีตนเองไปแล้ว แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเยซองคงจะโทรศัพท์มาแจ้งข่าวร้ายให้ทราบไปนานแล้ว
ซีวอนเดินวนไปเวียนมาด้วยความกระวนกระวายใจอยู่ภายในห้องรับแขก หมั่นชะเง้อมองไปยังหน้าประตูรั้วคฤหาสน์หลังงาม รอคอยให้รถยนต์ประจำคฤหาสน์แล่นเข้ามาไวๆ ประหวั่นพรั่นพรึงในอกกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ขึ้น เพราะสาวใช้บอกว่าออกไปตลาดกันตั้งนานแล้ว จนป่านนี้ยังไม่กลับ
จนกระทั่งเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาในตัวคฤหาสน์ พร้อมด้วยบุคคลทั้งสี่เดินลงมาจากตัวรถคันหรู ซีวอนรีบเข้าไปกระชากแขนบางให้ปลิวมาตามแรง ดวงตาคมจ้องมองคนตัวเล็กที่คอยเมินหน้าหนี ไม่ยอมสบสายตา หันมามองหน้าของตนแต่อย่างใด
“ไปไหนมา!!! ทำไมเพิ่งกลับมาป่านนี้” ซีวอนตวาดเสียงถามด้วยความไม่ขัดเคืองใจเป็นอย่างมาก เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากคนตรงหน้าสักนิด
ดองเฮพยายามกัดฟันระงับความเจ็บปวด เมื่อซีวอนจงใจบีบแขนบอบบางมากยิ่งขึ้น เบือนหน้าหนี ไม่อยากจะเห็นหรือเสวนาพาทีแต่อย่างใด
บุคคลที่เหลืออีกสามคน ต่างทนกับพฤติกรรมที่แสดงออกอย่างสวนทางของคุณชายเทพบุตรไม่ไหว ต่างส่งสายตาบังคับไปให้เยซองช่วยระงับศึกครั้งนี้ในฐานะเพื่อนรัก เพื่อนสนิท ที่น่าจะทำให้ซีวอนอารมณ์เย็นลงมากกว่านี้ได้บ้าง
“ไอ้วอน!! พวกข้าไปตลาดกันมา... ส่วนเอ็งปล่อยนางฟ้าของข้าซะ บีบแขนซะแรงขนาดนั้น เดี๋ยวคุณหนูดองเฮก็แขนหักหรอก”
“ก็ดี..... แขนหักซะได้ก็ดี จะได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครได้อีก แค่ข้าคนเดียวก็เกินพอแล้ว” เยซองส่ายหน้าให้กับคำพูดของเพื่อนรัก ทำไมมันไม่พูดอะไรง่ายๆ ที่ไม่ต้องแปลความหมายให้ยุ่งยาก
“ไอ้วอนเอ็งจะพูดให้มัน....”
“หยุดเลยไอ้เย่ ไม่ต้องพูดอะไรออกมา ถ้าคุณหนูตกยากอวดเก่ง เค้าคิดอะไรเองไม่เป็น ก็ปล่อยมันไป ข้าไม่ชอบพูดอะไรซ้ำซาก..... แล้วนี่จะเป็นใบ้อีกนานมั๊ย ผมถามว่าไปไหนมาทำไมไม่ตอบ” ซีวอนเอ่ยขัดเพื่อนรักไม่ให้ตีความให้คนอื่นรับรู้ อยากจะให้คนตัวเล็กได้คิดเอาเองถึงคำตอบทั้งหมดของมันว่าเป็นเพราะเหตุใด
..... ทำไมถึงไม่มาบอกให้เขาเป็นคนพาไป จะได้ไม่ต้องรบกวนคนอื่นให้ยุ่งยาก ..... แล้วจึงสอบถามถึงการหายไปกับคนตัวเล็กอีกครั้ง
ดองเฮยังคงมีอาการนิ่งเฉย ไม่ตอบรับอะไรทั้งสิ้น ยืนนิ่งๆ ให้ซีวอนกระทำจนกว่าจะพอใจ เทพบุตรรูปงามเห็นว่าอีกคนยังนิ่งเฉยอยู่อย่างนั้น แม้ว่าเขาจะบีบแขนเล็กอย่างแรงแค่ไหน ก็ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากบางสวยที่เม้มแน่นสักนิด
ซีวอนยกยิ้ม รอยยิ้มที่ใครเห็นเป็นต้องกังวลใจ ระวังภัยที่จะเกิดกับตัวให้ดีๆ มือแกร่งกระชากเรือนร่างคนหน้าหวานอย่างแรง ดองเฮไม่ทันได้ตั้งตัว เซปลิวตามการกระทำนั่น มือหนาช้อนร่างเล็กๆ ขึ้นแนบอก ก้าวเท้าเข้าสู่คฤหาสน์ เดินขึ้นไปยังห้องนอนของตนยังชั้นบนอย่างรวดเร็ว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ผ่านไปอย่างเร็วมาก แค่ใช้เวลาไม่ถึงสองนาที เรือนร่างบอบบางของนางฟ้าก็ปลิวหายไปกับเจ้าสิงโตเจ้าเล่ห์ ที่ชอบหาข้ออ้างแต๊ะอั๋งเนื้อนวลขาวนิ่มมือซะมากกว่า
“แล้วของพวกนี้ ใครจะเป็นคนทำล่ะครับ” มินวูมองบรรดาของสดที่ไปซื้อกันมาจากตลาด
“เอาน่า... ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงวันนี้พวกเราก็ต้องได้ชิมฝีมือของนางฟ้าดองเฮแน่นอน เชื่อมือเยซองได้เลย” เยซองกล่าวคำให้มั่นใจ
“คุณเยซองจะทำยังไงคะ ป้าว่าลองคุณชายได้อุ้มคุณผู้หญิงไปซะขนาดนั้น รับรองว่าไม่ปล่อยมาง่ายๆ แน่ค่ะ..... เอาอย่างนี้แล้วกัน เดี๋ยวป้าทำให้เองดีกว่า” กึมยองไม่มั่นใจนัก เห็นอารมณ์ของคุณชายแล้ว คงยากที่จะปล่อยให้ดองเฮออกมา
“ป้ากึมยองครับ เชื่อมือผมเถอะ ผมจะยอมเสียสละชีวิต เป็นคนขึ้นไปขัดอารมณ์กลัดมันของไอ้คุณชายปากแข็งนั่นเอง ผมว่า... ผมไปเลยดีกว่า เดี๋ยวนางฟ้าของผมจะขาดทุนไปมากกว่านี้ ... ฮ่าๆๆ” เยซองกล่าวด้วยรอยยิ้ม อารมณ์ดีที่จะได้ขึ้นไปแกล้งสิงโตตกมันให้อารมณ์ค้างเล่น
hhhhhhhhh
“นี่...!! ตกลงหนูด๊องจะไม่ยอมพูดกับผมใช่มั๊ย!!!”
เหตุการณ์บนห้องนอนไม่ได้ต่างไปจากความคิดของเยซองสักเท่าไหร่นัก เทพบุตรสุดหล่อทาบทับร่างของคุณหนูคนสวยแนบสนิท เรียวปากเอ่ยถามด้วยความหงุดหงิดใจ
ตั้งแต่ที่บังคับอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมาบนห้อง ซีวอนโยนร่างเล็กๆ ของดองเฮลงบนเตียงอย่างแรง แต่ดองเฮก็ไม่ส่งเสียงร้องออกมาแต่อย่างใด ริมฝีปากบางสีสดเม้มเข้าหากันแน่น กั้นเสียงแห่งความเจ็บปวดที่ได้รับจากการกระทบกับเตียงหลังใหญ่
ซีวอนรีบโถมกายเข้าหา จับข้อมือเล็กของดองเฮแน่น ออกแรงบีบให้คนตัวเล็กรู้สึกเจ็บปวดจนรอยแดงช้ำปรากฏให้เห็น เสียงหวานยังไม่มีเล็ดรอดออกมาให้ได้ยิน ไม่ว่าซีวอนจะทำยังไง ก็ไม่มีการตอบรับมาจากร่างเล็กๆ นั่น
“หนูด๊องจะเงียบอีกนานมั๊ย ผมถามทำไมไม่ตอบ..... ดี...!! ไม่ยอมพูดใช่มั๊ย!!! ถ้าอย่างนั้นเงียบให้ตลอดนะหนูด๊อง” ว่าจบซีวอนจับข้อมือเล็กทั้งสองข้างของดองเฮวางไว้เหนือศีรษะ มือข้างที่ว่างอีกข้างจับใบหน้าหวานๆ ให้หันมารับเรียวปากที่ประกบลงมาทันที
หลังจากที่พยายามถามเพื่อให้ได้คำตอบจากดองเฮ แต่คนหน้าหวานไม่ยอมอ้าปาก เอ่ยคำใดๆ ออกมาสักนิด หันหน้าหนีไปอีกทาง ไม่ยอมสบสายตาของคนด้านบนแต่อย่างใด จึงไม่อาจเห็นสายตาของสิงโตเจ้าเล่ห์กำลังพราวระยับอย่างถูกใจกับการนิ่งเฉยของร่างข้างใต้
ดองเฮเบิกตากว้างอย่างตกใจ ไม่คิดว่าซีวอนจะทำแบบนี้ ร่างเล็กๆ พยายามดิ้นรน ขัดขืนให้หลุดจากพันธการหนาแน่นจากลำแขนแกร่งของอสูรตัวร้ายโดยไว จากที่คิดว่าถ้าตนเองเงียบ ไม่ขัดขืน ไร้การตอบสนองต่างๆ แล้วคงจะทำให้ซีวอนเลิกสนใจ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับตัวเองอีก แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้ามจากที่คิดไว้ไกลโข
ซีวอนถอนริมฝีปากออกมา เมื่อมือเล็กๆ จิกฝ่ามือของเขาเต็มแรง อกบางกระเพื่อมขึ้นลงเร็วๆ พร้อมสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ หลังการถูกลิดรอนออกไปจากการระดุมจูบเมื่อครู่
คุณชายเทพบุตรยิ้มกริ่ม เมื่อเห็นใบหน้าหวานขึ้นสีแดงจัด ริมฝีปากบางบวมเจ่อ จากการเก็บเกี่ยวความหอมหวานของตน ยิ่งเห็นท่าทางเขินอายอย่างเป็นธรรมชาติของคนด้านล่าง ยิ่งทำให้อดใจไม่ไหว เคลื่อนใบหน้าลงต่ำหมายจะชิมรสชาติหวานลิ้นจากริมฝีปากบางอีกครั้ง
“ยะ...อย่า พอเถอะครับ” ดองเฮเบนหน้าหลบ ริมฝีปากบางสีสวยยอมเอ่ยคำด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย ซีวอนยิ้ม ในที่สุดก็ได้ยินเสียงหวานๆ สมใจอยาก
“ยอมพูดแล้วหรือหนูด๊อง ผมนึกว่าจะไม่ยอมพูดอะไรซะอีก ผมจะได้จูบต่อ หรือบางทีอาจจะทำเหมือนเมื่อเช้าวันนี้ในห้องน้ำก็ได้ แหม...น่าเสียดายจริงๆ เลย” คนตัวเล็กมองค้อนซีวอนตาคว่ำ อยากจะทำปากยู่อย่างเคย แต่นึกถึงเรื่องเมื่อวันนี้แล้ว ต้องรีบหยุดการกระทำทุกอย่าง
“ปล่อยผมเถอะครับ ป้ากึมยองกำลังรอผมอยู่”
“ถ้าอย่างนั้น หนูด๊องก็บอกผมมาก่อนซิครับ ว่าหายไปไหนกับสามคนนั่นมา” คุณชายจอมเจ้าเล่ห์ปล่อยข้อมือบาง แล้วเลื่อนนิ้วโป้งมาลูบไล้ริมฝีปากบางบวมเจ่อเบาๆ ไปมา ก่อนจะนำมาสัมผัสกับริมฝีปากตนเองเรียกสีเข้มจัดบนดวงหน้าหวานได้อีกระลอก
“ผมไปตลาดกับพวกเขามาครับ ผมสัญญาว่าจะทำอาหารเย็นเป็นการตอบแทนน้ำใจ ที่มาช่วยกันทำความสะอาดเรือนไม้น่ะครับ” คนหน้าหวานหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา
“เหรอครับ..... ถ้าอย่างนั้น อาหารมื้อเย็นนี้ ผมขอชิมอาหารฝีมือของหนูด๊องด้วยนะครับ” ซีวอนเชยคางมนให้ขึ้นมาสบตา ส่งสายตาออดอ้อนขอ คนตัวเล็กพยักหน้าตอบรับ
ดวงตาของทั้งสองมองสบกันลึกซึ้ง ใบหน้าคมเคลื่อนลงช้าๆ จุดหมายอยู่ที่ริมฝีปากสีสด เปลือกตาของคนหน้าหวานปิดลง เมื่อเรียวปากหยักประกบแนบชิด บดคลึงให้อีกฝ่ายอ้าปากรับเรียวลิ้น สมานลิ้มชิมรส
เรียวแขนเล็กยกขึ้นคล้องรอบลำคอของซีวอนอย่างเผลอไผล นิ้วเล็กๆ ลูบไล้ท้ายทอยแกร่งแผ่วเบา คล้อยตามแรงกระตุ้นของห้วงอารมณ์ที่เริ่มปั่นป่วน
ความหวานที่ทั้งสองต่างแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ยิ่งทำให้เผลอไผล ลุ่มหลง ไม่อาจไถ่ถอน ปิดกั้นสิ่งต่างๆ รอบกาย ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเคาะประตูอย่างขออนุญาตของเพื่อนรัก
เยซองยืนเคาะประตูห้องนอนของคุณชายเพื่อนรักอยู่นาน แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับอะไรกลับมา จึงลองเปิดประตูเข้าไป ตาตี่ๆ เบิกออกกว้าง อ้าปากค้างกับภาพแลกจุมพิตกันดูดดื่มของสองร่างบนเตียงหลังใหญ่
รอยยิ้มสมใจปรากฏออกมา หลังจากตั้งสติ เรียกขวัญให้กลับคืนสู่ใจดวงน้อยได้สำเร็จ มือเล็กๆ ไม่สมตัวหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปเด็ดคนดังตรงหน้า ทั้งที่อยากจะดูภาพชวนเร้าอารมณ์ให้จบ เมื่อมือของคุณเพื่อนรักเริ่มปลดกระดุมเสื้อของคนตัวเล็กออก แล้วซุกไซร้ใบหน้ากับลำคอระหงอย่างเมามัน แต่ด้วยความแค้นส่วนบุคคลผสมกับความไม่ต้องการให้นางฟ้าประจำใจต้องเสียดุลการค้าไปมากกว่านี้ ส่งเสียงให้ทั้งสองคนรับรู้ถึงการมาของตน
“อะแฮ่มๆ...!!!!!”
ทั้งสองร่างสะดุ้งกันสุดตัว ดองเฮผลักดันศีรษะของซีวอนให้ผละใบหน้าออกจากความหอมกรุ่นของซอกคอขาวด้วยความตกใจ เมื่อรับรู้ว่ามีบุคคลที่สามมาเห็นการกระทำที่พลั้งเผลอของตัวเอง ซุกใบหน้าแดงๆ กับอกแกร่งหลบซ่อนความอับอายที่มี
ซีวอนหันหน้ามาทางเสียงที่เรียกสติของพวกเขาให้กลับคืน หลุดพ้นจากห้วงพิศวาสลึกล้ำ แล้วก็ต้องอารมณ์เสียมากขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นใคร
แววตาขุ่นมัวส่งไปให้เป็นรางวัลที่บังอาจมาขัดจังหวะของเพื่อนรักตาตี่ ก่อนจะเคลื่อนกายลงมาตะแคงข้างประคองกอดร่างเล็กๆ ไว้อย่างหวงแหน หันหน้าเข้าหาคนตัวเล็กที่กำลังกลัดกระดุมเสื้อให้เข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม บดบังเรือนร่างสวยมิดชิด เมื่อเห็นสายตาของเพื่อนรักจ้องมองมาอย่างกับจะกลืนกินคนตัวเล็กของเขา
“ใครใช้ให้เอ็งเข้ามาไอ้เย่ ไม่มีมารยาทหรือไงถึงไม่ยอมเคาะประตู” เยซองส่ายหน้าให้กับเพื่อนรักที่ตะโกนถามด้วยน้ำเสียงขุ่นอย่างหาเรื่อง
“โถ่... คุณชายครับ ไม่มีผู้ใดใช้ข้ามาหรอกครับ ข้ามาตามนางฟ้าของข้าเอง แล้วก็ต้องขอประทานโทษด้วยนะครับที่ข้าเสียมารยาท แต่เผอิญเหลือเกิ๊นนนน... ว่าข้าเคาะประตูจนมือจะหงิกอยู่แล้ว ไม่มีเสียงของสิ่งมีชีวิตตอบกลับมาเลย คุณชายมัวแต่ทำอะไรอยู่ล่ะครับ ถึงไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูน่ะครับ” เทพบุตรรูปงามฟังคำยียวนของซาลาเปาเดินได้แล้ว อยากจะกระโจนเข้าไปบีบคอเพื่อนรักให้ขาดใจตายกันไปข้าง แต่ติดตรงที่ว่าตอนนี้ดองเฮซุกใบหน้าลงกับอกของตน มือขาวบอบบางกำเสื้อของเขาแน่นด้วยความเขินอาย
“หุบปากไปเลยไอ้เย่...!! ไม่ต้องพูดมาก แล้วเอ็งเข้ามาทำไม ขัดอารมณ์จริงๆ พับผ่า!!!”
“โห... ไอ้วอน ข้ามาตามคุณหนูดองเฮให้ลงไปข้างล่าง ป้ากึมยองกำลังรออยู่ อีกอย่างข้าไม่อยากให้คุณหนูคนสวยของข้า ต้องโดนสิงโตบางตัวแถวนี้ตะปบว่ะ ฮ่าๆๆๆ” เยซองบอกกล่าวด้วยอารมณ์ดีที่ได้หยอกล้อบุคคลทั้งสองบนเตียงกว้าง
“ไอ้เย่!!!~ เดี๋ยวเอ็งจะโดนไม่ใช่น้อย ปากดีนัก” ซีวอนคาดโทษคนที่บังอาจมาทำให้เขาอารมณ์ค้าง ตอนนี้เจ้าหนูของเขามันต้องการปลดปล่อยเป็นอย่างมาก ใบหน้าของคนสวยยิ่งแดงก่ำ เมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่ดุนดันชิดหน้าท้องของตนอยู่
“ยินดีครับ..... แต่ตอนนี้เอ็งกรุณาช่วยปล่อยคุณหนูดองเฮมาได้แล้ว พวกข้ากำลังรอข้าวเย็นฝีมือนางฟ้ากันอยู่นะโว้ย!!! รีบๆ ปล่อยมาเลย อย่าชักช้าลีลาเยอะ” หนุ่มหน้ากลมตอบรับคำขู่ของเพื่อนรักอย่างไม่เกรงกลัว
“เออ!!! เดี๋ยวข้าพาไปเอง เอ็งลงไปก่อนเลยไป...”
“คงไม่ได้หรอกครับไอ้เพื่อนเลิฟ ข้ากลัวว่าฤทธิ์ตกมันของเอ็งจะยังไม่สงบ ข้าว่าจะลงไปพร้อมกับคุณหนูคนงามเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลาขึ้นมาตามอีกรอบ” เยซองทำมึนอย่างจริงจัง ปรารถนาดีกับความปลอดภัยของร่างเล็กๆ ปรารถนาร้ายกับเพื่อนรักเต็มๆ
“เอ่อ... คุณซีวอนครับ ปล่อยผมเถอะนะครับ ป่านนี้ป้ากึมยองรอนานแล้ว ผมจะได้ไปทำอาหารให้พวกคุณทานนะครับ” ดองเฮบอกพร้อมด้วยการช้อนสายตาขึ้นมองอ้อนวอนให้ยอมทำตามที่เยซองกล่าวมา
ซีวอนยิ่งเห็นท่าทางอย่างนั้น ยิ่งอดใจไม่ไหว ต้องก้มกดเรียวปากกับปากเล็กนั่นเร็วๆ หนึ่งที เรียกใบหน้าแดงๆ จากคนในอ้อมแขนได้ไม่ยาก แล้วจึงคลายอ้อมแขนปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ
ดองเฮรีบลุกขึ้นจากเตียงนุ่ม จัดแต่งเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อย เดินนำหน้าเยซองออกไปอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ
เยซองชูกำปั้นให้เพื่อนรักที่ส่งรอยยิ้มให้กับตนอยู่ด้วยความหมั่นไส้ ตาตี่ๆ มองเห็นบางสิ่งที่ยังตื่นตัวอยู่ ไม่ยอมสงบลง จึงเอ่ยถ้อยคำจิกกัดเพื่อนรักเจ้าเล่ห์พอเป็นพิธี
“ว่ายังไงเอ็ง สมใจอยากแล้วล่ะสิ ถึงสวรรค์ชั้นไหนล่ะ..... หรือว่า... ข้าเป็นคนดึงเอ็งให้ร่วงลงมา ก่อนที่เอ็งจะถึงสวรรค์ซะก่อน รู้สึกว่าไอ้นั่นมันยังไม่สงบเลยนะนั่น...เจ็บมากป่ะ เอายามั๊ย...? ข้าจะได้เตรียมมาให้ ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ไอ้เย่
.!!!!! ฝากไว้ก่อนเถอะเอ็ง” คุณชายเทพบุตรส่งเสียงคำรามใส่เพื่อนรักที่รีบวิ่งหนีไปทันทีที่พูดจบ ก้มมองยังส่วนตรงกลางหว่างขาที่ยังลุกชันจนเห็นชัดเจน ส่ายหน้าให้กับเจ้าเพื่อนตัวแสบที่เข้ามาขัดจังหวะได้ดีจริงๆ ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำอย่างสุดเซ็ง
“วันนี้ช่วยตัวเองไปก่อนแล้วกันนะลูกพ่อ วันหน้าค่อยให้แม่ของเจ้าช่วยนะ”
hhhhhhhhh
ความคิดเห็น